Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 1920 โอสถอันยากเย็น

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 1920 โอสถอันยากเย็น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ได้ยินคำของเย่หยวนนี้เซินชางก็แสดงสีหน้าเสียดายออกมา

ยอดนักหลอมโอสถที่สามารถหลอมโอสถฟื้นหทัยหยกประณีตได้ถึงขั้นนี้มันย่อมต้องเป็นยอดคนแห่งยุคแน่นอน

เมื่อขึ้นมาถึงระดับนี้แล้วการที่จะได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับยอดนักหลอมโอสถคนอื่นๆ นั้นมันย่อมมีค่ากว่าการได้กิเลนดินนี้ไปอย่างมากมาย

เซินชางมองดูเย่หยวนก่อนจะพยักหน้าออกมา “เด็กน้อย เจ้าติดตามคนยิ่งใหญ่เช่นนั้นเจ้าต้องบ่มเพาะให้ดี! แค่ได้เรียนรู้แค่สิบหรือยี่สิบจากที่เขามีทั้งหมดมันก็จะเป็นประโยชน์แก่เจ้าไปทั้งชีวิตแล้ว”

เพราะท่าทางยอมรับผิดของเย่หยวนนี้มันทำให้มุมมองของเขาต่อเย่หยวนดีขึ้นมาก

เพราะการสารภาพผิดนั้นจะได้ลดโทษกึ่งหนึ่ง

เพียงแค่ว่าสายตาของเขาในตอนนี้ไม่ได้มองดูที่หนิงเทียนปิงและไป๋เฉินที่ด้านหลังเย่หยวนเลย

เย่หยวนยิ้มออกมาเมื่อได้ยินเช่นนั้น “ขอรับ ผู้เยาว์จะตั้งใจขึ้นจากวันนี้ไป เช่นนั้นแล้ว…ผู้เยาว์ขอตัวนำกิเลนดินนี้ไปได้หรือยัง?”

มุมปากของเซินชางกระตุกขึ้นมานิดหน่อยก่อนจะยกมือขึ้นโบกปัดแสดงท่าบอกให้เย่หยวนเอามันไป

กิเลนดินนี้มันแสนล้ำค่า แม้จะมีเงินมากมายก็ใช่จะซื้อได้

หากไม่ได้ครานี้แล้วเขาเองก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่จะได้พบได้เจอมันอีก

เย่หยวนจึงย่อมไม่คิดเกรงใจรีบเก็บกิเลนดินลงไปทันที

“เด็กน้อย ข้าขอถามชื่อตระกูลที่เลี้ยงดูเจ้าได้หรือไม่? เจ้ามาจากที่ไหนกันแน่?” เซินชางนั้นยังไม่คิดเลิกราและอยากรู้อยากเห็นถึงเบื้องหลังของเย่หยวน

ส่วนทางเย่หยวนก็ขี้เกียจต้องสร้างเรื่องราวใดๆ ขึ้นมาจึงบอกปัดออกไป “อาจารย์ท่าน ตระกูลข้านั้นได้กำชับมาอย่างหนักว่าเวลาไปไหนมาไหนอย่าได้เอ่ยอ้างชื่อตระกูล ไม่เช่นนั้นแล้วข้าจะถูกทางตระกูลลงโทษเอา ต้องขออภัย”

เมื่อเซินชางได้ยินเช่นนั้นเขาก็ถอนหายใจยาวด้วยท่าทางหมดหวังก่อนจะเดินจาก

ชายวัยกลางคนที่ขายโอสถจึงได้มีโอกาสพูดขึ้นบ้าง “น้องชายท่าน แม้ว่าโอสถนี้มันจะมิใช่ฝีมือของท่านจริงๆ แต่มันก็ยังช่วยข้าได้มากมาย คุณค่าของมันนั้นสูงล้ำกว่ากิเลนดินมากมาย หากน้องชายอยากได้อะไรเพิ่มเติมขอให้บอกมาได้เลย”

เดิมทีคุณค่าของโอสถความยากเก้ามันย่อมเหนือล้ำกว่าที่สมุนไพรวิญญาณระดับห้าจะเทียบเคียง

เพียงแค่ว่ากิเลนดินนี้มันหายากจนเกินไปทำให้ชายวัยกลางคนผู้นี้รู้สึกว่าตัวเองอาจจะสามารถบิดราคามันขึ้นได้ จึงคิดใช้มันแลกกับโอสถฟื้นหทัยหยกประณีตขั้นเทวะ

แม้ว่าตัวเขาจะเป็นเทพถ่องแท้แต่หากให้เขาไปซื้อโอสถฟื้นหทัยหยกประณีตขั้นเทวะเอาตรงๆ แล้วต่อให้ขายสิ้นทั้งเนื้อทั้งตัวเขาก็ไม่อาจจะซื้อหามันมาได้

โอสถฟื้นหทัยหยกประณีตขั้นเทวะนั้นแม้แต่เซินชางยังหลอมมันไม่ได้ แน่นอนว่ามันย่อมมีค่ามากมายมหาศาล

เย่หยวนยกมือขึ้นคารวะบอก “ไม่จำเป็น โอสถนี้ไม่ได้มีค่ามากมายใด คิดเสียว่าเป็นของขวัญแก่เพื่อนใหม่แล้วกัน”

ชายวัยกลางคนผู้นั้นผงะไปเล็กน้อย ไม่นึกไม่ฝันว่าเย่หยวนจะใจกว้างได้ขนาดนี้

แต่คิดไปแล้วเขาก็โล่งใจ

เพราะด้วยที่มาของเย่หยวนที่เขาเชื่อ มันย่อมเหนือล้ำจนไม่คิดจะมาสนใจแค่โอสถเม็ดเดียวแค่นี้เป็นแน่

“น้องชาย ข้าจะนับเจ้าเป็นสหายแล้วกัน! ครั้งนี้ถือว่าข้าติดค้างเจ้าหนึ่งอย่าง หากวันหน้าเจ้ามีเรื่องอะไรอยากให้ช่วยก็มาบอกฮั่วเจิ้นผู้นี้ได้เลย” ฮั่วเจิ้นยกมือขึ้นคารวะตอบและเดินจากไป

ภายในห้องหลอมโอสถของแหล่งรวมร้อยสมุนไพร ไป๋เฉินและหนิงเทียนปิงต่างแสดงสีหน้าท่าทางไม่พอใจสุดขีดออกมา

ตงน้อยที่กำลังกอดหมูสมบัติอยู่เองก็มีสายตาขุ่นเคืองเช่นกัน

“ข้าว่าไอ้เฒ่านั้นมันคงหาทางเอาหน้ารอด น่าสมเพชจริงๆ!” ไป๋เฉินบอก

“ไอ้เฒ่าผู้นั้นมันไม่อาจจะหลอมโอสถได้ด้วยตัวเองและยังมาคิดว่าคนอื่นจะอ่อนหัดเหมือนตัว ไม่เชื่อว่าโอสถนั้นถูกหลอมขึ้นมาด้วยน้ำมือนายท่านจริงๆ ช่างน่าขัน! อวดดีแท้!” หนิงเทียนปิงเสริม

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “รู้หรือไม่รู้ สุดท้ายพลังฝีมือของใครย่อมเป็นของผู้นั้น ไม่ต้องให้ผู้คนมาเห็นดีเห็นชอบด้วยหรอก เมื่อใดก็ตามที่เราแสดงฝีมือออกมาต่อหน้าพวกเขาแล้วมันยังต้องมีอะไรให้อธิบายกันอีกเล่า?”

หนิงเทียนปิงและไป๋เฉินเบิกตากว้างไปพร้อมพูดทวนคำของเย่หยวน

ตอนนี้แม้แต่ตงน้อยก็มองดูเย่หยวนด้วยสายตาแปลกใจ

เขานั้นเป็นผู้ที่มีชีวิตมาแสนนานและแน่นอนว่าย่อมไม่คิดอะไรมากมายกับโลกเบื้องล่างอีกแล้ว แต่ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าแม้แต่ตัวเขาก็ยังจะมองโลกได้ไม่สงบเท่าเด็กคนนี้

สภาพจิตใจของเย่หยวนนั้นมันเหนือล้ำโลกหล้าทั้งหลายไปสิ้น ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงพัฒนาตัวเองมาถึงทุกวันนี้ได้

เย่หยวนมองดูตงน้อยและกล่าวขึ้น “เจ้าเองก็โชคดี โชคข้าเองก็เช่นกัน ไม่ว่าอย่างไรเสียเมื่อได้สมุนไพรวิญญาณมาครบแล้วโอสถมันก็ย่อมหลอมได้”

ตงน้อยบอก “ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ข้าก็ต้องขอขอบคุณเจ้า!”

กับเทพสวรรค์แล้วการกลายสภาพเป็นอย่างตงน้อยนี้คือสิ่งที่พวกเขาไม่อยากยอมรับมากที่สุด

ความรู้สึกอ่อนแอไร้พลังนี้มันย่อมไม่มีใครชอบ

ต่อให้พวกเขาจะรวมสมุนไพรมาได้ครบตงน้อยก็ยังเผื่อใจเอาไว้อีกขั้นว่าเย่หยวนจะสามารถทำการหลอมมันได้สำเร็จหรือไม่

นี่ไม่ใช่เพราะตงน้อยสงสัยในความสามารถของเย่หยวนแต่เป็นเพราะว่าโอสถย้อนฝันพิรุณชำระนั้นมิใช่โอสถทั่วๆ ไปวิธีการหลอมมันนั้นสุดแสนยุ่งยาก

ในหมู่โอสถความยากเก้าด้วยกันนั้นมันนับว่าเป็นสิ่งที่ยากที่สุด

โอสถเช่นนี้มันเป็นอะไรที่แทบสาบสูญคนบนโลกนี้รู้จักอยู่แค่หยิบมือและมีแค่ไม่กี่คนจริงๆ เท่านั้นที่จะรู้ถึงวิธีหลอมมันขึ้นมา

เหล่าสมุนไพรวิญญาณที่ใช้ในการหลอมมันเองก็เป็นประเภทที่หาได้ยากยิ่งเช่นกัน

ความหายากเช่นนี้มันย่อมบ่งบอกถึงการใช้ที่จำกัด

และในเมื่อไม่เคยได้ยินแม้แต่ชื่อของมันมาก่อนจะหลอมมันได้อย่างไร?

นั่นจึงทำให้โอสถที่หายากจนแทบสาบสูญเช่นนี้มันล้วนเป็นความท้าทายต่อนักหลอมทุกคน

อย่าว่าแต่เย่หยวน แม้จะเป็นตัวตงน้อยในยามปกติเขาเองก็ไม่อาจจะหลอมมันขึ้นมาได้เช่นกัน

หากไม่ใช่เพราะเห็นว่าเย่หยวนขึ้นมาถึงอาณาจักรเต๋าขั้นสุดแห่งวิชาโอสถเขาเองก็คงไม่คิดจะขอร้องให้เย่หยวนหลอมโอสถสุดยากเย็นเช่นนี้ขึ้นมา

เย่หยวนพยักหน้า “พวกเจ้าไปรออยู่ที่ห้องด้านนอกเถอะ ข้าคงต้องขอตัวเก็บตัวเรียนรู้ทำความเข้าใจเหล่าสมุนไพรวิญญาณทั้งหลายนี้ก่อน เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียมันก็มีโอกาสแค่หนเดียว”

เมื่อคนทั้งหลายเดินมาถึงห้องด้านนอกสีหน้าของตงน้อยก็แสดงความกังวลออกมาในทันที

“ท่านตง นายท่านข้าลงมือเองเช่นนี้แล้วท่านจะยังกังวลสิ่งใดอีก? ตั้งแต่ที่ข้าติดตามเขามาข้าไม่เคยเห็นนายท่านจะหลอมโอสถพลาดเลยสักครั้ง!” เมื่อได้เห็นท่าทางกังวลของตงน้อยหนิงเทียนปิงก็พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มแสนมั่นใจ

ตงน้อยได้แต่ส่ายหัวออก “เจ้าจะไปรู้อะไร!”

ปริมาณของกิเลนดินที่ได้มานี้มันแค่พอให้เย่หยวนหลอมหนึ่งชุดเท่านั้น เพราะฉะนั้นมันจะไม่มีโอกาสที่สองเด็ดขาด

เพราะฉะนั้นเย่หยวนจึงต้องระมัดระวังอย่างมาก

ตงน้อยนั้นเข้าใจถึงความยากในการหลอมมัน เขาเข้าใจมันได้อย่างดีกว่าที่ใครๆ จะเข้าใจ

การที่หลอมโอสถฟื้นหทัยหยกประณีตได้มันไม่ได้จะหมายความว่าสามารถหลอมโอสถย้อนฝันพิรุณชำระได้

การหลอมโอสถนั้นมันก็เหมือนกับการบ่มเพาะแบบหนึ่ง

หากจะบอกว่าความเข้าใจในวิชาหลอมเป็นกำลังภายใน เช่นนั้นความเข้าใจในตัวสมุนไพรยาทั้งหลายก็เป็นกำลังภายนอก

คนที่คิดหลอมโอสถนั้นต้องทำความเข้าใจบ่มเพาะทั้งกำลังภายในและภายนอกไปพร้อมๆ กันจึงจะสามารถหลอมโอสถออกมาได้อย่างมีคุณภาพ

แต่โอกาสที่ทั้งเถ้าไม้เหล็ก สาหร่ายหทัยดำและกิเลนดินนี้จะโผล่ออกมาในตลาดทั้งหลายนั้นมันแสนต่ำ

เย่หยวนนั้นมีโอกาสแค่ครั้งเดียว เขาจะหลอมมันได้ถึงขั้นไหนเรื่องนั้นมันคงต้องตัดสินที่ว่าเขาเข้าใจสมุนไพรวิญญาณทั้งสามตัวนี้มากเพียงใด

เขานั้นค่อยๆ หั่นชิ้นเล็กๆ ออกมาจากสมุนไพรทั้งหลายนั้นและค่อยๆ ทำการทดลองเพื่อเข้าใจคุณสมบัติของพวกมัน

การทำเช่นนี้มันเป็นอะไรที่เสียเวลาและเหนื่อยยากมาก

เพราะในแต่ละส่วนของสมุนไพรวิญญาณมันล้วนแต่มีแนวคิดที่แตกต่างกันผสานอยู่ แต่เย่หยวนกลับต้องวิเคราะห์สมุนไพรทั้งชิ้นด้วยส่วนเล็กๆ แค่ส่วนเดียวนี้

จากนั้นเขายังต้องเริ่มทำการหลอมทั้งหมดจากแค่สูตรการหลอมเพียงอย่างเดียว

การทำเช่นนั้นมันเป็นอะไรที่ยุ่งยากอย่างถึงที่สุด

ต่อให้ตอนนี้เย่หยวนจะมีพลังจิตมากมายมันก็ยังคงมากกว่าที่เขาจะแบกรับได้

แต่เขานั้นไม่มีทางเลือกอื่น

เพราะหากใช้มากกว่านี้มันจะส่งผลถึงตัวการหลอมโอสถได้

ที่สำคัญกว่านั้นคือในหมู่สมุนไพรวิญญาณทั้งหลายนี้ เกินกว่าครึ่งเย่หยวนไม่เคยจะพบเจอมันมาก่อน!

นั่นทำให้เขายิ่งต้องทำการทดลองอย่างระมัดระวัง

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 1920 โอสถอันยากเย็น

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 1920 โอสถอันยากเย็น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ได้ยินคำของเย่หยวนนี้เซินชางก็แสดงสีหน้าเสียดายออกมา

ยอดนักหลอมโอสถที่สามารถหลอมโอสถฟื้นหทัยหยกประณีตได้ถึงขั้นนี้มันย่อมต้องเป็นยอดคนแห่งยุคแน่นอน

เมื่อขึ้นมาถึงระดับนี้แล้วการที่จะได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับยอดนักหลอมโอสถคนอื่นๆ นั้นมันย่อมมีค่ากว่าการได้กิเลนดินนี้ไปอย่างมากมาย

เซินชางมองดูเย่หยวนก่อนจะพยักหน้าออกมา “เด็กน้อย เจ้าติดตามคนยิ่งใหญ่เช่นนั้นเจ้าต้องบ่มเพาะให้ดี! แค่ได้เรียนรู้แค่สิบหรือยี่สิบจากที่เขามีทั้งหมดมันก็จะเป็นประโยชน์แก่เจ้าไปทั้งชีวิตแล้ว”

เพราะท่าทางยอมรับผิดของเย่หยวนนี้มันทำให้มุมมองของเขาต่อเย่หยวนดีขึ้นมาก

เพราะการสารภาพผิดนั้นจะได้ลดโทษกึ่งหนึ่ง

เพียงแค่ว่าสายตาของเขาในตอนนี้ไม่ได้มองดูที่หนิงเทียนปิงและไป๋เฉินที่ด้านหลังเย่หยวนเลย

เย่หยวนยิ้มออกมาเมื่อได้ยินเช่นนั้น “ขอรับ ผู้เยาว์จะตั้งใจขึ้นจากวันนี้ไป เช่นนั้นแล้ว…ผู้เยาว์ขอตัวนำกิเลนดินนี้ไปได้หรือยัง?”

มุมปากของเซินชางกระตุกขึ้นมานิดหน่อยก่อนจะยกมือขึ้นโบกปัดแสดงท่าบอกให้เย่หยวนเอามันไป

กิเลนดินนี้มันแสนล้ำค่า แม้จะมีเงินมากมายก็ใช่จะซื้อได้

หากไม่ได้ครานี้แล้วเขาเองก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่จะได้พบได้เจอมันอีก

เย่หยวนจึงย่อมไม่คิดเกรงใจรีบเก็บกิเลนดินลงไปทันที

“เด็กน้อย ข้าขอถามชื่อตระกูลที่เลี้ยงดูเจ้าได้หรือไม่? เจ้ามาจากที่ไหนกันแน่?” เซินชางนั้นยังไม่คิดเลิกราและอยากรู้อยากเห็นถึงเบื้องหลังของเย่หยวน

ส่วนทางเย่หยวนก็ขี้เกียจต้องสร้างเรื่องราวใดๆ ขึ้นมาจึงบอกปัดออกไป “อาจารย์ท่าน ตระกูลข้านั้นได้กำชับมาอย่างหนักว่าเวลาไปไหนมาไหนอย่าได้เอ่ยอ้างชื่อตระกูล ไม่เช่นนั้นแล้วข้าจะถูกทางตระกูลลงโทษเอา ต้องขออภัย”

เมื่อเซินชางได้ยินเช่นนั้นเขาก็ถอนหายใจยาวด้วยท่าทางหมดหวังก่อนจะเดินจาก

ชายวัยกลางคนที่ขายโอสถจึงได้มีโอกาสพูดขึ้นบ้าง “น้องชายท่าน แม้ว่าโอสถนี้มันจะมิใช่ฝีมือของท่านจริงๆ แต่มันก็ยังช่วยข้าได้มากมาย คุณค่าของมันนั้นสูงล้ำกว่ากิเลนดินมากมาย หากน้องชายอยากได้อะไรเพิ่มเติมขอให้บอกมาได้เลย”

เดิมทีคุณค่าของโอสถความยากเก้ามันย่อมเหนือล้ำกว่าที่สมุนไพรวิญญาณระดับห้าจะเทียบเคียง

เพียงแค่ว่ากิเลนดินนี้มันหายากจนเกินไปทำให้ชายวัยกลางคนผู้นี้รู้สึกว่าตัวเองอาจจะสามารถบิดราคามันขึ้นได้ จึงคิดใช้มันแลกกับโอสถฟื้นหทัยหยกประณีตขั้นเทวะ

แม้ว่าตัวเขาจะเป็นเทพถ่องแท้แต่หากให้เขาไปซื้อโอสถฟื้นหทัยหยกประณีตขั้นเทวะเอาตรงๆ แล้วต่อให้ขายสิ้นทั้งเนื้อทั้งตัวเขาก็ไม่อาจจะซื้อหามันมาได้

โอสถฟื้นหทัยหยกประณีตขั้นเทวะนั้นแม้แต่เซินชางยังหลอมมันไม่ได้ แน่นอนว่ามันย่อมมีค่ามากมายมหาศาล

เย่หยวนยกมือขึ้นคารวะบอก “ไม่จำเป็น โอสถนี้ไม่ได้มีค่ามากมายใด คิดเสียว่าเป็นของขวัญแก่เพื่อนใหม่แล้วกัน”

ชายวัยกลางคนผู้นั้นผงะไปเล็กน้อย ไม่นึกไม่ฝันว่าเย่หยวนจะใจกว้างได้ขนาดนี้

แต่คิดไปแล้วเขาก็โล่งใจ

เพราะด้วยที่มาของเย่หยวนที่เขาเชื่อ มันย่อมเหนือล้ำจนไม่คิดจะมาสนใจแค่โอสถเม็ดเดียวแค่นี้เป็นแน่

“น้องชาย ข้าจะนับเจ้าเป็นสหายแล้วกัน! ครั้งนี้ถือว่าข้าติดค้างเจ้าหนึ่งอย่าง หากวันหน้าเจ้ามีเรื่องอะไรอยากให้ช่วยก็มาบอกฮั่วเจิ้นผู้นี้ได้เลย” ฮั่วเจิ้นยกมือขึ้นคารวะตอบและเดินจากไป

ภายในห้องหลอมโอสถของแหล่งรวมร้อยสมุนไพร ไป๋เฉินและหนิงเทียนปิงต่างแสดงสีหน้าท่าทางไม่พอใจสุดขีดออกมา

ตงน้อยที่กำลังกอดหมูสมบัติอยู่เองก็มีสายตาขุ่นเคืองเช่นกัน

“ข้าว่าไอ้เฒ่านั้นมันคงหาทางเอาหน้ารอด น่าสมเพชจริงๆ!” ไป๋เฉินบอก

“ไอ้เฒ่าผู้นั้นมันไม่อาจจะหลอมโอสถได้ด้วยตัวเองและยังมาคิดว่าคนอื่นจะอ่อนหัดเหมือนตัว ไม่เชื่อว่าโอสถนั้นถูกหลอมขึ้นมาด้วยน้ำมือนายท่านจริงๆ ช่างน่าขัน! อวดดีแท้!” หนิงเทียนปิงเสริม

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “รู้หรือไม่รู้ สุดท้ายพลังฝีมือของใครย่อมเป็นของผู้นั้น ไม่ต้องให้ผู้คนมาเห็นดีเห็นชอบด้วยหรอก เมื่อใดก็ตามที่เราแสดงฝีมือออกมาต่อหน้าพวกเขาแล้วมันยังต้องมีอะไรให้อธิบายกันอีกเล่า?”

หนิงเทียนปิงและไป๋เฉินเบิกตากว้างไปพร้อมพูดทวนคำของเย่หยวน

ตอนนี้แม้แต่ตงน้อยก็มองดูเย่หยวนด้วยสายตาแปลกใจ

เขานั้นเป็นผู้ที่มีชีวิตมาแสนนานและแน่นอนว่าย่อมไม่คิดอะไรมากมายกับโลกเบื้องล่างอีกแล้ว แต่ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าแม้แต่ตัวเขาก็ยังจะมองโลกได้ไม่สงบเท่าเด็กคนนี้

สภาพจิตใจของเย่หยวนนั้นมันเหนือล้ำโลกหล้าทั้งหลายไปสิ้น ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงพัฒนาตัวเองมาถึงทุกวันนี้ได้

เย่หยวนมองดูตงน้อยและกล่าวขึ้น “เจ้าเองก็โชคดี โชคข้าเองก็เช่นกัน ไม่ว่าอย่างไรเสียเมื่อได้สมุนไพรวิญญาณมาครบแล้วโอสถมันก็ย่อมหลอมได้”

ตงน้อยบอก “ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ข้าก็ต้องขอขอบคุณเจ้า!”

กับเทพสวรรค์แล้วการกลายสภาพเป็นอย่างตงน้อยนี้คือสิ่งที่พวกเขาไม่อยากยอมรับมากที่สุด

ความรู้สึกอ่อนแอไร้พลังนี้มันย่อมไม่มีใครชอบ

ต่อให้พวกเขาจะรวมสมุนไพรมาได้ครบตงน้อยก็ยังเผื่อใจเอาไว้อีกขั้นว่าเย่หยวนจะสามารถทำการหลอมมันได้สำเร็จหรือไม่

นี่ไม่ใช่เพราะตงน้อยสงสัยในความสามารถของเย่หยวนแต่เป็นเพราะว่าโอสถย้อนฝันพิรุณชำระนั้นมิใช่โอสถทั่วๆ ไปวิธีการหลอมมันนั้นสุดแสนยุ่งยาก

ในหมู่โอสถความยากเก้าด้วยกันนั้นมันนับว่าเป็นสิ่งที่ยากที่สุด

โอสถเช่นนี้มันเป็นอะไรที่แทบสาบสูญคนบนโลกนี้รู้จักอยู่แค่หยิบมือและมีแค่ไม่กี่คนจริงๆ เท่านั้นที่จะรู้ถึงวิธีหลอมมันขึ้นมา

เหล่าสมุนไพรวิญญาณที่ใช้ในการหลอมมันเองก็เป็นประเภทที่หาได้ยากยิ่งเช่นกัน

ความหายากเช่นนี้มันย่อมบ่งบอกถึงการใช้ที่จำกัด

และในเมื่อไม่เคยได้ยินแม้แต่ชื่อของมันมาก่อนจะหลอมมันได้อย่างไร?

นั่นจึงทำให้โอสถที่หายากจนแทบสาบสูญเช่นนี้มันล้วนเป็นความท้าทายต่อนักหลอมทุกคน

อย่าว่าแต่เย่หยวน แม้จะเป็นตัวตงน้อยในยามปกติเขาเองก็ไม่อาจจะหลอมมันขึ้นมาได้เช่นกัน

หากไม่ใช่เพราะเห็นว่าเย่หยวนขึ้นมาถึงอาณาจักรเต๋าขั้นสุดแห่งวิชาโอสถเขาเองก็คงไม่คิดจะขอร้องให้เย่หยวนหลอมโอสถสุดยากเย็นเช่นนี้ขึ้นมา

เย่หยวนพยักหน้า “พวกเจ้าไปรออยู่ที่ห้องด้านนอกเถอะ ข้าคงต้องขอตัวเก็บตัวเรียนรู้ทำความเข้าใจเหล่าสมุนไพรวิญญาณทั้งหลายนี้ก่อน เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียมันก็มีโอกาสแค่หนเดียว”

เมื่อคนทั้งหลายเดินมาถึงห้องด้านนอกสีหน้าของตงน้อยก็แสดงความกังวลออกมาในทันที

“ท่านตง นายท่านข้าลงมือเองเช่นนี้แล้วท่านจะยังกังวลสิ่งใดอีก? ตั้งแต่ที่ข้าติดตามเขามาข้าไม่เคยเห็นนายท่านจะหลอมโอสถพลาดเลยสักครั้ง!” เมื่อได้เห็นท่าทางกังวลของตงน้อยหนิงเทียนปิงก็พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มแสนมั่นใจ

ตงน้อยได้แต่ส่ายหัวออก “เจ้าจะไปรู้อะไร!”

ปริมาณของกิเลนดินที่ได้มานี้มันแค่พอให้เย่หยวนหลอมหนึ่งชุดเท่านั้น เพราะฉะนั้นมันจะไม่มีโอกาสที่สองเด็ดขาด

เพราะฉะนั้นเย่หยวนจึงต้องระมัดระวังอย่างมาก

ตงน้อยนั้นเข้าใจถึงความยากในการหลอมมัน เขาเข้าใจมันได้อย่างดีกว่าที่ใครๆ จะเข้าใจ

การที่หลอมโอสถฟื้นหทัยหยกประณีตได้มันไม่ได้จะหมายความว่าสามารถหลอมโอสถย้อนฝันพิรุณชำระได้

การหลอมโอสถนั้นมันก็เหมือนกับการบ่มเพาะแบบหนึ่ง

หากจะบอกว่าความเข้าใจในวิชาหลอมเป็นกำลังภายใน เช่นนั้นความเข้าใจในตัวสมุนไพรยาทั้งหลายก็เป็นกำลังภายนอก

คนที่คิดหลอมโอสถนั้นต้องทำความเข้าใจบ่มเพาะทั้งกำลังภายในและภายนอกไปพร้อมๆ กันจึงจะสามารถหลอมโอสถออกมาได้อย่างมีคุณภาพ

แต่โอกาสที่ทั้งเถ้าไม้เหล็ก สาหร่ายหทัยดำและกิเลนดินนี้จะโผล่ออกมาในตลาดทั้งหลายนั้นมันแสนต่ำ

เย่หยวนนั้นมีโอกาสแค่ครั้งเดียว เขาจะหลอมมันได้ถึงขั้นไหนเรื่องนั้นมันคงต้องตัดสินที่ว่าเขาเข้าใจสมุนไพรวิญญาณทั้งสามตัวนี้มากเพียงใด

เขานั้นค่อยๆ หั่นชิ้นเล็กๆ ออกมาจากสมุนไพรทั้งหลายนั้นและค่อยๆ ทำการทดลองเพื่อเข้าใจคุณสมบัติของพวกมัน

การทำเช่นนี้มันเป็นอะไรที่เสียเวลาและเหนื่อยยากมาก

เพราะในแต่ละส่วนของสมุนไพรวิญญาณมันล้วนแต่มีแนวคิดที่แตกต่างกันผสานอยู่ แต่เย่หยวนกลับต้องวิเคราะห์สมุนไพรทั้งชิ้นด้วยส่วนเล็กๆ แค่ส่วนเดียวนี้

จากนั้นเขายังต้องเริ่มทำการหลอมทั้งหมดจากแค่สูตรการหลอมเพียงอย่างเดียว

การทำเช่นนั้นมันเป็นอะไรที่ยุ่งยากอย่างถึงที่สุด

ต่อให้ตอนนี้เย่หยวนจะมีพลังจิตมากมายมันก็ยังคงมากกว่าที่เขาจะแบกรับได้

แต่เขานั้นไม่มีทางเลือกอื่น

เพราะหากใช้มากกว่านี้มันจะส่งผลถึงตัวการหลอมโอสถได้

ที่สำคัญกว่านั้นคือในหมู่สมุนไพรวิญญาณทั้งหลายนี้ เกินกว่าครึ่งเย่หยวนไม่เคยจะพบเจอมันมาก่อน!

นั่นทำให้เขายิ่งต้องทำการทดลองอย่างระมัดระวัง

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+