Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 1954 ความกังวล

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 1954 ความกังวล at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

คนทั้งหลายนี้ล้วนมีความเกี่ยวข้องกับเย่หยวนทั้งสิ้น

ในเวลาหลายปีมานี้ชื่อของเย่หยวนแห่งเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์มันได้แพร่กระจายไปทั่วหล้า

หลายค่ายสำนักต่างเดินทางกันมาเพื่อขอให้เย่หยวนช่วยหลอมโอสถให้

และก็เพราะเช่นนั้นเองที่ทำให้เย่หยวนได้รู้จักมักคุ้นกับเทพถ่องแท้มากมายหลายคน

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียในเวลานี้นักยุทธนภาสวรรค์ทั้งหลายก็ไม่อาจกล้าจะมาขอให้เย่หยวนหลอมโอสถให้อีกต่อไปแล้ว

ในช่วงเวลานั้นเองที่เย่หยวนได้เจอเทพถ่องแท้ที่พอไว้วางใจได้และขอแรงช่วยเหลือจากทางหอมหาสมบัติไป จึงได้วางแผนการกำจัดระเบิดเวลาลูกนี้ทิ้งไป

นี่แหละคือกำลังที่แท้จริงของนักหลอมโอสถ!

ตัวพวกเขาทั้งหลายนั้นอาจจะไม่เก่งกาจมากมาย แต่พวกเขานั้นมีเส้นสายที่มากมาย สหายที่แข็งแกร่ง

หากมีใครคิดต่อแยหาเรื่องพวกเขาแล้วผลที่ตามมามันย่อมไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย

ที่สำคัญเย่หยวนนั้นยังเป็นถึงผู้อาวุโสใหญ่แห่งศาลาโอสถสวรรค์

ตำแหน่งนี้มันไม่ได้แค่ยิ่งใหญ่ในหมู่หอมหาสมบัติแต่มันยังแสดงถึงพลังฝีมือที่เหนือล้ำของเขา

การที่สามารถก้าวข้ามเหล่าอสูรโอสถเฒ่าทั้งหลายนั้นขึ้นมาเป็นผู้อาวุโสใหญ่ได้มันย่อมทำให้ไม่มีใครกล้าสงสัยในความแข็งแกร่งของเย่หยวน

ต้วนยี่นั้นบอกกล่าวขึ้น “ผู้อาวุโสเย่เองก็ถ่อมตัวเกินไป! เรื่องเหล่านี้ข้าได้ตรวจสอบดูแล้วทางหยิงเฟิงมันนั้นก็มีของดีติดตัวอยู่มาก เมื่อเรากำจัดมันลงได้เราก็ย่อมจะได้ประโยชน์กันถ้วนหน้า!”

ประตูวิญญาณมรณาสาขาเก้ามั่นนี้ได้ทำการปล้นชิงผู้คนมามากมายในเวลาหลายต่อหลายปีที่ผ่านๆ มา

และคนทั้งหลายที่ถูกปล้นชิงมานั้นก็ล้วนแล้วแต่เป็นยอดฝีมือเทพถ่องแท้ทั้งสิ้น

การจัดการล้างบางเหล่าโจรในครั้งนี้มันย่อมหมายความว่าแม้แต่เหล่าเทพถ่องแท้ทั้งหลายก็จะยังได้อะไรติดไม้ติดมือกลับไป

เย่หยวนนั้นเข้าใจในเรื่องนั้นตั้งแต่ต้นจึงได้สัญญาว่าจะไม่เอาสิ่งของใดๆ และมอบสิ่งของทั้งหลายนั้นให้แก่เหล่าเทพถ่องแท้

“หึๆ นี่คือสิ่งที่ทุกท่านสมควรได้รับ! เย่ผู้นี้รู้ดีว่าการเข้าโจมตีประตูวิญญาณมรณาเช่นนี้มันคงทำให้ทุกท่านเป็นกังวลไม่น้อย เพราะฉะนั้นเรื่องราวในครั้งนี้เย่ผู้นี้จึงจะรับผิดชอบมันเอง หลังจากวันนี้ไปขอให้ทุกท่านเก็บเรื่องราวให้มิดชิด คิดเสียว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น เรื่องราวที่ตามมาภายหลังนั้นเย่ผู้นี้จะรับมันไว้ทั้งหมดสิ้น!” เย่หยวนยกมือขึ้นคารวะและกล่าวบอกเหล่ายอดฝีมือ

ทุกผู้คนที่ได้ยินเช่นนั้นต่างแสดงสีหน้าชื่นชมออกมาในความกล้าหาญของเย่หยวน

เพราะกองกำลังของประตูวิญญาณมรณาเป็นกองกำลังเช่นใดนั้นพวกเขาย่อมรับรู้ดี

เหตุผลที่พวกเขาทั้งหลายกล้าเข้าโจมตีประตูวิญญาณมรณาครั้งนี้มันก็เป็นเพราะแผนการอันแยบยลของเย่หยวน ทำให้ทางประตูวิญญาณมรณาไม่รับรู้ว่าพวกเขาทั้งหลายนั้นเป็นคนทำลายสาขานี้ลง

เพราะหากอีกฝ่ายรู้ถึงเรื่องราวในวันนี้ต่อให้มีกี่ชีวิตมันก็คงไม่พอที่จะหลบหนีการแก้แค้นของประตูวิญญาณมรณาได้

การทำลายสาขาที่ใหญ่ระดับนี้ของประตูวิญญาณมรณาลงมันย่อมทำให้เกิดเรื่องราวยิ่งใหญ่ตามมา

เหล่าคนของประตูวิญญาณมรณานั้นมันเป็นผู้คนที่ยากจะคาดเดา

ยอดฝีมือคนอื่นๆ อาจจะไม่สามารถตรวจสอบได้ แต่สุดท้ายประตูวิญญาณมรณาก็รู้ดีว่าเย่หยวนมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องอย่างแน่นอน

และหากทางประตูวิญญาณมรณาคิดทำอะไรเย่หยวนแล้ว มันก็คงเป็นเรื่องยากเย็นที่จะป้องกันมัน

เพียงแค่ว่าเย่หยวนนั้นทำการจับมัดรวมและล้างบางสาขาเก้ามั่นนี้ลงในคราเดียว มันต้องทำให้ทางประตูวิญญาณมรณาสะท้านและไม่กล้าลงมือกับเย่หยวนอย่างผลีผลามแน่นอน

การทำลายสาขาหนึ่งลงอย่างสิ้นซากเช่นนี้มันเป็นเรื่องราวที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับประตูวิญญาณมรณามาก่อน

ต้วนยี่ยกมือขึ้นมาคารวะตอบเย่หยวน “ผู้อาวุโสเย่มีน้ำใจเปรียบดั่งท้องนภาเราล้วนได้ยินมันมานาน เรื่องราวของประตูวิญญาณมรณาในครานี้เราเองก็จะไม่ปิดบังใดๆ แต่พวกเราล้วนเกรงกลัวว่ามันจะมาแก้แค้น เพียงแค่ว่าหากทำอย่างที่ท่านว่าแล้วเรื่องราวของผู้อาวุโสเย่และประตูวิญญาณมรณาก็จะยิ่งแตกหักกันไปใหญ่ วันหน้าทำการใดขอท่านโปรดระมัดระวัง”

เย่หยวนพยักหน้าออกมารับ “วางใจเถิด เย่ผู้นี้พอมีแผนรับมืออยู่บ้าง”

ต้วนยี่พยักหน้ารับและกล่าว “ในเมื่อเรื่องราวทั้งหลายเสร็จสิ้นแล้วเราก็ควรแยกกันกลับไปดีกว่า ในวันหน้าหากผู้อาวุโสเย่มีเรื่องใดให้รับใช้โปรดเรียกหาเราได้”

พูดจบคนทั้งหลายก็แยกย้ายกันไปตามทางของตน

เมื่อกลับมาถึงเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์เย่หยวนก็ได้สั่งโซชูเจียให้จัดการประหารห้านักฆ่าจากประตูวิญญาณมรณาต่อหน้าสาธารณะเพื่อเป็นการเซ่นไหว้ดวงวิญญาณของผู้คนที่ล้มตายไป

เรื่องราวนี้เหล่าชาวเมืองทั้งหลายต่างโห่ร้องปรบมือด้วยความปลาบปลื้ม

ภายในเมืองมีเสียงโห่ร้องดังสนั่น สนับสนุนชื่นชมเย่หยวนจนลั่นฟ้า

และเรื่องราวที่ประตูวิญญาณมรณาสาขาเก้ามั่นถูกทำลายลงมันก็ไปถึงหูของประตูวิญญาณมรณาอย่างรวดเร็ว

ภายในจวนเจ้าเมืองของยอดเมืองหลวงจักรพรรดิหนึ่งมีชายชุดดำกำลังนั่งลงคุกเข่าต่อหน้าชายวัยกลางคนในชุดสวยหรู

ชายวัยกลางคนผู้นี้มีคลื่นพลังที่ลึกล้ำและสูงส่ง มันเป็นพลังที่ดูเหนือล้ำเสียยิ่งกว่าเทพถ่องแท้ใดๆ

เพราะคนผู้นี้แท้จริงแล้วเป็นถึงเทพสวรรค์!

ไม่มีใครคาดฝันว่าแท้จริงแล้วเจ้าเมืองผู้นี้จะเป็นหนึ่งในสมาชิกของประตูวิญญาณมรณา!

ชายชุดดำนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยท่าทางโผงผาง “ท่านฉัวยู่ สาขาเก้ามั่นนั้นเป็นหนึ่งในสาขาระดับต้นๆ ในหมู่สาขาใหญ่ของเรา การที่ทั้งสาขาถูกทำลายสิ้นเช่นนี้มันเหมือนเป็นคำดูถูกแก่ประตูวิญญาณมรณาอย่างมาก! เราต้องทำลายกำจัดเย่หยวนผู้นี้ลงให้ได้!”

สาขาเก้ามั่นนั้นเป็นหนึ่งในสาขาใต้การดูแลของเขา การที่สาขาเก้ามั่นนั้นถูกทำลายลงอย่างเงียบงันเหมือนได้หายไปกับสายลมนี้มันทำให้เขาทั้งอับอายและโกรธแค้น

พวกเขานั้นกังวลกันอย่างมาก สงสัยว่าต้องเป็นกำลังเช่นใดจึงจะสามารถทำลายสาขาเก้ามั่นทั้งสาขาลงได้ในคราเดียวอย่างไร้ร่องรอย

และเขาก็โกรธแค้นอย่างมากเพราะเรื่องราวเช่นนี้มันเหมือนประตูวิญญาณมรณาของเขาถูกลูบคม

ชายวัยกลางคนนั้นลุกขึ้นยืนด้วยมือไขว้หลัง มีท่าทางสงบนิ่งอย่างมากก่อนจะบอก “เรื่องราวจบลงเท่านี้”

นั่นทำให้ชายชุดดำสะดุ้งขึ้นทันที ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่คิดอยากเชื่อหูของตน “ท่านฉัวยู่ จะ… จะปล่อยเรื่องจบลงเท่านี้หรือ? สาขาเก้ามั่นนั้นมันมียอดฝีมือเทพถ่องแท้กว่าสิบคนเชียวนะที่เราต้องเสียไป!”

เทพถ่องแท้นั้นเป็นกำลังสำคัญของทุกกองกำลังค่ายสำนัก

และทรัพยากรและเวลาที่ต้องใช้กว่าจะชุบเลี้ยงเทพถ่องแท้ขึ้นมาได้แต่ละคนนั้นมันก็มากมายมหาศาล

เว้นเสียแต่ว่าจะเป็นยอดอัจฉริยะจากวังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์แล้ว คนทั้งหลายย่อมต้องใช้เวลานับหมื่นๆ ปีหรืออาจจะถึงแสนปีในการก้าวขึ้นสู่อาณาจักรเทพถ่องแท้

และเมื่อรวมเวลาและทรัพยากรของเทพถ่องแท้กว่าสิบคนเข้าด้วยกัน มันจะคิดเป็นความสูญเสียที่มากมายเพียงใด?

เรื่องนั้นมันไม่อาจวัดได้เลย!

ชายชุดดำผู้นี้คิดอยากจะกัดกินเลือดเนื้อเย่หยวนให้ได้

แต่ทางฉัวยู่กลับบอกให้ปล่อยเรื่องนี้ไป!

ฉัวยู่บอกขึ้น “เรื่องครั้งนี้ข้าได้รายงานให้เบื้องบนรับทราบแล้ว พวกเขาเองก็บอกมาด้วยว่าเรื่องราวในครั้งนี้เป็นความผิดพลาดทางข้อมูลของเราเอง ค่ายสำนักที่หนุนหลังเย่หยวนผู้นี้อยู่มันอาจจะเหนือล้ำกว่าที่เราคาดคิดไปมาก เราจะไปยุ่งกับเขาอีกไม่ได้! ไม่เช่นนั้นผลที่ตามมามันอาจจะใหญ่เกินกว่าที่รับไหว!”

ชายชุดดำนั้นยังคงแสดงสีหน้าไม่ยอมรับออกมา “แม้จะไม่นับเหล่าเทพถ่องแท้ขั้นต้นทั้งหลายแต่สาขาเก้ามั่นนั้นมีทั้งเทพถ่องแท้แปดดาว เทพถ่องแท้เจ็ดดาวสองคน เทพถ่องแท้หกดาวอีกห้าคน หรือท่านจะบอกว่า… คนทั้งหลายนี้ต้องตายเปล่า?”

“ประตูวิญญาณมรณาของเรานั้นเป็นต้นไม้ใหญ่ที่มีศัตรูรอบด้าน ค่ายสำนักมากมายต่างหมายตาคิดทำลายเราลง หากผู้คนสูญเสียไป เราก็ยังเลี้ยงดูใหม่ได้ แต่หากเรื่องราวมันใหญ่โตมากขึ้นแล้ว มันอาจจะทำลายรากฐานของประตูวิญญาณมรณาจนสิ้น เจ้าจะรับผิดชอบผลของมันไว้ได้หรือไม่?” ฉัวยู่ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง

ชายชุดทำได้แต่เงียบปากลงด้วยกายสั่นเทา

ฉัวยู่กล่าวต่อ “การที่สามารถทำลายสาขาระดับสูงเช่นนี้ได้โดยไม่มีใครรับรู้เรื่องราว เจ้าลองคิดดูเถิดว่าจะต้องใช้กองกำลังที่แข็งแกร่งเพียงใด?! ก่อนจะสืบสาวเรื่องราวของเย่หยวนให้แน่ชัด เราจะยังไม่แตะต้องตัวเขา เข้าใจไหม?”

การทำลายฐานและการล้างบางนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ความยากง่ายของมันนั้นไม่อาจเอามาวัดเทียบกันได้

ในประวัติศาสตร์อันยาวนานของประตูวิญญาณมรณา มันมีมากมายหลายครั้งที่ฐานของพวกเขาถูกเปิดเผยและสุดท้ายก็ถูกกำจัดลง

เพียงแค่ว่าเหล่ายอดคนในประตูวิญญาณมรณานั้นเก่งกาจ ต่อให้ฐานจะถูกโจมตีพวกเขาก็แค่เสียยอดฝีมือไปส่วนหนึ่ง

ต่อให้มันจะถูกโจมตีรุนแรงเพียงใดมันก็อาจจะแค่หนึ่งหรือสอง อย่างมากๆ ก็คงไม่เกินสี่ยอดฝีมือที่จะตายลง

แต่ในครั้งนี้ยอดฝีมือเทพถ่องแท้กว่าสิบคนนั้นได้ถูกล้างบางจนสิ้น ไม่มีแม้แต่นักฆ่านภาสวรรค์คนใดที่หลบรอดออกไปได้

ค่ายสำนักที่ทำได้ถึงขั้นนี้ในมหาพิภพถงเทียนมันมีอยู่ไม่มาก!

ที่สำคัญการต่อสู้นี้ยังไร้ซึ่งร่องรอยข่าวคราว เรื่องที่ว่าพวกหยิงเฟิงตายลงอย่างไรนั้นไม่มีใครรับรู้ได้

วิธีการที่แสนแยบยลเช่นนี้ต่อให้เป็นตัวฉัวยู่เองก็ยังไม่อาจคาดคิดได้

หาเรื่องเย่หยวนต่อไป?

มันจะต่างอะไรจากการรนหาที่ตายเล่า?

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 1954 ความกังวล

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 1954 ความกังวล at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

คนทั้งหลายนี้ล้วนมีความเกี่ยวข้องกับเย่หยวนทั้งสิ้น

ในเวลาหลายปีมานี้ชื่อของเย่หยวนแห่งเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์มันได้แพร่กระจายไปทั่วหล้า

หลายค่ายสำนักต่างเดินทางกันมาเพื่อขอให้เย่หยวนช่วยหลอมโอสถให้

และก็เพราะเช่นนั้นเองที่ทำให้เย่หยวนได้รู้จักมักคุ้นกับเทพถ่องแท้มากมายหลายคน

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียในเวลานี้นักยุทธนภาสวรรค์ทั้งหลายก็ไม่อาจกล้าจะมาขอให้เย่หยวนหลอมโอสถให้อีกต่อไปแล้ว

ในช่วงเวลานั้นเองที่เย่หยวนได้เจอเทพถ่องแท้ที่พอไว้วางใจได้และขอแรงช่วยเหลือจากทางหอมหาสมบัติไป จึงได้วางแผนการกำจัดระเบิดเวลาลูกนี้ทิ้งไป

นี่แหละคือกำลังที่แท้จริงของนักหลอมโอสถ!

ตัวพวกเขาทั้งหลายนั้นอาจจะไม่เก่งกาจมากมาย แต่พวกเขานั้นมีเส้นสายที่มากมาย สหายที่แข็งแกร่ง

หากมีใครคิดต่อแยหาเรื่องพวกเขาแล้วผลที่ตามมามันย่อมไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย

ที่สำคัญเย่หยวนนั้นยังเป็นถึงผู้อาวุโสใหญ่แห่งศาลาโอสถสวรรค์

ตำแหน่งนี้มันไม่ได้แค่ยิ่งใหญ่ในหมู่หอมหาสมบัติแต่มันยังแสดงถึงพลังฝีมือที่เหนือล้ำของเขา

การที่สามารถก้าวข้ามเหล่าอสูรโอสถเฒ่าทั้งหลายนั้นขึ้นมาเป็นผู้อาวุโสใหญ่ได้มันย่อมทำให้ไม่มีใครกล้าสงสัยในความแข็งแกร่งของเย่หยวน

ต้วนยี่นั้นบอกกล่าวขึ้น “ผู้อาวุโสเย่เองก็ถ่อมตัวเกินไป! เรื่องเหล่านี้ข้าได้ตรวจสอบดูแล้วทางหยิงเฟิงมันนั้นก็มีของดีติดตัวอยู่มาก เมื่อเรากำจัดมันลงได้เราก็ย่อมจะได้ประโยชน์กันถ้วนหน้า!”

ประตูวิญญาณมรณาสาขาเก้ามั่นนี้ได้ทำการปล้นชิงผู้คนมามากมายในเวลาหลายต่อหลายปีที่ผ่านๆ มา

และคนทั้งหลายที่ถูกปล้นชิงมานั้นก็ล้วนแล้วแต่เป็นยอดฝีมือเทพถ่องแท้ทั้งสิ้น

การจัดการล้างบางเหล่าโจรในครั้งนี้มันย่อมหมายความว่าแม้แต่เหล่าเทพถ่องแท้ทั้งหลายก็จะยังได้อะไรติดไม้ติดมือกลับไป

เย่หยวนนั้นเข้าใจในเรื่องนั้นตั้งแต่ต้นจึงได้สัญญาว่าจะไม่เอาสิ่งของใดๆ และมอบสิ่งของทั้งหลายนั้นให้แก่เหล่าเทพถ่องแท้

“หึๆ นี่คือสิ่งที่ทุกท่านสมควรได้รับ! เย่ผู้นี้รู้ดีว่าการเข้าโจมตีประตูวิญญาณมรณาเช่นนี้มันคงทำให้ทุกท่านเป็นกังวลไม่น้อย เพราะฉะนั้นเรื่องราวในครั้งนี้เย่ผู้นี้จึงจะรับผิดชอบมันเอง หลังจากวันนี้ไปขอให้ทุกท่านเก็บเรื่องราวให้มิดชิด คิดเสียว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น เรื่องราวที่ตามมาภายหลังนั้นเย่ผู้นี้จะรับมันไว้ทั้งหมดสิ้น!” เย่หยวนยกมือขึ้นคารวะและกล่าวบอกเหล่ายอดฝีมือ

ทุกผู้คนที่ได้ยินเช่นนั้นต่างแสดงสีหน้าชื่นชมออกมาในความกล้าหาญของเย่หยวน

เพราะกองกำลังของประตูวิญญาณมรณาเป็นกองกำลังเช่นใดนั้นพวกเขาย่อมรับรู้ดี

เหตุผลที่พวกเขาทั้งหลายกล้าเข้าโจมตีประตูวิญญาณมรณาครั้งนี้มันก็เป็นเพราะแผนการอันแยบยลของเย่หยวน ทำให้ทางประตูวิญญาณมรณาไม่รับรู้ว่าพวกเขาทั้งหลายนั้นเป็นคนทำลายสาขานี้ลง

เพราะหากอีกฝ่ายรู้ถึงเรื่องราวในวันนี้ต่อให้มีกี่ชีวิตมันก็คงไม่พอที่จะหลบหนีการแก้แค้นของประตูวิญญาณมรณาได้

การทำลายสาขาที่ใหญ่ระดับนี้ของประตูวิญญาณมรณาลงมันย่อมทำให้เกิดเรื่องราวยิ่งใหญ่ตามมา

เหล่าคนของประตูวิญญาณมรณานั้นมันเป็นผู้คนที่ยากจะคาดเดา

ยอดฝีมือคนอื่นๆ อาจจะไม่สามารถตรวจสอบได้ แต่สุดท้ายประตูวิญญาณมรณาก็รู้ดีว่าเย่หยวนมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องอย่างแน่นอน

และหากทางประตูวิญญาณมรณาคิดทำอะไรเย่หยวนแล้ว มันก็คงเป็นเรื่องยากเย็นที่จะป้องกันมัน

เพียงแค่ว่าเย่หยวนนั้นทำการจับมัดรวมและล้างบางสาขาเก้ามั่นนี้ลงในคราเดียว มันต้องทำให้ทางประตูวิญญาณมรณาสะท้านและไม่กล้าลงมือกับเย่หยวนอย่างผลีผลามแน่นอน

การทำลายสาขาหนึ่งลงอย่างสิ้นซากเช่นนี้มันเป็นเรื่องราวที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับประตูวิญญาณมรณามาก่อน

ต้วนยี่ยกมือขึ้นมาคารวะตอบเย่หยวน “ผู้อาวุโสเย่มีน้ำใจเปรียบดั่งท้องนภาเราล้วนได้ยินมันมานาน เรื่องราวของประตูวิญญาณมรณาในครานี้เราเองก็จะไม่ปิดบังใดๆ แต่พวกเราล้วนเกรงกลัวว่ามันจะมาแก้แค้น เพียงแค่ว่าหากทำอย่างที่ท่านว่าแล้วเรื่องราวของผู้อาวุโสเย่และประตูวิญญาณมรณาก็จะยิ่งแตกหักกันไปใหญ่ วันหน้าทำการใดขอท่านโปรดระมัดระวัง”

เย่หยวนพยักหน้าออกมารับ “วางใจเถิด เย่ผู้นี้พอมีแผนรับมืออยู่บ้าง”

ต้วนยี่พยักหน้ารับและกล่าว “ในเมื่อเรื่องราวทั้งหลายเสร็จสิ้นแล้วเราก็ควรแยกกันกลับไปดีกว่า ในวันหน้าหากผู้อาวุโสเย่มีเรื่องใดให้รับใช้โปรดเรียกหาเราได้”

พูดจบคนทั้งหลายก็แยกย้ายกันไปตามทางของตน

เมื่อกลับมาถึงเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์เย่หยวนก็ได้สั่งโซชูเจียให้จัดการประหารห้านักฆ่าจากประตูวิญญาณมรณาต่อหน้าสาธารณะเพื่อเป็นการเซ่นไหว้ดวงวิญญาณของผู้คนที่ล้มตายไป

เรื่องราวนี้เหล่าชาวเมืองทั้งหลายต่างโห่ร้องปรบมือด้วยความปลาบปลื้ม

ภายในเมืองมีเสียงโห่ร้องดังสนั่น สนับสนุนชื่นชมเย่หยวนจนลั่นฟ้า

และเรื่องราวที่ประตูวิญญาณมรณาสาขาเก้ามั่นถูกทำลายลงมันก็ไปถึงหูของประตูวิญญาณมรณาอย่างรวดเร็ว

ภายในจวนเจ้าเมืองของยอดเมืองหลวงจักรพรรดิหนึ่งมีชายชุดดำกำลังนั่งลงคุกเข่าต่อหน้าชายวัยกลางคนในชุดสวยหรู

ชายวัยกลางคนผู้นี้มีคลื่นพลังที่ลึกล้ำและสูงส่ง มันเป็นพลังที่ดูเหนือล้ำเสียยิ่งกว่าเทพถ่องแท้ใดๆ

เพราะคนผู้นี้แท้จริงแล้วเป็นถึงเทพสวรรค์!

ไม่มีใครคาดฝันว่าแท้จริงแล้วเจ้าเมืองผู้นี้จะเป็นหนึ่งในสมาชิกของประตูวิญญาณมรณา!

ชายชุดดำนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยท่าทางโผงผาง “ท่านฉัวยู่ สาขาเก้ามั่นนั้นเป็นหนึ่งในสาขาระดับต้นๆ ในหมู่สาขาใหญ่ของเรา การที่ทั้งสาขาถูกทำลายสิ้นเช่นนี้มันเหมือนเป็นคำดูถูกแก่ประตูวิญญาณมรณาอย่างมาก! เราต้องทำลายกำจัดเย่หยวนผู้นี้ลงให้ได้!”

สาขาเก้ามั่นนั้นเป็นหนึ่งในสาขาใต้การดูแลของเขา การที่สาขาเก้ามั่นนั้นถูกทำลายลงอย่างเงียบงันเหมือนได้หายไปกับสายลมนี้มันทำให้เขาทั้งอับอายและโกรธแค้น

พวกเขานั้นกังวลกันอย่างมาก สงสัยว่าต้องเป็นกำลังเช่นใดจึงจะสามารถทำลายสาขาเก้ามั่นทั้งสาขาลงได้ในคราเดียวอย่างไร้ร่องรอย

และเขาก็โกรธแค้นอย่างมากเพราะเรื่องราวเช่นนี้มันเหมือนประตูวิญญาณมรณาของเขาถูกลูบคม

ชายวัยกลางคนนั้นลุกขึ้นยืนด้วยมือไขว้หลัง มีท่าทางสงบนิ่งอย่างมากก่อนจะบอก “เรื่องราวจบลงเท่านี้”

นั่นทำให้ชายชุดดำสะดุ้งขึ้นทันที ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่คิดอยากเชื่อหูของตน “ท่านฉัวยู่ จะ… จะปล่อยเรื่องจบลงเท่านี้หรือ? สาขาเก้ามั่นนั้นมันมียอดฝีมือเทพถ่องแท้กว่าสิบคนเชียวนะที่เราต้องเสียไป!”

เทพถ่องแท้นั้นเป็นกำลังสำคัญของทุกกองกำลังค่ายสำนัก

และทรัพยากรและเวลาที่ต้องใช้กว่าจะชุบเลี้ยงเทพถ่องแท้ขึ้นมาได้แต่ละคนนั้นมันก็มากมายมหาศาล

เว้นเสียแต่ว่าจะเป็นยอดอัจฉริยะจากวังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์แล้ว คนทั้งหลายย่อมต้องใช้เวลานับหมื่นๆ ปีหรืออาจจะถึงแสนปีในการก้าวขึ้นสู่อาณาจักรเทพถ่องแท้

และเมื่อรวมเวลาและทรัพยากรของเทพถ่องแท้กว่าสิบคนเข้าด้วยกัน มันจะคิดเป็นความสูญเสียที่มากมายเพียงใด?

เรื่องนั้นมันไม่อาจวัดได้เลย!

ชายชุดดำผู้นี้คิดอยากจะกัดกินเลือดเนื้อเย่หยวนให้ได้

แต่ทางฉัวยู่กลับบอกให้ปล่อยเรื่องนี้ไป!

ฉัวยู่บอกขึ้น “เรื่องครั้งนี้ข้าได้รายงานให้เบื้องบนรับทราบแล้ว พวกเขาเองก็บอกมาด้วยว่าเรื่องราวในครั้งนี้เป็นความผิดพลาดทางข้อมูลของเราเอง ค่ายสำนักที่หนุนหลังเย่หยวนผู้นี้อยู่มันอาจจะเหนือล้ำกว่าที่เราคาดคิดไปมาก เราจะไปยุ่งกับเขาอีกไม่ได้! ไม่เช่นนั้นผลที่ตามมามันอาจจะใหญ่เกินกว่าที่รับไหว!”

ชายชุดดำนั้นยังคงแสดงสีหน้าไม่ยอมรับออกมา “แม้จะไม่นับเหล่าเทพถ่องแท้ขั้นต้นทั้งหลายแต่สาขาเก้ามั่นนั้นมีทั้งเทพถ่องแท้แปดดาว เทพถ่องแท้เจ็ดดาวสองคน เทพถ่องแท้หกดาวอีกห้าคน หรือท่านจะบอกว่า… คนทั้งหลายนี้ต้องตายเปล่า?”

“ประตูวิญญาณมรณาของเรานั้นเป็นต้นไม้ใหญ่ที่มีศัตรูรอบด้าน ค่ายสำนักมากมายต่างหมายตาคิดทำลายเราลง หากผู้คนสูญเสียไป เราก็ยังเลี้ยงดูใหม่ได้ แต่หากเรื่องราวมันใหญ่โตมากขึ้นแล้ว มันอาจจะทำลายรากฐานของประตูวิญญาณมรณาจนสิ้น เจ้าจะรับผิดชอบผลของมันไว้ได้หรือไม่?” ฉัวยู่ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง

ชายชุดทำได้แต่เงียบปากลงด้วยกายสั่นเทา

ฉัวยู่กล่าวต่อ “การที่สามารถทำลายสาขาระดับสูงเช่นนี้ได้โดยไม่มีใครรับรู้เรื่องราว เจ้าลองคิดดูเถิดว่าจะต้องใช้กองกำลังที่แข็งแกร่งเพียงใด?! ก่อนจะสืบสาวเรื่องราวของเย่หยวนให้แน่ชัด เราจะยังไม่แตะต้องตัวเขา เข้าใจไหม?”

การทำลายฐานและการล้างบางนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ความยากง่ายของมันนั้นไม่อาจเอามาวัดเทียบกันได้

ในประวัติศาสตร์อันยาวนานของประตูวิญญาณมรณา มันมีมากมายหลายครั้งที่ฐานของพวกเขาถูกเปิดเผยและสุดท้ายก็ถูกกำจัดลง

เพียงแค่ว่าเหล่ายอดคนในประตูวิญญาณมรณานั้นเก่งกาจ ต่อให้ฐานจะถูกโจมตีพวกเขาก็แค่เสียยอดฝีมือไปส่วนหนึ่ง

ต่อให้มันจะถูกโจมตีรุนแรงเพียงใดมันก็อาจจะแค่หนึ่งหรือสอง อย่างมากๆ ก็คงไม่เกินสี่ยอดฝีมือที่จะตายลง

แต่ในครั้งนี้ยอดฝีมือเทพถ่องแท้กว่าสิบคนนั้นได้ถูกล้างบางจนสิ้น ไม่มีแม้แต่นักฆ่านภาสวรรค์คนใดที่หลบรอดออกไปได้

ค่ายสำนักที่ทำได้ถึงขั้นนี้ในมหาพิภพถงเทียนมันมีอยู่ไม่มาก!

ที่สำคัญการต่อสู้นี้ยังไร้ซึ่งร่องรอยข่าวคราว เรื่องที่ว่าพวกหยิงเฟิงตายลงอย่างไรนั้นไม่มีใครรับรู้ได้

วิธีการที่แสนแยบยลเช่นนี้ต่อให้เป็นตัวฉัวยู่เองก็ยังไม่อาจคาดคิดได้

หาเรื่องเย่หยวนต่อไป?

มันจะต่างอะไรจากการรนหาที่ตายเล่า?

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+