Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 1674 บรรลุเหนือยอดห้ากิโลเมตร

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 1674 บรรลุเหนือยอดห้ากิโลเมตร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1674 บรรลุเหนือยอดห้ากิโลเมตร
พลังงานจากสายฟ้าเส้นนั้นค่อยๆ ถูกกลืนกินเข้ามาทีละนิด ทีละนิด

ร่างกายของเย่หยวนค่อยๆ ดูพลังงานนั้นมาอย่างต่อเนื่อง!

ระหว่างที่ทนรับความเจ็บปวดมหาศาลไว้ ร่างกายของเย่หยวนก็เกิดส่งแสงสว่างจ้าขึ้นมา

วิ้ง!

กายทองคำของเย่หยวนส่องแสงที่สว่างเจิดจ้าจนทำให้พื้นที่ในม่านหมอกรอบๆ แทบจะได้กลายเป็นเวลากลางวัน

การแปลงกายทองคำเก้าอหัตถ์ระดับสี่สำเร็จลงได้ในที่สุด!

ตอนนี้ร่างกายของเย่หยวนสามารถบรรลุระดับมาได้อย่างไม่มีข้อขัดข้องใดๆ

เท่านี้เย่หยวนก็สามารถรับมือกับนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าได้ด้วยแค่ร่างกายของเขาเพียงเท่านั้นแล้ว

แต่ทว่ามันยังไม่จบ!

เพราะเย่หยวนยังคงดูดกลืนพลังงานนั้นมาตีร่างกายต่อเนื่องอย่างไม่มีทีท่าจะหยุดยั้ง

เขากำลังท้าทายขีดจำกัดของตนเอง!

พลังอันรุนแรงนั้นมุ่งหน้าสู่ร่างของเย่หยวนอย่างบ้าคลั่ง

ในที่สุดแล้วเย่หยวนก็ไม่สามารถทนมันได้อีกจนต้องปล่อยเจ้าเส้นสายฟ้าไป

ส่วนตอนนี้กายทองคำของเขาก็ขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของระดับสี่แล้วเรียบร้อย!

“ฮ่าฮ่าฮ่า! สุดยอด! เจ้าสายฟ้านี้มันช่างมีพลังที่สุดแข็งแกร่ง! ข้าแค่ใช้มันไปนิดเดียวแต่กลับสามารถช่วยข้าบรรลุระดับสี่ได้!”

หลังจากหายเจ็บแล้วเย่หยวนก็รู้สึกได้ถึงพลังอันล้นปรี่ในร่างกาย

อารมณ์ในตอนนี้ของเขามันทำให้เย่หยวนอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นกู่ร้องอย่างสะใจ

หวู่เฉินได้แต่ยิ้มแห้งๆ กับภาพตรงหน้า “เจ้าทำได้จริงๆ เด็กคนนี้! ช่างเป็นสัตว์ประหลาดโดยแท้! ตอนนี้เจ้าก็สามารถสังหารนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าสามดาวได้ด้วยหมัดเดียวแล้ว!”

ร่างกายระดับสี่ขั้นสูงนั้นมันมีพลังเทียบเท่ากับนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าสามดาวได้เลย

แต่ยอดฝีมือที่ฝึกฝนร่างกายด้วยนั้นจะสามารถจัดการผู้คนในระดับเดียวกันได้อย่างง่ายดาย!

พลังวิชายุทธเผ่ามังกรของเย่หยวนนั้นมันเหนือล้ำกว่าร่างกายของนักยุทธธรรมดาๆ นัก การจะสังหารนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าสามดาวลงตอนนี้มันจึงไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นเลย

ต่อให้เป็นอาณาจักรราชันพระเจ้าสี่ดาว เขาก็มีปัญญาพอที่จะต่อต้าน!

เย่หยวนหัวเราะ “หลังจากบรรลุได้ในครานี้ ฤทัยแห่งฟานจู้หลงของข้าก็ได้ตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้ว! ตอนนี้ร่างกายของข้าจึงสามารถใช้ในการต่อสู้ได้อย่างเต็มที่!”

วิชาการต่อสู้เผ่ามังกรของเย่หยวนนั้นถูกศึกษาบ่มเพาะมาอย่างดี พลังการต่อสู้ของเขาในตอนนี้จึงพุ่งขึ้นไปสู่มากกว่าแค่ระดับเดียว

“หืม? เย่หยวน ดูที่กายทองคำของเจ้าสิ เหมือนว่ามันจะลายแปลกๆ ปรากฏขึ้น!” หวู่เฉินร้องบอก

เย่หยวนหรี่ตาเล็กลงทันทีก่อนจะก้มหน้าลงมองที่ร่างกายของตัวเอง

หลังจากใช้พลังงานของเส้นสายฟ้าอย่างบ้าคลั่ง ตอนนี้ร่างกายของเขาจึงมีสภาพที่เละไม่เป็นท่า

และเย่หยวนก็ได้เห็นว่าบนร่างนั้นมันมีลายเส้นสีฟ้าที่ไม่เคยมีมาก่อนปรากฏขึ้นจริงๆ

ลายสีฟ้าอันน่าพิศวงนี้มันฝังตัวในกายทองคำของเขา หากไม่มองดีๆ ก็จะไม่มีทางเห็นได้เลย

“นี่มัน… นี่มันลายบ้าอะไรกัน?” เย่หยวนตื่นตกใจ

หวู่เฉินส่ายหัวและตอบมาด้วยท่าทางงงไม่แพ้กัน “กายทองคำเก้าอหัตถ์นั้นไม่มีลวดลายแบบนี้แน่ๆ ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ว่า… สีของมันดูคล้ายๆ กับเจ้าเส้นสายฟ้านั้นไม่ผิดเพี้ยน เป็นไปได้ไหมว่า… พลังงานที่เจ้าดูดกลืนเข้ามามันจะมีคุณสมบัติบางอย่างของเจ้าสายฟ้านั้นถูกดูดกลืนเข้ามาด้วย?”

เมื่อเย่หยวนได้ยินเขาก็ขนลุกตั้งชันทันที

เพราะเจ้าสายฟ้านั้นมันมีพลังที่แสนจะรุนแรงอย่างปฏิเสธไม่ได้ ต่อให้เป็นยอดฝีมืออาณาจักรนภาสวรรค์ก็คงไม่มีทางทนทานรับไว้ได้ ต้องเปลี่ยนกลายเป็นฝุ่นผงในทันทีแน่

ตอนนี้เมื่อมันเข้ามาในร่างของเขาแล้ว เย่หยวนจึงไม่ทราบได้เลยว่ามันจะเป็นพรหรือเป็นคำสาป!

“ช่างมันเถอะ อย่าได้กังวลกับมันเลย! มันคงเป็นได้แค่พรหรือคำสาป และหากมันเป็นคำสาปข้าก็คงเลี่ยงมันไม่ได้แล้ว!”

พูดจบเย่หยวนก็กดแสงที่ส่องสว่างออกมาจากร่างไว้และนำผ้าคลุมชุดสีฟ้าออกมาใส่ทับแทนเสื้อผ้าที่ขาดและมุ่งหน้าต่อไป

ไม่รู้ว่าเดินมานานแค่ไหน แต่ในที่สุดเย่หยวนก็เห็นแสงสว่างตรงหน้าจนได้

เป็นเวลานั้นเองที่เขารู้สึกได้ว่าร่างกายของเขามีแรงกดดันเข้ามาหนักกว่าเก่า

เขารู้แล้วว่าตัวเองคงไปต่อทั้งๆ แบบนี้ไม่ได้

เย่หยวนในตอนนี้นั้นสามารถควบคุมเขาน้อยแห่งถงเทียนได้แค่ถึงระดับสี่เท่านั้น

ยิ่งขึ้นเขาแห่งถงเทียนมาสูง พลังกดดันจากยอดเต๋ามันก็จะยิ่งรุนแรง

ตอนนี้มันเป็นจุดสุดยอดที่เขาน้อยแห่งถงเทียนจะพาเขาขึ้นมาได้แล้ว

เส้นทางข้างหน้ามันจะเป็นเส้นทางที่เย่หยวนไม่สามารถขึ้นไปได้ ต่อให้มีเขาน้อยแห่งถงเทียนเขาก็คงยังถูกพลังจากยอดเต๋าบดทำลายอยู่ดี

แต่ว่าเย่หยวนนั้นไม่ได้คิดจะหันหลังกลับเช่นกัน

เพราะเขารู้สึกได้ถึงพลังงานวิญญาณที่อยู่รอบกาย จนทำให้เขารู้สึกโปร่งโล่งอย่างที่บอกไม่ถูก

“ช่างเป็นพลังงานวิญญาณที่หนาแน่นนัก! การบรรลุในที่แห่งนี้คงเหมาะสมที่สุดแล้ว!” เย่หยวนกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้ม

จากนั้นเขาก็ลงมือทันที เย่หยวนไม่รอช้านั่งลงขัดสมาธิและเริ่มทำความเข้าใจสิ่งที่เขาได้รับรู้จากเส้นทางห้ากิโลเมตรนั้นอีกครั้ง

ตอนนี้โครงของบัญญัติเทพแห่งถงเทียนระดับสี่นั้นถูกร่างสมบูรณ์แล้ว ที่เหลือตอนนี้ก็แค่เข้าใจมันให้ได้อย่างถ่องแท้

เมื่อเขาเข้าใจบัญญัติเทพแห่งถงเทียนระดับสี่ได้จนทะลุปรุโปร่งเขาก็จะสามารถบรรลุขึ้นสู่อาณาจักรระดับสี่ได้ในคราเดียว!

เย่หยวนหลับตาและเริ่มนั่งสมาธิ ตัดขาดตนเองจากโลกภายนอก

ไม่ว่ายังไง ก็ไม่มีใครกล้าที่จะโจมตีกันบนยอดเขาแห่งถงเทียนอยู่แล้ว เขาจึงไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครมาลอบตลบหลังเขาระหว่างที่กำลังทำสมาธิอยู่

หนึ่งวันผ่านไป สองวันผ่านไป… สิบวันผ่านไป สิบห้าวันผ่านไป!

ในเวลาแค่พริบตา เวลากว่าสิบห้าวันก็ผ่านพ้นไป

ในวันนี้จู่ๆ ก็เกิดกระแสลมแรงขึ้น!

ลมเหล่านั้นพัดเข้าหาตัวของเย่หยวนและค่อยๆ เปลี่ยนกลายเป็นพายุพลังงานวิญญาณ

จากนั้นพายุก็ขยายตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้เกิดความโกลาหลไปทั่วทุกหนแห่ง

ตู้ม!

คลื่นพลังรุนแรงพุ่งทะยานขึ้นสู่ฟ้า

ตอนนี้ร่างของเย่หยวนกำลังปล่อยแสงที่ราวสายฟ้าออกมา ดูดกลืนพลังงานวิญญาณเหนือยอดห้ากิโลเมตรมาหาตัวอย่างบ้าคลั่ง

เหล่ายอดฝีมืออาณาจักรนภาสวรรค์ที่กำลังนั่งสมาธิของตัวเองอยู่ต้องเบิกตาขึ้นด้วยความตื่นตระหนก เพราะคลื่นพลังงานอันรุนแรงมหาศาลนี้

“เกิดอะไรขึ้นกัน? มีใครบรรลุอย่างนั้นรึ?”

“ใครกันที่บรรลุ? ความโกลาหลขนาดนี้มันจะน่ากลัวเกินไปแล้ว”

“หะ! นี่ตาข้าฝาดไปรึเปล่า? นั่นมัน… นั่นมันนักยุทธอาณาจักรบรรพชนพระเจ้า เขา… เขากำลังบรรลุขึ้นสู่อาณาจักรราชันพระเจ้า?”

“เป็นอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าจริงๆ ด้วย พระเจ้าช่วย นักยุทธอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าคนนี้มันโผล่ออกมาจากที่ไหนกัน?”

ที่บนยอดเหนือห้ากิโลเมตรขึ้นไปนั้นเหล่ายอดฝีมืออาณาจักรนภาสวรรค์ต่างแตกตื่นกันยกใหญ่

เขาแห่งถงเทียนนั้นมันสงบมาก สงบจนไม่ว่าจะทำอย่างไรมันก็ไม่มีทางสั่นไหว

เพราะในที่นี้มันไม่มีใครกล้าก่อเรื่องร้ายแรง

แต่ตอนนี้สถานการณ์มันกลับโกลาหลอย่างที่สุด!

ความโกลาหลจากการบรรลุของเย่หยวนนั้นมันเหนือล้ำมาก ทำให้เหล่ายอดฝีมืออาณาจักรนภาสวรรค์ใกล้ๆ ต้องลืมตาตื่นขึ้นมาเพราะไม่สามารถที่จะตั้งสมาธิกับตัวเองได้อีกต่อไป

ยอดเต๋าบนเขาแห่งถงเทียนที่ว่าสงบนิ่งกลับถูกเย่หยวนโยนเข้าสู่ความโกลาหล

ตอนที่เย่หยวนออกมาจากหอยุทธ์ในครานั้น เขาก็เองสร้างความโกลาหลครั้งใหญ่ขึ้นมาเช่นกัน

แต่หากนำมาเทียบกัน มันไม่สามารถที่จะเทียบได้แม้แต่เศษเสี้ยวของความโกลาหลในครานี้

เพราะว่าเขาแห่งถงเทียนนี้คือต้นกำเนิดของมหาพิภพถงเทียนทั้งหมด มันจึงมีพลังงานวิญญาณหนาแน่นที่สุดในมหาพิภพถงเทียนด้วย

พายุพลังวิญญาณนี้มันจึงรุนแรงกว่าที่เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นับร้อยเท่า

ตอนนั้นที่เย่หยวนสร้างบัญญัติเทพแห่งถงเทียนขึ้นมา สวรรค์ได้ทรงโปรดทำให้พลังวิญญาณบนเขาแห่งถงเทียนพุ่งขึ้นสูงหลายต่อหลายครั้ง และจนตอนนี้มันก็ยังไม่ถูกใช้ไปจนหมด

พลังวิญญาณในเขาแห่งถงเทียนตอนนี้มันจึงเรียกได้ว่าน่าเกรงขามมาก

ที่สำคัญที่นี่คือเขตแดนของอาณาจักรนภาสวรรค์ จึงมีพลังงานวิญญาณมากกว่าเขตแดนของอาณาจักรราชันพระเจ้านัก

ภายใต้สภาพแบบนั้น เย่หยวนกลับยังสามารถสร้างความโกลาหลได้ถึงขั้นนี้ มันแสดงให้เห็นได้เลยว่าการบรรลุของเขาในครานี้มันรุนแรงมากแค่ไหน

ที่สำคัญการบรรลุของเขานี้มันยังต่างจากคนทั่วไป เพราะมีแสงสายฟ้าผ่าลงมาเป็นระยะ เมฆหมอกสีดำสนิทลอยอยู่ด้านบน มันเป็นภาพที่ราวกับจะเกิดวันสิ้นโลกขึ้นตรงหน้า

ร่างของเย่หยวนทั้งหมดถูกห่อหุ้มไว้ด้วยหมอกดำ ดำจนทำให้เหล่ายอดฝีมืออาณาจักรนภาสวรรค์ทั้งหลายมองด้านในได้ไม่ชัดเจนนัก

ความโกลาหลระดับนี้มันจะเป็นการบรรลุของนักยุทธอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าไปได้อย่างไร?

พวกเขามองดูและชี้ที่เย่หยวนด้วยใบหน้าที่ไม่เข้าใจว่าภาพตรงหน้าคืออะไร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าภาพแบบนี้มันเกิดขึ้นมาเพราะอะไร

เพราะขนาดเป็นพวกเขา การบรรลุของยอดฝีมืออาณาจักรนภาสวรรค์ พวกเขาก็คงไม่สามารถสร้างความโกลาหลได้มากมายขนาดนี้!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด