Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 1989 สามดาบของมารกระดูก

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 1989 สามดาบของมารกระดูก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“มารกระดูกเทพสวรรค์! นี่มัน… เป็นไปได้อย่างไร?”

ตรงหน้าพวกเขานั้นมันมีมารกระดูกอยู่เพียงแค่หนึ่งตน

แต่คลื่นพลังงานที่มารกระดูกตนนี้ปล่อยออกมามันกลับทำให้ทุกผู้คนหน้าซีดเผือด พลังเช่นนี้มันจะเป็นอะไรไปได้นอกจากมารกระดูกระดับเทพสวรรค์?

ไม่มีใครคาดคิดว่าเดินทางผ่านความยากลำบากมาตั้งยาวนานเมื่อมาถึงฝั่งกลับจะต้องเจอมารกระดูกเทพสวรรค์รอคอยอยู่

ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดกระดูกจักรพรรดินี้มันถึงตั้งอยู่มานานแสนนานอย่าที่ไม่มีใครเอามันไปได้

‘แกรก!’

‘แกรก!’

‘แกรก!’

มารกระดูกเทพสวรรค์นั้นค่อยๆ ก้าวเข้ามาหาพวกเขาทั้งหลายแต่ละย่างก้าวที่มันย่ำมานั้นเหมือนมันได้เหยียบย่ำเข้ามาในจิตใจของพวกเขาทำให้ผู้คนทั้งหลายหวาดกลัวและตื่นตระหนกกันอย่างมาก

คลื่นพลังที่ปกคลุมฟ้าดินนี้มันทำให้พวกเขาทั้งหลายแทบจะหายใจไม่ออก

“หนีเร็ว!”

ในที่สุดก็มีผู้คนที่อดทนไม่ไหวพุ่งตัวหันหลังหนีไป

เด็กแห่งโชคชะตาผู้นั้นใช้พลังที่เหลืออยู่ในร่างทั้งหมดออกมาส่งร่างพุ่งไป

แต่เย่หยวนนั้นไม่ได้ขยับตัวแม้แต่น้อย เขาทำเพียงแค่มองดูมารกระดูกตนนี้

และในเวลานั้นเองที่ทางมารกระดูกก็ได้ยกกรงเล็บขึ้นมาฟาดปล่อยคลื่นแสงส่องผ่านทะลุอากาศไปใส่ตัวของเด็กแห่งโชคชะตาที่กำลังหนีไปคนนั้น

‘ฉัวะ!’

เด็กแห่งโชคชะตาผู้นั้นร่างกายแหลกระเบิดออกอย่างที่ไม่เหลือแม้แต่เศษซากใดๆ

ทุกผู้คนที่เห็นเช่นนั้นต่างทำได้เพียงสูดหายใจเข้าลึกอย่างตื่นตะลึง

แข็งแกร่ง!

สุดแข็งแกร่ง!

นี่มันคือกำลังของมารกระดูกเทพสวรรค์มันเป็นพลังที่ทำให้ผู้คนทั้งหลายไม่คิดจะขัดขืนเสียด้วยซ้ำ

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียก็ไม่มีโอกาสหนีได้

ส่วนเรื่องร่วมแรงกันกำจัดมารกระดูกเทพสวรรค์นี้ลง… มันย่อมไม่มีใครคิด! เพราะต่อให้ทุกผู้คนในตอนนี้ร่วมมือกันอย่างสุดชีวิตมันก็คงเทียบไม่ได้กับเสี้ยวขี้ฟันของมารกระดูกเทพสวรรค์ตนนี้

ในตอนนั้นเองที่เย่หยวนได้พูดขึ้น “ผู้อาวุโส เราทั้งหลายนี้ต่างมาเพื่อกระดูกจักรพรรดิ ข้าสงสัยเหลือเกินว่าเราต้องทำอย่างไรจึงจะสามารถเอากระดูกจักรพรรดิไปได้?”

มารกระดูกเทพสวรรค์ตนนั้นหันหน้ากลับมามองดูเย่หยวน

ผู้คนทั้งหลายที่ด้านข้างต่างสั่นสะท้านไปทั้งกายเมื่อได้ยิน เจ้าหมอนี่มันรนหาที่ตายหรือ? เวลาเช่นนี้ยังคิดอยากได้กระดูกจักรพรรดิใดอีก?

เมื่อถูกดวงตาที่กลวงโบ๋ของมารกระดูกเทพสวรรค์นั้นมองดูเย่หยวนนั้นก็รู้สึกกดดันไม่น้อย แต่เขาไม่ได้หวาดกลัว

เพราะเขานั้นสัมผัสได้ว่ามารกระดูกเทพสวรรค์ตนนี้มันมีสติสัมปชัญญะ!

เพราะหากตัวมารกระดูกนี้เป็นเพียงแค่มารกระดูกทั่วๆ ไปแล้ว มารกระดูกเทพสวรรค์นี้คงไม่มีทางปล่อยพวกเขาทั้งหลายให้มีชีวิตมาได้ถึงเวลานี้

เพราะการฆ่าสังหารพวกเขาทั้งหลายนั้นมันง่ายดายเพียงแค่ขยับนิ้วสำหรับมารกระดูกเทพสวรรค์ตนนี้

เพราะฉะนั้นเย่หยวนจึงได้คิดถามออกไป

เบ้าตาดำมืดสนิทของมารกระดูกนั้นจ้องมองดูเย่หยวนและไม่ได้พูดใดๆ ออกมาเช่นกัน มันจึงทำให้บรรยายกาศโดยรอบอึดอัดหนักหน่วงตาม

แต่ในที่สุดมารกระดูกเทพสวรรค์ตนนั้นก็ได้ขยับกรามล่างส่งเสียงแหบแห้งออกมา “ตราบเท่าที่พวกเจ้า… สามารถรับสามดาบจากข้าได้ พวกเจ้า… สามารถ… เอาซากร่างนายท่านไปได้”

‘ซี้ด!’

ทุกผู้คนที่ได้ยินต่างต้องกลืนลมหายใจเข้าลึก

รับสามดาบของเจ้า… ใครจะไปรอดได้กัน?

อย่าว่าแต่สามดาบ แม้แต่ดาบเดียวมันก็ไม่มีทางจะรอดพ้นไปได้!

นี่มันจะล้อเล่นกันเกินไปแล้ว

เย่หยวนมองดูที่มารกระดูกตนนั้นก่อนจะถามขึ้นอีก “หมายความว่าหากเราไม่อาจรับสามดาบนั้นได้ เราจะไม่อาจไปจากที่นี่ได้ด้วย?”

คำพูดนี้ทำให้พวกเขาทั้งหลายเบิกตากว้างนึกย้อนกลับไปถึงเจ้าคนที่ถูกฆ่าสังหารลงเมื่อสักครู่ด้วยความรู้สึกเย็นเยือกไปทั้งกาย

แต่เจ้ามารกระดูกนั้นกลับส่ายหัวออกมา “ตราบเท่าที่พวกเจ้ารับหนึ่งดาบจากข้าได้ เจ้าก็ไปได้ และสามดาบที่ว่านี้ข้าจะกดพลังให้อยู่ในระดับเดียวกับพวกเจ้าทั้งหลายด้วย”

ตอนนี้ราวกับว่าเจ้ามารกระดูกนั้นได้สติตื่นขึ้นอย่างเต็มที่อีกครั้ง คำพูดใดๆ ที่มีก็ฟังพูดลื่นไหลไม่ต่างจากคนผู้มีชีวิต

เมื่อเหล่าเด็กแห่งโชคชะตาทั้งหลายได้ยินพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจยาว

เพราะหากมันเป็นดาบของเทพสวรรค์แล้วพวกเขาทั้งหลายย่อมไม่อาจจะทนทานใดๆ ได้

“เช่นนั้น… หากมีคนที่รับสามดาบของท่านผู้อาวุโสได้หลายคนเล่า?” เย่หยวนถามขึ้นอีกครั้ง

ครั้งนี้เจ้ามารกระดูกนั้นตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว “มาก่อนได้ก่อน”

นั่นทำให้ดวงตาของพวกเขาทั้งหลายเบิกกว้างก่อนจะมีใครคนหนึ่งเดินหน้าออกไป “ข้าขอรับการทดสอบก่อน!”

คนผู้นี้เองก็ไม่ได้อ่อนแอใดๆ ตัวเขาเองก็เป็นถึงยอดฝีมือเทพถ่องแท้ขั้นกลางคนหนึ่ง

พวกเขาทั้งหลายนั้นล้วนเป็นเด็กแห่งโชคชะตา มีฝีมือยืนเหนือผู้คนในรุ่นเดียวกันสิ้น

อย่างน้อยๆ พวกเขาก็ย่อมจะไม่แพ้คนในรุ่นเดียวกันแน่!

“เจ้าโง่!” โจวหยูอดไม่ได้ที่จะร้องด่าออกมา

มารกระดูกเทพสวรรค์ตนนั้นเองก็ไม่ได้พูดใดๆ มาก มันชักกระดูกซี่โครงของตนออกมาอันหนึ่ง

จากนั้นเจ้ากระดูกชิ้นนั้นมันกลับเปลี่ยนแปลงรูปร่างจนกลายเป็นดาบกระดูกที่ไม่สั้นไม่ยาวจนเกินไป

“สมบัติวิญญาณเทพสวรรค์!” เย่หยวนร้องขึ้นด้วยความตื่นตะลึง

คนอื่นๆ เองก็ย่อมจะเห็นภาพตรงหน้านี้เช่นกัน ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่มีใครสัมผัสได้แต่ไม่นึกไม่ฝันว่าในพริบตามารกระดูกตัววนี้จะสามารถสร้างสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ขึ้นมาได้

เหล่าเด็กแห่งโชคชะตาทั้งหลายต่างแสดงสีหน้าท่าทางคิดไม่ตกออกมา

“หากรับสามดาบได้สมบัติวิญญาณเทพสวรรค์นี้เองก็จะกลายเป็นของเจ้าด้วย ข้าจะปล่อยให้พวกเจ้าได้มีเวลาสามวันพักฟื้นพลัง สามวันจากนี้ข้าจะเริ่มทดสอบ”

เจ้ามารกระดูกนั้นพูดออกมาด้วยท่าทางเรียบเฉยก่อนจะนั่งลงในทันที

สามวันนั้นย่อมจะผ่านอย่างรวดเร็วทุกผู้คนนั้นต่างกลืนกินโอสถที่ตนมีรักษาบาดแผลและฟื้นคืนพลังปราณเทวะในร่างกลับมาได้จนเกือบสมบูรณ์

มารกระดูกและเด็กแห่งโชคชะตาผู้นั้นยืนเผชิญหน้ากันก่อนที่จะเป็นทางมารกระดูกที่เปิดปากพูดขึ้นมาก่อน “เอาล่ะ เทพสวรรค์ผู้นี้จะเริ่มลงดาบแล้ว”

สิ้นคำพูดเขาก็แทงดาบนั้นออกมาด้วยท่าทางสบายๆ

‘ฟุบ…’

อากาศที่ด้านหน้าส่งเสียงแหลมร้องพร้อมด้วยคลื่นพลังอันน่าเกรงกลัวที่พุ่งเข้าใส่เด็กแห่งโชคชะตาผู้นั้น

ทางเด็กแห่งโชคชะตาผู้นั้นเองก็ใช้วิชาของตนออกมาบ้าง!

หอกยาวของเขานั้นพุ่งออกมาราวรุ้งสายยาวที่พุ่งผ่านท้องฟ้าหลังฝนปะทะเข้ากับปลายดาบนั้นทันที

แต่มันกลับไม่ได้เกิดแรงปะทะใดๆ ขึ้นอย่างที่ทุกคนคาดคิด เพราะเจ้าหอกยาวในมือของเด็กแห่งโชคชะตาคนนั้นกลับแตกสลายกลายเป็นฝุ่นผงไป

จากนั้นร่างของเขาก็ระเบิดออกเหลือไว้เพียงเศษฝุ่นที่ไหลไปตามลม

ร่างกายของเขาผู้นี้มันหายไปอย่างไม่เหลือร่องรอย

ทุกผู้คนที่ได้เห็นเช่นนั้นต่างต้องเบิกตากว้าง รวมไปถึงเย่หยวนด้วย

แม้พวกเขาจะรู้ดีว่ามารกระดูกเทพสวรรค์นี้แข็งแกร่งมาก แต่ก็ไม่นึกไม่ฝันว่ามันจะเป็นช่องว่างที่ห่างไกลกันปานนี้

เพราะเด็กแห่งโชคชะตาผู้นั้นเองก็สู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับพวกเขามา

พลังฝีมือของเขานั้นแม้จะไม่นับว่าเป็นสุดยอดในกลุ่ม แต่ก็ย่อมจะมิใช่คนที่อ่อนแอที่สุดกลุ่มอย่างแน่นอน

แต่เขาคนนี้กลับไม่อาจรับดาบเดียวของมารกระดูกเทพสวรรค์นี้ได้!

พลังของดาบนี้มันย่อมชัดเจนแล้วว่าเหนือล้ำกว่าที่เทพถ่องแท้สี่ดาวจะรับได้

ต่อให้เป็นเทพถ่องแท้ห้าดาวก็คงไม่อาจจะรับมันได้ง่ายๆ

และนี่มันยังเป็นแค่ดาบแรก เช่นนั้นแล้วดาบที่สองหรือสามมันจะรุนแรงปานใดกัน?

พวกเขาทั้งหลายนั้นรู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมาวูบใหญ่ด้วยความหวาดกลัวต่อพลังของมารกระดูกเทพสวรรค์ตนนี้

“ต่อไป!”

มารกระดูกเทพสวรรค์นั้นเองก็ไม่คิดที่จะรีรอใดๆ รีบเรียกผู้ที่จะเข้าทดสอบคนต่อไปทันที

แต่ครานี้มันไม่มีใครกล้าเดินออกมา

ไม่มีใครกล้าพอที่จะรับดาบนี้

“หากไม่มีเทพสวรรค์ผู้นี้ก็จะเลือกแล้ว” มารกระดูกเทพสวรรค์นั้นบอก

นั่นทำให้ใบหน้าของทุกผู้คนซีดลงทันทีก่อนจะเห็นว่ามารกระดูกเทพสวรรค์นั้นชี้นิ้วไปยังเด็กแห่งโชคชะตาผู้หนึ่ง

เด็กแห่งโชคชะตาผู้นั้นขนลุกชันไปทั้งร่าง ส่วนคนอื่นๆ ก็ได้แต่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เด็กแห่งโชคชะตาผู้ถูกเลือกนั้นยืนนิ่งอย่างที่ไม่อาจขยับเท้าได้

“ไม่รับการทดสอบก็ตายสถานเดียว” มารกระดูกเทพสวรรค์นั้นบอก

นั่นทำให้เด็กแห่งโชคชะตาผู้นั้นหน้าซีดขาวลง ตายสถานเดียวมันย่อมหมายความว่าอีกฝ่ายจะโจมตีมาด้วยพลังของเทพสวรรค์

หากเป็นเช่นนั้นแล้วมันย่อมจะไม่มีโอกาสรอดได้

คิดได้เช่นนั้นเขาจึงเตรียมใจเดินหน้าออกมา

จากนั้นผลลัพธ์ก็ไม่ได้แตกต่างจากที่ทุกผู้คนคิด ตัวเขาผู้นี้แตกสลายไปด้วยดาบเดียวอีกคน!

จากนั้นมารกระดูกเทพสวรรค์ก็ได้เลือกผู้คนขึ้นมาอีกไม่น้อยแต่กลับไม่มีใครที่จะรับดาบเดียวของเขานี้ได้เลย

เหล่าเทพถ่องแท้สี่ดาวทั้งหลายนั้นมันอ่อนแอเป็นเต้าหู้เมื่ออยู่ต่อหน้าดาบของมารกระดูกตนนี้

คนทั้งหลายที่ผ่านทัพมารกระดูกมาได้นั้นมันมีจำนวนเหลือราวสี่สิบคน

และในหมู่คนที่เหลือรอดมานี้ล้วนแล้วแต่เป็นยอดฝีมือของยอดฝีมือแต่ในพริบตาเดียวคนราวเจ็ดถึงแปดคนกลับต้องตายลง

มารกระดูกเทพสวรรค์ตนนี้มันราวกับมีนิ้วเพชรสั่งตาย

ชี้ไปที่ใคร คนผู้นั้นต้องตาย!

หลังจากมารกระดูกเทพสวรรค์ตนนั้นสังหารเด็กแห่งโชคชะตาลงอีกคนหนึ่งในที่สุดนิ้วของเขาก็ได้ชี้ไปยังโจวหยู

นั่นทำให้โจวหยูหน้าซีดเผือดลงทันทีแต่ก็ยังต้องทำใจมั่นเดินหน้าออกมา

…………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 1989 สามดาบของมารกระดูก

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 1989 สามดาบของมารกระดูก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“มารกระดูกเทพสวรรค์! นี่มัน… เป็นไปได้อย่างไร?”

ตรงหน้าพวกเขานั้นมันมีมารกระดูกอยู่เพียงแค่หนึ่งตน

แต่คลื่นพลังงานที่มารกระดูกตนนี้ปล่อยออกมามันกลับทำให้ทุกผู้คนหน้าซีดเผือด พลังเช่นนี้มันจะเป็นอะไรไปได้นอกจากมารกระดูกระดับเทพสวรรค์?

ไม่มีใครคาดคิดว่าเดินทางผ่านความยากลำบากมาตั้งยาวนานเมื่อมาถึงฝั่งกลับจะต้องเจอมารกระดูกเทพสวรรค์รอคอยอยู่

ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดกระดูกจักรพรรดินี้มันถึงตั้งอยู่มานานแสนนานอย่าที่ไม่มีใครเอามันไปได้

‘แกรก!’

‘แกรก!’

‘แกรก!’

มารกระดูกเทพสวรรค์นั้นค่อยๆ ก้าวเข้ามาหาพวกเขาทั้งหลายแต่ละย่างก้าวที่มันย่ำมานั้นเหมือนมันได้เหยียบย่ำเข้ามาในจิตใจของพวกเขาทำให้ผู้คนทั้งหลายหวาดกลัวและตื่นตระหนกกันอย่างมาก

คลื่นพลังที่ปกคลุมฟ้าดินนี้มันทำให้พวกเขาทั้งหลายแทบจะหายใจไม่ออก

“หนีเร็ว!”

ในที่สุดก็มีผู้คนที่อดทนไม่ไหวพุ่งตัวหันหลังหนีไป

เด็กแห่งโชคชะตาผู้นั้นใช้พลังที่เหลืออยู่ในร่างทั้งหมดออกมาส่งร่างพุ่งไป

แต่เย่หยวนนั้นไม่ได้ขยับตัวแม้แต่น้อย เขาทำเพียงแค่มองดูมารกระดูกตนนี้

และในเวลานั้นเองที่ทางมารกระดูกก็ได้ยกกรงเล็บขึ้นมาฟาดปล่อยคลื่นแสงส่องผ่านทะลุอากาศไปใส่ตัวของเด็กแห่งโชคชะตาที่กำลังหนีไปคนนั้น

‘ฉัวะ!’

เด็กแห่งโชคชะตาผู้นั้นร่างกายแหลกระเบิดออกอย่างที่ไม่เหลือแม้แต่เศษซากใดๆ

ทุกผู้คนที่เห็นเช่นนั้นต่างทำได้เพียงสูดหายใจเข้าลึกอย่างตื่นตะลึง

แข็งแกร่ง!

สุดแข็งแกร่ง!

นี่มันคือกำลังของมารกระดูกเทพสวรรค์มันเป็นพลังที่ทำให้ผู้คนทั้งหลายไม่คิดจะขัดขืนเสียด้วยซ้ำ

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียก็ไม่มีโอกาสหนีได้

ส่วนเรื่องร่วมแรงกันกำจัดมารกระดูกเทพสวรรค์นี้ลง… มันย่อมไม่มีใครคิด! เพราะต่อให้ทุกผู้คนในตอนนี้ร่วมมือกันอย่างสุดชีวิตมันก็คงเทียบไม่ได้กับเสี้ยวขี้ฟันของมารกระดูกเทพสวรรค์ตนนี้

ในตอนนั้นเองที่เย่หยวนได้พูดขึ้น “ผู้อาวุโส เราทั้งหลายนี้ต่างมาเพื่อกระดูกจักรพรรดิ ข้าสงสัยเหลือเกินว่าเราต้องทำอย่างไรจึงจะสามารถเอากระดูกจักรพรรดิไปได้?”

มารกระดูกเทพสวรรค์ตนนั้นหันหน้ากลับมามองดูเย่หยวน

ผู้คนทั้งหลายที่ด้านข้างต่างสั่นสะท้านไปทั้งกายเมื่อได้ยิน เจ้าหมอนี่มันรนหาที่ตายหรือ? เวลาเช่นนี้ยังคิดอยากได้กระดูกจักรพรรดิใดอีก?

เมื่อถูกดวงตาที่กลวงโบ๋ของมารกระดูกเทพสวรรค์นั้นมองดูเย่หยวนนั้นก็รู้สึกกดดันไม่น้อย แต่เขาไม่ได้หวาดกลัว

เพราะเขานั้นสัมผัสได้ว่ามารกระดูกเทพสวรรค์ตนนี้มันมีสติสัมปชัญญะ!

เพราะหากตัวมารกระดูกนี้เป็นเพียงแค่มารกระดูกทั่วๆ ไปแล้ว มารกระดูกเทพสวรรค์นี้คงไม่มีทางปล่อยพวกเขาทั้งหลายให้มีชีวิตมาได้ถึงเวลานี้

เพราะการฆ่าสังหารพวกเขาทั้งหลายนั้นมันง่ายดายเพียงแค่ขยับนิ้วสำหรับมารกระดูกเทพสวรรค์ตนนี้

เพราะฉะนั้นเย่หยวนจึงได้คิดถามออกไป

เบ้าตาดำมืดสนิทของมารกระดูกนั้นจ้องมองดูเย่หยวนและไม่ได้พูดใดๆ ออกมาเช่นกัน มันจึงทำให้บรรยายกาศโดยรอบอึดอัดหนักหน่วงตาม

แต่ในที่สุดมารกระดูกเทพสวรรค์ตนนั้นก็ได้ขยับกรามล่างส่งเสียงแหบแห้งออกมา “ตราบเท่าที่พวกเจ้า… สามารถรับสามดาบจากข้าได้ พวกเจ้า… สามารถ… เอาซากร่างนายท่านไปได้”

‘ซี้ด!’

ทุกผู้คนที่ได้ยินต่างต้องกลืนลมหายใจเข้าลึก

รับสามดาบของเจ้า… ใครจะไปรอดได้กัน?

อย่าว่าแต่สามดาบ แม้แต่ดาบเดียวมันก็ไม่มีทางจะรอดพ้นไปได้!

นี่มันจะล้อเล่นกันเกินไปแล้ว

เย่หยวนมองดูที่มารกระดูกตนนั้นก่อนจะถามขึ้นอีก “หมายความว่าหากเราไม่อาจรับสามดาบนั้นได้ เราจะไม่อาจไปจากที่นี่ได้ด้วย?”

คำพูดนี้ทำให้พวกเขาทั้งหลายเบิกตากว้างนึกย้อนกลับไปถึงเจ้าคนที่ถูกฆ่าสังหารลงเมื่อสักครู่ด้วยความรู้สึกเย็นเยือกไปทั้งกาย

แต่เจ้ามารกระดูกนั้นกลับส่ายหัวออกมา “ตราบเท่าที่พวกเจ้ารับหนึ่งดาบจากข้าได้ เจ้าก็ไปได้ และสามดาบที่ว่านี้ข้าจะกดพลังให้อยู่ในระดับเดียวกับพวกเจ้าทั้งหลายด้วย”

ตอนนี้ราวกับว่าเจ้ามารกระดูกนั้นได้สติตื่นขึ้นอย่างเต็มที่อีกครั้ง คำพูดใดๆ ที่มีก็ฟังพูดลื่นไหลไม่ต่างจากคนผู้มีชีวิต

เมื่อเหล่าเด็กแห่งโชคชะตาทั้งหลายได้ยินพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจยาว

เพราะหากมันเป็นดาบของเทพสวรรค์แล้วพวกเขาทั้งหลายย่อมไม่อาจจะทนทานใดๆ ได้

“เช่นนั้น… หากมีคนที่รับสามดาบของท่านผู้อาวุโสได้หลายคนเล่า?” เย่หยวนถามขึ้นอีกครั้ง

ครั้งนี้เจ้ามารกระดูกนั้นตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว “มาก่อนได้ก่อน”

นั่นทำให้ดวงตาของพวกเขาทั้งหลายเบิกกว้างก่อนจะมีใครคนหนึ่งเดินหน้าออกไป “ข้าขอรับการทดสอบก่อน!”

คนผู้นี้เองก็ไม่ได้อ่อนแอใดๆ ตัวเขาเองก็เป็นถึงยอดฝีมือเทพถ่องแท้ขั้นกลางคนหนึ่ง

พวกเขาทั้งหลายนั้นล้วนเป็นเด็กแห่งโชคชะตา มีฝีมือยืนเหนือผู้คนในรุ่นเดียวกันสิ้น

อย่างน้อยๆ พวกเขาก็ย่อมจะไม่แพ้คนในรุ่นเดียวกันแน่!

“เจ้าโง่!” โจวหยูอดไม่ได้ที่จะร้องด่าออกมา

มารกระดูกเทพสวรรค์ตนนั้นเองก็ไม่ได้พูดใดๆ มาก มันชักกระดูกซี่โครงของตนออกมาอันหนึ่ง

จากนั้นเจ้ากระดูกชิ้นนั้นมันกลับเปลี่ยนแปลงรูปร่างจนกลายเป็นดาบกระดูกที่ไม่สั้นไม่ยาวจนเกินไป

“สมบัติวิญญาณเทพสวรรค์!” เย่หยวนร้องขึ้นด้วยความตื่นตะลึง

คนอื่นๆ เองก็ย่อมจะเห็นภาพตรงหน้านี้เช่นกัน ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่มีใครสัมผัสได้แต่ไม่นึกไม่ฝันว่าในพริบตามารกระดูกตัววนี้จะสามารถสร้างสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ขึ้นมาได้

เหล่าเด็กแห่งโชคชะตาทั้งหลายต่างแสดงสีหน้าท่าทางคิดไม่ตกออกมา

“หากรับสามดาบได้สมบัติวิญญาณเทพสวรรค์นี้เองก็จะกลายเป็นของเจ้าด้วย ข้าจะปล่อยให้พวกเจ้าได้มีเวลาสามวันพักฟื้นพลัง สามวันจากนี้ข้าจะเริ่มทดสอบ”

เจ้ามารกระดูกนั้นพูดออกมาด้วยท่าทางเรียบเฉยก่อนจะนั่งลงในทันที

สามวันนั้นย่อมจะผ่านอย่างรวดเร็วทุกผู้คนนั้นต่างกลืนกินโอสถที่ตนมีรักษาบาดแผลและฟื้นคืนพลังปราณเทวะในร่างกลับมาได้จนเกือบสมบูรณ์

มารกระดูกและเด็กแห่งโชคชะตาผู้นั้นยืนเผชิญหน้ากันก่อนที่จะเป็นทางมารกระดูกที่เปิดปากพูดขึ้นมาก่อน “เอาล่ะ เทพสวรรค์ผู้นี้จะเริ่มลงดาบแล้ว”

สิ้นคำพูดเขาก็แทงดาบนั้นออกมาด้วยท่าทางสบายๆ

‘ฟุบ…’

อากาศที่ด้านหน้าส่งเสียงแหลมร้องพร้อมด้วยคลื่นพลังอันน่าเกรงกลัวที่พุ่งเข้าใส่เด็กแห่งโชคชะตาผู้นั้น

ทางเด็กแห่งโชคชะตาผู้นั้นเองก็ใช้วิชาของตนออกมาบ้าง!

หอกยาวของเขานั้นพุ่งออกมาราวรุ้งสายยาวที่พุ่งผ่านท้องฟ้าหลังฝนปะทะเข้ากับปลายดาบนั้นทันที

แต่มันกลับไม่ได้เกิดแรงปะทะใดๆ ขึ้นอย่างที่ทุกคนคาดคิด เพราะเจ้าหอกยาวในมือของเด็กแห่งโชคชะตาคนนั้นกลับแตกสลายกลายเป็นฝุ่นผงไป

จากนั้นร่างของเขาก็ระเบิดออกเหลือไว้เพียงเศษฝุ่นที่ไหลไปตามลม

ร่างกายของเขาผู้นี้มันหายไปอย่างไม่เหลือร่องรอย

ทุกผู้คนที่ได้เห็นเช่นนั้นต่างต้องเบิกตากว้าง รวมไปถึงเย่หยวนด้วย

แม้พวกเขาจะรู้ดีว่ามารกระดูกเทพสวรรค์นี้แข็งแกร่งมาก แต่ก็ไม่นึกไม่ฝันว่ามันจะเป็นช่องว่างที่ห่างไกลกันปานนี้

เพราะเด็กแห่งโชคชะตาผู้นั้นเองก็สู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับพวกเขามา

พลังฝีมือของเขานั้นแม้จะไม่นับว่าเป็นสุดยอดในกลุ่ม แต่ก็ย่อมจะมิใช่คนที่อ่อนแอที่สุดกลุ่มอย่างแน่นอน

แต่เขาคนนี้กลับไม่อาจรับดาบเดียวของมารกระดูกเทพสวรรค์นี้ได้!

พลังของดาบนี้มันย่อมชัดเจนแล้วว่าเหนือล้ำกว่าที่เทพถ่องแท้สี่ดาวจะรับได้

ต่อให้เป็นเทพถ่องแท้ห้าดาวก็คงไม่อาจจะรับมันได้ง่ายๆ

และนี่มันยังเป็นแค่ดาบแรก เช่นนั้นแล้วดาบที่สองหรือสามมันจะรุนแรงปานใดกัน?

พวกเขาทั้งหลายนั้นรู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมาวูบใหญ่ด้วยความหวาดกลัวต่อพลังของมารกระดูกเทพสวรรค์ตนนี้

“ต่อไป!”

มารกระดูกเทพสวรรค์นั้นเองก็ไม่คิดที่จะรีรอใดๆ รีบเรียกผู้ที่จะเข้าทดสอบคนต่อไปทันที

แต่ครานี้มันไม่มีใครกล้าเดินออกมา

ไม่มีใครกล้าพอที่จะรับดาบนี้

“หากไม่มีเทพสวรรค์ผู้นี้ก็จะเลือกแล้ว” มารกระดูกเทพสวรรค์นั้นบอก

นั่นทำให้ใบหน้าของทุกผู้คนซีดลงทันทีก่อนจะเห็นว่ามารกระดูกเทพสวรรค์นั้นชี้นิ้วไปยังเด็กแห่งโชคชะตาผู้หนึ่ง

เด็กแห่งโชคชะตาผู้นั้นขนลุกชันไปทั้งร่าง ส่วนคนอื่นๆ ก็ได้แต่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เด็กแห่งโชคชะตาผู้ถูกเลือกนั้นยืนนิ่งอย่างที่ไม่อาจขยับเท้าได้

“ไม่รับการทดสอบก็ตายสถานเดียว” มารกระดูกเทพสวรรค์นั้นบอก

นั่นทำให้เด็กแห่งโชคชะตาผู้นั้นหน้าซีดขาวลง ตายสถานเดียวมันย่อมหมายความว่าอีกฝ่ายจะโจมตีมาด้วยพลังของเทพสวรรค์

หากเป็นเช่นนั้นแล้วมันย่อมจะไม่มีโอกาสรอดได้

คิดได้เช่นนั้นเขาจึงเตรียมใจเดินหน้าออกมา

จากนั้นผลลัพธ์ก็ไม่ได้แตกต่างจากที่ทุกผู้คนคิด ตัวเขาผู้นี้แตกสลายไปด้วยดาบเดียวอีกคน!

จากนั้นมารกระดูกเทพสวรรค์ก็ได้เลือกผู้คนขึ้นมาอีกไม่น้อยแต่กลับไม่มีใครที่จะรับดาบเดียวของเขานี้ได้เลย

เหล่าเทพถ่องแท้สี่ดาวทั้งหลายนั้นมันอ่อนแอเป็นเต้าหู้เมื่ออยู่ต่อหน้าดาบของมารกระดูกตนนี้

คนทั้งหลายที่ผ่านทัพมารกระดูกมาได้นั้นมันมีจำนวนเหลือราวสี่สิบคน

และในหมู่คนที่เหลือรอดมานี้ล้วนแล้วแต่เป็นยอดฝีมือของยอดฝีมือแต่ในพริบตาเดียวคนราวเจ็ดถึงแปดคนกลับต้องตายลง

มารกระดูกเทพสวรรค์ตนนี้มันราวกับมีนิ้วเพชรสั่งตาย

ชี้ไปที่ใคร คนผู้นั้นต้องตาย!

หลังจากมารกระดูกเทพสวรรค์ตนนั้นสังหารเด็กแห่งโชคชะตาลงอีกคนหนึ่งในที่สุดนิ้วของเขาก็ได้ชี้ไปยังโจวหยู

นั่นทำให้โจวหยูหน้าซีดเผือดลงทันทีแต่ก็ยังต้องทำใจมั่นเดินหน้าออกมา

…………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+