Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2081 เข้าใจหรือไม่

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2081 เข้าใจหรือไม่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

สามวันต่อจากนั้นทางศิษย์พี่ใหญ่ของหอเมฆาน้ำแข็งก็ได้นำพาตัวลู่เอ๋อมาถึงยังหน้าห้างยอดโอสถ

เพื่อที่จะทำให้ทางเทพสวรรค์ปิงหยุนวางใจลงได้ เย่หยวนจึงได้ยอมรับข้อเสนอของนาง

แต่เรื่องราวทั้งหลายมันก็จะเกิดขึ้นได้หลังพบเจอหน้าลู่เอ๋อเสียก่อน

แต่เย่หยวนนั้นก็ได้ร้องขอให้ทางเทพสวรรค์ปิงหยุนใช้ศิษย์พี่ใหญ่แห่งหอเมฆาน้ำแข็งเป็นคนส่งตัวนางมา เพราะหากทำเช่นนั้นมันก็จะเป็นการแสดงความจริงใจด้วย

“นางสารเลว ข้าขอบอกเจ้าเลยนะว่าอย่าได้คิดทำอะไรโง่เง่า! เมื่อมีข้าอยู่ด้วยแล้วเจ้าจะไปที่ใดเจ้าก็ไม่มีทางไปได้!” เฮ่อเซียงหยุนร้องเตือน

ส่วนทางลู่เอ๋อนั้นนางได้แต่เดินหน้าตรงไม่คิดจะหันไปรับปากรับคำใด ๆ

เพราะในเวลานี้จิตใจของนางนั้นมันล้นเปี่ยมไปด้วยความปิติยินดี

แน่นอนล่ะว่านายน้อยของนางนั้นจะย่อมมีวิธีการที่แตกต่างเหนือล้ำจากผู้คน!

หากเป็นคนอื่น ๆ แล้วพวกเขาอาจจะบุกเข้าหอเมฆาน้ำแข็งหรือคิดลอบปลอบตัวเข้าหอเมฆาน้ำแข็งมาช่วยเหลือนาง

แต่นายน้อยของนางนี้กลับทำให้อาจารย์ของนางนั้นต้องก้มหัวลงส่งตัวนางออกมาถึงหน้าประตู

เวลากว่าปีมานี้ลู่เอ๋อได้แต่คิดว่านายน้อยของตนนั้นจะใช้วิธีใดในการช่วยเหลือนางกันแน่อยู่ทุกวี่วัน

นางนั้นคิดถึงความเป็นไปได้ร้อยแปดพันเก้า แต่ไม่เคยจะคิดถึงวิธีการนี้มาก่อนเลย

เจ้ามาช่วยเหลือผู้คนแต่กลับทำให้ฝ่ายที่จับตัวผู้คนไว้ต้องก้มหัวลงส่งตัวคนออกมาอย่างเต็มใจ

วิธีการเช่นนี้มันใช่ว่าใครก็จะทำได้

นี่มัน…ราวกับหลอกลวงผู้คนก็มิปานมิใช่หรือ?

ลู่เอ๋อได้แต่คิดขำอยู่ในใจ

“แล้วก็อาจารย์จี้นั้นเขาเป็นถึงยอดคนที่ใหญ่โตมีแต่คนนับหน้าถือตา กำลังที่เขาควบคุมอยู่นั้นมันเหนือล้ำกว่าที่จะไปลบหลู่ได้ เจ้าจงอยากได้ขัดคำใด ๆ ของเขาไม่เช่นนั้นข้าจะฉีกเจ้าเป็นชิ้น ๆ เสีย! หึ เข้าใจไหม?”

เมื่อได้เห็นลู่เอ๋อไม่คิดสนใจเฮ่อเซียงหยุนก็ยิ่งขุ่นเคืองใจมากขึ้นกว่าเก่า

“วางใจเถอะน่าศิษย์พี่ใหญ่ เรื่องราวนี้มันเกี่ยวข้องกับอนาคตของหอเมฆาน้ำแข็ง ลู่เอ๋อรู้ดีว่ามันสำคัญ” ลู่เอ๋อบอก

แม้ว่าลู่เอ๋อจะไม่ชอบใจเรื่องราวที่เทพสวรรค์ปิงหยุนทำในช่วงหลายปีมานี้ แต่นางนั้นก็ยังมีความคิดบริสุทธิ์รู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณมากกว่าแค้นเคืองใด ๆ เทพสวรรค์ปิงหยุน

เพราะไม่ว่าอย่างไรกว่าพันปีมานี้เทพสวรรค์ปิงหยุนก็ได้สั่งสอนวิชาต่าง ๆ ให้นางอย่างมากมายทำให้นางสามารถมีวันนี้ได้

“หึ! หวังว่าเจ้าจะเข้าใจมันจริง ๆ! ตอนนี้เราจะเข้าประตูห้างยอดโอสถแล้ว จงทำตัวให้สงบเสงี่ยมไว้!” เฮ่อเซียงหยุนกล่าวเตือนขึ้น

คนทั้งสอนนั้นได้เดินเข้ามาถึงห้างยอดโอสถและภายใต้การนำทางของซ่งเฉา ในที่สุดพวกเขาก็เข้ามาถึงโถงใหญ่

เมื่อลู่เอ๋อเดินผ่านประตูใหญ่เข้ามานางก็ได้เห็นถึงชายหนุ่มร่างผอมบางคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงนั้น

ต่อให้เวลาจะผ่านไปเป็นพัน ๆ ปี แม้ว่าหน้าตาของเย่หยวนตอนนี้มันจะแตกต่างไปจากเย่หยวนในคราก่อนมากเพียงแค่ไหน นางก็ย่อมจะจดจำเขาได้ในพริบตา

เพราะนี่คือคนที่อยู่ในความคิดของนางทุกวี่วัน ทั้งในชีวิตและความฝันนางย่อมจะไม่เคยลืมเลือน

ที่นางเดินทางมานับหมื่น ๆ กิโลเมตรจนมาถึงดินแดนอันหนาวเหน็บ ต้องทนทรมานจากการกลั่นแกล้งของศิษย์พี่น้องทั้งหลายและการลงโทษอันหนักหนานี้ก็เพื่อสิ่งใด?

มันก็เพื่อไม่อยากจะเป็นภาระให้กับเขามิใช่หรือ?

แต่สุดท้ายแล้วนายน้อยของนางกลับต้องเดินทางข้ามผ่านโลกามาจนถึงดินแดนเหนือสุดนี้เพื่อที่จะช่วยเหลือตัวนาง

เมื่อคิดมาได้ถึงจุดนี้น้ำตาใส ๆ ก็ไหลลงมาจากเบ้าตาของนางอย่างไม่อาจควบคุม

ลู่เอ๋อนั้นได้แต่คิดถึงเรื่องราวของเย่หยวนในเวลานี้ แต่นางก็ยังมองเห็นถึงสายตาที่เย่หยวนใช้มองมายังตัวนางในเวลานี้จนต้องสะดุ้งตัวตื่นขึ้นจากภวังค์

ตอนนี้มันมิใช่เวลามาจดจำกันและกันใด ๆ!

เทพสวรรค์กู้หงนั้นกำลังนั่งอยู่ข้าง ๆ เย่หยวนในเวลานี้

“เฮ่อเซียงหยุนแห่งหอเมฆาน้ำแข็งขอคารวะอาจารย์จี้!” เมื่อเฮ่อเซียงหยุนเห็นเย่หยวนนางก็รีบก้มหัวลงคารวะอีกฝ่ายทันที

แต่เมื่อได้เห็นว่าลู่เอ๋อยังยืนเอ๋อไม่ยบอมคุกเข่าลงนางก็หันไปตวาดทันที “นางกะหรี่ จะยืนนิ่งนึกถึงพ่อเจ้าหรือ? ทำไมยังไม่รับก้มลงคุกเข่าต่อหน้าอาจารย์จี้อีก?”

พูดไปนางก็ยื่นมือออกไปคิดจะผลักตีเข่าของลู่เอ๋อ

เย่หยวนที่ได้เห็นย่อมจะต้องขมวดคิ้วแน่นก่อนจะร้องตะโกนออกมา “โอหัง!”

เฮ่อเซียงหยุนยังไม่ทันจะลงมือใด ๆ เมื่อได้ยินนางจึงต้องยิ้มออกมา “นางกะหรี่ เจ้าได้ยินหรือไม่? เจ้าจะโอหังเกินไปแล้ว!”

“ข้าพูดกับเจ้าต่างหาก!” เย่หยวนขมวดคิ้วแน่นจนมันแทบชนกัน

เพราะตอนนี้แท้จริงในจิตใจของเย่หยวนนั้นมันเปี่ยมล้นไปด้วยความคับแค้นจนคิดกลายเป็นจิตสังหารแล้ว

เขานั้นได้เห็นเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นกับลู่เอ๋อจากความทรงจำของซุนชิงหลิง

และคนร้ายที่แท้จริงของเรื่องราวมันก็คือเฮ่อเซียงหยุน!

ที่สำคัญไปกว่านั้นด้วยสายตาของเย่หยวนแล้วเขาย่อมจะมองออกว่าในเวลาลู่เอ๋อมีอาการบาดเจ็บภายในมากมายปานใด ดูท่าระหว่างถูกคุมขังนางคงถูกทรมานมาไม่น้อย

แค่มองดูท่าทางของเฮ่อเซียงหยุนเย่หยวนก็เข้าใจได้ทันทีว่ามันคงต้องเป็นนางแน่

เพียงแค่ว่าตอนนี้พวกเขาทั้งหลายยังอยู่ต่อหน้าเทพสวรรค์กู้หง ทำให้เย่หยวนไม่คิดทำอะไรผลีผลาม

ไม่เช่นนั้นแล้วตัวเฮ่อเซียงหยุนคงไม่ได้เหลือลมหายใจอยู่อีกต่อไป

“หา? ข้าเหรอ?” เฮ่อเซียงหยุนหันหน้ามาอย่างมึนงง

‘เป็นนางมารร้ายนี่แท้ ๆ ที่ไม่มีมารยาท เหตุใดมันกลับกลายเป็นข้าโอหังเล่า?’

แต่ทว่าก่อนที่นางจะได้พูดอะไรต่อเย่หยวนก็ตะโกนออกมา “กู้หง ตบปากมัน!”

กู้หงเองก็สะดุ้งไปไม่น้อยแต่ก็ไม่คิดจะขัดใด ๆ รีบพุ่งตัวเข้าไปตบปากของเฮ่อเซียงหยุนทันที

เขานั้นไม่เข้าใจว่าเหตุใดเย่หยวนจึงคิดตบปากเฮ่อเซียงหยุน แต่เขานั้นสัมผัสได้ถึงความรุ่มร้อนจากตัวของเย่หยวน

ตัวเขาเองก็ติดตามเย่หยวนมานับปี แน่นอนว่าเขาจะย่อมพอเข้าใจนิสัยของเย่หยวนได้เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่คิดจะออมมือใด ๆ มากมาย

แล้วการตบของเทพสวรรค์เช่นนี้มันมีหรือที่เฮ่อเซียงหยุนจะหยุดยั้งมันลงได้?

ต่อให้นางจะรับทัน นางเองก็ไม่กล้าจะตั้งแขนขึ้นมารับเช่นกัน!

ผัวะ!

เสียงตบดังสนั่นไปทั่วห้องโถง แรงตบอันรุนแรงนี้มันส่งร่างของเฮ่อเซียงหยุนจนลอยปลิวกลับหลังไป

จนแม้ตอนนี้นางจะปลิวลิ่วไปเช่นนั้น เฮ่อเซียงหยุนก็ยังไม่เข้าใจว่าเหตุใดตัวนางถึงได้ถูกลงโทษกันแน่

‘ศิษย์น้องข้าไม่เคารพเจ้า อาจารย์จี้ มันผิดด้วยหรือที่ข้าคิดจะพูดสั่งสอนศิษย์น้องข้า?’

แต่กู้หงนั้นก็ไม่ลงมือแรงจนเกินไปเช่นกัน เพราะแม้เสียงมันจะดังลั่น แต่ก็ไม่มีอันตรายถึงชีวิต

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียเฮ่อเซียงหยุนนี้ก็เป็นศิษย์พี่ใหญ่ของหอเมฆาน้ำแข็ง หากตบนางจนตายไปจริงทางเทพสวรรค์ปิงหยุนเองก็คงไม่นั่งอยู่เฉยแน่

แต่คำสั่งของเย่หยวนนี้เขาก็ทำตามอย่างไม่คิดลังเลใด

เมื่อเฮ่อเซียงหยุนคานกลับมาถึงที่ของตนใบหน้าของนางก็เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยฝ่ามือสีแดงแจ่มชัด

แต่ตัวนางนั้นได้แต่ทำหน้ามึนงงไม่เข้าใจว่าเหตุใดเย่หยวนจึงคิดตบลงโทษนาง

เย่หยวนนั้นมองออกถึงความสงสัยนั้นและยิ้มถามขึ้น “เจ้าเข้าใจหรือไม่ว่าทำไมตนจึงถูกลงโทษ?”

เฮ่อเซียงหยุนนั้นย่อมจะเข้าใจดีว่าเย่หยวนในเวลานี้คือผู้ปกครองทุ่งราบสุดอุดรนี้อย่างแท้จริง เป็นคนที่แม้แต่อาจารย์ของนางยังไม่กล้าจะขัด นางจึงได้แต่ต้องทนรับการตบนี้ไว้

เมื่อได้ยินคำถามของเย่หยวนเฮ่อเซียงหยุนก็ส่ายหัวออกมาอย่างมึนงง

“ไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงถูกลงโทษ? นังโง่! กู้หง ตบมันอีกครั้ง!” เย่หยวนสั่ง

กู้หงเองก็แสดงสีหน้ามึนงงออกมา แต่ก็ยังทำตามคำสั่งของเย่หยวนอย่างไม่คิดขัด อีกฝ่ามือหนึ่งถูกตบลงบนใบหน้าของเฮ่อเซียงหยุนจนส่งร่างนางปลิวไปอีกครั้ง

ฝ่ามือของเทพสวรรค์นั้นมันหนักหน่วงปานใด?

เทพสวรรค์กู้หงนั้นควบคุมกำลังของตนอย่างดี สองฝ่ามือนี้มันมากพอที่จะทำให้นางต้องบาดเจ็บ

ตอนนี้บนแก้มทั้งสองฝั่งของเฮ่อเซียงหยุนมีรอยมือสิบนิ้วประทับอยู่อย่างชัดเจน

สองฝ่ามือนี้มันตบจนเฮ่อเซียงหยุนแทบจะเห็นดวงดาวหมุนวนอยู่ตรงหน้า เริ่มจะไม่เข้าใจว่าทิศไหนมันเหนือมันใต้

หลังจากเฮ่อเซียงหยุนลุกกลับขึ้นมานั่งได้เย่หยวนก็ถามขึ้นอีกครั้ง “ตอนนี้เจ้าเข้าใจหรือยัง?”

แล้วมีหรือที่เฮ่อเซียงหยุนจะยังกล้าส่ายหัว? เวลานี้นางจึงรีบพยักหน้ารับออกมา “ข-เข้าใจแล้ว ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ!”

แต่เย่หยวนกลับตะคอกออกมา “กู้หง ตบมันอีก!”

เมื่อได้ยินแม้แต่ทางเทพสวรรค์กู้หงเองก็ยังสงสารเฮ่อเซียงหยุนขึ้นมาจับใจ

แต่เขานั้นก็ไม่คิดจะออมมือใด ๆ พุ่งตัวเขาไปตบหน้าของเฮ่อเซียงหยุนจนลอยปลิวไปอีก

หลังจากนางค่อย ๆ คลานกลับมาถึงเย่หยวนจึงกล่าวขึ้น “ไม่เข้าใจแท้ ๆ แต่กลับแสร้งเป็นเข้าใจ สมควรถูกตบจริง ๆ!”

เฮ่อเซียงหยุนนั้นรู้สึกรุ่มร้อนไปทั้งกายและใจ

เหตุผลการตบตีผู้คนของเจ้านี่มันช่างน่าฟังจริง ๆ!

เพียงแค่ว่านางย่อมจะไม่กล้ากล่าวคำเหล่านั้นออกมาจากปาก แต่เฮ่อเซียงหยุนนั้นเริ่มมีน้ำตาไหลลงมาอาบหน้าแล้วในเวลานี้ด้วยความรู้สึกราวกับกำลังถูกรังแก

“หึ! ในห้างยอดโอสถนี้ใครจะคุกเข่าไม่คุกเข่า มันก็เป็นเรื่องที่ข้าสั่งได้คนเดียวเท่านั้น มันมิใช่หน้าที่ใด ๆ ของเจ้าที่จะมาชี้นิ้วสั่งคนในนี้! ตอนนี้เข้าใจหรือยัง?” เย่หยวนกล่าวออกมา

เฮ่อเซียงหยุนได้แต่พยักหน้ารับด้วยน้ำตานองหน้า

‘มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!’

…………….

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2081 เข้าใจหรือไม่

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2081 เข้าใจหรือไม่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

สามวันต่อจากนั้นทางศิษย์พี่ใหญ่ของหอเมฆาน้ำแข็งก็ได้นำพาตัวลู่เอ๋อมาถึงยังหน้าห้างยอดโอสถ

เพื่อที่จะทำให้ทางเทพสวรรค์ปิงหยุนวางใจลงได้ เย่หยวนจึงได้ยอมรับข้อเสนอของนาง

แต่เรื่องราวทั้งหลายมันก็จะเกิดขึ้นได้หลังพบเจอหน้าลู่เอ๋อเสียก่อน

แต่เย่หยวนนั้นก็ได้ร้องขอให้ทางเทพสวรรค์ปิงหยุนใช้ศิษย์พี่ใหญ่แห่งหอเมฆาน้ำแข็งเป็นคนส่งตัวนางมา เพราะหากทำเช่นนั้นมันก็จะเป็นการแสดงความจริงใจด้วย

“นางสารเลว ข้าขอบอกเจ้าเลยนะว่าอย่าได้คิดทำอะไรโง่เง่า! เมื่อมีข้าอยู่ด้วยแล้วเจ้าจะไปที่ใดเจ้าก็ไม่มีทางไปได้!” เฮ่อเซียงหยุนร้องเตือน

ส่วนทางลู่เอ๋อนั้นนางได้แต่เดินหน้าตรงไม่คิดจะหันไปรับปากรับคำใด ๆ

เพราะในเวลานี้จิตใจของนางนั้นมันล้นเปี่ยมไปด้วยความปิติยินดี

แน่นอนล่ะว่านายน้อยของนางนั้นจะย่อมมีวิธีการที่แตกต่างเหนือล้ำจากผู้คน!

หากเป็นคนอื่น ๆ แล้วพวกเขาอาจจะบุกเข้าหอเมฆาน้ำแข็งหรือคิดลอบปลอบตัวเข้าหอเมฆาน้ำแข็งมาช่วยเหลือนาง

แต่นายน้อยของนางนี้กลับทำให้อาจารย์ของนางนั้นต้องก้มหัวลงส่งตัวนางออกมาถึงหน้าประตู

เวลากว่าปีมานี้ลู่เอ๋อได้แต่คิดว่านายน้อยของตนนั้นจะใช้วิธีใดในการช่วยเหลือนางกันแน่อยู่ทุกวี่วัน

นางนั้นคิดถึงความเป็นไปได้ร้อยแปดพันเก้า แต่ไม่เคยจะคิดถึงวิธีการนี้มาก่อนเลย

เจ้ามาช่วยเหลือผู้คนแต่กลับทำให้ฝ่ายที่จับตัวผู้คนไว้ต้องก้มหัวลงส่งตัวคนออกมาอย่างเต็มใจ

วิธีการเช่นนี้มันใช่ว่าใครก็จะทำได้

นี่มัน…ราวกับหลอกลวงผู้คนก็มิปานมิใช่หรือ?

ลู่เอ๋อได้แต่คิดขำอยู่ในใจ

“แล้วก็อาจารย์จี้นั้นเขาเป็นถึงยอดคนที่ใหญ่โตมีแต่คนนับหน้าถือตา กำลังที่เขาควบคุมอยู่นั้นมันเหนือล้ำกว่าที่จะไปลบหลู่ได้ เจ้าจงอยากได้ขัดคำใด ๆ ของเขาไม่เช่นนั้นข้าจะฉีกเจ้าเป็นชิ้น ๆ เสีย! หึ เข้าใจไหม?”

เมื่อได้เห็นลู่เอ๋อไม่คิดสนใจเฮ่อเซียงหยุนก็ยิ่งขุ่นเคืองใจมากขึ้นกว่าเก่า

“วางใจเถอะน่าศิษย์พี่ใหญ่ เรื่องราวนี้มันเกี่ยวข้องกับอนาคตของหอเมฆาน้ำแข็ง ลู่เอ๋อรู้ดีว่ามันสำคัญ” ลู่เอ๋อบอก

แม้ว่าลู่เอ๋อจะไม่ชอบใจเรื่องราวที่เทพสวรรค์ปิงหยุนทำในช่วงหลายปีมานี้ แต่นางนั้นก็ยังมีความคิดบริสุทธิ์รู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณมากกว่าแค้นเคืองใด ๆ เทพสวรรค์ปิงหยุน

เพราะไม่ว่าอย่างไรกว่าพันปีมานี้เทพสวรรค์ปิงหยุนก็ได้สั่งสอนวิชาต่าง ๆ ให้นางอย่างมากมายทำให้นางสามารถมีวันนี้ได้

“หึ! หวังว่าเจ้าจะเข้าใจมันจริง ๆ! ตอนนี้เราจะเข้าประตูห้างยอดโอสถแล้ว จงทำตัวให้สงบเสงี่ยมไว้!” เฮ่อเซียงหยุนกล่าวเตือนขึ้น

คนทั้งสอนนั้นได้เดินเข้ามาถึงห้างยอดโอสถและภายใต้การนำทางของซ่งเฉา ในที่สุดพวกเขาก็เข้ามาถึงโถงใหญ่

เมื่อลู่เอ๋อเดินผ่านประตูใหญ่เข้ามานางก็ได้เห็นถึงชายหนุ่มร่างผอมบางคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงนั้น

ต่อให้เวลาจะผ่านไปเป็นพัน ๆ ปี แม้ว่าหน้าตาของเย่หยวนตอนนี้มันจะแตกต่างไปจากเย่หยวนในคราก่อนมากเพียงแค่ไหน นางก็ย่อมจะจดจำเขาได้ในพริบตา

เพราะนี่คือคนที่อยู่ในความคิดของนางทุกวี่วัน ทั้งในชีวิตและความฝันนางย่อมจะไม่เคยลืมเลือน

ที่นางเดินทางมานับหมื่น ๆ กิโลเมตรจนมาถึงดินแดนอันหนาวเหน็บ ต้องทนทรมานจากการกลั่นแกล้งของศิษย์พี่น้องทั้งหลายและการลงโทษอันหนักหนานี้ก็เพื่อสิ่งใด?

มันก็เพื่อไม่อยากจะเป็นภาระให้กับเขามิใช่หรือ?

แต่สุดท้ายแล้วนายน้อยของนางกลับต้องเดินทางข้ามผ่านโลกามาจนถึงดินแดนเหนือสุดนี้เพื่อที่จะช่วยเหลือตัวนาง

เมื่อคิดมาได้ถึงจุดนี้น้ำตาใส ๆ ก็ไหลลงมาจากเบ้าตาของนางอย่างไม่อาจควบคุม

ลู่เอ๋อนั้นได้แต่คิดถึงเรื่องราวของเย่หยวนในเวลานี้ แต่นางก็ยังมองเห็นถึงสายตาที่เย่หยวนใช้มองมายังตัวนางในเวลานี้จนต้องสะดุ้งตัวตื่นขึ้นจากภวังค์

ตอนนี้มันมิใช่เวลามาจดจำกันและกันใด ๆ!

เทพสวรรค์กู้หงนั้นกำลังนั่งอยู่ข้าง ๆ เย่หยวนในเวลานี้

“เฮ่อเซียงหยุนแห่งหอเมฆาน้ำแข็งขอคารวะอาจารย์จี้!” เมื่อเฮ่อเซียงหยุนเห็นเย่หยวนนางก็รีบก้มหัวลงคารวะอีกฝ่ายทันที

แต่เมื่อได้เห็นว่าลู่เอ๋อยังยืนเอ๋อไม่ยบอมคุกเข่าลงนางก็หันไปตวาดทันที “นางกะหรี่ จะยืนนิ่งนึกถึงพ่อเจ้าหรือ? ทำไมยังไม่รับก้มลงคุกเข่าต่อหน้าอาจารย์จี้อีก?”

พูดไปนางก็ยื่นมือออกไปคิดจะผลักตีเข่าของลู่เอ๋อ

เย่หยวนที่ได้เห็นย่อมจะต้องขมวดคิ้วแน่นก่อนจะร้องตะโกนออกมา “โอหัง!”

เฮ่อเซียงหยุนยังไม่ทันจะลงมือใด ๆ เมื่อได้ยินนางจึงต้องยิ้มออกมา “นางกะหรี่ เจ้าได้ยินหรือไม่? เจ้าจะโอหังเกินไปแล้ว!”

“ข้าพูดกับเจ้าต่างหาก!” เย่หยวนขมวดคิ้วแน่นจนมันแทบชนกัน

เพราะตอนนี้แท้จริงในจิตใจของเย่หยวนนั้นมันเปี่ยมล้นไปด้วยความคับแค้นจนคิดกลายเป็นจิตสังหารแล้ว

เขานั้นได้เห็นเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นกับลู่เอ๋อจากความทรงจำของซุนชิงหลิง

และคนร้ายที่แท้จริงของเรื่องราวมันก็คือเฮ่อเซียงหยุน!

ที่สำคัญไปกว่านั้นด้วยสายตาของเย่หยวนแล้วเขาย่อมจะมองออกว่าในเวลาลู่เอ๋อมีอาการบาดเจ็บภายในมากมายปานใด ดูท่าระหว่างถูกคุมขังนางคงถูกทรมานมาไม่น้อย

แค่มองดูท่าทางของเฮ่อเซียงหยุนเย่หยวนก็เข้าใจได้ทันทีว่ามันคงต้องเป็นนางแน่

เพียงแค่ว่าตอนนี้พวกเขาทั้งหลายยังอยู่ต่อหน้าเทพสวรรค์กู้หง ทำให้เย่หยวนไม่คิดทำอะไรผลีผลาม

ไม่เช่นนั้นแล้วตัวเฮ่อเซียงหยุนคงไม่ได้เหลือลมหายใจอยู่อีกต่อไป

“หา? ข้าเหรอ?” เฮ่อเซียงหยุนหันหน้ามาอย่างมึนงง

‘เป็นนางมารร้ายนี่แท้ ๆ ที่ไม่มีมารยาท เหตุใดมันกลับกลายเป็นข้าโอหังเล่า?’

แต่ทว่าก่อนที่นางจะได้พูดอะไรต่อเย่หยวนก็ตะโกนออกมา “กู้หง ตบปากมัน!”

กู้หงเองก็สะดุ้งไปไม่น้อยแต่ก็ไม่คิดจะขัดใด ๆ รีบพุ่งตัวเข้าไปตบปากของเฮ่อเซียงหยุนทันที

เขานั้นไม่เข้าใจว่าเหตุใดเย่หยวนจึงคิดตบปากเฮ่อเซียงหยุน แต่เขานั้นสัมผัสได้ถึงความรุ่มร้อนจากตัวของเย่หยวน

ตัวเขาเองก็ติดตามเย่หยวนมานับปี แน่นอนว่าเขาจะย่อมพอเข้าใจนิสัยของเย่หยวนได้เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่คิดจะออมมือใด ๆ มากมาย

แล้วการตบของเทพสวรรค์เช่นนี้มันมีหรือที่เฮ่อเซียงหยุนจะหยุดยั้งมันลงได้?

ต่อให้นางจะรับทัน นางเองก็ไม่กล้าจะตั้งแขนขึ้นมารับเช่นกัน!

ผัวะ!

เสียงตบดังสนั่นไปทั่วห้องโถง แรงตบอันรุนแรงนี้มันส่งร่างของเฮ่อเซียงหยุนจนลอยปลิวกลับหลังไป

จนแม้ตอนนี้นางจะปลิวลิ่วไปเช่นนั้น เฮ่อเซียงหยุนก็ยังไม่เข้าใจว่าเหตุใดตัวนางถึงได้ถูกลงโทษกันแน่

‘ศิษย์น้องข้าไม่เคารพเจ้า อาจารย์จี้ มันผิดด้วยหรือที่ข้าคิดจะพูดสั่งสอนศิษย์น้องข้า?’

แต่กู้หงนั้นก็ไม่ลงมือแรงจนเกินไปเช่นกัน เพราะแม้เสียงมันจะดังลั่น แต่ก็ไม่มีอันตรายถึงชีวิต

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียเฮ่อเซียงหยุนนี้ก็เป็นศิษย์พี่ใหญ่ของหอเมฆาน้ำแข็ง หากตบนางจนตายไปจริงทางเทพสวรรค์ปิงหยุนเองก็คงไม่นั่งอยู่เฉยแน่

แต่คำสั่งของเย่หยวนนี้เขาก็ทำตามอย่างไม่คิดลังเลใด

เมื่อเฮ่อเซียงหยุนคานกลับมาถึงที่ของตนใบหน้าของนางก็เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยฝ่ามือสีแดงแจ่มชัด

แต่ตัวนางนั้นได้แต่ทำหน้ามึนงงไม่เข้าใจว่าเหตุใดเย่หยวนจึงคิดตบลงโทษนาง

เย่หยวนนั้นมองออกถึงความสงสัยนั้นและยิ้มถามขึ้น “เจ้าเข้าใจหรือไม่ว่าทำไมตนจึงถูกลงโทษ?”

เฮ่อเซียงหยุนนั้นย่อมจะเข้าใจดีว่าเย่หยวนในเวลานี้คือผู้ปกครองทุ่งราบสุดอุดรนี้อย่างแท้จริง เป็นคนที่แม้แต่อาจารย์ของนางยังไม่กล้าจะขัด นางจึงได้แต่ต้องทนรับการตบนี้ไว้

เมื่อได้ยินคำถามของเย่หยวนเฮ่อเซียงหยุนก็ส่ายหัวออกมาอย่างมึนงง

“ไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงถูกลงโทษ? นังโง่! กู้หง ตบมันอีกครั้ง!” เย่หยวนสั่ง

กู้หงเองก็แสดงสีหน้ามึนงงออกมา แต่ก็ยังทำตามคำสั่งของเย่หยวนอย่างไม่คิดขัด อีกฝ่ามือหนึ่งถูกตบลงบนใบหน้าของเฮ่อเซียงหยุนจนส่งร่างนางปลิวไปอีกครั้ง

ฝ่ามือของเทพสวรรค์นั้นมันหนักหน่วงปานใด?

เทพสวรรค์กู้หงนั้นควบคุมกำลังของตนอย่างดี สองฝ่ามือนี้มันมากพอที่จะทำให้นางต้องบาดเจ็บ

ตอนนี้บนแก้มทั้งสองฝั่งของเฮ่อเซียงหยุนมีรอยมือสิบนิ้วประทับอยู่อย่างชัดเจน

สองฝ่ามือนี้มันตบจนเฮ่อเซียงหยุนแทบจะเห็นดวงดาวหมุนวนอยู่ตรงหน้า เริ่มจะไม่เข้าใจว่าทิศไหนมันเหนือมันใต้

หลังจากเฮ่อเซียงหยุนลุกกลับขึ้นมานั่งได้เย่หยวนก็ถามขึ้นอีกครั้ง “ตอนนี้เจ้าเข้าใจหรือยัง?”

แล้วมีหรือที่เฮ่อเซียงหยุนจะยังกล้าส่ายหัว? เวลานี้นางจึงรีบพยักหน้ารับออกมา “ข-เข้าใจแล้ว ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ!”

แต่เย่หยวนกลับตะคอกออกมา “กู้หง ตบมันอีก!”

เมื่อได้ยินแม้แต่ทางเทพสวรรค์กู้หงเองก็ยังสงสารเฮ่อเซียงหยุนขึ้นมาจับใจ

แต่เขานั้นก็ไม่คิดจะออมมือใด ๆ พุ่งตัวเขาไปตบหน้าของเฮ่อเซียงหยุนจนลอยปลิวไปอีก

หลังจากนางค่อย ๆ คลานกลับมาถึงเย่หยวนจึงกล่าวขึ้น “ไม่เข้าใจแท้ ๆ แต่กลับแสร้งเป็นเข้าใจ สมควรถูกตบจริง ๆ!”

เฮ่อเซียงหยุนนั้นรู้สึกรุ่มร้อนไปทั้งกายและใจ

เหตุผลการตบตีผู้คนของเจ้านี่มันช่างน่าฟังจริง ๆ!

เพียงแค่ว่านางย่อมจะไม่กล้ากล่าวคำเหล่านั้นออกมาจากปาก แต่เฮ่อเซียงหยุนนั้นเริ่มมีน้ำตาไหลลงมาอาบหน้าแล้วในเวลานี้ด้วยความรู้สึกราวกับกำลังถูกรังแก

“หึ! ในห้างยอดโอสถนี้ใครจะคุกเข่าไม่คุกเข่า มันก็เป็นเรื่องที่ข้าสั่งได้คนเดียวเท่านั้น มันมิใช่หน้าที่ใด ๆ ของเจ้าที่จะมาชี้นิ้วสั่งคนในนี้! ตอนนี้เข้าใจหรือยัง?” เย่หยวนกล่าวออกมา

เฮ่อเซียงหยุนได้แต่พยักหน้ารับด้วยน้ำตานองหน้า

‘มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!’

…………….

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+