Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 1648 โฆษณาให้ฟรี

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 1648 โฆษณาให้ฟรี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1648 โฆษณาให้ฟรี
“ขั้นเทวะโมฆะ!” เย่หยวนตอบกลับออกมาอย่างเฉื่อยชา

เจาเจี้ยนหัวเราะออกมาเสียงดังทันทีที่ได้ยิน “เด็กน้อยดูท่าแล้วเจ้าคงไม่ได้มาที่นี่เพื่อขายโอสถเสียแล้ว เจ้ามาเพื่อหลอกลวงต้มตุ๋นผู้คนใช่หรือไม่? อ้างว่ามันเป็นขั้นเทวะโมฆะ เจ้าไม่คิดว่าจะมีใครมาตัดลิ้นเจ้าออกมารึอย่างไร! ในเมืองหลวงลาภสายน้ำนี้ มันยังไม่เคยมีนักหลอมโอสถคนใดกล้าอวดอ้างตัวเองว่าสามารถหลอมโอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะได้เลย แล้วเจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน?”

ซูถิงเองไม่ได้พูดจาออกมาเหมือนเจาเจี้ยน แต่นางเองก็ไม่คิดเชื่อเย่หยวนเลยแม้แต่น้อยเช่นกัน

ในใจของนางตอนนี้เย่หยวนนั้นคือคนโกหกไปแล้วเรียบร้อย

“ช่างเถอะ ศิษย์พี่ใหญ่ ไปกันเถอะ” ซูถิงกล่าว

แต่เจาเจี้ยนกลับพูดขึ้น “ศิษย์น้องหญิง เจ้าคนต้มตุ๋นแบบนี้เราจะปล่อยมันไว้ในกลุ่มเครือข่ายสวรรค์ไม่ได้ ต่อให้มันตั้งร้านในเขตแผงระดับต่ำสุดแต่เราก็ต้องทำลายร้านมันลงเสีย! รอให้ข้าเปิดโปงเจ้าคนขี้โกหกนี่ก่อนเถอะ แล้วข้าจะไปบอกให้ท่านลุงนักยุทธมาไล่มันออกไปจากกลุ่มเครือข่ายสวรรค์!”

ซูถิงนั้นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะรู้สึกว่าคำพูดของเจาเจี้ยนนั้นมีเหตุผล สุดท้ายเลยตัดสินใจเงียบลง

เจาเจี้ยนนั้นตะโกนขึ้นมาเสียงดังมาก มากจนทำให้ผู้คนที่ไม่เกี่ยวข้องเริ่มเดินตามมาดูต้นเสียง

เดิมทีที่แห่งนี้มันอยู่ไกลหูไกลตาผู้คน แต่เสียงดังๆ ของเขาคนนี้กลับดึงดูดความสนใจของคนมาแทน

ในมุมเล็กๆ นี้ ตอนนี้มีคนมามุงดูเหตุการณ์ไม่น้อยเลย

“เด็กน้อยคนนี้น่ะหรือที่บอกว่าขายโอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะ? เฮอะ เฮอะ ดูท่าคงเป็นพวกต้มตุ๋นล่ะสิท่า?”

“ข้าเองก็อยู่มานานถึงหมื่นกว่าปีแต่ก็ยังไม่เคยจะได้มีโอกาสเห็นเลยว่าโอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะมันหน้าตาเป็นยังไง!”

“มันมีให้เลือกระดับความยากจากหนึ่งถึงเก้าด้วย เป็นแค่นักยุทธอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าแท้ๆ หมายความว่ามันน่าจะเป็นแค่จอมเทโอสถสามดาว แต่กลับอวดอ้างว่าตัวเองหลอมโอสถความยากระดับเก้า ได้รึ?”

ตอนนี้ท่าทางของทุกคนต่อร้านโอสถของเย่หยวนนั้นไม่ค่อยดีนัก

เพราะยังไงเสียโอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะมันก็เป็นของที่หายากจนทำให้ผู้คนขนลุกขนพอง

เจาเจี้ยนมองดูเย่หยวนและกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มแสนเย็นชา “เด็กน้อย หนึ่งพันล้านใช่ไหม? ข้าจะจ่ายให้ก็ได้ ไหนลองเอาโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับสาม ขั้นเทวะโมฆะออกมาให้ดูหน่อยสิ!”

เขาบอกว่าจะจ่าย แต่ไม่ได้คิดที่จะจ่ายเลยแม้แต่น้อย

เจาเจี้ยนนั้นตัดสินไปแล้วว่าเย่หยวนเป็นแค่พวกต้มตุ๋น มีหรือที่เขาจะยอมเสียเงินให้พวกคนอย่างเย่หยวนเป็นพันล้าน?

แต่มีหรือที่เยน่หยวนจะมองไม่ออก? เขากล่าวตอบกลับมา “เงินมาของไป ข้าไม่มีเวลามาเล่นกับเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างเจ้าหรอกนะ”

เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม?

เจาเจี้ยนระเบิดความโกรธขึ้นทันที ดูหน้าเจ้าแล้วไม่น่าจะอายุเท่าข้าเสียด้วยซ้ำใช่ไหม?

“อุ๊บ!”

ท่าทางจริงจังของเย่หยวนมันทำให้ซูถิงอดขำออกมาไม่ได้

แต่เจาเจี้ยนที่ทั้งโกรธและอายในตอนนี้จึงกล่าวขึ้น “เจ้าไม่เอามันออกมาใช่ไหม? ข้าว่าแล้วว่าเจ้ามันก็แค่พวกต้มตุ๋น! ฮึ่ม! เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม? ข้านั้นคือศิษย์ของพันธมิตรดาบดวงดาว! แต่เจ้ากลับกล้ามาหลอกลวงคนในเขตแดนของพันธมิตรดาบดวงดาวเรา ข้าจึงขอเป็นตัวแทนทำร้ายป้ายร้านเจ้าเดี๋ยวนี้!”

คำพูดของเจาเจี้ยนมันทำให้ผู้คนรอบๆ แตกตื่นขึ้น

พวกเขาไม่คิดเลยว่าคนทั้งสองนี้จะมีภูมิหลังที่ยิ่งใหญ่ปานนั้น

ตอนนี้คงมีเรื่องสนุกๆ ให้ดูแล้วจริงๆ

และหลังจากเจาเจี้ยนประกาศออกมา เขาก็ส่งมือออกมาไปยังป้ายร้ายของเย่หยวน

เย่หยวนมีสีหน้าไม่พอใจก่อนจะส่งฝ่ามือของตัวเองออกไปบ้าง และกลับถึงเป้าหมายก่อนทั้งๆ ที่ส่งออกมาทีหลัง

บัง!

ร่างของเจาเจี้ยนลอยออกไปไกล โชคยังดีที่รอบๆ นั้นมีผู้คนมากมาย ยอดฝีมือเองก็ไม่น้อยเช่นกัน

พวกเขาทั้งหลายใช้ฝ่ามือรองรับร่างของเขาไว้ด้วยความเห็นแก่หน้าพันธมิตรดาบดวงดาว ทำให้ร่างกายของเขาไม่ได้รับบาดเจ็บมากมาย

แต่ทว่าตอนนี้คนรอบๆ ต่างก็หันมามองเย่หยวนด้วยดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยความตื่นตระหนก

เด็กคนนี้มีพลังบ่มเพาะเพียงแค่อาณาจักรบรรพชนพระเจ้าขั้นสุดเท่านั้น แต่กลับสามารถส่งร่างของเจาเจี้ยนนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าครึ่งก้าวลอยไปได้สบายๆ

พลังฝีมือของเขานั้นมันไม่ธรรมดา!

เจาเจี้ยนนั้นตกที่นั่งลำบาก ตอนนี้เขารู้สึกเสียหน้าต่อหน้าศิษย์น้องหญิงและกล่าวขึ้นอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าโจมตีข้าเรอะ?”

เย่หยวนจึงหันไปมองเขาอย่างเย็นเหยียบ “มันไม่ใช่ว่าเจ้าไม่สามารถขอดูสินค้าได้ เจ้าแค่ต้องจ่ายเงินออกมาแล้วเจ้าก็จะได้รู้เองว่ามันจริงหรือปลอม! แต่เจ้ากลับคิดจะทำลายป้ายร้านของข้าทั้งๆ อย่างนั้น! นี่หรือคือวิธีที่พันธมิตรดาบดวงดาวใช้? บอกว่าข้าเป็นพวกต้มตุ๋นและกล่าวหาข้าสั่วๆ ข้าไม่ได้บอกว่าเจ้าว่าข้าไม่ได้ แต่จะว่าอะไรเจ้าต้องมีหลักฐาน! หากยังทำตัวกร่างไม่สนใจใคร คราหน้ามันคงไม่จบแค่นี้แน่ๆ”

เจาเจี้ยนนั้นแทบต้องสำลักด้วยพลังกดดันที่เย่หยวนปล่อยออกมา

หากเป็นก่อนหน้า เขาคงหัวเราใส่คำขู่นั้นได้ง่ายๆ

แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเย่หยวนมีฝีมือจริง

และเมื่อสักครู่นี้เขาก็คิดจะโจมตีลงไปจริงๆ

แต่หากต้องถอยไปทั้งอย่างนี้เขาก็คงทนไม่ไหวเช่นกัน จึงตะโกนขึ้นอย่างโกรธแค้น “ได้! ข้าเองก็อยากจะเห็นเหมือนกันว่าเจ้ามันขายอะไรกันแน่! นี่หนึ่งพันล้านผลึกปราณเทวะ เอาโอสถออกมา ข้าจะเปิดโปงเจ้าต่อผู้คนเอง!”

พูดจบเขาก็วางแผวนลงบนแผงทันที

เย่หยวนรับแหวนมาและตรวจสอบจำนวนผลึกปราณเทวะข้างใน “เจ้าอยากได้โอสถใด?”

เจาเจี้ยนคิดนิดหน่อยก่อนจะตอบ “ข้าขอสิ่งที่ธรรมดาที่สุด เอาเป็นโอสถมหาปราณ!”

โอสถมหาปราณนั้นเป็นโอสถที่นักยุทธอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าใช้เพื่อบ่มเพาะ มีผลคล้ายๆ โอสถปราณเทวะ

โอสถมหาปราณขั้นเทวะนั้นมันก็มีออกขายในเมืองเมืองหลวงลาภสายน้ำบ้างหลายๆ ปีครั้ง แต่ราคามันก็เรียกได้ว่าสูงลิบจนถึงแปดสิบล้านผลึกปราณเทวะเลย

ส่วนขั้นเทวะโมฆะนั้นเป็นอะไรที่ยังไม่เคยปรากฏออกมาก่อน

เมื่อได้ยินแบบนั้นเย่หยวนก็หยิบเอาโอสถมหาปราณขั้นเทวะโมฆะออกมาจริงๆ หากมองแบบนี้การที่เย่หยวนขายมันในราคาแค่หนึ่งพันล้านคงนับได้ว่าถูก

ทุกคนมองดูตามเย่หยวน ตอนนี้เขาถึงขั้นนำเงินออกมาแล้ว เขาคงไม่คิดที่จะโจมตีทำร้ายผู้คนใช่ไหม?

ภายใต้สายตาของทุกผู้คน เย่หยวนค่อยๆ นำแหวนอีกวงออกมายื่นให้เจาเจี้ยน “นี่โอสถมหาปราณที่เจ้าสั่ง”

เจาเจี้ยนหัวเราะเยาะออกมาในใจ เขาไม่เชื่อเลยแม้สักนิดว่าเย่หยวนจะนำโอสถมหาปราณขั้นเทวะโมฆะออกมา ไม่แม้แต่จะคิดว่าเย่หยวนจะหยิบโอสถมหาปราณออกมาเสียด้วยซ้ำ

แกล้งทำ!

ข้าล่ะอยากรู้จริงๆ ว่าเจ้าจะแกล้งทำท่านั้นไปได้อีกนานแค่ไหน!

เขายื่นมือไปหยิบแหวนขึ้นมา ก่อนจะค่อยๆ ส่งจิตศักดิ์สิทธิ์เข้าไป และพบว่ามีคลื่นพลังโอสถมหาศาลพุ่งออกมากระแทกจิตศักดิ์สิทธิ์ของเขา

พลังของโอสถนี้มันอะไรกัน?

หรือว่า… จะเป็นขั้นเทวะโมฆะจริง?

ตอนนี้สายตาทุกผู้คนต่างจ้องมองดูเจาเจี้ยน เมื่อได้เห็นว่าสีหน้าของเขาเปลี่ยนไป ทุกคนก็จดจำมันไว้อย่างดี

ทุกผู้คนที่มามุงดูเริ่มตกใจกันไม่น้อย หรือว่านี่จะเป็นขั้นเทวะโมฆะจริง?

“ฮึ่ม! อย่างน้อยเจ้าก็มีทักษะในการปลอมแปลงไม่เบา ทำให้มันดูเหมือนของจริงได้ขนาดนี้! แต่… ข้าอยากทดสอบผลของมันตรงนี้!” เจาเจี้ยนพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม

จนถึงตอนนี้เจาเจี้ยนก็ยังไม่คิดว่าเย่หยวนจะส่งโอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะออกมาจริงๆ

เหล่าผู้ที่ขายโสถปลอมย่อมมีวิธีปลอมแปลงให้ไม่สามารถตรวจจับได้ง่ายๆ

ทุกคนต่างซื้อขายกันแบบต่อหน้า หากพวกเขาเห็นว่าตัวเองถูกหลอก พวกนักต้มตุ๋นคงไม่มีทางรอดออกไปได้

นั่นทำให้เกิดการปลอมแปลงขึ้นมาในหลายระดับ บ้างก็มีฝีมือที่เหนือชั้นจนทำให้ไม่สามารถแยกได้เลยว่าโอสถเหล่านั้นมันเป็นของจริงหรือปลอม

แต่หากมีคนคิดลองโอสถนั้น เรื่องมันก็จะต่างออกไป

เพราะผลที่ออกมามันจะชัดเจน!

เย่หยวนตอบกลับไปด้วยท่าทางสบายๆ “แล้วแต่เจ้าเถอะ”

ทองแท้ไม่กลัวไฟ มีหรือที่โอสถของเย่หยวนจะถูกมองว่าเป็นของปลอมไปได้อีก?

ที่สำคัญเย่หยวนในตอนนี้เข้าใจสถานการณ์อย่างดี การกระทำของเจาเจี้ยนนั้นเป็นยอดวิธีการโฆษณาให้กับร้านของเขา เขาจึงไม่คิดที่จะห้ามใดๆ ทั้งสิ้น

เย่หยวนนั้นมั่นใจในความสามารถตัวเองจึงไม่คิดที่จะลำบากออกไปโฆษณาให้ใครๆ รู้

แต่ตอนนี้เจาเจี้ยนคิดจะอาสาช่วยทำการโฆษณาให้ เขาเองก็ไม่มีเหตุผลใดๆ ที่ต้องปฏิเสธความหวังดีนี้

สถานการณ์ตอนนี้มันไม่ต่างจากละครสด มีการจัดฉากต่างๆ ไว้อย่างพร้อมเพรียง

เจาเจี้ยนยิ้นแหวนนั้นให้ซูถิงและบอก “ศิษย์น้องหญิง เจ้ามาลองโอสถมันหน่อย!”

ซูถิงเองก็สงสัยไม่น้อยจึงรับแหวนไปอย่างเต็มใจ

เจาเจี้ยนนั้นเป็นถึงยอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าครึ่งก้าว ต่อให้เขาจะกินดื่มโอสถไปมากอีกแค่ไหนเขาก็ไม่สามารถที่จะเพิ่มพลังปราณเทวะในร่างไปได้อีกแล้ว

แต่ซูถิงนั้นเป็นแค่นักยุทธอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าชั้นกลาง ต่อให้มันจะเป็นโอสถปลอม แต่มันก็ยังน่าจะช่วยนางได้ไม่น้อย

การที่สามารถทำให้โอสถเหมือนจริงได้ขนาดนี้ มันก็หมายความว่าโอสถชนิดนี้ไม่น่าจะส่งผลร้ายใดๆ ได้ มันแค่เป็นเทคนิคในการหลอกตบตาเรื่องคุณภาพเท่านั้น

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด