Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2069 สาดตะวันโอบ

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2069 สาดตะวันโอบ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“จืดชืดไร้รสชาติ? กับพ่อเจ้าสิ!”

เมื่อเถ้าแก่ได้ยินคำของเย่หยวนแน่นอนว่าเขาจะต้องโกรธเคืองจนกระทืบเท้าออกมา

เมื่อคนอื่นๆ ได้เห็นเช่นนั้นพวกเขาต่างก็รู้สึกขันอยู่ในใจ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะสงสารและสมเพชเย่หยวน

เถ้าแก่โรงเตี๊ยมนี้มีนามว่าจางถู ในวัยหนุ่มเขานั้นฆ่าสังหารผู้คนก่อการชั่วร้ายไว้มากมาย ตัวเขานั้นมีกำลังถึงอาณาจักรเทพถ่องแท้ขั้นกลางและไม่ใช่คนที่ดีงามใดๆ

จนมาถึงวันหนึ่งที่เขาได้สูตรของสุราเพลิงคลั่งนี้มาที่ทำให้เขาได้เริ่มหันมาเปิดโรงเตี๊ยมเพลิงคลั่งนี้

เถ้าแก่ผู้นั้นพุ่งตัวเข้ามาหาเย่หยวนอย่างรวดเร็วพร้อมยิ้มขึ้นอย่างเย็นเยือก “เด็กน้อย ข้าจางถูขายสุราเพลิงคลั่งในชุมเก้าสายนี้มานับหมื่นๆ ปีแต่ยังไม่เคยจะได้ยินผู้ใดว่ากล่าวว่ามันจืดชืดไร้รสชาติมาก่อน! หากวันนี้เจ้าไม่คิดอธิบายข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าเดินออกจากประตูไปแน่!”

ทุกผู้คนต่างมองมายังเย่หยวนด้วยสายตาสมเพช เหล่าคนในชุมเก้าสายนี้ต่างรู้กันดีว่าจางถูนั้นมิใช่คนที่จะมาเล่นหัวด้วยได้

ไม่เช่นนั้นแล้วสุราเพลิงคลั่งที่โด่งดังเช่นนี้มันย่อมจะต้องมีคนมาคิดทำการแย่งชิงสูตรใดๆ ไปบ้างแล้ว

เพียงแค่ว่ามันไม่มีใครกล้าคิด!

หวู่หลิงที่ได้เห็นจึงกล่าวขึ้นทันที “ไงล่ะ? ทำให้คนมากมายไม่พอใจแล้วใช่ไหม? ทำไมไม่ลองพูดมาหน่อยเล่าว่าจะจัดการเรื่องราวนี้อย่างไร?”

หวู่ซ่งนั้นหันไปมองดุน้องสาวก่อนจะหันไปหาจางถูด้วยรอยยิ้ม “เถ้าแก่ถู น้องชายข้านี้เขาเพิ่งมาถึงและไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวใด อย่าได้ไปสนใจคนอย่างเขาเลย”

แต่จางถูกลับหัวเราะขึ้น “แล้วเจ้าเป็นใครเล่า? มีสิทธิใดมาห้ามไม่ให้ข้าสนใจมัน? วันนี้ข้าจะสนใจมัน! หากคำพูดของมันนี้ถูกคนผู้อื่นได้ยินเข้าแล้วโรงเตี๊ยมข้าจะยังทำกิจการต่อได้อย่างไร?”

พูดจบเขาก็หันมาหาเย่หยวนทันที “เด็กน้อย เจ้าอย่าได้ว่าข้าไม่ให้โอกาส ตราบเท่าที่เจ้านำเอาสุราที่เหนือล้ำกว่าสุราเพลิงคลั่งออกมาได้ เรื่องนี้ข้าจะไม่ถือสาและก้มหัวลงขอโทษเจ้าด้วย แต่หากเจ้าไม่มีแล้ว… หึๆ…”

จางถูนั้นแสดงท่าทางอย่างมีเรื่องเต็มแก่ ดูท่าเขาคงไม่ได้คิดจะจบเรื่องดีๆ แน่

หวู่ซ่งได้แต่หันไปหาเย่หยวนและกระซิบบอก “ขอโทษ! น้องจี้รีบขอโทษเถ้าแก่ถูเร็ว!”

เย่หยวนได้แต่นั่งนิ่งไม่สนใจจางถูใดๆ เขาหันไปมองหวู่ซ่งด้วยรอยยิ้ม “นั่งเถอะพี่หวู่ เพื่อตอบแทนที่ท่านปกป้องจี้คนนี้มาถึงเวลานี้ จี้คนนี้จะได้นำเอาสุราแก้วหนึ่งให้ท่านได้ลอง”

พูดจบเย่หยวนก็ได้นำเอาขวดสุราน้อยๆ ออกมา

เย่หยวนเปิดฝาของมันออกส่งกลิ่นหอมฟุ้งกระจายไปทั้งโรงเตี๊ยมในพริบตา

“หอม! เหล้าดี!”

“พระเจ้าช่วย สุรานี้มันหอมกว่าสุราเพลิงคลั่งนับสิบเท่าเลย!”

“นี่มันสุราใดกัน? เฒ่าคนนี้ไม่เคยจะได้กลิ่นสุราใดหอมล้ำเท่านี้มาก่อนเลย!”

เมื่อเปิดฝาออกมามันก็เกิดเสียงโห่ร้องขึ้นในทุกมุมของโรงเตี๊ยม ตอนนี้เหล่าผู้คนมากมายเริ่มแสดงท่าทางมึนเมาออกมาเพราะเพียงแค่ได้กลิ่นของสุรานี้

จางถูได้แต่ทำหน้าเหยเกออกมา ไม่นึกไม่ฝันว่าเย่หยวนจะหยิบเอาสุราออกมาจริงๆ

หากนับเพียงแค่กลิ่นนี้แล้ว สุราในมือเย่หยวนมันก็คงเหนือล้ำกว่าสุราเพลิงคลั่งไปหลายเท่าตัว!

“อ่า… หอมจัง! ท่านพี่ ข้าอยากดื่มมัน!”

ที่ด้านข้างหวู่หลิงเริ่มแสดงท่าทางราวคนเมาออกมาก่อนจะค่อยๆ พูดไปส่ายหัวไปมา

ตอนนี้น้ำลายมันได้ไหลลงมาที่มุมปากของนางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เพราะกลิ่นของสุรานี้มันหอมถึงขนาดนั้น!

เพียะ!

หวู่หลิงพยายามยื่นมือออกไปหาขวดสุรานั้นแต่กลับถูกเย่หยวนตบมือเข้า

“โอ้ย! เจ้าตีข้าทำไมเนี่ย!”

การตบนี้มันปลุกสติของหวู่หลิงกลับมาทันที

แต่ในเวลานี้นางกลับมองดูเย่หยวนด้วยความตื่นตะลึงราวกับได้เห็นผี

เจ้าหมอนี่มันมีสุราดีติดตัวจริงๆ!

“สุรานี้ข้าให้แค่พี่หวู่ซ่งดื่ม เจ้าไม่มีสิทธิ!” เย่หยวนบอก

“ชิ ขี้งกแท้! ไม่ดื่มก็ไม่ดื่มสิ ใครอยากได้เล่า!”

แม้ว่านางจะพูดเช่นนั้นออกมาแต่ดวงตาทั้งสองก็ไม่อาจละจากขวดสุรานั้นได้พร้อมด้วยน้ำลายที่ค่อยๆ ไหลลงมุมปากมาอีกครั้ง

ในทุ่งราบสุดอุดรนี้แม้แต่หญิงสาวก็ยังชอบดื่มเป็นเรื่องธรรมชาติ

มันมิใช่แค่หวู่หลิง แต่ทุกผู้คนที่อยู่ในโรงเตี๊ยมเวลานี้ต่างจ้องมองดูขวดสุราในมือเย่หยวนพร้อมกลืนน้ำลายอึกใหญ่

ภายใต้สายตาของคนทั้งหลายนี้เย่หยวนได้เทสุราลงจอกให้แก่หวู่ซ่ง

เมื่อสุรานี้มันถูกเทออกมา กลิ่นของมันก็ยิ่งหอมนวลยิ่งกว่าตอนอยู่ในขวด!

หวู่ซ่งได้แต่มองดูเย่หยวนด้วยความตื่นตะลึง เขานั้นได้แต่มองดูหยาดน้ำอันสวยงามที่ค่อยๆ ไหลรินลงจอกนี้

มันมีเพียงแค่เขาที่จะดื่มสุรานี้ได้!

“พี่หวู่ ลองดื่มสุราของเย่หยวนผู้นี้ดูหน่อยสิ” เย่หยวนทำท่าเชิญด้วยรอยยิ้ม

หวู่ซ่งที่ได้ยินก็กลืนน้ำลายลงอึกใหญ่ รู้สึกถึงความหิวกระหายในท้องไส้อย่างไม่อาจควบคุมได้

“นี่มัน… เช่นนั้นหวู่ผู้นี้ขอไม่เกรงใจแล้ว!”

หวู่ซ่งยกจอกนั้นขึ้นพร้อมดมกลิ่นของมันดูในระยะใกล้จนแทบจะล้มตัวลงนอน

หอมเกินไปแล้ว!

เขานั้นดื่มสุราเหล้ามากมายแต่ยังไม่เคยพบเจอสุราใดที่หอมหวนได้มากมายถึงปานนี้

คนทั้งหลายนั้นได้แต่มองดูหวู่ซ่งอย่างอิจฉาพร้อมน้ำลายที่ไหลลงนองพื้น

แต่ตอนนี้มันเป็นทางหวู่ซ่งเองที่ไม่กล้าที่จะดื่มหลังมันขึ้นมาถึงปากของตนแล้ว

ที่ด้านข้างหนิงเทียนปิงจึงได้กล่าวขึ้นด้วยท่าทางอิจฉา “ชิๆ สาดตะวันโอบแม้แต่นายท่านยังห้ามข้าดื่มเป็นเดือน เจ้าหนุ่ม เจ้านี่โชคดีจริงๆ!”

เย่หยวนจึงหันมาตวาดว่าทันที “เจ้าหมูนี่ เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้หรือว่าเจ้าแอบดื่มมันไปมากเท่าใด ยังจะมีหน้ามาวางท่าว่าไม่ได้ดื่มอีก? คิดว่าข้าจะไม่กล้ากระทืบเจ้าตรงนี้หรือ?”

หนิงเทียนปิงที่ได้ยินก็แสดงสีหน้าท่าทางละอายออกมา “มันเพราะว่าอากาศหนาวนี้มิใช่หรือนายท่าน? หึๆ เพราะสุรานี้ของนายท่านยิ่งดื่มมันก็ยิ่งอร่อย! รุนแรงกว่าสุราดั่งฝันหลายเท่านัก!”

เย่หยวนได้แต่ส่ายหัวออกมาและไม่คิดจะสนใจหนิงเทียนปิงอีก

เมื่อมาถึงดินแดนอันหนาวเย็นเยือกนี้ ในเวลาครึ่งปีมานี้เย่หยวนจึงได้ใช้เวลาส่วนมากสืบหาข้อมูลและเวลาที่เหลือมาปรุงสุราสาดตะวันโอบนี้

แม้ว่าเย่หยวนจะไม่รู้สึกทรมานกับอากาศหนาวเย็นใดๆ แต่สุดท้ายมันก็ยังไม่อาจจะรู้สึกสบายได้ท่ามกลางอากาศเช่นนี้

เมื่อได้ดื่มสุรานี้ลงไปแล้วมันก็จะช่วยในเรื่องนั้นได้อย่างดี

“พี่หวู่ มันมิใช่ว่าจี้ผู้นี้ขี้เหนียวใดๆ แต่ท่านคงดื่มมันได้แค่จอกเดียวเท่านั้น มากกว่านี้ท่านจะได้เป็นลบสลบไป” เย่หยวนบอก

หวู่ซ่งยิ้มออกมาเมื่อได้ยิน “น้องจี้ก็จะดูถูกหวู่ผู้นี้ไปแล้ว หวู่ผู้นี้ดื่มสุราแรงๆ นับพันจอกยังไหว ขนาดสุราเพลิงคลั่งนี้ข้าก็ยังดื่มมันหมดไปได้ถึงห้าไห”

พูดจบเขาก็ยกสุราในมือลงดื่มไปจนหมดในอึกเดียว

ดื่มหมดหวู่ซ่งก็แสดงสีหน้าท่าทางประหลาดออกมาทันที

เมื่อจางถูได้เห็นเขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ฮ่าๆ… ข้าบอกว่าอย่างไรเล่า? สาดตะวันโอบบ้าบอใด?! เทียบกับสุรา…”

“สุราดี!”

จางถูยังพูดไม่ทันจบเขาก็ถูกขัดขึ้นก่อนด้วยคำพูดสุดหนักแน่นของหวู่ซ่ง

“สุราดี! สุราดี! สุราดี! ของโคตรอร่อยเลย!”

หวู่ซ่งกล่าวคำพูดนี้ออกมาติดๆ กันด้วยท่าทางมึนๆ

จางถูที่เห็นจึงได้แต่ยืนนิ่ง เจ้าปล่อยให้ข้าพูดจบมันจะตายไหม?

แต่คนอื่นๆ นั้นไม่อาจทนรอได้อีกต่อไปรีบถามหวู่ซ่งขึ้นมาทันที “พี่ชาย มันเป็นอย่างไรบ้าง?”

“ใช่ รีบเล่ามาเร็ว!”

“ชิๆ ข้าล่ะอยากจะดื่มบ้างจริงๆ!”

สภาพของหวู่ซ่งในเวลานี้ดวงตาทั้งสองมันเริ่มปรือๆ ส่ายหัวไปมาพยายามตั้งสติให้ตื่นไว้

เมื่อทุกผู้คนได้เห็นเช่นนั้นพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะเงียบปากลง

สุรานี้… แรงปานนั้น?

“ข้า… ข้าบอกไม่ถูก ไม่ว่าอย่างไรมันก็โคตรอร่อย!” หวู่ซ่งกล่าวขึ้นด้วยเสียงส่ายๆ

จางถูนั้นย่อมจะไม่ยอมแพ้และยิ้มตอบกลับไป “อร่อยแล้วมันทำไมเล่า? สุราเพลิงคลั่งของข้านั้นมันมีฤทธิ์แก้หนาว ดื่มเข้าไปหนึ่งไหแล้วจะไม่ต้องใช้ปราณเทวะกันความหนาวไปอีกสามวัน! ไม่ว่าเจ้าจะมีสุราที่หอมหวนปานใดมันก็ไม่มีทางเทียบสุราเพลิงคลั่งของข้าได้!”

พูดไปเขาก็แสดงสีหน้าท่าทางภาคภูมิออกมา

เพราะสิ่งสำคัญที่สุดของสุราเพลิงคลั่งนี้มันมิใช่ความอร่อยหอมหวน แต่เป็นเรื่องช่วยสร้างความอบอุ่น!

ในแดนที่หนาวเหน็บเช่นนี้ มันย่อมจะเป็นสิ่งที่มีประโยชน์อย่างมาก

ส่วนเรื่องความอร่อยใดๆ นั้นมันเป็นแค่เรื่องรอง

แต่เขายังพูดไม่ทันขาดคำทางหวู่ซ่งก็พรวดลุกขึ้นยืนแกะเสื้อนอกตนออกทิ้งพร้อมตะโกนลั่น “ร้อน! ร้อนโว้ย!”

……………………

“จืดชืดไร้รสชาติ? กับพ่อเจ้าสิ!”

เมื่อเถ้าแก่ได้ยินคำของเย่หยวนแน่นอนว่าเขาจะต้องโกรธเคืองจนกระทืบเท้าออกมา

เมื่อคนอื่นๆ ได้เห็นเช่นนั้นพวกเขาต่างก็รู้สึกขันอยู่ในใจ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะสงสารและสมเพชเย่หยวน

เถ้าแก่โรงเตี๊ยมนี้มีนามว่าจางถู ในวัยหนุ่มเขานั้นฆ่าสังหารผู้คนก่อการชั่วร้ายไว้มากมาย ตัวเขานั้นมีกำลังถึงอาณาจักรเทพถ่องแท้ขั้นกลางและไม่ใช่คนที่ดีงามใดๆ

จนมาถึงวันหนึ่งที่เขาได้สูตรของสุราเพลิงคลั่งนี้มาที่ทำให้เขาได้เริ่มหันมาเปิดโรงเตี๊ยมเพลิงคลั่งนี้

เถ้าแก่ผู้นั้นพุ่งตัวเข้ามาหาเย่หยวนอย่างรวดเร็วพร้อมยิ้มขึ้นอย่างเย็นเยือก “เด็กน้อย ข้าจางถูขายสุราเพลิงคลั่งในชุมเก้าสายนี้มานับหมื่นๆ ปีแต่ยังไม่เคยจะได้ยินผู้ใดว่ากล่าวว่ามันจืดชืดไร้รสชาติมาก่อน! หากวันนี้เจ้าไม่คิดอธิบายข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าเดินออกจากประตูไปแน่!”

ทุกผู้คนต่างมองมายังเย่หยวนด้วยสายตาสมเพช เหล่าคนในชุมเก้าสายนี้ต่างรู้กันดีว่าจางถูนั้นมิใช่คนที่จะมาเล่นหัวด้วยได้

ไม่เช่นนั้นแล้วสุราเพลิงคลั่งที่โด่งดังเช่นนี้มันย่อมจะต้องมีคนมาคิดทำการแย่งชิงสูตรใดๆ ไปบ้างแล้ว

เพียงแค่ว่ามันไม่มีใครกล้าคิด!

หวู่หลิงที่ได้เห็นจึงกล่าวขึ้นทันที “ไงล่ะ? ทำให้คนมากมายไม่พอใจแล้วใช่ไหม? ทำไมไม่ลองพูดมาหน่อยเล่าว่าจะจัดการเรื่องราวนี้อย่างไร?”

หวู่ซ่งนั้นหันไปมองดุน้องสาวก่อนจะหันไปหาจางถูด้วยรอยยิ้ม “เถ้าแก่ถู น้องชายข้านี้เขาเพิ่งมาถึงและไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวใด อย่าได้ไปสนใจคนอย่างเขาเลย”

แต่จางถูกลับหัวเราะขึ้น “แล้วเจ้าเป็นใครเล่า? มีสิทธิใดมาห้ามไม่ให้ข้าสนใจมัน? วันนี้ข้าจะสนใจมัน! หากคำพูดของมันนี้ถูกคนผู้อื่นได้ยินเข้าแล้วโรงเตี๊ยมข้าจะยังทำกิจการต่อได้อย่างไร?”

พูดจบเขาก็หันมาหาเย่หยวนทันที “เด็กน้อย เจ้าอย่าได้ว่าข้าไม่ให้โอกาส ตราบเท่าที่เจ้านำเอาสุราที่เหนือล้ำกว่าสุราเพลิงคลั่งออกมาได้ เรื่องนี้ข้าจะไม่ถือสาและก้มหัวลงขอโทษเจ้าด้วย แต่หากเจ้าไม่มีแล้ว… หึๆ…”

จางถูนั้นแสดงท่าทางอย่างมีเรื่องเต็มแก่ ดูท่าเขาคงไม่ได้คิดจะจบเรื่องดีๆ แน่

หวู่ซ่งได้แต่หันไปหาเย่หยวนและกระซิบบอก “ขอโทษ! น้องจี้รีบขอโทษเถ้าแก่ถูเร็ว!”

เย่หยวนได้แต่นั่งนิ่งไม่สนใจจางถูใดๆ เขาหันไปมองหวู่ซ่งด้วยรอยยิ้ม “นั่งเถอะพี่หวู่ เพื่อตอบแทนที่ท่านปกป้องจี้คนนี้มาถึงเวลานี้ จี้คนนี้จะได้นำเอาสุราแก้วหนึ่งให้ท่านได้ลอง”

พูดจบเย่หยวนก็ได้นำเอาขวดสุราน้อยๆ ออกมา

เย่หยวนเปิดฝาของมันออกส่งกลิ่นหอมฟุ้งกระจายไปทั้งโรงเตี๊ยมในพริบตา

“หอม! เหล้าดี!”

“พระเจ้าช่วย สุรานี้มันหอมกว่าสุราเพลิงคลั่งนับสิบเท่าเลย!”

“นี่มันสุราใดกัน? เฒ่าคนนี้ไม่เคยจะได้กลิ่นสุราใดหอมล้ำเท่านี้มาก่อนเลย!”

เมื่อเปิดฝาออกมามันก็เกิดเสียงโห่ร้องขึ้นในทุกมุมของโรงเตี๊ยม ตอนนี้เหล่าผู้คนมากมายเริ่มแสดงท่าทางมึนเมาออกมาเพราะเพียงแค่ได้กลิ่นของสุรานี้

จางถูได้แต่ทำหน้าเหยเกออกมา ไม่นึกไม่ฝันว่าเย่หยวนจะหยิบเอาสุราออกมาจริงๆ

หากนับเพียงแค่กลิ่นนี้แล้ว สุราในมือเย่หยวนมันก็คงเหนือล้ำกว่าสุราเพลิงคลั่งไปหลายเท่าตัว!

“อ่า… หอมจัง! ท่านพี่ ข้าอยากดื่มมัน!”

ที่ด้านข้างหวู่หลิงเริ่มแสดงท่าทางราวคนเมาออกมาก่อนจะค่อยๆ พูดไปส่ายหัวไปมา

ตอนนี้น้ำลายมันได้ไหลลงมาที่มุมปากของนางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เพราะกลิ่นของสุรานี้มันหอมถึงขนาดนั้น!

เพียะ!

หวู่หลิงพยายามยื่นมือออกไปหาขวดสุรานั้นแต่กลับถูกเย่หยวนตบมือเข้า

“โอ้ย! เจ้าตีข้าทำไมเนี่ย!”

การตบนี้มันปลุกสติของหวู่หลิงกลับมาทันที

แต่ในเวลานี้นางกลับมองดูเย่หยวนด้วยความตื่นตะลึงราวกับได้เห็นผี

เจ้าหมอนี่มันมีสุราดีติดตัวจริงๆ!

“สุรานี้ข้าให้แค่พี่หวู่ซ่งดื่ม เจ้าไม่มีสิทธิ!” เย่หยวนบอก

“ชิ ขี้งกแท้! ไม่ดื่มก็ไม่ดื่มสิ ใครอยากได้เล่า!”

แม้ว่านางจะพูดเช่นนั้นออกมาแต่ดวงตาทั้งสองก็ไม่อาจละจากขวดสุรานั้นได้พร้อมด้วยน้ำลายที่ค่อยๆ ไหลลงมุมปากมาอีกครั้ง

ในทุ่งราบสุดอุดรนี้แม้แต่หญิงสาวก็ยังชอบดื่มเป็นเรื่องธรรมชาติ

มันมิใช่แค่หวู่หลิง แต่ทุกผู้คนที่อยู่ในโรงเตี๊ยมเวลานี้ต่างจ้องมองดูขวดสุราในมือเย่หยวนพร้อมกลืนน้ำลายอึกใหญ่

ภายใต้สายตาของคนทั้งหลายนี้เย่หยวนได้เทสุราลงจอกให้แก่หวู่ซ่ง

เมื่อสุรานี้มันถูกเทออกมา กลิ่นของมันก็ยิ่งหอมนวลยิ่งกว่าตอนอยู่ในขวด!

หวู่ซ่งได้แต่มองดูเย่หยวนด้วยความตื่นตะลึง เขานั้นได้แต่มองดูหยาดน้ำอันสวยงามที่ค่อยๆ ไหลรินลงจอกนี้

มันมีเพียงแค่เขาที่จะดื่มสุรานี้ได้!

“พี่หวู่ ลองดื่มสุราของเย่หยวนผู้นี้ดูหน่อยสิ” เย่หยวนทำท่าเชิญด้วยรอยยิ้ม

หวู่ซ่งที่ได้ยินก็กลืนน้ำลายลงอึกใหญ่ รู้สึกถึงความหิวกระหายในท้องไส้อย่างไม่อาจควบคุมได้

“นี่มัน… เช่นนั้นหวู่ผู้นี้ขอไม่เกรงใจแล้ว!”

หวู่ซ่งยกจอกนั้นขึ้นพร้อมดมกลิ่นของมันดูในระยะใกล้จนแทบจะล้มตัวลงนอน

หอมเกินไปแล้ว!

เขานั้นดื่มสุราเหล้ามากมายแต่ยังไม่เคยพบเจอสุราใดที่หอมหวนได้มากมายถึงปานนี้

คนทั้งหลายนั้นได้แต่มองดูหวู่ซ่งอย่างอิจฉาพร้อมน้ำลายที่ไหลลงนองพื้น

แต่ตอนนี้มันเป็นทางหวู่ซ่งเองที่ไม่กล้าที่จะดื่มหลังมันขึ้นมาถึงปากของตนแล้ว

ที่ด้านข้างหนิงเทียนปิงจึงได้กล่าวขึ้นด้วยท่าทางอิจฉา “ชิๆ สาดตะวันโอบแม้แต่นายท่านยังห้ามข้าดื่มเป็นเดือน เจ้าหนุ่ม เจ้านี่โชคดีจริงๆ!”

เย่หยวนจึงหันมาตวาดว่าทันที “เจ้าหมูนี่ เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้หรือว่าเจ้าแอบดื่มมันไปมากเท่าใด ยังจะมีหน้ามาวางท่าว่าไม่ได้ดื่มอีก? คิดว่าข้าจะไม่กล้ากระทืบเจ้าตรงนี้หรือ?”

หนิงเทียนปิงที่ได้ยินก็แสดงสีหน้าท่าทางละอายออกมา “มันเพราะว่าอากาศหนาวนี้มิใช่หรือนายท่าน? หึๆ เพราะสุรานี้ของนายท่านยิ่งดื่มมันก็ยิ่งอร่อย! รุนแรงกว่าสุราดั่งฝันหลายเท่านัก!”

เย่หยวนได้แต่ส่ายหัวออกมาและไม่คิดจะสนใจหนิงเทียนปิงอีก

เมื่อมาถึงดินแดนอันหนาวเย็นเยือกนี้ ในเวลาครึ่งปีมานี้เย่หยวนจึงได้ใช้เวลาส่วนมากสืบหาข้อมูลและเวลาที่เหลือมาปรุงสุราสาดตะวันโอบนี้

แม้ว่าเย่หยวนจะไม่รู้สึกทรมานกับอากาศหนาวเย็นใดๆ แต่สุดท้ายมันก็ยังไม่อาจจะรู้สึกสบายได้ท่ามกลางอากาศเช่นนี้

เมื่อได้ดื่มสุรานี้ลงไปแล้วมันก็จะช่วยในเรื่องนั้นได้อย่างดี

“พี่หวู่ มันมิใช่ว่าจี้ผู้นี้ขี้เหนียวใดๆ แต่ท่านคงดื่มมันได้แค่จอกเดียวเท่านั้น มากกว่านี้ท่านจะได้เป็นลบสลบไป” เย่หยวนบอก

หวู่ซ่งยิ้มออกมาเมื่อได้ยิน “น้องจี้ก็จะดูถูกหวู่ผู้นี้ไปแล้ว หวู่ผู้นี้ดื่มสุราแรงๆ นับพันจอกยังไหว ขนาดสุราเพลิงคลั่งนี้ข้าก็ยังดื่มมันหมดไปได้ถึงห้าไห”

พูดจบเขาก็ยกสุราในมือลงดื่มไปจนหมดในอึกเดียว

ดื่มหมดหวู่ซ่งก็แสดงสีหน้าท่าทางประหลาดออกมาทันที

เมื่อจางถูได้เห็นเขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ฮ่าๆ… ข้าบอกว่าอย่างไรเล่า? สาดตะวันโอบบ้าบอใด?! เทียบกับสุรา…”

“สุราดี!”

จางถูยังพูดไม่ทันจบเขาก็ถูกขัดขึ้นก่อนด้วยคำพูดสุดหนักแน่นของหวู่ซ่ง

“สุราดี! สุราดี! สุราดี! ของโคตรอร่อยเลย!”

หวู่ซ่งกล่าวคำพูดนี้ออกมาติดๆ กันด้วยท่าทางมึนๆ

จางถูที่เห็นจึงได้แต่ยืนนิ่ง เจ้าปล่อยให้ข้าพูดจบมันจะตายไหม?

แต่คนอื่นๆ นั้นไม่อาจทนรอได้อีกต่อไปรีบถามหวู่ซ่งขึ้นมาทันที “พี่ชาย มันเป็นอย่างไรบ้าง?”

“ใช่ รีบเล่ามาเร็ว!”

“ชิๆ ข้าล่ะอยากจะดื่มบ้างจริงๆ!”

สภาพของหวู่ซ่งในเวลานี้ดวงตาทั้งสองมันเริ่มปรือๆ ส่ายหัวไปมาพยายามตั้งสติให้ตื่นไว้

เมื่อทุกผู้คนได้เห็นเช่นนั้นพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะเงียบปากลง

สุรานี้… แรงปานนั้น?

“ข้า… ข้าบอกไม่ถูก ไม่ว่าอย่างไรมันก็โคตรอร่อย!” หวู่ซ่งกล่าวขึ้นด้วยเสียงส่ายๆ

จางถูนั้นย่อมจะไม่ยอมแพ้และยิ้มตอบกลับไป “อร่อยแล้วมันทำไมเล่า? สุราเพลิงคลั่งของข้านั้นมันมีฤทธิ์แก้หนาว ดื่มเข้าไปหนึ่งไหแล้วจะไม่ต้องใช้ปราณเทวะกันความหนาวไปอีกสามวัน! ไม่ว่าเจ้าจะมีสุราที่หอมหวนปานใดมันก็ไม่มีทางเทียบสุราเพลิงคลั่งของข้าได้!”

พูดไปเขาก็แสดงสีหน้าท่าทางภาคภูมิออกมา

เพราะสิ่งสำคัญที่สุดของสุราเพลิงคลั่งนี้มันมิใช่ความอร่อยหอมหวน แต่เป็นเรื่องช่วยสร้างความอบอุ่น!

ในแดนที่หนาวเหน็บเช่นนี้ มันย่อมจะเป็นสิ่งที่มีประโยชน์อย่างมาก

ส่วนเรื่องความอร่อยใดๆ นั้นมันเป็นแค่เรื่องรอง

แต่เขายังพูดไม่ทันขาดคำทางหวู่ซ่งก็พรวดลุกขึ้นยืนแกะเสื้อนอกตนออกทิ้งพร้อมตะโกนลั่น “ร้อน! ร้อนโว้ย!”

……………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2069 สาดตะวันโอบ

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2069 สาดตะวันโอบ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“จืดชืดไร้รสชาติ? กับพ่อเจ้าสิ!”

เมื่อเถ้าแก่ได้ยินคำของเย่หยวนแน่นอนว่าเขาจะต้องโกรธเคืองจนกระทืบเท้าออกมา

เมื่อคนอื่นๆ ได้เห็นเช่นนั้นพวกเขาต่างก็รู้สึกขันอยู่ในใจ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะสงสารและสมเพชเย่หยวน

เถ้าแก่โรงเตี๊ยมนี้มีนามว่าจางถู ในวัยหนุ่มเขานั้นฆ่าสังหารผู้คนก่อการชั่วร้ายไว้มากมาย ตัวเขานั้นมีกำลังถึงอาณาจักรเทพถ่องแท้ขั้นกลางและไม่ใช่คนที่ดีงามใดๆ

จนมาถึงวันหนึ่งที่เขาได้สูตรของสุราเพลิงคลั่งนี้มาที่ทำให้เขาได้เริ่มหันมาเปิดโรงเตี๊ยมเพลิงคลั่งนี้

เถ้าแก่ผู้นั้นพุ่งตัวเข้ามาหาเย่หยวนอย่างรวดเร็วพร้อมยิ้มขึ้นอย่างเย็นเยือก “เด็กน้อย ข้าจางถูขายสุราเพลิงคลั่งในชุมเก้าสายนี้มานับหมื่นๆ ปีแต่ยังไม่เคยจะได้ยินผู้ใดว่ากล่าวว่ามันจืดชืดไร้รสชาติมาก่อน! หากวันนี้เจ้าไม่คิดอธิบายข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าเดินออกจากประตูไปแน่!”

ทุกผู้คนต่างมองมายังเย่หยวนด้วยสายตาสมเพช เหล่าคนในชุมเก้าสายนี้ต่างรู้กันดีว่าจางถูนั้นมิใช่คนที่จะมาเล่นหัวด้วยได้

ไม่เช่นนั้นแล้วสุราเพลิงคลั่งที่โด่งดังเช่นนี้มันย่อมจะต้องมีคนมาคิดทำการแย่งชิงสูตรใดๆ ไปบ้างแล้ว

เพียงแค่ว่ามันไม่มีใครกล้าคิด!

หวู่หลิงที่ได้เห็นจึงกล่าวขึ้นทันที “ไงล่ะ? ทำให้คนมากมายไม่พอใจแล้วใช่ไหม? ทำไมไม่ลองพูดมาหน่อยเล่าว่าจะจัดการเรื่องราวนี้อย่างไร?”

หวู่ซ่งนั้นหันไปมองดุน้องสาวก่อนจะหันไปหาจางถูด้วยรอยยิ้ม “เถ้าแก่ถู น้องชายข้านี้เขาเพิ่งมาถึงและไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวใด อย่าได้ไปสนใจคนอย่างเขาเลย”

แต่จางถูกลับหัวเราะขึ้น “แล้วเจ้าเป็นใครเล่า? มีสิทธิใดมาห้ามไม่ให้ข้าสนใจมัน? วันนี้ข้าจะสนใจมัน! หากคำพูดของมันนี้ถูกคนผู้อื่นได้ยินเข้าแล้วโรงเตี๊ยมข้าจะยังทำกิจการต่อได้อย่างไร?”

พูดจบเขาก็หันมาหาเย่หยวนทันที “เด็กน้อย เจ้าอย่าได้ว่าข้าไม่ให้โอกาส ตราบเท่าที่เจ้านำเอาสุราที่เหนือล้ำกว่าสุราเพลิงคลั่งออกมาได้ เรื่องนี้ข้าจะไม่ถือสาและก้มหัวลงขอโทษเจ้าด้วย แต่หากเจ้าไม่มีแล้ว… หึๆ…”

จางถูนั้นแสดงท่าทางอย่างมีเรื่องเต็มแก่ ดูท่าเขาคงไม่ได้คิดจะจบเรื่องดีๆ แน่

หวู่ซ่งได้แต่หันไปหาเย่หยวนและกระซิบบอก “ขอโทษ! น้องจี้รีบขอโทษเถ้าแก่ถูเร็ว!”

เย่หยวนได้แต่นั่งนิ่งไม่สนใจจางถูใดๆ เขาหันไปมองหวู่ซ่งด้วยรอยยิ้ม “นั่งเถอะพี่หวู่ เพื่อตอบแทนที่ท่านปกป้องจี้คนนี้มาถึงเวลานี้ จี้คนนี้จะได้นำเอาสุราแก้วหนึ่งให้ท่านได้ลอง”

พูดจบเย่หยวนก็ได้นำเอาขวดสุราน้อยๆ ออกมา

เย่หยวนเปิดฝาของมันออกส่งกลิ่นหอมฟุ้งกระจายไปทั้งโรงเตี๊ยมในพริบตา

“หอม! เหล้าดี!”

“พระเจ้าช่วย สุรานี้มันหอมกว่าสุราเพลิงคลั่งนับสิบเท่าเลย!”

“นี่มันสุราใดกัน? เฒ่าคนนี้ไม่เคยจะได้กลิ่นสุราใดหอมล้ำเท่านี้มาก่อนเลย!”

เมื่อเปิดฝาออกมามันก็เกิดเสียงโห่ร้องขึ้นในทุกมุมของโรงเตี๊ยม ตอนนี้เหล่าผู้คนมากมายเริ่มแสดงท่าทางมึนเมาออกมาเพราะเพียงแค่ได้กลิ่นของสุรานี้

จางถูได้แต่ทำหน้าเหยเกออกมา ไม่นึกไม่ฝันว่าเย่หยวนจะหยิบเอาสุราออกมาจริงๆ

หากนับเพียงแค่กลิ่นนี้แล้ว สุราในมือเย่หยวนมันก็คงเหนือล้ำกว่าสุราเพลิงคลั่งไปหลายเท่าตัว!

“อ่า… หอมจัง! ท่านพี่ ข้าอยากดื่มมัน!”

ที่ด้านข้างหวู่หลิงเริ่มแสดงท่าทางราวคนเมาออกมาก่อนจะค่อยๆ พูดไปส่ายหัวไปมา

ตอนนี้น้ำลายมันได้ไหลลงมาที่มุมปากของนางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เพราะกลิ่นของสุรานี้มันหอมถึงขนาดนั้น!

เพียะ!

หวู่หลิงพยายามยื่นมือออกไปหาขวดสุรานั้นแต่กลับถูกเย่หยวนตบมือเข้า

“โอ้ย! เจ้าตีข้าทำไมเนี่ย!”

การตบนี้มันปลุกสติของหวู่หลิงกลับมาทันที

แต่ในเวลานี้นางกลับมองดูเย่หยวนด้วยความตื่นตะลึงราวกับได้เห็นผี

เจ้าหมอนี่มันมีสุราดีติดตัวจริงๆ!

“สุรานี้ข้าให้แค่พี่หวู่ซ่งดื่ม เจ้าไม่มีสิทธิ!” เย่หยวนบอก

“ชิ ขี้งกแท้! ไม่ดื่มก็ไม่ดื่มสิ ใครอยากได้เล่า!”

แม้ว่านางจะพูดเช่นนั้นออกมาแต่ดวงตาทั้งสองก็ไม่อาจละจากขวดสุรานั้นได้พร้อมด้วยน้ำลายที่ค่อยๆ ไหลลงมุมปากมาอีกครั้ง

ในทุ่งราบสุดอุดรนี้แม้แต่หญิงสาวก็ยังชอบดื่มเป็นเรื่องธรรมชาติ

มันมิใช่แค่หวู่หลิง แต่ทุกผู้คนที่อยู่ในโรงเตี๊ยมเวลานี้ต่างจ้องมองดูขวดสุราในมือเย่หยวนพร้อมกลืนน้ำลายอึกใหญ่

ภายใต้สายตาของคนทั้งหลายนี้เย่หยวนได้เทสุราลงจอกให้แก่หวู่ซ่ง

เมื่อสุรานี้มันถูกเทออกมา กลิ่นของมันก็ยิ่งหอมนวลยิ่งกว่าตอนอยู่ในขวด!

หวู่ซ่งได้แต่มองดูเย่หยวนด้วยความตื่นตะลึง เขานั้นได้แต่มองดูหยาดน้ำอันสวยงามที่ค่อยๆ ไหลรินลงจอกนี้

มันมีเพียงแค่เขาที่จะดื่มสุรานี้ได้!

“พี่หวู่ ลองดื่มสุราของเย่หยวนผู้นี้ดูหน่อยสิ” เย่หยวนทำท่าเชิญด้วยรอยยิ้ม

หวู่ซ่งที่ได้ยินก็กลืนน้ำลายลงอึกใหญ่ รู้สึกถึงความหิวกระหายในท้องไส้อย่างไม่อาจควบคุมได้

“นี่มัน… เช่นนั้นหวู่ผู้นี้ขอไม่เกรงใจแล้ว!”

หวู่ซ่งยกจอกนั้นขึ้นพร้อมดมกลิ่นของมันดูในระยะใกล้จนแทบจะล้มตัวลงนอน

หอมเกินไปแล้ว!

เขานั้นดื่มสุราเหล้ามากมายแต่ยังไม่เคยพบเจอสุราใดที่หอมหวนได้มากมายถึงปานนี้

คนทั้งหลายนั้นได้แต่มองดูหวู่ซ่งอย่างอิจฉาพร้อมน้ำลายที่ไหลลงนองพื้น

แต่ตอนนี้มันเป็นทางหวู่ซ่งเองที่ไม่กล้าที่จะดื่มหลังมันขึ้นมาถึงปากของตนแล้ว

ที่ด้านข้างหนิงเทียนปิงจึงได้กล่าวขึ้นด้วยท่าทางอิจฉา “ชิๆ สาดตะวันโอบแม้แต่นายท่านยังห้ามข้าดื่มเป็นเดือน เจ้าหนุ่ม เจ้านี่โชคดีจริงๆ!”

เย่หยวนจึงหันมาตวาดว่าทันที “เจ้าหมูนี่ เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้หรือว่าเจ้าแอบดื่มมันไปมากเท่าใด ยังจะมีหน้ามาวางท่าว่าไม่ได้ดื่มอีก? คิดว่าข้าจะไม่กล้ากระทืบเจ้าตรงนี้หรือ?”

หนิงเทียนปิงที่ได้ยินก็แสดงสีหน้าท่าทางละอายออกมา “มันเพราะว่าอากาศหนาวนี้มิใช่หรือนายท่าน? หึๆ เพราะสุรานี้ของนายท่านยิ่งดื่มมันก็ยิ่งอร่อย! รุนแรงกว่าสุราดั่งฝันหลายเท่านัก!”

เย่หยวนได้แต่ส่ายหัวออกมาและไม่คิดจะสนใจหนิงเทียนปิงอีก

เมื่อมาถึงดินแดนอันหนาวเย็นเยือกนี้ ในเวลาครึ่งปีมานี้เย่หยวนจึงได้ใช้เวลาส่วนมากสืบหาข้อมูลและเวลาที่เหลือมาปรุงสุราสาดตะวันโอบนี้

แม้ว่าเย่หยวนจะไม่รู้สึกทรมานกับอากาศหนาวเย็นใดๆ แต่สุดท้ายมันก็ยังไม่อาจจะรู้สึกสบายได้ท่ามกลางอากาศเช่นนี้

เมื่อได้ดื่มสุรานี้ลงไปแล้วมันก็จะช่วยในเรื่องนั้นได้อย่างดี

“พี่หวู่ มันมิใช่ว่าจี้ผู้นี้ขี้เหนียวใดๆ แต่ท่านคงดื่มมันได้แค่จอกเดียวเท่านั้น มากกว่านี้ท่านจะได้เป็นลบสลบไป” เย่หยวนบอก

หวู่ซ่งยิ้มออกมาเมื่อได้ยิน “น้องจี้ก็จะดูถูกหวู่ผู้นี้ไปแล้ว หวู่ผู้นี้ดื่มสุราแรงๆ นับพันจอกยังไหว ขนาดสุราเพลิงคลั่งนี้ข้าก็ยังดื่มมันหมดไปได้ถึงห้าไห”

พูดจบเขาก็ยกสุราในมือลงดื่มไปจนหมดในอึกเดียว

ดื่มหมดหวู่ซ่งก็แสดงสีหน้าท่าทางประหลาดออกมาทันที

เมื่อจางถูได้เห็นเขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ฮ่าๆ… ข้าบอกว่าอย่างไรเล่า? สาดตะวันโอบบ้าบอใด?! เทียบกับสุรา…”

“สุราดี!”

จางถูยังพูดไม่ทันจบเขาก็ถูกขัดขึ้นก่อนด้วยคำพูดสุดหนักแน่นของหวู่ซ่ง

“สุราดี! สุราดี! สุราดี! ของโคตรอร่อยเลย!”

หวู่ซ่งกล่าวคำพูดนี้ออกมาติดๆ กันด้วยท่าทางมึนๆ

จางถูที่เห็นจึงได้แต่ยืนนิ่ง เจ้าปล่อยให้ข้าพูดจบมันจะตายไหม?

แต่คนอื่นๆ นั้นไม่อาจทนรอได้อีกต่อไปรีบถามหวู่ซ่งขึ้นมาทันที “พี่ชาย มันเป็นอย่างไรบ้าง?”

“ใช่ รีบเล่ามาเร็ว!”

“ชิๆ ข้าล่ะอยากจะดื่มบ้างจริงๆ!”

สภาพของหวู่ซ่งในเวลานี้ดวงตาทั้งสองมันเริ่มปรือๆ ส่ายหัวไปมาพยายามตั้งสติให้ตื่นไว้

เมื่อทุกผู้คนได้เห็นเช่นนั้นพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะเงียบปากลง

สุรานี้… แรงปานนั้น?

“ข้า… ข้าบอกไม่ถูก ไม่ว่าอย่างไรมันก็โคตรอร่อย!” หวู่ซ่งกล่าวขึ้นด้วยเสียงส่ายๆ

จางถูนั้นย่อมจะไม่ยอมแพ้และยิ้มตอบกลับไป “อร่อยแล้วมันทำไมเล่า? สุราเพลิงคลั่งของข้านั้นมันมีฤทธิ์แก้หนาว ดื่มเข้าไปหนึ่งไหแล้วจะไม่ต้องใช้ปราณเทวะกันความหนาวไปอีกสามวัน! ไม่ว่าเจ้าจะมีสุราที่หอมหวนปานใดมันก็ไม่มีทางเทียบสุราเพลิงคลั่งของข้าได้!”

พูดไปเขาก็แสดงสีหน้าท่าทางภาคภูมิออกมา

เพราะสิ่งสำคัญที่สุดของสุราเพลิงคลั่งนี้มันมิใช่ความอร่อยหอมหวน แต่เป็นเรื่องช่วยสร้างความอบอุ่น!

ในแดนที่หนาวเหน็บเช่นนี้ มันย่อมจะเป็นสิ่งที่มีประโยชน์อย่างมาก

ส่วนเรื่องความอร่อยใดๆ นั้นมันเป็นแค่เรื่องรอง

แต่เขายังพูดไม่ทันขาดคำทางหวู่ซ่งก็พรวดลุกขึ้นยืนแกะเสื้อนอกตนออกทิ้งพร้อมตะโกนลั่น “ร้อน! ร้อนโว้ย!”

……………………

“จืดชืดไร้รสชาติ? กับพ่อเจ้าสิ!”

เมื่อเถ้าแก่ได้ยินคำของเย่หยวนแน่นอนว่าเขาจะต้องโกรธเคืองจนกระทืบเท้าออกมา

เมื่อคนอื่นๆ ได้เห็นเช่นนั้นพวกเขาต่างก็รู้สึกขันอยู่ในใจ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะสงสารและสมเพชเย่หยวน

เถ้าแก่โรงเตี๊ยมนี้มีนามว่าจางถู ในวัยหนุ่มเขานั้นฆ่าสังหารผู้คนก่อการชั่วร้ายไว้มากมาย ตัวเขานั้นมีกำลังถึงอาณาจักรเทพถ่องแท้ขั้นกลางและไม่ใช่คนที่ดีงามใดๆ

จนมาถึงวันหนึ่งที่เขาได้สูตรของสุราเพลิงคลั่งนี้มาที่ทำให้เขาได้เริ่มหันมาเปิดโรงเตี๊ยมเพลิงคลั่งนี้

เถ้าแก่ผู้นั้นพุ่งตัวเข้ามาหาเย่หยวนอย่างรวดเร็วพร้อมยิ้มขึ้นอย่างเย็นเยือก “เด็กน้อย ข้าจางถูขายสุราเพลิงคลั่งในชุมเก้าสายนี้มานับหมื่นๆ ปีแต่ยังไม่เคยจะได้ยินผู้ใดว่ากล่าวว่ามันจืดชืดไร้รสชาติมาก่อน! หากวันนี้เจ้าไม่คิดอธิบายข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าเดินออกจากประตูไปแน่!”

ทุกผู้คนต่างมองมายังเย่หยวนด้วยสายตาสมเพช เหล่าคนในชุมเก้าสายนี้ต่างรู้กันดีว่าจางถูนั้นมิใช่คนที่จะมาเล่นหัวด้วยได้

ไม่เช่นนั้นแล้วสุราเพลิงคลั่งที่โด่งดังเช่นนี้มันย่อมจะต้องมีคนมาคิดทำการแย่งชิงสูตรใดๆ ไปบ้างแล้ว

เพียงแค่ว่ามันไม่มีใครกล้าคิด!

หวู่หลิงที่ได้เห็นจึงกล่าวขึ้นทันที “ไงล่ะ? ทำให้คนมากมายไม่พอใจแล้วใช่ไหม? ทำไมไม่ลองพูดมาหน่อยเล่าว่าจะจัดการเรื่องราวนี้อย่างไร?”

หวู่ซ่งนั้นหันไปมองดุน้องสาวก่อนจะหันไปหาจางถูด้วยรอยยิ้ม “เถ้าแก่ถู น้องชายข้านี้เขาเพิ่งมาถึงและไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวใด อย่าได้ไปสนใจคนอย่างเขาเลย”

แต่จางถูกลับหัวเราะขึ้น “แล้วเจ้าเป็นใครเล่า? มีสิทธิใดมาห้ามไม่ให้ข้าสนใจมัน? วันนี้ข้าจะสนใจมัน! หากคำพูดของมันนี้ถูกคนผู้อื่นได้ยินเข้าแล้วโรงเตี๊ยมข้าจะยังทำกิจการต่อได้อย่างไร?”

พูดจบเขาก็หันมาหาเย่หยวนทันที “เด็กน้อย เจ้าอย่าได้ว่าข้าไม่ให้โอกาส ตราบเท่าที่เจ้านำเอาสุราที่เหนือล้ำกว่าสุราเพลิงคลั่งออกมาได้ เรื่องนี้ข้าจะไม่ถือสาและก้มหัวลงขอโทษเจ้าด้วย แต่หากเจ้าไม่มีแล้ว… หึๆ…”

จางถูนั้นแสดงท่าทางอย่างมีเรื่องเต็มแก่ ดูท่าเขาคงไม่ได้คิดจะจบเรื่องดีๆ แน่

หวู่ซ่งได้แต่หันไปหาเย่หยวนและกระซิบบอก “ขอโทษ! น้องจี้รีบขอโทษเถ้าแก่ถูเร็ว!”

เย่หยวนได้แต่นั่งนิ่งไม่สนใจจางถูใดๆ เขาหันไปมองหวู่ซ่งด้วยรอยยิ้ม “นั่งเถอะพี่หวู่ เพื่อตอบแทนที่ท่านปกป้องจี้คนนี้มาถึงเวลานี้ จี้คนนี้จะได้นำเอาสุราแก้วหนึ่งให้ท่านได้ลอง”

พูดจบเย่หยวนก็ได้นำเอาขวดสุราน้อยๆ ออกมา

เย่หยวนเปิดฝาของมันออกส่งกลิ่นหอมฟุ้งกระจายไปทั้งโรงเตี๊ยมในพริบตา

“หอม! เหล้าดี!”

“พระเจ้าช่วย สุรานี้มันหอมกว่าสุราเพลิงคลั่งนับสิบเท่าเลย!”

“นี่มันสุราใดกัน? เฒ่าคนนี้ไม่เคยจะได้กลิ่นสุราใดหอมล้ำเท่านี้มาก่อนเลย!”

เมื่อเปิดฝาออกมามันก็เกิดเสียงโห่ร้องขึ้นในทุกมุมของโรงเตี๊ยม ตอนนี้เหล่าผู้คนมากมายเริ่มแสดงท่าทางมึนเมาออกมาเพราะเพียงแค่ได้กลิ่นของสุรานี้

จางถูได้แต่ทำหน้าเหยเกออกมา ไม่นึกไม่ฝันว่าเย่หยวนจะหยิบเอาสุราออกมาจริงๆ

หากนับเพียงแค่กลิ่นนี้แล้ว สุราในมือเย่หยวนมันก็คงเหนือล้ำกว่าสุราเพลิงคลั่งไปหลายเท่าตัว!

“อ่า… หอมจัง! ท่านพี่ ข้าอยากดื่มมัน!”

ที่ด้านข้างหวู่หลิงเริ่มแสดงท่าทางราวคนเมาออกมาก่อนจะค่อยๆ พูดไปส่ายหัวไปมา

ตอนนี้น้ำลายมันได้ไหลลงมาที่มุมปากของนางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เพราะกลิ่นของสุรานี้มันหอมถึงขนาดนั้น!

เพียะ!

หวู่หลิงพยายามยื่นมือออกไปหาขวดสุรานั้นแต่กลับถูกเย่หยวนตบมือเข้า

“โอ้ย! เจ้าตีข้าทำไมเนี่ย!”

การตบนี้มันปลุกสติของหวู่หลิงกลับมาทันที

แต่ในเวลานี้นางกลับมองดูเย่หยวนด้วยความตื่นตะลึงราวกับได้เห็นผี

เจ้าหมอนี่มันมีสุราดีติดตัวจริงๆ!

“สุรานี้ข้าให้แค่พี่หวู่ซ่งดื่ม เจ้าไม่มีสิทธิ!” เย่หยวนบอก

“ชิ ขี้งกแท้! ไม่ดื่มก็ไม่ดื่มสิ ใครอยากได้เล่า!”

แม้ว่านางจะพูดเช่นนั้นออกมาแต่ดวงตาทั้งสองก็ไม่อาจละจากขวดสุรานั้นได้พร้อมด้วยน้ำลายที่ค่อยๆ ไหลลงมุมปากมาอีกครั้ง

ในทุ่งราบสุดอุดรนี้แม้แต่หญิงสาวก็ยังชอบดื่มเป็นเรื่องธรรมชาติ

มันมิใช่แค่หวู่หลิง แต่ทุกผู้คนที่อยู่ในโรงเตี๊ยมเวลานี้ต่างจ้องมองดูขวดสุราในมือเย่หยวนพร้อมกลืนน้ำลายอึกใหญ่

ภายใต้สายตาของคนทั้งหลายนี้เย่หยวนได้เทสุราลงจอกให้แก่หวู่ซ่ง

เมื่อสุรานี้มันถูกเทออกมา กลิ่นของมันก็ยิ่งหอมนวลยิ่งกว่าตอนอยู่ในขวด!

หวู่ซ่งได้แต่มองดูเย่หยวนด้วยความตื่นตะลึง เขานั้นได้แต่มองดูหยาดน้ำอันสวยงามที่ค่อยๆ ไหลรินลงจอกนี้

มันมีเพียงแค่เขาที่จะดื่มสุรานี้ได้!

“พี่หวู่ ลองดื่มสุราของเย่หยวนผู้นี้ดูหน่อยสิ” เย่หยวนทำท่าเชิญด้วยรอยยิ้ม

หวู่ซ่งที่ได้ยินก็กลืนน้ำลายลงอึกใหญ่ รู้สึกถึงความหิวกระหายในท้องไส้อย่างไม่อาจควบคุมได้

“นี่มัน… เช่นนั้นหวู่ผู้นี้ขอไม่เกรงใจแล้ว!”

หวู่ซ่งยกจอกนั้นขึ้นพร้อมดมกลิ่นของมันดูในระยะใกล้จนแทบจะล้มตัวลงนอน

หอมเกินไปแล้ว!

เขานั้นดื่มสุราเหล้ามากมายแต่ยังไม่เคยพบเจอสุราใดที่หอมหวนได้มากมายถึงปานนี้

คนทั้งหลายนั้นได้แต่มองดูหวู่ซ่งอย่างอิจฉาพร้อมน้ำลายที่ไหลลงนองพื้น

แต่ตอนนี้มันเป็นทางหวู่ซ่งเองที่ไม่กล้าที่จะดื่มหลังมันขึ้นมาถึงปากของตนแล้ว

ที่ด้านข้างหนิงเทียนปิงจึงได้กล่าวขึ้นด้วยท่าทางอิจฉา “ชิๆ สาดตะวันโอบแม้แต่นายท่านยังห้ามข้าดื่มเป็นเดือน เจ้าหนุ่ม เจ้านี่โชคดีจริงๆ!”

เย่หยวนจึงหันมาตวาดว่าทันที “เจ้าหมูนี่ เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้หรือว่าเจ้าแอบดื่มมันไปมากเท่าใด ยังจะมีหน้ามาวางท่าว่าไม่ได้ดื่มอีก? คิดว่าข้าจะไม่กล้ากระทืบเจ้าตรงนี้หรือ?”

หนิงเทียนปิงที่ได้ยินก็แสดงสีหน้าท่าทางละอายออกมา “มันเพราะว่าอากาศหนาวนี้มิใช่หรือนายท่าน? หึๆ เพราะสุรานี้ของนายท่านยิ่งดื่มมันก็ยิ่งอร่อย! รุนแรงกว่าสุราดั่งฝันหลายเท่านัก!”

เย่หยวนได้แต่ส่ายหัวออกมาและไม่คิดจะสนใจหนิงเทียนปิงอีก

เมื่อมาถึงดินแดนอันหนาวเย็นเยือกนี้ ในเวลาครึ่งปีมานี้เย่หยวนจึงได้ใช้เวลาส่วนมากสืบหาข้อมูลและเวลาที่เหลือมาปรุงสุราสาดตะวันโอบนี้

แม้ว่าเย่หยวนจะไม่รู้สึกทรมานกับอากาศหนาวเย็นใดๆ แต่สุดท้ายมันก็ยังไม่อาจจะรู้สึกสบายได้ท่ามกลางอากาศเช่นนี้

เมื่อได้ดื่มสุรานี้ลงไปแล้วมันก็จะช่วยในเรื่องนั้นได้อย่างดี

“พี่หวู่ มันมิใช่ว่าจี้ผู้นี้ขี้เหนียวใดๆ แต่ท่านคงดื่มมันได้แค่จอกเดียวเท่านั้น มากกว่านี้ท่านจะได้เป็นลบสลบไป” เย่หยวนบอก

หวู่ซ่งยิ้มออกมาเมื่อได้ยิน “น้องจี้ก็จะดูถูกหวู่ผู้นี้ไปแล้ว หวู่ผู้นี้ดื่มสุราแรงๆ นับพันจอกยังไหว ขนาดสุราเพลิงคลั่งนี้ข้าก็ยังดื่มมันหมดไปได้ถึงห้าไห”

พูดจบเขาก็ยกสุราในมือลงดื่มไปจนหมดในอึกเดียว

ดื่มหมดหวู่ซ่งก็แสดงสีหน้าท่าทางประหลาดออกมาทันที

เมื่อจางถูได้เห็นเขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ฮ่าๆ… ข้าบอกว่าอย่างไรเล่า? สาดตะวันโอบบ้าบอใด?! เทียบกับสุรา…”

“สุราดี!”

จางถูยังพูดไม่ทันจบเขาก็ถูกขัดขึ้นก่อนด้วยคำพูดสุดหนักแน่นของหวู่ซ่ง

“สุราดี! สุราดี! สุราดี! ของโคตรอร่อยเลย!”

หวู่ซ่งกล่าวคำพูดนี้ออกมาติดๆ กันด้วยท่าทางมึนๆ

จางถูที่เห็นจึงได้แต่ยืนนิ่ง เจ้าปล่อยให้ข้าพูดจบมันจะตายไหม?

แต่คนอื่นๆ นั้นไม่อาจทนรอได้อีกต่อไปรีบถามหวู่ซ่งขึ้นมาทันที “พี่ชาย มันเป็นอย่างไรบ้าง?”

“ใช่ รีบเล่ามาเร็ว!”

“ชิๆ ข้าล่ะอยากจะดื่มบ้างจริงๆ!”

สภาพของหวู่ซ่งในเวลานี้ดวงตาทั้งสองมันเริ่มปรือๆ ส่ายหัวไปมาพยายามตั้งสติให้ตื่นไว้

เมื่อทุกผู้คนได้เห็นเช่นนั้นพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะเงียบปากลง

สุรานี้… แรงปานนั้น?

“ข้า… ข้าบอกไม่ถูก ไม่ว่าอย่างไรมันก็โคตรอร่อย!” หวู่ซ่งกล่าวขึ้นด้วยเสียงส่ายๆ

จางถูนั้นย่อมจะไม่ยอมแพ้และยิ้มตอบกลับไป “อร่อยแล้วมันทำไมเล่า? สุราเพลิงคลั่งของข้านั้นมันมีฤทธิ์แก้หนาว ดื่มเข้าไปหนึ่งไหแล้วจะไม่ต้องใช้ปราณเทวะกันความหนาวไปอีกสามวัน! ไม่ว่าเจ้าจะมีสุราที่หอมหวนปานใดมันก็ไม่มีทางเทียบสุราเพลิงคลั่งของข้าได้!”

พูดไปเขาก็แสดงสีหน้าท่าทางภาคภูมิออกมา

เพราะสิ่งสำคัญที่สุดของสุราเพลิงคลั่งนี้มันมิใช่ความอร่อยหอมหวน แต่เป็นเรื่องช่วยสร้างความอบอุ่น!

ในแดนที่หนาวเหน็บเช่นนี้ มันย่อมจะเป็นสิ่งที่มีประโยชน์อย่างมาก

ส่วนเรื่องความอร่อยใดๆ นั้นมันเป็นแค่เรื่องรอง

แต่เขายังพูดไม่ทันขาดคำทางหวู่ซ่งก็พรวดลุกขึ้นยืนแกะเสื้อนอกตนออกทิ้งพร้อมตะโกนลั่น “ร้อน! ร้อนโว้ย!”

……………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+