Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 1676 ต่อยเข้าที่หน้า

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 1676 ต่อยเข้าที่หน้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1676 ต่อยเข้าที่หน้า
“ไม่ต้องมองแล้ว เจ้าคงไม่คิดว่ามันจะออกมาได้จริงๆ ใช่ไหม?”

ที่ยอดห้ากิโลเมตรนั้น เล้งชิวหลิงนั้นมีท่าทางเหม่อลอยไม่น้อย ในเวลากว่าเดือนมานี้นางไม่สามารถจะนั่งทำสมาธิได้อย่างจริงจังเลย นางอดไม่ได้ที่จะหันไปมองยังม่านหมอกที่เย่หยวนเข้าไปอยู่เป็นระยะๆ

เมื่อซัวหานเห็นแบบนั้นเขาก็รู้สึกได้ว่าไฟริษยามันปะทุขึ้นในใจ จึงกล่าวว่านางออกมา

เล้งชิวหลิงหันไปมองหน้าซัวหานอย่างไม่คิดจะสนใจ “บางทีเขาอาจจะออกมาได้ก็ได้?”

ซัวหานหัวเราะลั่นกับตัวเอง “ข้ารู้ว่าเจ้าคิดอะไรอยู่ แต่บางเรื่องทำครั้งแรกอาจจะไม่เป็นไร ครั้งที่สองอาจจะยังพอทน แต่มันคงไม่มีครั้งที่สามอีกแล้ว! เจ้าคิดจริงๆ หรือว่ามันเป็นอัจฉริยะยอดคนมาจากที่ไหน? เป็นแค่อาณาจักรบรรพชนพระเจ้ากลับคิดเข้าไปในม่านหมอก มันไม่ต่างอะไรจากการรนหาที่ตายหรอก!”

เล้งชิวหลิงพยายามเปิดปากพูดแต่ก็ไม่รู้ต้องพูดอะไร

เพราะคำพูดของซัวหานนั้นมันมีเหตุผล ต่อให้นางจะรู้ว่าเย่หยวนเป็นคนที่ลึกลับมากแค่ไหนก็ตาม

แต่ม่านหมอกนี้มันเป็นสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุม ไม่ว่าคนเราจะมีวิธีการที่เก่งกาจหรือแยบยลแค่ไหน มันก็ไม่มีทางที่จะกลับออกมาได้เลย

เล้งชิวหลิงเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเช่นกันว่าทำไมนางถึงเป็นเช่นนี้ อาจจะเพราะว่าเขาเข้ามาช่วยเหลือนางไว้อย่างไม่คิดอะไรมากมาย

และเขาก็ต่างจากคนอื่นๆ ที่มักช่วยเหลือนางและพยายามหาโอกาสพูดคุย แต่เย่หยวนนั้นแค่ช่วยนางวไว้เฉยๆ

เล้งชิวหลิงพอจะมองออกว่าตอนที่นางหยิบดาบหยกออกมา เย่หยวนมีท่าทางเหมือนจะปฏิเสธในวินาทีนั้น

ดูท่าเขาเองก็ไม่ได้อยากจะรับมันไว้

ซัวหานหันไปมองเล้งชิวหลิงอีกครา “น้องเล้ง ข้ายอมรับนะว่าเด็กคนนั้นมันมีดี แต่คนแบบมันไม่ตายวันก็ต้องตายพรุ่ง คนแบบนี้มันไม่มีอะไรให้เจ้าคิดถึงหาหรอก”

เป็นเวลานี้เองที่มีเสียงเรียบๆ เสียงหนึ่งดังขึ้นมา ทำให้ทุกคนถึงกับต้องหันไปมอง “โอ้? หมายความว่าไอ้โง่อย่างเจ้ามันมีค่าให้คิดถึงเหรอ?”

ก่อนที่พวเขาทั้งหลายจะเห็นร่างของเย่หยวนค่อยๆ เดินกลับออกมาจากม่านหมอกด้วยรอยยิ้มขี้เล่น

การปรากฏตัวของเย่หยวนนี้มันทำให้ผู้คนตื่นตระหนกทันที

“น-นี่ตาข้าฝาดไปรึ? ทำไมมันถึงกลับออกมาจากม่านหมอกได้อย่างปลอดภัยกัน?”

“เดี๋ยวนะ! พลังของมันดูจะเปลี่ยนไป! มันไม่ใช่อาณาจักรบรรพชนพระเจ้าอีกต่อไปแล้ว!”

“จริงด้วย! พลังของมันรุนแรงขึ้นมา แต่… ข้ากลับมองไม่ออกเลย!”

“มันไปเจออะไรมาในม่านหมอกนั้นกัน? หรือว่าจริงๆ แล้วในม่านหมอกนั้นมันจะมีสมบัติหลบซ่อนอยู่?”

ทุกคนต่างมองไปด้วยท่าทางไม่อยากเชื่อสายตา การที่นักยุทธอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าเข้ามาในเขาแห่งถงเทียนได้นั้นมันก็ยังพอทน เดินขึ้นมาถึงยอดห้ากิโลเมตรได้มันก็ยังพอเชื่อ

แต่การที่นักยุทธอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าจะเข้าไปในม่านหมอกและออกมาได้อย่างนี้ จะมีใครเชื่อมันลงกัน?

หรือว่าเจ้าหมอนี่จะเป็นอมตะ?

“จ-จ-จ-เจ้า… ออกมาได้อย่างไร? บ้าน่า! ต่อให้เป็นยอดฝีมืออาณาจักรนภาสวรรค์ก็ยังออกมาไม่ได้เลยแท้ๆ เจ้าจะออกมาได้อย่างไรกัน?”

เมื่อซัวหานเห็นเย่หยวน เขาก็มีใบหน้าที่ราวกับได้เห็นผีก่อนจะพูดถามออกมาอย่างติดขัด

“ออกมาได้ยังไง? เดินแน่นอนอยู่แล้วสิ!” เย่หยวนบอกด้วยรอยยิ้มที่เย็นชา

ซัวหานมีใบหน้าที่แสนตื่นตระหนกอย่างอธิบายไม่ถูก ทำไมเจ้าหมอนี่มันถึงได้ตายยากตายเย็น?

แดนที่ถูกเรียกว่าพื้นที่ต้องห้าม มันกลับเข้าไปเดินเล่นได้อย่างหน้าตาเฉย

โลกใบนี้มันมีตัวประหลาดขนาดนี้ด้วยหรือ?

ไม่ไกลไปนักเล้งชิวหลิงเองก็มองดูเย่หยวนเช่นกัน ด้วยใบหน้าที่ทั้งโล่งใจและตื่นตระหนกไม่น้อย

นางไม่คิดจริงๆ ว่าเย่หยวนจะออกมาจากม่านหมอกนั้นได้

ชายคนนี้มันช่างเป็นตัวตนที่แสนพิศวง!

ในเวลาหนึ่งเดือนมานี้ เขาได้ไปเจออะไรมาด้านในบ้าง?

เย่หยวนค่อยๆ เดินไปยังซัวหานและบอกด้วยรอยยิ้ม “จำที่ข้าบอกไว้ก่อนไปได้ไหม?”

แม้ว่าเย่หยวนจะมีพลังที่เหนือฟ้ากว่าเก่า แต่ด้วยพลังของอาณาจักรราชันพระเจ้าเก้าดาวของเขา มีหรือที่เขาจะกลัวเย่หยวน?

เมื่อนึกถึงคำของเย่หยวนได้เขาก็ยิ้มรับ “ที่นี่คือเขาแห่งถงเทียน ต่อให้ข้าไม่กล้าโจมตีเจ้า แล้วเจ้าจะกล้าโจมตีข้าไหมล่ะ?”

เย่หยวนแอบหัวเราะพร้อมมองไปทางซัวหาน “งั้น… ลองดูไหม?”

พูดจบเย่หยวนก็ต่อยหมัดออกมาใส่ที่หน้าของซัวหานทันที

ซัวหานไม่นึกไม่ฝันว่าเย่หยวนจะกล้าโจมตีเขาเข้าจริงๆ

เมื่อไม่ทันตั้งตัว เขาก็ถูกส่งลอยไปด้วยหมัดเดียวนั้น

เวลาดวลห้ามเล็งใบหน้า นี่คือมารยาทที่ดีของนักยุทธ แต่หมัดนี้ของเย่หยวนกลับเล็งเข้าที่ใบหน้าของซัวหานอย่างจังจนเลือดของเขาออกมาจากทั้งปากและจมูก

ซัวหานพยายามประคองตัวลุกราวกับคนเมา ตอนนี้เขามึนงงและตื่นตกใจมากจนไม่สามารถเดินไปให้ถูกทิศได้

“ข-แข็งแกร่ง หมัดเบาๆ หมัดเดียวกลับทะลุม่านปราณเทวะของซัวหานได้!” เล้งชิวหลิงร้องด้วยความตื่นตกใจ

เย่หยวนเองก็ก้มลงมองที่หมัดของตัวเอง เขาเองก็ตื่นตกใจกับพลังของมันไม่น้อย

พลังต่อยหมัดนี้มันเหนือกว่าที่เขาคาดไปมาก

หมัดนี้ เขาไม่ได้ใช้พลังของกายทองคำเลย แต่นี่เป็นพลังของปราณเทวะล้วนๆ

เขาได้รู้แล้วว่าปราณเทวะของเขามันต่างจากก่อนหน้านี้มากจริงๆ

ต่อให้หมัดของเขานี้ไม่มีพลังโลก แต่เขาก็รู้สึกได้ว่ามันมีพลังอีกแบบแฝงอยู่ภายใน ทำให้การโจมตีนี้สุดจะรุนแรง!

เย่หยวนไม่รู้ว่าพลังนี้เรียกว่าอะไร แต่มันคงไม่ได้อ่อนแอไปกว่าพลังโลกแน่ๆ

ไม่สิ หากให้เทียบจริงๆ มันอาจจะอยู่เหนือกว่าเสียด้วยซ้ำ!

ซัวหานสะบัดหัวอย่างแรงก่อนจะเริ่มกลับมาตั้งหลักได้

เขามองดูเย่หยวนด้วยความโกรธแค้นอย่างถึงที่สุด

“เจ้า… เจ้ากล้าโจมตีข้าจริงๆ รึ! ข้า… ข้าจะฆ่าเจ้า!”

ซัวหานนั้นก็อยู่มานานมากแล้วแต่นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เขาต้องเสียหน้าหนักขนาดนี้ ถึงกับโดนต่อยโดยเด็กน้อยที่เพิ่งจะบรรลุอาณาจักรราชันพระเจ้ามาได้หมาดๆ

ตอนนี้สมองของเขาเปี่ยมไปด้วยความโกรธแค้นจนลืมไปว่าตอนนี้พวกเขาทั้งหลายกำลังอยู่บนเขาแห่งถงเทียน

พลังของนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าเก้าดาวถูกปลดปล่อยออกมา มันเป็นพลังปราณเทวะที่ทำให้ผู้คนที่ได้พบต้องใจสั่นระรัว

พลังของซัวหานนั้นไม่ได้มีดีแค่ชื่อ

เย่หยวนมองดูซัวหานด้วยรอยยิ้มที่แสนเย็นชา เขามีท่าทางที่ไม่กังวลเลยสักนิด

จู่ๆ ก็เกิดคลื่นพลังอันน่าเกรงขามกดลงมาจากฟากฟ้า

เมฆสีดำสนิทก่อตัวขึ้นทันที

คลื่นพลังอันน่ากลัวนั้นมันกลบคลื่นพลังของซัวหานไปจนสิ้น

ซันหานนึกได้ทันที เขารู้สึกได้ถึงความตายที่มาเยือนตรงหน้า ทำเอาแทบหายใจไม่ออก

โดยไม่ต้องคิดอะไรอีก ซัวหานเก็บพลังปราณเทวะของตัวเองกลับเข้าไปในร่างทันที

เมื่อทำเช่นนั้นแล้วเมฆสีดำจึงค่อยๆ จางหายไป

แต่ต่อให้เมฆจะจางหายไป แต่ตัวของซัวหานก็มีเหงื่อไหลจนท่วมไปแล้ว

เป็นตอนนี้นี่เองที่เขาเพิ่มจะกลับมาได้สติจริงๆ ตอนนี้พวกเขากำลังอยู่บนเขาแห่งถงเทียน

หากมีใครคิดกล้าจะลงมือ พวกมันก็จะถูกลงทัณฑ์อย่างไม่เว้นหน้า!

โชคยังดีที่เมื่อสักครู่นี้เขายั้งมือทัน ไม่เช่นนั้นเขาเองก็คงได้กลายเป็นฝุ่นผงไปแล้ว

และจู่ๆ ร่างของเขาก็สั่นเทาก่อนจะหันไปมองเย่หยวนอย่างไม่อยากเชื่อสายตา

งั้นทำไมหมอนี่ไม่โดน?

ไม่ใช่แค่เขา แต่ตอนนี้ทุกผู้คนต่างมองเย่หยวนด้วยใบหน้าที่แสนตื่นกลัว

แม้ว่าพลังที่ออกมามันจะต่างจากซัวหานมาก แต่เขาเองก็ใช้ปราณเทวะและแนวคิดในการโจมตีเมื่อครู่เหมือนกัน

งั้นทำไมทัณฑ์สวรรค์ถึงไม่ลงทัณฑ์เขา?

“เจ้าจะสังหารข้าไม่ใช่เรอะ? ข้าอยู่นี่ไง มาสิ!” เย่หยวนมองซัวหานด้วยรอยยิ้มเยาะ

ซัวหานหน้าเสียอย่างมาก ในสายตาของเขาตอนนี้เย่หยวนนั้นคือสัตว์ประหลาดที่ยิ่งกว่าสัตว์ประหลาดตัวใดๆ ที่เขาเคยพบ

“หากเจ้าไม่เข้ามา งั้นข้าไปเอง! หมัดเมื่อกี้ข้ายังไม่ค่อยสะใจเท่าไหร่เลย!”

เย่หยวนค่อยๆ เดินเข้ามาหาซัวหาน นั่นทำให้ซัวหานกลัวจนหัวหด เขาค่อยๆ ก้าวถอยหลังไปเรื่อยๆ พร้อมกล่าวขึ้นมาอย่างตื่นตระหนก “อ-อย่าเข้ามานะ! อย่าเข้ามา! ทำไม ทำไมทัณฑ์สวรรค์ไม่โจมตีเจ้ากัน?!”

ตู้ม!

เย่หยวนไม่คิดจะอธิบายอะไรให้เขาฟังก่อนที่ร่างของเขาจะหายไปจากจุดที่ยืนและกระแทกอีกหมัดเข้าที่หน้าของซัวหานทันที!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด