Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2032 ประลองหมู่

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2032 ประลองหมู่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

มีเรื่องสนุกๆ แล้ว!

ภายในลานกว้างนั้นสายตาทุกคู่ต่างจับจ้องมองไปยังเย่หยวน

“นั่นมันเทพสวรรค์เหวินหลาน! เขานั้นมีฝีมืออยู่ในอันดับที่ห้าในหมู่เทพสวรรค์ทั้งหลาย จะให้เขายอมรับตำแหน่งของเย่หยวนแล้วมันคงไม่ง่ายแน่!”

“ไม่นึกเลย! งานชุมนุมโอสถเมฆานี้เพิ่งจะเริ่มแต่บรรยากาศกลับคุกรุ่นกันเสียแล้ว!”

“ข้าได้ยินมาว่าเทพสวรรค์เหวินหลานนั้นเป็นสหายกับบรรพบุรุษตระกูลเจิ้ง บางทีนี้มันอาจจะเป็นการทวงถามแค้นให้เขาก็ได้!”

เทพสวรรค์เหวินหลานที่พูดอยู่นี้เป็นถึงอันดับห้าในหมู่เทพสวรรค์

นั่นมันหมายความว่าภายใต้ปรมาจารย์ทั้งหลายนั้นเขาเก่งกาจเป็นอันดับห้า!

หมายความว่าฝีมือของเขานี้ไม่ได้ต่ำต้อยกว่าเหล่าปรมาจารย์เลย

เมื่อเขาคนนี้เปิดปากขึ้นพูดมาเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายต่างก็หันมามองเย่หยวนด้วยสีหน้าเย้ยหยัน คิดอยากเห็นว่าเย่หยวนนี้จะหลบรอดหายนะไปได้อย่างไร

เหล่าคนทั้งหลายที่มาร่วมงานวันนี้มันคงนับได้ว่าเป็นคนในวงการโอสถของแดนใต้ทั้งหมดทั้งสิ้น

หากเย่หยวนมาเผยธาตุแท้ต่อหน้าคนมากมายเช่นนี้ วันหน้าเขาคงจะไม่มีหน้าไปพบใครแล้ว

ในเวลานั้นเองที่เกิดอีกเสียงหนึ่งขึ้นมา “ที่พี่เหวินหลานว่ามันก็ถูก หากแม้แต่เทพถ่องแท้ยังขึ้นมาขี่หัวเราได้ เราเหล่าคนเฒ่าคนแก่ทั้งหลายจะเอาหน้าที่ไหนกลับไปหาลูกหลานกัน?”

เมื่อเทพสวรรค์ผู้นี้เปิดปากกล่าวขึ้นก็มีเสียงคนโห่ร้องขึ้นทันที “นั่นมันเทพสวรรค์ต้าวเฉียน อันดับที่แปด! มีเรื่องสนุกๆ ให้ดูเสียแล้ว!”

ไม่มีใครคาดคิดว่าคนทั้งหลายจะเริ่มโจมตีตั้งแต่เปิดงานเช่นนี้

ที่สำคัญเหล่าคนทั้งหลายยังเข้าใจแจ่มชัดในวินาทีที่เทพสวรรค์ดันหยู่แนะนำตัวเย่หยวนว่ามันแตกต่างจากคนอื่นๆ อย่างชัดเจน

เขานั้นบอกว่าเย่หยวนนั้นเป็นอัจฉริยะที่เทพสวรรค์เปียวหยูเชิญมา เช่นนี้มันย่อมจะเป็นการปัดภาระใดๆ ทิ้งว่าไม่เกี่ยวกับตัวเขาแล้ว

มันเทพสวรรค์เปียวหยูที่ล้อเล่นทุกผู้คน ไม่เกี่ยวใดๆ กับยอดเมืองหลวงจักรพรรดิโอสถเมฆา นั่นคือความหมายในคำพูดแนะนำของเทพสวรรค์ดันหยู่

ในเวลานั้นเองที่ชายแก่ที่นั่งอันดับสามก็กล่าวขึ้นตาม “เจ้าเด็กโอหัง เจ้ามีความสามารถอันใดกันถึงขั้นไปนั่งบนตำแหน่งปรมาจารย์ได้? พี่เปียวหยู ท่านคิดจะล้อเล่นกับวงการโอสถแห่งแดนใต้หรืออย่างไร?”

‘ซี้ด!’

เสียงสูดหายใจเข้าลึกดังขึ้นพร้อมๆ กัน

“อันดับสามเทพสวรรค์เหยาเย่ อันดับห้าเทพสวรรค์เหวินหลาน อันดับแปดเทพสวรรค์ต้าวเฉียน พระเจ้าช่วย เย่หยวนเจอปัญหาใหญ่แล้ว!”

งานชุมนุมโอสถเมฆาเพิ่งจะเริ่มขึ้นแต่เย่หยวนยังไม่ทันจะได้นั่งเหล่าเทพสวรรค์ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสามก็หาเรื่องเขาอย่างหนักหน่วงเสียแล้ว

ที่ด้านข้างนั้นเทพสวรรค์ดันหยู่เองก็ได้แต่นั่งมองดูผู้คนราวกับว่าเรื่องราวนี้มันไม่ได้เกี่ยวกับตัวเขาใดๆ

เทพสวรรค์เปียวหยูที่ได้ยินคำพูดเช่นนั้นจึงยิ้มตอบกลับไป “ทำไมพี่เหยาเย่ว่าเช่นนั้นเล่า? ในเมื่อเทพสวรรค์ผู้นี้มอบเหรียญปรมาจารย์ให้แก่เย่หยวนมันก็ย่อมจะหมายความว่าข้ายอมรับในฝีมือของเขาจริงๆ”

เทพสวรรค์เหยาเย่จึงยิ้มตอบกลับไป “แค่เด็กอายุพันกว่าปีมันจะมีฝีมือใดได้? ข้าได้ยินมาว่ามันนั้นได้ช่วยแก้ไขสูตรโอสถโบราณให้พี่เหลียวหมิง เพียงแค่ว่า… เท่านั้นมันจะพอพิสูจน์ฝีมือมันหรือ? ที่สำคัญข้ายังได้ยินมาว่ามันนั้นไม่กล้าจะรับคำท้าเหล่าเด็กน้อยทั้งหลายเสียด้วยซ้ำ มีหรือที่คนเช่นนี้จะมีค่าพอนั่งตำแหน่งปรมาจารย์?”

เทพสวรรค์เหวินหลานกล่าวขึ้นตาม “หากคิดอยากครองตำแหน่งปรมาจารย์คนผู้นั้นย่อมจะต้องมีฝีมือมากพอ ดูจากอายุของมันแล้วแค่หลอมโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับห้าได้ข้าก็ว่ามันเก่งมากแล้ว”

เทพสวรรค์ต้าวเฉียนหัวเราะลั่นขึ้น “เด็กน้อย เจ้ากล้าจะรับคำท้าของเทพสวรรค์ผู้นี้หรือไม่? หากเจ้าไม่กล้าก็ลงไปเสีย! ตำแหน่งปรมาจารย์นั้นมันมิใช่ของเล่น!”

“ใช่ ขนาดพวกเราทั้งหลายยังไม่อาจนั่งได้ แล้วเจ้ามีปัญญาใดจะไปนั่งบนนั้นกัน?”

เมื่อสามเทพสวรรค์นำมาเช่นนี้แล้วเหล่าจอมเทพโอสถเจ็ดดาวคนอื่นๆ ก็เริ่มเข้าร่วมว่าเย่หยวนไป

แม้ว่าเทพสวรรค์เหลียวหมิงจะไปเที่ยวบอกผู้คนว่าเย่หยวนทำอะไรไว้อย่างเก่งกาจแค่ไหน แต่ตัวเย่หยวนนั้นกลับไม่ทำอะไรเอาแต่นั่งนิ่ง

การที่จะทำให้เหล่าจอมเทพโอสถเจ็ดดาวทั้งหลายนั้นยอมรับเทพถ่องแท้มาอยู่บนหัวนั้นมันย่อมมิใช่สิ่งที่จะทำได้ง่ายดาย

ในเวลานั้นเทพสวรรค์ดันหยู่ก็เปิดปากพูดขึ้นในที่สุด “ปรมาจารย์เย่ ดูท่าทุกคนจะยังสงสัยในฝีมือของท่าน ทำไม… ไม่ลองแสดงออกมาหน่อยเล่า?”

คำพูดนี้ของเทพสวรรค์ดันหยู่นั้นมันยิ่งทำให้สายตาทุกคู่จับต้องมองมาที่เย่หยวนหนักกว่าเก่า

ตอนนี้หลายๆ คนแสดงสีหน้าเย้ยหยัน คิดว่าเย่หยวนจะแก้ตัวหาข้ออ้างหนีไปอย่างไร

ภายใต้สายตาของทุกผู้คนนี้เย่หยวนจะตอบกลับไปอย่างไร?

เพราะตั้งแต่เดินขึ้นมาจนถึงตอนนี้ เย่หยวนก็ยังเอาแต่ยืนนิ่งไม่ได้ตอบกลับใดๆ ไป

เมื่อตอนนี้เทพสวรรค์ดันหยู่ถามขึ้นมาเย่หยวนจึงหรี่ตาลงหันไปมองเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายที่ด้านล่าง

“เจ้า เจ้า และเจ้า เมื่อสักครู่นี้เจ้าบอกว่าจะท้าทายข้าใช่หรือไม่?” เย่หยวนชี้นิ้วไปยังเหล่าเทพสวรรค์ที่พูดเสียงดังที่สุด

“ฮ่าๆ เป็นเทพสวรรค์ผู้นี้เอง! ทำไม? ปรมาจารย์เย่จะรับคำท้าของเทพสวรรค์ผู้นี้หรือ?” เทพสวรรค์ผู้หนึ่งหัวเราะขึ้นมา

เย่หยวนไม่คิดสนใจคำเย้ยเยาะใดๆ และถามขึ้น “มีใครอีก? ในเมื่อทุกผู้คนสงสัยในฝีมือของเย่ผู้นี้ ข้าก็จะให้โอกาสพวกเจ้าทั้งหลาย! พวกเจ้าคนใดที่คิดท้าทายข้า เย่ผู้นี้จะรับมันไว้ให้หมด! หากเย่ผู้นี้แพ้แม้สักครั้ง ข้าจะคืนเหรียญปรมาจารย์และถอนตัวจากงานชุมนุมโอสถเมฆาทันที!”

คำพูดเดียวนี้มันทำให้ทุกผู้คนมึนงง

“ช่างเป็นคำกล่าวที่โอหังนัก! เขาคิดจะท้าทายจอมเทพโอสถเจ็ดดาวทั้งหลายที่อยู่ใต้แค่ปรมาจารย์ด้วยตัวคนเดียว!”

“หึๆ จะโอหังใดๆ มันก็ต้องมีฝีมือมาสนับสนุน! ตอนนี้ไม่ต้องพูดถึงเหล่าคนระดับล่างๆ เทพสวรรค์ที่อยู่ระดับบนๆ นั้นมันไม่ได้อ่อนแอกว่าปรมาจารย์มากนัก มีหรือที่คนอย่างเขาจะมีปัญญาสู้กับเทพสวรรค์ทั้งหลายนั้นได้?”

จอมเทพโอสถเจ็ดดาวทั้งร้อยคนนี้มีพลังฝีมือความเก่งกาจแตกต่างกันไป

คนผู้อ่อนแอจะอยู่ในระดับเจ็ดขั้นต้นมีความรู้แค่อาณาจักรเต๋าขั้นต้นเท่านั้น

ส่วนพวกที่เก่งกาจอย่างเทพสวรรค์เหยาเย่นั้นมีพลังฝีมือไม่ได้ด้อยไปกว่าเหล่าปรมาจารย์ทั้งหลายเลย

เย่หยวนที่เป็นแค่จอมเทพโอสถหกดาวนั้นย่อมจะกล่าวคำอย่างไม่ลืมหูลืมหาแล้วใช่หรือไม่?

“ฮ่าๆๆ ช่างเป็นเด็กน้อยไม่รู้ความจริงๆ! วงการโอสถแดนใต้เรามันให้กำเนิดเด็กน้อยแสนโอหังเช่นนี้ขึ้นมาตั้งแต่เมื่อใดกัน? เจ้ารู้หรือไม่ว่าคนทั้งหลายที่ได้มานั่งอยู่ที่แห่งนี้ล้วนแล้วแต่เป็นยอดคนในวงการโอสถแดนใต้? เจ้ากลับกล้าท้าทายทุกผู้คนพร้อมๆ กัน?” เทพสวรรค์เหยาเย่หัวเราะลั่นเมื่อได้ยิน

เย่หยวนจึงตอบกลับไป “ในฐานะปรมาจารย์แล้วหากเย่ผู้นี้ไม่อาจเอาชนะได้แม้แต่กับพวกเจ้า ข้าจะมีสิทธิ์ใดมานั่งในตำแหน่งนี้เล่า?”

เทพสวรรค์เหยาเย่ที่ได้ยินจึงขมวดคิ้วแน่น “เป็นเด็กที่อวดดีนัก! การประลองโอสถนี้เทพสวรรค์ผู้นี้ย่อมจะร่วม! เทพสวรรค์ผู้นี้อยากรู้เหลือเกินว่าเจ้าจะมีพรสวรรค์เหนือฟ้าอย่างที่ว่าจริงไหม!”

เย่หยวนจ้องมองไปอย่างไม่คิดกะพริบตา “ได้ เย่ผู้นี้รับคำท้า! มีใครอีก?”

“ข้า!”

“เทพสวรรค์ผู้นี้ขอท้าเจ้า!”

“หึ! เด็กโอหัง เทพสวรรค์ผู้นี้จะทำให้เจ้าได้รู้เองว่าจอมเทพโอสถเจ็ดดาวนั้นมันไม่อาจลบหลู่ได้!”

มีหรือที่เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายจะทนความอวดดีมั่นหน้านี้ของเย่หยวนได้? พวกเขาทั้งหลายต่างก้าวออกมาท้าทายเย่หยวนกันอย่างไม่ขาดสาย

บนที่นั่งตำแหน่งอันดับสองเทพสวรรค์ซืออี้จึงขมวดคิ้วแน่นออกมาก่อนจะหันไปพูดกับเทพสวรรค์เปียวหยู “พี่เปียวหยู นี่มัน… คงไม่เหมาะหรอกมั้ง?”

แต่เทพสวรรค์เปียวหยูกลับยิ้มตอบกลับมา “วางใจเถอะ เย่หยวนนั้นย่อมจะรู้ตัวเองดีที่สุด”

เทพสวรรค์ซืออี้ที่ได้ยินแทบจะสำลักออกมา ดูท่าความมั่นใจที่เทพสวรรค์เปียวหยูมีต่อเย่หยวนนี้มันจะสูงล้ำจนเกินไปแล้ว

ในเวลาสั้นๆ นี้เทพสวรรค์กว่าห้าสิบคนได้ขึ้นมาท้าทายเย่หยวนโดยมีตั้งแต่อันดับสามไปจนถึงอันดับร้อย

เหล่าเทพสวรรค์ที่ได้มานั่งในงานตอนนี้ล้วนแล้วแต่จะเป็นถึงยอดฝีมืออาณาจักรเต๋าสิ้น

เหล่าจอมเทพโอสถเจ็ดดาวชั้นรองย่อมจะไม่มีที่ยืนในงานชุมนุมโอสถเมฆา

เพราะฉะนั้นแม้พวกเขาจะมีอันดับที่นับว่าต่ำ แต่ฝีมือของพวกเขาทั้งหลายนั้นไม่ได้ต่ำต้อยเลย

ในเวลานั้นเองที่ชายแก่ร่างผอมแห้งผู้นั่งอยู่ข้างเทพสวรรค์ซืออี้ก็พูดขึ้นมา “ทำไมไม่นับรวมเฒ่าคนนี้ไปด้วยเสียหน่อยเล่า?”

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2032 ประลองหมู่

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2032 ประลองหมู่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

มีเรื่องสนุกๆ แล้ว!

ภายในลานกว้างนั้นสายตาทุกคู่ต่างจับจ้องมองไปยังเย่หยวน

“นั่นมันเทพสวรรค์เหวินหลาน! เขานั้นมีฝีมืออยู่ในอันดับที่ห้าในหมู่เทพสวรรค์ทั้งหลาย จะให้เขายอมรับตำแหน่งของเย่หยวนแล้วมันคงไม่ง่ายแน่!”

“ไม่นึกเลย! งานชุมนุมโอสถเมฆานี้เพิ่งจะเริ่มแต่บรรยากาศกลับคุกรุ่นกันเสียแล้ว!”

“ข้าได้ยินมาว่าเทพสวรรค์เหวินหลานนั้นเป็นสหายกับบรรพบุรุษตระกูลเจิ้ง บางทีนี้มันอาจจะเป็นการทวงถามแค้นให้เขาก็ได้!”

เทพสวรรค์เหวินหลานที่พูดอยู่นี้เป็นถึงอันดับห้าในหมู่เทพสวรรค์

นั่นมันหมายความว่าภายใต้ปรมาจารย์ทั้งหลายนั้นเขาเก่งกาจเป็นอันดับห้า!

หมายความว่าฝีมือของเขานี้ไม่ได้ต่ำต้อยกว่าเหล่าปรมาจารย์เลย

เมื่อเขาคนนี้เปิดปากขึ้นพูดมาเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายต่างก็หันมามองเย่หยวนด้วยสีหน้าเย้ยหยัน คิดอยากเห็นว่าเย่หยวนนี้จะหลบรอดหายนะไปได้อย่างไร

เหล่าคนทั้งหลายที่มาร่วมงานวันนี้มันคงนับได้ว่าเป็นคนในวงการโอสถของแดนใต้ทั้งหมดทั้งสิ้น

หากเย่หยวนมาเผยธาตุแท้ต่อหน้าคนมากมายเช่นนี้ วันหน้าเขาคงจะไม่มีหน้าไปพบใครแล้ว

ในเวลานั้นเองที่เกิดอีกเสียงหนึ่งขึ้นมา “ที่พี่เหวินหลานว่ามันก็ถูก หากแม้แต่เทพถ่องแท้ยังขึ้นมาขี่หัวเราได้ เราเหล่าคนเฒ่าคนแก่ทั้งหลายจะเอาหน้าที่ไหนกลับไปหาลูกหลานกัน?”

เมื่อเทพสวรรค์ผู้นี้เปิดปากกล่าวขึ้นก็มีเสียงคนโห่ร้องขึ้นทันที “นั่นมันเทพสวรรค์ต้าวเฉียน อันดับที่แปด! มีเรื่องสนุกๆ ให้ดูเสียแล้ว!”

ไม่มีใครคาดคิดว่าคนทั้งหลายจะเริ่มโจมตีตั้งแต่เปิดงานเช่นนี้

ที่สำคัญเหล่าคนทั้งหลายยังเข้าใจแจ่มชัดในวินาทีที่เทพสวรรค์ดันหยู่แนะนำตัวเย่หยวนว่ามันแตกต่างจากคนอื่นๆ อย่างชัดเจน

เขานั้นบอกว่าเย่หยวนนั้นเป็นอัจฉริยะที่เทพสวรรค์เปียวหยูเชิญมา เช่นนี้มันย่อมจะเป็นการปัดภาระใดๆ ทิ้งว่าไม่เกี่ยวกับตัวเขาแล้ว

มันเทพสวรรค์เปียวหยูที่ล้อเล่นทุกผู้คน ไม่เกี่ยวใดๆ กับยอดเมืองหลวงจักรพรรดิโอสถเมฆา นั่นคือความหมายในคำพูดแนะนำของเทพสวรรค์ดันหยู่

ในเวลานั้นเองที่ชายแก่ที่นั่งอันดับสามก็กล่าวขึ้นตาม “เจ้าเด็กโอหัง เจ้ามีความสามารถอันใดกันถึงขั้นไปนั่งบนตำแหน่งปรมาจารย์ได้? พี่เปียวหยู ท่านคิดจะล้อเล่นกับวงการโอสถแห่งแดนใต้หรืออย่างไร?”

‘ซี้ด!’

เสียงสูดหายใจเข้าลึกดังขึ้นพร้อมๆ กัน

“อันดับสามเทพสวรรค์เหยาเย่ อันดับห้าเทพสวรรค์เหวินหลาน อันดับแปดเทพสวรรค์ต้าวเฉียน พระเจ้าช่วย เย่หยวนเจอปัญหาใหญ่แล้ว!”

งานชุมนุมโอสถเมฆาเพิ่งจะเริ่มขึ้นแต่เย่หยวนยังไม่ทันจะได้นั่งเหล่าเทพสวรรค์ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสามก็หาเรื่องเขาอย่างหนักหน่วงเสียแล้ว

ที่ด้านข้างนั้นเทพสวรรค์ดันหยู่เองก็ได้แต่นั่งมองดูผู้คนราวกับว่าเรื่องราวนี้มันไม่ได้เกี่ยวกับตัวเขาใดๆ

เทพสวรรค์เปียวหยูที่ได้ยินคำพูดเช่นนั้นจึงยิ้มตอบกลับไป “ทำไมพี่เหยาเย่ว่าเช่นนั้นเล่า? ในเมื่อเทพสวรรค์ผู้นี้มอบเหรียญปรมาจารย์ให้แก่เย่หยวนมันก็ย่อมจะหมายความว่าข้ายอมรับในฝีมือของเขาจริงๆ”

เทพสวรรค์เหยาเย่จึงยิ้มตอบกลับไป “แค่เด็กอายุพันกว่าปีมันจะมีฝีมือใดได้? ข้าได้ยินมาว่ามันนั้นได้ช่วยแก้ไขสูตรโอสถโบราณให้พี่เหลียวหมิง เพียงแค่ว่า… เท่านั้นมันจะพอพิสูจน์ฝีมือมันหรือ? ที่สำคัญข้ายังได้ยินมาว่ามันนั้นไม่กล้าจะรับคำท้าเหล่าเด็กน้อยทั้งหลายเสียด้วยซ้ำ มีหรือที่คนเช่นนี้จะมีค่าพอนั่งตำแหน่งปรมาจารย์?”

เทพสวรรค์เหวินหลานกล่าวขึ้นตาม “หากคิดอยากครองตำแหน่งปรมาจารย์คนผู้นั้นย่อมจะต้องมีฝีมือมากพอ ดูจากอายุของมันแล้วแค่หลอมโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับห้าได้ข้าก็ว่ามันเก่งมากแล้ว”

เทพสวรรค์ต้าวเฉียนหัวเราะลั่นขึ้น “เด็กน้อย เจ้ากล้าจะรับคำท้าของเทพสวรรค์ผู้นี้หรือไม่? หากเจ้าไม่กล้าก็ลงไปเสีย! ตำแหน่งปรมาจารย์นั้นมันมิใช่ของเล่น!”

“ใช่ ขนาดพวกเราทั้งหลายยังไม่อาจนั่งได้ แล้วเจ้ามีปัญญาใดจะไปนั่งบนนั้นกัน?”

เมื่อสามเทพสวรรค์นำมาเช่นนี้แล้วเหล่าจอมเทพโอสถเจ็ดดาวคนอื่นๆ ก็เริ่มเข้าร่วมว่าเย่หยวนไป

แม้ว่าเทพสวรรค์เหลียวหมิงจะไปเที่ยวบอกผู้คนว่าเย่หยวนทำอะไรไว้อย่างเก่งกาจแค่ไหน แต่ตัวเย่หยวนนั้นกลับไม่ทำอะไรเอาแต่นั่งนิ่ง

การที่จะทำให้เหล่าจอมเทพโอสถเจ็ดดาวทั้งหลายนั้นยอมรับเทพถ่องแท้มาอยู่บนหัวนั้นมันย่อมมิใช่สิ่งที่จะทำได้ง่ายดาย

ในเวลานั้นเทพสวรรค์ดันหยู่ก็เปิดปากพูดขึ้นในที่สุด “ปรมาจารย์เย่ ดูท่าทุกคนจะยังสงสัยในฝีมือของท่าน ทำไม… ไม่ลองแสดงออกมาหน่อยเล่า?”

คำพูดนี้ของเทพสวรรค์ดันหยู่นั้นมันยิ่งทำให้สายตาทุกคู่จับต้องมองมาที่เย่หยวนหนักกว่าเก่า

ตอนนี้หลายๆ คนแสดงสีหน้าเย้ยหยัน คิดว่าเย่หยวนจะแก้ตัวหาข้ออ้างหนีไปอย่างไร

ภายใต้สายตาของทุกผู้คนนี้เย่หยวนจะตอบกลับไปอย่างไร?

เพราะตั้งแต่เดินขึ้นมาจนถึงตอนนี้ เย่หยวนก็ยังเอาแต่ยืนนิ่งไม่ได้ตอบกลับใดๆ ไป

เมื่อตอนนี้เทพสวรรค์ดันหยู่ถามขึ้นมาเย่หยวนจึงหรี่ตาลงหันไปมองเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายที่ด้านล่าง

“เจ้า เจ้า และเจ้า เมื่อสักครู่นี้เจ้าบอกว่าจะท้าทายข้าใช่หรือไม่?” เย่หยวนชี้นิ้วไปยังเหล่าเทพสวรรค์ที่พูดเสียงดังที่สุด

“ฮ่าๆ เป็นเทพสวรรค์ผู้นี้เอง! ทำไม? ปรมาจารย์เย่จะรับคำท้าของเทพสวรรค์ผู้นี้หรือ?” เทพสวรรค์ผู้หนึ่งหัวเราะขึ้นมา

เย่หยวนไม่คิดสนใจคำเย้ยเยาะใดๆ และถามขึ้น “มีใครอีก? ในเมื่อทุกผู้คนสงสัยในฝีมือของเย่ผู้นี้ ข้าก็จะให้โอกาสพวกเจ้าทั้งหลาย! พวกเจ้าคนใดที่คิดท้าทายข้า เย่ผู้นี้จะรับมันไว้ให้หมด! หากเย่ผู้นี้แพ้แม้สักครั้ง ข้าจะคืนเหรียญปรมาจารย์และถอนตัวจากงานชุมนุมโอสถเมฆาทันที!”

คำพูดเดียวนี้มันทำให้ทุกผู้คนมึนงง

“ช่างเป็นคำกล่าวที่โอหังนัก! เขาคิดจะท้าทายจอมเทพโอสถเจ็ดดาวทั้งหลายที่อยู่ใต้แค่ปรมาจารย์ด้วยตัวคนเดียว!”

“หึๆ จะโอหังใดๆ มันก็ต้องมีฝีมือมาสนับสนุน! ตอนนี้ไม่ต้องพูดถึงเหล่าคนระดับล่างๆ เทพสวรรค์ที่อยู่ระดับบนๆ นั้นมันไม่ได้อ่อนแอกว่าปรมาจารย์มากนัก มีหรือที่คนอย่างเขาจะมีปัญญาสู้กับเทพสวรรค์ทั้งหลายนั้นได้?”

จอมเทพโอสถเจ็ดดาวทั้งร้อยคนนี้มีพลังฝีมือความเก่งกาจแตกต่างกันไป

คนผู้อ่อนแอจะอยู่ในระดับเจ็ดขั้นต้นมีความรู้แค่อาณาจักรเต๋าขั้นต้นเท่านั้น

ส่วนพวกที่เก่งกาจอย่างเทพสวรรค์เหยาเย่นั้นมีพลังฝีมือไม่ได้ด้อยไปกว่าเหล่าปรมาจารย์ทั้งหลายเลย

เย่หยวนที่เป็นแค่จอมเทพโอสถหกดาวนั้นย่อมจะกล่าวคำอย่างไม่ลืมหูลืมหาแล้วใช่หรือไม่?

“ฮ่าๆๆ ช่างเป็นเด็กน้อยไม่รู้ความจริงๆ! วงการโอสถแดนใต้เรามันให้กำเนิดเด็กน้อยแสนโอหังเช่นนี้ขึ้นมาตั้งแต่เมื่อใดกัน? เจ้ารู้หรือไม่ว่าคนทั้งหลายที่ได้มานั่งอยู่ที่แห่งนี้ล้วนแล้วแต่เป็นยอดคนในวงการโอสถแดนใต้? เจ้ากลับกล้าท้าทายทุกผู้คนพร้อมๆ กัน?” เทพสวรรค์เหยาเย่หัวเราะลั่นเมื่อได้ยิน

เย่หยวนจึงตอบกลับไป “ในฐานะปรมาจารย์แล้วหากเย่ผู้นี้ไม่อาจเอาชนะได้แม้แต่กับพวกเจ้า ข้าจะมีสิทธิ์ใดมานั่งในตำแหน่งนี้เล่า?”

เทพสวรรค์เหยาเย่ที่ได้ยินจึงขมวดคิ้วแน่น “เป็นเด็กที่อวดดีนัก! การประลองโอสถนี้เทพสวรรค์ผู้นี้ย่อมจะร่วม! เทพสวรรค์ผู้นี้อยากรู้เหลือเกินว่าเจ้าจะมีพรสวรรค์เหนือฟ้าอย่างที่ว่าจริงไหม!”

เย่หยวนจ้องมองไปอย่างไม่คิดกะพริบตา “ได้ เย่ผู้นี้รับคำท้า! มีใครอีก?”

“ข้า!”

“เทพสวรรค์ผู้นี้ขอท้าเจ้า!”

“หึ! เด็กโอหัง เทพสวรรค์ผู้นี้จะทำให้เจ้าได้รู้เองว่าจอมเทพโอสถเจ็ดดาวนั้นมันไม่อาจลบหลู่ได้!”

มีหรือที่เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายจะทนความอวดดีมั่นหน้านี้ของเย่หยวนได้? พวกเขาทั้งหลายต่างก้าวออกมาท้าทายเย่หยวนกันอย่างไม่ขาดสาย

บนที่นั่งตำแหน่งอันดับสองเทพสวรรค์ซืออี้จึงขมวดคิ้วแน่นออกมาก่อนจะหันไปพูดกับเทพสวรรค์เปียวหยู “พี่เปียวหยู นี่มัน… คงไม่เหมาะหรอกมั้ง?”

แต่เทพสวรรค์เปียวหยูกลับยิ้มตอบกลับมา “วางใจเถอะ เย่หยวนนั้นย่อมจะรู้ตัวเองดีที่สุด”

เทพสวรรค์ซืออี้ที่ได้ยินแทบจะสำลักออกมา ดูท่าความมั่นใจที่เทพสวรรค์เปียวหยูมีต่อเย่หยวนนี้มันจะสูงล้ำจนเกินไปแล้ว

ในเวลาสั้นๆ นี้เทพสวรรค์กว่าห้าสิบคนได้ขึ้นมาท้าทายเย่หยวนโดยมีตั้งแต่อันดับสามไปจนถึงอันดับร้อย

เหล่าเทพสวรรค์ที่ได้มานั่งในงานตอนนี้ล้วนแล้วแต่จะเป็นถึงยอดฝีมืออาณาจักรเต๋าสิ้น

เหล่าจอมเทพโอสถเจ็ดดาวชั้นรองย่อมจะไม่มีที่ยืนในงานชุมนุมโอสถเมฆา

เพราะฉะนั้นแม้พวกเขาจะมีอันดับที่นับว่าต่ำ แต่ฝีมือของพวกเขาทั้งหลายนั้นไม่ได้ต่ำต้อยเลย

ในเวลานั้นเองที่ชายแก่ร่างผอมแห้งผู้นั่งอยู่ข้างเทพสวรรค์ซืออี้ก็พูดขึ้นมา “ทำไมไม่นับรวมเฒ่าคนนี้ไปด้วยเสียหน่อยเล่า?”

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+