Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 1661 เขาทำได้แน่

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 1661 เขาทำได้แน่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1661 เขาทำได้แน่
ที่ส่วนลึกสุดของนภาฤกษ์นั้นมีแต่ความมืดมิดสนิท

และภายในก็เปี่ยมไปด้วยพลังงานอันมหาศาล

เย่หยวนไม่คิดจะลังเลและเริ่มก้าวเดินออกไปทันที

เมื่อเข้าไปด้านในความมืดมิดนั้นเย่หยวนก็รู้สึกได้ถึงพลังงานที่เข้ามาปะทะอย่างแรง ราวกับว่ามันต้องการจะผลักเขาออกไปจากความมืดมิดนี้

เย่หยวนเดินมาจนสุดทางนี้ เขาไม่เคยได้รับความช่วยเหลือใดๆ จากหวู่เฉินเลย

เขาใช้พลังของตัวเองล้วนๆ ในการก้าวเดินมาจนถึงตรงนี้!

แต่พลังของเขานั้นมันยังไม่มากพอจะเทียบเคียงกับเทพถ่องแท้

แต่เมื่อพลังงานวิญญาณมหาศาลถูกปล่อยออกมา เย่หยวนก็รู้สึกว่าร่างของตัวเองกลับมาเบาหวิวอีกครั้ง

การเข้ามาในที่แห่งนี้นั้น นักยุทธจะเข้ามาได้แค่จิตวิญญาณ เพราะฉะนั้นพลังงานนี้เองมันก็ถูกปล่อยออกมากดแค่จิตวิญญาณของนักยุทธ

แต่พลังของไข่มุกสยบวิญญาณมันรุนแรงจนเกินไปในเรื่องนี้

ต่อให้เป็นเทพถ่องแท้ก็ต้องคุกเข่าเมื่ออยู่ต่อหน้ามัน!

ด้วยเหตุนั้นเย่หยวนจึงค่อยๆ เดินหน้าเข้าไปเรื่อยๆ ในห้วงความมืดอันไร้สิ้นสุด

“เรื่องนี้มันเพราะว่าเจ้ายังไม่สามารถบรรลุอาณาจักรราชันพระเจ้าได้หรอกนะ ไม่เช่นนั้นชายแก่คนนี้คงไม่ต้องช่วยอะไรเจ้าเลยแม้แต่น้อย เจ้าจะสามารถผ่านเข้ามาได้สบายๆ” หวู่เฉินยิ้มบอก

เย่หยวนเองก็ยิ้มรับ “ยอดฝีมืออาณาจักรเทพถ่องแท้ผู้นั้นคงกำลังตามหาทายาทในอาณาจักรราชันพระเจ้า ถึงได้ทำแบบนี้ล่ะมั้ง? เขาคงไม่เคยคิดว่าจะมีใครในอาณาจักรบรรพชนพระเจ้ามาถึงได้ขนาดนี้”

หวู่เฉินพยักหน้ารับ “แน่นอน อาณาจักรราชันพระเจ้านั้นมีพลังสร้างโลก ถึงจะเป็นพระเจ้าที่แท้จริง ก่อนจะถึงอาณาจักรราชันพระเจ้าแล้วนั้นอาจจะเรียกได้ว่าพวกเขาทั้งหลายเป็นได้แค่ครึ่งพระเจ้าเท่านั้น เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่ได้สนใจอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าแม้แต่น้อย”

เย่หยวนตอบกลับไปอย่างเหนื่อยใจ “น่าเสียดายที่ข้าไม่สามารถเปิดโลกของตนเองได้จนทำให้เขาต้องผิดหวัง”

หวู่เฉินยิ้มออกมา “สมบัติสืบทอดจากยอดฝีมืออาณาจักรเทพถ่องแท้มันช่วยอะไรเจ้าได้ไม่มากหรอก คงมีแต่สมบัติเทพถ่องแท้เลิศล้ำเท่านั้นที่จะพอช่วยอะไรเจ้าได้บ้าง”

ระหว่างที่คุยไปเดินไป จู่ๆ ก็เกิดแสงสว่างขึ้นกลางความมืดของนภาฤกษ์ เป็นแสงที่สว่างจนแทบไม่กล้ามองตรงๆ

“นี่หรือคือสมบัติที่สืบทอดมาจริงๆ สินะ?”

เย่หยวนเดินเข้าไปจนถึงหน้าดวงแสงนั้นในทันที

แต่ทว่าตอนนั้นเองที่จู่ๆ ก็เกิดคลื่นพลังอันน่าเกรงขามกระแทกออกมาจนทำให้เย่หยวนหน้าเสียไปไม่น้อย

คลื่นพลังอันน่าเกรงขามนี้มันรุนแรงจนเกินไป ทำให้เย่หยวนแทบจะต้องหมดสติลง!

และก็เกิดเงาร่างยักษ์ขึ้นมาบนท้องฟ้าสีดำ เขาก้มลงมองมายังเย่หยวนอย่างเย็นชา

สายตานั้นมันผสมผสานไปด้วยความโกรธและความผิดหวัง

ก่อนที่ร่างยักษ์นั้นจะพูดขึ้น “ไม่นึกเลยว่าผู้ที่มาถึงที่นี่ได้เป็นคนแรกจะเป็นเพียงแค่เด็กน้อยอาณาจักรบรรพชนพระเจ้า ข้าผู้นี้ผิดหวังนัก”

พลังอันอ่อนนุ่มค่อยๆ ห่อหุ้มตัวเย่หยวนไว้ ทำให้เย่หยวนกลับมาสู่สภาพสมบูรณ์ได้อีกครั้ง

เขาหันหน้าไปมองยังร่างใหญ่นั้นก่อนจะบอก “ประตูกดสวรรค์โบราณแห่งนี้คงเป็นท่านผู้อาวุโสใช่หรือไม่ที่ทิ้งมันไว้”

เย่หยวนนั้นหน้ามืดไปแค่ไม่กี่วินาทีก่อนจะกลับมาเป็นปกติได้ เรื่องนี้มันทำให้อีกฝ่ายตกตะลึงไม่น้อย

แต่หลังจากหายตื่นตะลึง ร่างนั้นก็ส่ายหัวออกมา “เจ้ามีฝีมือไม่น้อย แต่พรสวรรค์ของเจ้ามันช่างต้อยต่ำ! อายุขัยกว่า 500 ปีแล้วแต่กลับยังไม่สามารถบรรลุอาณาจักรราชันพระเจ้าได้! เจ้าไม่เหมาะจะรับการสืบทอดจากข้า!”

ดูท่ายอดฝีมือคนนี้จะมีเงื่อนไขในการรับผู้สืบทอดที่สูงไม่น้อย เขาจึงปฏิเสธเย่หยวนตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็น

เพราะขนาดจิงลู่อายุห้าร้อยปีนั้นยังสามารถไปถึงอาณาจักรราชันพระเจ้าได้ แต่คนระดับนั้นก็ยังไม่ตรงเงื่อนไขของเขาอยู่ดี

ต่อให้เย่หยวนจะเดินมาจนถึงตรงนี้ได้ เขาเองก็มีพลังบ่มเพาะที่ต่ำจนเกินไป เขาจึงเลือกที่จะไม่สนใจเช่นกัน

แต่เย่หยวนนั้นไม่ได้โกรธเคืองใดๆ เขาแค่ยิ้มตอบกลับไป “เย่ผู้นี้เดินมาจนถึงที่นี่แล้ว ข้าจะเอาสมบัติไปหรือไม่ท่านก็คงห้ามไม่ได้”

“โอหัง!”

ยอดฝีมือคนนี้เดือดดาลทันทีที่ได้ยิน เขาชี้นิ้วออกมาและส่งพลังที่ทำให้แม้แต่ท้องฟ้ายังต้องเปลี่ยนสี

พลังอันรุนแรงและหนักหน่วงนั้นพุ่งลงมายังร่างของเย่หยวนทันที

แต่สิ่งที่เข้ามาในนี้นั้นเป็นเพียงจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเย่หยวน เพราะฉะนั้นเป้าหมายของพลังนี้เองก็เล็งมาที่วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเย่หยวนเช่นกัน

เพราะฉะนั้นเย่หยวนจึงไม่เกรงกลัวมันแม้แต่นิด เขาไม่คิดที่จะต่อต้านมันเลยแม้แต่น้อย

ถึงยอดฝีมือผู้นี้ทิ้งไว้แค่เสี้ยวแห่งจิต แต่เขาเองก็เป็นถึงยอดฝีมืออาณาจักรเทพถ่องแท้ การทำลายจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเด็กอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าสักคนมันไม่ใช่เรื่องยากเย็นเลย

แต่ทว่าตอนที่คลื่นพลังมหาศาลเคลื่อนตัวเข้ามาถึงด้านหน้าของเย่หยวน ก็มีคลื่นพลังงานอีกอันปรากฏออกมา

และพลังที่พุ่งเข้าโจมตีเย่หยวนนั้นก็ถูกคลื่นพลังอันใหม่นี้กลืนกินไปจนหมด

เมื่ออีกฝ่ายได้เห็นเขาก็เปลี่ยนสีหน้าไปทันที ดวงตาของเขาเบิดกว้างและกล่าวขึ้นอย่างตื่นตะลึง “นี่มัน… นี่มันสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์!”

ยอดฝีมืออาณาจักรเทพถ่องแท้ย่อมมีความรู้ที่แตกต่างจากนักยุทธทั่วๆ ไปอย่างเทียบเคียงกันไม่ได้

พลังงานอันรุนแรงนั้น มีแค่สมบัติวิญญาณเทพสวรรค์เท่านั้นที่จะปล่อยออกมาได้

หมายความว่าเด็กอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าคนนี้มีสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ติดตัว!

แถมยังเป็นสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ประเภทจิตวิญญาณที่หาได้ยากด้วย!

เย่หยวนหันไปถามอีกครั้ง “ข้าล่ะสงสัยจริงๆ ว่าข้ามีคุณสมบัติพอหรือไม่?”

ยอดฝีมือคนนั้นหน้าถอดสีทันที เขาไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะมาถูกเด็กอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าข่มขู่เช่นนี้

ไม่สิ ไม่ใช่แค่ขู่!

สมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ประเภทจิตวิญญาณนั้นมันคือศัตรูโดยธรรมชาติของเขา!

ตราบเท่าที่เย่หยวนคิดจะทำ เขาก็สามารถลบล้างตัวตนของเขาได้ง่ายราวพลิกฝ่ามือ

ต่อให้ตอนนี้เขาไม่ใช่แค่เศษเสี้ยวของจิต ต่อให้เป็นตัวตนจริงแท้ของเขา เขาก็ไม่ใช่คู่มือของสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์เลย

ยอดฝีมือคนนั้นเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าและกล่าว “ช่างเป็นเสือเจ็บโดนหมาขย้ำเสียจริงๆ ดูท่าความแค้นของโม่ลี่เฟยผู้นี้คงไม่มีโอกาสได้แก้คืนเสียแล้ว! เด็กน้อย เอาสิ! เจ้าทำลายตัวข้าลงและเอาสมบัติไปได้เลย!”

เย่หยวนเองก็ตกใจไม่น้อยกับท่าทางนั้นของโม่ลี่เฟย ดูท่าเขาจะมีความแค้นที่ลึกล้ำไม่น้อย เพราะเช่นนั้นเขาถึงได้สร้างประตูกดสวรรค์โบราณขึ้นมาเพื่อหาผู้สืบทอดของตน เพื่อจะได้ฝากต่อช่วยสะสางความแค้น

“ผู้อาวุโส ท่านเข้าใจผิดแล้ว จริงๆ ข้านั้นไม่ได้สนใจในสมบัติหรือการสืบทอดของท่านเลย ข้าแค่เข้ามาแวะดูเท่านั้น แต่หากท่านต้องการให้มีผู้สืบทอดจริงๆ ข้าก็พอจะแนะนำท่านได้” เย่หยวนบอก

โม่ลี่เฟยนั้นประหลาดใจไม่น้อย แต่ไม่นานนักเขาก็ได้แต่หัวเราะเยาะหัวเอง “อ่า เจ้านั้นมีสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ประเภทจิตวิญญาณอยู่กับตัว มีหรือที่จะยังหันมาเหลียวแลสมบัติน้อยๆ ของข้า? แต่คนที่เจ้าจะแนะนำนี่คือใครกัน?”

เย่หยวนยิ้มออกมา “ในนภาฤกษ์อันกว้างใหญ่นี้ ท่านผู้อาวุโสเองก็น่าจะพอสัมผัสถึงเขาได้ใช่ไหม? ตอนนี้เขาคือผู้ที่อยู่ใกล้ที่แห่งนี้มากที่สุด!”

แน่นอนว่าคนที่เย่หยวนพูดถึงนี้คือหนิงเทียนปิง

โม่ลี่เฟยขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะส่งจิตออกไปดู และได้เห็นว่าตอนนี้หนิงเทียนปิงกำลังดิ้นรนอยู่อย่างยากลำบาก

“เขาหรือ? แม้ว่าเขาจะมากพรสวรรค์ไม่เลว แต่ก็ยังขาดไปหน่อยสำหรับข้าผู้นี้” โม่ลี่เฟยส่ายหัวบอกเย่หยวน

เย่หยวนจึงยิ้มตอบไป “ผู้อาวุโสไม่น่าจะมีทางเลือกอื่นแล้ว! แต่ข้าขอรับรองได้เลยว่าเขาจะต้องเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดอย่างแน่นอน! หากผู้อาวุโสมีความแค้นใดที่ไม่ได้สะสาง ข้าขอให้ท่านฝากฝังมันไว้กับเขาได้เลย เขาจะต้องสามารถช่วยผู้อาวุโสได้แน่ๆ”

เมื่อได้มาอยู่ต่อหน้าคนอย่างเย่หยวน โม่ลี่เฟยไม่คิดที่จะโกรธเคืองใดๆ อีก

ภายใต้สภานการณ์เช่นนี้ การที่เย่หยวนหาผู้สืบทอดให้เขามันก็เป็นการไว้หน้าเขามากพอแล้ว

เพราะต่อให้เย่หยวนแค่ทำลายตัวตนของเขาทิ้งเสีย เขาเองก็คงบ่มว่าอะไรไม่ได้

แต่โม่ลี่เฟยนั้นยังคงส่ายหัว “เจ้าไม่รู้หรอกว่าศัตรูของข้าผู้นี้ยิ่งใหญ่แค่ไหน! ตอนนี้มันอาจจะขึ้นไปถึงอาณาจักรเทพสวรรค์แล้วก็ได้! ต่อให้ได้สมบัติจากข้าไปทั้งหมด เขาก็ยังอ่อนแอเกินไป เกินกว่าที่จะรับความแค้นนี้ไว้ไหว!”

เย่หยวนยังคงยิ้ม “เขาทำได้แน่! เพราะเขามีข้าเป็นเพื่อนยังไงล่ะ!”

โม่ลี่เฟยหรี่ตาลงมองเย่หยวนด้วยความสงสัยทันที

เด็กคนนี้มันให้ความรู้สึกประหลาดๆ ออกมาในทุกด้าน

ที่สำคัญ การที่เด็กอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าจะมีสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ในครอบครองนั้น แค่เรื่องนี้เรื่องเดียวมันก็เป็นความประหลาดที่ยิ่งกว่าแปลกแล้ว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด