Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 1879 กำจัดมันให้ข้า!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 1879 กำจัดมันให้ข้า! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนนี้เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายต่างมีสีหน้าหวาดกลัวอย่างเต็มที่ เพราะพลังปิดกั้นของวังสวรรค์นิรันดร์นี้มันช่างแสนรุนแรง

เฉียวหยวนเองก็ตื่นตกใจไม่น้อยก่อนจะหันมาบอกเทพถ่องแท้อีกคนหนึ่ง “เจ้าไป!”

แต่ครั้งนี้คนที่เขาชี้กลับกลายเป็นหยางอี้เต่า

เมื่อหยางอี้เต่าได้ยินเช่นนั้นสีหน้าของเขาก็ซีดเผือดลงทันที “ทะ…ท่านเทพสวรรค์ เราก็ทดสอบกันไปแล้วมิใช่หรือ?”

เฉียวหยวนหัวเราะขึ้น “ไม่ทดสอบให้มากกว่านี้แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าจุดอ่อนของการปิดกั้นนี้มันอยู่ที่ใด?”

แค่คำพูดเดียวนี้มันก็ทำให้ทุกผู้คนตัวแข็งทื่อ

จีคัง ซัวพานและเหล่ายอดฝีมือเทพถ่องแท้ทั้งหลายต่างแสดงสีหน้าไม่สู้ดีออกมา

เพราะเรื่องราวตรงหน้านี้มันคือหายนะที่เข้ามาหาอย่างไม่เลือกหน้า

หยางอี้เต่านั้นรู้ตัวดีว่าคงไม่มีโอกาสรอด จู่ๆ เขาก็ก้มลงคุกเข่าต่อหน้าเย่หยวน

เขารู้ดีว่าตอนนี้มันคงมีแค่เย่หยวนเท่านั้นที่จะช่วยเขาได้

“นะ…น้องเย่! ดะ…ได้โปรดช่วยข้าด้วย!”

เย่หยวนเองก็มึนงงกับเรื่องราวที่เกิดตรงหน้านี้เช่นกัน เพราะจู่ๆ เทพถ่องแท้เก้าดาวคนหนึ่งกลับก้มหัวให้เขาง่ายๆ อย่างนี้?

เมื่อเหล่าเทพถ่องแท้ทั้งหลายเห็นภาพนี้พวกเขาทั้งหลายก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโศกเศร้าร่วมกันไปด้วย

แต่ตอนนี้เหล่านภาสวรรค์ที่เหลือจำนวนไม่มากแล้วกลับเป็นฝ่ายที่รู้สึกปลอดภัยแทน เพราะต่อให้พวกเขาทั้งหลายจะเข้าไปในวังมันก็คงช่วยพิสูจน์อะไรไม่ได้มากมาย

เมื่อเฉียวหยวนเห็นเช่นนั้นเขาก็หัวเราะลั่นออกมาทันที

“หึๆ หากเจ้ารู้มาแต่แรกว่าจะเป็นเช่นนี้ทำไมก่อนหน้าจึงได้ทำตัวเช่นนั้นเล่า? เขาผู้นี้ได้สมบัติวิญญาณเทพสวรรค์มาด้วยฝีมือความสามารถของตนแต่พวกเจ้ากลับคิดข่มเหงรังแกผู้คน ตอนนี้พอเกิดเรื่องกลับหันหน้าไปขอพึ่งพาคนที่เจ้าคิดข่มแหง หลังจากนี้ไปเจ้าจะไม่หักหลังเขาอีกหรือ? เด็กน้อยเย่หยวน ข้าขอเตือนความจำเจ้าไว้ ผีเทพสวรรค์ขวังต้าวมันคงอยู่บนโลกนี้ได้อีกไม่กี่วันหรอก”

เฉียวหยวนนั้นยิ้มกว้างออกมาไม่กังวลแม้แต่น้อยว่าเย่หยวนจะคิดช่วยหยางอี้เต่า

ระหว่างทางที่พวกเขาเดินทางมาแม้พวกเขาจะเก็บซ่อนพลังไว้แต่เรื่องราวความขัดแย้งที่เย่หยวนพบเจอมันก็ย่อมไม่มีทางหลุดรอดพ้นสายตาไป

ถึงตอนนี้หยางอี้เต่าได้แต่นั่งหน้าดำด้วยความเสียใจ

‘ตุบ!’

‘ตุบ!’

‘ตุบ!’

หยางอี้เต่าตบหน้าตัวเองอย่างรุนแรง “เย่หยวน ข้าทำผิดพลาดไปแล้ว! มันเป็นความผิดของข้าทั้งสิ้น! ข้าไม่ควรถูกความโลภเข้าครอบงำจนคิดแย่งสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์จากเจ้าเลย! แต่… แต่สุดท้ายแล้วพวกเราทั้งหลายก็เป็นมนุษย์เช่นกัน เจ้าคิดจะปล่อยให้มีผู้คนต้องตายลงเพราะน้ำมือของปีศาจอย่างนั้นหรือ?”

“ใช่แล้ว! เย่หยวน ถึงตอนนี้พวกเราทั้งหลายควรร่วมมือกันจัดการศัตรูเผ่าปีศาจให้สิ้นเสียก่อน!”

“ทุกคนนั้นต่างเป็นกำลังหลักของเผ่ามนุษย์ เจ้าจะปล่อยเราตายไปไม่ได้!”

เมื่อได้ยินคำพูดของหยางอี้เต่าเหล่ายอดฝีมือทั้งหลายต่างก็แสดงความเห็นชอบตามๆ กันออกมา พยายามคิดจะใช้กฎหมู่ในการบังคับเย่หยวน

เย่หยวนที่เดิมทียังลังเลไม่น้อยแต่เมื่อหยางอี้เต่าพูดเช่นนั้นออกมา เย่หยวนก็กลับแสดงท่าทีโกรธเคืองขึ้น

“พอ!”

เย่หยวนตะโกนลั่นขัดคำพูดของทุกผู้คนไว้

นั่นทำให้ทุกผู้คนหน้าถอดสี รู้สึกได้ถึงความไม่พอใจของเย่หยวนจากน้ำเสียงนี้ทันที

“หยางอี้เต่า หากเจ้ากลัวตายก็กลัวตายด้วยตัวเอง พยายามบิดเบือนดึงทุกผู้คนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแล้วเจ้าคิดหวังว่าข้าจะใจอ่อนหรือ? หรือเจ้าแค่คิดว่าข้ามันยังเป็นเด็กน้อยไม่รู้จักโลก?” เย่หยวนมองดูหยางอี้เต่าด้วยรอยยิ้มแสนเย็นเยือก

หยางอี้เต่าหน้าซีดเผือดลงทันทีไม่นึกไม่ฝันว่าเย่หยวนจะฉลาดปราดเปรื่องปานนี้

ลูกไม้เล็กๆ ของเขานี้เย่หยวนกลับมองออกจนสิ้น

มันทำให้เขาตื่นตกใจอย่างมากเพราะแค่เด็กน้อยอายุไม่กี่พันปีกลับสามารถเข้าใจเรื่องราวบนโลกมองลูกไม้ผู้คนออกได้อย่างชัดเจน

เฒ่าที่อยู่มานับล้านปีนี้กลับไม่สามารถเล่นลูกไม้ใดๆ ต่อหน้าเด็กคนนี้ได้เลย

“แล้วก็พวกเจ้าทั้งหลาย! เจ้าเพิ่งรู้ตัวว่าตนเป็นมนุษย์หรือ? รู้ว่าเรามีศัตรูร่วมกันและควรจะต่อสู้ไปพร้อมๆ กัน? แล้วที่ผ่านๆ มาพวกเจ้าทำบ้าอะไรกันอยู่? ตอนที่พวกมันทั้งสองนี้ไล่ล่าติดตามข้าไปในถ้ำมีพวกเจ้าตัวไหนไหมที่ออกมาช่วยเหลือ? เดิมทีตอนที่จีคังทั้งหลายคิดข่มเหงรังแกผู้คนมีพวกเจ้าสักตัวไหมที่กล้าลุกขึ้นมาช่วยปกป้องข้า? ตอนนี้กลับมาคิดรักตัวกลัวตาย?”

สายตาของเย่หยวนนั้นเต็มไปด้วยความเย้ยหยันมองผ่านหน้าทุกผู้คนไป

ไม่ว่าเขาจะมองผ่านไปทางใด เหล่าเทพถ่องแท้ที่ต้องสายตานี้เข้าก็ต้องก้มหัวลงทันที

เย่หยวนได้แต่พ่นลมหายใจด้วยความไม่พอใจ คนเหล่านี้อวดอ้างแนวคิดร่วมศัตรูของเผ่าพันธุ์แต่สุดท้ายก็เป็นได้แค่พวกเห็นแก่ตัว

คิดจะยกเรื่องศัตรูร่วมของเผ่าพันธุ์มนุษย์มาแล้วใช้กฎหมู่บังคับผู้คน

ที่เฉียวหยวนพูดมานั้นมันย่อมต้องเกิดขึ้นแน่ ต่อให้เขาจะช่วยเหล่าคนทั้งหลายนี้ผ่านเรื่องราวไป เมื่อใดก็ตามที่ผีเทพสวรรค์ขวังต้าวจางหายไปเหล่าคนทั้งหลายนี้ก็จะกลับมาวางท่าเหนือหัวคนเหมือนเช่นก่อน

“ฮ่าๆ เด็กน้อย ข้าล่ะประเมินเจ้าต่ำไปจริงๆ ดูท่าเจ้าจะเห็นเรื่องราวแจ่มชัดเสียยิ่งกว่าข้าอีก!” เฉียวหยวนหัวเราะลั่นออกมา

เย่หยวนหรี่ตาลงมองไปยังฝูงชนอีกครั้ง “ข้ารู้ดีว่าในหมู่มนุษย์เองก็ต้องมีเทพสวรรค์ซ่อนตัวอยู่เช่นกัน แต่…ข้าล่ะขอชื่นชมความอดทนของพวกท่านจริงๆ ถึงกลับทนทานมาได้จนป่านนี้ หึๆ คิดว่าจะปล่อยให้เรื่องราวดำเนินไปแล้วฉกฉวยจังหวะในโอกาสสุดท้ายกระมัง?”

คำพูดของเย่หยวนนั้นทำให้เฉียวหยวนหน้าถอดสีไป

พวกเขานั้นย่อมสงสัยว่าทางเผ่ามนุษย์เองก็อาจจะมีเทพสวรรค์แฝงตัวมา แต่ตอนนี้แม้จะมีหินรุ้งเจ็ดสีมาวางตรงหน้าพวกเขาก็ยังไม่คิดจะโผล่หน้าปรากฏตัวออกมา มันทำให้เฉียวหยวนคิดไปแล้วว่าแท้จริงมันอาจจะไม่มีเทพสวรรค์จากฝั่งมนุษย์มา

ไม่นึกว่าแท้จริงแล้วเย่หยวนเองก็จะสงสัยเช่นกันว่าในหมู่มนุษย์นั้นมีเทพสวรรค์แฝงตัวเข้ามาด้วย

เย่หยวนกวาดสายตามองไปด้วยรอยยิ้มบางๆ “ไม่คิดจะตอบหรือ? พวกเจ้ามันคิดว่าข้าโง่งมนักกระมัง คิดจะปล่อยให้ข้าสู้กับเทพสวรรค์ของเผ่าปีศาจให้ตายกันไปข้าง? ขอโทษทีแล้วกัน แม้พวกเจ้าจะอยากหลบเลี่ยงแต่ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าได้หลบเลี่ยงแน่! ผู้อาวุโสขวังต้าว ฟันพวกมันสักที กดดันให้เทพสวรรค์ปรากฏตัวออกมาหน่อย!”

เมื่อเฉียวหยวนได้ยินเขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะลั่น “ฮ่าๆ เด็กน้อย เจ้านั้นมันช่างอำมหิต! ยอดเยี่ยมจริงๆ!”

แต่คำพูดนี้กลับทำให้จีคังและพวกหน้าถอดสีทันที “เย่หยวน เจ้า… เจ้าคิดจะทำอะไร?”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับมาอย่างเย็นเยือก “อย่าว่าข้าเลย คิดจะโทษใครก็ขอให้ไปโทษเหล่าเทพสวรรค์เถอะ! ผู้อาวุโส จัดการ!”

ผีเทพสวรรค์ขวังต้าวพยักหน้ารับพร้อมปล่อยพลังชั่วร้ายออกมาอย่างรุนแรงทำให้เหล่ายอดฝีมือมนุษย์ทั้งหลายต้องมีใบหน้าซีดเซียว

ต่อหน้าผีเทพสวรรค์ขวังต้าวพวกเขานั้นไม่มีกำลังใดๆ ที่จะไปต่อต้านได้เลย มันย่อมไม่ต่างอะไรจากหมูที่ได้แต่นั่งรอถูกเชือด

เมื่อดาบถูกฟันออก มันก็มาพร้อมคลื่นพลังที่บ้าคลั่ง

‘ฟุบ’

ผีเทพสวรรค์ขวังต้าวไม่คิดที่จะลังเลแม้แต่น้อยและฟันดาบออกมาอย่างเต็มแรง

นั่นทำให้เหล่าเทพถ่องแท้ทั้งหลายได้แต่ยืนมองตัวแข็ง ตอนนี้พวกเขาทั้งหลายได้เข้าใจแล้วว่าเย่หยวนนั้นไม่ได้ล้อลเล่นกับพวกเขาจริงๆ

แต่ในเวลานั้นเองที่เกิดมีสองคลื่นพลังปะทุขึ้นมารับดาบนี้ไว้

‘ปัง!’

นั้นทำให้พลังของดาบจางหายและทุกสิ่งอย่างกลับเข้าสู่สภาวะเงียบงัน

คลื่นพลังที่ปะทุขึ้นมาท่ามกลางเหล่ามนุษย์นี้มันไม่ได้อ่อนแอไปกว่าเหล่าเทพสวรรค์ของเผ่าปีศาจเลย

นั่นทำให้เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายต้องหน้าถอดสีไปตามๆ กัน

จีคังหรี่ตาลงทันทีเมื่อต้องมองไปเห็นเงาร่างหนึ่งในสองนั้น “ท่านจ่าวมิน ท่าน… ท่านมาด้วย!”

จ่าวมินมองดูที่จีคังด้วยท่าทางไม่พอใจ “หึ! ยอดเมืองหลวงจักรพรรดิสวรรค์กว้างเราต้องเสียหน้าสิ้นเพราะเจ้า!”

จีคังนั้นแสดงท่าทางอับอายออกมาเพราะการที่เขาถูกเด็กนภาสวรรค์คนหนึ่งกดดันจนถึงขนาดนี้มันย่อมเป็นคำดูถูกที่หนักหนากว่าสิ่งใดๆ ในชีวิต

แต่เขานั้นไม่มีทางเลือก!

นอกจากที่ว่าอีกฝ่ายมีพลังถึงระดับเทพถ่องแท้แล้ว เขายังมีเทพสวรรค์คอยปกป้องอยู่อีกด้วย!

แต่เป็นเทพสวรรค์อีกคนที่พูดขึ้นมา “หึๆ จ่าวมิน เจ้าเองก็อาจจะไม่ได้ดีไปกว่าจีคังหรอก เด็กคนนี้มันไม่ธรรมดา!”

“เลิกไร้สาระได้แล้ว! ตู้หง นี่คือเรื่องภายในยอดเมืองหลวงจักรพรรดิสวรรค์กว้างข้า ไม่เกี่ยวใดๆ กับเจ้า!” จ่าวมินด่ากราดขึ้น

พูดจบจ่าวมินก็หันไปมองดูเย่หยวนด้วยสายตาเย็นเยือก “เด็กน้อย เจ้าเองก็ช่างกล้า ถึงมาท้าทายยอดเมืองหลวงจักรพรรดิสวรรค์กว้างข้าได้! ผลที่ตามมามันย่อมเหนือล้ำกว่าที่เจ้าจะทนรับไหว!”

เย่หยวนมองดูเขาและจู่ๆ ก็ยิ้มออกมา “เจ้าขู่ข้า? ผู้อาวุโสขวังต้าว กำจัดมันให้ข้าที!”

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 1879 กำจัดมันให้ข้า!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 1879 กำจัดมันให้ข้า! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนนี้เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายต่างมีสีหน้าหวาดกลัวอย่างเต็มที่ เพราะพลังปิดกั้นของวังสวรรค์นิรันดร์นี้มันช่างแสนรุนแรง

เฉียวหยวนเองก็ตื่นตกใจไม่น้อยก่อนจะหันมาบอกเทพถ่องแท้อีกคนหนึ่ง “เจ้าไป!”

แต่ครั้งนี้คนที่เขาชี้กลับกลายเป็นหยางอี้เต่า

เมื่อหยางอี้เต่าได้ยินเช่นนั้นสีหน้าของเขาก็ซีดเผือดลงทันที “ทะ…ท่านเทพสวรรค์ เราก็ทดสอบกันไปแล้วมิใช่หรือ?”

เฉียวหยวนหัวเราะขึ้น “ไม่ทดสอบให้มากกว่านี้แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าจุดอ่อนของการปิดกั้นนี้มันอยู่ที่ใด?”

แค่คำพูดเดียวนี้มันก็ทำให้ทุกผู้คนตัวแข็งทื่อ

จีคัง ซัวพานและเหล่ายอดฝีมือเทพถ่องแท้ทั้งหลายต่างแสดงสีหน้าไม่สู้ดีออกมา

เพราะเรื่องราวตรงหน้านี้มันคือหายนะที่เข้ามาหาอย่างไม่เลือกหน้า

หยางอี้เต่านั้นรู้ตัวดีว่าคงไม่มีโอกาสรอด จู่ๆ เขาก็ก้มลงคุกเข่าต่อหน้าเย่หยวน

เขารู้ดีว่าตอนนี้มันคงมีแค่เย่หยวนเท่านั้นที่จะช่วยเขาได้

“นะ…น้องเย่! ดะ…ได้โปรดช่วยข้าด้วย!”

เย่หยวนเองก็มึนงงกับเรื่องราวที่เกิดตรงหน้านี้เช่นกัน เพราะจู่ๆ เทพถ่องแท้เก้าดาวคนหนึ่งกลับก้มหัวให้เขาง่ายๆ อย่างนี้?

เมื่อเหล่าเทพถ่องแท้ทั้งหลายเห็นภาพนี้พวกเขาทั้งหลายก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโศกเศร้าร่วมกันไปด้วย

แต่ตอนนี้เหล่านภาสวรรค์ที่เหลือจำนวนไม่มากแล้วกลับเป็นฝ่ายที่รู้สึกปลอดภัยแทน เพราะต่อให้พวกเขาทั้งหลายจะเข้าไปในวังมันก็คงช่วยพิสูจน์อะไรไม่ได้มากมาย

เมื่อเฉียวหยวนเห็นเช่นนั้นเขาก็หัวเราะลั่นออกมาทันที

“หึๆ หากเจ้ารู้มาแต่แรกว่าจะเป็นเช่นนี้ทำไมก่อนหน้าจึงได้ทำตัวเช่นนั้นเล่า? เขาผู้นี้ได้สมบัติวิญญาณเทพสวรรค์มาด้วยฝีมือความสามารถของตนแต่พวกเจ้ากลับคิดข่มเหงรังแกผู้คน ตอนนี้พอเกิดเรื่องกลับหันหน้าไปขอพึ่งพาคนที่เจ้าคิดข่มแหง หลังจากนี้ไปเจ้าจะไม่หักหลังเขาอีกหรือ? เด็กน้อยเย่หยวน ข้าขอเตือนความจำเจ้าไว้ ผีเทพสวรรค์ขวังต้าวมันคงอยู่บนโลกนี้ได้อีกไม่กี่วันหรอก”

เฉียวหยวนนั้นยิ้มกว้างออกมาไม่กังวลแม้แต่น้อยว่าเย่หยวนจะคิดช่วยหยางอี้เต่า

ระหว่างทางที่พวกเขาเดินทางมาแม้พวกเขาจะเก็บซ่อนพลังไว้แต่เรื่องราวความขัดแย้งที่เย่หยวนพบเจอมันก็ย่อมไม่มีทางหลุดรอดพ้นสายตาไป

ถึงตอนนี้หยางอี้เต่าได้แต่นั่งหน้าดำด้วยความเสียใจ

‘ตุบ!’

‘ตุบ!’

‘ตุบ!’

หยางอี้เต่าตบหน้าตัวเองอย่างรุนแรง “เย่หยวน ข้าทำผิดพลาดไปแล้ว! มันเป็นความผิดของข้าทั้งสิ้น! ข้าไม่ควรถูกความโลภเข้าครอบงำจนคิดแย่งสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์จากเจ้าเลย! แต่… แต่สุดท้ายแล้วพวกเราทั้งหลายก็เป็นมนุษย์เช่นกัน เจ้าคิดจะปล่อยให้มีผู้คนต้องตายลงเพราะน้ำมือของปีศาจอย่างนั้นหรือ?”

“ใช่แล้ว! เย่หยวน ถึงตอนนี้พวกเราทั้งหลายควรร่วมมือกันจัดการศัตรูเผ่าปีศาจให้สิ้นเสียก่อน!”

“ทุกคนนั้นต่างเป็นกำลังหลักของเผ่ามนุษย์ เจ้าจะปล่อยเราตายไปไม่ได้!”

เมื่อได้ยินคำพูดของหยางอี้เต่าเหล่ายอดฝีมือทั้งหลายต่างก็แสดงความเห็นชอบตามๆ กันออกมา พยายามคิดจะใช้กฎหมู่ในการบังคับเย่หยวน

เย่หยวนที่เดิมทียังลังเลไม่น้อยแต่เมื่อหยางอี้เต่าพูดเช่นนั้นออกมา เย่หยวนก็กลับแสดงท่าทีโกรธเคืองขึ้น

“พอ!”

เย่หยวนตะโกนลั่นขัดคำพูดของทุกผู้คนไว้

นั่นทำให้ทุกผู้คนหน้าถอดสี รู้สึกได้ถึงความไม่พอใจของเย่หยวนจากน้ำเสียงนี้ทันที

“หยางอี้เต่า หากเจ้ากลัวตายก็กลัวตายด้วยตัวเอง พยายามบิดเบือนดึงทุกผู้คนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแล้วเจ้าคิดหวังว่าข้าจะใจอ่อนหรือ? หรือเจ้าแค่คิดว่าข้ามันยังเป็นเด็กน้อยไม่รู้จักโลก?” เย่หยวนมองดูหยางอี้เต่าด้วยรอยยิ้มแสนเย็นเยือก

หยางอี้เต่าหน้าซีดเผือดลงทันทีไม่นึกไม่ฝันว่าเย่หยวนจะฉลาดปราดเปรื่องปานนี้

ลูกไม้เล็กๆ ของเขานี้เย่หยวนกลับมองออกจนสิ้น

มันทำให้เขาตื่นตกใจอย่างมากเพราะแค่เด็กน้อยอายุไม่กี่พันปีกลับสามารถเข้าใจเรื่องราวบนโลกมองลูกไม้ผู้คนออกได้อย่างชัดเจน

เฒ่าที่อยู่มานับล้านปีนี้กลับไม่สามารถเล่นลูกไม้ใดๆ ต่อหน้าเด็กคนนี้ได้เลย

“แล้วก็พวกเจ้าทั้งหลาย! เจ้าเพิ่งรู้ตัวว่าตนเป็นมนุษย์หรือ? รู้ว่าเรามีศัตรูร่วมกันและควรจะต่อสู้ไปพร้อมๆ กัน? แล้วที่ผ่านๆ มาพวกเจ้าทำบ้าอะไรกันอยู่? ตอนที่พวกมันทั้งสองนี้ไล่ล่าติดตามข้าไปในถ้ำมีพวกเจ้าตัวไหนไหมที่ออกมาช่วยเหลือ? เดิมทีตอนที่จีคังทั้งหลายคิดข่มเหงรังแกผู้คนมีพวกเจ้าสักตัวไหมที่กล้าลุกขึ้นมาช่วยปกป้องข้า? ตอนนี้กลับมาคิดรักตัวกลัวตาย?”

สายตาของเย่หยวนนั้นเต็มไปด้วยความเย้ยหยันมองผ่านหน้าทุกผู้คนไป

ไม่ว่าเขาจะมองผ่านไปทางใด เหล่าเทพถ่องแท้ที่ต้องสายตานี้เข้าก็ต้องก้มหัวลงทันที

เย่หยวนได้แต่พ่นลมหายใจด้วยความไม่พอใจ คนเหล่านี้อวดอ้างแนวคิดร่วมศัตรูของเผ่าพันธุ์แต่สุดท้ายก็เป็นได้แค่พวกเห็นแก่ตัว

คิดจะยกเรื่องศัตรูร่วมของเผ่าพันธุ์มนุษย์มาแล้วใช้กฎหมู่บังคับผู้คน

ที่เฉียวหยวนพูดมานั้นมันย่อมต้องเกิดขึ้นแน่ ต่อให้เขาจะช่วยเหล่าคนทั้งหลายนี้ผ่านเรื่องราวไป เมื่อใดก็ตามที่ผีเทพสวรรค์ขวังต้าวจางหายไปเหล่าคนทั้งหลายนี้ก็จะกลับมาวางท่าเหนือหัวคนเหมือนเช่นก่อน

“ฮ่าๆ เด็กน้อย ข้าล่ะประเมินเจ้าต่ำไปจริงๆ ดูท่าเจ้าจะเห็นเรื่องราวแจ่มชัดเสียยิ่งกว่าข้าอีก!” เฉียวหยวนหัวเราะลั่นออกมา

เย่หยวนหรี่ตาลงมองไปยังฝูงชนอีกครั้ง “ข้ารู้ดีว่าในหมู่มนุษย์เองก็ต้องมีเทพสวรรค์ซ่อนตัวอยู่เช่นกัน แต่…ข้าล่ะขอชื่นชมความอดทนของพวกท่านจริงๆ ถึงกลับทนทานมาได้จนป่านนี้ หึๆ คิดว่าจะปล่อยให้เรื่องราวดำเนินไปแล้วฉกฉวยจังหวะในโอกาสสุดท้ายกระมัง?”

คำพูดของเย่หยวนนั้นทำให้เฉียวหยวนหน้าถอดสีไป

พวกเขานั้นย่อมสงสัยว่าทางเผ่ามนุษย์เองก็อาจจะมีเทพสวรรค์แฝงตัวมา แต่ตอนนี้แม้จะมีหินรุ้งเจ็ดสีมาวางตรงหน้าพวกเขาก็ยังไม่คิดจะโผล่หน้าปรากฏตัวออกมา มันทำให้เฉียวหยวนคิดไปแล้วว่าแท้จริงมันอาจจะไม่มีเทพสวรรค์จากฝั่งมนุษย์มา

ไม่นึกว่าแท้จริงแล้วเย่หยวนเองก็จะสงสัยเช่นกันว่าในหมู่มนุษย์นั้นมีเทพสวรรค์แฝงตัวเข้ามาด้วย

เย่หยวนกวาดสายตามองไปด้วยรอยยิ้มบางๆ “ไม่คิดจะตอบหรือ? พวกเจ้ามันคิดว่าข้าโง่งมนักกระมัง คิดจะปล่อยให้ข้าสู้กับเทพสวรรค์ของเผ่าปีศาจให้ตายกันไปข้าง? ขอโทษทีแล้วกัน แม้พวกเจ้าจะอยากหลบเลี่ยงแต่ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าได้หลบเลี่ยงแน่! ผู้อาวุโสขวังต้าว ฟันพวกมันสักที กดดันให้เทพสวรรค์ปรากฏตัวออกมาหน่อย!”

เมื่อเฉียวหยวนได้ยินเขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะลั่น “ฮ่าๆ เด็กน้อย เจ้านั้นมันช่างอำมหิต! ยอดเยี่ยมจริงๆ!”

แต่คำพูดนี้กลับทำให้จีคังและพวกหน้าถอดสีทันที “เย่หยวน เจ้า… เจ้าคิดจะทำอะไร?”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับมาอย่างเย็นเยือก “อย่าว่าข้าเลย คิดจะโทษใครก็ขอให้ไปโทษเหล่าเทพสวรรค์เถอะ! ผู้อาวุโส จัดการ!”

ผีเทพสวรรค์ขวังต้าวพยักหน้ารับพร้อมปล่อยพลังชั่วร้ายออกมาอย่างรุนแรงทำให้เหล่ายอดฝีมือมนุษย์ทั้งหลายต้องมีใบหน้าซีดเซียว

ต่อหน้าผีเทพสวรรค์ขวังต้าวพวกเขานั้นไม่มีกำลังใดๆ ที่จะไปต่อต้านได้เลย มันย่อมไม่ต่างอะไรจากหมูที่ได้แต่นั่งรอถูกเชือด

เมื่อดาบถูกฟันออก มันก็มาพร้อมคลื่นพลังที่บ้าคลั่ง

‘ฟุบ’

ผีเทพสวรรค์ขวังต้าวไม่คิดที่จะลังเลแม้แต่น้อยและฟันดาบออกมาอย่างเต็มแรง

นั่นทำให้เหล่าเทพถ่องแท้ทั้งหลายได้แต่ยืนมองตัวแข็ง ตอนนี้พวกเขาทั้งหลายได้เข้าใจแล้วว่าเย่หยวนนั้นไม่ได้ล้อลเล่นกับพวกเขาจริงๆ

แต่ในเวลานั้นเองที่เกิดมีสองคลื่นพลังปะทุขึ้นมารับดาบนี้ไว้

‘ปัง!’

นั้นทำให้พลังของดาบจางหายและทุกสิ่งอย่างกลับเข้าสู่สภาวะเงียบงัน

คลื่นพลังที่ปะทุขึ้นมาท่ามกลางเหล่ามนุษย์นี้มันไม่ได้อ่อนแอไปกว่าเหล่าเทพสวรรค์ของเผ่าปีศาจเลย

นั่นทำให้เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายต้องหน้าถอดสีไปตามๆ กัน

จีคังหรี่ตาลงทันทีเมื่อต้องมองไปเห็นเงาร่างหนึ่งในสองนั้น “ท่านจ่าวมิน ท่าน… ท่านมาด้วย!”

จ่าวมินมองดูที่จีคังด้วยท่าทางไม่พอใจ “หึ! ยอดเมืองหลวงจักรพรรดิสวรรค์กว้างเราต้องเสียหน้าสิ้นเพราะเจ้า!”

จีคังนั้นแสดงท่าทางอับอายออกมาเพราะการที่เขาถูกเด็กนภาสวรรค์คนหนึ่งกดดันจนถึงขนาดนี้มันย่อมเป็นคำดูถูกที่หนักหนากว่าสิ่งใดๆ ในชีวิต

แต่เขานั้นไม่มีทางเลือก!

นอกจากที่ว่าอีกฝ่ายมีพลังถึงระดับเทพถ่องแท้แล้ว เขายังมีเทพสวรรค์คอยปกป้องอยู่อีกด้วย!

แต่เป็นเทพสวรรค์อีกคนที่พูดขึ้นมา “หึๆ จ่าวมิน เจ้าเองก็อาจจะไม่ได้ดีไปกว่าจีคังหรอก เด็กคนนี้มันไม่ธรรมดา!”

“เลิกไร้สาระได้แล้ว! ตู้หง นี่คือเรื่องภายในยอดเมืองหลวงจักรพรรดิสวรรค์กว้างข้า ไม่เกี่ยวใดๆ กับเจ้า!” จ่าวมินด่ากราดขึ้น

พูดจบจ่าวมินก็หันไปมองดูเย่หยวนด้วยสายตาเย็นเยือก “เด็กน้อย เจ้าเองก็ช่างกล้า ถึงมาท้าทายยอดเมืองหลวงจักรพรรดิสวรรค์กว้างข้าได้! ผลที่ตามมามันย่อมเหนือล้ำกว่าที่เจ้าจะทนรับไหว!”

เย่หยวนมองดูเขาและจู่ๆ ก็ยิ้มออกมา “เจ้าขู่ข้า? ผู้อาวุโสขวังต้าว กำจัดมันให้ข้าที!”

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+