Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 1940 ของขวัญจากผู้อาวุโส

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 1940 ของขวัญจากผู้อาวุโส at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

‘ครึ้ม ครึ้ม!’

คลื่นพลังจากการหลอมนั้นผ่าลงมาเป็นสายฟ้าเข้ากลางโถง

นั้นทำให้สีหน้าของทั้งเทพสวรรค์เปียวหยูและเย่หยวนเปลี่ยนไปในทันทีตราในฝ่ามือของพวกเขาเริ่มขยับอย่างรวดเร็ว

สายฟ้าอันทรงพลังเหล่านั้นสุดท้ายแล้วมันกลับถูกเทพสวรรค์เปียวหยูและเย่หยวนชักนำไปหาหม้อหลอมแทน

พริบตาต่อมาสายฟ้าก็ลงปะทะเข้ากับหม้อหลอมเจ้าเพลิงประณีตและหม้อหลอมมังกรจรจนส่งคลื่นพลังน่าขนลุกออกมา

“พวกเขา…พวกเขากำลังแย่งทุกข์โอสถกัน!” เซินชางร้องออกมาอย่างตื่นตะลึง

ในฐานะนักหลอมโอสถด้วยกันแล้วพวกเขาย่อมรู้ดีว่าทุกข์โอสถนี้มันรุนแรงเพียงแค่ไหน

ตามหลักการแล้วเมื่อนักหลอมโอสถพบเจ้าเข้ากับทุกข์โอสถพวกเขาจะต้องค่อยๆ ตอบสนองกลับไปอย่างระวังและรอบคอบ

แต่คนทั้งสองนี้กลับดึงเอาทุกข์โอสถมาช่วยหลอมตัวโอสถเสียอย่างนั้น!

และหากแค่ใช้มันช่วยหลอมยังพอว่าแต่ตอนนี้พวกเขาทั้งสองคนกำลังพยายามแย่งทุกข์โอสถนั้นกันราวกับว่ากลัวว่าจะมีทุกข์โอสถไม่พอเสียอย่างนั้น!

คนทั้งสองนี้มันบ้าคลั่งเกินบรรยาย!

เหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายนั้นได้แต่มองดูภาพตรงหน้านี้อย่างตื่นตะลึงไม่อาจจะหาคำใดมาบรรยาย

เมื่อสายฟ้านั้นผ่าลงเข้าสู่หม้อหลอมไปแล้วทางหม้อหลอมก็ยิ่งปล่อยพลังออกมาอย่างหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ จนดูท่าใกล้จะเสียการควบคุมเต็มที

‘แครก!’

ตอนนี้หม้อหลอมมังกรจรของเย่หยวนเริ่มค่อยๆ แตกสลายออก

เซินชางหน้าถอดสีในทันทีที่เห็น “จบแล้ว! พลังจากทุกข์โอสถมันรุนแรงจนเกินไปหม้อหลอมโอสถของเย่หยวนไม่อาจจะรับมันไว้ได้แล้ว แค่พลาดอีกครั้งเดียวหม้อนี้คงระเบิดออกแน่!”

เมื่อซือหยู่และชิงหยุนเห็นเช่นนั้นพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะแสดงใบหน้าตื่นเต้นดีใจออกมาทันที

“ฮ่าๆ เจ้าเด็กคนนี้มันแพ้แล้ว! ไม่มีปัญญาแม้แต่จะควบคุมหม้อหลอมของตนจะมาหลอมโอสถใดได้?” ชิงหยุนหัวเราะขึ้น

แต่เหล่าผู้อาวุโสขั้นยาฟ้าทั้งหลายนั้นได้แต่มองอย่างเงียบงันเพราะพวกเขารู้ดีว่ารอยแตกบนหม้อหลอมของเย่หยวนนี้มันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความไร้ฝีมือใดๆ

แม้ว่าทางฝั่งเทพสวรรค์เปียวอยู่เองก็จะใช้เพียงแค่สมบัตินภาสวรรค์เลิศล้ำเช่นกันแต่ว่าสมบัตินภาสวรรค์เลิศล้ำนี้มันถูกดูแลอย่างดีมานับล้านๆ ปีแน่นอนว่าพลังของมันย่อมเหนือล้ำอย่างที่หม้อหลอมของเย่หยวนไม่อาจต้านทานได้

คลื่นที่คนทั้งสองปล่อยออกมานี้มันคือสุดยอดที่การหลอมโอสถศักดิ์สิทธิ์ห้าดาวจะปล่อยออกมาได้ แน่นอนว่าพลังของทุกข์โอสถที่เกิดขึ้นนั้นมันย่อมเหนือล้ำกว่าที่หม้อหลอมสมบัตินภาสวรรค์เลิศล้ำใดๆ จะรับได้

แม้ว่าหม้อหลอมมังกรจรนี้เองก็จะเป็นสมบัตินภาสวรรค์เลิศล้ำที่ไม่เลว แต่มันก็ยังไม่แข็งแรงพอที่จะต้านทานพลังนี้

แต่ทว่าเย่หยวนนั้นไม่ได้มีท่าทางคิดยอมแพ้แม้แต่น้อยและยังคงตั้งสมาธิควบคุมหม้อหลอมนั้นอย่างเต็มที่พยายามหลอมโอสถต่อไป

เมื่อมังกรทั้งสองด้านบนยังต่อสู้กันต่อไปทุกข์โอสถที่ร่วงลงมาเองก็ยังพุ่งใส่หม้อหลอมโอสถอย่างไม่หยุดยั้ง

หม้อหลอมมังกรจรนั้นยิ่งแตกออกอย่างไม่อาจห้ามได้จนแทบจะแหลกสลายลง

ชิงหยุนนั้นนั่งเฝ้ารอว่าหม้อหลอมนั้นจะระเบิดออกเมื่อใดแต่ไม่ว่าจะรอนานไปเท่าใดหม้อหลอมมังกรจรนี้มันก็ยังไม่แสดงทีท่าว่าจะระเบิดออกมาเลย

“นี่มัน…เกิดอะไรขึ้น? หม้อหลอมโอสถของมันนั้นน่าจะถึงขีดจำกัดมานานแสนนานแล้ว แต่ทำไมมันยังไม่ระเบิดออกอีก?” ชิงหยุนร้องขึ้น

หม้อหลอมมังกรจรนั้นเต็มไปด้วยลายแตกร้าวจนไม่ว่าจะมองอย่างไรมันก็ต้องแตกออกแน่นอน หากดูตามปกติแล้วมันควรจะระเบิดออกไปนานแสนนานแล้วแต่หม้อหลอมนี้มันกลับไม่ยอมที่จะระเบิดออก!

เซินชางบอก “หม้อหลอมโอสถของเขามันได้ถึงขีดจำกัดไปแสนนานแล้ว แต่เย่หยวนนั้นใช้พลังยอดเต๋าของตนเพื่อรักษาสภาพของหม้อหลอมเอาไว้! พลังในการควบคุมหม้อหลอมของเขานี้มันขึ้นไปถึงขั้นไร้เทียมทานแล้ว!”

ซือหยู่และชิงหยุนนั้นหันมองหน้ากันอย่างที่พูดอะไรไม่ออก

เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้พบเจอผู้ที่สามารถควบคุมหม้อหลอมได้แข็งแกร่งถึงปานนี้

เรื่องเช่นนี้มนุษย์สามารถทำมันได้จริงๆ หรือ?”

‘ปัง!’

‘ปัง!’

‘ปัง!’

บนท้องฟ้าสูงนั้นเจ้ามังกรม่วงและมังกรขาวยังคงปะทะกันอย่างดุเดือดคลื่นพลังใดๆ ที่ปล่อยออกมาก็ยิ่งรุนแรงขึ้น

‘ปัง!’

จู่ๆ หลังจากเข้าปะทะกันอย่างรุนแรงอีกครั้งหนึ่งมังกรทั้งสองนั้นก็ได้ร่วงแตกสลายลง!

สองเงาร่างนั้นได้เปลี่ยนกลายเป็นก้อนแสงพร้อมๆ กัน

และในเวลานั้นเองที่ทั้งเทพสวรรค์เปียวหยูและเย่หยวนก็รู้สึกถึงแรงสะท้านเปิดดวงตาทั้งสองขึ้นพร้อมๆ กัน

ตอนนี้พลังที่เดิมทีกำลังปะทะกันอย่างรุนแรงกลับได้ผสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัว!

คลื่นพลังของเย่หยวนค่อยๆ กลายเป็นคลื่นพลังของเทพสวรรค์เปียวหยู ส่วนคลื่นพลังของเปียวหยูก็ได้ค่อยๆ ผสานเข้ากับเย่หยวน

ดูราวกับว่าโอสถทั้งสองเม็ดนี้มันกำลังจะรวมเข้าด้วยกัน!

เมื่อเหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายได้เห็นเช่นนั้นพวกเขาก็ได้แต่หันมามองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจว่ามันกำลังเกิดอะไรขึ้นกันแน่

“พวกเขาไม่ได้กำลังประลองกันอยู่หรือ? เหตุใดสู้กันมาตั้งนานสองนานสุดท้ายกลับเงียบลงสงบศึกแล้วผสานพลังกันเช่นนี้?” เฉินหยู่พูดขึ้นด้วยใบหน้ามึนงง

“นี่มันเรื่องอะไรกัน?” เซินชางเองก็มีใบหน้าที่มึนงงสงสัยไม่ต่างกันนัก

คลื่นพลังทั้งสองนี้มันหลอมรวมเข้ากันอย่างลงตัวจนสุดท้ายแทบกลายเป็นทะเลผืนเดียวกัน

ไม่นานนักคลื่นพลังของทั้งสองก็ผสานกันจนเข้าที่เป็นหนึ่งเดียว!

จากนั้นก็เกิดลมอันรุนแรงพัดออกมาจนเหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายต้องตัวปลิวไป

ในเวลานั้นหม้อหลอมของคนทั้งสองนี้ได้ส่องแสงประกายออกมาอย่างรุนแรง

‘หลอม!’

ในตอนนั้นเองที่เทพสวรรค์เปียวหยูและเย่หยวนได้ร้องขึ้นมาพร้อมๆ กัน

คลื่นอันรุนแรงนั้นถูกกดรวมในพริบตาเข้าไปสู่ภายในหม้อหลอมโอสถทั้งสอง

การหลอมโอสถสำเร็จลงแล้ว!

“ฮ่าๆ! ยอดเยี่ยมจริง!” เทพสวรรค์เปียวหยูหัวเราะขึ้นมาด้วยท่าทางสุดแสนพึงพอใจ

เพราะนี่เป็นครั้งแรกในรอบไม่รู้กี่ปีต่อกี่ปีที่เทพสวรรค์เปียวหยูได้ประลองอย่างดุเดือดเช่นนี้

แม้จะเป็นเหล่ายอดคนในหมู่จอมเทพโอสถเจ็ดดาวเองก็มีเพียงแค่ไม่กี่คนที่จะประมือกับเทพสวรรค์เปียวหยูได้

เย่หยวนนั้นพยายามหาคู่ต่อสู้ที่ทัดเทียมตัวได้ แล้วเทพสวรรค์เปียวหยูจะไม่รู้สึกเช่นนั้นหรือ?

การต่อสู้นี้เขาได้แสดงพลังอย่างเต็มที่

‘แครก แครก แครก’

เมื่อโอสถถูกหลอมสำเร็จเจ้าหม้อหลอมมังกรจรก็ไม่อาจคงรูปร่างได้อีกต่อไป แหลกสลายลงกลายเป็นฝุ่นผงในทันที

แค่นี้มันก็ชัดเจนแล้วว่าทุกข์โอสถที่ทั้งสองคนใช้นั้นมันเปี่ยมพลังมากแค่ไหน ถึงขั้นสามารถทำลายสมบัตินภาสวรรค์เลิศล้ำให้กลายเป็นผุยผงได้

เย่หยวนนั้นขยับตัวอย่างรวดเร็วและรีบเก็บโอสถลงใส่ขวดที่เตรียมไว้ก่อนหน้า

จากนั้นเย่หยวนก็ยกมือขึ้นคารวะเทพสวรรค์เปียวหยูทันที “ยินดีด้วยผู้อาวุโสเปียวหยู!”

เทพสวรรค์เปียวหยูนั้นยิ้มออกมาด้วยท่าทางสุดแสนสบายใจ “ต้องขอบคุณเจ้าแท้ๆ! หากไม่มีเจ้าแล้วเฒ่าคนนี้ก็คงไม่อาจก้าวขึ้นมาถึงจุดนี้ได้!”

เย่หยวนยิ้มตอบ “ผู้อาวุโสเปียวหยูท่านนั้นอยู่ในจุดนั้นก่อนแล้ว ท่านเพียงแค่ขาดคนที่จะประลองฝีมือด้วย ตอนนี้มันก็แค่ผลไม้ที่สุกร่วงจากต้น ต้องยินดีด้วยจริงๆ!”

เทพสวรรค์เปียวหยูยื่นมือออกมาเก็บโอสถลงไปจากนั้นก็ดันหม้อหลอมเจ้าเพลิงประณีตให้แก่เย่หยวนไป

“นี่คือหม้อหลอมเจ้าเพลิงประณีตที่ติดตามข้ามานับล้านปี ได้มาเจอเจ้าวันนี้ข้ามั่นใจเลยว่าเจ้าจะไม่ทำให้มันเสียค่าแน่! ข้ามอบมันให้เจ้า” เทพสวรรค์เปียวหยูยิ้มกว้าง

เย่หยวนเองก็ไม่คิดเกรงใจใดๆ เก็บหม้อหลอมเจ้าเพลิงประณีตลงไปพร้อมยกมือคารวะ “ขอบคุณท่านผู้อาวุโสเปียวหยู”

ด้วยการประลองนี้เย่หยวนย่อมได้รู้ถึงคุณสมบัติของหม้อหลอมเจ้าเพลิงประณีตอย่างชัดแจ้ง

ภายใต้พลังทุกข์โอสถนั้นหม้อหลอมเจ้าเพลิงประณีตนี้กลับไม่เกิดแม้แต่รอยขีดข่วน แค่นั้นมันก็มากพอจะตัดสินแล้ว

ไกลออกไปทุกผู้คนที่ได้ยินการสนทนานั้นต่างไม่อาจจะหุบปากที่อ้าค้างของตนลงได้

เพราะสิ่งที่เย่หยวนแสดงความยินดีนั้นพวกเขาทั้งหลายย่อมเข้าใจ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งซือหยู่และชิงหยุนที่ตอนนี้กำลังทำหน้าตาตื่นอย่างดีใจแทบจะลุกขึ้นกระโดดเต้น

“อาจารย์ ท่าน…ท่านบรรลุแล้ว?” ซือหยู่ถาม

เทพสวรรค์เปียวหยูยกมือขึ้นลูบหนวดยาวนั้นด้วยรอยยิ้ม “ใช่! จากวันนี้ไปอาจารย์เจ้าคงต้องเข้าเก็บตัว พวกเจ้าทั้งหลายอย่าได้มารบกวนข้า ตั้งแต่วันนี้ไปเย่หยวนนั้นจะเป็นผู้อาวุโสใหญ่แห่งศาลาโอสถสวรรค์ พวกเจ้าทั้งหลายจงเคารพผู้ใหญ่ เข้าใจหรือไม่?”

ทุกคนต่างกล่าวรับขึ้นมาพร้อมก้มหัวรับ “พวกเราขอน้อมรับคำสั่งท่านเปียวหยู!”

พูดจบเทพสวรรค์เปียวหยูก็เดินหายไปจากโถงทันที

เหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายได้แต่หันมามองหน้ากันอย่างไม่อาจเข้าใจ ราวกับว่าตัวเองยังคงไม่ได้รับคำตอบที่สำคัญที่สุด

สรุปแล้วศึกนี้ใครชนะกัน?

………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 1940 ของขวัญจากผู้อาวุโส

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 1940 ของขวัญจากผู้อาวุโส at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

‘ครึ้ม ครึ้ม!’

คลื่นพลังจากการหลอมนั้นผ่าลงมาเป็นสายฟ้าเข้ากลางโถง

นั้นทำให้สีหน้าของทั้งเทพสวรรค์เปียวหยูและเย่หยวนเปลี่ยนไปในทันทีตราในฝ่ามือของพวกเขาเริ่มขยับอย่างรวดเร็ว

สายฟ้าอันทรงพลังเหล่านั้นสุดท้ายแล้วมันกลับถูกเทพสวรรค์เปียวหยูและเย่หยวนชักนำไปหาหม้อหลอมแทน

พริบตาต่อมาสายฟ้าก็ลงปะทะเข้ากับหม้อหลอมเจ้าเพลิงประณีตและหม้อหลอมมังกรจรจนส่งคลื่นพลังน่าขนลุกออกมา

“พวกเขา…พวกเขากำลังแย่งทุกข์โอสถกัน!” เซินชางร้องออกมาอย่างตื่นตะลึง

ในฐานะนักหลอมโอสถด้วยกันแล้วพวกเขาย่อมรู้ดีว่าทุกข์โอสถนี้มันรุนแรงเพียงแค่ไหน

ตามหลักการแล้วเมื่อนักหลอมโอสถพบเจ้าเข้ากับทุกข์โอสถพวกเขาจะต้องค่อยๆ ตอบสนองกลับไปอย่างระวังและรอบคอบ

แต่คนทั้งสองนี้กลับดึงเอาทุกข์โอสถมาช่วยหลอมตัวโอสถเสียอย่างนั้น!

และหากแค่ใช้มันช่วยหลอมยังพอว่าแต่ตอนนี้พวกเขาทั้งสองคนกำลังพยายามแย่งทุกข์โอสถนั้นกันราวกับว่ากลัวว่าจะมีทุกข์โอสถไม่พอเสียอย่างนั้น!

คนทั้งสองนี้มันบ้าคลั่งเกินบรรยาย!

เหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายนั้นได้แต่มองดูภาพตรงหน้านี้อย่างตื่นตะลึงไม่อาจจะหาคำใดมาบรรยาย

เมื่อสายฟ้านั้นผ่าลงเข้าสู่หม้อหลอมไปแล้วทางหม้อหลอมก็ยิ่งปล่อยพลังออกมาอย่างหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ จนดูท่าใกล้จะเสียการควบคุมเต็มที

‘แครก!’

ตอนนี้หม้อหลอมมังกรจรของเย่หยวนเริ่มค่อยๆ แตกสลายออก

เซินชางหน้าถอดสีในทันทีที่เห็น “จบแล้ว! พลังจากทุกข์โอสถมันรุนแรงจนเกินไปหม้อหลอมโอสถของเย่หยวนไม่อาจจะรับมันไว้ได้แล้ว แค่พลาดอีกครั้งเดียวหม้อนี้คงระเบิดออกแน่!”

เมื่อซือหยู่และชิงหยุนเห็นเช่นนั้นพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะแสดงใบหน้าตื่นเต้นดีใจออกมาทันที

“ฮ่าๆ เจ้าเด็กคนนี้มันแพ้แล้ว! ไม่มีปัญญาแม้แต่จะควบคุมหม้อหลอมของตนจะมาหลอมโอสถใดได้?” ชิงหยุนหัวเราะขึ้น

แต่เหล่าผู้อาวุโสขั้นยาฟ้าทั้งหลายนั้นได้แต่มองอย่างเงียบงันเพราะพวกเขารู้ดีว่ารอยแตกบนหม้อหลอมของเย่หยวนนี้มันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความไร้ฝีมือใดๆ

แม้ว่าทางฝั่งเทพสวรรค์เปียวอยู่เองก็จะใช้เพียงแค่สมบัตินภาสวรรค์เลิศล้ำเช่นกันแต่ว่าสมบัตินภาสวรรค์เลิศล้ำนี้มันถูกดูแลอย่างดีมานับล้านๆ ปีแน่นอนว่าพลังของมันย่อมเหนือล้ำอย่างที่หม้อหลอมของเย่หยวนไม่อาจต้านทานได้

คลื่นที่คนทั้งสองปล่อยออกมานี้มันคือสุดยอดที่การหลอมโอสถศักดิ์สิทธิ์ห้าดาวจะปล่อยออกมาได้ แน่นอนว่าพลังของทุกข์โอสถที่เกิดขึ้นนั้นมันย่อมเหนือล้ำกว่าที่หม้อหลอมสมบัตินภาสวรรค์เลิศล้ำใดๆ จะรับได้

แม้ว่าหม้อหลอมมังกรจรนี้เองก็จะเป็นสมบัตินภาสวรรค์เลิศล้ำที่ไม่เลว แต่มันก็ยังไม่แข็งแรงพอที่จะต้านทานพลังนี้

แต่ทว่าเย่หยวนนั้นไม่ได้มีท่าทางคิดยอมแพ้แม้แต่น้อยและยังคงตั้งสมาธิควบคุมหม้อหลอมนั้นอย่างเต็มที่พยายามหลอมโอสถต่อไป

เมื่อมังกรทั้งสองด้านบนยังต่อสู้กันต่อไปทุกข์โอสถที่ร่วงลงมาเองก็ยังพุ่งใส่หม้อหลอมโอสถอย่างไม่หยุดยั้ง

หม้อหลอมมังกรจรนั้นยิ่งแตกออกอย่างไม่อาจห้ามได้จนแทบจะแหลกสลายลง

ชิงหยุนนั้นนั่งเฝ้ารอว่าหม้อหลอมนั้นจะระเบิดออกเมื่อใดแต่ไม่ว่าจะรอนานไปเท่าใดหม้อหลอมมังกรจรนี้มันก็ยังไม่แสดงทีท่าว่าจะระเบิดออกมาเลย

“นี่มัน…เกิดอะไรขึ้น? หม้อหลอมโอสถของมันนั้นน่าจะถึงขีดจำกัดมานานแสนนานแล้ว แต่ทำไมมันยังไม่ระเบิดออกอีก?” ชิงหยุนร้องขึ้น

หม้อหลอมมังกรจรนั้นเต็มไปด้วยลายแตกร้าวจนไม่ว่าจะมองอย่างไรมันก็ต้องแตกออกแน่นอน หากดูตามปกติแล้วมันควรจะระเบิดออกไปนานแสนนานแล้วแต่หม้อหลอมนี้มันกลับไม่ยอมที่จะระเบิดออก!

เซินชางบอก “หม้อหลอมโอสถของเขามันได้ถึงขีดจำกัดไปแสนนานแล้ว แต่เย่หยวนนั้นใช้พลังยอดเต๋าของตนเพื่อรักษาสภาพของหม้อหลอมเอาไว้! พลังในการควบคุมหม้อหลอมของเขานี้มันขึ้นไปถึงขั้นไร้เทียมทานแล้ว!”

ซือหยู่และชิงหยุนนั้นหันมองหน้ากันอย่างที่พูดอะไรไม่ออก

เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้พบเจอผู้ที่สามารถควบคุมหม้อหลอมได้แข็งแกร่งถึงปานนี้

เรื่องเช่นนี้มนุษย์สามารถทำมันได้จริงๆ หรือ?”

‘ปัง!’

‘ปัง!’

‘ปัง!’

บนท้องฟ้าสูงนั้นเจ้ามังกรม่วงและมังกรขาวยังคงปะทะกันอย่างดุเดือดคลื่นพลังใดๆ ที่ปล่อยออกมาก็ยิ่งรุนแรงขึ้น

‘ปัง!’

จู่ๆ หลังจากเข้าปะทะกันอย่างรุนแรงอีกครั้งหนึ่งมังกรทั้งสองนั้นก็ได้ร่วงแตกสลายลง!

สองเงาร่างนั้นได้เปลี่ยนกลายเป็นก้อนแสงพร้อมๆ กัน

และในเวลานั้นเองที่ทั้งเทพสวรรค์เปียวหยูและเย่หยวนก็รู้สึกถึงแรงสะท้านเปิดดวงตาทั้งสองขึ้นพร้อมๆ กัน

ตอนนี้พลังที่เดิมทีกำลังปะทะกันอย่างรุนแรงกลับได้ผสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัว!

คลื่นพลังของเย่หยวนค่อยๆ กลายเป็นคลื่นพลังของเทพสวรรค์เปียวหยู ส่วนคลื่นพลังของเปียวหยูก็ได้ค่อยๆ ผสานเข้ากับเย่หยวน

ดูราวกับว่าโอสถทั้งสองเม็ดนี้มันกำลังจะรวมเข้าด้วยกัน!

เมื่อเหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายได้เห็นเช่นนั้นพวกเขาก็ได้แต่หันมามองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจว่ามันกำลังเกิดอะไรขึ้นกันแน่

“พวกเขาไม่ได้กำลังประลองกันอยู่หรือ? เหตุใดสู้กันมาตั้งนานสองนานสุดท้ายกลับเงียบลงสงบศึกแล้วผสานพลังกันเช่นนี้?” เฉินหยู่พูดขึ้นด้วยใบหน้ามึนงง

“นี่มันเรื่องอะไรกัน?” เซินชางเองก็มีใบหน้าที่มึนงงสงสัยไม่ต่างกันนัก

คลื่นพลังทั้งสองนี้มันหลอมรวมเข้ากันอย่างลงตัวจนสุดท้ายแทบกลายเป็นทะเลผืนเดียวกัน

ไม่นานนักคลื่นพลังของทั้งสองก็ผสานกันจนเข้าที่เป็นหนึ่งเดียว!

จากนั้นก็เกิดลมอันรุนแรงพัดออกมาจนเหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายต้องตัวปลิวไป

ในเวลานั้นหม้อหลอมของคนทั้งสองนี้ได้ส่องแสงประกายออกมาอย่างรุนแรง

‘หลอม!’

ในตอนนั้นเองที่เทพสวรรค์เปียวหยูและเย่หยวนได้ร้องขึ้นมาพร้อมๆ กัน

คลื่นอันรุนแรงนั้นถูกกดรวมในพริบตาเข้าไปสู่ภายในหม้อหลอมโอสถทั้งสอง

การหลอมโอสถสำเร็จลงแล้ว!

“ฮ่าๆ! ยอดเยี่ยมจริง!” เทพสวรรค์เปียวหยูหัวเราะขึ้นมาด้วยท่าทางสุดแสนพึงพอใจ

เพราะนี่เป็นครั้งแรกในรอบไม่รู้กี่ปีต่อกี่ปีที่เทพสวรรค์เปียวหยูได้ประลองอย่างดุเดือดเช่นนี้

แม้จะเป็นเหล่ายอดคนในหมู่จอมเทพโอสถเจ็ดดาวเองก็มีเพียงแค่ไม่กี่คนที่จะประมือกับเทพสวรรค์เปียวหยูได้

เย่หยวนนั้นพยายามหาคู่ต่อสู้ที่ทัดเทียมตัวได้ แล้วเทพสวรรค์เปียวหยูจะไม่รู้สึกเช่นนั้นหรือ?

การต่อสู้นี้เขาได้แสดงพลังอย่างเต็มที่

‘แครก แครก แครก’

เมื่อโอสถถูกหลอมสำเร็จเจ้าหม้อหลอมมังกรจรก็ไม่อาจคงรูปร่างได้อีกต่อไป แหลกสลายลงกลายเป็นฝุ่นผงในทันที

แค่นี้มันก็ชัดเจนแล้วว่าทุกข์โอสถที่ทั้งสองคนใช้นั้นมันเปี่ยมพลังมากแค่ไหน ถึงขั้นสามารถทำลายสมบัตินภาสวรรค์เลิศล้ำให้กลายเป็นผุยผงได้

เย่หยวนนั้นขยับตัวอย่างรวดเร็วและรีบเก็บโอสถลงใส่ขวดที่เตรียมไว้ก่อนหน้า

จากนั้นเย่หยวนก็ยกมือขึ้นคารวะเทพสวรรค์เปียวหยูทันที “ยินดีด้วยผู้อาวุโสเปียวหยู!”

เทพสวรรค์เปียวหยูนั้นยิ้มออกมาด้วยท่าทางสุดแสนสบายใจ “ต้องขอบคุณเจ้าแท้ๆ! หากไม่มีเจ้าแล้วเฒ่าคนนี้ก็คงไม่อาจก้าวขึ้นมาถึงจุดนี้ได้!”

เย่หยวนยิ้มตอบ “ผู้อาวุโสเปียวหยูท่านนั้นอยู่ในจุดนั้นก่อนแล้ว ท่านเพียงแค่ขาดคนที่จะประลองฝีมือด้วย ตอนนี้มันก็แค่ผลไม้ที่สุกร่วงจากต้น ต้องยินดีด้วยจริงๆ!”

เทพสวรรค์เปียวหยูยื่นมือออกมาเก็บโอสถลงไปจากนั้นก็ดันหม้อหลอมเจ้าเพลิงประณีตให้แก่เย่หยวนไป

“นี่คือหม้อหลอมเจ้าเพลิงประณีตที่ติดตามข้ามานับล้านปี ได้มาเจอเจ้าวันนี้ข้ามั่นใจเลยว่าเจ้าจะไม่ทำให้มันเสียค่าแน่! ข้ามอบมันให้เจ้า” เทพสวรรค์เปียวหยูยิ้มกว้าง

เย่หยวนเองก็ไม่คิดเกรงใจใดๆ เก็บหม้อหลอมเจ้าเพลิงประณีตลงไปพร้อมยกมือคารวะ “ขอบคุณท่านผู้อาวุโสเปียวหยู”

ด้วยการประลองนี้เย่หยวนย่อมได้รู้ถึงคุณสมบัติของหม้อหลอมเจ้าเพลิงประณีตอย่างชัดแจ้ง

ภายใต้พลังทุกข์โอสถนั้นหม้อหลอมเจ้าเพลิงประณีตนี้กลับไม่เกิดแม้แต่รอยขีดข่วน แค่นั้นมันก็มากพอจะตัดสินแล้ว

ไกลออกไปทุกผู้คนที่ได้ยินการสนทนานั้นต่างไม่อาจจะหุบปากที่อ้าค้างของตนลงได้

เพราะสิ่งที่เย่หยวนแสดงความยินดีนั้นพวกเขาทั้งหลายย่อมเข้าใจ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งซือหยู่และชิงหยุนที่ตอนนี้กำลังทำหน้าตาตื่นอย่างดีใจแทบจะลุกขึ้นกระโดดเต้น

“อาจารย์ ท่าน…ท่านบรรลุแล้ว?” ซือหยู่ถาม

เทพสวรรค์เปียวหยูยกมือขึ้นลูบหนวดยาวนั้นด้วยรอยยิ้ม “ใช่! จากวันนี้ไปอาจารย์เจ้าคงต้องเข้าเก็บตัว พวกเจ้าทั้งหลายอย่าได้มารบกวนข้า ตั้งแต่วันนี้ไปเย่หยวนนั้นจะเป็นผู้อาวุโสใหญ่แห่งศาลาโอสถสวรรค์ พวกเจ้าทั้งหลายจงเคารพผู้ใหญ่ เข้าใจหรือไม่?”

ทุกคนต่างกล่าวรับขึ้นมาพร้อมก้มหัวรับ “พวกเราขอน้อมรับคำสั่งท่านเปียวหยู!”

พูดจบเทพสวรรค์เปียวหยูก็เดินหายไปจากโถงทันที

เหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายได้แต่หันมามองหน้ากันอย่างไม่อาจเข้าใจ ราวกับว่าตัวเองยังคงไม่ได้รับคำตอบที่สำคัญที่สุด

สรุปแล้วศึกนี้ใครชนะกัน?

………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+