Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2062 กดหัวแดนใต้ทั้งหมดด้วยตัวคนเดียว!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2062 กดหัวแดนใต้ทั้งหมดด้วยตัวคนเดียว! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เมื่อได้มายืนมองดูเย่หยวนปั้นหน้ายิ้มให้อย่างเย็นเยือกแล้วเทพสวรรค์ออหยุนก็รู้สึกราวกับว่าตนได้ตกร่วงลงสู่นรกทั้งเป็น

หลังจากเรื่องราวทั้งหลายผ่านพ้นไป สุดท้ายแล้วเขาก็ยังต้องมาก้มหัวลงยอมรับความแพ้พ่ายต่อหน้าเย่หยวน!

หากตัวเขารู้ว่าผลลัพธ์มันจะเป็นเช่นนี้แล้ววันนั้นตัวเขาคงยอมถอยรับความผิดพลาดของตน ทำเช่นนั้นแล้วเรื่องราวเช่นในวันนี้มันก็คงไม่เกิดขึ้น

“ปรมาจารย์เย่ ออหยุนนั้นมาเพื่อขอขมาต่อท่าน!” เทพสวรรค์ออหยุนกัดฟันพูดออกมา

เย่หยวนได้แต่ยิ้มเย้ยออกมาและกล่าวอย่างเย็นเยือก “เจ้าคิดว่าข้าจะยอมรับคำขอโทษจอมปลอมพรรค์นี้? หากเจ้าไม่อาจกลืนศักดิ์ศรีของตนลงคอได้ พี่ออหยุนก็กลับไปเตรียมตัวทำสงครามอีกครั้งเถอะ”

เทพสวรรค์ออหยุนนั้นหน้าซีดเผือด เวลานี้คนมากมายทั้งหลายต่างจ้องมองมาที่ตัวเขาทั้งอย่างนั้นเขายังต้องมาก้มหัวลงขอโทษต่อเด็กน้อยเทพถ่องแท้ผู้หนึ่ง มันย่อมจะเป็นความอับอายที่เขาไม่เคยสัมผัสถึงในชีวิตนี้

และสิ่งที่สำคัญที่สุดนั้นก็คือแม้เขาจะกล่าวขอโทษออกมาแล้วแต่อีกฝ่ายกลับยังไม่พอใจ!

เพียงแค่ว่าตัวเขานั้นไม่ได้เป็นสีหน้าและน้ำเสียงของตนเอง ท่าทางเช่นนี้มันจะเหมือนการขอโทษอย่างไร? ไม่ว่าจะดูอย่างไรมันก็มาทวงหนี้ผู้คนชัดๆ

เทพสวรรค์เฉิงเฟิงที่อยู่ด้านข้างนั้นไม่อาจทนดูได้อีกต่อไป เขากล่าวขึ้นพร้อมคิ้วที่ขมวดแน่น “ออหยุน หากเจ้ายังไม่อาจจัดลำดับความสำคัญเรื่องราวได้ จากนี้เทพสวรรค์ผู้นี้ก็คงไม่อาจจะปกป้องเจ้าได้อีกแล้ว!”

เทพสวรรค์ออหยุนที่ได้ยินถึงกับผงะจนต้องก้มหัวลงต่ำ “ปรมาจารย์เย่ เรื่องราวนี้มันเป็นความผิดของออหยุนผู้นี้จริงๆ ข้าหวังว่าท่านจะมีเมตตาอย่าได้คิดทำสงครามยืดยาวกับพันธมิตรแดนใต้อีกต่อไปเลย!”

ในเวลานี้แม้ว่าน้ำเสียงของเขาจะยังแฝงความไม่ยอมออกมาบ้าง แต่ท่าทางโดยรวมมันก็ค่อยเหมือนการขอโทษขึ้นมาหน่อย

เย่หยวนจึงได้ตอบกลับมา “ช่างเถอะ ได้เห็นท่าทางหนักใจไม่คิดยอมคนของเจ้าแล้วข้าก็ไม่คิดจะทำให้เจ้าลำบากไปมากกว่านี้แล้ว แต่เจ้าคงไม่ได้คิดว่าการขอขมามันจะจบลงด้วยคำพูดประโยคเดียวเช่นนี้ใช่หรือไม่?”

เพทสวรรค์ออหยุนจึงกัดฟันแน่นพูดขึ้น “แน่นอน! เทพสวรรค์ผู้นี้จะยอมมอบดินแดนที่มีสองในสิบเพื่อเป็นคำขอโทษแก่ปรมาจารย์เย่!”

เย่หยวนที่ได้ยินก็ยิ้มตอบกลับไปอย่างเย็นเยือก “หากเจ้ารู้ว่าเรื่องราวมันจะกลายเป็นอย่างเช่นวันนี้ เหตุใดจึงไม่ยอมก้มหัวขอโทษลงตั้งแต่วันนั้นเล่า?”

เทพสวรรค์ออหยุนแทบจะคลั่งเมื่อได้ยินแต่เย่หยวนกลับพูดขึ้นมาต่อ “แต่ทว่า… ราคานั่นมันราคาของเมื่อสิบปีก่อน ตอนนั้นเจ้าได้เข้ามารุกล้ำดินแดนการค้าของข้าและเย่ผู้นี้อยากฟังคำอธิบายจากปากเจ้า หากวันนั้นเจ้าขอโทษและมอบดินแดนสองในสอบที่ตนมีออกมาเรื่องราวทั้งหลายมันก็คงจบลงเท่านั้น แต่พวกเจ้านั้นกลับใช้อำนาจที่ตนมีรังแกข่มเหงผู้คนขับไล่ข้าและพี่เปียวหยูออกมาจากพันธมิตร ถึงเวลานี้แล้วเจ้ากลับยังคิดว่าสองในสิบมันจะพอแทนคำขอโทษ?”

เทพสวรรค์ออหยุนนั้นมีดินแดนการค้าที่ไม่นับว่าใหญ่นัก เป็นแค่ส่วนหนึ่งของเศษเสี้ยวพันธมิตรเท่านั้น

การมอบดินแดนนั้นให้ถึงสองในสิบมันย่อมจะเป็นเรื่องหนักหน่วงแก่ตัวเขาอย่างมากมายแล้ว

แต่เมื่อได้ยินคำพูดของเย่หยวน เขาก็ได้รู้ทันทีว่าเรื่องราววันนี้มันคงไม่อาจตกลงกันได้ง่ายๆ อีก

“ข้าสงสัยแค่ว่าปรมาจารย์เย่นั้นต้องการสิ่งใดถึงจะยอมปล่อยเรื่องราวในวันนี้ไป?” เทพสวรรค์ออหยุนหลับตาถามขึ้นโดยเตรียมใจพร้อมรับทุกสิ่งอย่าง

เย่หยวนจึงได้กล่าวขึ้นมา “ก่อนหน้านั้นเหล่าคนทั้งหลายเข้ามาแย่งชิงดินแดนของข้ารวมๆ แล้วกว่าสี่ในสิบ แต่ตัวเจ้ากลับชิงไปคนเดียวถึงห้าในสิบ หากเจ้ายอมให้ข้าทำเช่นนั้นบ้างแล้ว เรื่องราวในวันนี้ก็จะถือว่าจบกันไป”

เทพสวรรค์ออหยุนที่ได้ยินต้องตะโกนขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง “เจ้า… เจ้าจะรังแกผู้คนมากจนเกินไปแล้ว!”

เย่หยวนที่ได้ยินจึงต้องหรี่ตาลงมองพร้อมกล่าวอย่างเยือกเย็น “ข้ารังแกผู้คน? ตอนนั้นคำมั่นสัญญาใดๆ ที่เพิ่งตกลงกันได้มันเป็นพวกเจ้าทั้งหลายเองมิใช่หรือที่คิดกลับคำแย่งชิงดินแดนของเย่ผู้นี้? ทั้งอย่างนั้นเมื่อข้าเข้าไปถามถึงพวกเจ้ากลับไม่คิดแม้แต่จะกล่าวขอโทษใดๆ เรื่องราวเช่นนั้นมันมีใครในโลกหล้าหน้าด้านทำบ้าง? จากนั้นเจ้ายังคิดใช้อำนาจของพันธมิตรมาตัดขาดข้าจากพี่เปียวหยูจะได้จัดการเย่คนนี้ลงได้ แถมหลังจากที่พวกเราทั้งสองออกจากพันธมิตรมาแล้วพวกเจ้ายังได้ซุ้มกำลังกันเต็มที่เข้ารุกรานดินแดนการค้าของหอมหาสมบัติ เรื่องราวไม่จบไม่สิ้นทั้งหลายนี้ เย่ผู้นี้ยังไม่ได้ว่ากล่าวใดๆ พวกเจ้า แต่ตอนนี้พอเจ้าเปิดปากพูดขึ้นมากลับบอกว่าเย่ผู้นี้ข่มเหงรังแกผู้คนจนเกินไป?”

ทุกคำพูดของเย่หยวนนี้เขาได้พูดออกมาพร้อมก้าวเท้าขึ้นมาด้านหน้าด้วยท่าทางหนักหน่วง

ยอดคนระดับเทพสวรรค์ออหยุนนั้นกลับถูกเย่หยวนกดดันจนต้องก้าวถอยหลังไป

เมื่อพวกเฉิงเฟิงทั้งหลายเห็นเช่นนั้นแล้วพวกเขาต่างก็ตกตะลึงอย่างไร้คำบรรยายใดๆ

เทพถ่องแท้ผู้หนึ่งกลับกดดันเทพสวรรค์ได้!Aileen

แต่พวกเขาทั้งหลายก็อดไม่ได้ที่จะต้องชื่นชมว่าเย่หยวนนั้นมีคลื่นรัศมีของปรมาจารย์อย่างเต็มตัวแล้ว มันเป็นคลื่นความรู้สึกที่ทำให้ดูสูงส่งความชีวิตทั้งหลายทั้งมวล

นี่มันมิใช่คลื่นความรู้สึกที่ยอดคนทั้งหลายมีกัน แต่มันเป็นคลื่นความรู้สึกที่ทำให้คนทั้งหลายรู้สึกราวได้ยืนอยู่หน้ามหาสมุทร ไม่อาจกล้าจะจ้องมองเข้าไปที่ตัวเขาตรงๆ ได้!

เทพสวรรค์เฉิงเฟิงนั้นได้แต่ถอนหายใจยาว ตอนนี้เขาเห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าเทพสวรรค์ออหยุนนั้นถูกเย่หยวนกดดันอย่างหนักแน่นจนไม่อาจจะต่อรองเจรจาใดๆ ได้อีก

“ที่ปรมาจารย์เย่ว่ามามันก็ไม่ผิด เพียงแค่ว่า… ท่านจะไม่เรียกร้องมากเกินไปหน่อยหรือ?” เทพสวรรค์เฉิงเฟิงพูดขึ้นขัด

เย่หยวนจึงได้หันหน้าไปหัวเราะใส่ “พี่เฉิงเฟิง นี่มันเป็นเรื่องราวที่ข้าจะขอเอาจากออหยุน เรื่องที่ข้าจะเรียกร้องจากพันธมิตรและพี่ดันหยู่นั้นยังไม่ได้พูดถึง! อย่าได้มาพูดจาสวยหรูเลย ที่เย่ผู้นี้ยังยืนหยัดอยู่ได้ในวันนี้มันก็เพราะว่าเย่ผู้นี้ชนะ หากเย่ผู้นี้พ่ายแพ้ลงแล้วสิ่งที่พวกเจ้าจะทำมันคงโหดร้ายกว่าที่ข้าทำอย่างไม่อาจเอามาเทียบเคียงกันได้ใช่ไหมเล่า?”

เทพสวรรค์เฉิงเฟิงที่ได้ยินถึงกับต้องผงะหน้า ยิ้มขึ้นมาท่าทางเก้ๆ กังๆ “เรื่องนั้น… มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน?”

เย่หยวนหัวเราะตอบกลับไป “จะเป็นไปได้ไหมข้าและเจ้าย่อมรู้ดีแก่ใจ พูดจาใดๆ ต่อไปมันก็ไม่มีประโยชน์ ข้าแค่ถามเจ้าว่าเงื่อนไขของข้านี้พวกเจ้าจะตกลงหรือไม่?”

เทพสวรรค์เฉิงเฟิงพยักหน้ารับขึ้นมา “ได้ พันธมิตรเราขอตกลงเรื่องนั้น! ไม่ว่าปรมาจารย์เย่จะมีเงื่อนไขใดก็ว่ามาให้สิ้นกันตรงนี้ไปเลย”

เย่หยวนจึงได้ยิ้มขึ้น “เรื่องทั้งหลายย่อมตกลงกันได้แน่ พันธมิตรแดนใต้ต้องมอบผลึกปราณเทวะขั้นสูงให้เมืองอินทรีสวรรค์สิบล้านผลึก นอกจากนั้นแล้วข้าจะมอบรายการหนึ่งให้พวกเจ้าไปเตรียมสมบัติธรรมชาติตามที่ข้าขอมาให้ แล้วเรื่องราวของเราก็จะจบกันเท่านั้น แต่ทว่าอย่าได้คิดว่าเรื่องมันจะจบลงแค่ที่เราพูดตรงนี้ หลังจากที่พวกเจ้าทั้งหลายส่งมอบผลึกปราณเทวะและสมบัติธรรมชาตินั้นมาแล้วเท่านั้นที่พี่เปียวหยูจะเริ่มยอมพูดคุยเจรจากับพวกเจ้าทั้งหลาย”

เทพสวรรค์เฉิงเฟิงได้แต่ยืนหน้าซีดอยู่ตรงนั้น เขานั้นรู้สึกราวกับว่าตนได้ต่อรองเจรจาอยู่กับสัตว์ประหลาดเฒ่า ไม่ได้เหมือนกำลังคุยอยู่กับเด็กหนุ่มแม้แต่น้อย

เพราะอีกฝ่ายนี้ก้าวเข้ามาพร้อมเงื่อนไขอย่างหนักแน่นไม่ยอมเปิดให้มีโอกาสต่อรองใดๆ

ก่อนที่เขาจะได้ต่อรองใดๆ เย่หยวนก็ได้ยื่นข้อเสนอสมบูรณ์แบบมาให้แก่เขาก่อนแล้ว

ผลึกปราณเทวะขั้นสูงสิบล้านผนึกนั้นมันมิใช่ของล้ำค่าใดๆ หากนับแล้วมันย่อมจะเป็นแค่ปลายเส้นผมของพันธมิตรแดนใต้

แต่รายการที่เย่หยวนเตรียมไว้นั้นมันย่อมจะมีค่าเหนือล้ำกว่าผลึกปราณเทวะขั้นสูงสิบล้านผลึกอย่างแน่นอน

ที่สำคัญไปกว่านั้นสมุนไพรวิญญาณทั้งหลายที่เขาคิดจะเอามันย่อมจะต้องเป็นสุดยอดของหายากที่ต่อให้ทางหอมหาสมบัติก็ยังไม่อาจจะเอามันมาถือครองไว้ได้ง่ายๆ

เด็กคนนี้มันช่างสูบเลือดสูบเนื้อเก่งจริงๆ!

แต่เทพสวรรค์เฉิงเฟิงก็เข้าใจดีว่าเรื่องของเย่หยวนนี้มันเล็กน้อยหากเอาไปเทียบกับการเจรจาที่จะเกิดขึ้นกับเทพสวรรค์เปียวหยู

เพราะผลการเจรจากับหอมหาสมบัตินี้มันจะส่งผลสืบเนื่องยาวนานแก่ทางพันธมิตร

เทพสวรรค์เฉิงเฟิงเงียบนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะตอบกลับมา “เอาล่ะ เรื่องนั้นเทพสวรรค์ผู้นี้จะขอเป็นตัวแทนพันธมิตรตอบรับมันไว้เอง”

หลังจากเทพสวรรค์เฉิงเฟิงได้เดินทางไปถึงหอมหาสมบัติแน่นอนว่าข่าวเรื่องความพ่ายแพ้อันน่าสมเพชของพันธมิตรแดนใต้มันก็แพร่สะพัดไปทั่วทั้งแดนใต้อย่างรวดเร็ว

ตอนนี้มันมิใช่แค่เรื่องของวงการโอสถอีกต่อไป มันได้ส่งผลกระทบไปทั่วทุกหย่อมหญ้าไม่เว้นแม้แต่เหล่านักยุทธธรรมดาๆ ทั่วไป

คนทั้งหลายที่มีแหล่งข่าวย่อมจะเข้าใจดีว่าพันธมิตรแดนใต้นี้ไม่ได้พ่ายแพ้หอมหาสมบัติ แต่พวกเขาได้พ่ายแพ้แก่ยอดคนอัจฉริยะนามเย่หยวน

เขานั้นกดหัววงการโอสถแห่งแดนใต้นี้ด้วยตัวคนเดียว!

เย่หยวนนั้นจึงได้เริ่มมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วทั้งแดนใต้อย่างรวดเร็ว

ในบ้านตระกูลหลัว ตอนนี้ผู้นำตระกูลหลัวกำลังทำสีหน้าผิดหวังอย่างสุดหัวใจออกมา

เขานั้นได้ยกมือขึ้นมาชี้ไปยังหลัวเทียนฉีและตะโกนร้องลั่น “เจ้าโง่! เจ้าโง่ไร้สมอง! หากเจ้าได้เข้ารับการสั่งสอนจากปรมาจารย์เย่แล้วในวันหน้าเจ้าคงได้กลายเป็นยอดคนแห่งแดนใต้ผู้มีเต๋าโอสถถึงอาณาจักรเต๋าขั้นสุด! โอกาสสวรรค์ส่งเช่นนี้เจ้ากลับเอามันไปอวดอ้างตนต่อหน้าปรมาจารย์เย่? สมองเจ้าเพี้ยนไปแล้วหรืออย่างไร?”

หลัวเทียนฉีนั้นไม่คิดยอมรับใดๆ “ท่านผู้อาวุโส มีหรือที่เทียนฉีจะรู้ได้ว่าเวลานั้นปลาเน่าที่รอวันตายกลับจะตื่นมีชีวิตกลับมาได้? ที่สำคัญตระกูลหลัวเราก็มีจักรพรรดิเทพสวรรค์คอยหนุนหลังอยู่ เหตุใดต้องไปเลียนเท้าเหม็นๆ ของเขาด้วย?”

“เจ้า!” ผู้นำตระกูลหลัวนั้นโกรธจนหน้าแดงพร้อมตะโกนลั่น “ไปให้พ้น! ไปให้พ้นหน้าข้า! จากวันนี้ไปเจ้าจะถูกกักบริเวณเป็นเวลาห้าร้อยปี ห้ามออกมาจากห้องของตนเป็นอันขาด!”

………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2062 กดหัวแดนใต้ทั้งหมดด้วยตัวคนเดียว!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2062 กดหัวแดนใต้ทั้งหมดด้วยตัวคนเดียว! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เมื่อได้มายืนมองดูเย่หยวนปั้นหน้ายิ้มให้อย่างเย็นเยือกแล้วเทพสวรรค์ออหยุนก็รู้สึกราวกับว่าตนได้ตกร่วงลงสู่นรกทั้งเป็น

หลังจากเรื่องราวทั้งหลายผ่านพ้นไป สุดท้ายแล้วเขาก็ยังต้องมาก้มหัวลงยอมรับความแพ้พ่ายต่อหน้าเย่หยวน!

หากตัวเขารู้ว่าผลลัพธ์มันจะเป็นเช่นนี้แล้ววันนั้นตัวเขาคงยอมถอยรับความผิดพลาดของตน ทำเช่นนั้นแล้วเรื่องราวเช่นในวันนี้มันก็คงไม่เกิดขึ้น

“ปรมาจารย์เย่ ออหยุนนั้นมาเพื่อขอขมาต่อท่าน!” เทพสวรรค์ออหยุนกัดฟันพูดออกมา

เย่หยวนได้แต่ยิ้มเย้ยออกมาและกล่าวอย่างเย็นเยือก “เจ้าคิดว่าข้าจะยอมรับคำขอโทษจอมปลอมพรรค์นี้? หากเจ้าไม่อาจกลืนศักดิ์ศรีของตนลงคอได้ พี่ออหยุนก็กลับไปเตรียมตัวทำสงครามอีกครั้งเถอะ”

เทพสวรรค์ออหยุนนั้นหน้าซีดเผือด เวลานี้คนมากมายทั้งหลายต่างจ้องมองมาที่ตัวเขาทั้งอย่างนั้นเขายังต้องมาก้มหัวลงขอโทษต่อเด็กน้อยเทพถ่องแท้ผู้หนึ่ง มันย่อมจะเป็นความอับอายที่เขาไม่เคยสัมผัสถึงในชีวิตนี้

และสิ่งที่สำคัญที่สุดนั้นก็คือแม้เขาจะกล่าวขอโทษออกมาแล้วแต่อีกฝ่ายกลับยังไม่พอใจ!

เพียงแค่ว่าตัวเขานั้นไม่ได้เป็นสีหน้าและน้ำเสียงของตนเอง ท่าทางเช่นนี้มันจะเหมือนการขอโทษอย่างไร? ไม่ว่าจะดูอย่างไรมันก็มาทวงหนี้ผู้คนชัดๆ

เทพสวรรค์เฉิงเฟิงที่อยู่ด้านข้างนั้นไม่อาจทนดูได้อีกต่อไป เขากล่าวขึ้นพร้อมคิ้วที่ขมวดแน่น “ออหยุน หากเจ้ายังไม่อาจจัดลำดับความสำคัญเรื่องราวได้ จากนี้เทพสวรรค์ผู้นี้ก็คงไม่อาจจะปกป้องเจ้าได้อีกแล้ว!”

เทพสวรรค์ออหยุนที่ได้ยินถึงกับผงะจนต้องก้มหัวลงต่ำ “ปรมาจารย์เย่ เรื่องราวนี้มันเป็นความผิดของออหยุนผู้นี้จริงๆ ข้าหวังว่าท่านจะมีเมตตาอย่าได้คิดทำสงครามยืดยาวกับพันธมิตรแดนใต้อีกต่อไปเลย!”

ในเวลานี้แม้ว่าน้ำเสียงของเขาจะยังแฝงความไม่ยอมออกมาบ้าง แต่ท่าทางโดยรวมมันก็ค่อยเหมือนการขอโทษขึ้นมาหน่อย

เย่หยวนจึงได้ตอบกลับมา “ช่างเถอะ ได้เห็นท่าทางหนักใจไม่คิดยอมคนของเจ้าแล้วข้าก็ไม่คิดจะทำให้เจ้าลำบากไปมากกว่านี้แล้ว แต่เจ้าคงไม่ได้คิดว่าการขอขมามันจะจบลงด้วยคำพูดประโยคเดียวเช่นนี้ใช่หรือไม่?”

เพทสวรรค์ออหยุนจึงกัดฟันแน่นพูดขึ้น “แน่นอน! เทพสวรรค์ผู้นี้จะยอมมอบดินแดนที่มีสองในสิบเพื่อเป็นคำขอโทษแก่ปรมาจารย์เย่!”

เย่หยวนที่ได้ยินก็ยิ้มตอบกลับไปอย่างเย็นเยือก “หากเจ้ารู้ว่าเรื่องราวมันจะกลายเป็นอย่างเช่นวันนี้ เหตุใดจึงไม่ยอมก้มหัวขอโทษลงตั้งแต่วันนั้นเล่า?”

เทพสวรรค์ออหยุนแทบจะคลั่งเมื่อได้ยินแต่เย่หยวนกลับพูดขึ้นมาต่อ “แต่ทว่า… ราคานั่นมันราคาของเมื่อสิบปีก่อน ตอนนั้นเจ้าได้เข้ามารุกล้ำดินแดนการค้าของข้าและเย่ผู้นี้อยากฟังคำอธิบายจากปากเจ้า หากวันนั้นเจ้าขอโทษและมอบดินแดนสองในสอบที่ตนมีออกมาเรื่องราวทั้งหลายมันก็คงจบลงเท่านั้น แต่พวกเจ้านั้นกลับใช้อำนาจที่ตนมีรังแกข่มเหงผู้คนขับไล่ข้าและพี่เปียวหยูออกมาจากพันธมิตร ถึงเวลานี้แล้วเจ้ากลับยังคิดว่าสองในสิบมันจะพอแทนคำขอโทษ?”

เทพสวรรค์ออหยุนนั้นมีดินแดนการค้าที่ไม่นับว่าใหญ่นัก เป็นแค่ส่วนหนึ่งของเศษเสี้ยวพันธมิตรเท่านั้น

การมอบดินแดนนั้นให้ถึงสองในสิบมันย่อมจะเป็นเรื่องหนักหน่วงแก่ตัวเขาอย่างมากมายแล้ว

แต่เมื่อได้ยินคำพูดของเย่หยวน เขาก็ได้รู้ทันทีว่าเรื่องราววันนี้มันคงไม่อาจตกลงกันได้ง่ายๆ อีก

“ข้าสงสัยแค่ว่าปรมาจารย์เย่นั้นต้องการสิ่งใดถึงจะยอมปล่อยเรื่องราวในวันนี้ไป?” เทพสวรรค์ออหยุนหลับตาถามขึ้นโดยเตรียมใจพร้อมรับทุกสิ่งอย่าง

เย่หยวนจึงได้กล่าวขึ้นมา “ก่อนหน้านั้นเหล่าคนทั้งหลายเข้ามาแย่งชิงดินแดนของข้ารวมๆ แล้วกว่าสี่ในสิบ แต่ตัวเจ้ากลับชิงไปคนเดียวถึงห้าในสิบ หากเจ้ายอมให้ข้าทำเช่นนั้นบ้างแล้ว เรื่องราวในวันนี้ก็จะถือว่าจบกันไป”

เทพสวรรค์ออหยุนที่ได้ยินต้องตะโกนขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง “เจ้า… เจ้าจะรังแกผู้คนมากจนเกินไปแล้ว!”

เย่หยวนที่ได้ยินจึงต้องหรี่ตาลงมองพร้อมกล่าวอย่างเยือกเย็น “ข้ารังแกผู้คน? ตอนนั้นคำมั่นสัญญาใดๆ ที่เพิ่งตกลงกันได้มันเป็นพวกเจ้าทั้งหลายเองมิใช่หรือที่คิดกลับคำแย่งชิงดินแดนของเย่ผู้นี้? ทั้งอย่างนั้นเมื่อข้าเข้าไปถามถึงพวกเจ้ากลับไม่คิดแม้แต่จะกล่าวขอโทษใดๆ เรื่องราวเช่นนั้นมันมีใครในโลกหล้าหน้าด้านทำบ้าง? จากนั้นเจ้ายังคิดใช้อำนาจของพันธมิตรมาตัดขาดข้าจากพี่เปียวหยูจะได้จัดการเย่คนนี้ลงได้ แถมหลังจากที่พวกเราทั้งสองออกจากพันธมิตรมาแล้วพวกเจ้ายังได้ซุ้มกำลังกันเต็มที่เข้ารุกรานดินแดนการค้าของหอมหาสมบัติ เรื่องราวไม่จบไม่สิ้นทั้งหลายนี้ เย่ผู้นี้ยังไม่ได้ว่ากล่าวใดๆ พวกเจ้า แต่ตอนนี้พอเจ้าเปิดปากพูดขึ้นมากลับบอกว่าเย่ผู้นี้ข่มเหงรังแกผู้คนจนเกินไป?”

ทุกคำพูดของเย่หยวนนี้เขาได้พูดออกมาพร้อมก้าวเท้าขึ้นมาด้านหน้าด้วยท่าทางหนักหน่วง

ยอดคนระดับเทพสวรรค์ออหยุนนั้นกลับถูกเย่หยวนกดดันจนต้องก้าวถอยหลังไป

เมื่อพวกเฉิงเฟิงทั้งหลายเห็นเช่นนั้นแล้วพวกเขาต่างก็ตกตะลึงอย่างไร้คำบรรยายใดๆ

เทพถ่องแท้ผู้หนึ่งกลับกดดันเทพสวรรค์ได้!Aileen

แต่พวกเขาทั้งหลายก็อดไม่ได้ที่จะต้องชื่นชมว่าเย่หยวนนั้นมีคลื่นรัศมีของปรมาจารย์อย่างเต็มตัวแล้ว มันเป็นคลื่นความรู้สึกที่ทำให้ดูสูงส่งความชีวิตทั้งหลายทั้งมวล

นี่มันมิใช่คลื่นความรู้สึกที่ยอดคนทั้งหลายมีกัน แต่มันเป็นคลื่นความรู้สึกที่ทำให้คนทั้งหลายรู้สึกราวได้ยืนอยู่หน้ามหาสมุทร ไม่อาจกล้าจะจ้องมองเข้าไปที่ตัวเขาตรงๆ ได้!

เทพสวรรค์เฉิงเฟิงนั้นได้แต่ถอนหายใจยาว ตอนนี้เขาเห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าเทพสวรรค์ออหยุนนั้นถูกเย่หยวนกดดันอย่างหนักแน่นจนไม่อาจจะต่อรองเจรจาใดๆ ได้อีก

“ที่ปรมาจารย์เย่ว่ามามันก็ไม่ผิด เพียงแค่ว่า… ท่านจะไม่เรียกร้องมากเกินไปหน่อยหรือ?” เทพสวรรค์เฉิงเฟิงพูดขึ้นขัด

เย่หยวนจึงได้หันหน้าไปหัวเราะใส่ “พี่เฉิงเฟิง นี่มันเป็นเรื่องราวที่ข้าจะขอเอาจากออหยุน เรื่องที่ข้าจะเรียกร้องจากพันธมิตรและพี่ดันหยู่นั้นยังไม่ได้พูดถึง! อย่าได้มาพูดจาสวยหรูเลย ที่เย่ผู้นี้ยังยืนหยัดอยู่ได้ในวันนี้มันก็เพราะว่าเย่ผู้นี้ชนะ หากเย่ผู้นี้พ่ายแพ้ลงแล้วสิ่งที่พวกเจ้าจะทำมันคงโหดร้ายกว่าที่ข้าทำอย่างไม่อาจเอามาเทียบเคียงกันได้ใช่ไหมเล่า?”

เทพสวรรค์เฉิงเฟิงที่ได้ยินถึงกับต้องผงะหน้า ยิ้มขึ้นมาท่าทางเก้ๆ กังๆ “เรื่องนั้น… มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน?”

เย่หยวนหัวเราะตอบกลับไป “จะเป็นไปได้ไหมข้าและเจ้าย่อมรู้ดีแก่ใจ พูดจาใดๆ ต่อไปมันก็ไม่มีประโยชน์ ข้าแค่ถามเจ้าว่าเงื่อนไขของข้านี้พวกเจ้าจะตกลงหรือไม่?”

เทพสวรรค์เฉิงเฟิงพยักหน้ารับขึ้นมา “ได้ พันธมิตรเราขอตกลงเรื่องนั้น! ไม่ว่าปรมาจารย์เย่จะมีเงื่อนไขใดก็ว่ามาให้สิ้นกันตรงนี้ไปเลย”

เย่หยวนจึงได้ยิ้มขึ้น “เรื่องทั้งหลายย่อมตกลงกันได้แน่ พันธมิตรแดนใต้ต้องมอบผลึกปราณเทวะขั้นสูงให้เมืองอินทรีสวรรค์สิบล้านผลึก นอกจากนั้นแล้วข้าจะมอบรายการหนึ่งให้พวกเจ้าไปเตรียมสมบัติธรรมชาติตามที่ข้าขอมาให้ แล้วเรื่องราวของเราก็จะจบกันเท่านั้น แต่ทว่าอย่าได้คิดว่าเรื่องมันจะจบลงแค่ที่เราพูดตรงนี้ หลังจากที่พวกเจ้าทั้งหลายส่งมอบผลึกปราณเทวะและสมบัติธรรมชาตินั้นมาแล้วเท่านั้นที่พี่เปียวหยูจะเริ่มยอมพูดคุยเจรจากับพวกเจ้าทั้งหลาย”

เทพสวรรค์เฉิงเฟิงได้แต่ยืนหน้าซีดอยู่ตรงนั้น เขานั้นรู้สึกราวกับว่าตนได้ต่อรองเจรจาอยู่กับสัตว์ประหลาดเฒ่า ไม่ได้เหมือนกำลังคุยอยู่กับเด็กหนุ่มแม้แต่น้อย

เพราะอีกฝ่ายนี้ก้าวเข้ามาพร้อมเงื่อนไขอย่างหนักแน่นไม่ยอมเปิดให้มีโอกาสต่อรองใดๆ

ก่อนที่เขาจะได้ต่อรองใดๆ เย่หยวนก็ได้ยื่นข้อเสนอสมบูรณ์แบบมาให้แก่เขาก่อนแล้ว

ผลึกปราณเทวะขั้นสูงสิบล้านผนึกนั้นมันมิใช่ของล้ำค่าใดๆ หากนับแล้วมันย่อมจะเป็นแค่ปลายเส้นผมของพันธมิตรแดนใต้

แต่รายการที่เย่หยวนเตรียมไว้นั้นมันย่อมจะมีค่าเหนือล้ำกว่าผลึกปราณเทวะขั้นสูงสิบล้านผลึกอย่างแน่นอน

ที่สำคัญไปกว่านั้นสมุนไพรวิญญาณทั้งหลายที่เขาคิดจะเอามันย่อมจะต้องเป็นสุดยอดของหายากที่ต่อให้ทางหอมหาสมบัติก็ยังไม่อาจจะเอามันมาถือครองไว้ได้ง่ายๆ

เด็กคนนี้มันช่างสูบเลือดสูบเนื้อเก่งจริงๆ!

แต่เทพสวรรค์เฉิงเฟิงก็เข้าใจดีว่าเรื่องของเย่หยวนนี้มันเล็กน้อยหากเอาไปเทียบกับการเจรจาที่จะเกิดขึ้นกับเทพสวรรค์เปียวหยู

เพราะผลการเจรจากับหอมหาสมบัตินี้มันจะส่งผลสืบเนื่องยาวนานแก่ทางพันธมิตร

เทพสวรรค์เฉิงเฟิงเงียบนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะตอบกลับมา “เอาล่ะ เรื่องนั้นเทพสวรรค์ผู้นี้จะขอเป็นตัวแทนพันธมิตรตอบรับมันไว้เอง”

หลังจากเทพสวรรค์เฉิงเฟิงได้เดินทางไปถึงหอมหาสมบัติแน่นอนว่าข่าวเรื่องความพ่ายแพ้อันน่าสมเพชของพันธมิตรแดนใต้มันก็แพร่สะพัดไปทั่วทั้งแดนใต้อย่างรวดเร็ว

ตอนนี้มันมิใช่แค่เรื่องของวงการโอสถอีกต่อไป มันได้ส่งผลกระทบไปทั่วทุกหย่อมหญ้าไม่เว้นแม้แต่เหล่านักยุทธธรรมดาๆ ทั่วไป

คนทั้งหลายที่มีแหล่งข่าวย่อมจะเข้าใจดีว่าพันธมิตรแดนใต้นี้ไม่ได้พ่ายแพ้หอมหาสมบัติ แต่พวกเขาได้พ่ายแพ้แก่ยอดคนอัจฉริยะนามเย่หยวน

เขานั้นกดหัววงการโอสถแห่งแดนใต้นี้ด้วยตัวคนเดียว!

เย่หยวนนั้นจึงได้เริ่มมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วทั้งแดนใต้อย่างรวดเร็ว

ในบ้านตระกูลหลัว ตอนนี้ผู้นำตระกูลหลัวกำลังทำสีหน้าผิดหวังอย่างสุดหัวใจออกมา

เขานั้นได้ยกมือขึ้นมาชี้ไปยังหลัวเทียนฉีและตะโกนร้องลั่น “เจ้าโง่! เจ้าโง่ไร้สมอง! หากเจ้าได้เข้ารับการสั่งสอนจากปรมาจารย์เย่แล้วในวันหน้าเจ้าคงได้กลายเป็นยอดคนแห่งแดนใต้ผู้มีเต๋าโอสถถึงอาณาจักรเต๋าขั้นสุด! โอกาสสวรรค์ส่งเช่นนี้เจ้ากลับเอามันไปอวดอ้างตนต่อหน้าปรมาจารย์เย่? สมองเจ้าเพี้ยนไปแล้วหรืออย่างไร?”

หลัวเทียนฉีนั้นไม่คิดยอมรับใดๆ “ท่านผู้อาวุโส มีหรือที่เทียนฉีจะรู้ได้ว่าเวลานั้นปลาเน่าที่รอวันตายกลับจะตื่นมีชีวิตกลับมาได้? ที่สำคัญตระกูลหลัวเราก็มีจักรพรรดิเทพสวรรค์คอยหนุนหลังอยู่ เหตุใดต้องไปเลียนเท้าเหม็นๆ ของเขาด้วย?”

“เจ้า!” ผู้นำตระกูลหลัวนั้นโกรธจนหน้าแดงพร้อมตะโกนลั่น “ไปให้พ้น! ไปให้พ้นหน้าข้า! จากวันนี้ไปเจ้าจะถูกกักบริเวณเป็นเวลาห้าร้อยปี ห้ามออกมาจากห้องของตนเป็นอันขาด!”

………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+