Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2010 ตะลึงซ้ำแล้วซ้ำเล่า

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2010 ตะลึงซ้ำแล้วซ้ำเล่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เทพสวรรค์อีกคนสอง!”

“พระเจ้าช่วย นี่มันเวทมนตร์ใดกัน?”

“แน่ล่ะ แผนการของท่านเย่หยวนนั้นมันย่อมไม่อาจคาดเดาได้จริงๆ!”

เมื่อได้เห็นทั้งสองเงาร่างนั้นเหล่านักยุทธในเมืองต่างก็โห่ร้องกันด้วยความยินดี

ดวงตาของพวกเขาทั้งหลายนั้นมันเต็มเปี่ยมไปด้วยความศรัทธา มองดูเย่หยวนปานหนึ่งว่าเขาเป็นเทพเจ้า

ตอนนั้นที่หลู่ซือยีมาอาละวาดในเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์พวกเขาทั้งหลายต้องทนทุกข์เพราะความเย่อหยิ่งของนางเท่าใด?

เหล่าเทพสวรรค์เบื้องหลังของนางนั้นยิ่งใหญ่เหนือฟ้า

แต่วันนี้พวกเขากลับถูกเย่หยวนตบจนหน้าหัน

เหล่านักยุทธทั้งหลายนั้นล้วนแล้วใช้ชีวิตอยู่อย่างต่ำต้อย เป็นผู้ที่จะลำบากมากที่สุด

พวกเขาทั้งหลายนั้นย่อมรู้ดีว่าเทพสวรรค์นั้นคือตัวตนที่ไม่อาจลบหลู่ได้ แต่ไม่มีใครนึกใครฝันว่าเย่หยวนจะเสกเทพสวรรค์ออกมาได้ราวกับมีเวทมนตร์เช่นนี้

เจ้าส่งกองทัพนับแสนมา ข้าก็ทำลายเทพถ่องแท้ของเจ้าจนสิ้น

เจ้าสามเทพสวรรค์มาเอง ข้าก็จะเสกสามเทพสวรรค์ออกมาสู้!

ไม่ว่าเจ้าจะมีปัญญาสักเท่าไหร่เมื่ออยู่ต่อหน้าท่านเย่หยวนมันก็ทำได้เพียงแค่รอถูกบดขยี้

‘เทพสวรรค์นั้นมันเก่งกาจมากหรือ?’

คำพูดนี้มันยังสั่นสะท้านอยู่ในสมองของคนทั้งหลาย!

มันมิใช่ว่าเย่หยวนนั้นอวดเก่งโอหังใดๆ แต่เขานั้นมีกำลังมากพอที่จะดูถูกหลู่เหยียนจริงๆ

ในสองเทพสวรรค์ปรากฏตัวออกมานี้หนึ่งนั้นเป็นคนเฒ่าที่ดูท่าทางแข็งแรง ส่วนอีกด้านเป็นชายวัยกลางคนผู้มีท่าทางเปี่ยมล้นไปด้วยพลังงาน

แต่ทว่าทั้งเติ้งหยุนไซและไต้ชุนห่าวต่างอดไม่ได้ที่จะจ้องมองไปยังชายวัยกลางคนผู้นั้นอย่างไม่อยากเชื่อสายตา

“ต้วนยี่!” คนทั้งสองร้องออกมาแทบจะพร้อมๆ กันด้วยความตกตะลึงไม่คิดอยากเชื่อสายตา

ชายวัยกลางคนผู้นี้พวกเขาล้วนคุ้นเคยหน้าตาอย่างดีเพราะเขานั้นคือเจ้าหอมหาสมบัติแห่งยอดเมืองหลวงจักรพรรดิห้าสวรรค์ ต้วนยี่นั่นเอง!

พวกเขาทั้งหลายนั้นย่อมจะคุ้นเคยใบหน้าของต้วนยี่อย่างดี เพราะตัวเขานั้นติดอยู่ที่ยอดของอาณาจักรเทพถ่องแท้เก้าดาวมานับแสนๆ ปี

หากไม่มีปาฏิหาริย์ใดแล้วชาตินี้เขาคงไม่อาจบรรลุขึ้นอาณาจักรเทพสวรรค์ได้

แต่ปัญหาก็คือตอนนี้ปาฏิหาริย์มันเกิดขึ้นแล้ว!

“เจ้า… เจ้ากลับบรรลุขึ้นอาณาจักรเทพสวรรค์ได้?”

เติ้งหยุนไซรู้สึกอย่างสุดล้ำว่าโลกใบนี้มันบ้าคลั่งไปแล้ว อาณาจักรเทพสวรรค์มันเป็นอะไรที่จะบรรลุขึ้นได้ง่ายๆ หรือ?

ต้วนยี่ยิ้มตอบกลับ “โชคน่ะ ข้าแค่โชคดี! การที่ต้วนผู้นี้บรรลุขึ้นมาได้มันล้วนแล้วแต่เป็นคุณจากผู้อาวุโสเย่ หากไม่ได้เขาช่วยหลอมโอสถลาภครองสวรรค์ให้ต้วนผู้นี้แล้ว ต้วนผู้นี้ก็คงไม่อาจจะบรรลุขึ้นอาณาจักรเทพสวรรค์ได้ต่อให้ใช้เวลาอีกทั้งชาติ”

นั่นทำให้ดวงตาของเติ้งหยุนไซและไต้ชุนห่าวเบิกกว้างอย่างไม่คิดอยากเชื่อ “โอสถลาภครองสวรรค์? มันเป็นไปได้อย่างไร?”

ต้วนยี่ยิ้มกว้างตอบกลับมา “แค่โอสถลาภครองสวรรค์มันจะมีค่าใดต่อหน้าผู้อาวุโสเย่? วิชาของเขาพวกเจ้าทั้งหลายคงไม่อาจคาดคิดได้หรอก ไม่เช่นนั้นมีหรือที่เขาจะก้าวขึ้นเป็นถึงผู้อาวุโสใหญ่แห่งศาลาโอสถสวรรค์ได้?”

“ผู้อาวุโสใหญ่?”

คนทั้งสองรู้สึกราวกับถูกสายฟ้าผ่าลงกลางหัวจนไม่อาจขยับเคลื่อนตัวได้

พวกเขานั้นรู้แค่ว่าเย่หยวนมีวิชาโอสถที่เก่งกาจ ใครจะไปคิดไปฝันว่ามันจะเก่งกาจจนถึงขั้นก้าวขึ้นเป็นผู้อาวุโสใหญ่แห่งศาลาโอสถสวรรค์ได้?

เหล่าผู้อาวุโสแห่งศาลาโอสถสวรรค์นั้นมันล้วนแล้วแต่เป็นยอดจอมเทพโอสถหกดาวทั้งสิ้น ทั้งยังมีพลังฝีมือที่เหนือล้ำผู้คน

แต่เย่หยวน เทพถ่องแท้สามดาวผู้นี้กลับก้าวข้ามจอมเทพโอสถหกดาวทั้งหลายนั้นขึ้นไปได้?

ตอนนี้พวกเขาได้รู้แล้วว่าตนเองเข้าใจเย่หยวนเพียงแค่น้อยนิดขนาดไหน!

ในวิชายุทธการต่อสู้ เย่หยวนสังหารหลู่ซือยีผู้สำเร็จแนวคิดแห่งธาตุทั้งห้าลงได้

ในวิชาพิษ เย่หยวนสามารถสร้างค่ายกลพิษแฝงไว้ในช่องว่างมิติล้างบางเทพถ่องแท้นับพันๆ ลงได้

ในวิชาการโอสถ เย่หยวนสามารถหลอมโอสถลาภครองสวรรค์ช่วยให้ต้วนยี่ที่ติดอยู่ที่ยอดอาณาจักรเทพถ่องแท้มานับแสนๆ ปีนี้บรรลุขึ้นอาณาจักรเทพสวรรค์ได้

ตั้งแต่เกิดจนแก่เฒ่ามาปานนี้พวกเขาไม่เคยได้พบได้เจอยอดคนระดับนี้มาก่อน!

ไกลออกไปหลู่เหยียนที่กำลังต่อสู้รับมืออย่างสุดตัวก็ตื่นตะลึงอย่างมาก

เขานั้นไม่เคยนึกเคยฝันว่าในดินแดนที่เขาปกครองมันจะถือกำเนิดยอดจอมเทพโอสถระดับนี้ขึ้นมาได้

แต่เมื่อเรื่องราวมาถึงขั้นนี้แล้วมันย่อมมิใช่เรื่องจะมายินดีเลย!

“เลิกพูดจาไร้สาระกันเสียที! คนทั้งสองนั้นมันเพิ่งจะบรรลุอาณาจักรเทพสวรรค์ขึ้นมา รีบๆ จัดการพวกมันลงเสีย! พวกเจ้าไม่อยากแก้แค้นให้เติ้งเหว่ยและไต้หยางแล้วหรือ?” หลู่เหยียนร้องบอก

ไต้ชุนห่าวหันไปมองที่ทางด้านชายแก่บ้างก่อนจะถามขึ้น “แล้วเจ้าเล่าเป็นผู้ใด? เหตุใดถึงมายุ่งเรื่องราวในเขตแดนห้าสวรรค์เรา?”

ชายแก่จึงตอบกลับมาด้วยท่าทางเรียบเฉย “เฒ่าผู้นี้เดิมทีเป็นเจ้าศาลามายาล้ำแห่งเมืองจักรพรรดิเลิศประกายนามเจียนหงเซียว แต่ด้วยความช่วยเหลือของเย่หยวนข้าจึงได้กลับไปยังยอดเมืองหลวงจักรพรรดิชะตาเลิศและตอนนี้ก็ได้นั่งตำแหน่งผู้อาวุโสแห่งวังดารา!”

“หะ? เจ้า… คือเจียนหงเซียว? เจ้านั้นเป็นเพียงแค่นภาสวรรค์ผู้หนึ่งมิใช่หรือ? เหตุใด… เหตุใดเจ้าจึงสามารถบรรลุขึ้นมาถึงอาณาจักรเทพสวรรค์ได้เช่นนี้?”

เติ้งหยุนไซและไต้ชุนห่าวแทบสิ้นสติลง

เรื่องราวของเจียนหงเซียวนั้นพวกเขาย่อมรู้ดีเพราะเมืองจักรพรรดิเลิศประกายนั้นก็ไม่ได้อยู่ห่างไกลจากยอดเมืองหลวงจักรพรรดิห้าสวรรค์มากนัก

เจ้าเย่หยวนผู้นี้มันราวกับมีเวทมนตร์ เสกเทพถ่องแท้สี่ดาวให้กลายเป็นเทพสวรรค์สองดาว แถมยังสามารถเสกนภาสวรรค์ผู้หนึ่งให้กลายเป็นเทพสวรรค์หนึ่งดาวได้

เจียนหงเซียวยิ้มออกมา “เทพสวรรค์ผู้นี้เคยถูกผลสะท้อนจากเต๋าสวรรค์ทำให้พลังฝีมือตกลงมาก เพราะฉะนั้นข้าจึงได้ถูกไล่ออกไปอยู่เมืองจักรพรรดิเลิศประกาย ตอนนี้เมื่อได้ความช่วยเหลือจากโอสถของเย่หยวนนอกจากมันจะทำให้ข้ากลับมาสมบูรณ์อีกครั้งแล้วมันยังช่วยส่งตัวข้าขึ้นมาถึงอาณาจักรเทพสวรรค์เสียด้วย”

คนทั้งสองนั้นได้แต่ยืนนิ่ง

เมืองจักรพรรดิเลิศประกายนั้นคือเมืองอะไร?

มันคือเขตแดนของตระกูลเจียน!

พวกเขานั้นอาจจะไม่สนใจไว้หน้าเจียนหงเซียวได้ แต่พวกเขานั้นไม่อาจจะไม่ไว้หน้าเจียนซู่เทาที่อยู่เบื้องหลังเจียนหงเซียว

ที่สำคัญนั้นเบื้องหลังของตระกูลนี้มันยังมีจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้ที่ปกครองทั้งมหาพิภพถงเทียนอยู่!

เติ้งหยุนไซและไต้ชุนห่าวหันมามองหน้ากันด้วยสีหน้าท่าทางหนักแน่น

“พวกท่านทั้งหลาย เย่หยวนและพวกข้านั้นมีความแค้นที่ไม่อาจอยู่ร่วมฟ้ากันได้! วันนี้ไม่ว่าพวกท่านจะเป็นใครมาจากไหนหากมาขวางการจับกุมเย่หยวนแล้ว เราก็คงต้องตัดสินเป็นตายกัน!” เติ้งหยุนไซร้องตะโกนบอก

เพราะหากจะบอกให้พวกเขาถอยกลับไปตอนนี้ มันก็เห็นทีจะไม่ได้

เพียงแค่ว่าคำขู่ใดๆ ของพวกเขานี้มันไม่ได้มีผลใดเพราะต้วนยี่แค่ตอบกลับมาด้วยใบหน้ายิ้มๆ เช่นเดิม “เย่หยวนนั้นคือผู้อาวุโสใหญ่แห่งศาลาโอสถสวรรค์เรา เทพสวรรค์ผู้นี้เองก็มีหน้าที่จะต้องดูแลความปลอดภัยของเขา หากจะสู้ก็เข้ามา!”

เจียนหงเซียวเองก็ตอบกลับมาด้วยใบหน้าหนักแน่น “เย่หยวนและข้านั้นคือสหายร่วมสาบาน หากคิดอยากสังหารเขาแล้วเจ้าก็ต้องข้ามศพเทพสวรรค์ผู้นี้ไปก่อน!”

พูดไปต้วนยี่และเจียนหงเซียวก็ได้ชักเอาอาวุธของตนออกมาเตรียมตั้งท่าพร้อมรบ

ในมือของต้วนยี่นั้นคือดาบกระดูก

ส่วนในมือของเจียนหงเซียวนั้นมันคือธงศึก

“สมบัติวิญญาณเทพสวรรค์! พวกเจ้าเพิ่งจะบรรลุอาณาจักรเทพสวรรค์มามิใช่หรือเหตุใดจึงมีสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ใช้กัน?” เติ้งหยุนไซร้องตะโกนอย่างแทบคลั่ง

แน่นอนว่าทั้งสองนั้นมันย่อมจะเป็นสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ ดาบกระดูกและธงศึกดาวฤกษ์แล้ว

เมื่อสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ทั้งสองอย่างนี้อยู่ในมือของต้วนยี่และเจียนหงเซียวมันย่อมจะสามารถแสดงพลังออกมาได้เหนือล้ำกว่าตอนที่เย่หยวนใช้อย่างมากมาย

“หากคิดอยากสู้ก็เข้ามา! จะพูดจาไร้สาระเพื่ออะไรอีก?”

ต้วนยี่หัวเราะลั่นก่อนจะแทงดาบออกไปจนทำให้ฟ้าดินเปลี่ยนสี

ทางด้านเจียนหงเซียวเมื่อขยับโบกธงนั้นพลังของดวงดาวนับไม่ถ้วนก็ได้เข้าปะทะกับไต้ชุนห่าวทันที

เทพสวรรค์ทั้งสี่เข้าปะทะกันอย่างรุนแรงในพริบตา

แม้ว้าต้วนยี่และเจียนหงเซียวนั้นจะเพิ่งบรรลุอาณาจักรเทพสวรรค์มาได้ไม่นานแต่พวกเขานั้นกินโอสถขั้นเทวะวิญญาณไพศาลลงไปมันย่อมจะช่วยให้การบ่มเพาะของพวกเขาคงที่ได้อย่างรวดเร็ว ไม่เหมือนผู้ที่เพิ่งบรรลุอย่างแน่นอน

เมื่อรวมกับพลังของสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ในมือแล้วเมื่อทั้งสองฝ่ายเข้าปะทะกับ ทางด้านเติ้งหยุนไซและไต้ชุนห่าวย่อมจะถูกกดดันจนแทบไม่อาจหายใจ

อีกด้านทางหลู่เหยียนก็ตื่นตะลึงอย่างมาก ยิ่งสู้ไปเท่าไหร่เขาก็ยิ่งอยากจะกระอักเลือดมากเท่านั้น

เมื่อไป๋ตงใช้กระบวนท่าออกมา เขานั้นไม่คิดจะป้องกันใดๆ!

หลังจากประมือกันไปหลายกระบวนท่าหลู่เหยียนจึงได้รู้ว่าแท้จริงแล้วบนร่างของไป๋ตงนั้นเขาได้สวมใส่สมบัติวิญญาณเทพสวรรค์อยู่อีกชิ้น

ไป๋ตงนั้นมีสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ประเภทอาวุธในมือและยังสวมใส่สมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ประเภทเครื่องป้องกันไว้บนร่าง แถมด้วยการบ่มเพาะของคนทั้งสองที่อยู่ในระดับไม่ห่างไกลกัน มีหรือที่หลู่เหยียนจะต้านทานพลังของเขาได้?

หลังปะทะกันไปได้ไม่กี่กระบวนท่า หลู่เหยียนก็ไม่อาจจะสวนกลับใดๆ ทำได้เพียงแค่ตั้งรับอย่างสุดตัว

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2010 ตะลึงซ้ำแล้วซ้ำเล่า

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2010 ตะลึงซ้ำแล้วซ้ำเล่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เทพสวรรค์อีกคนสอง!”

“พระเจ้าช่วย นี่มันเวทมนตร์ใดกัน?”

“แน่ล่ะ แผนการของท่านเย่หยวนนั้นมันย่อมไม่อาจคาดเดาได้จริงๆ!”

เมื่อได้เห็นทั้งสองเงาร่างนั้นเหล่านักยุทธในเมืองต่างก็โห่ร้องกันด้วยความยินดี

ดวงตาของพวกเขาทั้งหลายนั้นมันเต็มเปี่ยมไปด้วยความศรัทธา มองดูเย่หยวนปานหนึ่งว่าเขาเป็นเทพเจ้า

ตอนนั้นที่หลู่ซือยีมาอาละวาดในเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์พวกเขาทั้งหลายต้องทนทุกข์เพราะความเย่อหยิ่งของนางเท่าใด?

เหล่าเทพสวรรค์เบื้องหลังของนางนั้นยิ่งใหญ่เหนือฟ้า

แต่วันนี้พวกเขากลับถูกเย่หยวนตบจนหน้าหัน

เหล่านักยุทธทั้งหลายนั้นล้วนแล้วใช้ชีวิตอยู่อย่างต่ำต้อย เป็นผู้ที่จะลำบากมากที่สุด

พวกเขาทั้งหลายนั้นย่อมรู้ดีว่าเทพสวรรค์นั้นคือตัวตนที่ไม่อาจลบหลู่ได้ แต่ไม่มีใครนึกใครฝันว่าเย่หยวนจะเสกเทพสวรรค์ออกมาได้ราวกับมีเวทมนตร์เช่นนี้

เจ้าส่งกองทัพนับแสนมา ข้าก็ทำลายเทพถ่องแท้ของเจ้าจนสิ้น

เจ้าสามเทพสวรรค์มาเอง ข้าก็จะเสกสามเทพสวรรค์ออกมาสู้!

ไม่ว่าเจ้าจะมีปัญญาสักเท่าไหร่เมื่ออยู่ต่อหน้าท่านเย่หยวนมันก็ทำได้เพียงแค่รอถูกบดขยี้

‘เทพสวรรค์นั้นมันเก่งกาจมากหรือ?’

คำพูดนี้มันยังสั่นสะท้านอยู่ในสมองของคนทั้งหลาย!

มันมิใช่ว่าเย่หยวนนั้นอวดเก่งโอหังใดๆ แต่เขานั้นมีกำลังมากพอที่จะดูถูกหลู่เหยียนจริงๆ

ในสองเทพสวรรค์ปรากฏตัวออกมานี้หนึ่งนั้นเป็นคนเฒ่าที่ดูท่าทางแข็งแรง ส่วนอีกด้านเป็นชายวัยกลางคนผู้มีท่าทางเปี่ยมล้นไปด้วยพลังงาน

แต่ทว่าทั้งเติ้งหยุนไซและไต้ชุนห่าวต่างอดไม่ได้ที่จะจ้องมองไปยังชายวัยกลางคนผู้นั้นอย่างไม่อยากเชื่อสายตา

“ต้วนยี่!” คนทั้งสองร้องออกมาแทบจะพร้อมๆ กันด้วยความตกตะลึงไม่คิดอยากเชื่อสายตา

ชายวัยกลางคนผู้นี้พวกเขาล้วนคุ้นเคยหน้าตาอย่างดีเพราะเขานั้นคือเจ้าหอมหาสมบัติแห่งยอดเมืองหลวงจักรพรรดิห้าสวรรค์ ต้วนยี่นั่นเอง!

พวกเขาทั้งหลายนั้นย่อมจะคุ้นเคยใบหน้าของต้วนยี่อย่างดี เพราะตัวเขานั้นติดอยู่ที่ยอดของอาณาจักรเทพถ่องแท้เก้าดาวมานับแสนๆ ปี

หากไม่มีปาฏิหาริย์ใดแล้วชาตินี้เขาคงไม่อาจบรรลุขึ้นอาณาจักรเทพสวรรค์ได้

แต่ปัญหาก็คือตอนนี้ปาฏิหาริย์มันเกิดขึ้นแล้ว!

“เจ้า… เจ้ากลับบรรลุขึ้นอาณาจักรเทพสวรรค์ได้?”

เติ้งหยุนไซรู้สึกอย่างสุดล้ำว่าโลกใบนี้มันบ้าคลั่งไปแล้ว อาณาจักรเทพสวรรค์มันเป็นอะไรที่จะบรรลุขึ้นได้ง่ายๆ หรือ?

ต้วนยี่ยิ้มตอบกลับ “โชคน่ะ ข้าแค่โชคดี! การที่ต้วนผู้นี้บรรลุขึ้นมาได้มันล้วนแล้วแต่เป็นคุณจากผู้อาวุโสเย่ หากไม่ได้เขาช่วยหลอมโอสถลาภครองสวรรค์ให้ต้วนผู้นี้แล้ว ต้วนผู้นี้ก็คงไม่อาจจะบรรลุขึ้นอาณาจักรเทพสวรรค์ได้ต่อให้ใช้เวลาอีกทั้งชาติ”

นั่นทำให้ดวงตาของเติ้งหยุนไซและไต้ชุนห่าวเบิกกว้างอย่างไม่คิดอยากเชื่อ “โอสถลาภครองสวรรค์? มันเป็นไปได้อย่างไร?”

ต้วนยี่ยิ้มกว้างตอบกลับมา “แค่โอสถลาภครองสวรรค์มันจะมีค่าใดต่อหน้าผู้อาวุโสเย่? วิชาของเขาพวกเจ้าทั้งหลายคงไม่อาจคาดคิดได้หรอก ไม่เช่นนั้นมีหรือที่เขาจะก้าวขึ้นเป็นถึงผู้อาวุโสใหญ่แห่งศาลาโอสถสวรรค์ได้?”

“ผู้อาวุโสใหญ่?”

คนทั้งสองรู้สึกราวกับถูกสายฟ้าผ่าลงกลางหัวจนไม่อาจขยับเคลื่อนตัวได้

พวกเขานั้นรู้แค่ว่าเย่หยวนมีวิชาโอสถที่เก่งกาจ ใครจะไปคิดไปฝันว่ามันจะเก่งกาจจนถึงขั้นก้าวขึ้นเป็นผู้อาวุโสใหญ่แห่งศาลาโอสถสวรรค์ได้?

เหล่าผู้อาวุโสแห่งศาลาโอสถสวรรค์นั้นมันล้วนแล้วแต่เป็นยอดจอมเทพโอสถหกดาวทั้งสิ้น ทั้งยังมีพลังฝีมือที่เหนือล้ำผู้คน

แต่เย่หยวน เทพถ่องแท้สามดาวผู้นี้กลับก้าวข้ามจอมเทพโอสถหกดาวทั้งหลายนั้นขึ้นไปได้?

ตอนนี้พวกเขาได้รู้แล้วว่าตนเองเข้าใจเย่หยวนเพียงแค่น้อยนิดขนาดไหน!

ในวิชายุทธการต่อสู้ เย่หยวนสังหารหลู่ซือยีผู้สำเร็จแนวคิดแห่งธาตุทั้งห้าลงได้

ในวิชาพิษ เย่หยวนสามารถสร้างค่ายกลพิษแฝงไว้ในช่องว่างมิติล้างบางเทพถ่องแท้นับพันๆ ลงได้

ในวิชาการโอสถ เย่หยวนสามารถหลอมโอสถลาภครองสวรรค์ช่วยให้ต้วนยี่ที่ติดอยู่ที่ยอดอาณาจักรเทพถ่องแท้มานับแสนๆ ปีนี้บรรลุขึ้นอาณาจักรเทพสวรรค์ได้

ตั้งแต่เกิดจนแก่เฒ่ามาปานนี้พวกเขาไม่เคยได้พบได้เจอยอดคนระดับนี้มาก่อน!

ไกลออกไปหลู่เหยียนที่กำลังต่อสู้รับมืออย่างสุดตัวก็ตื่นตะลึงอย่างมาก

เขานั้นไม่เคยนึกเคยฝันว่าในดินแดนที่เขาปกครองมันจะถือกำเนิดยอดจอมเทพโอสถระดับนี้ขึ้นมาได้

แต่เมื่อเรื่องราวมาถึงขั้นนี้แล้วมันย่อมมิใช่เรื่องจะมายินดีเลย!

“เลิกพูดจาไร้สาระกันเสียที! คนทั้งสองนั้นมันเพิ่งจะบรรลุอาณาจักรเทพสวรรค์ขึ้นมา รีบๆ จัดการพวกมันลงเสีย! พวกเจ้าไม่อยากแก้แค้นให้เติ้งเหว่ยและไต้หยางแล้วหรือ?” หลู่เหยียนร้องบอก

ไต้ชุนห่าวหันไปมองที่ทางด้านชายแก่บ้างก่อนจะถามขึ้น “แล้วเจ้าเล่าเป็นผู้ใด? เหตุใดถึงมายุ่งเรื่องราวในเขตแดนห้าสวรรค์เรา?”

ชายแก่จึงตอบกลับมาด้วยท่าทางเรียบเฉย “เฒ่าผู้นี้เดิมทีเป็นเจ้าศาลามายาล้ำแห่งเมืองจักรพรรดิเลิศประกายนามเจียนหงเซียว แต่ด้วยความช่วยเหลือของเย่หยวนข้าจึงได้กลับไปยังยอดเมืองหลวงจักรพรรดิชะตาเลิศและตอนนี้ก็ได้นั่งตำแหน่งผู้อาวุโสแห่งวังดารา!”

“หะ? เจ้า… คือเจียนหงเซียว? เจ้านั้นเป็นเพียงแค่นภาสวรรค์ผู้หนึ่งมิใช่หรือ? เหตุใด… เหตุใดเจ้าจึงสามารถบรรลุขึ้นมาถึงอาณาจักรเทพสวรรค์ได้เช่นนี้?”

เติ้งหยุนไซและไต้ชุนห่าวแทบสิ้นสติลง

เรื่องราวของเจียนหงเซียวนั้นพวกเขาย่อมรู้ดีเพราะเมืองจักรพรรดิเลิศประกายนั้นก็ไม่ได้อยู่ห่างไกลจากยอดเมืองหลวงจักรพรรดิห้าสวรรค์มากนัก

เจ้าเย่หยวนผู้นี้มันราวกับมีเวทมนตร์ เสกเทพถ่องแท้สี่ดาวให้กลายเป็นเทพสวรรค์สองดาว แถมยังสามารถเสกนภาสวรรค์ผู้หนึ่งให้กลายเป็นเทพสวรรค์หนึ่งดาวได้

เจียนหงเซียวยิ้มออกมา “เทพสวรรค์ผู้นี้เคยถูกผลสะท้อนจากเต๋าสวรรค์ทำให้พลังฝีมือตกลงมาก เพราะฉะนั้นข้าจึงได้ถูกไล่ออกไปอยู่เมืองจักรพรรดิเลิศประกาย ตอนนี้เมื่อได้ความช่วยเหลือจากโอสถของเย่หยวนนอกจากมันจะทำให้ข้ากลับมาสมบูรณ์อีกครั้งแล้วมันยังช่วยส่งตัวข้าขึ้นมาถึงอาณาจักรเทพสวรรค์เสียด้วย”

คนทั้งสองนั้นได้แต่ยืนนิ่ง

เมืองจักรพรรดิเลิศประกายนั้นคือเมืองอะไร?

มันคือเขตแดนของตระกูลเจียน!

พวกเขานั้นอาจจะไม่สนใจไว้หน้าเจียนหงเซียวได้ แต่พวกเขานั้นไม่อาจจะไม่ไว้หน้าเจียนซู่เทาที่อยู่เบื้องหลังเจียนหงเซียว

ที่สำคัญนั้นเบื้องหลังของตระกูลนี้มันยังมีจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้ที่ปกครองทั้งมหาพิภพถงเทียนอยู่!

เติ้งหยุนไซและไต้ชุนห่าวหันมามองหน้ากันด้วยสีหน้าท่าทางหนักแน่น

“พวกท่านทั้งหลาย เย่หยวนและพวกข้านั้นมีความแค้นที่ไม่อาจอยู่ร่วมฟ้ากันได้! วันนี้ไม่ว่าพวกท่านจะเป็นใครมาจากไหนหากมาขวางการจับกุมเย่หยวนแล้ว เราก็คงต้องตัดสินเป็นตายกัน!” เติ้งหยุนไซร้องตะโกนบอก

เพราะหากจะบอกให้พวกเขาถอยกลับไปตอนนี้ มันก็เห็นทีจะไม่ได้

เพียงแค่ว่าคำขู่ใดๆ ของพวกเขานี้มันไม่ได้มีผลใดเพราะต้วนยี่แค่ตอบกลับมาด้วยใบหน้ายิ้มๆ เช่นเดิม “เย่หยวนนั้นคือผู้อาวุโสใหญ่แห่งศาลาโอสถสวรรค์เรา เทพสวรรค์ผู้นี้เองก็มีหน้าที่จะต้องดูแลความปลอดภัยของเขา หากจะสู้ก็เข้ามา!”

เจียนหงเซียวเองก็ตอบกลับมาด้วยใบหน้าหนักแน่น “เย่หยวนและข้านั้นคือสหายร่วมสาบาน หากคิดอยากสังหารเขาแล้วเจ้าก็ต้องข้ามศพเทพสวรรค์ผู้นี้ไปก่อน!”

พูดไปต้วนยี่และเจียนหงเซียวก็ได้ชักเอาอาวุธของตนออกมาเตรียมตั้งท่าพร้อมรบ

ในมือของต้วนยี่นั้นคือดาบกระดูก

ส่วนในมือของเจียนหงเซียวนั้นมันคือธงศึก

“สมบัติวิญญาณเทพสวรรค์! พวกเจ้าเพิ่งจะบรรลุอาณาจักรเทพสวรรค์มามิใช่หรือเหตุใดจึงมีสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ใช้กัน?” เติ้งหยุนไซร้องตะโกนอย่างแทบคลั่ง

แน่นอนว่าทั้งสองนั้นมันย่อมจะเป็นสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ ดาบกระดูกและธงศึกดาวฤกษ์แล้ว

เมื่อสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ทั้งสองอย่างนี้อยู่ในมือของต้วนยี่และเจียนหงเซียวมันย่อมจะสามารถแสดงพลังออกมาได้เหนือล้ำกว่าตอนที่เย่หยวนใช้อย่างมากมาย

“หากคิดอยากสู้ก็เข้ามา! จะพูดจาไร้สาระเพื่ออะไรอีก?”

ต้วนยี่หัวเราะลั่นก่อนจะแทงดาบออกไปจนทำให้ฟ้าดินเปลี่ยนสี

ทางด้านเจียนหงเซียวเมื่อขยับโบกธงนั้นพลังของดวงดาวนับไม่ถ้วนก็ได้เข้าปะทะกับไต้ชุนห่าวทันที

เทพสวรรค์ทั้งสี่เข้าปะทะกันอย่างรุนแรงในพริบตา

แม้ว้าต้วนยี่และเจียนหงเซียวนั้นจะเพิ่งบรรลุอาณาจักรเทพสวรรค์มาได้ไม่นานแต่พวกเขานั้นกินโอสถขั้นเทวะวิญญาณไพศาลลงไปมันย่อมจะช่วยให้การบ่มเพาะของพวกเขาคงที่ได้อย่างรวดเร็ว ไม่เหมือนผู้ที่เพิ่งบรรลุอย่างแน่นอน

เมื่อรวมกับพลังของสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ในมือแล้วเมื่อทั้งสองฝ่ายเข้าปะทะกับ ทางด้านเติ้งหยุนไซและไต้ชุนห่าวย่อมจะถูกกดดันจนแทบไม่อาจหายใจ

อีกด้านทางหลู่เหยียนก็ตื่นตะลึงอย่างมาก ยิ่งสู้ไปเท่าไหร่เขาก็ยิ่งอยากจะกระอักเลือดมากเท่านั้น

เมื่อไป๋ตงใช้กระบวนท่าออกมา เขานั้นไม่คิดจะป้องกันใดๆ!

หลังจากประมือกันไปหลายกระบวนท่าหลู่เหยียนจึงได้รู้ว่าแท้จริงแล้วบนร่างของไป๋ตงนั้นเขาได้สวมใส่สมบัติวิญญาณเทพสวรรค์อยู่อีกชิ้น

ไป๋ตงนั้นมีสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ประเภทอาวุธในมือและยังสวมใส่สมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ประเภทเครื่องป้องกันไว้บนร่าง แถมด้วยการบ่มเพาะของคนทั้งสองที่อยู่ในระดับไม่ห่างไกลกัน มีหรือที่หลู่เหยียนจะต้านทานพลังของเขาได้?

หลังปะทะกันไปได้ไม่กี่กระบวนท่า หลู่เหยียนก็ไม่อาจจะสวนกลับใดๆ ทำได้เพียงแค่ตั้งรับอย่างสุดตัว

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+