Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 1936 ประลองสามผู้อาวุโส

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 1936 ประลองสามผู้อาวุโส at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เฉินหยู่ขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจอย่างมาก

เย่หยวนนั้นคิดท้าทายพวกเขาทั้งสามเข้าประลองพร้อมๆ กันมันจะไม่เป็นการดูถูกพวกเขาทั้งหลายมากไปหน่อยหรือ?

ในฐานะนักหลอมโอสถสวรรค์ยาฟ้าแน่นอนว่าพวกเขาย่อมมีชื่อเสียงอำนาจทั่วฟ้าดิน

เย่หยวนนั้นไม่สนว่าตัวเองยังเป็นแค่เด็กหนุ่มและท้าทายอย่างอวดดี!

นั่นทำให้เกิดเสียงร้องว่าขึ้นจากด้านล่างสังเวียนไม่ขาดสาย ด่าว่าเย่หยวนนั้นไม่รู้จักประเมินตัวเอง

“เย่หยวน เจ้านั้นเก่งกาจมากความสามารถ มาถึงจุดนี้ได้เฒ่าคนนี้ย่อมกล้ายอมรับ! แต่หากเจ้าคิดจะท้าทายพวกเราทั้งสามคนพร้อมๆ กันนั้นมันจะไม่เป็นการดูถูกผู้คนมากเกินไปหน่อยหรือ?” เฉินหยู่บอก

ดูท่าแล้วเขาคงไม่พอใจอย่างมาก

ผู้อาวุโสอีกคนที่ด้านข้างเขาเองก็แสดงสีหน้าไม่พอใจออกมา มองดูเย่หยวนราวกับมีความแค้นใดกันมา

แต่เย่หยวนกลับตอบมาด้วยรอยยิ้ม “ผู้อาวุโสเฉินอย่าเพิ่งรีบร้อนไป ขอข้าพูดอธิบายให้จบก่อน”

เฉินหยู่ได้ยินเช่นนั้นจึงตะโกนบอก “พูดมา!”

เย่หยวนตอบกลับไป “เย่ผู้นี้ไม่ได้คิดจะดูถูกเหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายเลย เหตุที่ข้าคิดทำเช่นนี้มันเพราะว่าหากเย่หยวนคนนี้บังเอิญชนะได้ข้าจะได้สามารถขอร้องเรื่องที่ต้องการได้”

เซินชางร้องบอก “เราเองก็มิใช่คนไร้เหตุผล หากเจ้าชนะได้แล้วเจ้าก็นับเป็นหนึ่งในพี่น้องเรามีอะไรอยากให้ช่วยเหลือก็แค่เปิดปากพูดเท่านั้น มีเหตุใดให้ต้องมาใช้วิธีนี้ด้วยเล่า?”

เพราะเซินชางนั้นยังชื่นชมเย่หยวนอยู่ไม่น้อย

ที่สำคัญเขายังรู้ด้วยว่าเย่หยวนนั้นมิใช่คนอวดดีอยากวางตัวเหนือหัวท่าน

เขาทำเช่นนี้มันต้องมีเหตุผลแน่ๆ

แต่การกระทำของเขานั้นมันโดดเด่นจนเกินไป มีแต่จะทำให้ผู้คนไม่ชอบใจเปล่าๆ

เย่หยวนส่ายหัวออกมา “หากข้าชนะข้าอยากขอท้าประลองท่านเทพสวรรค์เปียวหยู หวังว่าท่านผู้อาวุโสทั้งหลายจะเข้าใจ”

คำพูดเดียวนี้มันทำให้เกิดเสียงฮือฮาขึ้นหนักว่าเก่า!

ทุกคนแทบลืมหายใจเมื่อได้ยินคำประกาศนี้ของเย่หยวน

“อวดดี! ช่างอวดดีเหลือเกิน! เขา…เขากลับกล้าคิดท้าทายท่านเทพสวรรค์เปียวหยู? กล้าดีอย่างไร!”

“ช่างอวดดีไม่กลัวฟ้าดิน! มันคิดว่าเทพสวรรค์เปียวหยูนั้นคือใคร? มีหรือที่นภาสวรรค์ต่ำต้อยอย่างมันจะไปท้าทายท่านได้?”

“ไอ้เด็กคนนี้มันเสียสติไปแล้วแน่ๆ!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นเหล่าผู้นั้นทั้งหลายย่อมพ่นพิษใส่คำด่าเย่หยวนออกมาอย่างไม่คิดเกรงใจใดๆ อีก

เพราะเวลาที่ผ่านมานี้กี่ปีต่อกี่ปีมันไม่มีใครกล้าที่จะบอกว่าคิดท้าทายเทพสวรรค์เปียวหยูเลย!

อย่าว่าแต่จอมเทพโอสถห้าดาวต่ำต้อยผู้หนึ่ง แม้แต่จอมเทพโอสถเจ็ดดาวคนอื่นๆ ก็ยังไม่กล้าคิดมาท้าทายเทพสวรรค์เปียวหยูผู้นี้

เฉินหยู่มองดูเย่หยวนด้วยรอยยิ้มเย็นเยือก “เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้าพูดอะไรออกมา?”

เย่หยวนพยักหน้ารับ “ข้าย่อมทราบดีแก่ใจ เป้าหมายการเดินทางมายอดเมืองหลวงจักรพรรดิทองวาวในครั้งนี้คือหนึ่งเพื่อหาคู่ค้า สองคือเพื่อประลองฝีมือกับท่านเทพสวรรค์เปียวหยู!”

การเข้าศาลาโอสถสวรรค์นั้นเป็นหนึ่งในเป้าหมายของเย่หยวนมาแต่แรก

ด้วยพลังฝีมือของเขาการเข้าศาลาโอสถสวรรค์มานั้นมันย่อมไม่ลำบากยากเย็นใดๆ

“หึ! เจ้าเด็กไม่รู้จักประมาณตัว เจ้าคิดว่าแค่ขึ้นระดับยาฟ้ามาได่แล้วเจ้าจะเก่งกาจพอไปท้าทายท่านเปียวหยูหรือ?” เฉินหยู่ร้องบอกด้วยใบหน้าดำมืด

เย่หยวนตอบกลับไป “เช่นนั้นข้าจึงได้ท้าประลองพวกท่านทั้งสามคนพร้อมๆ กัน หากข้าชนะอย่างน้อยๆ มันก็จะแสดงฝีมือของข้าได้ใช่หรือไม่?”

ทุกคนนั้นตื่นตะลึง เป็นเวลานี้เองที่พวกเขาทั้งหลายได้รู้เป้าหมายของเย่หยวน

“หึ! ต่อให้เจ้าจะชนะได้เจ้าก็ไม่มีสิทธิ์ไปท้าทายท่านเปียวหยู ยอมตัดใจจากเรื่องนี้เสียเถอะ!” ผู้อาวุโสยาฟ้าผู้หนึ่งบอกออกมา

เซินชางเองก็พูดขึ้นตาม “ด้วยพรสวรรค์ของเจ้าข้าจะไม่บอกหรอกว่าวันหน้าเจ้าจะไม่อาจเทียบเคียงท่านเปียวหยูได้ แต่มันย่อมยังไม่ใช่ในเวลานี้แน่”

เย่หยวนเงียบลงไปทันที สถานะของเทพสวรรค์เปียวหยูนั้นมันแตกต่างจากคนทั่วๆ ไปมากจนเกินไป ในจิตใจของพวกเขาทั้งหลายเขานั้นเปรียบเหมือนเทพเจ้า

แค่จอมเทพโอสถห้าดาวคนหนึ่งมันย่อมไม่มีทางไปเทียบเคียงใดๆ กับเขาได้ในสายตาของพวกเขาทั้งหลาย

ที่ด้านล่างมันมีแต่เสียงโห่ร้องด่าทอว่าเย่หยวนไม่รู้จักฟ้าดิน

เย่หยวนเองก็ได้แต่ถอนหายใจ “เช่นนั้นข้าก็ไม่ขอดื้อรั้นอีก”

พูดจบเขาก็หันหลังเดินจากไป

เฉินหยู่ขมวดคิ้วแน่น “เย่หยวน เจ้าคิดจะทำอะไร?”

เย่หยวนนั้นเดินจากไปพร้อมพูดขึ้น “ข้านั้นเข้าศาลาโอสถสวรรค์มาเพื่อจะประลองกับท่านเทพสวรรค์เปียวหยู แต่ในเมื่อข้าไม่อาจสมหวังได้ข้าก็ไม่มีอะไรต้องทำในศาลาโอสถสวรรค์นี้อีกต่อไปแล้ว”

อวดดีเหลือเกิน!

ช่างอวดดีเกินคำบรรยาย!

เหล่าคนทั้งหลายได้แต่เลิกคิ้วมองเย่หยวนอย่างไม่รู้จะพูดอย่างไร

ในยอดเมืองหลวงจักรพรรดิทองวาวนี้เป้าหมายที่นักหลอมโอสถทุกผู้คนต่างใฝ่ฝันมันก็คือตำแหน่งในศาลาโอสถสวรรค์

แต่เย่หยวนกลับไม่คิดสนใจมันเลยแม้แต่น้อย!

แต่แท้จริงแล้วเย่หยวนนั้นไม่ได้คิดจะทำตัวอวดดีใดๆ เพียงแค่ว่าสายตาของเขานั้นมันจ้องมองไปยังคนละระดับกับผู้คนทั้งหลายนี้

เหมือนที่จักรพรรดิเทพสวรรค์ไม่มาสนใจสมาคมใดๆ ของเทพถ่องแท้

เย่หยวนเองก็ไม่อาจจะมีความสนใจใดๆ ให้กับสมาคมเช่นนี้ได้เลย

แม้ว่าเย่หยวนนั้นจะยังไม่ขึ้นไปถึงอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์แต่เหล่านักหลอมโอสถสวรรค์ยาฟ้าที่อยู่ต่อหน้านี้มันก็ยังไม่อาจเทียบเขาได้

“เทพสวรรค์ผู้นี้รับคำท้าเจ้า” เวลานั้นเองที่มีเสียงหนึ่งดังกังวานขึ้นมา

นั่นทำให้ทุกผู้คนหน้าถอดสี นั่นมันเทพสวรรค์เปียวหยูหรือ?

“ท่านเปียวหยู!” เฉินหยู่ร้องขึ้นอย่างตื่นตกใจ

พวกเขาไม่นึกไม่ฝันว่าเทพสวรรค์เปียวหยูจะลงมารับคำท้าของเย่หยวนเองเช่นนี้!

“พวกเจ้าทั้งสามจงประลองกับเขาเสีย สหายหนุ่ม อย่างได้ทำให้เทพสวรรค์ผู้นี้ผิดหวังเล่า!”

พูดจบเสียงนั้นก็เงียบหายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

เมื่อเย่หยวนได้ยินเช่นนั้นความตื่นเต้นดีใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า

ดูท่าเรื่องราวที่เขาสร้างชื่อไว้ในศาลาโอสถสวรรค์ช่วงหลายเดือนมานี้มันจะไปสะดุดตาเทพสวรรค์เปียวหยูเข้า

เฉินหยู่ได้แต่สูดหายใจเข้าลึกก่อนจะบอก “เจ้าเด็กน้อย อย่าได้หลงความสำเร็จจนเกินตัว! พวกเรานั้นมิใช่ศัตรูที่เจ้าจะจัดการได้ง่ายๆ หรอก!”

เย่หยวนยกมือขึ้นคารวะด้วยรอยยิ้ม “ขอคำชี้แนะด้วย!”

บนสังเวียนนั้นสามนักหลอมโอสถสวรรค์ยาฟ้าต่างปล่อยคลื่นพลังอันแสนน่าหวาดกลัวออกมาปกคลุมไปทั่วโดยมีเย่หยวนอยู่ตรงกลาง

แต่ทว่าเย่หยวนนั้นไม่ได้มีท่าทีวิตกใดๆ เลย

สามนักหลอมโอสถสวรรค์ยาฟ้าร่วมมือกันแน่นอนว่ามันต้องกลายเป็นพลังที่มหาศาล พลังที่ยู่หยิงเคยปล่อยออกมานั้นมันไม่อาจเทียบได้แม้แต่น้อย

เพียงแค่ว่าแม้คนทั้งสามจะร่วมมือกันแล้วมันก็ยังไม่อาจหยุดเย่หยวนลงได้

คลื่นพลังของเขานั้นมันเหมือนน้ำที่อยู่ในเขื่อนยักษ์ไม่อาจจะหยุดได้ด้วยวิธีใดๆ

“เป็นไปได้อย่างไร? นี่มันสามผู้อาวุโสนักหลอมโอสถสวรรค์ยาฟ้าที่เก่งกาจที่สุดนะ ภายใต้ความร่วมมือของคนทั้งสามแล้วแม้แต่จอมเทพโอสถเจ็ดดาวก็ยังไม่กล้าปะทะพลังตรงๆ แต่เย่หยวนกลับยืนรับและเป็นฝ่ายกดดันได้แทน!”

“น่ากลัว! หรือว่าเจ้าเด็กคนนี้มันจะไม่มีขีดจำกัดเลย?”

“หรือว่าเจ้าเด็กคนนี้มันจะมีพลังฝีมือมากพอจะท้าทายท่านเปียวหยูจริง?”

ภายใต้การกดดันของเย่หยวนนี้มันจึงทำให้ทั้งสามนักหลอมโอสถสวรรค์ยาฟ้ามีเหงื่อหยดใหญ่ไหลลงมาจากหน้าผากด้วยท่าทางที่แสนเหนื่อยล้า

การแข่งหลอมโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับห้านั้นมันเป็นการวัดเรื่องความเข้าใจในโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับห้า ความเข้าใจในสมุนไพรวิญญาณระดับห้า และความเข้าใจในวิชาการหลอมโอสถ

ในด้านต่างๆ นี้เย่หยวนย่อมสามารถชนะนักหลอมโอสถสวรรค์ยาฟ้าทั้งสามได้อย่างขาดลอย

แม้ว่าพลังที่เย่หยวนใช้ออกมามันจะดูแผ่วเบาแต่แท้จริงแล้วมันมิใช่เลย

เป็นเวลานี้เองที่คนทั้งหลายได้เห็นพลังฝีมือที่แท้จริงของเย่หยวนและได้รู้ว่าเย่หยวนไปเอาความมั่นใจจากไหนมาท้าทายสามนักหลอมโอสถสวรรค์ยาฟ้าพร้อมๆ กัน

“หลอม!”

เย่หยวนร้องขึ้นพร้อมก่อโอสถ!

นั่นทำให้สามผู้อาวุโสต้องถอนหายใจราวกับว่าได้ยกเขาออกจากอก

ไม่นานผู้อาวุโสทั้งสามเองก็หลอมโอสถจนสำเร็จ

เมื่อพวกเขาเปิดหม้อหลอมออกดูผู้คนทั้งหลายก็ได้แต่ตกตะลึง!

“โอสถขั้นเทวะโมฆะ! ภายใต้แรงกดดันเช่นนั้นเย่หยวนกลับยังสามารถหลอมโอสถได้ถึงขั้นเทวะโมฆะ!”

โอสถของทางสามผู้อาวุโสนั้นหนึ่งเป็นขั้นสูง ส่วนอีกสองนั้นเป็นแค่ขั้นกลาง

มันมิใช่ว่าพวกเขาไม่มีปัญญาหลอมโอสถคุณภาพสูง แต่เป็นเพราะว่าพวกเขานั้นถูกเย่หยวนกดดันอยู่ตลอดจนไม่อาจแสดงพลังฝีมือที่แท้จริงออกมาได้

เย่หยวนชนะอีกครั้ง!

……………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 1936 ประลองสามผู้อาวุโส

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 1936 ประลองสามผู้อาวุโส at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เฉินหยู่ขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจอย่างมาก

เย่หยวนนั้นคิดท้าทายพวกเขาทั้งสามเข้าประลองพร้อมๆ กันมันจะไม่เป็นการดูถูกพวกเขาทั้งหลายมากไปหน่อยหรือ?

ในฐานะนักหลอมโอสถสวรรค์ยาฟ้าแน่นอนว่าพวกเขาย่อมมีชื่อเสียงอำนาจทั่วฟ้าดิน

เย่หยวนนั้นไม่สนว่าตัวเองยังเป็นแค่เด็กหนุ่มและท้าทายอย่างอวดดี!

นั่นทำให้เกิดเสียงร้องว่าขึ้นจากด้านล่างสังเวียนไม่ขาดสาย ด่าว่าเย่หยวนนั้นไม่รู้จักประเมินตัวเอง

“เย่หยวน เจ้านั้นเก่งกาจมากความสามารถ มาถึงจุดนี้ได้เฒ่าคนนี้ย่อมกล้ายอมรับ! แต่หากเจ้าคิดจะท้าทายพวกเราทั้งสามคนพร้อมๆ กันนั้นมันจะไม่เป็นการดูถูกผู้คนมากเกินไปหน่อยหรือ?” เฉินหยู่บอก

ดูท่าแล้วเขาคงไม่พอใจอย่างมาก

ผู้อาวุโสอีกคนที่ด้านข้างเขาเองก็แสดงสีหน้าไม่พอใจออกมา มองดูเย่หยวนราวกับมีความแค้นใดกันมา

แต่เย่หยวนกลับตอบมาด้วยรอยยิ้ม “ผู้อาวุโสเฉินอย่าเพิ่งรีบร้อนไป ขอข้าพูดอธิบายให้จบก่อน”

เฉินหยู่ได้ยินเช่นนั้นจึงตะโกนบอก “พูดมา!”

เย่หยวนตอบกลับไป “เย่ผู้นี้ไม่ได้คิดจะดูถูกเหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายเลย เหตุที่ข้าคิดทำเช่นนี้มันเพราะว่าหากเย่หยวนคนนี้บังเอิญชนะได้ข้าจะได้สามารถขอร้องเรื่องที่ต้องการได้”

เซินชางร้องบอก “เราเองก็มิใช่คนไร้เหตุผล หากเจ้าชนะได้แล้วเจ้าก็นับเป็นหนึ่งในพี่น้องเรามีอะไรอยากให้ช่วยเหลือก็แค่เปิดปากพูดเท่านั้น มีเหตุใดให้ต้องมาใช้วิธีนี้ด้วยเล่า?”

เพราะเซินชางนั้นยังชื่นชมเย่หยวนอยู่ไม่น้อย

ที่สำคัญเขายังรู้ด้วยว่าเย่หยวนนั้นมิใช่คนอวดดีอยากวางตัวเหนือหัวท่าน

เขาทำเช่นนี้มันต้องมีเหตุผลแน่ๆ

แต่การกระทำของเขานั้นมันโดดเด่นจนเกินไป มีแต่จะทำให้ผู้คนไม่ชอบใจเปล่าๆ

เย่หยวนส่ายหัวออกมา “หากข้าชนะข้าอยากขอท้าประลองท่านเทพสวรรค์เปียวหยู หวังว่าท่านผู้อาวุโสทั้งหลายจะเข้าใจ”

คำพูดเดียวนี้มันทำให้เกิดเสียงฮือฮาขึ้นหนักว่าเก่า!

ทุกคนแทบลืมหายใจเมื่อได้ยินคำประกาศนี้ของเย่หยวน

“อวดดี! ช่างอวดดีเหลือเกิน! เขา…เขากลับกล้าคิดท้าทายท่านเทพสวรรค์เปียวหยู? กล้าดีอย่างไร!”

“ช่างอวดดีไม่กลัวฟ้าดิน! มันคิดว่าเทพสวรรค์เปียวหยูนั้นคือใคร? มีหรือที่นภาสวรรค์ต่ำต้อยอย่างมันจะไปท้าทายท่านได้?”

“ไอ้เด็กคนนี้มันเสียสติไปแล้วแน่ๆ!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นเหล่าผู้นั้นทั้งหลายย่อมพ่นพิษใส่คำด่าเย่หยวนออกมาอย่างไม่คิดเกรงใจใดๆ อีก

เพราะเวลาที่ผ่านมานี้กี่ปีต่อกี่ปีมันไม่มีใครกล้าที่จะบอกว่าคิดท้าทายเทพสวรรค์เปียวหยูเลย!

อย่าว่าแต่จอมเทพโอสถห้าดาวต่ำต้อยผู้หนึ่ง แม้แต่จอมเทพโอสถเจ็ดดาวคนอื่นๆ ก็ยังไม่กล้าคิดมาท้าทายเทพสวรรค์เปียวหยูผู้นี้

เฉินหยู่มองดูเย่หยวนด้วยรอยยิ้มเย็นเยือก “เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้าพูดอะไรออกมา?”

เย่หยวนพยักหน้ารับ “ข้าย่อมทราบดีแก่ใจ เป้าหมายการเดินทางมายอดเมืองหลวงจักรพรรดิทองวาวในครั้งนี้คือหนึ่งเพื่อหาคู่ค้า สองคือเพื่อประลองฝีมือกับท่านเทพสวรรค์เปียวหยู!”

การเข้าศาลาโอสถสวรรค์นั้นเป็นหนึ่งในเป้าหมายของเย่หยวนมาแต่แรก

ด้วยพลังฝีมือของเขาการเข้าศาลาโอสถสวรรค์มานั้นมันย่อมไม่ลำบากยากเย็นใดๆ

“หึ! เจ้าเด็กไม่รู้จักประมาณตัว เจ้าคิดว่าแค่ขึ้นระดับยาฟ้ามาได่แล้วเจ้าจะเก่งกาจพอไปท้าทายท่านเปียวหยูหรือ?” เฉินหยู่ร้องบอกด้วยใบหน้าดำมืด

เย่หยวนตอบกลับไป “เช่นนั้นข้าจึงได้ท้าประลองพวกท่านทั้งสามคนพร้อมๆ กัน หากข้าชนะอย่างน้อยๆ มันก็จะแสดงฝีมือของข้าได้ใช่หรือไม่?”

ทุกคนนั้นตื่นตะลึง เป็นเวลานี้เองที่พวกเขาทั้งหลายได้รู้เป้าหมายของเย่หยวน

“หึ! ต่อให้เจ้าจะชนะได้เจ้าก็ไม่มีสิทธิ์ไปท้าทายท่านเปียวหยู ยอมตัดใจจากเรื่องนี้เสียเถอะ!” ผู้อาวุโสยาฟ้าผู้หนึ่งบอกออกมา

เซินชางเองก็พูดขึ้นตาม “ด้วยพรสวรรค์ของเจ้าข้าจะไม่บอกหรอกว่าวันหน้าเจ้าจะไม่อาจเทียบเคียงท่านเปียวหยูได้ แต่มันย่อมยังไม่ใช่ในเวลานี้แน่”

เย่หยวนเงียบลงไปทันที สถานะของเทพสวรรค์เปียวหยูนั้นมันแตกต่างจากคนทั่วๆ ไปมากจนเกินไป ในจิตใจของพวกเขาทั้งหลายเขานั้นเปรียบเหมือนเทพเจ้า

แค่จอมเทพโอสถห้าดาวคนหนึ่งมันย่อมไม่มีทางไปเทียบเคียงใดๆ กับเขาได้ในสายตาของพวกเขาทั้งหลาย

ที่ด้านล่างมันมีแต่เสียงโห่ร้องด่าทอว่าเย่หยวนไม่รู้จักฟ้าดิน

เย่หยวนเองก็ได้แต่ถอนหายใจ “เช่นนั้นข้าก็ไม่ขอดื้อรั้นอีก”

พูดจบเขาก็หันหลังเดินจากไป

เฉินหยู่ขมวดคิ้วแน่น “เย่หยวน เจ้าคิดจะทำอะไร?”

เย่หยวนนั้นเดินจากไปพร้อมพูดขึ้น “ข้านั้นเข้าศาลาโอสถสวรรค์มาเพื่อจะประลองกับท่านเทพสวรรค์เปียวหยู แต่ในเมื่อข้าไม่อาจสมหวังได้ข้าก็ไม่มีอะไรต้องทำในศาลาโอสถสวรรค์นี้อีกต่อไปแล้ว”

อวดดีเหลือเกิน!

ช่างอวดดีเกินคำบรรยาย!

เหล่าคนทั้งหลายได้แต่เลิกคิ้วมองเย่หยวนอย่างไม่รู้จะพูดอย่างไร

ในยอดเมืองหลวงจักรพรรดิทองวาวนี้เป้าหมายที่นักหลอมโอสถทุกผู้คนต่างใฝ่ฝันมันก็คือตำแหน่งในศาลาโอสถสวรรค์

แต่เย่หยวนกลับไม่คิดสนใจมันเลยแม้แต่น้อย!

แต่แท้จริงแล้วเย่หยวนนั้นไม่ได้คิดจะทำตัวอวดดีใดๆ เพียงแค่ว่าสายตาของเขานั้นมันจ้องมองไปยังคนละระดับกับผู้คนทั้งหลายนี้

เหมือนที่จักรพรรดิเทพสวรรค์ไม่มาสนใจสมาคมใดๆ ของเทพถ่องแท้

เย่หยวนเองก็ไม่อาจจะมีความสนใจใดๆ ให้กับสมาคมเช่นนี้ได้เลย

แม้ว่าเย่หยวนนั้นจะยังไม่ขึ้นไปถึงอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์แต่เหล่านักหลอมโอสถสวรรค์ยาฟ้าที่อยู่ต่อหน้านี้มันก็ยังไม่อาจเทียบเขาได้

“เทพสวรรค์ผู้นี้รับคำท้าเจ้า” เวลานั้นเองที่มีเสียงหนึ่งดังกังวานขึ้นมา

นั่นทำให้ทุกผู้คนหน้าถอดสี นั่นมันเทพสวรรค์เปียวหยูหรือ?

“ท่านเปียวหยู!” เฉินหยู่ร้องขึ้นอย่างตื่นตกใจ

พวกเขาไม่นึกไม่ฝันว่าเทพสวรรค์เปียวหยูจะลงมารับคำท้าของเย่หยวนเองเช่นนี้!

“พวกเจ้าทั้งสามจงประลองกับเขาเสีย สหายหนุ่ม อย่างได้ทำให้เทพสวรรค์ผู้นี้ผิดหวังเล่า!”

พูดจบเสียงนั้นก็เงียบหายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

เมื่อเย่หยวนได้ยินเช่นนั้นความตื่นเต้นดีใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า

ดูท่าเรื่องราวที่เขาสร้างชื่อไว้ในศาลาโอสถสวรรค์ช่วงหลายเดือนมานี้มันจะไปสะดุดตาเทพสวรรค์เปียวหยูเข้า

เฉินหยู่ได้แต่สูดหายใจเข้าลึกก่อนจะบอก “เจ้าเด็กน้อย อย่าได้หลงความสำเร็จจนเกินตัว! พวกเรานั้นมิใช่ศัตรูที่เจ้าจะจัดการได้ง่ายๆ หรอก!”

เย่หยวนยกมือขึ้นคารวะด้วยรอยยิ้ม “ขอคำชี้แนะด้วย!”

บนสังเวียนนั้นสามนักหลอมโอสถสวรรค์ยาฟ้าต่างปล่อยคลื่นพลังอันแสนน่าหวาดกลัวออกมาปกคลุมไปทั่วโดยมีเย่หยวนอยู่ตรงกลาง

แต่ทว่าเย่หยวนนั้นไม่ได้มีท่าทีวิตกใดๆ เลย

สามนักหลอมโอสถสวรรค์ยาฟ้าร่วมมือกันแน่นอนว่ามันต้องกลายเป็นพลังที่มหาศาล พลังที่ยู่หยิงเคยปล่อยออกมานั้นมันไม่อาจเทียบได้แม้แต่น้อย

เพียงแค่ว่าแม้คนทั้งสามจะร่วมมือกันแล้วมันก็ยังไม่อาจหยุดเย่หยวนลงได้

คลื่นพลังของเขานั้นมันเหมือนน้ำที่อยู่ในเขื่อนยักษ์ไม่อาจจะหยุดได้ด้วยวิธีใดๆ

“เป็นไปได้อย่างไร? นี่มันสามผู้อาวุโสนักหลอมโอสถสวรรค์ยาฟ้าที่เก่งกาจที่สุดนะ ภายใต้ความร่วมมือของคนทั้งสามแล้วแม้แต่จอมเทพโอสถเจ็ดดาวก็ยังไม่กล้าปะทะพลังตรงๆ แต่เย่หยวนกลับยืนรับและเป็นฝ่ายกดดันได้แทน!”

“น่ากลัว! หรือว่าเจ้าเด็กคนนี้มันจะไม่มีขีดจำกัดเลย?”

“หรือว่าเจ้าเด็กคนนี้มันจะมีพลังฝีมือมากพอจะท้าทายท่านเปียวหยูจริง?”

ภายใต้การกดดันของเย่หยวนนี้มันจึงทำให้ทั้งสามนักหลอมโอสถสวรรค์ยาฟ้ามีเหงื่อหยดใหญ่ไหลลงมาจากหน้าผากด้วยท่าทางที่แสนเหนื่อยล้า

การแข่งหลอมโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับห้านั้นมันเป็นการวัดเรื่องความเข้าใจในโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับห้า ความเข้าใจในสมุนไพรวิญญาณระดับห้า และความเข้าใจในวิชาการหลอมโอสถ

ในด้านต่างๆ นี้เย่หยวนย่อมสามารถชนะนักหลอมโอสถสวรรค์ยาฟ้าทั้งสามได้อย่างขาดลอย

แม้ว่าพลังที่เย่หยวนใช้ออกมามันจะดูแผ่วเบาแต่แท้จริงแล้วมันมิใช่เลย

เป็นเวลานี้เองที่คนทั้งหลายได้เห็นพลังฝีมือที่แท้จริงของเย่หยวนและได้รู้ว่าเย่หยวนไปเอาความมั่นใจจากไหนมาท้าทายสามนักหลอมโอสถสวรรค์ยาฟ้าพร้อมๆ กัน

“หลอม!”

เย่หยวนร้องขึ้นพร้อมก่อโอสถ!

นั่นทำให้สามผู้อาวุโสต้องถอนหายใจราวกับว่าได้ยกเขาออกจากอก

ไม่นานผู้อาวุโสทั้งสามเองก็หลอมโอสถจนสำเร็จ

เมื่อพวกเขาเปิดหม้อหลอมออกดูผู้คนทั้งหลายก็ได้แต่ตกตะลึง!

“โอสถขั้นเทวะโมฆะ! ภายใต้แรงกดดันเช่นนั้นเย่หยวนกลับยังสามารถหลอมโอสถได้ถึงขั้นเทวะโมฆะ!”

โอสถของทางสามผู้อาวุโสนั้นหนึ่งเป็นขั้นสูง ส่วนอีกสองนั้นเป็นแค่ขั้นกลาง

มันมิใช่ว่าพวกเขาไม่มีปัญญาหลอมโอสถคุณภาพสูง แต่เป็นเพราะว่าพวกเขานั้นถูกเย่หยวนกดดันอยู่ตลอดจนไม่อาจแสดงพลังฝีมือที่แท้จริงออกมาได้

เย่หยวนชนะอีกครั้ง!

……………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+