Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2037 ไม่เต็มใจยอมรับ

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2037 ไม่เต็มใจยอมรับ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“อาณาจักรเต๋าขั้นสุด! นี่มันเป็นอาณาจักรเต๋าขั้นสุดอย่างแน่นอน!”

“พระเจ้าช่วย! ข้ากำลังมองดูอะไรอยู่กันนี่? เด็กอายุแค่พันกว่าปีกลับขึ้นถึงอาณาจักรเต๋าขั้นสุดได้? โลกนี้มันเป็นอะไรไปเสียแล้ว?”

“น่ากลัว! น่ากลัวเกินไปแล้ว! ข้าไม่เคยพบเจอสัตว์ประหลาดเช่นนี้มาก่อน! ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดเขาถึงกล้าจะดูถูกเหล่าจอมเทพโอสถเจ็ดดาวทั้งหลาย เขานั้นมีค่าพอจริงๆ!”

เมื่อเย่หยวนแสดงฝีมือแท้จริงออกมาอย่างผู้คนทั้งหลายในกว้างต่างก็ร้องโห่ขึ้นด้วยความตื่นเต้นตื่นตะลึง

สายตาของเหล่าคนหนุ่มสาวทั้งหลายนั้นมันดูเหม่อลอย ชื่นชมตัวเขาจากทั้งใจจนมันแสดงออกมาทางสีหน้าอย่างแจ่มชัด

ไม่มีใครคิดฝันว่าเย่หยวนนั้นจะสามารถขึ้นมาเป็นถึงยอดฝีมืออาณาจักรเต๋าขั้นสุดได้ เรื่องเช่นนี้มันย่อมเกินกว่าที่จอมเทพโอสถอายุแค่พันกว่าปีผู้หนึ่งจะทำได้

เหนือล้ำ!

ช่างเป็นความเก่งกาจที่ทลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า!

ในเวลานี้ทุกผู้คนต่างตกตะลึงจนไม่อาจตั้งสติได้

ความเก่งกาจพลังกดดันระดับนี้มันมีแค่อาณาจักรเต๋าขั้นสุดเท่านั้นที่จะทำได้

การที่เด็กหนุ่มคนหนึ่งจะขึ้นไปถึงอาณาจักรเต๋าขั้นสุดได้เช่นนี้มันย่อมจะเหนือล้ำกว่าความคาดหมายของผู้คน

อาณาจักรเต๋าขั้นสุดนั้นมันคือสิ่งใด?

ในแดนใต้ทั้งหมดนี้ ในงานชุมนุมโอสถเมฆาที่เกิดขึ้นนี้ อาณาจักรเต๋าขั้นสุดนั้นมันคือสุดยอดตัวตนที่ยืนอยู่เหนือล้ำ

ในหมู่จอมเทพโอสถเจ็ดดาวทั้งหลายนั้นคนที่จะขึ้นไปถึงอาณาจักรเต๋าขั้นสุดได้มันย่อมจะมีเพียงแค่หยิบมือ

เพราะแม้ว่าเหล่าปรมาจารย์ทั้งหลายนั้นจะมีอยู่ถึงสิบสี่คนแต่ผู้ที่สามารถก้าวขึ้นไปถึงอาณาจักรเต๋าขั้นสุดได้จริงๆ มันก็มีเพียงเหล่าเจ้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งเจ็ดเพียงเท่านั้น

ส่วนเหล่าปรมาจารย์ที่ถูกเชิญขึ้นมานั้นล้วนแล้วแต่จะเป็นแค่ยอดฝีมืออาณาจักรเต๋าขั้นปลายระดับสูง แต่มันก็ยังไม่อาจจะข้ามไปถึงอาณาจักรเต๋าขั้นสุดได้

แล้วในหมู่จอมเทพโอสถเจ็ดดาวทั้งหลายนี้มีใครบ้างเล่าที่ไม่ได้เดินตามเส้นทางโอสถมานับแสนๆ ปีหรืออาจจะถึงล้านปีกว่าจะก้าวขึ้นมาได้ถึงวันนี้?

แต่วันนี้กลับมีเด็กหนุ่มเทพถ่องแท้อายุแค่พันกว่าปีปรากฏขึ้นมาพร้อมด้วยเต๋าโอสถอาณาจักรเต๋าขั้นสุด!

เรื่องราวเช่นนี้มันย่อมจะทำให้คนทั้งหลายตื่นตะลึงจนไม่อาจสรรหาคำใดๆ กล่าวออกมาได้

เทพสวรรค์ออหยุนนั้นเก่งกาจปานใด? แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นเขาก็ยังแทบต้องกระอักเลือดออกมาต่อหน้าแรงกดดันของเย่หยวน

ภายใต้แสงอันเจิดจ้าของเย่หยวน เทพสวรรค์ออหยุนนั้นเป็นได้เพียงแค่จุดแสงน้อยๆ อันแสนริบหรี่จนแทบไม่อาจมองเห็นได้

ในเวลานี้เทพสวรรค์ออหยุนย่อมจะรีบๆ จบการประลองใดๆ นี้ลงเสียเพราะตัวเขานั้นไม่อาจจะทนรับแรงกดดันนี้ไว้ได้ไหวอีกแล้ว

ตอนนี้ตัวเขาอับอายจนแทบจะเสียสติ

เขารู้ดีว่าเย่หยวนคงมองวิชาของเขาออกและเลือกที่จะโจมตีสวนกลับมาอย่างรุนแรงเช่นนี้

เว้นเสียแต่ว่าเจ้าเด็กคนนี้มันป้องกันพลังจิตศักดิ์สิทธิ์ของเขาได้อย่างไร?

เขานั้นเชื่อมั่นอย่างมากว่าการโจมตีของตนนั้นมันเหนือล้ำจนแม้แต่พระเจ้าก็คงไม่อาจทานรับ แต่มันกลับไม่สามารถจะทำอะไรเย่หยวนได้แม้แต่ปลายเส้นขน

‘ข้า… ข้ารีบยอมแพ้ไปเสียแต่ตอนนี้ดีกว่า!’ เทพสวรรค์ออหยุนได้แต่คิดอยู่ในใจ

“หึๆ จอมเทพโอสถเจ็ดดาวมีปัญญาเพียงเท่านี้หรือ? น่าผิดหวังเสียจริง!” ในวินาทีนั้นเองเย่หยวนกลับพูดกล่าวคำเหล่านี้ออกมา

เทพสวรรค์ออหยุนได้แต่กัดฟันร้อง “เด็กน้อย จ-เจ้าอย่าได้ใจให้มันมากไป! ข้าจะให้เจ้าได้เห็นถึงฝีมือของเทพสวรรค์ผู้นี้เอง!”

เพราะเทพสวรรค์นั้นมันก็มีศักดิ์ศรีของเทพสวรรค์ เย่หยวนกล่าวท้าทายเช่นนั้นออกมามีหรือที่เทพสวรรค์ออหยุนจะทนรับได้? เขาจึงต้องกัดฟันทนต่อไป

เพียงแค่ว่าคลื่นพลังใดๆ ของเขายังไม่ทันออกมันก็ถูกเย่หยวนกดดันจนหายวับไปในพริบตาอย่างไร้ปรานี

ต่อหน้าเย่หยวนแล้วเขากลับไม่อาจจะต้านทานใดๆ ได้แม้แต่น้อย

“หลอม!”

จนในที่สุดเย่หยวนก็ร้องบอกออกมาหลอมโอสถขึ้นรูป!

ในเวลานี้เทพสวรรค์ออหยุนนั้นรับรู้ได้ถึงศึกอันหนักหนาจนทำให้ร่างกายแทบไม่อาจยืนมั่น

แม้ว่าจิตศักดิ์สิทธิ์และปราณเทวะของเทพสวรรค์นั้นมันจะหนาแน่นจนเย่หยวนไม่อาจทำอันตรายใดๆ ได้แต่หากแค่คิดสั่งสอนอีกฝ่ายมันก็ยังทำได้ไม่ยาก

ในการประลองโอสถนี้คนทั้งสองไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันแม้แต่วินาที หากเทพสวรรค์ออหยุนคิดจะหลอมโอสถภายใต้การกดดันของเย่หยวนแล้วเขาจะต้องพยายามอย่างหนักหน่วงมากกว่าเย่หยวนหลายต่อหลายเท่าตัว

ต่อให้เขาจะเป็นเทพสวรรค์เขาเองก็ยังเหนื่อยเป็น

เมื่อทุกคนได้เห็นภาพนี้พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสารเทพสวรรค์ออหยุนขึ้นมาลึกๆ ในใจ

“ช่างแข็งแกร่งเสียจริง! นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ข้าได้เห็นจอมเทพโอสถหกดาวทำลายจอมเทพโอสถเจ็ดดาวจนยับย่อยปานนี้”

“เย่หยวนนั้นกดดันเทพสวรรค์ออหยุนได้ด้วยกำลังของตน ตำแหน่งปรมาจารย์นั้นมันสมควรเป็นของเขาแล้วจริงๆ!”

“พวกเจ้าอย่าได้ลืมไป! เย่หยวนนั้นใช้เพียงแค่สมบัตินภาสวรรค์เลิศล้ำ แต่เทพสวรรค์ออหยุนนั้นใช้ถึงสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์!”

เมื่อผลลัพธ์ปรากฏขึ้นเหล่าผู้คนทั้งหลายก็ได้แต่ยืนนิ่งไป

เทพสวรรค์ออหยุนนั้นถูกเย่หยวนกดดันตั้งแต่ต้นจนจบอย่างไม่มีทางขัดขืนใดๆ

นี่มันคือพลังที่เหนือล้ำจนไม่อาจสรรหาคำใดมาบรรยาย

“เย่หยวน ขั้นเทวะวิญญาณไพศาล!”

“เทพสวรรค์ออหยุน… ขั้นกลาง!”

กรรมการผู้นั้นหันมามองดูเทพสวรรค์ออหยุนด้วยความสงสารพร้อมประกาศผลออกมา

“ฮ่าๆ!”

เกิดเสียงหัวเราะดังลั่นขึ้นทั่วทิศ

จอมเทพโอสถเจ็ดดาวผู้ยิ่งใหญ่กลับหลอมโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับหกได้เพียงแค่ขั้นกลาง ไม่ว่าจะฟังอย่างไรมันก็เป็นเรื่องตลกชัดๆ

เทพสวรรค์ออหยุนในเวลานี้อับอายจนแทบอยากจะมุดแผ่นดินหนีให้มันรู้แล้วรู้รอด

ก่อนที่จะเริ่มการประลองโอสถนี้ใครกันเล่าที่ว่ากล่าวอย่างมั่นหน้า? เขานั้นย่อมไม่คิดจะสนใจรังแวงให้ค่าเย่หยวนแม้แต่น้อย

แต่ตอนนี้เขากลับถูกตบหน้าดังลั่นกลางฝูงชน

ต่อหน้าเย่หยวน เขานั้นไร้ค่าใดๆ

เทพสวรรค์ออหยุนนั้นได้แต่จ้องมองเย่หยวนด้วยความเคียดแค้น

เด็กคนนี้มันทำให้เขาเสียหน้าอย่างมหาศาล!

จอมเทพโอสถเจ็ดดาวผู้ขึ้นถึงอาณาจักรเต๋าขั้นปลายอย่างเขาเคยต้องเสียหน้าขนาดนี้หรือ?

แต่ในเวลานี้มันย่อมไม่มีใครคิดจะสนใจตัวเขาอีก สายตาของทุกผู้คนต่างจับจ้องมองไปยังเย่หยวน

เด็กหนุ่มอายุแค่พันกว่าปีกลับขึ้นถึงอาณาจักรเต๋าขั้นสุด! นี่มันจะน่ากลัวจนเกินไปแล้ว!

ด้วยพรสวรรค์ระดับเย่หยวนนี้วันหน้าเขาอาจจะกลายเป็นโอสถบรรพกาลคนที่สองก็เป็นได้!

ในตอนนั้นเองเทพสวรรค์ซืออี้ก็ได้เปิดปากกล่าวขึ้น “ข้าเชื่อว่าเวลานี้ทุกผู้คนย่อมจะเห็นถึงความสามารถของเย่หยวนแล้ว มันคงไม่มีใครคิดจะขัดเรื่องที่เขาขึ้นยืนตำแหน่งปรมาจารย์อีกใช่หรือไม่?”

เทพสวรรค์ซืออี้นั้นเชื่อในเย่หยวนอย่างสุดตัว เวลานี้ตัวเขานั้นไม่มีความรู้สึกไม่พอใจใดๆ กับการที่เทพสวรรค์เปียวหยูมอบเหรียญปรมาจารย์ให้แก่เย่หยวนอีกต่อไป

กลับกัน ในเวลานี้เขานั้นรู้สึกชื่นชมในตัวเย่หยวนอย่างมาก

ขึ้นอาณาจักรเต๋าขั้นสุดได้ตั้งแต่อายุเท่านี้ วันหน้ามันคงเป็นพันธมิตรกำลังสำคัญให้แก่หอมหาสมบัติได้อย่างแน่นอน

“แน่นอนว่าย่อมไม่ขัดใดๆ! หากอาณาจักรเต๋าขั้นสุดไม่อาจนั่งบนตำแหน่งปรมาจารย์ได้แล้วใครกันเล่าที่จะมานั่งได้?”

“ตอนนี้คนที่เหลือเองก็คงไม่ต้องประลองใดๆ แล้ว ปรมาจารย์เย่นั้นมีฝีมือพอที่จะนั่งบนตำแหน่งของตนได้!”

เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายย่อมไม่มีใครจะคัดค้านอีก ตอนนี้เย่หยวนได้ทำให้เหล่าจอมเทพโอสถเจ็ดดาวทั้งหลายเชื่อถือในฝีมืออย่างสุดหัวใจ

แต่ในเวลานั้นเองมันกลับเกิดเสียงหนึ่งพูดแทรกขึ้น

“ในเมื่อเขาคิดรับคำท้าแล้ว เช่นนั้นก็ต้องให้เขาประลองให้เสร็จสมบูรณ์ เขากล่าวว่าจะคืนเหรียญปรมาจารย์หากแพ้ คำพูดเช่นนั้นมีหรือที่จะคืนคำได้?”

ผู้พูดนี้คือเทพสวรรค์ดันหยู่

ทุกผู้คนแทบจะกระโดดขึ้นจากที่นั่งหลังได้ยินคำกล่าวของเทพสวรรค์ดันหยู่ ไม่นึกไม่ฝันว่าตัวเขากลับจะยังยืนยันคำเดิมเช่นนี้!

เทพสวรรค์ซืออี้นั้นได้แต่ขมวดคิ้วแน่น “พี่ดันหยู่ เย่หยวนนั้นได้พิสูจน์ฝีมือออกมาอย่างแจ่มแจ้งแล้ว มีเหตุใดให้ต้องเสียเวลาประลองกันอีกเล่า?”

แต่เทพสวรรค์ดันหยู่กลับยิ้มตอบกลับมา “ต่อให้เทพสวรรค์ผู้นี้จะยอมรับ ข้าก็เกรงว่าพี่เจาหยวนจะไม่คิดเช่นนั้น ใช่หรือไม่เล่าพี่เจาหยวน?”

สายตาทุกคู่จึงหันตามไปมองยังเทพสวรรค์เจาหยวนทันที

“มันหมายความว่าอย่างไรกัน? หรือว่าเทพสวรรค์เจาหยวนนั้นยังคิดว่าตนเองเทียบเคียงปรมาจารย์เย่ได้?”

“เทพสวรรค์เจาหยวนนั้นเป็นแค่เทพสวรรค์ผู้ถูกเชิญมาร่วมงาน อย่างมากเขาก็คงแค่เทียบเท่าเหล่าปรมาจารย์ผู้ถูกเชิญมาทั้งหลาย ให้ประลองต่อไปจะได้ประโยชน์ใดกันเล่า?”

ตอนนี้ในลานกว้างมันเกิดเสียงคำถามดังขึ้นอย่างไม่ขาดสาย

เทพสวรรค์เจาหยวนนั้นแทบไม่เคยจะลงมือต่อหน้าผู้คน แน่นอนว่าทุกผู้คนรู้ดีว่าเขาเก่งกาจ แต่ไม่คิดว่าเขาจะเหนือล้ำถึงขั้นนั้น

เมื่อได้เห็นเทพสวรรค์ดันหยู่ถามมาเช่นนั้น เทพสวรรค์เจาหยวนก็คิดจะลุกขึ้นตอบกลับไปแต่กลับเป็นเย่หยวนที่พูดขึ้นมาจากด้านล่างเสียก่อน “เย่ผู้นี้รักษาคำพูดเสมอ! การประลองโอสถนี้… จะดำเนินต่อไปจนจบสิ้น! พี่เจาหยวน โปรดช่วยสั่งสอนชี้แนะข้าด้วย!”

…………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2037 ไม่เต็มใจยอมรับ

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2037 ไม่เต็มใจยอมรับ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“อาณาจักรเต๋าขั้นสุด! นี่มันเป็นอาณาจักรเต๋าขั้นสุดอย่างแน่นอน!”

“พระเจ้าช่วย! ข้ากำลังมองดูอะไรอยู่กันนี่? เด็กอายุแค่พันกว่าปีกลับขึ้นถึงอาณาจักรเต๋าขั้นสุดได้? โลกนี้มันเป็นอะไรไปเสียแล้ว?”

“น่ากลัว! น่ากลัวเกินไปแล้ว! ข้าไม่เคยพบเจอสัตว์ประหลาดเช่นนี้มาก่อน! ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดเขาถึงกล้าจะดูถูกเหล่าจอมเทพโอสถเจ็ดดาวทั้งหลาย เขานั้นมีค่าพอจริงๆ!”

เมื่อเย่หยวนแสดงฝีมือแท้จริงออกมาอย่างผู้คนทั้งหลายในกว้างต่างก็ร้องโห่ขึ้นด้วยความตื่นเต้นตื่นตะลึง

สายตาของเหล่าคนหนุ่มสาวทั้งหลายนั้นมันดูเหม่อลอย ชื่นชมตัวเขาจากทั้งใจจนมันแสดงออกมาทางสีหน้าอย่างแจ่มชัด

ไม่มีใครคิดฝันว่าเย่หยวนนั้นจะสามารถขึ้นมาเป็นถึงยอดฝีมืออาณาจักรเต๋าขั้นสุดได้ เรื่องเช่นนี้มันย่อมเกินกว่าที่จอมเทพโอสถอายุแค่พันกว่าปีผู้หนึ่งจะทำได้

เหนือล้ำ!

ช่างเป็นความเก่งกาจที่ทลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า!

ในเวลานี้ทุกผู้คนต่างตกตะลึงจนไม่อาจตั้งสติได้

ความเก่งกาจพลังกดดันระดับนี้มันมีแค่อาณาจักรเต๋าขั้นสุดเท่านั้นที่จะทำได้

การที่เด็กหนุ่มคนหนึ่งจะขึ้นไปถึงอาณาจักรเต๋าขั้นสุดได้เช่นนี้มันย่อมจะเหนือล้ำกว่าความคาดหมายของผู้คน

อาณาจักรเต๋าขั้นสุดนั้นมันคือสิ่งใด?

ในแดนใต้ทั้งหมดนี้ ในงานชุมนุมโอสถเมฆาที่เกิดขึ้นนี้ อาณาจักรเต๋าขั้นสุดนั้นมันคือสุดยอดตัวตนที่ยืนอยู่เหนือล้ำ

ในหมู่จอมเทพโอสถเจ็ดดาวทั้งหลายนั้นคนที่จะขึ้นไปถึงอาณาจักรเต๋าขั้นสุดได้มันย่อมจะมีเพียงแค่หยิบมือ

เพราะแม้ว่าเหล่าปรมาจารย์ทั้งหลายนั้นจะมีอยู่ถึงสิบสี่คนแต่ผู้ที่สามารถก้าวขึ้นไปถึงอาณาจักรเต๋าขั้นสุดได้จริงๆ มันก็มีเพียงเหล่าเจ้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งเจ็ดเพียงเท่านั้น

ส่วนเหล่าปรมาจารย์ที่ถูกเชิญขึ้นมานั้นล้วนแล้วแต่จะเป็นแค่ยอดฝีมืออาณาจักรเต๋าขั้นปลายระดับสูง แต่มันก็ยังไม่อาจจะข้ามไปถึงอาณาจักรเต๋าขั้นสุดได้

แล้วในหมู่จอมเทพโอสถเจ็ดดาวทั้งหลายนี้มีใครบ้างเล่าที่ไม่ได้เดินตามเส้นทางโอสถมานับแสนๆ ปีหรืออาจจะถึงล้านปีกว่าจะก้าวขึ้นมาได้ถึงวันนี้?

แต่วันนี้กลับมีเด็กหนุ่มเทพถ่องแท้อายุแค่พันกว่าปีปรากฏขึ้นมาพร้อมด้วยเต๋าโอสถอาณาจักรเต๋าขั้นสุด!

เรื่องราวเช่นนี้มันย่อมจะทำให้คนทั้งหลายตื่นตะลึงจนไม่อาจสรรหาคำใดๆ กล่าวออกมาได้

เทพสวรรค์ออหยุนนั้นเก่งกาจปานใด? แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นเขาก็ยังแทบต้องกระอักเลือดออกมาต่อหน้าแรงกดดันของเย่หยวน

ภายใต้แสงอันเจิดจ้าของเย่หยวน เทพสวรรค์ออหยุนนั้นเป็นได้เพียงแค่จุดแสงน้อยๆ อันแสนริบหรี่จนแทบไม่อาจมองเห็นได้

ในเวลานี้เทพสวรรค์ออหยุนย่อมจะรีบๆ จบการประลองใดๆ นี้ลงเสียเพราะตัวเขานั้นไม่อาจจะทนรับแรงกดดันนี้ไว้ได้ไหวอีกแล้ว

ตอนนี้ตัวเขาอับอายจนแทบจะเสียสติ

เขารู้ดีว่าเย่หยวนคงมองวิชาของเขาออกและเลือกที่จะโจมตีสวนกลับมาอย่างรุนแรงเช่นนี้

เว้นเสียแต่ว่าเจ้าเด็กคนนี้มันป้องกันพลังจิตศักดิ์สิทธิ์ของเขาได้อย่างไร?

เขานั้นเชื่อมั่นอย่างมากว่าการโจมตีของตนนั้นมันเหนือล้ำจนแม้แต่พระเจ้าก็คงไม่อาจทานรับ แต่มันกลับไม่สามารถจะทำอะไรเย่หยวนได้แม้แต่ปลายเส้นขน

‘ข้า… ข้ารีบยอมแพ้ไปเสียแต่ตอนนี้ดีกว่า!’ เทพสวรรค์ออหยุนได้แต่คิดอยู่ในใจ

“หึๆ จอมเทพโอสถเจ็ดดาวมีปัญญาเพียงเท่านี้หรือ? น่าผิดหวังเสียจริง!” ในวินาทีนั้นเองเย่หยวนกลับพูดกล่าวคำเหล่านี้ออกมา

เทพสวรรค์ออหยุนได้แต่กัดฟันร้อง “เด็กน้อย จ-เจ้าอย่าได้ใจให้มันมากไป! ข้าจะให้เจ้าได้เห็นถึงฝีมือของเทพสวรรค์ผู้นี้เอง!”

เพราะเทพสวรรค์นั้นมันก็มีศักดิ์ศรีของเทพสวรรค์ เย่หยวนกล่าวท้าทายเช่นนั้นออกมามีหรือที่เทพสวรรค์ออหยุนจะทนรับได้? เขาจึงต้องกัดฟันทนต่อไป

เพียงแค่ว่าคลื่นพลังใดๆ ของเขายังไม่ทันออกมันก็ถูกเย่หยวนกดดันจนหายวับไปในพริบตาอย่างไร้ปรานี

ต่อหน้าเย่หยวนแล้วเขากลับไม่อาจจะต้านทานใดๆ ได้แม้แต่น้อย

“หลอม!”

จนในที่สุดเย่หยวนก็ร้องบอกออกมาหลอมโอสถขึ้นรูป!

ในเวลานี้เทพสวรรค์ออหยุนนั้นรับรู้ได้ถึงศึกอันหนักหนาจนทำให้ร่างกายแทบไม่อาจยืนมั่น

แม้ว่าจิตศักดิ์สิทธิ์และปราณเทวะของเทพสวรรค์นั้นมันจะหนาแน่นจนเย่หยวนไม่อาจทำอันตรายใดๆ ได้แต่หากแค่คิดสั่งสอนอีกฝ่ายมันก็ยังทำได้ไม่ยาก

ในการประลองโอสถนี้คนทั้งสองไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันแม้แต่วินาที หากเทพสวรรค์ออหยุนคิดจะหลอมโอสถภายใต้การกดดันของเย่หยวนแล้วเขาจะต้องพยายามอย่างหนักหน่วงมากกว่าเย่หยวนหลายต่อหลายเท่าตัว

ต่อให้เขาจะเป็นเทพสวรรค์เขาเองก็ยังเหนื่อยเป็น

เมื่อทุกคนได้เห็นภาพนี้พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสารเทพสวรรค์ออหยุนขึ้นมาลึกๆ ในใจ

“ช่างแข็งแกร่งเสียจริง! นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ข้าได้เห็นจอมเทพโอสถหกดาวทำลายจอมเทพโอสถเจ็ดดาวจนยับย่อยปานนี้”

“เย่หยวนนั้นกดดันเทพสวรรค์ออหยุนได้ด้วยกำลังของตน ตำแหน่งปรมาจารย์นั้นมันสมควรเป็นของเขาแล้วจริงๆ!”

“พวกเจ้าอย่าได้ลืมไป! เย่หยวนนั้นใช้เพียงแค่สมบัตินภาสวรรค์เลิศล้ำ แต่เทพสวรรค์ออหยุนนั้นใช้ถึงสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์!”

เมื่อผลลัพธ์ปรากฏขึ้นเหล่าผู้คนทั้งหลายก็ได้แต่ยืนนิ่งไป

เทพสวรรค์ออหยุนนั้นถูกเย่หยวนกดดันตั้งแต่ต้นจนจบอย่างไม่มีทางขัดขืนใดๆ

นี่มันคือพลังที่เหนือล้ำจนไม่อาจสรรหาคำใดมาบรรยาย

“เย่หยวน ขั้นเทวะวิญญาณไพศาล!”

“เทพสวรรค์ออหยุน… ขั้นกลาง!”

กรรมการผู้นั้นหันมามองดูเทพสวรรค์ออหยุนด้วยความสงสารพร้อมประกาศผลออกมา

“ฮ่าๆ!”

เกิดเสียงหัวเราะดังลั่นขึ้นทั่วทิศ

จอมเทพโอสถเจ็ดดาวผู้ยิ่งใหญ่กลับหลอมโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับหกได้เพียงแค่ขั้นกลาง ไม่ว่าจะฟังอย่างไรมันก็เป็นเรื่องตลกชัดๆ

เทพสวรรค์ออหยุนในเวลานี้อับอายจนแทบอยากจะมุดแผ่นดินหนีให้มันรู้แล้วรู้รอด

ก่อนที่จะเริ่มการประลองโอสถนี้ใครกันเล่าที่ว่ากล่าวอย่างมั่นหน้า? เขานั้นย่อมไม่คิดจะสนใจรังแวงให้ค่าเย่หยวนแม้แต่น้อย

แต่ตอนนี้เขากลับถูกตบหน้าดังลั่นกลางฝูงชน

ต่อหน้าเย่หยวน เขานั้นไร้ค่าใดๆ

เทพสวรรค์ออหยุนนั้นได้แต่จ้องมองเย่หยวนด้วยความเคียดแค้น

เด็กคนนี้มันทำให้เขาเสียหน้าอย่างมหาศาล!

จอมเทพโอสถเจ็ดดาวผู้ขึ้นถึงอาณาจักรเต๋าขั้นปลายอย่างเขาเคยต้องเสียหน้าขนาดนี้หรือ?

แต่ในเวลานี้มันย่อมไม่มีใครคิดจะสนใจตัวเขาอีก สายตาของทุกผู้คนต่างจับจ้องมองไปยังเย่หยวน

เด็กหนุ่มอายุแค่พันกว่าปีกลับขึ้นถึงอาณาจักรเต๋าขั้นสุด! นี่มันจะน่ากลัวจนเกินไปแล้ว!

ด้วยพรสวรรค์ระดับเย่หยวนนี้วันหน้าเขาอาจจะกลายเป็นโอสถบรรพกาลคนที่สองก็เป็นได้!

ในตอนนั้นเองเทพสวรรค์ซืออี้ก็ได้เปิดปากกล่าวขึ้น “ข้าเชื่อว่าเวลานี้ทุกผู้คนย่อมจะเห็นถึงความสามารถของเย่หยวนแล้ว มันคงไม่มีใครคิดจะขัดเรื่องที่เขาขึ้นยืนตำแหน่งปรมาจารย์อีกใช่หรือไม่?”

เทพสวรรค์ซืออี้นั้นเชื่อในเย่หยวนอย่างสุดตัว เวลานี้ตัวเขานั้นไม่มีความรู้สึกไม่พอใจใดๆ กับการที่เทพสวรรค์เปียวหยูมอบเหรียญปรมาจารย์ให้แก่เย่หยวนอีกต่อไป

กลับกัน ในเวลานี้เขานั้นรู้สึกชื่นชมในตัวเย่หยวนอย่างมาก

ขึ้นอาณาจักรเต๋าขั้นสุดได้ตั้งแต่อายุเท่านี้ วันหน้ามันคงเป็นพันธมิตรกำลังสำคัญให้แก่หอมหาสมบัติได้อย่างแน่นอน

“แน่นอนว่าย่อมไม่ขัดใดๆ! หากอาณาจักรเต๋าขั้นสุดไม่อาจนั่งบนตำแหน่งปรมาจารย์ได้แล้วใครกันเล่าที่จะมานั่งได้?”

“ตอนนี้คนที่เหลือเองก็คงไม่ต้องประลองใดๆ แล้ว ปรมาจารย์เย่นั้นมีฝีมือพอที่จะนั่งบนตำแหน่งของตนได้!”

เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายย่อมไม่มีใครจะคัดค้านอีก ตอนนี้เย่หยวนได้ทำให้เหล่าจอมเทพโอสถเจ็ดดาวทั้งหลายเชื่อถือในฝีมืออย่างสุดหัวใจ

แต่ในเวลานั้นเองมันกลับเกิดเสียงหนึ่งพูดแทรกขึ้น

“ในเมื่อเขาคิดรับคำท้าแล้ว เช่นนั้นก็ต้องให้เขาประลองให้เสร็จสมบูรณ์ เขากล่าวว่าจะคืนเหรียญปรมาจารย์หากแพ้ คำพูดเช่นนั้นมีหรือที่จะคืนคำได้?”

ผู้พูดนี้คือเทพสวรรค์ดันหยู่

ทุกผู้คนแทบจะกระโดดขึ้นจากที่นั่งหลังได้ยินคำกล่าวของเทพสวรรค์ดันหยู่ ไม่นึกไม่ฝันว่าตัวเขากลับจะยังยืนยันคำเดิมเช่นนี้!

เทพสวรรค์ซืออี้นั้นได้แต่ขมวดคิ้วแน่น “พี่ดันหยู่ เย่หยวนนั้นได้พิสูจน์ฝีมือออกมาอย่างแจ่มแจ้งแล้ว มีเหตุใดให้ต้องเสียเวลาประลองกันอีกเล่า?”

แต่เทพสวรรค์ดันหยู่กลับยิ้มตอบกลับมา “ต่อให้เทพสวรรค์ผู้นี้จะยอมรับ ข้าก็เกรงว่าพี่เจาหยวนจะไม่คิดเช่นนั้น ใช่หรือไม่เล่าพี่เจาหยวน?”

สายตาทุกคู่จึงหันตามไปมองยังเทพสวรรค์เจาหยวนทันที

“มันหมายความว่าอย่างไรกัน? หรือว่าเทพสวรรค์เจาหยวนนั้นยังคิดว่าตนเองเทียบเคียงปรมาจารย์เย่ได้?”

“เทพสวรรค์เจาหยวนนั้นเป็นแค่เทพสวรรค์ผู้ถูกเชิญมาร่วมงาน อย่างมากเขาก็คงแค่เทียบเท่าเหล่าปรมาจารย์ผู้ถูกเชิญมาทั้งหลาย ให้ประลองต่อไปจะได้ประโยชน์ใดกันเล่า?”

ตอนนี้ในลานกว้างมันเกิดเสียงคำถามดังขึ้นอย่างไม่ขาดสาย

เทพสวรรค์เจาหยวนนั้นแทบไม่เคยจะลงมือต่อหน้าผู้คน แน่นอนว่าทุกผู้คนรู้ดีว่าเขาเก่งกาจ แต่ไม่คิดว่าเขาจะเหนือล้ำถึงขั้นนั้น

เมื่อได้เห็นเทพสวรรค์ดันหยู่ถามมาเช่นนั้น เทพสวรรค์เจาหยวนก็คิดจะลุกขึ้นตอบกลับไปแต่กลับเป็นเย่หยวนที่พูดขึ้นมาจากด้านล่างเสียก่อน “เย่ผู้นี้รักษาคำพูดเสมอ! การประลองโอสถนี้… จะดำเนินต่อไปจนจบสิ้น! พี่เจาหยวน โปรดช่วยสั่งสอนชี้แนะข้าด้วย!”

…………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+