Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 1705 รอมันมา!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 1705 รอมันมา! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1705 รอมันมา!
“สู้ได้ดี!”

“สวยงามมาก!”

“ในที่สุดก็มีคนสั่งสอนเจ้าสัตว์ร้ายนี่สักที!”

“ถึงความโกรธแค้นนี้จะจางลงแต่ด้วยนิสัยของเจ้าเจียนหยู่นั่น มันต้องหาทางมาเอาคืนแน่!”

“พี่ชายของมัน เจียนปิงนั้นเป็นสมาชิกของศาลามายาล้ำ พลังฝีมือของเขาจึงสูงส่งไม่น้อยเลย!”

เมื่อทุกคนเห็นว่าขาของเจียนหยู่หักลงแล้วจริงๆ พวกเขาทั้งหลายก็ต่างรู้สึกสดชื่นในใจ จนต้องตะโกนโห่ร้องชื่นชมออกมาอย่างไม่หยุด

เจียนหยู่ผู้นี้ ปกติแล้วเป็นคนที่ไม่มีใครกล้าแตะต้อง ทำตัวกร่างข่มขู่ผู้คนมานานหลายต่อหลายปี

วันนี้ในที่สุดก็มีใครที่กล้าจะสั่งสอนมันปรากฏตัวขึ้น

แต่เรื่องของเรื่องก็คือนั่นทำให้พวกเขายิ่งเป็นห่วงเย่หยวนหนักกว่าเก่า

เพราะยังไงเสีย ตระกูลเจียนก็เป็นตระกูลใหญ่ที่ห้ามไปมีเรื่องด้วย

“นายท่าน นี่มันเป็นความผิดของเสี่ยวหรานทั้งสิ้น ข้าขอโทษด้วย! ท่านรีบๆ ไปเถอะ! เจียนหยู่นั่นมีอำนาจมากมันไม่ปล่อยท่านไว้แบบนี้แน่ๆ” จางเสี่ยวหรานพยายามประคองจางห่าวเทียนด้วยสภาพทุลักทุเล

เย่หยวนไม่ได้พูดอะไรกลับไป แต่เขาเดินเข้าไปยังด้านหน้าของจางห่าวเทียนแทนและหยิบเม็ดโอสถออกมาให้

การโจมตีที่เขารับไม่เมื่อสักครู่นี้รุนแรงไม่น้อย อาการบาดเจ็บของเขาในตอนนี้จึงไม่น้อยและเจ็บจนพูดไม่ได้ไปแล้ว

เย่หยวนมองดูเสี่ยวหรานและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เจ้านั้นอยากแต่งงานไปเป็นเมียน้อยนางบำเรอของเจียนหยู่หรือไม่?”

จางเสี่ยวหรานส่ายหัวออกมาอย่างรุนแรง “ต่อให้ตายข้าก็ไม่แต่งกับมัน!”

เย่หยวนยิ้มตอบ “เอาล่ะ งั้นก็รอมันมากัน”

จางเสี่ยวหรานหน้าถอดสีทันทีและโบกมือปัดอย่างไม่มีทีท่าจะหยุด “ไม่ๆๆ นายท่านต้องรีบหนีสิ! พี่ชายของเจียนหยู่นั้นเป็นคนของศาลามายาล้ำเลยนะ”

เย่หยวนตื่นตกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนั้น และตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม “คนของศาลามายาล้ำ? งั้นก็พอดีเลย ข้าเองก็กำลังหาทางไปศาลามายาล้ำอยู่”

เมื่อคนรอบๆ ได้ยินคำพูดนั้นของเย่หยวนพวกเขาทั้งหลายก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวออกมา

เด็กคนนี้มันอารมณ์ร้อนเกินไป เขาไม่รู้เลยว่าศาลามายาล้ำนั่นคืออะไร เป็นสัญลักษณ์แบบไหนในเมืองจักรพรรดิเลิศประกาย!

“นายท่านผู้นี้ เป็นเฒ่าคนนี้เองที่ได้ลากเจ้าเข้ามายุ่งเกี่ยว ท่านจงรีบไปเถอะ ท่านอย่าได้ไปลบหลู่ศาลามายาล้ำเลย! อย่างมากที่สุดเฒ่าคนนี้ก็แค่สู้กับพวกมันจนตัวตายเท่านั้น!” จางห่าวเทียนบอก

จางเสี่ยวหรานเองก็มีท่าทางตื่นตะลึง เพราะตอนนี้นางได้เห็นแล้วว่าสภาพของจางห่าวเทียนที่ดูย่ำแย่เมื่อไม่กี่นาทีก่อนกลับมามีพลังและแทบจะหายดีแล้ว!

โอสถนี้มันจะวิเศษเกินไปแล้วใช่ไหม?

เย่หยวนยิ้มตอบ “ผู้เฒ่า ขาของท่านคงโดนพิษหมาป่าพิษราบมากระมัง?”

จางห่าวเทียนเงียบนิ่งไปทันที เวลานี้มันยังใช่เวลามาห่วงเรื่องขาของเขาอีกหรือ?

แต่ว่าเขาก็ยังพยักหน้ารับออกมา “ใช่แล้ว ตอนนั้นเราสองสามีภรรยาเดินทางพาลูกน้อยเกิดใหม่ เสี่ยวหรานของเรากลับมายังเมืองจักรพรรดิเลิศประกาย แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าเราจะไปเจอหมาป่าพิษราบเข้าระหว่างทาง แม่ของเสี่ยวหรานไม่ลังเลที่จะสละร่างของนางเป็นอาหารให้พวกมันเพื่อถ่วงเวลาให้เราสองพ่อลูกหนีออกมาได้ แต่ทว่าสุดท้ายขาของเฒ่าคนนี้ก็ยังถูกมันกัดเข้า เฮ้อ คนที่ควรตายไปตอนนั้นน่าจะเป็นเฒ่าคนนี้มากกว่าแท้ๆ ใครจะไปคิด…”

พูดถึงตรงนี้จางห่าวเทียนก็ดูจะนึกได้ถึงความทรงจำอันขมขื่นเมื่อวันวานจนน้ำตาไหลลงมานองหน้า

“ท่านพ่อ อย่าได้โทษว่าตัวเองอีกเลย นี่มันมิใช่ความผิดของท่านเลย!” จางเสี่ยวหรานเองก็มีน้ำตานองหน้าไม่แพ้กัน

เย่หยวนเองก็ไม่คิดว่าพ่อลูกคู่นี้จะได้เจอเรื่องราวที่แสนน่าเศร้าแบบนี้มา

แต่ว่าเรื่องราวเช่นนี้มันนับได้ว่าเป็นปกติของชีวิตเหล่านักยุทธ

ไม่ใช่ทุกคนที่จะเก่งกาจมีความสามารถท้าทายสวรรค์เหมือนที่เย่หยวนมี

นักยุทธส่วนมากนั้นได้แต่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากที่จุดต่ำสุดของห่วงโซ่อาหาร

พิษของหมาป่าพิษราบนั้นเป็นพิษที่แสนรุนแรงและยากแก่การรักษามากๆ

เพราะฉะนั้นร่างกายของจางห่าวเทียนจึงแก่ตัวลงเร็วกว่าปกติไม่น้อย

แถมขาของเขาก็ยังใช้งานไม่ได้อีกเพราะพิษที่ยังคั่งค้าง

เย่หยวนนั้นได้แต่ถอนหายใจออกมา “งั้นข้าจะรักษาให้แล้วกัน”

จางห่าวเทียนยิ้มออกมาอย่างขื่นขม “เหตุผลที่เราสองพ่อลูกต้องมีสภาพน่าสมเพชเช่นนี้ก็เพราะว่าขาของเฒ่าคนนี้แหละ เวลาหลายปีมานี้เฒ่าคนนี้เสาะหายาวิเศษหมอเทวดามามากมาย แต่ก็ไม่มีสิ่งใดจะรักษาขานี้ได้เลย”

เย่หยวนยิ้มออกมา “ไม่ใช่เรื่องใหญ่ใดๆ หรอก แค่ใช้เข็มทิ่มๆ แทงๆ ก็พอแล้ว”

พูดจบเย่หยวนก็นำเข็มเงินออกมาวางเตรียมและเริ่มทำการทิ่มมันลงบนขาของเกือบขาดของจางห่าวเทียน

“เด็กน้อย อย่าได้อวดอ้างตัวเองอีกเลย ขาของเฒ่าจางนั้นแม้แต่อาจารย์หลี่ซิวชิงท่านยังรักษาไม่ได้ แล้วเจ้าเนี่ยนะ?”

“จริงๆ เลย จะอวดอ้างอะไรไม่ได้วางแผนไว้สักนิด! หากมันง่ายดายปานนั้นแล้ว เฒ่าจางคงไม่มานั่งลำบากตั้งหลายต่อหลายปีเปล่าๆ เช่นนี้หรอกใช่ไหม?”

“อืม เด็กสมัยนี้ เจ้ารีบๆ ไปก่อนเถอะ อีกไม่นานหากเจียนปิงมาถึงเจ้าคงไม่สามารถไปไหนได้แม้จะอยากแล้ว”

เย่หยวนพูดออกมาง่ายๆ และนั่นทำให้ทุกผู้คนต่างคิดว่าเขาอวดอ้างตน

หลายปีมานี้จางห่าวเทียนใช้เงินเก็บที่มีทั้งชีวิตไปกับการรักษา และสุดท้ายผลของมันก็คือประคองอาการไม่ให้แย่ลงได้เท่านั้น

ถึงจะเป็นอย่างนั้นพิษและอาการบาดเจ็บมันก็ยังกัดกินร่างกายของเขา

แต่ไม่นานสีหน้าของทุกคนก็ต้องเปลี่ยนไป

ขาของจางห่าวเทียนทีแทบขาดนั้นกลับมามีเลือดสีดำไหลพุ่งอกมา ส่งกลิ่นที่เหม็นหึ่งอย่างรุนแรงแสดงถึงความเป็นเลือดเสียติดพิษที่คั่งค้างมานานปี

เย่หยวนใช้เพลิงศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองหลอมกลั่นมันใหม่ทั้งหมด

ภายใต้สายตาอันตื่นตะลึงของทุกผู้คน ขาที่แทบขาดของจางห่าวเทียนก็ค่อยๆ กลับมาฟื้นฟูได้อีกครั้ง!

“หายจริง! เด็กคนนี้มันช่างมีฝีมือที่มากล้ำเหลือ!”

“ช่างเป็นมือวิเศษหมอเทวดาแท้! พิษในร่างที่แม้แต่อาจารย์หลี่ซิวชิงท่านยังรักษาไม่ได้ แต่เขากลับรักษามันได้!”

“ไม่นึกเลยว่าเจ้าเด็กคนนี้แท้จริงแล้วมันจะเป็นนักหลอมโอสถ ไม่แปลกใจเลยที่จะมียอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าห้าดาวเป็นผู้ติดตาม!”

คนรอบๆ ได้แต่ส่งเสียงออกมาด้วยความตื่นตาตื่นใจ

อาจารย์หลี่ซิวชิงนั้นเป็นนักหลอมโอสถที่มีชื่อมาก พลังฝีมือของเขานั้นไม่ธรรมดา

แต่พิษในร่างของจางห่าวเทียนนั้น แม้แต่อาจารย์หลี่ซิวชิงคนนั้นก็ยังรักษาไม่หาย มันจึงเรียกได้ว่าถูกตราประทับความตายกดปิดไว้แล้ว

ไม่มีใครคาดคิดว่าเด็กหนุ่มไร้ที่มาคนนี้จะสามารถรักษาจางห่าวเทียนให้หายได้ง่ายๆ เช่นนี้

จางห่าวเทียนได้แต่อ้าปากค้าง สายตาจับจ้องขาของตัวเองอย่างไม่อยากเชื่อ

ตั้งแต่กลับมาจากไปหาอาจารย์หลี่ซิวชิง เขาก็เตรียมใจพร้อมรับไว้แล้วว่าชีวิตนี้คงไม่สามารถลุกขึ้นยืนบนสองขาได้อีก

แต่ใครจะไปคิดว่าเย่หยวนจะรักษาหายได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้!

เย่หยวนหยิบโอสถออกมาอีกเม็ดและยื่นมันให้แก่จางห่าวเทียน “กินโอสถขับพิษนี่เถิด มันคงช่วยทำให้พิษที่ตกค้างในร่างท่านทั้งหมดถูกขับออกมาได้ ไหนท่านลองยืนหน่อย”

จางห่าวเทียนรับโอสถมาด้วยมือที่สั่นเทา ก่อนจะพยายามลุกขึ้นด้วยน้ำตาที่นองไหลลงมาเต็มหน้าอีกครั้ง “นายท่าน…ท่านได้ช่วยชีวิตจางห่าวเทียนผู้นี้ไว้จริงๆ! โอสถทั้งสองเม็ดนี้มันราคาเท่าไหร่กัน เฒ่าคนนี้…ต่อให้ต้องแลกชีวิตข้าก็จะหาเงินมาจ่ายให้ได้”

เย่หยวนยิ้มตอบ “โอสถเหล่านี้นับมันเป็นค่าทำนายของท่านก็แล้วกัน”

“ใครมันกล้าหักขาน้องข้า ออกมา!” ตอนนั้นเองที่เสียงอันเย็นเยือกดังก้องมา

สีหน้าของทุกผู้คนเปลี่ยนไปทันที

“เจียนปิงมา! มาเร็วแท้!”

“เจียนปิงนั้นก็เป็นยอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าห้าดาว คงมีอะไรสนุกๆ ให้ดูแล้ว”

“ได้ยินว่าเจียนปิงนั้นมีสายเลือดที่บริสุทธิ์มาก วรยุทธวิญญาณลับโกลาหลของเขาเองก็ฝึกฝนมาอย่างดีด้วย”

ฝูงชนที่มองดูแตกออกเป็นแถวทันที ก่อนจะเปิดทางให้ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินผ่านเข้ามา

ชายหนุ่มคนนี้มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับเจียนหยู่ คงเป็นเจียนปิงไม่ผิดแน่

ที่ด้านข้างเจียนหยู่ก็กำลังนั่งอยู่ เมื่อเขาได้เห็นเย่หยวนเขาก็ตะโกนลั่น “ท่านพี่ ไอ้เด็กคนนี้แหละ! ขยะที่ไม่ติดอันดับแต่กลับกล้ามาหักขาข้า ท่านต้องแก้แค้นมันให้ข้านะ! โอ้ย เจ็บ!”

“ไม่ติดอันดับ?”

เจียนปิงนั้นขมวดคิ้วแน่นเมื่อได้ยินก่อนจะหันไปมองเย่หยวนอย่างสงสัย ไม่ติดอันดับแล้วจะมีปัญญาบ่มเพาะมาถึงอาณาจักรราชันพระเจ้าได้รึ?

ที่สำคัญ ตราบเท่าที่พวกเขานั้นเป็นนักยุทธ พวกเขาย่อมต้องมีสีชะตาใดติดตัวบ้าง

ไม่ติดอันดับ แล้วเจ้าเด็กคนนี้มันรอดชีวิตมาจนป่านนี้ได้อย่างไร?

คนตระกูลเจียนนั้นมีนิสัยชอบส่องดูชะตากรรมคนอื่นเป็นธรรมดา

และคนที่ไม่ติดอันดับนั้นเรียกได้ว่าหายากมาก!

ด้วยความสงสัยที่เปี่ยมใจ เจียนปิงจึงอดไม่ได้ที่รวบรวมปราณเทวะของตัวเองขึ้นมาและจ้องมองไปยังเย่หยวน…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด