Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2073 ดูท่าเจ้าจะไม่มั่นใจ!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2073 ดูท่าเจ้าจะไม่มั่นใจ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ณ จัตุรัสกลับฟ้าตอนนี้มันเต็มเปี่ยมไปด้วยผู้คนทุกหนแห่ง

จอมเทพโอสถเจ็ดดาวลงมือหลอมโอสถนั้นมันย่อมจะกลายเป็นงานของชุมเก้าสาย

เรื่องที่เย่หยวนท้าทายเทพสวรรค์กู้หงนั้นมันโด่งดังไปทั่วทั้งชุมเก้าสายอย่างรวดเร็ว

“ศิษย์พี่ใหญ่ ท่านเองก็เกินไปหรือไม่ ให้ท่านอาจารย์ออกมาประลองกับเด็กน้อยเช่นนี้มันจะเสื่อมเสียเกียรติจนเกินไปแล้ว!” ศิษย์น้องของซ่งเฉานามหลัวหยูกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าไม่เห็นด้วย

ศิษย์น้องอีกคนหนึ่งกล่าวขึ้นตาม “การให้ท่านอาจารย์ประลองกับมันนี้มันจะต่างอะไรกับการให้ท่านอาจารย์ประลองกับเราเล่า? การประลองเช่นนี้มันย่อมไม่อาจจะมีทางออกผลอื่นใดไปได้”

ซ่งเฉายิ้มออกมา “พวกเจ้าจะไปรู้อะไร? เจ้าเด็กคนนั้นมันมีสูตรสุราอันเหนือล้ำอยู่ในมือ หากเราเอามันมาได้แล้วมันคงได้เปลี่ยนกลายเป็นรายได้มหาศาล! ถึงเวลานั้นทั้งเทพสวรรค์หลงหยูแห่งชุมรุ่งอุดรหรือเทพสวรรค์จุนห่าวแห่งชุมแยกวาโยก็คงได้แต่ต้องก้มหัวลงให้กับท่านอาจารย์!”

เมื่อหลัวหยูได้ยินเช่นนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น “ศิษย์พี่ สุรานี้มันดีขนาดนั้น?”

ซ่งเฉานั้นเริ่มหลับตาลงย้อนกลับไปนึกถึงรสชาติของมัน “มากเสียยิ่งกว่าดี! มันมีรสชาติแฝงมากมายอย่างไม่อาจบรรยาย! ศิษย์พี่ของเจ้าผู้นี้ได้ลองชิมแค่จอกเดียวยังรู้สึกได้ว่าครึ่งเดือนมานี้ข้ารู้สึกอบอุ่นอย่างมาก! ไม่ต้องใช้ปราณเทวะหรือไฟใดๆ ในการขับไล่ความหนาวเย็น! ทั้งอร่อยทั้งขับความหนาว เจ้าว่าคนทุ่งราบสุดอุดรเราจะทนความยั่วเย้าของมันได้หรือ?”

เหล่าศิษย์น้องของเขาทั้งหลายต่างได้แต่มองดูอย่างไม่ค่อยอยากเชื่อ เพราะตั้งแต่ที่ศิษย์พี่ของเขากลับมาจากโรงเตี๊ยมเพลิงคลั่งวันนั้นเขาก็เอาแต่พูดถึงความดีงามของสุราสาดตะวันโอบนี้อย่างไม่ขาดปาก ราวกับว่าตัวเขานั้นต้องมนต์ใดมา

ยิ่งได้ฟังเขาพูดถึงมันทุกสี่วันเหล่าศิษย์น้องทั้งหลายก็เริ่มรู้สึกอดไม่ได้ที่จะอยากลอง

ในหมู่คนสุดอุดรทั้งหมดนี้มันไม่มีใครที่จะได้มีโอกาสดื่มมัน

แค่ได้ยินว่ามันอร่อย มีหรือที่คนทั้งหลายจะเชื่อง่ายๆ?

เว้นเสียแต่กับสองคนที่เคยดื่มมันมาก่อนอย่างซ่งเฉาและหวู่ซ่งสองคนนี้

ไม่ว่ามันจะอร่อยจริงหรือไม่ คนทั้งหลายย่อมไม่อาจรู้ได้

แต่พวกเขานั้นได้เข้าใจหลังจากที่ได้ยินคำของซ่งเฉา อย่างน้อยตราบเท่าที่ได้สูตรสุรานี้มามันก็จะสามารถพลิกหน้าธุรกิจสุราของทุ่งราบสุดอุดรได้ทีเดียว

“เขามาแล้ว เขามาจริงๆ! เจ้าเด็กคนนี้หรือ? ยังเด็กขนาดนี้เชียว!”

ในเวลานี้มันเกิดเสียงร้องขึ้นในหมู่ผู้คนก่อนจะเห็นว่ามีเงาร่างของเด็กหนุ่มเดินขึ้นมาบนลานประลอง

“นี่มัน… จะเด็กเกินไปหรือไม่? แค่เจ้าเด็กคนนี้มันก็มีสิทธิจะท้าทายเทพสวรรค์กู้หงท่าน?”

“เจ้าเด็กคนนี้มันมาจากที่ใดกัน? กลับกล้ามาลบหลู่เทพที่ข้าบูชาเช่นนี้!”

“ไสหัวไป!”

เมื่อคนทั้งหลายเห็นหน้าตาหนุ่มน้อยของเย่หยวนพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะโห่ร้องขึ้นตามๆ กัน

อายุเท่านี้รู้หรือยังว่าโอสถคืออะไร กลับกล้ามาท้าทายยอดโอสถอันดับหนึ่งแห่งชุมเก้าสาย นี่มันล้อกันเล่นหรือ?

เมื่อมีคนเริ่มมันก็ย่อมจะมีคนตาม ตอนนี้คนทั้งหลายต่างเริ่มโห่ไล่เย่หยวนไปตามๆ กัน

แต่เย่หยวนนั้นกลับยืนนิ่งไม่คิดสนใจใดๆ

หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาทั้งหลายก็ย่อมจะหุบปากลงไปเอง

เมื่อหลัวหยูเห็นเย่หยวนว่ายังหนุ่มอายุน้อยปานนี้เขาก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าดูถูก “หึ ช่างเป็นเจ้าโง่ที่ไม่ประมาณตนเสียจริงๆ อายุเท่านี้ก็กลับกล้ามาท้าทายอาจารย์เรา โอหังนัก!”

แต่ซ่งเฉากลับพูดแทรกขึ้น “ข้าไม่รู้หรอกนะว่ามันจะมีวิชาหลอมโอสถระดับใด แต่หากให้พูดถึงวิชาควบคุมไฟของมันแล้วข้าขอยอมรับว่ามันเก่งกาจ! หากไม่เป็นเช่นนั้นแล้วมีหรือที่ข้าจะปล่อยให้เรื่องถึงมือท่านอาจารย์? ข้าคงจัดการมันลงเองไปแล้ว!”

หลัวหยูที่ได้ยินก็ต้องหันหน้ากลับมาหาศิษย์พี่ทันที “ศิษย์พี่ใหญ่ ท่านแพ้มันจริง?”

ซ่งเฉานั้นได้แต่พยักหน้าตอบมาด้วยสีหน้ามืดดำ

หลัวหยูนั้นย่อมไม่คิดจะอยากเชื่อ เขานั้นย่อมรู้ดีว่าวิชาควบคุมไฟของซ่งเฉานั้นเก่งกาจปานใด ต่อให้เป็นตัวเขามันก็ยังไม่อาจจะเทียบเคียงเรื่องการควบคุมไฟกับซ่งเฉาได้แม้แต่น้อย

แต่ศิษย์พี่อันเก่งกาจของเขากลับแพ้ให้เจ้าเด็กคนนี้? หรือว่าเจ้าเด็กคนนี้มันจะเป็นยอดอัจฉริยะโอสถจริง?

ในตอนนั้นเองที่เกิดมีคลื่นพลังหนักหน่วงปรากฏขึ้น

“เทพสวรรค์กู้หงท่านมาแล้ว!”

“ต้องขอบคุณเจ้าเด็กคนนี้เลย ข้าจึงจะได้เห็นหน้าตาของท่านกู้หง!”

“ท่านกู้หง สั่งสอนมันเลยท่าน!”

ตอนนี้มันเกิดเสียงโห่ร้องแสดงความยินดีรอบด้าน

เทพสวรรค์กู้หงนั้นเป็นตัวตนที่เป็นดั่งเทพเจ้าของคนทั้งหลาย

ในทุ่งรายสุดอุดรนี้ จอมเทพโอสถเจ็ดดาวนั้นเป็นดั่งดวงตะวันกลางฟ้าส่องแสงลงมายังโลก

เด็กน้อยอย่างเย่หยวนที่คิดท้าทายเทพสวรรค์กู้หงนั้นย่อมจะเหมือนได้ทำการลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของผู้คนทั้งหลาย

ชายชราในชุดสุดฟ้าครามค่อยๆ เดินออกมาจากช่องว่างมิติก่อนจะหันหน้าไปมองรอบๆ ด้วยท่าทางสง่า

“ศิษย์กราบคารวะท่านอาจารย์!” ซ่งเฉาและเหล่าศิษย์น้องทั้งหลายได้เดินเข้ามาก้มคารวะเทพสวรรค์กู้หง

เทพสวรรค์กู้หงพยักหน้ารับก่อนจะหันไปมองดูที่เย่หยวนอย่างตื่นตะลึงไม่น้อย

เพราะความเยาว์วัยของเย่หยวนนี้มันเกิดที่เขาคาดไปมาก

“เจ้าคือจี้ฉิงหยุนที่ท้าทายเทพสวรรค์ผู้นี้?” เทพสวรรค์กู้หงถามขึ้น

เมื่อเขาปรากฏตัวขึ้นมาเขาก็ได้ส่งพลังกดดันเข้าไปหาเย่หยวนอย่างไม่น้อย

เว้นเสียแต่ว่าเย่หยวนกลับยืนนิ่งไม่สนใจแรงกดดันใดๆ ราวกับว่าพวกเขาทั้งสองนั้นสามารถยืนอยู่ในระดับเดียวกันได้

เมื่อเทพสวรรค์กู้หงได้เห็นเช่นนั้นเขาก็ตื่นตะลึงขึ้นไม่น้อย

เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าตอนที่เย่หยวนพบเจอเทพสวรรค์ดันหยู่นั้นเขาได้รับแรงกดดันหนักหน่วงปานใด? คลื่นพลังของเทพสวรรค์กู้หงนี้มันอ่อนแอกว่ากันไปมาก

คลื่นพลังที่เขาปลดปล่อยออกมาในเวลานี้มันเหมือนเด็กน้อยที่ยกไม้ยกมือวางท่าต่อหน้าปรมาจารย์

“เป็นจี้ผู้นี้เอง!” เย่หยวนตอบ

เทพสวรรค์กู้หงที่ได้ยินก็แสดงท่าทางชื่นชมออกมา “สมแล้ว วีรบุรุษย่อมมาจากรุ่นคนหนุ่มสาวเสมอ! ถึงกับกล้ามาท้าทายเทพสวรรค์ผู้นี้ด้วยอายุเท่านี้ เจ้ามีความกล้าหาญมาก! วางใจเถอะ เทพสวรรค์ผู้นี้จะไม่รังแกคนอ่อนแอแน่นอน เมื่อข้าลงมือแล้วข้าย่อมจะเฝ้าระวังไม่ให้ทำอะไรเกินเลยน อ่า… เจ้าเลือกโอสถเถอะ”

การประลองดวลใดๆ นี้มันย่อมเป็นสิ่งที่สุดแสนง่ายดายต่อตัวเขา

เพียงแค่ว่าท่าทางของเขานี้ต่อคนทั้งหลายแล้วมันเหมือนเป็นยอดคนผู้มีจิตใจกว้างขวาง

“สมชื่อท่านเทพสวรรค์กู้หง! กับความพยายามของเจ้าหนุ่มนี้ท่านกลับไม่โกรธเคืองและยังชื่นชมคิดแนะนำให้ด้วย”

“หึ ดูเจ้าเด็กนั่นสิ! ยังจะทำหน้าหยิ่งยโสอยู่อีก!”

แต่แท้จริงแล้วมีหรือที่เย่หยวนจะเชิดหน้าหยิ่งใส่ใคร? เขานั้นแค่ทำหน้าตาเฉยชาตามปกติประสาของเขา

แต่ในสายตาของคนทั้งหลายแล้วความเฉยชานั้นเองที่เป็นเรื่องผิด ต่อหน้าเทพสวรรค์กู้หงแล้วตัวเย่หยวนควรจะก้มหัวลงต่ำ สั่นกลัวหรือไม่ก็แสดงสีหน้าหวาดหวั่นออกมา

เพราะการทำเช่นนั้นมันจะเหมาะกับอายุที่เย่หยวนมีมากกว่า

เย่หยวนหันไปมองเทพสวรรค์กู้หงด้วยสีหน้าแปลกๆ “ท่านจะให้ข้าเลือกจริง?”

เทพสวรรค์กู้หงจึงได้หัวเราะขึ้นมา “เทพสวรรค์ผู้นี้เป็นถึงจอมเทพโอสถเจ็ดดาว ประลองกับเจ้าแค่นี้มีหรือที่ข้าจะเป็นฝ่ายเลือกได้?”

เย่หยวนพยักหน้ารับออกมาและกล่าวด้วยเสียงเฉยชา “เช่นนั้น… เอาเป็นโอสถวิญญาณสวรรค์เพลิงชาด”

นั่นทำให้ดวงตาของเทพสวรรค์กู้หงเบิกกว้าง แทบจะสำลักออกมา

โอสถวิญญาณสวรรค์เพลิงชาดนั้นมันคือยอดโอสถที่ยากที่สุดในหมู่โอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับหก

ต่อให้จะหลอมขึ้นมาด้วยฝีมือที่เขามีทั้งหมด มันก็ไม่แน่ว่าจะสำเร็จ

ที่สำคัญ ต่อให้จะสำเร็จ มันก็คงไม่อาจจะหลอมได้คุณภาพสูงๆ

เขาคิดจะเปิดปากพูดแต่ก็ไม่อาจจะกล่าวใดๆ ออกมาได้

บอกว่าหลอมได้?

หากเขาพลาดขึ้นมาเล่า?

บอกว่าหลอมไม่ได้?

แล้วจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?

“เด็กน้อย เจ้ามาหาเรื่องเทพสวรรค์ผู้นี้แน่แล้วใช่หรือไม่? โอสถนั้นตัวเจ้าเองก็คงไม่อาจหลอมได้มิใช่หรือ?” เทพสวรรค์กู้หงกล่าวออกมาด้วยใบหน้าดำมืด

เย่หยวนจึงส่ายหัวออกมา “ดูท่าท่านจะไม่มั่นใจว่าจะหลอมโอสถวิญญาณสวรรค์เพลิงชาดได้สินะ เช่นนั้น… เอาเป็นโอสถเขี้ยวหนุมานอึดใจดีหรือไม่?”

เทพสวรรค์กู้หงแทบจะกระอักเลือดคำโตออกมา เจ้าคิดเล่นงานผู้คนให้ถึงตายเลยหรือ?

ที่สำคัญ… โอสถนี้เองมันก็ยังเป็นโอสถความยากเก้าเช่นกันด้วย!

เขานั้นมั่นใจแล้วว่าเด็กหนุ่มตรงหน้านี้คงมาเพื่อก่อกวนเขาเป็นแน่

หรือว่า… จะถูกคนเหล่านั้นส่งมา?

……………………

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2073 ดูท่าเจ้าจะไม่มั่นใจ!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2073 ดูท่าเจ้าจะไม่มั่นใจ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ณ จัตุรัสกลับฟ้าตอนนี้มันเต็มเปี่ยมไปด้วยผู้คนทุกหนแห่ง

จอมเทพโอสถเจ็ดดาวลงมือหลอมโอสถนั้นมันย่อมจะกลายเป็นงานของชุมเก้าสาย

เรื่องที่เย่หยวนท้าทายเทพสวรรค์กู้หงนั้นมันโด่งดังไปทั่วทั้งชุมเก้าสายอย่างรวดเร็ว

“ศิษย์พี่ใหญ่ ท่านเองก็เกินไปหรือไม่ ให้ท่านอาจารย์ออกมาประลองกับเด็กน้อยเช่นนี้มันจะเสื่อมเสียเกียรติจนเกินไปแล้ว!” ศิษย์น้องของซ่งเฉานามหลัวหยูกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าไม่เห็นด้วย

ศิษย์น้องอีกคนหนึ่งกล่าวขึ้นตาม “การให้ท่านอาจารย์ประลองกับมันนี้มันจะต่างอะไรกับการให้ท่านอาจารย์ประลองกับเราเล่า? การประลองเช่นนี้มันย่อมไม่อาจจะมีทางออกผลอื่นใดไปได้”

ซ่งเฉายิ้มออกมา “พวกเจ้าจะไปรู้อะไร? เจ้าเด็กคนนั้นมันมีสูตรสุราอันเหนือล้ำอยู่ในมือ หากเราเอามันมาได้แล้วมันคงได้เปลี่ยนกลายเป็นรายได้มหาศาล! ถึงเวลานั้นทั้งเทพสวรรค์หลงหยูแห่งชุมรุ่งอุดรหรือเทพสวรรค์จุนห่าวแห่งชุมแยกวาโยก็คงได้แต่ต้องก้มหัวลงให้กับท่านอาจารย์!”

เมื่อหลัวหยูได้ยินเช่นนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น “ศิษย์พี่ สุรานี้มันดีขนาดนั้น?”

ซ่งเฉานั้นเริ่มหลับตาลงย้อนกลับไปนึกถึงรสชาติของมัน “มากเสียยิ่งกว่าดี! มันมีรสชาติแฝงมากมายอย่างไม่อาจบรรยาย! ศิษย์พี่ของเจ้าผู้นี้ได้ลองชิมแค่จอกเดียวยังรู้สึกได้ว่าครึ่งเดือนมานี้ข้ารู้สึกอบอุ่นอย่างมาก! ไม่ต้องใช้ปราณเทวะหรือไฟใดๆ ในการขับไล่ความหนาวเย็น! ทั้งอร่อยทั้งขับความหนาว เจ้าว่าคนทุ่งราบสุดอุดรเราจะทนความยั่วเย้าของมันได้หรือ?”

เหล่าศิษย์น้องของเขาทั้งหลายต่างได้แต่มองดูอย่างไม่ค่อยอยากเชื่อ เพราะตั้งแต่ที่ศิษย์พี่ของเขากลับมาจากโรงเตี๊ยมเพลิงคลั่งวันนั้นเขาก็เอาแต่พูดถึงความดีงามของสุราสาดตะวันโอบนี้อย่างไม่ขาดปาก ราวกับว่าตัวเขานั้นต้องมนต์ใดมา

ยิ่งได้ฟังเขาพูดถึงมันทุกสี่วันเหล่าศิษย์น้องทั้งหลายก็เริ่มรู้สึกอดไม่ได้ที่จะอยากลอง

ในหมู่คนสุดอุดรทั้งหมดนี้มันไม่มีใครที่จะได้มีโอกาสดื่มมัน

แค่ได้ยินว่ามันอร่อย มีหรือที่คนทั้งหลายจะเชื่อง่ายๆ?

เว้นเสียแต่กับสองคนที่เคยดื่มมันมาก่อนอย่างซ่งเฉาและหวู่ซ่งสองคนนี้

ไม่ว่ามันจะอร่อยจริงหรือไม่ คนทั้งหลายย่อมไม่อาจรู้ได้

แต่พวกเขานั้นได้เข้าใจหลังจากที่ได้ยินคำของซ่งเฉา อย่างน้อยตราบเท่าที่ได้สูตรสุรานี้มามันก็จะสามารถพลิกหน้าธุรกิจสุราของทุ่งราบสุดอุดรได้ทีเดียว

“เขามาแล้ว เขามาจริงๆ! เจ้าเด็กคนนี้หรือ? ยังเด็กขนาดนี้เชียว!”

ในเวลานี้มันเกิดเสียงร้องขึ้นในหมู่ผู้คนก่อนจะเห็นว่ามีเงาร่างของเด็กหนุ่มเดินขึ้นมาบนลานประลอง

“นี่มัน… จะเด็กเกินไปหรือไม่? แค่เจ้าเด็กคนนี้มันก็มีสิทธิจะท้าทายเทพสวรรค์กู้หงท่าน?”

“เจ้าเด็กคนนี้มันมาจากที่ใดกัน? กลับกล้ามาลบหลู่เทพที่ข้าบูชาเช่นนี้!”

“ไสหัวไป!”

เมื่อคนทั้งหลายเห็นหน้าตาหนุ่มน้อยของเย่หยวนพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะโห่ร้องขึ้นตามๆ กัน

อายุเท่านี้รู้หรือยังว่าโอสถคืออะไร กลับกล้ามาท้าทายยอดโอสถอันดับหนึ่งแห่งชุมเก้าสาย นี่มันล้อกันเล่นหรือ?

เมื่อมีคนเริ่มมันก็ย่อมจะมีคนตาม ตอนนี้คนทั้งหลายต่างเริ่มโห่ไล่เย่หยวนไปตามๆ กัน

แต่เย่หยวนนั้นกลับยืนนิ่งไม่คิดสนใจใดๆ

หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาทั้งหลายก็ย่อมจะหุบปากลงไปเอง

เมื่อหลัวหยูเห็นเย่หยวนว่ายังหนุ่มอายุน้อยปานนี้เขาก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าดูถูก “หึ ช่างเป็นเจ้าโง่ที่ไม่ประมาณตนเสียจริงๆ อายุเท่านี้ก็กลับกล้ามาท้าทายอาจารย์เรา โอหังนัก!”

แต่ซ่งเฉากลับพูดแทรกขึ้น “ข้าไม่รู้หรอกนะว่ามันจะมีวิชาหลอมโอสถระดับใด แต่หากให้พูดถึงวิชาควบคุมไฟของมันแล้วข้าขอยอมรับว่ามันเก่งกาจ! หากไม่เป็นเช่นนั้นแล้วมีหรือที่ข้าจะปล่อยให้เรื่องถึงมือท่านอาจารย์? ข้าคงจัดการมันลงเองไปแล้ว!”

หลัวหยูที่ได้ยินก็ต้องหันหน้ากลับมาหาศิษย์พี่ทันที “ศิษย์พี่ใหญ่ ท่านแพ้มันจริง?”

ซ่งเฉานั้นได้แต่พยักหน้าตอบมาด้วยสีหน้ามืดดำ

หลัวหยูนั้นย่อมไม่คิดจะอยากเชื่อ เขานั้นย่อมรู้ดีว่าวิชาควบคุมไฟของซ่งเฉานั้นเก่งกาจปานใด ต่อให้เป็นตัวเขามันก็ยังไม่อาจจะเทียบเคียงเรื่องการควบคุมไฟกับซ่งเฉาได้แม้แต่น้อย

แต่ศิษย์พี่อันเก่งกาจของเขากลับแพ้ให้เจ้าเด็กคนนี้? หรือว่าเจ้าเด็กคนนี้มันจะเป็นยอดอัจฉริยะโอสถจริง?

ในตอนนั้นเองที่เกิดมีคลื่นพลังหนักหน่วงปรากฏขึ้น

“เทพสวรรค์กู้หงท่านมาแล้ว!”

“ต้องขอบคุณเจ้าเด็กคนนี้เลย ข้าจึงจะได้เห็นหน้าตาของท่านกู้หง!”

“ท่านกู้หง สั่งสอนมันเลยท่าน!”

ตอนนี้มันเกิดเสียงโห่ร้องแสดงความยินดีรอบด้าน

เทพสวรรค์กู้หงนั้นเป็นตัวตนที่เป็นดั่งเทพเจ้าของคนทั้งหลาย

ในทุ่งรายสุดอุดรนี้ จอมเทพโอสถเจ็ดดาวนั้นเป็นดั่งดวงตะวันกลางฟ้าส่องแสงลงมายังโลก

เด็กน้อยอย่างเย่หยวนที่คิดท้าทายเทพสวรรค์กู้หงนั้นย่อมจะเหมือนได้ทำการลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของผู้คนทั้งหลาย

ชายชราในชุดสุดฟ้าครามค่อยๆ เดินออกมาจากช่องว่างมิติก่อนจะหันหน้าไปมองรอบๆ ด้วยท่าทางสง่า

“ศิษย์กราบคารวะท่านอาจารย์!” ซ่งเฉาและเหล่าศิษย์น้องทั้งหลายได้เดินเข้ามาก้มคารวะเทพสวรรค์กู้หง

เทพสวรรค์กู้หงพยักหน้ารับก่อนจะหันไปมองดูที่เย่หยวนอย่างตื่นตะลึงไม่น้อย

เพราะความเยาว์วัยของเย่หยวนนี้มันเกิดที่เขาคาดไปมาก

“เจ้าคือจี้ฉิงหยุนที่ท้าทายเทพสวรรค์ผู้นี้?” เทพสวรรค์กู้หงถามขึ้น

เมื่อเขาปรากฏตัวขึ้นมาเขาก็ได้ส่งพลังกดดันเข้าไปหาเย่หยวนอย่างไม่น้อย

เว้นเสียแต่ว่าเย่หยวนกลับยืนนิ่งไม่สนใจแรงกดดันใดๆ ราวกับว่าพวกเขาทั้งสองนั้นสามารถยืนอยู่ในระดับเดียวกันได้

เมื่อเทพสวรรค์กู้หงได้เห็นเช่นนั้นเขาก็ตื่นตะลึงขึ้นไม่น้อย

เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าตอนที่เย่หยวนพบเจอเทพสวรรค์ดันหยู่นั้นเขาได้รับแรงกดดันหนักหน่วงปานใด? คลื่นพลังของเทพสวรรค์กู้หงนี้มันอ่อนแอกว่ากันไปมาก

คลื่นพลังที่เขาปลดปล่อยออกมาในเวลานี้มันเหมือนเด็กน้อยที่ยกไม้ยกมือวางท่าต่อหน้าปรมาจารย์

“เป็นจี้ผู้นี้เอง!” เย่หยวนตอบ

เทพสวรรค์กู้หงที่ได้ยินก็แสดงท่าทางชื่นชมออกมา “สมแล้ว วีรบุรุษย่อมมาจากรุ่นคนหนุ่มสาวเสมอ! ถึงกับกล้ามาท้าทายเทพสวรรค์ผู้นี้ด้วยอายุเท่านี้ เจ้ามีความกล้าหาญมาก! วางใจเถอะ เทพสวรรค์ผู้นี้จะไม่รังแกคนอ่อนแอแน่นอน เมื่อข้าลงมือแล้วข้าย่อมจะเฝ้าระวังไม่ให้ทำอะไรเกินเลยน อ่า… เจ้าเลือกโอสถเถอะ”

การประลองดวลใดๆ นี้มันย่อมเป็นสิ่งที่สุดแสนง่ายดายต่อตัวเขา

เพียงแค่ว่าท่าทางของเขานี้ต่อคนทั้งหลายแล้วมันเหมือนเป็นยอดคนผู้มีจิตใจกว้างขวาง

“สมชื่อท่านเทพสวรรค์กู้หง! กับความพยายามของเจ้าหนุ่มนี้ท่านกลับไม่โกรธเคืองและยังชื่นชมคิดแนะนำให้ด้วย”

“หึ ดูเจ้าเด็กนั่นสิ! ยังจะทำหน้าหยิ่งยโสอยู่อีก!”

แต่แท้จริงแล้วมีหรือที่เย่หยวนจะเชิดหน้าหยิ่งใส่ใคร? เขานั้นแค่ทำหน้าตาเฉยชาตามปกติประสาของเขา

แต่ในสายตาของคนทั้งหลายแล้วความเฉยชานั้นเองที่เป็นเรื่องผิด ต่อหน้าเทพสวรรค์กู้หงแล้วตัวเย่หยวนควรจะก้มหัวลงต่ำ สั่นกลัวหรือไม่ก็แสดงสีหน้าหวาดหวั่นออกมา

เพราะการทำเช่นนั้นมันจะเหมาะกับอายุที่เย่หยวนมีมากกว่า

เย่หยวนหันไปมองเทพสวรรค์กู้หงด้วยสีหน้าแปลกๆ “ท่านจะให้ข้าเลือกจริง?”

เทพสวรรค์กู้หงจึงได้หัวเราะขึ้นมา “เทพสวรรค์ผู้นี้เป็นถึงจอมเทพโอสถเจ็ดดาว ประลองกับเจ้าแค่นี้มีหรือที่ข้าจะเป็นฝ่ายเลือกได้?”

เย่หยวนพยักหน้ารับออกมาและกล่าวด้วยเสียงเฉยชา “เช่นนั้น… เอาเป็นโอสถวิญญาณสวรรค์เพลิงชาด”

นั่นทำให้ดวงตาของเทพสวรรค์กู้หงเบิกกว้าง แทบจะสำลักออกมา

โอสถวิญญาณสวรรค์เพลิงชาดนั้นมันคือยอดโอสถที่ยากที่สุดในหมู่โอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับหก

ต่อให้จะหลอมขึ้นมาด้วยฝีมือที่เขามีทั้งหมด มันก็ไม่แน่ว่าจะสำเร็จ

ที่สำคัญ ต่อให้จะสำเร็จ มันก็คงไม่อาจจะหลอมได้คุณภาพสูงๆ

เขาคิดจะเปิดปากพูดแต่ก็ไม่อาจจะกล่าวใดๆ ออกมาได้

บอกว่าหลอมได้?

หากเขาพลาดขึ้นมาเล่า?

บอกว่าหลอมไม่ได้?

แล้วจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?

“เด็กน้อย เจ้ามาหาเรื่องเทพสวรรค์ผู้นี้แน่แล้วใช่หรือไม่? โอสถนั้นตัวเจ้าเองก็คงไม่อาจหลอมได้มิใช่หรือ?” เทพสวรรค์กู้หงกล่าวออกมาด้วยใบหน้าดำมืด

เย่หยวนจึงส่ายหัวออกมา “ดูท่าท่านจะไม่มั่นใจว่าจะหลอมโอสถวิญญาณสวรรค์เพลิงชาดได้สินะ เช่นนั้น… เอาเป็นโอสถเขี้ยวหนุมานอึดใจดีหรือไม่?”

เทพสวรรค์กู้หงแทบจะกระอักเลือดคำโตออกมา เจ้าคิดเล่นงานผู้คนให้ถึงตายเลยหรือ?

ที่สำคัญ… โอสถนี้เองมันก็ยังเป็นโอสถความยากเก้าเช่นกันด้วย!

เขานั้นมั่นใจแล้วว่าเด็กหนุ่มตรงหน้านี้คงมาเพื่อก่อกวนเขาเป็นแน่

หรือว่า… จะถูกคนเหล่านั้นส่งมา?

……………………

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+