Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2082 มาขอโทษข้า

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2082 มาขอโทษข้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“นายน้อย!”

เมื่อนางเข้ามาถึงห้องหลอมโอสถด้านหลังลู่เอ๋อก็ไม่อาจจะอดทนกลั้นตนได้อีกต่อไป รีบเข้าสวมกอดกับเย่หยวนอย่างรุนแรงพร้อมน้ำตาที่ไหลนองหน้า

เย่หยวนนั้นค่อยปลอมนางอย่างอ่อนโยนด้วยความเศร้าเสียใจมากมายมหาศาล

สำหรับนักยุทธทั้งหลายแล้วเวลาพันปีมันอาจจะแสนสั้น

แต่กับเย่หยวนและลู่เอ๋อนั้นเวลาพันปีมันสุดแสนจะยาวนาน!

เย่หยวนนั้นเดินเริ่มเดินทางตั้งแต่อยู่รัฐฉิน คนที่ร่วมทางกับเขามายาวนานที่สุดมันก็ย่อมจะเป็นลู่เอ๋อ

คนทั้งสองนี้มีสายสัมพันธ์เป็นนายบ่าว แต่แท้จริงแล้วเย่หยวนเองก็ไม่อาจจะอธิบายความรู้สึกที่ตนมีได้

เวลากว่าพันที่ปีผ่านไปนี้มันเป็นดั่งมรสุมในจิตใจของคนทั้งสองอย่างมาก

“เอาล่ะ ๆ อย่าร้องอีกเลย ๆ นายน้อยของเจ้ามารับเจ้าแล้วนี่ไง!” เย่หยวนได้แต่ลูบหลังของลู่เอ๋ออย่างแผ่วเบาด้วยความรู้สึกที่หนักอึ้งไปทั้งใจ

ตั้งแต่ที่ลี่เอ๋อและพวกเดินทางจากเมืองอินทรีสวรรค์ไป เย่หยวนก็กังวลถึงพวกเขาทั้งหลายอย่างมากมาย

จากนั้นมามันก็มีเรื่องของอิ้งหมัวหู่จากนั้นก็เรื่องของลี่เอ๋อ แต่สุดท้ายคนที่เขายังกังวลถึงมากที่สุดมันก็คือลู่เอ๋อ

เพราะลู่เอ๋อนั้นเป็นแค่คนเดียวที่ไม่มีข่าวคราวใดทำให้เย่หยวนกังวลอย่างสุดหัวใจ

ความทรมานนั้นมากมายปานใด มันคงมีแต่ตัวเขาที่จะเข้าใจได้

“ฮือ ๆ…นายน้อย ข้า…ข้าคิดไปเสียว่า…”

“อืม ๆ เจ้าคิดว่าศิษย์พี่ซุนของเจ้าจะมาจับตัวข้า รังแกข่มเหงข้า?” เย่หยวนหัวเราะขึ้น

ลู่เอ๋อพยักหน้าออกมา หลายปีมานี้นางไม่อาจหายใจหายคอ กินอาหารอิ่มท้องได้ก็เพราะว่านางกังวลเรื่องนี้อย่างมาก

“แม่นางลู่เอ๋อวางใจเถอะ ตอนนี้นายท่านนั้นมีตำแหน่งใหญ่โต ท่านใช้กำลังของตนเอาชนะทั้งแดนใต้ด้วยตนเองตอนนี้ท่านได้กลายเป็นจอมเทพโอสถอันดับหนึ่งแห่งแดนใต้ไปแล้ว! ทั้งตอนนี้เมืองอินทรีสวรรค์เราได้กลายสภาพเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการโอสถไป ต่อให้จะเป็นเทพสวรรค์ทั้งหลายแต่หากมาถึงหน้านายท่านแล้วพวกเขาก็ยังต้องเรียกนายท่านว่าปรมาจารย์เย่! เหล่าศิษย์พี่ทั้งหลายของแม่นางนั้นไม่รู้เรื่องรู้ราวเดินเข้าเมืองมาจับตัวนายท่านอย่างโง่เง่า รนหาที่ตายโดยแท้” หนิงเทียนปิงที่นั่งอยู่ในห้องด้วยพูดเสริมขึ้น

เมื่อลู่เอ๋อได้ยินนางกลับต้องเบิกตากว้างเหมือนเพิ่งได้ยินเรื่องราวจากสวรรค์อย่างที่ไม่อาจเชื่อได้มากมายนัก

จอมเทพโอสถอันดับหนึ่งแห่งแดนใต้และเจ้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการโอสถ!

ลู่เอ๋อในเวลานี้ที่เดินทางไกลแสนไกลย่อมจะเข้าใจว่าแดนใต้นั้นมันยิ่งใหญ่ปานใด

เย่หยวนนั้นกลับกลายเป็นคนระดับเจ้านายของแดนใต้ทั้งหมดทั้งสิ้นไปได้

“ที่แท้นายน้อยท่านเก่งกาจได้ถึงปานนี้แล้ว?” ลู่เอ๋อทั้งตื่นตะลึงทั้งดีใจ

แน่นอนว่ายิ่งนายน้อยของนางเก่งกาจมากเท่าใด ตัวนางก็จะยิ่งตื่นเต้นดีใจไปด้วยเท่านั้น

เย่หยวนยิ้มออกมา “ไม่ว่าจะอย่างไรเสีย ข้าก็เป็นนายน้อยของเจ้า!”

แต่จู่ ๆ เย่หยวนก็ต้องขมวดคิ้วด้วยสีหน้าหนักใจ “เจ้ามีบาดแผลหนักหน่วงทั่วร่าง มันคงมีคนใช้ค่ายกลสายฟ้าทำร้ายเจ้าใช่หรือไม่? หากข้าเดาไม่ผิดแล้วมันคงเป็นศิษย์พี่ใหญ่ของเจ้า เฮ่อเซียงหยุนใช่หรือไม่?”

ลู่เอ๋อตอบกลับมาด้วยสีหน้าตื่นตกใจ “นายน้อยท่าน… รู้อยู่แล้ว?”

เย่หยวนจึงหัวเราะขึ้น “ศิษย์พี่ซุนของเจ้านั้นมันโง่เง่าจนถึงข้าค้นจิตสิ้นแล้ว! หากมิใช่เช่นนั้นมีหรือที่ข้าจะวางแผนการใหญ่โตจนทำให้เทพสวรรค์ปิงหยุนต้องส่งเจ้าออกมาเช่นนี้ได้?”

เมื่อลู่เอ๋อได้ยินนางก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกจุกขึ้นมาในอก

เย่หยวนนั้นรู้ว่าลู่เอ๋อมีนิสัยอย่างไรจึงได้แต่ถอนหายใจยาว “เจ้านี่นะ เวลาก็ผ่านไปตั้งหลายต่อหลายปีเจ้าเองก็โตเป็นสาวแล้ว นิสัยภายในกลับไม่ยอมเปลี่ยนแปลง ทั้งเฮ่อเซียงหยุนทั้งซุนชิงหลิงต่างรังแกเจ้าอย่างมากมาย เจ้ากลับยังคิดจะไปเสียใจแทนพวกมัน?”

เมื่อลู่เอ๋อได้ยินนางก็อดไม่ได้ที่จะตอบสวนมา “พวกนาง… จะอย่างไรเสียพวกนางก็เป็นศิษย์พี่ของข้า”

เย่หยวนนั้นได้แต่ถอนหายใจยาวคิดเปลี่ยนเรื่องคุย “เอาล่ะ ไม่ต้องพูดเรื่องนั้นกันอีกแล้ว ตอนนี้นายน้อยของเจ้าจะจัดการดูแลแผลให้แก่เจ้าก่อน!”

เมื่อได้ตรวจดูร่างกายของลู่เอ๋อ เย่หยวนจึงได้รับรู้ถึงความหนักหนาสาหัสของแผลบนร่างนาง

เย่หยวนนั้นมีวิชาโอสถเหนือล้ำปานใด? การรักษาตรวจโรคง่าย ๆ นี้มันทำให้เขารู้ทันทีว่าบางแผลบนร่างของลู่เอ๋อนั้นเป็นแผลจากอาการบาดเจ็บเมื่อนับสิบปีก่อน

หลายแผลนั้นเป็นแผลเก่าที่อยู่มายาวนานกว่าร้อยปีเสียด้วยซ้ำ!

ยิ่งได้ตรวจดูเย่หยวนก็ยิ่งรุ่มร้อนขึ้นในหัวใจ

เขานั้นได้ตัดสินใจไว้แล้วว่าเฮ่อเซียงหยุนนางนั้นมันต้องตาย

แน่นอนว่าเขาย่อมไม่คิดจะบอกลู่เอ๋อ

หลังจากที่เย่หยวนได้พบเจอลู่เอ๋อไปไม่นานอีกด้านมันก็เกิดเรื่องใหญ่โตขึ้นในชุมเก้าสาย

เพราะเวลานี้ทางคุณชายแห่งชุมวายุไพศาล เฟิงเทียนหยางที่ได้ออกจากการเก็บตัวได้เดินทางมายังชุมเก้าสายพร้อมเทพสวรรค์หลัวเฟิงพี่น้องของเทพสวรรค์ห่าวเฟิงเพื่อคุยเรื่องการแต่งงาน

และแน่นอนว่าเป้าหมายการพูดคุยครั้งนี้มันย่อมจะเป็นเรื่องของศิษย์แห่งหอเมฆาน้ำแข็ง

เรื่องราวนี้มันทำให้เกิดความแตกตื่นไปทั่วชุม

หอเมฆาน้ำแข็งนั้นเดิมทีเป็นกองกำลังที่ไม่ได้เก่งกาจมากมายในชุมเก้าสาย แต่จู่ ๆ พวกนางทั้งหลายก็กลับกลายเป็นจุดสนใจของผู้คนขึ้นมา

ชุมวายุไพศาลนั้นเป็นหนึ่งในค่ายกองกำลังที่ใหญ่ที่สุดในทุ่งราบสุดอุดร เทพสวรรค์ห่าวเฟิงนั้นเป็นถึงเทพสวรรค์ห้าดาว มีชื่อเสียงสั่นสะท้านดินแดน

แต่มันแตกต่างจากชุมเก้าสายที่ทุกผู้คนต่างปกครองไปตามเรื่องราวของตน ทางชุมวายุไพศาลนั้นมันมีเทมพสวรรค์ห่าวเฟิงเป็นเจ้าผู้ปกครองเหนือหัวผู้คนทั้งหลาย

แน่นอนว่านั่นมันย่อมจะทำให้ภายใต้การปกครองของเขานั้นมีเทพสวรรค์อยู่ไม่น้อย

ส่วนทางเฟิงเทียนหยางนั้นก็ได้ชื่อว่าเป็นยอดคนอันดับหนึ่งแห่งทุ่งรายสุดอุดร ตัวเขานั้นเป็นถึงจอมเทพถ่องแท้เก้าดาว

เพียงแค่ก้าวเดียวเขาก็จะก้าวขึ้นถึงอาณาจักรเทพสวรรค์ได้!

เทพสวรรค์ปิงหยุนนั้นไม่นึกไม่ฝันว่าทางชุมวายุไพศาลจะคิดทำให้เรื่องราวมันใหญ่โตปานนี้ ถึงขั้นส่งเทพสวรรค์หลัวเฟิงออกมา

เวลานี้ทางศิษย์ของหอเมฆาน้ำแข็งทั้งหลายต่างออกมารับหน้าพวกเทพสวรรค์หลัวเฟิงสิ้น

ทั้งพร้อมด้วยเหล่าเทพสวรรค์อีกแปดคนเองด้วย

“หึ ๆ ไม่ได้เจอกันเสียนานน้องปิงหยุนยังคงสวยงามเช่นเดิม!” เทพสวรรค์หลัวเฟิงกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้ม

เทพสวรรค์ปิงหยุนนั้นได้แต่ต้องยิ้มตอบ “พี่หลัวเฟิงคงหยอกล้อปิงหยุนแล้ว ความงามของปิงหยุนนั้นมันได้จางหายไปตามเวลา จะมีความสวยงามใด ๆ หลงเหลือ?”

เทพสวรรค์หลัวเฟิงนั้นอดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้น “นักยุทธผู้บ่มเพาะอย่างเราต้องกลัวเรื่องกาลเวลาใด ๆ เล่า? น้องปิงหยุนนั้นจะถ่อมตัวไปแล้ว”

ในเวลานี้ชายแก่อีกคนก็ได้ก้าวขึ้นมาทักทายนางด้วย เมื่อเทพสวรรค์ปิงหยุนหันไปเห็นนางก็จดจำได้ทันทีว่านี่คือเทพสวรรค์เซียวหยู

เทพสวรรค์ปิงหยุนนั้นรีบยิ้มตอบไปทันทีเพราะไม่นึกไม่ฝันว่าทางเทพสวรรค์เซียวหยูเองก็จะคิดติดตามมาด้วย

ทุกผู้คนที่อยู่ในที่นี้ต่างตื่นตะลึง

ชุมวายุไพศาลนั้นจะทำให้เรื่องการแต่งงานนี้เป็นเรื่องใหญ่เกินไปหรือไม่? ถึงขั้นส่งเทพสวรรค์ออกมาพูดคุยถึงสองคน

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียเฟิงเทียนหยางคนนี้ก็มีเมียอยู่แล้ว ที่จะแต่งลู่เอ๋อเข้าไปก็แค่เป็นนางบำเรอ

คนทั้งหลายต่างคิดไปตาม ๆ กันว่าเทพสวรรค์เซียวหยูคงมีแผนการไม่ดีใด ๆ แน่และเรื่องนั้นมันต้องเกี่ยวข้องกับอาจารย์จี้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเทพสวรรค์กู้หงที่เขารับรู้ถึงมันได้ดี

เทพสวรรค์เซียวหยูผู้นี้รู้สึกอิจฉาตัวเขาที่ได้รับการสั่งสอนจากเย่หยวน

“เฟิงเทียนหยางคารวะผู้อาวุโสปิงหยุนและท่านผู้อาวุโสทั้งหลาย”

ในเวลานี้มันได้มีเงาร่างชายหนุ่มผู้หนึ่งเดินออกมาจากด้านหลังของเทพสวรรค์หลัวเฟิงและก้มหัวลงคารวะเทพสวรรค์ปิงหยุนและคนทั้งหลาย

แต่ท่าทางของเขานั้นมันไม่ได้มีความเคารพใด ๆ แก่ผู้เฒ่าผู้แก่ มันเป็นท่าทางราวเป็นคนรุ่นเดียวกันอย่างไม่ผิดเพี้ยน

เทพสวรรค์ปิงหยุนนั้นย่อมไม่คิดใส่ใจและยิ้มตอบออกมา “หึ ๆ ไม่ได้เจอแค่ไม่นานหลานเฟิงกลับพัฒนาการบ่มเพาะไปได้เหลือล้น!”

เทพสวรรค์ปิงหยุนนั้นตื่นตะลึงอย่างมาก เพราะครั้งก่อนที่นางได้เจอหน้าเฟิงเทียนหยางนั้นมันเพิ่งจะผ่านไปแค่ราวร้อยปี

ในตอนนั้นตัวเฟิงเทียนหยางนั้นเป็นแค่เทพถ่องแท้เก้าดาวขั้นกลาง แต่นี่เมื่อผ่านไปได้แค่ร้อยปีตัวเฟิงเทียนหยางกลับก้าวขึ้นมาถึงขั้นสุด ห่างจากอาณาจักรเทพสวรรค์เพียงแค่ก้าว

ด้วยความเร็วระดับนี้อีกไม่เกินสองพันปีตัวเขาคงก้าวขึ้นเป็นถึงเทพสวรรค์ได้แน่

เฟิงเทียนหยางนั้นได้แต่ยิ้มรับไม่คิดสนใจคำชมใด ๆ

เพียงแค่ว่าเมื่อสายตาของเขามองผ่านไปคิ้วของเขากลับต้องขมวดแน่น “ผู้อาวุโสปิงหยุน ศิษย์หอเมฆาน้ำแข็งท่านมารวมตัวกันสิ้น แต่เหตุใดมันจึงไม่มีลู่เอ๋อเล่า?”

เทพสวรรค์ปิงหยุนได้แต่ยิ้มด้วยสีหน้าซีด ๆ ก่อนจะอธิบายเรื่องราวไป

ใครจะไปคิดว่าเมื่อทางเฟิงเทียนหยางเขากลับพ่นลมหายใจแรงอย่างไม่พอใจ “ผู้อาวุโสปิงหยุน ท่านเองก็ทำการโง่เง่าเช่นนี้ได้! ลู่เอ๋อนั้นคืออนาคตภรรยาข้า แต่ท่านกลับส่งนางไปอยู่ร่วมห้องกับชายอื่น! เทพสวรรค์กู้หง จี้ฉิงหยุนผู้นั้นเป็นคนของห้างยอดโอสถใช่หรือไม่? ไปสั่งให้คนพาตัวจี้ฉิงหยุนนั้นมาขอโทษข้าเดี๋ยวนี้! บอกไปว่าเป็นคำสั่งของข้า เฟิงเทียนหยาง!”

………………..

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2082 มาขอโทษข้า

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2082 มาขอโทษข้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“นายน้อย!”

เมื่อนางเข้ามาถึงห้องหลอมโอสถด้านหลังลู่เอ๋อก็ไม่อาจจะอดทนกลั้นตนได้อีกต่อไป รีบเข้าสวมกอดกับเย่หยวนอย่างรุนแรงพร้อมน้ำตาที่ไหลนองหน้า

เย่หยวนนั้นค่อยปลอมนางอย่างอ่อนโยนด้วยความเศร้าเสียใจมากมายมหาศาล

สำหรับนักยุทธทั้งหลายแล้วเวลาพันปีมันอาจจะแสนสั้น

แต่กับเย่หยวนและลู่เอ๋อนั้นเวลาพันปีมันสุดแสนจะยาวนาน!

เย่หยวนนั้นเดินเริ่มเดินทางตั้งแต่อยู่รัฐฉิน คนที่ร่วมทางกับเขามายาวนานที่สุดมันก็ย่อมจะเป็นลู่เอ๋อ

คนทั้งสองนี้มีสายสัมพันธ์เป็นนายบ่าว แต่แท้จริงแล้วเย่หยวนเองก็ไม่อาจจะอธิบายความรู้สึกที่ตนมีได้

เวลากว่าพันที่ปีผ่านไปนี้มันเป็นดั่งมรสุมในจิตใจของคนทั้งสองอย่างมาก

“เอาล่ะ ๆ อย่าร้องอีกเลย ๆ นายน้อยของเจ้ามารับเจ้าแล้วนี่ไง!” เย่หยวนได้แต่ลูบหลังของลู่เอ๋ออย่างแผ่วเบาด้วยความรู้สึกที่หนักอึ้งไปทั้งใจ

ตั้งแต่ที่ลี่เอ๋อและพวกเดินทางจากเมืองอินทรีสวรรค์ไป เย่หยวนก็กังวลถึงพวกเขาทั้งหลายอย่างมากมาย

จากนั้นมามันก็มีเรื่องของอิ้งหมัวหู่จากนั้นก็เรื่องของลี่เอ๋อ แต่สุดท้ายคนที่เขายังกังวลถึงมากที่สุดมันก็คือลู่เอ๋อ

เพราะลู่เอ๋อนั้นเป็นแค่คนเดียวที่ไม่มีข่าวคราวใดทำให้เย่หยวนกังวลอย่างสุดหัวใจ

ความทรมานนั้นมากมายปานใด มันคงมีแต่ตัวเขาที่จะเข้าใจได้

“ฮือ ๆ…นายน้อย ข้า…ข้าคิดไปเสียว่า…”

“อืม ๆ เจ้าคิดว่าศิษย์พี่ซุนของเจ้าจะมาจับตัวข้า รังแกข่มเหงข้า?” เย่หยวนหัวเราะขึ้น

ลู่เอ๋อพยักหน้าออกมา หลายปีมานี้นางไม่อาจหายใจหายคอ กินอาหารอิ่มท้องได้ก็เพราะว่านางกังวลเรื่องนี้อย่างมาก

“แม่นางลู่เอ๋อวางใจเถอะ ตอนนี้นายท่านนั้นมีตำแหน่งใหญ่โต ท่านใช้กำลังของตนเอาชนะทั้งแดนใต้ด้วยตนเองตอนนี้ท่านได้กลายเป็นจอมเทพโอสถอันดับหนึ่งแห่งแดนใต้ไปแล้ว! ทั้งตอนนี้เมืองอินทรีสวรรค์เราได้กลายสภาพเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการโอสถไป ต่อให้จะเป็นเทพสวรรค์ทั้งหลายแต่หากมาถึงหน้านายท่านแล้วพวกเขาก็ยังต้องเรียกนายท่านว่าปรมาจารย์เย่! เหล่าศิษย์พี่ทั้งหลายของแม่นางนั้นไม่รู้เรื่องรู้ราวเดินเข้าเมืองมาจับตัวนายท่านอย่างโง่เง่า รนหาที่ตายโดยแท้” หนิงเทียนปิงที่นั่งอยู่ในห้องด้วยพูดเสริมขึ้น

เมื่อลู่เอ๋อได้ยินนางกลับต้องเบิกตากว้างเหมือนเพิ่งได้ยินเรื่องราวจากสวรรค์อย่างที่ไม่อาจเชื่อได้มากมายนัก

จอมเทพโอสถอันดับหนึ่งแห่งแดนใต้และเจ้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการโอสถ!

ลู่เอ๋อในเวลานี้ที่เดินทางไกลแสนไกลย่อมจะเข้าใจว่าแดนใต้นั้นมันยิ่งใหญ่ปานใด

เย่หยวนนั้นกลับกลายเป็นคนระดับเจ้านายของแดนใต้ทั้งหมดทั้งสิ้นไปได้

“ที่แท้นายน้อยท่านเก่งกาจได้ถึงปานนี้แล้ว?” ลู่เอ๋อทั้งตื่นตะลึงทั้งดีใจ

แน่นอนว่ายิ่งนายน้อยของนางเก่งกาจมากเท่าใด ตัวนางก็จะยิ่งตื่นเต้นดีใจไปด้วยเท่านั้น

เย่หยวนยิ้มออกมา “ไม่ว่าจะอย่างไรเสีย ข้าก็เป็นนายน้อยของเจ้า!”

แต่จู่ ๆ เย่หยวนก็ต้องขมวดคิ้วด้วยสีหน้าหนักใจ “เจ้ามีบาดแผลหนักหน่วงทั่วร่าง มันคงมีคนใช้ค่ายกลสายฟ้าทำร้ายเจ้าใช่หรือไม่? หากข้าเดาไม่ผิดแล้วมันคงเป็นศิษย์พี่ใหญ่ของเจ้า เฮ่อเซียงหยุนใช่หรือไม่?”

ลู่เอ๋อตอบกลับมาด้วยสีหน้าตื่นตกใจ “นายน้อยท่าน… รู้อยู่แล้ว?”

เย่หยวนจึงหัวเราะขึ้น “ศิษย์พี่ซุนของเจ้านั้นมันโง่เง่าจนถึงข้าค้นจิตสิ้นแล้ว! หากมิใช่เช่นนั้นมีหรือที่ข้าจะวางแผนการใหญ่โตจนทำให้เทพสวรรค์ปิงหยุนต้องส่งเจ้าออกมาเช่นนี้ได้?”

เมื่อลู่เอ๋อได้ยินนางก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกจุกขึ้นมาในอก

เย่หยวนนั้นรู้ว่าลู่เอ๋อมีนิสัยอย่างไรจึงได้แต่ถอนหายใจยาว “เจ้านี่นะ เวลาก็ผ่านไปตั้งหลายต่อหลายปีเจ้าเองก็โตเป็นสาวแล้ว นิสัยภายในกลับไม่ยอมเปลี่ยนแปลง ทั้งเฮ่อเซียงหยุนทั้งซุนชิงหลิงต่างรังแกเจ้าอย่างมากมาย เจ้ากลับยังคิดจะไปเสียใจแทนพวกมัน?”

เมื่อลู่เอ๋อได้ยินนางก็อดไม่ได้ที่จะตอบสวนมา “พวกนาง… จะอย่างไรเสียพวกนางก็เป็นศิษย์พี่ของข้า”

เย่หยวนนั้นได้แต่ถอนหายใจยาวคิดเปลี่ยนเรื่องคุย “เอาล่ะ ไม่ต้องพูดเรื่องนั้นกันอีกแล้ว ตอนนี้นายน้อยของเจ้าจะจัดการดูแลแผลให้แก่เจ้าก่อน!”

เมื่อได้ตรวจดูร่างกายของลู่เอ๋อ เย่หยวนจึงได้รับรู้ถึงความหนักหนาสาหัสของแผลบนร่างนาง

เย่หยวนนั้นมีวิชาโอสถเหนือล้ำปานใด? การรักษาตรวจโรคง่าย ๆ นี้มันทำให้เขารู้ทันทีว่าบางแผลบนร่างของลู่เอ๋อนั้นเป็นแผลจากอาการบาดเจ็บเมื่อนับสิบปีก่อน

หลายแผลนั้นเป็นแผลเก่าที่อยู่มายาวนานกว่าร้อยปีเสียด้วยซ้ำ!

ยิ่งได้ตรวจดูเย่หยวนก็ยิ่งรุ่มร้อนขึ้นในหัวใจ

เขานั้นได้ตัดสินใจไว้แล้วว่าเฮ่อเซียงหยุนนางนั้นมันต้องตาย

แน่นอนว่าเขาย่อมไม่คิดจะบอกลู่เอ๋อ

หลังจากที่เย่หยวนได้พบเจอลู่เอ๋อไปไม่นานอีกด้านมันก็เกิดเรื่องใหญ่โตขึ้นในชุมเก้าสาย

เพราะเวลานี้ทางคุณชายแห่งชุมวายุไพศาล เฟิงเทียนหยางที่ได้ออกจากการเก็บตัวได้เดินทางมายังชุมเก้าสายพร้อมเทพสวรรค์หลัวเฟิงพี่น้องของเทพสวรรค์ห่าวเฟิงเพื่อคุยเรื่องการแต่งงาน

และแน่นอนว่าเป้าหมายการพูดคุยครั้งนี้มันย่อมจะเป็นเรื่องของศิษย์แห่งหอเมฆาน้ำแข็ง

เรื่องราวนี้มันทำให้เกิดความแตกตื่นไปทั่วชุม

หอเมฆาน้ำแข็งนั้นเดิมทีเป็นกองกำลังที่ไม่ได้เก่งกาจมากมายในชุมเก้าสาย แต่จู่ ๆ พวกนางทั้งหลายก็กลับกลายเป็นจุดสนใจของผู้คนขึ้นมา

ชุมวายุไพศาลนั้นเป็นหนึ่งในค่ายกองกำลังที่ใหญ่ที่สุดในทุ่งราบสุดอุดร เทพสวรรค์ห่าวเฟิงนั้นเป็นถึงเทพสวรรค์ห้าดาว มีชื่อเสียงสั่นสะท้านดินแดน

แต่มันแตกต่างจากชุมเก้าสายที่ทุกผู้คนต่างปกครองไปตามเรื่องราวของตน ทางชุมวายุไพศาลนั้นมันมีเทมพสวรรค์ห่าวเฟิงเป็นเจ้าผู้ปกครองเหนือหัวผู้คนทั้งหลาย

แน่นอนว่านั่นมันย่อมจะทำให้ภายใต้การปกครองของเขานั้นมีเทพสวรรค์อยู่ไม่น้อย

ส่วนทางเฟิงเทียนหยางนั้นก็ได้ชื่อว่าเป็นยอดคนอันดับหนึ่งแห่งทุ่งรายสุดอุดร ตัวเขานั้นเป็นถึงจอมเทพถ่องแท้เก้าดาว

เพียงแค่ก้าวเดียวเขาก็จะก้าวขึ้นถึงอาณาจักรเทพสวรรค์ได้!

เทพสวรรค์ปิงหยุนนั้นไม่นึกไม่ฝันว่าทางชุมวายุไพศาลจะคิดทำให้เรื่องราวมันใหญ่โตปานนี้ ถึงขั้นส่งเทพสวรรค์หลัวเฟิงออกมา

เวลานี้ทางศิษย์ของหอเมฆาน้ำแข็งทั้งหลายต่างออกมารับหน้าพวกเทพสวรรค์หลัวเฟิงสิ้น

ทั้งพร้อมด้วยเหล่าเทพสวรรค์อีกแปดคนเองด้วย

“หึ ๆ ไม่ได้เจอกันเสียนานน้องปิงหยุนยังคงสวยงามเช่นเดิม!” เทพสวรรค์หลัวเฟิงกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้ม

เทพสวรรค์ปิงหยุนนั้นได้แต่ต้องยิ้มตอบ “พี่หลัวเฟิงคงหยอกล้อปิงหยุนแล้ว ความงามของปิงหยุนนั้นมันได้จางหายไปตามเวลา จะมีความสวยงามใด ๆ หลงเหลือ?”

เทพสวรรค์หลัวเฟิงนั้นอดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้น “นักยุทธผู้บ่มเพาะอย่างเราต้องกลัวเรื่องกาลเวลาใด ๆ เล่า? น้องปิงหยุนนั้นจะถ่อมตัวไปแล้ว”

ในเวลานี้ชายแก่อีกคนก็ได้ก้าวขึ้นมาทักทายนางด้วย เมื่อเทพสวรรค์ปิงหยุนหันไปเห็นนางก็จดจำได้ทันทีว่านี่คือเทพสวรรค์เซียวหยู

เทพสวรรค์ปิงหยุนนั้นรีบยิ้มตอบไปทันทีเพราะไม่นึกไม่ฝันว่าทางเทพสวรรค์เซียวหยูเองก็จะคิดติดตามมาด้วย

ทุกผู้คนที่อยู่ในที่นี้ต่างตื่นตะลึง

ชุมวายุไพศาลนั้นจะทำให้เรื่องการแต่งงานนี้เป็นเรื่องใหญ่เกินไปหรือไม่? ถึงขั้นส่งเทพสวรรค์ออกมาพูดคุยถึงสองคน

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียเฟิงเทียนหยางคนนี้ก็มีเมียอยู่แล้ว ที่จะแต่งลู่เอ๋อเข้าไปก็แค่เป็นนางบำเรอ

คนทั้งหลายต่างคิดไปตาม ๆ กันว่าเทพสวรรค์เซียวหยูคงมีแผนการไม่ดีใด ๆ แน่และเรื่องนั้นมันต้องเกี่ยวข้องกับอาจารย์จี้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเทพสวรรค์กู้หงที่เขารับรู้ถึงมันได้ดี

เทพสวรรค์เซียวหยูผู้นี้รู้สึกอิจฉาตัวเขาที่ได้รับการสั่งสอนจากเย่หยวน

“เฟิงเทียนหยางคารวะผู้อาวุโสปิงหยุนและท่านผู้อาวุโสทั้งหลาย”

ในเวลานี้มันได้มีเงาร่างชายหนุ่มผู้หนึ่งเดินออกมาจากด้านหลังของเทพสวรรค์หลัวเฟิงและก้มหัวลงคารวะเทพสวรรค์ปิงหยุนและคนทั้งหลาย

แต่ท่าทางของเขานั้นมันไม่ได้มีความเคารพใด ๆ แก่ผู้เฒ่าผู้แก่ มันเป็นท่าทางราวเป็นคนรุ่นเดียวกันอย่างไม่ผิดเพี้ยน

เทพสวรรค์ปิงหยุนนั้นย่อมไม่คิดใส่ใจและยิ้มตอบออกมา “หึ ๆ ไม่ได้เจอแค่ไม่นานหลานเฟิงกลับพัฒนาการบ่มเพาะไปได้เหลือล้น!”

เทพสวรรค์ปิงหยุนนั้นตื่นตะลึงอย่างมาก เพราะครั้งก่อนที่นางได้เจอหน้าเฟิงเทียนหยางนั้นมันเพิ่งจะผ่านไปแค่ราวร้อยปี

ในตอนนั้นตัวเฟิงเทียนหยางนั้นเป็นแค่เทพถ่องแท้เก้าดาวขั้นกลาง แต่นี่เมื่อผ่านไปได้แค่ร้อยปีตัวเฟิงเทียนหยางกลับก้าวขึ้นมาถึงขั้นสุด ห่างจากอาณาจักรเทพสวรรค์เพียงแค่ก้าว

ด้วยความเร็วระดับนี้อีกไม่เกินสองพันปีตัวเขาคงก้าวขึ้นเป็นถึงเทพสวรรค์ได้แน่

เฟิงเทียนหยางนั้นได้แต่ยิ้มรับไม่คิดสนใจคำชมใด ๆ

เพียงแค่ว่าเมื่อสายตาของเขามองผ่านไปคิ้วของเขากลับต้องขมวดแน่น “ผู้อาวุโสปิงหยุน ศิษย์หอเมฆาน้ำแข็งท่านมารวมตัวกันสิ้น แต่เหตุใดมันจึงไม่มีลู่เอ๋อเล่า?”

เทพสวรรค์ปิงหยุนได้แต่ยิ้มด้วยสีหน้าซีด ๆ ก่อนจะอธิบายเรื่องราวไป

ใครจะไปคิดว่าเมื่อทางเฟิงเทียนหยางเขากลับพ่นลมหายใจแรงอย่างไม่พอใจ “ผู้อาวุโสปิงหยุน ท่านเองก็ทำการโง่เง่าเช่นนี้ได้! ลู่เอ๋อนั้นคืออนาคตภรรยาข้า แต่ท่านกลับส่งนางไปอยู่ร่วมห้องกับชายอื่น! เทพสวรรค์กู้หง จี้ฉิงหยุนผู้นั้นเป็นคนของห้างยอดโอสถใช่หรือไม่? ไปสั่งให้คนพาตัวจี้ฉิงหยุนนั้นมาขอโทษข้าเดี๋ยวนี้! บอกไปว่าเป็นคำสั่งของข้า เฟิงเทียนหยาง!”

………………..

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+