Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 1911 หรงซีเยว่

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 1911 หรงซีเยว่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เมื่อได้โอสถฟ้าตะวันจันทราขั้นเทวะไปหยูชางหยุนก็รู้สึกพึงพอใจอย่างมาก

เย่หยวนนั้นสามารถหลอมได้ถึงขั้นเทวะวิญญาณไพศาล แต่กับจวนเจ้าเมืองแล้วเขาย่อมไม่คิดจะลงมืออย่างสุดตัว

แต่ทว่าแค่ขั้นเทวะม่วงมันก็เป็นสุดยอดโอสถแล้ว

อย่าว่าแต่เมืองหลวงจักรพรรดิเก้ามั่น แม้แต่ในยอดเมืองหลวงจักรพรรดิมันก็คงมีนักหลอมโอสถที่มีฝีมือถึงขนาดนั้นแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่จะสามารถหลอมโอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะได้

แน่นอนว่าทางจวนเจ้าเมืองก็ต้องจ่ายออกมาอย่างงามเพื่อแลกมัน

หยูชางหยุนเพิ่งเดินพ้นเขตเมืองไปทางเจ้าตึกลมไหล หลี่ซืออานก็ได้มาถึงเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์พร้อมด้วยผู้ติดตาม

พวกเขานั้นแน่นอนว่าต้องมาเพื่อขอโอสถด้วยเช่นกัน

เย่หยวนนั้นไม่ค่อยจะชอบสำนักอากาศแจ่มมาแต่เดิม แต่แน่นอนว่าเขาย่อมจะไม่ปล่อยโอกาสไถเงินมากมายเช่นนี้ออกไป

เพราะสิ่งที่สิบเมืองสันเขาใต้ขาดแคลนมากที่สุดในตอนนี้มันก็คือทรัพยากรบ่มเพาะและสมุนไพรต่างๆ

เย่หยวนนั้นไม่อาจจะอยู่ในเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์เพื่อปกป้องคนทั้งหลายได้อีกต่อไป เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วการทำให้คนทั้งหลายนี้แข็งแกร่งขึ้นจนปกป้องตัวจากใครก็ตามที่จะมาทำร้ายพวกเขาได้มันจึงดีกว่า

และเมื่อจัดการตกลงใดๆ กับพวกหลี่ซืออานได้แล้วทางคนของหอยอดดอกก็ได้ตามมาด้วย

แต่คราวนี้มันแตกต่างจากสองพวกก่อนเพราะหอยอดดอกนี้ส่งคนมาเพียงผู้เดียว

คนผู้นั้นก็คือหรงซีเยว่

เมื่อเห็นนางสุดงามผู้นี้มายืนต่อหน้า แม้แต่เย่หยวนก็ยังรู้สึกแทบลืมหายใจ

“ช-ช่างสวยงามนัก!” ดวงตาของหนิงเทียนปิงทั้งสองข้างที่ยืนอยู่ข้างกายเย่หยวนนั้นแทบพุ่งทะลุออกจากเบ้า

หรงซีเยว่นั้นยิ้มออกมาอ่อนๆ ก่อนจะก้มหัวให้เย่หยวน

“คนบาปหรงซีเยว่ขอคารวะท่านผู้ตรวจการ!”

รอยยิ้มนั้นของนางมันทำให้ใจลอยและสดชื่นขึ้นในทันที ร่างกายของหนิงเทียนปิงในเวลานี้แทบจะละลายลงไปเป็นของเหลว

เย่หยวนยิ้มขึ้นอย่างเย็นชา “บาปใดกันเล่า?”

หรงซีเยว่นั้นตื่นตกใจไม่น้อยเพราะตอนนี้นางได้รู้แล้วว่าตนนั้นดูถูกเย่หยวนจนเกินไป

ความงามของหญิงสาวนั้นมันเป็นเครื่องมือจัดการผู้ชายอย่างดี

หรงซีเยว่นั้นมั่นใจในใบหน้ารูปร่างของตนอย่างมาก แค่ขยิบตายิ้มให้มันก็มากพอจะทำให้ผู้ชายกลายเป็นบ้าได้

ตอนที่หวู่เทียนเห็นหรงซีเยว่ทั้งร่างของเขาก็ล่องลอยจนโงหัวจากนางไม่ขึ้น

แต่เย่หยวนนั้นกลับแค่ตื่นตกใจเล็กน้อยก่อนจะกลับสู่สภาวะปกติอย่างรวดเร็ว

“หรงซีเยว่นั้นเป็นต้นเหตุทำให้หวู่เทียนนั้นมาสร้างเรื่องจนเกือบเป็นหายนะแก่เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์” หรงซีเยว่กล่าวขึ้นมาด้วยท่าทางสำนึกผิด

แต่เย่หยวนเองก็กำลังตื่นตกใจอยู่ไม่น้อยเช่นกันเพราะวิชาการยั่วยวนของนางนั้นสุดแสนจะเหนือล้ำ

หากไม่ใช่เพราะไข่มุกสยบวิญญาณแล้วเย่หยวนเองก็คงไม่มีทางกลับมาตั้งสติได้อย่างรวดเร็วภายในวินาทีเช่นนี้แน่

ศาสตร์แห่งการยั่วยวนเช่นนี้มันสุดแสนจะเหนือล้ำแต่เย่หยวนกลับไม่พบว่าในการยั่วยวนของนางนี้มีอะไรที่แปลกปลอมเสริมเข้ามาเลย

ไม่มีการหว่านเสน่ห์ ไม่มีการหลอกล้อแต่กลับทำให้คลื่นฉีปั่นป่วนได้ด้วยแค่ตัวนางคงอยู่ตรงนั้นราวกับว่าเป็นนางฟ้านางสวรรค์ที่ลงมายังโลกเบื้องล่าง

ไม่เช่นนั้นแล้วมีหรือที่หนิงเทียนปิงจะพ่ายแพ้ลงอย่างง่ายดายเช่นนี้ เขาคนนี้ฝึกฝนกับเย่หยวนมานานแน่นอนว่าย่อมมีสติและความคิดที่มั่นคง แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นมันก็ยังไม่พอ

เมื่อได้เห็นหรงซีเยว่ เย่หยวนย่อมเข้าใจได้ทันทีว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับหวู่เทียน

“เกือบเป็นหายนะ? หรงซีเยว่ เจ้าจะบอกว่าตัวเองไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องของเจียงยู่ถังเลยอย่างนั้นหรือ!” เย่หยวนเย้ยออกมาด้วยสายตาที่คมกริบ

แต่หรงซีเยว่นั้นยังคงปั้นหน้าตาไม่รู้เรื่องออกมา “ซีเยว่ไม่เข้าใจ”

เย่หยวนตอบออกมา “เจ้าคงไม่คิดว่าข้าไม่กล้าทำลายประถางดอกไม้สวยๆ หรอกใช่หรือไม่? วิชาการยั่วยวนของเจ้านั้นมันเหนือล้ำ แต่คนอย่างเจ้ามันยังไม่พอผ่านมาตรฐานของข้าหรอก!”

เคร้ง!

เย่หยวนนั้นยังพูดไม่ทันขาดคำเขาก็ชักดาบฝ่าน้ำค้างแข็งออกมาและในวินาทีที่มันปรากฏ มันก็พุ่งเป้าเข้าไปหาหรงซีเยว่ทันที

หนิงเทียนปิงนั้นยังไม่ทันกลับมาตั้งสติและร้องออกมา “นายท่านคิดทำอะไรของท่าน?”

หรงซีเยว่หน้าถอดสีทันทีคิดอยากจะหลบแต่ก็ได้รู้ตัวว่าตอนนี้ไม่อาจจะหลบไปที่ไหนได้แล้ว

เพราะดาบนี้มันรุนแรงและรวดเร็ว!

หรงซีเยว่นั้นมีพลังความสามารถที่เหนือล้ำ แต่นางนั้นก็เป็นได้แค่นภาสวรรค์เจ็ดดาวผู้หนึ่งย่อมไม่อาจจะต้านทานเย่หยวนได้

ในวินาทีต่อมาดาบของเย่หยวนก็ได้จ่อไปที่คอของนางแล้ว

“นายท่านอย่า!” หนิงเทียนปิงร้องตะโกน

ดูท่าแล้วเขาคงตกอยู่ในกำมือของนางอย่างสิ้นเชิง

แต่ในวินาทีนั้นเองที่จู่ๆ ก็มีพลังสายหนึ่งไหลเข้ามาในความคิดของเขา

นั่นทำให้หนิงเทียนปิงร่างสั่นสะท้านกลับมามีสติได้ในทันที

“นี่มัน… เกิดอะไรขึ้นกับข้า?”

ได้เห็นเช่นนั้นหรงซีเยว่ก็เบิกตากว้างเพราะนางได้รู้แล้วว่าตนมาเจอเข้ากับยอดฝีมือแล้วจริงๆ

เย่หยวนนั้นมีความเข้าใจในทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ที่เหนือล้ำ

เมื่อสัมผัสได้ถึงความเย็นของปลายดาบที่จ่อคอ หรงซีเยว่ก็รู้สึกราวกับว่าได้เจอเทพแห่งความตายอยู่ตรงหน้า

“ข้าไม่สนหรอกว่าหอยอดดอกเจ้าจะมีแผนใด แต่พวกเจ้านั้นไม่ควรมาท้าทายข้า เมื่อเจ้ากล้าจะท้าทายข้าก็หวังว่าเจ้าจะรู้ถึงผลที่ตามมาดี!”

หรงซีเยว่หน้าซีดเผือดลงทันที ตอนนี้นางไม่คิดว่าตัวเองจะสามารถมีโชคใดๆ ได้อีกแล้วจึงกล่าวขึ้นด้วยท่าทางสั่นๆ “ท่านผู้ตรวจการ ข้าขออภัยที่เสียมารยาท ซีเยว่… ซีเยว่ผู้นี้แค่คิดใช้หยูจินซงเพื่อกลืนกินพื้นที่ของจวนเจ้าเมืองและสำนักอากาศแจ่ม แต่ไม่นึกไม่ฝันว่ามันจะทำเรื่องเลวร้ายได้ถึงขนาดนั้น”

เย่หยวนมองดูที่ใบหน้าของนาง “หากเจ้าเป็นคนสั่งการอยู่เบื้องหลังจริงตอนนี้เจ้าคงไม่ได้หายใจอยู่แล้ว!”

หยูจินซงเริ่มคิดลงมือเพราะหรงซีเยว่ นี่เป็นเรื่องที่แน่นอน

แต่เย่หยวนเองก็รู้ด้วยว่าหยูจินซงไม่ได้ถูกหรงซีเยว่ควบคุมด้วยศาสตร์การยั่วยวนอย่างสมบูรณ์ หรือก็คือเขาไม่ได้ทำการใดๆ ตามสั่งของหรงซีเยว่

การแย่งชิงอำนาจของสามขั้วนั้นทำให้เจียงยู่ถังถูกใส่ร้ายและแม้เย่หยวนจะไม่พอใจในการกระทำนั้นเขาก็ยังพอเข้าใจได้

แต่เรื่องของเจียงไห่ถังนั้นมันทำให้เย่หยวนโกรธแค้นอย่างมาก

เพราะฉะนั้นไม่ว่าหยูจินซงจะทำอะไรเขาก็ย่อมไม่อาจจะรอดพ้นผลกรรมไปได้

ต่อให้หยูเหวินเฟิงจะไม่ส่งตัวเขามา เย่หยวนก็ย่อมจะเข้าไปเรียกร้องความยุติธรรมในวันหน้าแน่

หรงซีเยว่หน้าซีดเผือดกล่าวขึ้นอย่างเกรงกลัว “ซีเยว่รู้ดีว่าตัวเองผิดไป ท่านโปรดพิจารณาโทษเถิด”

ทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นต่อหน้านางนี้เป็นสิ่งที่แตกต่างจากที่นางคาดคิดไว้

ไม่ว่าเย่หยวนจะเก่งกาจเพียงใดเขาเองก็เป็นเพียงแค่นักยุทธนภาสวรรค์ผู้หนึ่ง นางย่อมคิดว่าการยั่วยวนของนางนั้นมันจะสามารถทำให้นางรอดพ้นภัยหรืออาจจะได้โอสถมาฟรีๆ ได้

นางย่อมไม่โง่พอจะใช้วิชาใดๆ ออกมาต่อเย่หยวนแต่แค่การหลอกล่อให้เย่หยวนเปลี่ยนแปลงมุมความคิดเล็กๆ น้อยๆ นางย่อมคิดว่าจะสามารถทำได้

เหมือนตอนที่นางจัดการกับหยูจินซงเมื่อตอนนั้น

แต่ตอนนี้นางได้รู้แล้วว่าตัวเองคิดผิดไปแค่ไหน

เพราะแค่พลาดไปสักนิดชีวิตของนางนี้คงสิ้น

หรงซีเยว่นั้นเลิกคิดจะใช้ความสวยงามใดๆ เอาตัวรอดและเพียงแค่ยอมไหลไปตามโชคชะตา

เย่หยวนเก็บดาบลงก่อนจะกล่าวขึ้น “เจ้าเองก็คงมาเพื่อโอสถ?”

หรงซีเยว่กล่าวขึ้นด้วยเสียงเบาบาง “นายท่านเฉียบคมนัก!”

เย่หยวนบอก “ก็มิใช่ว่าข้าจะไม่หลอมโอสถให้ แต่พวกเจ้าต้องจ่ายค่าโอสถมามากกว่าขั้วอำนาจอื่นๆ ห้าเท่า!”

หรงซีเยว่ตื่นตกใจขึ้นในทันทีและพยายามจะพูดต่อรองออกมา แต่เย่หยวนกลับขัดขึ้นเสียก่อน “อย่ามาพูดจาไร้สาระอีก! เรื่องนี้ไม่ใช่การต่อรอง! ไม่ยอมจ่ายก็กลับไป! หากเป็นเช่นนั้นในวันหน้าเมืองสันเขาใต้ข้าย่อมจะไม่ทำธุรกิจใดๆ กับหอยอดดอกเจ้า”

เมื่อหรงซีเยว่ได้ยินเช่นนั้นนางก็กัดริมฝีปากและก้มหัวลง “เย่หยวน ข้าน้อยผู้นี้ไม่อาจตัดสินใจเองได้ ข้าน้อยขอตัวกลับไปปรึกษากับทางเบื้องบนได้หรือไม่?”

เย่หยวนโบกมือขึ้น “ไปเถอะ เจ้าทำตัวให้ดี ไม่เช่นนั้นแล้วเจ้าจะได้รู้ผลที่ตามมา!”

หรงซีเยว่นั้นมีศาสตร์การยั่วยวนที่แข็งแกร่ง หากไม่เตือนนางไว้เสียหน่อยแล้วนางอาจจะไปทำเรื่องราวใดๆ ขึ้นมาได้อีก

หลังจากหรงซีเยว่จากไปหนิงเทียนปิงก็กล่าวขึ้นด้วยท่าทางสั่นกลัว “นายท่าน นี่มัน… ผู้หญิงคนนี้ช่างน่ากลัวนัก!”

เย่หยวนพยักหน้าออกมา “นางนั้นมีเสน่ห์ยั่วยวนติดตัวแต่เกิด ไม่มีข้อบกพร่องใดๆ ให้เห็นได้เลย แถมจิตศักดิ์สิทธิ์ของนางเองก็ยังเหนือล้ำกว่านักยุทธคนอื่นๆ ในระดับเดียวกันอย่างมาก ช่างรับมือได้ยากยิ่ง!”

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 1911 หรงซีเยว่

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 1911 หรงซีเยว่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เมื่อได้โอสถฟ้าตะวันจันทราขั้นเทวะไปหยูชางหยุนก็รู้สึกพึงพอใจอย่างมาก

เย่หยวนนั้นสามารถหลอมได้ถึงขั้นเทวะวิญญาณไพศาล แต่กับจวนเจ้าเมืองแล้วเขาย่อมไม่คิดจะลงมืออย่างสุดตัว

แต่ทว่าแค่ขั้นเทวะม่วงมันก็เป็นสุดยอดโอสถแล้ว

อย่าว่าแต่เมืองหลวงจักรพรรดิเก้ามั่น แม้แต่ในยอดเมืองหลวงจักรพรรดิมันก็คงมีนักหลอมโอสถที่มีฝีมือถึงขนาดนั้นแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่จะสามารถหลอมโอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะได้

แน่นอนว่าทางจวนเจ้าเมืองก็ต้องจ่ายออกมาอย่างงามเพื่อแลกมัน

หยูชางหยุนเพิ่งเดินพ้นเขตเมืองไปทางเจ้าตึกลมไหล หลี่ซืออานก็ได้มาถึงเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์พร้อมด้วยผู้ติดตาม

พวกเขานั้นแน่นอนว่าต้องมาเพื่อขอโอสถด้วยเช่นกัน

เย่หยวนนั้นไม่ค่อยจะชอบสำนักอากาศแจ่มมาแต่เดิม แต่แน่นอนว่าเขาย่อมจะไม่ปล่อยโอกาสไถเงินมากมายเช่นนี้ออกไป

เพราะสิ่งที่สิบเมืองสันเขาใต้ขาดแคลนมากที่สุดในตอนนี้มันก็คือทรัพยากรบ่มเพาะและสมุนไพรต่างๆ

เย่หยวนนั้นไม่อาจจะอยู่ในเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์เพื่อปกป้องคนทั้งหลายได้อีกต่อไป เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วการทำให้คนทั้งหลายนี้แข็งแกร่งขึ้นจนปกป้องตัวจากใครก็ตามที่จะมาทำร้ายพวกเขาได้มันจึงดีกว่า

และเมื่อจัดการตกลงใดๆ กับพวกหลี่ซืออานได้แล้วทางคนของหอยอดดอกก็ได้ตามมาด้วย

แต่คราวนี้มันแตกต่างจากสองพวกก่อนเพราะหอยอดดอกนี้ส่งคนมาเพียงผู้เดียว

คนผู้นั้นก็คือหรงซีเยว่

เมื่อเห็นนางสุดงามผู้นี้มายืนต่อหน้า แม้แต่เย่หยวนก็ยังรู้สึกแทบลืมหายใจ

“ช-ช่างสวยงามนัก!” ดวงตาของหนิงเทียนปิงทั้งสองข้างที่ยืนอยู่ข้างกายเย่หยวนนั้นแทบพุ่งทะลุออกจากเบ้า

หรงซีเยว่นั้นยิ้มออกมาอ่อนๆ ก่อนจะก้มหัวให้เย่หยวน

“คนบาปหรงซีเยว่ขอคารวะท่านผู้ตรวจการ!”

รอยยิ้มนั้นของนางมันทำให้ใจลอยและสดชื่นขึ้นในทันที ร่างกายของหนิงเทียนปิงในเวลานี้แทบจะละลายลงไปเป็นของเหลว

เย่หยวนยิ้มขึ้นอย่างเย็นชา “บาปใดกันเล่า?”

หรงซีเยว่นั้นตื่นตกใจไม่น้อยเพราะตอนนี้นางได้รู้แล้วว่าตนนั้นดูถูกเย่หยวนจนเกินไป

ความงามของหญิงสาวนั้นมันเป็นเครื่องมือจัดการผู้ชายอย่างดี

หรงซีเยว่นั้นมั่นใจในใบหน้ารูปร่างของตนอย่างมาก แค่ขยิบตายิ้มให้มันก็มากพอจะทำให้ผู้ชายกลายเป็นบ้าได้

ตอนที่หวู่เทียนเห็นหรงซีเยว่ทั้งร่างของเขาก็ล่องลอยจนโงหัวจากนางไม่ขึ้น

แต่เย่หยวนนั้นกลับแค่ตื่นตกใจเล็กน้อยก่อนจะกลับสู่สภาวะปกติอย่างรวดเร็ว

“หรงซีเยว่นั้นเป็นต้นเหตุทำให้หวู่เทียนนั้นมาสร้างเรื่องจนเกือบเป็นหายนะแก่เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์” หรงซีเยว่กล่าวขึ้นมาด้วยท่าทางสำนึกผิด

แต่เย่หยวนเองก็กำลังตื่นตกใจอยู่ไม่น้อยเช่นกันเพราะวิชาการยั่วยวนของนางนั้นสุดแสนจะเหนือล้ำ

หากไม่ใช่เพราะไข่มุกสยบวิญญาณแล้วเย่หยวนเองก็คงไม่มีทางกลับมาตั้งสติได้อย่างรวดเร็วภายในวินาทีเช่นนี้แน่

ศาสตร์แห่งการยั่วยวนเช่นนี้มันสุดแสนจะเหนือล้ำแต่เย่หยวนกลับไม่พบว่าในการยั่วยวนของนางนี้มีอะไรที่แปลกปลอมเสริมเข้ามาเลย

ไม่มีการหว่านเสน่ห์ ไม่มีการหลอกล้อแต่กลับทำให้คลื่นฉีปั่นป่วนได้ด้วยแค่ตัวนางคงอยู่ตรงนั้นราวกับว่าเป็นนางฟ้านางสวรรค์ที่ลงมายังโลกเบื้องล่าง

ไม่เช่นนั้นแล้วมีหรือที่หนิงเทียนปิงจะพ่ายแพ้ลงอย่างง่ายดายเช่นนี้ เขาคนนี้ฝึกฝนกับเย่หยวนมานานแน่นอนว่าย่อมมีสติและความคิดที่มั่นคง แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นมันก็ยังไม่พอ

เมื่อได้เห็นหรงซีเยว่ เย่หยวนย่อมเข้าใจได้ทันทีว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับหวู่เทียน

“เกือบเป็นหายนะ? หรงซีเยว่ เจ้าจะบอกว่าตัวเองไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องของเจียงยู่ถังเลยอย่างนั้นหรือ!” เย่หยวนเย้ยออกมาด้วยสายตาที่คมกริบ

แต่หรงซีเยว่นั้นยังคงปั้นหน้าตาไม่รู้เรื่องออกมา “ซีเยว่ไม่เข้าใจ”

เย่หยวนตอบออกมา “เจ้าคงไม่คิดว่าข้าไม่กล้าทำลายประถางดอกไม้สวยๆ หรอกใช่หรือไม่? วิชาการยั่วยวนของเจ้านั้นมันเหนือล้ำ แต่คนอย่างเจ้ามันยังไม่พอผ่านมาตรฐานของข้าหรอก!”

เคร้ง!

เย่หยวนนั้นยังพูดไม่ทันขาดคำเขาก็ชักดาบฝ่าน้ำค้างแข็งออกมาและในวินาทีที่มันปรากฏ มันก็พุ่งเป้าเข้าไปหาหรงซีเยว่ทันที

หนิงเทียนปิงนั้นยังไม่ทันกลับมาตั้งสติและร้องออกมา “นายท่านคิดทำอะไรของท่าน?”

หรงซีเยว่หน้าถอดสีทันทีคิดอยากจะหลบแต่ก็ได้รู้ตัวว่าตอนนี้ไม่อาจจะหลบไปที่ไหนได้แล้ว

เพราะดาบนี้มันรุนแรงและรวดเร็ว!

หรงซีเยว่นั้นมีพลังความสามารถที่เหนือล้ำ แต่นางนั้นก็เป็นได้แค่นภาสวรรค์เจ็ดดาวผู้หนึ่งย่อมไม่อาจจะต้านทานเย่หยวนได้

ในวินาทีต่อมาดาบของเย่หยวนก็ได้จ่อไปที่คอของนางแล้ว

“นายท่านอย่า!” หนิงเทียนปิงร้องตะโกน

ดูท่าแล้วเขาคงตกอยู่ในกำมือของนางอย่างสิ้นเชิง

แต่ในวินาทีนั้นเองที่จู่ๆ ก็มีพลังสายหนึ่งไหลเข้ามาในความคิดของเขา

นั่นทำให้หนิงเทียนปิงร่างสั่นสะท้านกลับมามีสติได้ในทันที

“นี่มัน… เกิดอะไรขึ้นกับข้า?”

ได้เห็นเช่นนั้นหรงซีเยว่ก็เบิกตากว้างเพราะนางได้รู้แล้วว่าตนมาเจอเข้ากับยอดฝีมือแล้วจริงๆ

เย่หยวนนั้นมีความเข้าใจในทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ที่เหนือล้ำ

เมื่อสัมผัสได้ถึงความเย็นของปลายดาบที่จ่อคอ หรงซีเยว่ก็รู้สึกราวกับว่าได้เจอเทพแห่งความตายอยู่ตรงหน้า

“ข้าไม่สนหรอกว่าหอยอดดอกเจ้าจะมีแผนใด แต่พวกเจ้านั้นไม่ควรมาท้าทายข้า เมื่อเจ้ากล้าจะท้าทายข้าก็หวังว่าเจ้าจะรู้ถึงผลที่ตามมาดี!”

หรงซีเยว่หน้าซีดเผือดลงทันที ตอนนี้นางไม่คิดว่าตัวเองจะสามารถมีโชคใดๆ ได้อีกแล้วจึงกล่าวขึ้นด้วยท่าทางสั่นๆ “ท่านผู้ตรวจการ ข้าขออภัยที่เสียมารยาท ซีเยว่… ซีเยว่ผู้นี้แค่คิดใช้หยูจินซงเพื่อกลืนกินพื้นที่ของจวนเจ้าเมืองและสำนักอากาศแจ่ม แต่ไม่นึกไม่ฝันว่ามันจะทำเรื่องเลวร้ายได้ถึงขนาดนั้น”

เย่หยวนมองดูที่ใบหน้าของนาง “หากเจ้าเป็นคนสั่งการอยู่เบื้องหลังจริงตอนนี้เจ้าคงไม่ได้หายใจอยู่แล้ว!”

หยูจินซงเริ่มคิดลงมือเพราะหรงซีเยว่ นี่เป็นเรื่องที่แน่นอน

แต่เย่หยวนเองก็รู้ด้วยว่าหยูจินซงไม่ได้ถูกหรงซีเยว่ควบคุมด้วยศาสตร์การยั่วยวนอย่างสมบูรณ์ หรือก็คือเขาไม่ได้ทำการใดๆ ตามสั่งของหรงซีเยว่

การแย่งชิงอำนาจของสามขั้วนั้นทำให้เจียงยู่ถังถูกใส่ร้ายและแม้เย่หยวนจะไม่พอใจในการกระทำนั้นเขาก็ยังพอเข้าใจได้

แต่เรื่องของเจียงไห่ถังนั้นมันทำให้เย่หยวนโกรธแค้นอย่างมาก

เพราะฉะนั้นไม่ว่าหยูจินซงจะทำอะไรเขาก็ย่อมไม่อาจจะรอดพ้นผลกรรมไปได้

ต่อให้หยูเหวินเฟิงจะไม่ส่งตัวเขามา เย่หยวนก็ย่อมจะเข้าไปเรียกร้องความยุติธรรมในวันหน้าแน่

หรงซีเยว่หน้าซีดเผือดกล่าวขึ้นอย่างเกรงกลัว “ซีเยว่รู้ดีว่าตัวเองผิดไป ท่านโปรดพิจารณาโทษเถิด”

ทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นต่อหน้านางนี้เป็นสิ่งที่แตกต่างจากที่นางคาดคิดไว้

ไม่ว่าเย่หยวนจะเก่งกาจเพียงใดเขาเองก็เป็นเพียงแค่นักยุทธนภาสวรรค์ผู้หนึ่ง นางย่อมคิดว่าการยั่วยวนของนางนั้นมันจะสามารถทำให้นางรอดพ้นภัยหรืออาจจะได้โอสถมาฟรีๆ ได้

นางย่อมไม่โง่พอจะใช้วิชาใดๆ ออกมาต่อเย่หยวนแต่แค่การหลอกล่อให้เย่หยวนเปลี่ยนแปลงมุมความคิดเล็กๆ น้อยๆ นางย่อมคิดว่าจะสามารถทำได้

เหมือนตอนที่นางจัดการกับหยูจินซงเมื่อตอนนั้น

แต่ตอนนี้นางได้รู้แล้วว่าตัวเองคิดผิดไปแค่ไหน

เพราะแค่พลาดไปสักนิดชีวิตของนางนี้คงสิ้น

หรงซีเยว่นั้นเลิกคิดจะใช้ความสวยงามใดๆ เอาตัวรอดและเพียงแค่ยอมไหลไปตามโชคชะตา

เย่หยวนเก็บดาบลงก่อนจะกล่าวขึ้น “เจ้าเองก็คงมาเพื่อโอสถ?”

หรงซีเยว่กล่าวขึ้นด้วยเสียงเบาบาง “นายท่านเฉียบคมนัก!”

เย่หยวนบอก “ก็มิใช่ว่าข้าจะไม่หลอมโอสถให้ แต่พวกเจ้าต้องจ่ายค่าโอสถมามากกว่าขั้วอำนาจอื่นๆ ห้าเท่า!”

หรงซีเยว่ตื่นตกใจขึ้นในทันทีและพยายามจะพูดต่อรองออกมา แต่เย่หยวนกลับขัดขึ้นเสียก่อน “อย่ามาพูดจาไร้สาระอีก! เรื่องนี้ไม่ใช่การต่อรอง! ไม่ยอมจ่ายก็กลับไป! หากเป็นเช่นนั้นในวันหน้าเมืองสันเขาใต้ข้าย่อมจะไม่ทำธุรกิจใดๆ กับหอยอดดอกเจ้า”

เมื่อหรงซีเยว่ได้ยินเช่นนั้นนางก็กัดริมฝีปากและก้มหัวลง “เย่หยวน ข้าน้อยผู้นี้ไม่อาจตัดสินใจเองได้ ข้าน้อยขอตัวกลับไปปรึกษากับทางเบื้องบนได้หรือไม่?”

เย่หยวนโบกมือขึ้น “ไปเถอะ เจ้าทำตัวให้ดี ไม่เช่นนั้นแล้วเจ้าจะได้รู้ผลที่ตามมา!”

หรงซีเยว่นั้นมีศาสตร์การยั่วยวนที่แข็งแกร่ง หากไม่เตือนนางไว้เสียหน่อยแล้วนางอาจจะไปทำเรื่องราวใดๆ ขึ้นมาได้อีก

หลังจากหรงซีเยว่จากไปหนิงเทียนปิงก็กล่าวขึ้นด้วยท่าทางสั่นกลัว “นายท่าน นี่มัน… ผู้หญิงคนนี้ช่างน่ากลัวนัก!”

เย่หยวนพยักหน้าออกมา “นางนั้นมีเสน่ห์ยั่วยวนติดตัวแต่เกิด ไม่มีข้อบกพร่องใดๆ ให้เห็นได้เลย แถมจิตศักดิ์สิทธิ์ของนางเองก็ยังเหนือล้ำกว่านักยุทธคนอื่นๆ ในระดับเดียวกันอย่างมาก ช่างรับมือได้ยากยิ่ง!”

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+