Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2013 ภาพแสนอลังการ

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2013 ภาพแสนอลังการ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพสวรรค์เฉาหยวน เทพสวรรค์หวู่เฟิง เทพสวรรค์เทียนเซียว เทพสวรรค์ชางหลัน เหล่าเทพสวรรค์ทั้งสี่คนนี้ต่างล้วนแล้วแต่เป็นถึงเทพสวรรค์สี่ดาวทั้งสิ้น

ที่สำคัญกว่านั้นคือทั้งสี่คนนี้มิได้อยู่ภายใต้การปกครองของจักรพรรดิเทพสวรรค์คนเดียวกัน

การรวมตัวเช่นนี้มันย่อมจะยิ่งใหญ่เหนือจินตนาการ

เมื่อรวมทางยอดเมืองหลวงจักรพรรดิชะตาเลิศที่อยู่เบื้องหลังเจียนหงเซียวและยอดเมืองหลวงจักรพรรดิทองวาวที่อยู่เบื้องหลังต้วนยี่แล้ว มันก็นับได้ว่ามีค่ายสำนักถึงหกฝ่ายด้วยกันที่คิดสนับสนุนเย่หยวน!

เทพถ่องแท้สามดาวผู้หนึ่งกลับสามารถมีอิทธิพลที่ยิ่งใหญ่เหนือล้ำได้ปานนี้!

ภายในเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์เวลานี้คนทั้งหลายต่างร่ำร้องขึ้นด้วยความตื่นเต้น

เพราะเรื่องราวในวันนี้มันย่อมจะเป็นเรื่องยิ่งใหญ่สุดแสนตื่นเต้นกว่าที่จะบรรยายเป็นคำพูดใดๆ

ไม้ตายของเย่หยวนนั้นถูกชักออกมาใช้งานอย่างไม่ขาดสายทำให้ผู้คนแทบหน้ามืดเป็นลม ไม่อาจจะอดทนรับเรื่องที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรากฏตัวของเทพสวรรค์ทั้งสี่นั้นมันทำให้หัวใจของผู้คนในเมืองเต้นรัวจนแทบหลุดออกจากปาก

พวกเขาทั้งหลายนี้เป็นถึงเทพสวรรค์ขั้นกลาง เป็นตัวตนที่ทั้งชีวิตนี้พวกเขาไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน!

“ท่านเย่หยวนนั้นช่างเหนือล้ำจริง! ถึงกับทำให้เทพสวรรค์มากมายมาช่วยเหลือเช่นนี้ได้!”

“พระเจ้า ในชีวิตข้านี้ข้าไม่เคยได้เห็นเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ปานนี้มาก่อน วันนี้ต่อให้ข้าต้องตายมันก็คงไม่เสียชาติเกิดแล้ว!”

“เราเลือกติดตามเจ้านายได้ถูกจริงๆ! วันนี้ต่อให้จักรพรรดิหยกมาเองเขาก็คงไม่อาจพาตัวนายท่านไปได้!”

ตอนนี้เหล่าผู้คนในเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นั้นต่างแสดงสีหน้าท่าทางภาคภูมิอย่างมากออกมา ภูมิใจที่ได้เป็นนักยุทธของเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์

เพราะว่าพวกเขานั้นมีเจ้านายที่เป็นดั่งปาฏิหาริย์เดินได้!

“พี่ชางหยวน ท่านเองก็เป็นยอดคนของแผ่นดิน เหตุใดต้องมากดดันทำให้เมืองจักรพรรดิน้อยๆ นี้ต้องลำบากด้วย? ถือว่าเห็นแก่หน้าหวู่เฟิงผู้นี้ ปล่อยเรื่องมันไปจะไม่ได้หรือ?” เทพสวรรค์หวู่เฟิงกล่าว

“พี่ชางหยวน สหายหนุ่มเย่นั้นมีพรสวรรค์เหนือล้ำ ต่อให้ท่านจะคิดเชิญตัวเขาไปมันก็ไม่ควรจะเป็นวิธีการเช่นนี้ใช่หรือไม่?” เทพสวรรค์ชางหลันกล่าวขึ้นตาม

เทพสวรรค์ชางหยวนนั้นได้แต่ทำหน้าเหยเกออกมาตอนนี้เขาอยู่ในสภาพจะกลืนก็ไม่เข้า จะคายก็ไม่ออก

เพราะผู้คนตรงหน้าของเขานั้นมันยิ่งใหญ่จนเกินไป ยิ่งใหญ่จนทำให้เขาเริ่มหวาดหวั่นขึ้นมา

ตอนนี้พวกหลู่เหยียนทั้งสามที่ด้านหลังนั้นยิ่งมึนงงอย่างไม่อาจตั้งสติ ได้แต่นั่งอ้าปากค้าง

พวกเขาทั้งสามนั้นตื่นตะลึงกับเส้นสายและวิธีการของเย่หยวนนี้

แค่เทพถ่องแท้สามดาวผู้หนึ่งกลับสามารถทำให้หกยอดค่ายสำนักของแผ่นดินออกมาปกป้องตัวเขาได้

วิธีการเช่นนี้มันย่อมเหนือล้ำจนไม่อาจจะมีใครคาดเดาได้

เทพสวรรค์ชางหยวนเองก็ได้แต่กัดฟันตอบกลับมา “เหล่าสหายนักยุทธทั้งหลาย ทำเช่นนี้มันจะไม่เป็นการดูถูกวังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์ฉีโยวมากเกินไปหน่อยหรือ! หากข้ายืนกรานที่จะยังพาตัวมันไปวันนี้เล่า?”

ภายในดินแดนของตัวเขา เทพสวรรค์ชางหยวนย่อมไม่คิดจะยอมเสียหน้าง่ายๆ

ต่อให้เขาจะต้องเผชิญอุปสรรคเช่นใดวันนี้เขาก็ต้องพาตัวเย่หยวนกลับไปให้ได้

ในเวลานั้นทางเทพสวรรค์เฉาหยวนจึงค่อยๆ หันหน้ากลับไปหาเย่หยวนด้วยรอยยิ้ม “สหายหนุ่มเย่หยวน นี่มันก็แค่เมืองหนึ่ง เหตุใดไม่ลองไปที่เมืองสิบล้ำข้าเล่า? เทพสวรรค์ผู้นี้สัญญาเลยว่าจะให้เมืองหลวงจักรพรรดิแก่เจ้า ว่าอย่างไร? ถึงเวลานั้นเจ้าย่อมจะสามารถจัดการเมืองหลวงจักรพรรดินั้นได้อย่างเต็มที่ตามสบายไม่มีใครจะมาหาเรื่องใดๆ เจ้าแน่นอน!”

เทพสวรรค์หวู่เฟิงที่ได้ยินจึงกระแอมพูดแทรกขึ้น “พี่เฉาหยวน ท่านช่างรู้วิธีการวางข้อเสนอจริงๆ! สหายหนุ่มเย่หยวน มาที่เมืองใบชาดข้าสิ เทพสวรรค์ผู้นี้สัญญาเลยว่าจะมองเมืองหลวงจักรพรรดิให้เจ้าสิบเมือง!”

ส่วนอีกสองคนเองก็ย่อมไม่คิดจะยอมแพ้และต่างยื่นข้อเสนอสุดงามมาให้แก่เย่หยวน

ซงหยูและพวกนั้นต่างเป็นต้นตอผลักดันให้เกิดการเชื้อเชิญนี้ เพราะพวกเขาต่างหวังอยากให้เย่หยวนได้ไปอยู่กับตน

ที่ด้านข้างเทพสวรรค์ชางหยวนเองก็ได้แต่ฟังไปด้วยใบหน้าม่วงดำ

หากเย่หยวนไปยังเขตแดนของยอดเมืองหลวงจักรพรรดิอื่นแล้วมีหรือที่เขาจะยังยื่นหน้ายุ่มย่ามได้?

เขาเป็นคนใต้วังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์ฉีโยว?

ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ภายใต้วังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์ฉีโยวแล้ว เจ้ายังจะมีหน้ามายุ่งอีกหรือไม่?

ที่สำคัญคำพูดของคนทั้งหลายนี้มันกล่าวอย่างชัดเจนตั้งใจให้ชางหยวนได้ยินอย่างแน่นอน

พูดจบเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายก็ได้แต่มองดูใบหน้าของเย่หยวนอย่างคาดหวัง หวังว่าเขานั้นจะเลือกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

เพราะถึงขั้นนี้แล้วเย่หยวนย่อมจะไม่มีเหตุผลใดๆ ให้ต้องอยู่ต่อไป

ไม่ว่าจะมองดูอย่างไรการจากไปก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

ด้วยพรสวรรค์และฝีมือระดับเย่หยวนแล้วไม่ว่าจะเป็นที่ใดในโลกกว้างนี้เขาก็ย่อมจะเหนือล้ำผู้คนได้

เย่หยวนยกมือขึ้นคารวะเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายด้วยรอยยิ้ม “ความหวังดีของผู้อาวุโสทั้งหลายเย่ผู้นี้ย่อมขอบคุณอย่างซาบซึ้ง เพียงแค่ว่าเย่ผู้นี้ใช้ชีวิตในเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นี้มานานแสนนานจนไม่อาจทำใจจากมันไปได้แล้ว”

เมื่อคำพูดเหล่านั้นถูกกล่าวทุกผู้คนต่างก็แสดงสีหน้าตกตะลึง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งใบหน้าของเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายนั้น เพราะพวกเขาไม่นึกไม่ฝันว่าเย่หยวนจะปฏิเสธออกมาตรงๆ เช่นนี้

เทพสวรรค์เฉาหยวนจึงกล่าวย้ำขึ้น “สหายหนุ่มเย่ เจ้าลองคิดดีๆ ก่อน”

เย่หยวนพยักหน้ารับ “ขอบพระคุณผู้อาวุโสที่มาช่วยเหลือข้าในวันนี้ เพียงแค่ว่าเย่ผู้นี้ได้ตัดสินใจมาตั้งแต่ต้นแล้วขอเหล่าผู้อาวุโสโปรดอย่าว่าร้ายกันเลย”

ชางหยวนที่ได้เห็นเช่นนั้นก็หัวเราะเย้ยขึ้น “เห็นไหมเล่าพี่น้องทั้งหลาย ไอ้เด็กคนนี้มันไม่รู้จักรักษาน้ำใจผู้คน! ความหวังดีจากเทพสวรรค์ยังโดนมันปัดทิ้งขว้างอย่างไร้เยื่อใยใดๆ!”

เทพสวรรค์เฉาหยวนได้แต่ขมวดคิ้วขึ้นมา “สหายหนุ่มเย่หยวนนั้นย่อมมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธอย่างเต็มที่ มีเหตุใดให้ต้องขุ่นเคืองกัน?”

ชางหยวนที่ได้ยินถึงกับผงะไปทันที ไม่นึกไม่ฝันว่าจนถึงตอนนี้เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายก็ยังคิดจะปกป้องเย่หยวน!

เขาจึงหัวเราะขึ้นมาอีกครา “พวกเจ้านั้นขัดขวางได้ในวันนี้ แต่หรือว่าพวกเจ้าจะอยู่ขัดขวางได้ตลอดไป? พวกเจ้าทั้งหลายจะย้ายมาอยู่ที่เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์หรืออย่างไรเล่า?”

แต่เสียงของเทพสวรรค์ชางหยวนยังไม่ทันขาดหายก็ได้เกิดคลื่นพลังลูกใหม่ขึ้นอีกครั้ง

สองเงาร่างได้ปรากฏออกมาจากรอยแยกมิติ!

ชางหยวนที่เห็นเช่นนั้นต้องเบิกตามองคนทั้งสองอย่างไม่อยากเชื่อสายตา

“เป็นเทพสวรรค์อีกสองท่าน! พระเจ้าช่วย มันต้องมีเทพสวรรค์ปรากฏตัวขึ้นอีกเท่าใดเรื่องราวในวันนี้มันถึงจะจบลงได้กัน?”

“เดี๋ยวนะ! เหตุใดข้าถึงรู้สึกว่าเทพสวรรค์ทั้งสองท่านนี้ช่างลึกล้ำดูท่าจะแข็งแกร่งกว่าพวกเทพสวรรค์ชางหยวนทั้งหลายอีก?”

“จริงด้วย! หรือว่า… เทพสวรรค์ทั้งสองท่านนี้จะแข็งแกร่งกว่าพวกเขาจริง?”

เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นั้นต่างแตกตื่นกันยกใหญ่ เพราะเรื่องราวใหญ่วันนี้มันยิ่งใหญ่อลังการกว่าเรื่องใดๆ ที่พวกเขาจะเคยคาดคิดว่าชีวิตนี้ต้องเจอ

ภาพที่อลังการเช่นนี้ในชีวิตพวกเขาคงไม่ได้พบเจอมันอีกแล้ว

เทพสวรรค์ปรากฏตัวขึ้นมาตามๆ กันทั้งผู้ที่มาหลังนั้นยังเก่งกาจกว่าผู้ที่มาก่อนหน้าเสมอ

ที่สำคัญดูท่าแล้วเทพสวรรค์ทั้งสองที่เพิ่งมาถึงนี้ก็คงมาเพื่อเย่หยวนด้วยเช่นกัน

ระหว่างที่ทุกผู้คนกำลังมึนงงกับภาพตรงหน้านั้นเจียนหงเซียวและต้วนยี่ก็เป็นคนที่ก้าวขึ้นมาคารวะคนทั้งสองก่อนใครเพื่อน

“ขอคารวะท่านซู่เทา!”

“ขอคารวะท่านเปียวหยู!”

และผู้ที่มาถึงนั้นมันก็มิใช่ใครที่ไหนนอกไปเสียจากเจียนซู่เทาและเทพสวรรค์เปียวหยู!

นั่นมันทำให้สีหน้าของชางหยวนเปลี่ยนสีไปอย่างกะทันหัน ตอนนี้เขาแทบจะขาดอากาศตายแล้วจริงๆ

เจ้าเมืองยอดเมืองหลวงจักรพรรดิชะตาเลิศและเจ้าเมืองยอดเมืองหลวงจักรพรรดิทองวาวกลับปรากฏกายขึ้นพร้อมกัน!

เทพสวรรค์เปียวหยูนั้นมีตำแหน่งชื่อเสียงสูงส่งในหมู่เทพสวรรค์ด้วยกัน

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียตัวเขานั้นก็เป็นถึงจอมเทพโอสถเจ็ดดาวผู้มีวิชาถึงอาณาจักรเต๋าขั้นสุด

มีเทพสวรรค์ผู้ใดบ้างที่จะกล้าไม่ไว้หน้าเขา?

เพราะต่อให้จะเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์ก็ยังต้องไว้หน้าให้แก่เขาผู้นี้!

ส่วนทางด้านเจียนซู่เทานั้นยิ่งแล้วกันไปใหญ่

เพราะตัวตนของเขานั้นมันเหนือล้ำกว่าที่จะเอาเจียนหงเซียวไปเทียบได้!

ในฐานะเจ้าเมือง มันย่อมจะหมายความว่าหน้าของเจียนซู่เทานั้นเท่ากับหน้าของตระกูลเจียน

ที่สำคัญคนทั้งสองนี้ยังเป็นถึงเทพสวรรค์เจ็ดดาว!

นี่มันคือสองยอดเทพสวรรค์ที่ผู้คนได้แต่ต้องเงยหน้ามอง

เทพสวรรค์ชางหยวนนั้นไม่มีค่าใดๆ ต่อหน้าพวกเขาทั้งหลายนี้เลย!

เมื่อได้เห็นคนทั้งหลายนั้นแม้แต่พวกเฉาหยวนทั้งสี่เองก็ยังต้องก้าวขึ้นมากล่าวทักทาย

ส่วนเรื่องการมาถึงของคนทั้งสองนั้นเย่หยวนเองก็ตื่นตะลึงอยู่เต็มหัวใจเช่นกัน

แต่เมื่อคิดไม่คิดมาคนทั้งสองนี้ก็ย่อมจะไม่มาสร้างปัญหาให้เย่หยวนแน่ เพราะฉะนั้นเขาจึงก้าวขึ้นไปคารวะด้วย “เย่หยวนคารวะผู้อาวุโสซู่เทา ผู้อาวุโสเปียวหยู”

เจียนซู่เทาพยักหน้ารับ “เจ้าเด็กคนนี้ ช่างสร้างปัญหาเก่งเสียจริงๆ! เทพสวรรค์ผู้นี้อยู่ถึงยอดเมืองหลวงจักรพรรดิชะตาเลิศก็ยังได้ยินเรื่องวีรกรรมของเจ้า!”

เมื่อเย่หยวนได้ยินเช่นนั้นเขาก็สำลักไปเล็กน้อยแต่ไม่คิดจะสนใจเถียงกลับไป

แต่ตอนนี้เป็นเทพสวรรค์เปียวหยูที่จู่ๆ ก็เปิดปากพูดขึ้น “เย่หยวน เทพสวรรค์ผู้นี้เดินทางมาก็เพราะว่ามีเรื่องจะขอเจ้า”

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2013 ภาพแสนอลังการ

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2013 ภาพแสนอลังการ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพสวรรค์เฉาหยวน เทพสวรรค์หวู่เฟิง เทพสวรรค์เทียนเซียว เทพสวรรค์ชางหลัน เหล่าเทพสวรรค์ทั้งสี่คนนี้ต่างล้วนแล้วแต่เป็นถึงเทพสวรรค์สี่ดาวทั้งสิ้น

ที่สำคัญกว่านั้นคือทั้งสี่คนนี้มิได้อยู่ภายใต้การปกครองของจักรพรรดิเทพสวรรค์คนเดียวกัน

การรวมตัวเช่นนี้มันย่อมจะยิ่งใหญ่เหนือจินตนาการ

เมื่อรวมทางยอดเมืองหลวงจักรพรรดิชะตาเลิศที่อยู่เบื้องหลังเจียนหงเซียวและยอดเมืองหลวงจักรพรรดิทองวาวที่อยู่เบื้องหลังต้วนยี่แล้ว มันก็นับได้ว่ามีค่ายสำนักถึงหกฝ่ายด้วยกันที่คิดสนับสนุนเย่หยวน!

เทพถ่องแท้สามดาวผู้หนึ่งกลับสามารถมีอิทธิพลที่ยิ่งใหญ่เหนือล้ำได้ปานนี้!

ภายในเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์เวลานี้คนทั้งหลายต่างร่ำร้องขึ้นด้วยความตื่นเต้น

เพราะเรื่องราวในวันนี้มันย่อมจะเป็นเรื่องยิ่งใหญ่สุดแสนตื่นเต้นกว่าที่จะบรรยายเป็นคำพูดใดๆ

ไม้ตายของเย่หยวนนั้นถูกชักออกมาใช้งานอย่างไม่ขาดสายทำให้ผู้คนแทบหน้ามืดเป็นลม ไม่อาจจะอดทนรับเรื่องที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรากฏตัวของเทพสวรรค์ทั้งสี่นั้นมันทำให้หัวใจของผู้คนในเมืองเต้นรัวจนแทบหลุดออกจากปาก

พวกเขาทั้งหลายนี้เป็นถึงเทพสวรรค์ขั้นกลาง เป็นตัวตนที่ทั้งชีวิตนี้พวกเขาไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน!

“ท่านเย่หยวนนั้นช่างเหนือล้ำจริง! ถึงกับทำให้เทพสวรรค์มากมายมาช่วยเหลือเช่นนี้ได้!”

“พระเจ้า ในชีวิตข้านี้ข้าไม่เคยได้เห็นเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ปานนี้มาก่อน วันนี้ต่อให้ข้าต้องตายมันก็คงไม่เสียชาติเกิดแล้ว!”

“เราเลือกติดตามเจ้านายได้ถูกจริงๆ! วันนี้ต่อให้จักรพรรดิหยกมาเองเขาก็คงไม่อาจพาตัวนายท่านไปได้!”

ตอนนี้เหล่าผู้คนในเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นั้นต่างแสดงสีหน้าท่าทางภาคภูมิอย่างมากออกมา ภูมิใจที่ได้เป็นนักยุทธของเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์

เพราะว่าพวกเขานั้นมีเจ้านายที่เป็นดั่งปาฏิหาริย์เดินได้!

“พี่ชางหยวน ท่านเองก็เป็นยอดคนของแผ่นดิน เหตุใดต้องมากดดันทำให้เมืองจักรพรรดิน้อยๆ นี้ต้องลำบากด้วย? ถือว่าเห็นแก่หน้าหวู่เฟิงผู้นี้ ปล่อยเรื่องมันไปจะไม่ได้หรือ?” เทพสวรรค์หวู่เฟิงกล่าว

“พี่ชางหยวน สหายหนุ่มเย่นั้นมีพรสวรรค์เหนือล้ำ ต่อให้ท่านจะคิดเชิญตัวเขาไปมันก็ไม่ควรจะเป็นวิธีการเช่นนี้ใช่หรือไม่?” เทพสวรรค์ชางหลันกล่าวขึ้นตาม

เทพสวรรค์ชางหยวนนั้นได้แต่ทำหน้าเหยเกออกมาตอนนี้เขาอยู่ในสภาพจะกลืนก็ไม่เข้า จะคายก็ไม่ออก

เพราะผู้คนตรงหน้าของเขานั้นมันยิ่งใหญ่จนเกินไป ยิ่งใหญ่จนทำให้เขาเริ่มหวาดหวั่นขึ้นมา

ตอนนี้พวกหลู่เหยียนทั้งสามที่ด้านหลังนั้นยิ่งมึนงงอย่างไม่อาจตั้งสติ ได้แต่นั่งอ้าปากค้าง

พวกเขาทั้งสามนั้นตื่นตะลึงกับเส้นสายและวิธีการของเย่หยวนนี้

แค่เทพถ่องแท้สามดาวผู้หนึ่งกลับสามารถทำให้หกยอดค่ายสำนักของแผ่นดินออกมาปกป้องตัวเขาได้

วิธีการเช่นนี้มันย่อมเหนือล้ำจนไม่อาจจะมีใครคาดเดาได้

เทพสวรรค์ชางหยวนเองก็ได้แต่กัดฟันตอบกลับมา “เหล่าสหายนักยุทธทั้งหลาย ทำเช่นนี้มันจะไม่เป็นการดูถูกวังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์ฉีโยวมากเกินไปหน่อยหรือ! หากข้ายืนกรานที่จะยังพาตัวมันไปวันนี้เล่า?”

ภายในดินแดนของตัวเขา เทพสวรรค์ชางหยวนย่อมไม่คิดจะยอมเสียหน้าง่ายๆ

ต่อให้เขาจะต้องเผชิญอุปสรรคเช่นใดวันนี้เขาก็ต้องพาตัวเย่หยวนกลับไปให้ได้

ในเวลานั้นทางเทพสวรรค์เฉาหยวนจึงค่อยๆ หันหน้ากลับไปหาเย่หยวนด้วยรอยยิ้ม “สหายหนุ่มเย่หยวน นี่มันก็แค่เมืองหนึ่ง เหตุใดไม่ลองไปที่เมืองสิบล้ำข้าเล่า? เทพสวรรค์ผู้นี้สัญญาเลยว่าจะให้เมืองหลวงจักรพรรดิแก่เจ้า ว่าอย่างไร? ถึงเวลานั้นเจ้าย่อมจะสามารถจัดการเมืองหลวงจักรพรรดินั้นได้อย่างเต็มที่ตามสบายไม่มีใครจะมาหาเรื่องใดๆ เจ้าแน่นอน!”

เทพสวรรค์หวู่เฟิงที่ได้ยินจึงกระแอมพูดแทรกขึ้น “พี่เฉาหยวน ท่านช่างรู้วิธีการวางข้อเสนอจริงๆ! สหายหนุ่มเย่หยวน มาที่เมืองใบชาดข้าสิ เทพสวรรค์ผู้นี้สัญญาเลยว่าจะมองเมืองหลวงจักรพรรดิให้เจ้าสิบเมือง!”

ส่วนอีกสองคนเองก็ย่อมไม่คิดจะยอมแพ้และต่างยื่นข้อเสนอสุดงามมาให้แก่เย่หยวน

ซงหยูและพวกนั้นต่างเป็นต้นตอผลักดันให้เกิดการเชื้อเชิญนี้ เพราะพวกเขาต่างหวังอยากให้เย่หยวนได้ไปอยู่กับตน

ที่ด้านข้างเทพสวรรค์ชางหยวนเองก็ได้แต่ฟังไปด้วยใบหน้าม่วงดำ

หากเย่หยวนไปยังเขตแดนของยอดเมืองหลวงจักรพรรดิอื่นแล้วมีหรือที่เขาจะยังยื่นหน้ายุ่มย่ามได้?

เขาเป็นคนใต้วังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์ฉีโยว?

ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ภายใต้วังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์ฉีโยวแล้ว เจ้ายังจะมีหน้ามายุ่งอีกหรือไม่?

ที่สำคัญคำพูดของคนทั้งหลายนี้มันกล่าวอย่างชัดเจนตั้งใจให้ชางหยวนได้ยินอย่างแน่นอน

พูดจบเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายก็ได้แต่มองดูใบหน้าของเย่หยวนอย่างคาดหวัง หวังว่าเขานั้นจะเลือกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

เพราะถึงขั้นนี้แล้วเย่หยวนย่อมจะไม่มีเหตุผลใดๆ ให้ต้องอยู่ต่อไป

ไม่ว่าจะมองดูอย่างไรการจากไปก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

ด้วยพรสวรรค์และฝีมือระดับเย่หยวนแล้วไม่ว่าจะเป็นที่ใดในโลกกว้างนี้เขาก็ย่อมจะเหนือล้ำผู้คนได้

เย่หยวนยกมือขึ้นคารวะเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายด้วยรอยยิ้ม “ความหวังดีของผู้อาวุโสทั้งหลายเย่ผู้นี้ย่อมขอบคุณอย่างซาบซึ้ง เพียงแค่ว่าเย่ผู้นี้ใช้ชีวิตในเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นี้มานานแสนนานจนไม่อาจทำใจจากมันไปได้แล้ว”

เมื่อคำพูดเหล่านั้นถูกกล่าวทุกผู้คนต่างก็แสดงสีหน้าตกตะลึง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งใบหน้าของเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายนั้น เพราะพวกเขาไม่นึกไม่ฝันว่าเย่หยวนจะปฏิเสธออกมาตรงๆ เช่นนี้

เทพสวรรค์เฉาหยวนจึงกล่าวย้ำขึ้น “สหายหนุ่มเย่ เจ้าลองคิดดีๆ ก่อน”

เย่หยวนพยักหน้ารับ “ขอบพระคุณผู้อาวุโสที่มาช่วยเหลือข้าในวันนี้ เพียงแค่ว่าเย่ผู้นี้ได้ตัดสินใจมาตั้งแต่ต้นแล้วขอเหล่าผู้อาวุโสโปรดอย่าว่าร้ายกันเลย”

ชางหยวนที่ได้เห็นเช่นนั้นก็หัวเราะเย้ยขึ้น “เห็นไหมเล่าพี่น้องทั้งหลาย ไอ้เด็กคนนี้มันไม่รู้จักรักษาน้ำใจผู้คน! ความหวังดีจากเทพสวรรค์ยังโดนมันปัดทิ้งขว้างอย่างไร้เยื่อใยใดๆ!”

เทพสวรรค์เฉาหยวนได้แต่ขมวดคิ้วขึ้นมา “สหายหนุ่มเย่หยวนนั้นย่อมมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธอย่างเต็มที่ มีเหตุใดให้ต้องขุ่นเคืองกัน?”

ชางหยวนที่ได้ยินถึงกับผงะไปทันที ไม่นึกไม่ฝันว่าจนถึงตอนนี้เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายก็ยังคิดจะปกป้องเย่หยวน!

เขาจึงหัวเราะขึ้นมาอีกครา “พวกเจ้านั้นขัดขวางได้ในวันนี้ แต่หรือว่าพวกเจ้าจะอยู่ขัดขวางได้ตลอดไป? พวกเจ้าทั้งหลายจะย้ายมาอยู่ที่เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์หรืออย่างไรเล่า?”

แต่เสียงของเทพสวรรค์ชางหยวนยังไม่ทันขาดหายก็ได้เกิดคลื่นพลังลูกใหม่ขึ้นอีกครั้ง

สองเงาร่างได้ปรากฏออกมาจากรอยแยกมิติ!

ชางหยวนที่เห็นเช่นนั้นต้องเบิกตามองคนทั้งสองอย่างไม่อยากเชื่อสายตา

“เป็นเทพสวรรค์อีกสองท่าน! พระเจ้าช่วย มันต้องมีเทพสวรรค์ปรากฏตัวขึ้นอีกเท่าใดเรื่องราวในวันนี้มันถึงจะจบลงได้กัน?”

“เดี๋ยวนะ! เหตุใดข้าถึงรู้สึกว่าเทพสวรรค์ทั้งสองท่านนี้ช่างลึกล้ำดูท่าจะแข็งแกร่งกว่าพวกเทพสวรรค์ชางหยวนทั้งหลายอีก?”

“จริงด้วย! หรือว่า… เทพสวรรค์ทั้งสองท่านนี้จะแข็งแกร่งกว่าพวกเขาจริง?”

เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นั้นต่างแตกตื่นกันยกใหญ่ เพราะเรื่องราวใหญ่วันนี้มันยิ่งใหญ่อลังการกว่าเรื่องใดๆ ที่พวกเขาจะเคยคาดคิดว่าชีวิตนี้ต้องเจอ

ภาพที่อลังการเช่นนี้ในชีวิตพวกเขาคงไม่ได้พบเจอมันอีกแล้ว

เทพสวรรค์ปรากฏตัวขึ้นมาตามๆ กันทั้งผู้ที่มาหลังนั้นยังเก่งกาจกว่าผู้ที่มาก่อนหน้าเสมอ

ที่สำคัญดูท่าแล้วเทพสวรรค์ทั้งสองที่เพิ่งมาถึงนี้ก็คงมาเพื่อเย่หยวนด้วยเช่นกัน

ระหว่างที่ทุกผู้คนกำลังมึนงงกับภาพตรงหน้านั้นเจียนหงเซียวและต้วนยี่ก็เป็นคนที่ก้าวขึ้นมาคารวะคนทั้งสองก่อนใครเพื่อน

“ขอคารวะท่านซู่เทา!”

“ขอคารวะท่านเปียวหยู!”

และผู้ที่มาถึงนั้นมันก็มิใช่ใครที่ไหนนอกไปเสียจากเจียนซู่เทาและเทพสวรรค์เปียวหยู!

นั่นมันทำให้สีหน้าของชางหยวนเปลี่ยนสีไปอย่างกะทันหัน ตอนนี้เขาแทบจะขาดอากาศตายแล้วจริงๆ

เจ้าเมืองยอดเมืองหลวงจักรพรรดิชะตาเลิศและเจ้าเมืองยอดเมืองหลวงจักรพรรดิทองวาวกลับปรากฏกายขึ้นพร้อมกัน!

เทพสวรรค์เปียวหยูนั้นมีตำแหน่งชื่อเสียงสูงส่งในหมู่เทพสวรรค์ด้วยกัน

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียตัวเขานั้นก็เป็นถึงจอมเทพโอสถเจ็ดดาวผู้มีวิชาถึงอาณาจักรเต๋าขั้นสุด

มีเทพสวรรค์ผู้ใดบ้างที่จะกล้าไม่ไว้หน้าเขา?

เพราะต่อให้จะเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์ก็ยังต้องไว้หน้าให้แก่เขาผู้นี้!

ส่วนทางด้านเจียนซู่เทานั้นยิ่งแล้วกันไปใหญ่

เพราะตัวตนของเขานั้นมันเหนือล้ำกว่าที่จะเอาเจียนหงเซียวไปเทียบได้!

ในฐานะเจ้าเมือง มันย่อมจะหมายความว่าหน้าของเจียนซู่เทานั้นเท่ากับหน้าของตระกูลเจียน

ที่สำคัญคนทั้งสองนี้ยังเป็นถึงเทพสวรรค์เจ็ดดาว!

นี่มันคือสองยอดเทพสวรรค์ที่ผู้คนได้แต่ต้องเงยหน้ามอง

เทพสวรรค์ชางหยวนนั้นไม่มีค่าใดๆ ต่อหน้าพวกเขาทั้งหลายนี้เลย!

เมื่อได้เห็นคนทั้งหลายนั้นแม้แต่พวกเฉาหยวนทั้งสี่เองก็ยังต้องก้าวขึ้นมากล่าวทักทาย

ส่วนเรื่องการมาถึงของคนทั้งสองนั้นเย่หยวนเองก็ตื่นตะลึงอยู่เต็มหัวใจเช่นกัน

แต่เมื่อคิดไม่คิดมาคนทั้งสองนี้ก็ย่อมจะไม่มาสร้างปัญหาให้เย่หยวนแน่ เพราะฉะนั้นเขาจึงก้าวขึ้นไปคารวะด้วย “เย่หยวนคารวะผู้อาวุโสซู่เทา ผู้อาวุโสเปียวหยู”

เจียนซู่เทาพยักหน้ารับ “เจ้าเด็กคนนี้ ช่างสร้างปัญหาเก่งเสียจริงๆ! เทพสวรรค์ผู้นี้อยู่ถึงยอดเมืองหลวงจักรพรรดิชะตาเลิศก็ยังได้ยินเรื่องวีรกรรมของเจ้า!”

เมื่อเย่หยวนได้ยินเช่นนั้นเขาก็สำลักไปเล็กน้อยแต่ไม่คิดจะสนใจเถียงกลับไป

แต่ตอนนี้เป็นเทพสวรรค์เปียวหยูที่จู่ๆ ก็เปิดปากพูดขึ้น “เย่หยวน เทพสวรรค์ผู้นี้เดินทางมาก็เพราะว่ามีเรื่องจะขอเจ้า”

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+