Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 1700 ไฟสงครามมอดดับ อินทรีสวรรค์รื่นเริง

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 1700 ไฟสงครามมอดดับ อินทรีสวรรค์รื่นเริง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1700 ไฟสงครามมอดดับ อินทรีสวรรค์รื่นเริง
เมื่อเหล่านักยุทธได้บรรลุขึ้นอาณาจักรใหม่ เวลานั้นมันคือเวลาที่พวกเขาจะได้เข้าใกล้ยอดเต๋าที่สุด เป็นเวลาที่เหมาะสมแก่การทำความเข้าใจแนวคิดเป็นอย่างมาก

เล่งหยูนั้นมีพื้นฐานความเข้าใจในแนวคิดแห่งห้วงมิติบ้าง และเขาเองก็ไม่ได้เป็นคนที่โง่งมนัก

เพราะฉะนั้นเย่หยวนจึงได้ทำการเปลี่ยนแปลงตั้งค่าห้วงมิติสิบทอดใหม่เพื่อให้มันเหมาะกับเล่งหยูมากขึ้น เพื่อที่จะช่วยให้เขาคนนี้สามารถเข้าใจและบรรลุแนวคิกแห่งห้วงมิติได้

และแน่นอนว่าเล่งหยูไม่ได้ทำให้เย่หยวนผิดหวังเช่นกัน เขาสามารถบรรลุได้และกลายมาเป็นผู้ใช้แนวคิดแห่งห้วงมิติหนึ่งดาวได้ในคราเดียว

ในเวลาปกติ ต่อให้มีเวลาเป็นหมื่นปีมันก็อาจจะไม่สามารถที่จะเข้าใจแนวคิดแห่งห้วงมิติได้

แต่พลังความโกลาหลในโอสถยอดหยกโมฆะของเย่หยวนนั้นมันไม่ธรรมดามาแต่แรกแล้ว

บวกเข้ากับจิตใจที่สงบและหนักแน่นของเขา มันจึงทำให้ตอนนี้เล่งหยูสามารถบรรลุมาได้สำเร็จ

คราวนี้มันได้เวลาที่เล่งหยูจะทำการแสดงความสามารถออกมาแล้ว

แม้ว่าเล่งหยูจะไม่ได้รวมแนวคิดแห่งดาบเข้าไปกับแนวคิดแห่งห้วงมิติเหมือนเย่หยวน แต่เมื่อใช้ออกมามันก็ยังสร้างความแตกต่างที่มหาศาลได้

ถึงเหวินอี้หลินจะมีพลังที่ไม่ด้อย แต่เขาก็ยังนับว่าเป็นแค่ยอดฝีมืออาณาจักรนภาสวรรค์หน้าใหม่คนหนึ่ง การบรรลุของเขานั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาได้แค่ไม่กี่หมื่นปี

ในชั่ววินาทีนั้นเขาจึงถูกกดดันเข้าทันที

ในหมู่คนทั้งสี่ มีแค่เจิ่งชีเท่านั้นที่ดูจะอ่อนแอกว่าอีกฝั่ง แต่ศัตรูของเขาก็ไม่ได้เก่งกาจมากมาย เขาจึงพอที่จะรับมือได้ไม่ยาก

ตอนนี้เหล่ายอดฝีมือแห่งเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ที่ได้ใช้ไม้เด็ดออกมา มันจึงทำให้สถานการณ์เปลี่ยนพลิกกลับทันควัน!

ซุบ!

แสงแห่งดาบพุ่งผ่านตัวเขาไปอย่างรวดเร็ว เผยให้เห็นว่าบนร่างของเหวินอี้หลินมีรูเพิ่มขึ้นมาอีกรู

เล่งหยูยังคงกดดันอย่างต่อเนื่อง ปล่อยดาบออกมารวดเร็วกว่าอีกฝ่าย

เหวินอี้หลินโดนถล่มจนราบ มีหรือที่เขาจะยังเหลือแรงไปสวนกลับใดๆ?

ปัง!

ดาบแสงอีกลำพุ่งผ่านความว่างเปล่าและตรงเข้าร่างของเหวินอี้หลินจนส่งเขาตกลงสู่พื้นดินทันที

เล่งหยูยกดาบยาวขึ้นพร้อมมองดูร่างใกล้ตายของเหวินอี้หลิน “ข้าเสียเวลาไปนับแสนปีจริงๆ แต่ชีวิตข้าก็ยังดีกว่าเจ้านัก! เพราะว่าตอนที่ข้าหมดหวังในชีวิต ข้ากลับได้เจอคนที่ทำให้ชีวิตข้ามีความหวังอีกครั้งยังไงล่ะ”

เหวินอี้หลินนั้นบาดเจ็บหนักมากแล้ว เขากำลังใกล้ตายเต็มที ดวงตาของเขาก็แฝงไปด้วยความกลัวและความรู้สึกอยากรอดชีวิต

เขาแพ้ลงง่ายๆ เช่นนี้!

เล่งหยูไม่คิดที่จะสงสารแม้แต่น้อยและแกว่งดาบตัดลง จบชีวิตของเหวินอี้หลิน

เมื่อผู้ตรวจการได้เห็นภาพนี้ เขาก็พูดอะไรไม่ออก

ในวินาทีที่ผ่านมานี้ เรื่องราวมันได้กลับตาลปัตรไปหมด

เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์สามารถพลิกกลับมาได้!

เขาไม่เคยคิดเคยฝันเลยว่าเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์จะมีอะไรเก็บซ่อนไว้มากมายขนาดนี้!

ผู้ตรวจการเปิดปากกว้าง อยากจะพูดอะไรออกมา แต่สุดท้ายก็ไม่รู้จะพูดอะไร

บนท้องฟ้าการต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป

โซชูเจียควบคุมเขาหน่วงเทพบรรพกาลไว้และเดินหน้ารุกเอาชัยชนะมาจนทำให้เฉียวอันชานแทบทนทานไม่ไหว

พลังฝีมือของพวกเขาเดิมทีมันไม่ห่างไกลกันมาก โซชูเจียที่มีพลังของสมบัติในมือจึงได้เปรียบอีกฝ่ายอย่างเห็นได้ชัด

ปัง!

แค่ประมาทนิดเดียวเฉียวอันชานก็ถูกส่งกระเด็นไปอีกครา

แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าเฉียวอันชานกลับเลือกที่จะเปลี่ยนร่างเป็นลำแสงพุ่งหนีไปทั้งๆ อย่างนั้น!

เรื่องนี้มันทำให้ทุกผู้คนตื่นตกใจมาก

ผู้ตรวจการได้แต่ถอนหายใจก่อนจะพุ่งร่างออกมาบ้าง

คลื่นพลังงานอันรุนแรงพุ่งผ่านเส้นขอบฟ้า

เงาร่างหนึ่งผ่านหน้าเฉียวอันชานไป ผู้ตรวจการนั้นไปถึงด้านหน้าของเขาก่อนได้ทั้งๆ ที่พุ่งตัวออกมาทีหลังหยุดเฉียวอันชานไว้กับที่

ผู้ตรวจการถาม “เจ้าจะไปไหน?”

เฉียวอันชานนั้นมีสภาพเหมือนคนเสียสติและตะโกนลั่นออกมา “จะรู้ไปทำไมว่าพ่อเจ้าอยากไปไหน? พ่อเจ้าไม่อยากตาย เจ้าจงถอยไปให้ไกล!”

พูดจบเฉียวอันชานก็พุ่งเข้าโจมตีผู้ตรวจการด้วยขวานอย่างบ้าคลั่ง

“รนหาที่ตาย!”

ผู้ตรวจการนั้นคือตัวตนอันยิ่งใหญ่ในสิบเมืองสันเขาใต้

แต่เฉียวอันชานนั้นขาดสติไปด้วยความพ่ายแพ้ จึงกล้าที่จะโจมตีใส่เขา

คลื่นพลังของผู้ตรวจการพุ่งสูงสะท้านฟ้า มันคือพลังโลก และตามมาด้วยหมัดที่ต่อยตรงออกมา!

ปัง!

เสียงดังสนั่นดังขึ้น

หลังจากนั้นมันก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ อีก

ผู้ตรวจการเก็บขวานยักษ์ของเฉียวอันชานไปและพูด “เจ้าโง่ตาบอดแสนบ้าบิ่น! ถึงขั้นกล้าที่จะลงมือต่อข้าผู้นี้!”

แค่พริบตา สองยอดฝีมืออาณาจักรนภาสวรรค์ก็ได้ตายตกลง

นั่นทำให้เล่งหยูและโซชูเจียได้เข้าร่วมการต่อสู่ที่เหลือ และเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ก็กวาดล้างยอดฝีมืออาณาจักรนภาสวรรค์ของเมืองจักรพรรดิยอดสันติลงได้อย่างงดงาม

เมื่อตราดาบทองคำปรากฏขึ้น มันก็จะไม่มีการหยุดพักใดๆ จนกว่าฝั่งใดฝั่งหนึ่งจะตายตกลง

เพียงแค่ว่าเฉียวอันชานคงนึกไม่ถึงว่าเมืองจักรพรรดิยอดสันติจะต้องมาจบลงด้วยชะตากรรมแบบนี้

“เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์จงเจริญ!”

“ท่านเจ้าเมืองจงเจริญ!”

“ผู้อาวุโสใหญ่เย่หยวนจงเจริญ!”

เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ทั้งเมืองต่างลั่นไปด้วยเสียงโห่ร้องดีใจ จากสิ้นหวังสู่ความหวัง และพุ่งตรงเข้าสู่ชัยชนะ

การต่อสู้นี้มันเปี่ยมไปด้วยความสิ้นหวัง แต่กลับนำพาเรื่องที่แสนน่าตกใจมาสู่พวกเขามากมาย

ไม่มีใครคิดว่ายอดฝีมือแห่งเมืองจักรพรรดิยอดสันติจะถูกกวาดล้างลงง่ายๆ เช่นนี้

และคนที่คิดโจมตีมาก่อนก็ยังเป็นฝ่ายเมืองจักรพรรดิยอดสันติเองอีกต่างหาก

โซชูเจียนั้นมีใบหน้าที่แสนเปี่ยมสุข

การต่อสู้นี่เป็นการต่อสู้ที่เขาได้ลงมืออย่างสุดสะใจ

ในฐานะเมืองจักรพรรดิที่อ่อนแอที่สุดในสิบเมืองสันเขาใต้ โซชูเจียในฐานะเจ้าเมืองจึงต้องทำตัวนอบน้อมก้มหัวมาตลอด

แต่วันนี้เขาได้ประกาศศักดาให้อีกแปดเมืองได้รู้แล้ว!

“ฮ่าๆ เยี่ยมจริงๆ! ข้าจำไม่ได้แล้วจริงๆ ว่าข้าได้รู้สึกสดชื่นขนาดนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่กันแน่!” เหอชงหัวเราะเปี่ยมสุข

โซชูเจียยิ้ม “ใช่! หลังจบศึกนี้ เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์เราคงขึ้นไปอยู่หนึ่งในห้าของสิบเมืองสันเขาใต้แน่! ในอนาคตมันจะไม่มีใครกล้ารังแกเราอีกแล้ว! มาเถอะ เรื่องนี้เราต้องไปขอบคุณเย่หยวนเสียก่อน หากไม่มีเขา ผลลัพธ์ในวันนี้มันคงไม่มีทางเกิดขึ้น!”

ทุกคนต่างพยักหน้ารับเมื่อได้ยินและตามโซชูเจียไป

ยอดฝีมืออาณาจักรนภาสวรรค์ทั้งสี่มาถึงพร้อมกัน โดยโซชูเจจียคืนเขาหน่วงเทพบรรพกาลไปให้เย่หยวนด้วยรอยยิ้ม “เย่หยวน ศึกนี้ข้าในฐานะตัวแทนเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ต้องขอขอบคุณเจ้า!”

เย่หยวนยิ้มตอบ “ท่านเจ้าเมืองอย่าได้กล่าวเช่นนั้นเลย เย่ผู้นี้เองก็เป็นผู้อาวุโสใหญ่แห่งหอโอสถ เป็นธรรมดาที่ข้าต้องร่วมมือช่วยเหลือเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ของเรา”

ยอดฝีมืออาณาจักรนภาสวรรค์ทั้งสี่นั้นขอบคุณเย่หยวนอยู่ในใจ

เว้นเสียแต่ว่า พวกเขาตอบแทนอะไรเย่หยวนได้ไม่มากนัก

ที่สำคัญ พวกเขาก็รู้ด้วยว่าการเดินทางของเย่หยวนนั้นมันคงไม่จบลงที่เมืองเล็กๆ อย่างเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นี้แน่ ต่อให้เป็นทั้งสิบเมืองสันเขาใต้ก็คงไม่เพียงพอจะหยุดเขา

ไม่นานจากนี้ สักวันเขาจะจากไป

แต่ความเปลี่ยนแปลงที่เย่หยวนนำมาสู่เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นั้นมันแสนยิ่งใหญ่อย่างไร้คำบรรยาย

ตอนนี้ผู้ตรวจการได้เดินเข้ามาหันมองเย่หยวนก่อนจะหันไปพูดกับโซชูเจีย “พันธะดาบทองคำจบลงแล้ว ข้าผู้นี้จะกลับเอาเรื่องของสิบเมืองสันเขาใต้นี้ไปรายงานแก่เบื้องบน ตามกฎแล้วจากนี้เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์จะต้องเข้าครองเมืองจักรพรรดิยอดสันติ พวกเจ้าจงส่งคนไปจัดการเรื่องราวอย่างด่วนที่สุด แต่อย่าได้สร้างปัญญาเชียวล่ะ”

โซชูเจียรีบตอบ “ขอรับท่านผู้ตรวจการ!”

ผู้ตรวจการพยักหน้ารับและหันไปหาเย่หยวน “เย่หยวน เจ้ามากับข้าหน่อย”

ภายใต้สายตาของทุกผู้คน ผู้ตรวจการได้พาเย่หยวนไปที่ด้านข้าง “เด็กน้อย คราวนี้ให้ถือว่าข้าติดหนี้เจ้าก็ได้! ครั้งนี้ข้ากลับไปเมืองหลวงจักรพรรดิข้าจะไปหายาสมุนไพรมาให้เจ้าหลอมโอสถยอดหยกโมฆะ ถึงตอนนั้นเจ้าจะช่วยหลอมให้ข้าคนนี้ได้หรือไม่?”

เย่หยวนยิ้มตอบ “นายท่านก็พูดเกินไป แค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่นนี้นายท่านโปรดอย่าได้ใส่ใจกับมันเลย”

ผู้ตรวจการมองดูใบหน้าของเย่หยวนอีกครั้งด้วยความรู้สึกตื่นกลัวอยู่เต็มหัวใจ

ตอนนี้เขาได้รู้แล้วว่าเด็กคนนี้มันได้วางแผนการรับมือทุกอย่างมาก่อนหน้าแล้ว ถึงจะพูดจะทำอะไรออกมาดูเหลือเชื่อ แต่ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นไปตามแผนการ อยู่ใต้การควบคุมของเขาทั้งสิ้น

อย่าได้ใส่ใจ?

ต่อให้เย่หยวนจะไม่ใส่ใจ แต่มีหรือที่เขาจะไม่เอามันมาใส่ใจ?

แต่คำพูดนี้ของเย่หยวนมันช่วยให้เรื่องราวในครั้งนี้เหมือนเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย

แบบนี้มันก็จะช่วยรักษาหน้าเขาและทำให้เขาติดบุญคุณได้

เด็กคนนี้มันไม่ธรรมดาเลยจริงๆ!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด