Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2030 เรื่องจริงนั้นยิ่งกว่าข่าวลือ

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2030 เรื่องจริงนั้นยิ่งกว่าข่าวลือ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ทุกผู้คนต่างตกตะลึงจนไม่อาจอธิบายความรู้สึกเป็นคำพูดได้!

เทียบกับธาตุไม้หรือธาตุไฟแล้ว ธาตุสายฟ้ามันย่อมจะรุนแรงควบคุมยากกว่ามาก เหตุใดสุดท้ายแล้วมันกลับสามารถหลอมเป็นหนึ่งได้?

นี่คือความสงสัยที่ทั้งเจิ้งฉีหยวนและคนทั้งหลายมีพร้อมๆ กัน

เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายต่างไม่มีใครเข้าใจและหันมามองดูเย่หยวนด้วยความมึนงงสงสัย

“ปรมาจารย์เย่ มันสำเร็จจริงๆ! มันสำเร็จอย่างที่ท่านว่าจริง! โอสถวาโยเมฆเจ็ดสมบัตินี้เทพสวรรค์ผู้นี้ได้ใช้เวลาศึกษามันมานับแสนๆ ปี ไม่นึกไม่ฝันว่าท่านกลับสำเร็จมันได้ในเวลาแค่สองวัน! เก่งกาจราวเทพเจ้าโดยแท้!”

เทพสวรรค์เหลียวหมิงนั้นมองดูเย่หยวนด้วยใบหน้าแสนตื่นเต้นพร้อมความตื่นตะลึง

ก่อนหน้านี้เขาเองก็ไม่ได้คิดต่างจากคนอื่นๆ มากมายนัก เขานั้นยังสงสัยว่าเย่หยวนจะเก่งกาจจริงพอมีค่ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนวิชาด้วยหรือไม่

เพียงแค่ว่าเขานั้นก็รู้จักเทพสวรรค์เปียวหยูและเข้าใจว่าเทพสวรรค์เปียวหยูคงไม่ทำอะไรไร้สาระเล่นๆ เช่นนี้แน่

เขาจึงเลือกจะลองเชื่อ

แต่ก็ไม่นึกไม่ฝันว่าแท้จริงแล้วจอมเทพโอสถหกดาวผู้นี้มันจะเก่งกาจเหนือฟ้า กลับสามารถทำให้สูตรโอสถเจ็ดดาวอย่างโอสถวาโยเมฆเจ็ดสมบัตินั้นสำเร็จลงได้ในเวลาสั้นๆ เพียงเท่านี้

แค่นี้มันก็มากพอที่จะแสดงให้เห็นแล้วว่าเย่หยวนนั้นมีวิชาโอสถที่เหนือล้ำกว่าเหล่าจอมเทพโอสถเจ็ดดาวทั้งหลายในที่นี้!

เย่หยวนยิ้มขึ้นมาก่อนจะหันไปมองดูเจิ้งฉีหยวน “พี่เจิ้ง ข้าสงสัยจริงว่าเย่ผู้นี้จะมีค่าพอแลกเปลี่ยนความรู้กับพวกท่านหรือยัง? สงสัยเหลือเกินว่าข้ามีสิทธิ์จะไม่สนใจคำท้าทายของลูกหลานท่านหรือไม่? สงสัยเหลือเกินว่าข้านั้นเหมาะสมกับตำแหน่งปรมาจารย์หรือไม่?”

คำถามทั้งสามนี้มันเป็นดั่งค้อนเหล็กทุบลงกลางหัวของเจิ้งฉีหยวน

แน่นอนว่าเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายเองก็สั่นสะท้านไปทั้งกายหลังได้ยิน

เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาทั้งหลายก็ไม่มีใครเชื่อในฝีมือของเย่หยวน

แต่ตอนนี้เย่หยวนกลับแสดงฝีมือออกมาทำให้พวกเขาทั้งหลายต้องถูกตบจนหน้าหัน

เจิ้งฉีหยวนนั้นมีใบหน้าราวคนเสียสติ

เขานั้นไม่อาจจะตอบคำถามใดๆ ของเย่หยวนได้

มีค่าพอหรือไม่?

แน่นอนว่ามี!

สูตรโอสถโบราณอันนี้เย่หยวนกลับใช้เวลาแค่สองวันแก้ไขมัน

เจิ้งฉีหยวนทำเช่นนั้นได้หรือไม่?

อย่าว่าแต่ตัวเขา แม้แต่เหล่าจอมเทพโอสถเจ็ดดาวทั้งหลายนี้ใช้เวลารวมหัวกันคิดเป็นเดือนก็ยังไม่อาจจะแก้ไขใดๆ ได้แต่เลือกสมุนไพรผิดๆ ขึ้นมาอย่างหนึ่ง

“ข้า… ข้าไม่ยอมรับ! ธาตุสายฟ้ามันจะมาอยู่ในโอสถธาตุลมแท้ได้อย่างไร? ภายในมันจะมีผลอย่างไรกัน?” เจิ้งฉีหยวนกัดฟันร้อง

เย่หยวนหัวเราะเย้ยขึ้นก่อนจะตอบกลับไป “คุณสมบัติใดๆ ของสมุนไพรวิญญาณนั้นมันไม่เคยมีอยู่เพียงอย่างเดียว ก็จริงที่ว่าผลเซียนกลั่นเมฆฝนนั้นมันเป็นสมุนไพรวิญญาณธาตุสายฟ้า แต่ตัวมันเองก็มีธาตุลมแฝงอยู่ไม่น้อย พอดีที่จะใช้กับสมุนไพรตัวอื่นในโอสถวาโยเมฆเจ็ดสมบัติ! ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมต้องเป็นผลเซียนกลั่นเมฆฝนนั้นมันก็แสนง่าย เพราะว่าในหมู่สมุนไพรวิญญาณที่ใช้ในโอสถนั้นมันมีหลายตัวที่ถูกเพิ่มเข้ามาเพื่อปรับสมดุลธาตุสายฟ้าของผลเซียนกลั่นเมฆฝน! เจ้าเข้าใจหรือยังเล่า?”

เจิ้งฉีหยวนเบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตนเอง

เจ้าหมอนี่มันกลับเข้าใจถึงคุณสมบัติของสมุนไพรวิญญาณได้อย่างลึกล้ำ

สมุนไพรวิญญาณนั้นไม่ได้มีคุณสมบัติแค่อย่างเดียว สิ่งนี้เป็นที่รู้กันดีในหมู่จอมเทพโอสถ

แต่แล้วสมุนไพรทั้งหลายนั้นมันมีคุณสมบัติอื่นใดแฝงอยู่บ้าง? เรื่องนั้นมันต้องใช้ความเข้าใจที่ลึกล้ำในตัวสมุนไพรวิญญาณนั้นๆ

ที่สำคัญไปกว่านั้นแม้ว่าสมุนไพรใดๆ มันจะไม่ได้มีคุณสมบัติแค่ด้านเดียว แต่เหล่าสูตรโอสถทั้งหลายนั้นมันล้วนแล้วแต่ปรุงขึ้นตามคุณสมบัติหลักที่รุนแรงที่สุดของสมุนไพรนั้น

แต่เจ้าผลเซียนกลั่นเมฆฝนนี้มันกลับถูกนำมาใช้เพื่อเอาคุณสมบัติรอง เรื่องราวเช่นนี้มันแทบจะไม่เคยเกิดขึ้นในการหลอมโอสถ แน่นอนว่าคนทั้งหลายย่อมจะไม่มีใครคาดคิดถึง

และที่สำคัญก็คือเย่หยวนได้เลือกเอาผลเซียนกลั่นเมฆฝนนี้ขึ้นมาจากเหล่าสมุนไพรทั้งหลายนับสิบล้านชนิด มันต้องเป็นความสามารถในการอนุมานระดับใดถึงจะทำได้?

เพราะเดิมทีแค่คนที่รู้ถึงคุณสมบัติธาตุลมของผลเซียนกลั่นเมฆฝนมันก็มีไม่มากแล้ว คนที่จะไปคิดถึงมันได้ยิ่งจะมีน้อยกว่า

ทุกผู้คนมองดูเย่หยวนอย่างตกตะลึง ตอนนี้พวกเขาทั้งหลายได้เข้าใจแล้วว่าเต๋าโอสถของเย่หยวนนั้นมันเหนือล้ำกว่าพวกเขาไปมากเท่าใด

แค่การบอกถึงจุดผิดพลาดของหญ้าธาตุใจมายาก่อนหน้านี้มันก็ทำให้คนทั้งหลายเริ่มยอมรับเย่หยวนแล้ว

แต่ตอนนี้สายตาของเหล่าจอมเทพโอสถเจ็ดดาวทั้งหลายนี้มันกลับกลายเป็นความชื่นชมในตัวเย่หยวนอย่างสุดใจ!

เทพสวรรค์ซืออี้เบิกตากว้างอย่างตื่นตะลึงพร้อมก้มหน้าลงกล่าว “ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดพี่เปียวหยูถึงได้ให้เหรียญปรมาจารย์แก่เจ้า ตอนนี้เทพสวรรค์ผู้นี้ยอมรับอย่างสุดหัวใจแล้ว!”

เทพสวรรค์เหลียวหมิงนั้นกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าเปี่ยมความชื่นชม “ข้าไม่นึกเลยว่าจะได้มาเจอยอดคนอย่างปรมาจารย์เย่ในงานชุมนุมโอสถเมฆาครั้งนี้ เหลียวผู้นี้คงใช้โชคของทั้งชาติไปหมดแล้ว!”

แม้ว่าเย่หยวนนั้นจะไม่อาจหลอมโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ดได้แต่ความเข้าใจในวิชาโอสถของเขามันก็เหนือล้ำกว่าเทพสวรรค์ทั้งหลายไปสิ้น

มีหรือที่เหล่าจอมเทพโอสถเจ็ดดาวทั้งหลายนี้จะไม่ชื่นชมความเก่งกาจนั้นได้?

วิชาโอสถนั้นมันแตกต่างจากวิชายุทธ์ เพราะในวิชายุทธพลังก็คือพลัง ความแข็งแกร่งก็คือความแข็งแกร่ง ต่อให้จะเป็นเย่หยวนเขาก็ไม่อาจจะต่อสู้กับเทพสวรรค์ได้

แต่ในด้านวิชาโอสถแล้วตราบเท่าที่เขาเข้าใจได้ถึงระดับหนึ่ง แม้แต่เหล่าจอมเทพโอสถเจ็ดดาวทั้งหลายก็ยังต้องก้มหัวยอมรับความพ่ายแพ้

เพียงแค่ว่าคนที่ทำเช่นนั้นได้มันมีน้อย น้อยจนไม่มีใครคิดว่าจะมี

แต่ความรู้ที่เย่หยวนแสดงในวันนี้มันทำให้สามัญสำนึกของพวกเขาแตกสลายลง

เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายนั้นย่อมจะไม่ได้คิดว่าแท้จริงแล้วเย่หยวนนั้นมีดีมากกว่านี้อย่างเหลือล้น การสร้างสูตรโอสถเองนั้นเขาก็ยังเคยทำมาแล้วหลายครั้ง

เพราะฉะนั้นการช่วยเติมส่วนประกอบให้สูตรโอสถที่ขาดหายเช่นนี้มันจึงมิใช่เรื่องยากเย็นแก่เย่หยวนเลย

ตระกูลเจิ้งนั้นได้ประกาศถอนตัวออกจากงานชุมนุมโอสถเมฆาจนทำให้เรื่องราวแพร่กระจายไปทั่วเมือง

ตระกูลเจิ้งนั้นเป็นหนึ่งในยอดตระกูลนักหลอมโอสถที่มีชื่อเสียงในแดนใต้ แต่พวกเขาทั้งหลายกลับถอนตัวไปเช่นนั้น

งานชุมนุมโอสถเมฆานั้นมันเป็นยอดงานสุดยิ่งใหญ่ของวงการโอสถในแดนใต้ การถอนตัวออกจากงานนี้มันย่อมหมายความว่าพวกเขาทั้งหลายจะกลายเป็นคนนอกของวงการโอสถไป

เหตุบรรพบุรุษของตระกูลเจิ้งจึงได้ทำเรื่องโง่เง่าเช่นนั้น?

“เจิ้งปู้ฉุนนั้นมีฝีมือเหนือล้ำติดอันดับหนึ่งในสิบงานชุมนุมโอสถเมฆาครั้งนี้ได้ง่ายๆ ถอนตัวไปเช่นนี้เสียดายแย่”

“หึ เจ้าไม่รู้หรือ? ข้าได้ยินมาว่าที่ตระกูลเจิ้งนั้นถอนตัวไปก็เพราะว่าบรรพบุรุษตระกูลเจิ้งได้ไปแพ้เดิมพันจนไม่มีทางเลือกต้องถอนตัวไป”

“โอ้? ใครกันที่เก่งกาจสามารถทำให้ทั้งตระกูลเจิ้งต้องถอนตัวจากงานชุมนุมโอสถเมฆาเช่นนี้ได้?”

“ใครกันอีกเล่า? ก็ต้องเป็นปรมาจารย์เย่ เทพถ่องแท้ผู้นั้น! ข้าได้ยินมาว่าปรมาจารย์เย่นั้นได้เติมสูตรโอสถโบราณจนสำเร็จครบถ้วนจนทำให้เหล่าจอมเทพโอสถเจ็ดดาวทั้งหลายต้องพ่ายแพ้ บรรพบุรุษตระกูลเจิ้งนั้นไม่เชื่อว่าปรมาจารย์เย่จะทำสูตรนี้ให้สำเร็จได้จึงไปวางเดิมพันกันไว้ สุดท้ายก็แพ้พ่าย!”

“ห๊ะ?! ปรมาจารย์เย่นั้นเก่งกาจปานนั้น? ก้าวข้ามชนะจอมเทพโอสถเจ็ดดาวไปได้? พระเจ้าช่วย!”

ในเมืองตอนนี้มันเต็มไปด้วยข่าวลือต่างๆ นานา

เพราะไม่ว่าอย่างไรหน้าต่างมันก็มีหูประตูมันก็มีช่อง เรื่องราวที่เกิดขึ้นในศาลาโอสถแห้งวันนั้นมันก็ได้กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตกระจายไปทั่วทั้งเมืองทันที

แต่ทว่าเหล่าคนทั้งหลายนั้นย่อมไม่คิดอยากจะเชื่อ เพราะไม่ว่าอย่างไรข่าวลือนี้มันก็เหลือเชื่อจนไม่อาจทำใจยอมรับลง

จอมเทพโอสถหกดาวกลับชนะจอมเทพโอสถเจ็ดดาวลงได้ ข่าวลือเช่นนี้ใครได้ฟังแล้วจะไปเชื่อ?

แต่แม้คนอื่นจะไม่เชื่อ หยุนยี่นั้นกลับกำลังรู้สึกสั่นสะท้านไปทั้งใจ

เพราะคนที่เสนอเรื่องราวนี้ไปมันก็คือเขา เรื่องที่ว่าเหตุใดบรรพบุรุษตระกูลเจิ้งถึงไปท้าทายเช่นนั้นมันย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจตัว

เขานั้นไม่เคยนึกเคยฝันว่าเย่หยวนจะเก่งกาจได้ปานนั้น ทำให้ตระกูลเจิ้งต้องถอนตัวออกจากวงการโอสถในแดนใต้ทันที!

ชายหนุ่มสกุลต้วนกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าเหยเก “พี่หยุนยี่ ตอนที่เจิ้งปู้ฉุนจากไปเขานั้นไม่มีเวลาแม้แต่จะมาพูดคุยกับเรา เรื่องนี้มันเป็นฝีมือของเย่หยวนผู้นั้นจริงๆ หรือ?”

หยุนยี่ยิ้มออกมา “ข่าวที่ลือกันว่าน่าเหลือเชื่อแล้ว แต่… เรื่องจริงนั้นมันยิ่งเสียกว่าข่าวลือ!”

………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2030 เรื่องจริงนั้นยิ่งกว่าข่าวลือ

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2030 เรื่องจริงนั้นยิ่งกว่าข่าวลือ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ทุกผู้คนต่างตกตะลึงจนไม่อาจอธิบายความรู้สึกเป็นคำพูดได้!

เทียบกับธาตุไม้หรือธาตุไฟแล้ว ธาตุสายฟ้ามันย่อมจะรุนแรงควบคุมยากกว่ามาก เหตุใดสุดท้ายแล้วมันกลับสามารถหลอมเป็นหนึ่งได้?

นี่คือความสงสัยที่ทั้งเจิ้งฉีหยวนและคนทั้งหลายมีพร้อมๆ กัน

เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายต่างไม่มีใครเข้าใจและหันมามองดูเย่หยวนด้วยความมึนงงสงสัย

“ปรมาจารย์เย่ มันสำเร็จจริงๆ! มันสำเร็จอย่างที่ท่านว่าจริง! โอสถวาโยเมฆเจ็ดสมบัตินี้เทพสวรรค์ผู้นี้ได้ใช้เวลาศึกษามันมานับแสนๆ ปี ไม่นึกไม่ฝันว่าท่านกลับสำเร็จมันได้ในเวลาแค่สองวัน! เก่งกาจราวเทพเจ้าโดยแท้!”

เทพสวรรค์เหลียวหมิงนั้นมองดูเย่หยวนด้วยใบหน้าแสนตื่นเต้นพร้อมความตื่นตะลึง

ก่อนหน้านี้เขาเองก็ไม่ได้คิดต่างจากคนอื่นๆ มากมายนัก เขานั้นยังสงสัยว่าเย่หยวนจะเก่งกาจจริงพอมีค่ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนวิชาด้วยหรือไม่

เพียงแค่ว่าเขานั้นก็รู้จักเทพสวรรค์เปียวหยูและเข้าใจว่าเทพสวรรค์เปียวหยูคงไม่ทำอะไรไร้สาระเล่นๆ เช่นนี้แน่

เขาจึงเลือกจะลองเชื่อ

แต่ก็ไม่นึกไม่ฝันว่าแท้จริงแล้วจอมเทพโอสถหกดาวผู้นี้มันจะเก่งกาจเหนือฟ้า กลับสามารถทำให้สูตรโอสถเจ็ดดาวอย่างโอสถวาโยเมฆเจ็ดสมบัตินั้นสำเร็จลงได้ในเวลาสั้นๆ เพียงเท่านี้

แค่นี้มันก็มากพอที่จะแสดงให้เห็นแล้วว่าเย่หยวนนั้นมีวิชาโอสถที่เหนือล้ำกว่าเหล่าจอมเทพโอสถเจ็ดดาวทั้งหลายในที่นี้!

เย่หยวนยิ้มขึ้นมาก่อนจะหันไปมองดูเจิ้งฉีหยวน “พี่เจิ้ง ข้าสงสัยจริงว่าเย่ผู้นี้จะมีค่าพอแลกเปลี่ยนความรู้กับพวกท่านหรือยัง? สงสัยเหลือเกินว่าข้ามีสิทธิ์จะไม่สนใจคำท้าทายของลูกหลานท่านหรือไม่? สงสัยเหลือเกินว่าข้านั้นเหมาะสมกับตำแหน่งปรมาจารย์หรือไม่?”

คำถามทั้งสามนี้มันเป็นดั่งค้อนเหล็กทุบลงกลางหัวของเจิ้งฉีหยวน

แน่นอนว่าเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายเองก็สั่นสะท้านไปทั้งกายหลังได้ยิน

เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาทั้งหลายก็ไม่มีใครเชื่อในฝีมือของเย่หยวน

แต่ตอนนี้เย่หยวนกลับแสดงฝีมือออกมาทำให้พวกเขาทั้งหลายต้องถูกตบจนหน้าหัน

เจิ้งฉีหยวนนั้นมีใบหน้าราวคนเสียสติ

เขานั้นไม่อาจจะตอบคำถามใดๆ ของเย่หยวนได้

มีค่าพอหรือไม่?

แน่นอนว่ามี!

สูตรโอสถโบราณอันนี้เย่หยวนกลับใช้เวลาแค่สองวันแก้ไขมัน

เจิ้งฉีหยวนทำเช่นนั้นได้หรือไม่?

อย่าว่าแต่ตัวเขา แม้แต่เหล่าจอมเทพโอสถเจ็ดดาวทั้งหลายนี้ใช้เวลารวมหัวกันคิดเป็นเดือนก็ยังไม่อาจจะแก้ไขใดๆ ได้แต่เลือกสมุนไพรผิดๆ ขึ้นมาอย่างหนึ่ง

“ข้า… ข้าไม่ยอมรับ! ธาตุสายฟ้ามันจะมาอยู่ในโอสถธาตุลมแท้ได้อย่างไร? ภายในมันจะมีผลอย่างไรกัน?” เจิ้งฉีหยวนกัดฟันร้อง

เย่หยวนหัวเราะเย้ยขึ้นก่อนจะตอบกลับไป “คุณสมบัติใดๆ ของสมุนไพรวิญญาณนั้นมันไม่เคยมีอยู่เพียงอย่างเดียว ก็จริงที่ว่าผลเซียนกลั่นเมฆฝนนั้นมันเป็นสมุนไพรวิญญาณธาตุสายฟ้า แต่ตัวมันเองก็มีธาตุลมแฝงอยู่ไม่น้อย พอดีที่จะใช้กับสมุนไพรตัวอื่นในโอสถวาโยเมฆเจ็ดสมบัติ! ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมต้องเป็นผลเซียนกลั่นเมฆฝนนั้นมันก็แสนง่าย เพราะว่าในหมู่สมุนไพรวิญญาณที่ใช้ในโอสถนั้นมันมีหลายตัวที่ถูกเพิ่มเข้ามาเพื่อปรับสมดุลธาตุสายฟ้าของผลเซียนกลั่นเมฆฝน! เจ้าเข้าใจหรือยังเล่า?”

เจิ้งฉีหยวนเบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตนเอง

เจ้าหมอนี่มันกลับเข้าใจถึงคุณสมบัติของสมุนไพรวิญญาณได้อย่างลึกล้ำ

สมุนไพรวิญญาณนั้นไม่ได้มีคุณสมบัติแค่อย่างเดียว สิ่งนี้เป็นที่รู้กันดีในหมู่จอมเทพโอสถ

แต่แล้วสมุนไพรทั้งหลายนั้นมันมีคุณสมบัติอื่นใดแฝงอยู่บ้าง? เรื่องนั้นมันต้องใช้ความเข้าใจที่ลึกล้ำในตัวสมุนไพรวิญญาณนั้นๆ

ที่สำคัญไปกว่านั้นแม้ว่าสมุนไพรใดๆ มันจะไม่ได้มีคุณสมบัติแค่ด้านเดียว แต่เหล่าสูตรโอสถทั้งหลายนั้นมันล้วนแล้วแต่ปรุงขึ้นตามคุณสมบัติหลักที่รุนแรงที่สุดของสมุนไพรนั้น

แต่เจ้าผลเซียนกลั่นเมฆฝนนี้มันกลับถูกนำมาใช้เพื่อเอาคุณสมบัติรอง เรื่องราวเช่นนี้มันแทบจะไม่เคยเกิดขึ้นในการหลอมโอสถ แน่นอนว่าคนทั้งหลายย่อมจะไม่มีใครคาดคิดถึง

และที่สำคัญก็คือเย่หยวนได้เลือกเอาผลเซียนกลั่นเมฆฝนนี้ขึ้นมาจากเหล่าสมุนไพรทั้งหลายนับสิบล้านชนิด มันต้องเป็นความสามารถในการอนุมานระดับใดถึงจะทำได้?

เพราะเดิมทีแค่คนที่รู้ถึงคุณสมบัติธาตุลมของผลเซียนกลั่นเมฆฝนมันก็มีไม่มากแล้ว คนที่จะไปคิดถึงมันได้ยิ่งจะมีน้อยกว่า

ทุกผู้คนมองดูเย่หยวนอย่างตกตะลึง ตอนนี้พวกเขาทั้งหลายได้เข้าใจแล้วว่าเต๋าโอสถของเย่หยวนนั้นมันเหนือล้ำกว่าพวกเขาไปมากเท่าใด

แค่การบอกถึงจุดผิดพลาดของหญ้าธาตุใจมายาก่อนหน้านี้มันก็ทำให้คนทั้งหลายเริ่มยอมรับเย่หยวนแล้ว

แต่ตอนนี้สายตาของเหล่าจอมเทพโอสถเจ็ดดาวทั้งหลายนี้มันกลับกลายเป็นความชื่นชมในตัวเย่หยวนอย่างสุดใจ!

เทพสวรรค์ซืออี้เบิกตากว้างอย่างตื่นตะลึงพร้อมก้มหน้าลงกล่าว “ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดพี่เปียวหยูถึงได้ให้เหรียญปรมาจารย์แก่เจ้า ตอนนี้เทพสวรรค์ผู้นี้ยอมรับอย่างสุดหัวใจแล้ว!”

เทพสวรรค์เหลียวหมิงนั้นกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าเปี่ยมความชื่นชม “ข้าไม่นึกเลยว่าจะได้มาเจอยอดคนอย่างปรมาจารย์เย่ในงานชุมนุมโอสถเมฆาครั้งนี้ เหลียวผู้นี้คงใช้โชคของทั้งชาติไปหมดแล้ว!”

แม้ว่าเย่หยวนนั้นจะไม่อาจหลอมโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ดได้แต่ความเข้าใจในวิชาโอสถของเขามันก็เหนือล้ำกว่าเทพสวรรค์ทั้งหลายไปสิ้น

มีหรือที่เหล่าจอมเทพโอสถเจ็ดดาวทั้งหลายนี้จะไม่ชื่นชมความเก่งกาจนั้นได้?

วิชาโอสถนั้นมันแตกต่างจากวิชายุทธ์ เพราะในวิชายุทธพลังก็คือพลัง ความแข็งแกร่งก็คือความแข็งแกร่ง ต่อให้จะเป็นเย่หยวนเขาก็ไม่อาจจะต่อสู้กับเทพสวรรค์ได้

แต่ในด้านวิชาโอสถแล้วตราบเท่าที่เขาเข้าใจได้ถึงระดับหนึ่ง แม้แต่เหล่าจอมเทพโอสถเจ็ดดาวทั้งหลายก็ยังต้องก้มหัวยอมรับความพ่ายแพ้

เพียงแค่ว่าคนที่ทำเช่นนั้นได้มันมีน้อย น้อยจนไม่มีใครคิดว่าจะมี

แต่ความรู้ที่เย่หยวนแสดงในวันนี้มันทำให้สามัญสำนึกของพวกเขาแตกสลายลง

เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายนั้นย่อมจะไม่ได้คิดว่าแท้จริงแล้วเย่หยวนนั้นมีดีมากกว่านี้อย่างเหลือล้น การสร้างสูตรโอสถเองนั้นเขาก็ยังเคยทำมาแล้วหลายครั้ง

เพราะฉะนั้นการช่วยเติมส่วนประกอบให้สูตรโอสถที่ขาดหายเช่นนี้มันจึงมิใช่เรื่องยากเย็นแก่เย่หยวนเลย

ตระกูลเจิ้งนั้นได้ประกาศถอนตัวออกจากงานชุมนุมโอสถเมฆาจนทำให้เรื่องราวแพร่กระจายไปทั่วเมือง

ตระกูลเจิ้งนั้นเป็นหนึ่งในยอดตระกูลนักหลอมโอสถที่มีชื่อเสียงในแดนใต้ แต่พวกเขาทั้งหลายกลับถอนตัวไปเช่นนั้น

งานชุมนุมโอสถเมฆานั้นมันเป็นยอดงานสุดยิ่งใหญ่ของวงการโอสถในแดนใต้ การถอนตัวออกจากงานนี้มันย่อมหมายความว่าพวกเขาทั้งหลายจะกลายเป็นคนนอกของวงการโอสถไป

เหตุบรรพบุรุษของตระกูลเจิ้งจึงได้ทำเรื่องโง่เง่าเช่นนั้น?

“เจิ้งปู้ฉุนนั้นมีฝีมือเหนือล้ำติดอันดับหนึ่งในสิบงานชุมนุมโอสถเมฆาครั้งนี้ได้ง่ายๆ ถอนตัวไปเช่นนี้เสียดายแย่”

“หึ เจ้าไม่รู้หรือ? ข้าได้ยินมาว่าที่ตระกูลเจิ้งนั้นถอนตัวไปก็เพราะว่าบรรพบุรุษตระกูลเจิ้งได้ไปแพ้เดิมพันจนไม่มีทางเลือกต้องถอนตัวไป”

“โอ้? ใครกันที่เก่งกาจสามารถทำให้ทั้งตระกูลเจิ้งต้องถอนตัวจากงานชุมนุมโอสถเมฆาเช่นนี้ได้?”

“ใครกันอีกเล่า? ก็ต้องเป็นปรมาจารย์เย่ เทพถ่องแท้ผู้นั้น! ข้าได้ยินมาว่าปรมาจารย์เย่นั้นได้เติมสูตรโอสถโบราณจนสำเร็จครบถ้วนจนทำให้เหล่าจอมเทพโอสถเจ็ดดาวทั้งหลายต้องพ่ายแพ้ บรรพบุรุษตระกูลเจิ้งนั้นไม่เชื่อว่าปรมาจารย์เย่จะทำสูตรนี้ให้สำเร็จได้จึงไปวางเดิมพันกันไว้ สุดท้ายก็แพ้พ่าย!”

“ห๊ะ?! ปรมาจารย์เย่นั้นเก่งกาจปานนั้น? ก้าวข้ามชนะจอมเทพโอสถเจ็ดดาวไปได้? พระเจ้าช่วย!”

ในเมืองตอนนี้มันเต็มไปด้วยข่าวลือต่างๆ นานา

เพราะไม่ว่าอย่างไรหน้าต่างมันก็มีหูประตูมันก็มีช่อง เรื่องราวที่เกิดขึ้นในศาลาโอสถแห้งวันนั้นมันก็ได้กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตกระจายไปทั่วทั้งเมืองทันที

แต่ทว่าเหล่าคนทั้งหลายนั้นย่อมไม่คิดอยากจะเชื่อ เพราะไม่ว่าอย่างไรข่าวลือนี้มันก็เหลือเชื่อจนไม่อาจทำใจยอมรับลง

จอมเทพโอสถหกดาวกลับชนะจอมเทพโอสถเจ็ดดาวลงได้ ข่าวลือเช่นนี้ใครได้ฟังแล้วจะไปเชื่อ?

แต่แม้คนอื่นจะไม่เชื่อ หยุนยี่นั้นกลับกำลังรู้สึกสั่นสะท้านไปทั้งใจ

เพราะคนที่เสนอเรื่องราวนี้ไปมันก็คือเขา เรื่องที่ว่าเหตุใดบรรพบุรุษตระกูลเจิ้งถึงไปท้าทายเช่นนั้นมันย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจตัว

เขานั้นไม่เคยนึกเคยฝันว่าเย่หยวนจะเก่งกาจได้ปานนั้น ทำให้ตระกูลเจิ้งต้องถอนตัวออกจากวงการโอสถในแดนใต้ทันที!

ชายหนุ่มสกุลต้วนกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าเหยเก “พี่หยุนยี่ ตอนที่เจิ้งปู้ฉุนจากไปเขานั้นไม่มีเวลาแม้แต่จะมาพูดคุยกับเรา เรื่องนี้มันเป็นฝีมือของเย่หยวนผู้นั้นจริงๆ หรือ?”

หยุนยี่ยิ้มออกมา “ข่าวที่ลือกันว่าน่าเหลือเชื่อแล้ว แต่… เรื่องจริงนั้นมันยิ่งเสียกว่าข่าวลือ!”

………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+