Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2129 เมืองบูรพาโลกเสมือน

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2129 เมืองบูรพาโลกเสมือน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ไม่ได้! เจ้าจะไปกราบเขาเป็นอาจารย์ไม่ได้! หากเจ้าไปกราบเขาเป็นอาจารย์แล้วข้าก็ต้องกลายเป็นคนรุ่นหลังเขาไปสิ?”

“ข้าต้องกราบรองมหาปราชญ์เป็นอาจารย์ให้ได้! โอกาสนี้พลาดไปแล้วชาตินี้คงไม่อาจหาได้อีก!”

“ข้าบอกว่าไม่ ก็คือไม่! หากเจ้ายังคิดไปกราบเขาอีกข้าจะร้องไห้จริง ๆ แล้วด้วย!”

“เจ้านี่มันรั้นไม่ยอมหยุดเสียที!”

“เจ้าต่างหากที่ไม่ยอมฟังเหตุผล! หึ่ม!”

ภายในวิหารนักบวชนั้นมีสองเงาร่างกำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่อย่างดุดัน หนึ่งพยายามรั้งหนึ่งพยายามไป แน่นอนว่าทั้งสองนี้คือหลงเสี่ยวไห่และหลงเสี่ยวฉุนสองพี่น้องแล้ว

ส่วนที่ด้านหลังของคนทั้งสองนั้นมีหลงฉือกำลังยืนส่ายหัวอยู่

หลงเสี่ยวฉุนนางนี้ช่างน่าปวดหัวจริง ๆ

ซินหลัวนั้นออกมาจากโถงในเพื่อต้อนรับแขก แต่เมื่อได้เห็นภาพตรงหน้าตัวเขาก็อดไม่ได้ที่อมยิ้มออกมา “โปรดรอสักครู่ เวลานี้ท่านฉือเซียวกำลังปรึกษาขอความรู้จากท่านรองมหาปราชญ์อยู่ อีกไม่นานท่านรองมหาปราชญ์คงออกมาพบพวกท่านได้”

หลงฉือพยักหน้ารับ

ตัวเขานั้นเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์แน่นอนว่าย่อมจะไม่คิดวางตัวสุภาพใด ๆ ต่อหน้าซินหลัว

เวลานี้เย่หยวนได้ย้ายเข้ามาอยู่ภายในวิหารนักบวชประจำเมืองและมีเหล่านักบวชทั้งหลายคอยรับใช้บูชาราวกับเขาเป็นเทพเจ้า

ทุก ๆ วันจะมีเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายเข้ามาพบปะเขาเสมอด้วยท่าทางสุดเคารพ

ฉือเซียวเองก็เป็นหนึ่งในคนทั้งหลายนั้น ตัวเขาทิ้งศักดิ์ศรีใด ๆ ที่เคยค้ำคอและเข้ามาขอความรู้จากเย่หยวนทุก ๆ วัน ถามถึงความรู้ด้านโอสถที่ตนยังไม่เข้าใจ

และในทุก ๆ วันเขาจะได้กลับไปพร้อมความรู้ล้นสมอง

ไม่นานนักเย่หยวนก็ได้เดินออกมาจากโถงในโดยมีฉือเซียวและกู้หงสองเทพสวรรค์นั้นเดิมตามมาด้วยท่าทางราวคนรับใช้

เมื่อหลงเสี่ยวฉุนได้เห็นเย่หยวนนางก็รีบพุ่งตัวเข้ามาชี้หน้าเย่หยวนทันที “เย่หยวน เจ้าห้ามรับพี่เสี่ยวไห่เป็นศิษย์นะ! ไม่เช่นนั้นแล้วเราสองคนขาดกัน!”

เย่หยวนได้แต่ยืนงงอยู่ตรงนั้นอย่างไม่เข้าใจว่านางกำลังว่ากล่าวเรื่องใด

แต่หลงเสี่ยวไห่ก็วิ่งตามมาดึงตัวหลงเสี่ยวฉุนไปทันทีก่อนจะกล่าวว่าขึ้น “เสี่ยวฉุน เจ้าอย่าได้มายุ่ง! ท่านรองมหาปราชญ์ หลงเสี่ยวไห่คิดอยากกราบท่านเป็นอาจารย์!”

พูดไปหลงเสี่ยวไห่ก็ก้มหัวลงคุกเข่ากราบเย่หยวน

เย่หยวนที่ได้เห็นต้องรีบเข้าไปประคองตัวเขาทันที “พี่เสี่ยวไห่อย่าได้ทำเช่นนี้! หากท่านมีเรื่องใดสงสัยในการโอสถก็มาถามมาคุยกับข้าเอาเถอะ แต่อย่าได้พูดถึงเรื่องการกราบอาจารย์ใด ๆ เลย เย่ผู้นี้นับท่านและเสี่ยวฉุนนั้นเป็นดั่งพี่น้อง มีหรือที่จะรับพี่น้องเป็นศิษย์ได้? ที่สำคัญไปกว่านั้นอย่าได้เรียกข้าว่ารองมหาปราชญ์ใด ๆ อีกเลย แค่เรียกนามของข้าก็พอแล้ว”

หลงเสี่ยวฉุนที่ได้ยินก็รีบเข้ามาตบบ่าของเย่หยวนทันทีด้วยเสียงหัวเราะ “ฮ่า ๆ เจ้าเข้าใจข้าจริง ๆ! หากหลงเสี่ยวไห่นี้กราบเจ้าเป็นอาจารย์แล้ว ข้าก็คงได้กลายเป็นคนรุ่นหลังเจ้ากันพอดีใช่หรือไม่? เจ้าได้ยินหรือไม่หลงเสี่ยวไห่?”

เย่หยวนเองก็ไม่รู้ต้องตอบอย่างไร ความคิดของนางผู้นี้มันแปลกกว่าผู้คนจนเกินกว่าจะเข้าใจจริง ๆ

หลงเสี่ยวไห่ร้องขัดขึ้นมาด้วยท่าทางหนักใจ “แต่…อีกไม่นานเราจะต้องกลับไปยังเผ่ามังกรแล้ว! ถึงเวลานั้นข้าจะมาหาท่านได้อย่างไรเล่า?”

ตอนนี้หลงฉือที่เงียบอยู่นานก็ทำใจได้ ก้มหัวลงต่อเย่หยวนในที่สุด “หลงฉือขอคารวะท่านรองมหาปราชญ์”

เขานั้นไม่สนใจซินหลัวได้ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเย่หยวนผู้ยืนอยู่เคียงทั้งมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลและโอสถบรรพกาลแล้ว ตัวเขาก็ได้แต่ต้องเก็บศักดิ์ศรีของจักรพรรดิเทพสวรรค์ใด ๆ ลงกระเป๋า

เมื่อได้เห็นความสามารถของเย่หยวนนี้ต่อให้จะเป็นหลงฉือหรือฉีซือซูก็ต่างต้องเข้าใจความสำคัญของเย่หยวนต่อมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาล

หากมันเกิดเรื่องร้ายใด ๆ ต่อเย่หยวนขึ้น ทางมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลคงไม่พอใจพร้อมที่จะประกาศสงครามศักดิ์สิทธิ์ในทันทีแน่!

เรื่องเช่นนั้นมันไม่มีใครจะทนรับได้

เพราะฉะนั้นแม้ทางเผ่ากิเลนจะอยากได้กระดูกจักรพรรดิกิเลนจนตัวสั่น แต่ก็ยังไม่อาจจะกล้าทำอะไรเย่หยวนอีก

ส่วนเรื่องการตายของฉีเจิ้นใด ๆ นั้นมันย่อมจะไม่มีค่าอีก

มีหรือที่จะเอาคนอย่างฉีเจิ้นมาเทียบเคียงกับรองมหาปราชญ์แห่งเผ่าอสูรได้?

เย่หยวนพยักหน้ารับออกมา “จักรพรรดิเทพสวรรค์หลงฉือท่านสุภาพเกินไปแล้ว เชิญนั่งเถอะ”.ไอรีนโนเวล.

ทุกผู้คนจึงได้ค่อย ๆ จัดแจงที่นั่งแขกและเจ้าบ้านลงโดยทางฉือเซียวนั้นได้จัดที่นั่งของตนไม่ต่างจากกู้หง เขายืนรับใช้อยู่ที่ด้านข้างของเย่หยวนเหมือนเป็นศิษย์คนหนึ่ง

“จักรพรรดิเทพสวรรค์หลงฉือ ท่านเองเดินทางมาถึงวิหารนักบวชนี้เองก็คงมีเรื่องสำคัญจะถามเย่ผู้นี้ใช่หรือไม่?” เย่หยวนถามด้วยรอยยิ้ม

หลงฉือหรี่ตาลงก่อนจะพยักหน้ารับ “รองมหาปราชญ์นั้นใช้เจตจำนงกิเลนออกมาจากกระดูกจักรพรรดิกิเลนที่ท่านพกติดตัว มันไม่แปลกใด ๆ แต่เจตจำนงมังกรฟ้านั้น…มันมาจากไหนกัน?”

หลายวันมานี้หลงฉือย่อมจะติดใจสงสัยเรื่องนี้อย่างมาก

เพราะเย่หยวนนั้นกลับใช้เจตจำนงมังกรฟ้าที่บริสุทธิ์ขนาดนั้นออกมาได้ทั้งยังมีวิชาวรยุทธเผ่ามังกร หรือว่าแท้จริงเขาจะเป็นสมาชิกเผ่ามังกรแล้ว?

เจตจำนงมังกรฟ้าที่เย่หยวนปล่อยออกมานั้นมันแตกต่างจากเจตจำนงกิเลนสิ้นเชิง!

เพราะเจตจำนงมังกรฟ้านั้นมันถูกปล่อยออกมาจากจิตวิญญาณมังกร

ในเวลานั้นที่มังกรร่ำร้องพุ่งทะยานฟ้า ในฐานะคนเผ่ามังกรแล้วหลงฉือย่อมจะสัมผัสถึงมันได้อย่างชัดเจน!

เย่หยวนยิ้มตอบกลับมา “หากข้าบอกว่าข้านั้นเป็นคนเผ่ามังกรท่านจะเชื่อหรือไม่?”

หลงฉือเบิกตากว้างร้องตอบกลับมาอย่างมึนงงสงสัย “รองมหาปราชญ์อย่าได้ล้อเล่น มันจะ…ท่านจะเป็นมังกรไปได้อย่างไร?”

เย่หยวนส่ายหัวออกมาเมื่อได้ยิน “ข้าไม่ได้ล้อเล่นใด! เย่ผู้นี้มีฤทัยแห่งฟานจู้หลง ที่สำคัญมันยังตื่นขึ้นมากว่าครึ่งแล้ว ทั้งวรยุทธบ่มเพาะหรือวรยุทธต่อสู้เผ่ามังกรล้วนมิใช่ความลับใด ๆ ต่อข้าเลย”

หลงฉือสั่นสะท้านไปทั้งกายก่อนจะกล่าวขึ้นอย่างไม่คิดอยากเชื่อ “ฤทัยแห่งฟานจู้หลง! ท่านกลับมีฤทัยแห่งฟานจู้หลง! แม้แต่ในเผ่ามังกรเองฤทัยแห่งฟานจู้หลงเองก็ยังเกิดขึ้นได้แค่หนึ่งในล้าน! เช่นนั้นแล้ว…ท่านเป็นสมาชิกเผ่ามังกรจริง ๆ อย่างนั้นหรือ?”

เย่หยวนพยักหน้ารับ “แท้จริงอย่างแน่นอน!”

หลงฉือตื่นตะลึงอย่างมาก ฤทัยแห่งฟานจู้หลงนั้นมันเป็นจิตวิญญาณมังกรอันยิ่งใหญ่

รองมหาปราชญ์ผู้นี้มิใช่แค่มีวิชาเหนือโลกหล้า แต่เขายังมีจิตมังกรที่เหนือล้ำกว่าเผ่ามังกรทั้งหลาย เป็นตัวตนที่รวบรวมโชคชะตาไว้อย่างแท้จริง!

ตอนนี้แม้แต่หลงเสี่ยวฉุนก็ยังได้แต่อ้าปากค้างมองดูเย่หยวนอย่างไม่คิดอยากเชื่อสายตา

“จ-จ-เจ้า…เจ้ากลับมีฤทัยแห่งฟานจู้หลง! นี่มันสุดยอดของสุดยอดสมบัติสืบทอด ตราบเท่าที่เจ้าปลุกมันขึ้นไปเรื่อย ๆ เจ้าก็จะมีกำลังเหนือฟ้าดินอย่างไม่ต้องบ่มเพาะใด ๆ เลย!” หลงเสี่ยวฉุนร้องขึ้น

“ข้าแค่ไม่ทราบว่า…บรรพบุรุษของท่านรองมหาปราชญ์เป็นใครกัน เผ่ามังกรเรานั้นเก็บตัวตัดขาดจากโลกภายนอกมาแสนนาน ข้าไม่เคยได้ยินเลยว่ามีใครออกไปใช้ชีวิตนอกโลกเสมือน” หลงฉือบอกขึ้น

เย่หยวนที่ได้ยินก็ส่ายหัวออกมาตาม “เรื่องนั้นข้าก็ไม่ทราบได้ ความทรงจำที่ข้าได้รับสืบทอดมามันไม่มีเรื่องราวนั้นอยู่เลย บางทีมันอาจจะถูกฝังไว้ในความทรงจำช่วงสุดท้าย แต่…ข้าคิดว่าบรรพบุรุษของข้านี้คงไม่ได้เป็นเกินกว่าเทพสวรรค์แน่ คงมิใช่ยอดคนที่ใดมา”

เพราะหลังจากปลุกระดับหกให้ตื่นขึ้นได้เย่หยวนก็รู้สึกได้ว่าจิตวิญญาณมังกรของเขานั้นมันกลับจะถึงขั้นสุดเต็มที

จากที่คาดเดา ปลุกขึ้นอีกครั้งมันก็คงถึงขีดจำกัดแล้ว

ที่สำคัญมังกรที่จะมาติดตามจอมเทพสวรรค์นิรันดร์นั้นมันย่อมจะไม่มีทางมีฝีมือเหนือล้ำกว่าตัวเขา

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียจอมเทพสวรรค์นิรันดร์ก็เป็นแค่เทพสวรรค์ขั้นสุด

หากเป็นเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ของเผ่ามังกรจริง พวกเขาก็คงไม่คิดจะหันมาสนใจจอมเทพสวรรค์นิรันดร์ใด ๆ แน่

ที่ด้านข้างหลงเสี่ยวไห่นั้นเบิกตากว้างกล่าวพรวดขึ้น “เอาเช่นนี้เป็นอย่างไร? พี่เย่เดินทางไปเมืองบูรพาโลกเสมือนกับเราสิ! บางทีหลังไปเจอเผ่ามังกรแล้วท่านอาจจะได้เจอต้นกำเนิดตระกูลของตน ที่สำคัญระหว่างทางเรายังจะได้คุยเรื่องเต๋าโอสถไปด้วย”

เมื่อหลงเสี่ยวฉุนได้ยินข้อเสนอนี้นางก็รีบปรบมือขึ้นเสริม “ดี ๆ ๆ! ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดครั้งแรกที่ข้าเห็นเย่หยวนมันก็เหมือนได้เห็นพี่น้อง บางทีแล้วเราอาจจะมีสายเลือดใกล้เคียงกันก็ได้นะ?”

แต่หลงฉือนั้นกลับหรี่ตาลงทันทีด้วยท่าทางเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็ต้องกลืนมันลงคอไป

ให้คนแปลกหน้าไปยังเผ่ามังกร มันเป็นเรื่องที่เขากังวลไม่น้อย

แต่เมื่อเย่หยวนได้ยินข้อเสนอนี้เขาก็รู้สึกตื่นเต้นดีใจขึ้นทันที

เพราะตัวเขาเองก็สงสัยในที่มาของตนไม่น้อย เพียงแค่ว่าที่อยู่ของสี่สัตว์เทวะนั้นมันเป็นสิ่งที่แม้แต่หวู่เฉินเองก็ยังไม่อาจทราบได้

มันเหมือนว่าหวู่เฉินนั้นถูกลบล้างความทรงจำส่วนนี้ออกไป

ดูท่าแล้วจอมเทพสวรรค์นิรันดร์คงยังมีความลับเก็บซ่อนไว้อีกมากมาย

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2129 เมืองบูรพาโลกเสมือน

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2129 เมืองบูรพาโลกเสมือน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ไม่ได้! เจ้าจะไปกราบเขาเป็นอาจารย์ไม่ได้! หากเจ้าไปกราบเขาเป็นอาจารย์แล้วข้าก็ต้องกลายเป็นคนรุ่นหลังเขาไปสิ?”

“ข้าต้องกราบรองมหาปราชญ์เป็นอาจารย์ให้ได้! โอกาสนี้พลาดไปแล้วชาตินี้คงไม่อาจหาได้อีก!”

“ข้าบอกว่าไม่ ก็คือไม่! หากเจ้ายังคิดไปกราบเขาอีกข้าจะร้องไห้จริง ๆ แล้วด้วย!”

“เจ้านี่มันรั้นไม่ยอมหยุดเสียที!”

“เจ้าต่างหากที่ไม่ยอมฟังเหตุผล! หึ่ม!”

ภายในวิหารนักบวชนั้นมีสองเงาร่างกำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่อย่างดุดัน หนึ่งพยายามรั้งหนึ่งพยายามไป แน่นอนว่าทั้งสองนี้คือหลงเสี่ยวไห่และหลงเสี่ยวฉุนสองพี่น้องแล้ว

ส่วนที่ด้านหลังของคนทั้งสองนั้นมีหลงฉือกำลังยืนส่ายหัวอยู่

หลงเสี่ยวฉุนนางนี้ช่างน่าปวดหัวจริง ๆ

ซินหลัวนั้นออกมาจากโถงในเพื่อต้อนรับแขก แต่เมื่อได้เห็นภาพตรงหน้าตัวเขาก็อดไม่ได้ที่อมยิ้มออกมา “โปรดรอสักครู่ เวลานี้ท่านฉือเซียวกำลังปรึกษาขอความรู้จากท่านรองมหาปราชญ์อยู่ อีกไม่นานท่านรองมหาปราชญ์คงออกมาพบพวกท่านได้”

หลงฉือพยักหน้ารับ

ตัวเขานั้นเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์แน่นอนว่าย่อมจะไม่คิดวางตัวสุภาพใด ๆ ต่อหน้าซินหลัว

เวลานี้เย่หยวนได้ย้ายเข้ามาอยู่ภายในวิหารนักบวชประจำเมืองและมีเหล่านักบวชทั้งหลายคอยรับใช้บูชาราวกับเขาเป็นเทพเจ้า

ทุก ๆ วันจะมีเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายเข้ามาพบปะเขาเสมอด้วยท่าทางสุดเคารพ

ฉือเซียวเองก็เป็นหนึ่งในคนทั้งหลายนั้น ตัวเขาทิ้งศักดิ์ศรีใด ๆ ที่เคยค้ำคอและเข้ามาขอความรู้จากเย่หยวนทุก ๆ วัน ถามถึงความรู้ด้านโอสถที่ตนยังไม่เข้าใจ

และในทุก ๆ วันเขาจะได้กลับไปพร้อมความรู้ล้นสมอง

ไม่นานนักเย่หยวนก็ได้เดินออกมาจากโถงในโดยมีฉือเซียวและกู้หงสองเทพสวรรค์นั้นเดิมตามมาด้วยท่าทางราวคนรับใช้

เมื่อหลงเสี่ยวฉุนได้เห็นเย่หยวนนางก็รีบพุ่งตัวเข้ามาชี้หน้าเย่หยวนทันที “เย่หยวน เจ้าห้ามรับพี่เสี่ยวไห่เป็นศิษย์นะ! ไม่เช่นนั้นแล้วเราสองคนขาดกัน!”

เย่หยวนได้แต่ยืนงงอยู่ตรงนั้นอย่างไม่เข้าใจว่านางกำลังว่ากล่าวเรื่องใด

แต่หลงเสี่ยวไห่ก็วิ่งตามมาดึงตัวหลงเสี่ยวฉุนไปทันทีก่อนจะกล่าวว่าขึ้น “เสี่ยวฉุน เจ้าอย่าได้มายุ่ง! ท่านรองมหาปราชญ์ หลงเสี่ยวไห่คิดอยากกราบท่านเป็นอาจารย์!”

พูดไปหลงเสี่ยวไห่ก็ก้มหัวลงคุกเข่ากราบเย่หยวน

เย่หยวนที่ได้เห็นต้องรีบเข้าไปประคองตัวเขาทันที “พี่เสี่ยวไห่อย่าได้ทำเช่นนี้! หากท่านมีเรื่องใดสงสัยในการโอสถก็มาถามมาคุยกับข้าเอาเถอะ แต่อย่าได้พูดถึงเรื่องการกราบอาจารย์ใด ๆ เลย เย่ผู้นี้นับท่านและเสี่ยวฉุนนั้นเป็นดั่งพี่น้อง มีหรือที่จะรับพี่น้องเป็นศิษย์ได้? ที่สำคัญไปกว่านั้นอย่าได้เรียกข้าว่ารองมหาปราชญ์ใด ๆ อีกเลย แค่เรียกนามของข้าก็พอแล้ว”

หลงเสี่ยวฉุนที่ได้ยินก็รีบเข้ามาตบบ่าของเย่หยวนทันทีด้วยเสียงหัวเราะ “ฮ่า ๆ เจ้าเข้าใจข้าจริง ๆ! หากหลงเสี่ยวไห่นี้กราบเจ้าเป็นอาจารย์แล้ว ข้าก็คงได้กลายเป็นคนรุ่นหลังเจ้ากันพอดีใช่หรือไม่? เจ้าได้ยินหรือไม่หลงเสี่ยวไห่?”

เย่หยวนเองก็ไม่รู้ต้องตอบอย่างไร ความคิดของนางผู้นี้มันแปลกกว่าผู้คนจนเกินกว่าจะเข้าใจจริง ๆ

หลงเสี่ยวไห่ร้องขัดขึ้นมาด้วยท่าทางหนักใจ “แต่…อีกไม่นานเราจะต้องกลับไปยังเผ่ามังกรแล้ว! ถึงเวลานั้นข้าจะมาหาท่านได้อย่างไรเล่า?”

ตอนนี้หลงฉือที่เงียบอยู่นานก็ทำใจได้ ก้มหัวลงต่อเย่หยวนในที่สุด “หลงฉือขอคารวะท่านรองมหาปราชญ์”

เขานั้นไม่สนใจซินหลัวได้ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเย่หยวนผู้ยืนอยู่เคียงทั้งมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลและโอสถบรรพกาลแล้ว ตัวเขาก็ได้แต่ต้องเก็บศักดิ์ศรีของจักรพรรดิเทพสวรรค์ใด ๆ ลงกระเป๋า

เมื่อได้เห็นความสามารถของเย่หยวนนี้ต่อให้จะเป็นหลงฉือหรือฉีซือซูก็ต่างต้องเข้าใจความสำคัญของเย่หยวนต่อมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาล

หากมันเกิดเรื่องร้ายใด ๆ ต่อเย่หยวนขึ้น ทางมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลคงไม่พอใจพร้อมที่จะประกาศสงครามศักดิ์สิทธิ์ในทันทีแน่!

เรื่องเช่นนั้นมันไม่มีใครจะทนรับได้

เพราะฉะนั้นแม้ทางเผ่ากิเลนจะอยากได้กระดูกจักรพรรดิกิเลนจนตัวสั่น แต่ก็ยังไม่อาจจะกล้าทำอะไรเย่หยวนอีก

ส่วนเรื่องการตายของฉีเจิ้นใด ๆ นั้นมันย่อมจะไม่มีค่าอีก

มีหรือที่จะเอาคนอย่างฉีเจิ้นมาเทียบเคียงกับรองมหาปราชญ์แห่งเผ่าอสูรได้?

เย่หยวนพยักหน้ารับออกมา “จักรพรรดิเทพสวรรค์หลงฉือท่านสุภาพเกินไปแล้ว เชิญนั่งเถอะ”.ไอรีนโนเวล.

ทุกผู้คนจึงได้ค่อย ๆ จัดแจงที่นั่งแขกและเจ้าบ้านลงโดยทางฉือเซียวนั้นได้จัดที่นั่งของตนไม่ต่างจากกู้หง เขายืนรับใช้อยู่ที่ด้านข้างของเย่หยวนเหมือนเป็นศิษย์คนหนึ่ง

“จักรพรรดิเทพสวรรค์หลงฉือ ท่านเองเดินทางมาถึงวิหารนักบวชนี้เองก็คงมีเรื่องสำคัญจะถามเย่ผู้นี้ใช่หรือไม่?” เย่หยวนถามด้วยรอยยิ้ม

หลงฉือหรี่ตาลงก่อนจะพยักหน้ารับ “รองมหาปราชญ์นั้นใช้เจตจำนงกิเลนออกมาจากกระดูกจักรพรรดิกิเลนที่ท่านพกติดตัว มันไม่แปลกใด ๆ แต่เจตจำนงมังกรฟ้านั้น…มันมาจากไหนกัน?”

หลายวันมานี้หลงฉือย่อมจะติดใจสงสัยเรื่องนี้อย่างมาก

เพราะเย่หยวนนั้นกลับใช้เจตจำนงมังกรฟ้าที่บริสุทธิ์ขนาดนั้นออกมาได้ทั้งยังมีวิชาวรยุทธเผ่ามังกร หรือว่าแท้จริงเขาจะเป็นสมาชิกเผ่ามังกรแล้ว?

เจตจำนงมังกรฟ้าที่เย่หยวนปล่อยออกมานั้นมันแตกต่างจากเจตจำนงกิเลนสิ้นเชิง!

เพราะเจตจำนงมังกรฟ้านั้นมันถูกปล่อยออกมาจากจิตวิญญาณมังกร

ในเวลานั้นที่มังกรร่ำร้องพุ่งทะยานฟ้า ในฐานะคนเผ่ามังกรแล้วหลงฉือย่อมจะสัมผัสถึงมันได้อย่างชัดเจน!

เย่หยวนยิ้มตอบกลับมา “หากข้าบอกว่าข้านั้นเป็นคนเผ่ามังกรท่านจะเชื่อหรือไม่?”

หลงฉือเบิกตากว้างร้องตอบกลับมาอย่างมึนงงสงสัย “รองมหาปราชญ์อย่าได้ล้อเล่น มันจะ…ท่านจะเป็นมังกรไปได้อย่างไร?”

เย่หยวนส่ายหัวออกมาเมื่อได้ยิน “ข้าไม่ได้ล้อเล่นใด! เย่ผู้นี้มีฤทัยแห่งฟานจู้หลง ที่สำคัญมันยังตื่นขึ้นมากว่าครึ่งแล้ว ทั้งวรยุทธบ่มเพาะหรือวรยุทธต่อสู้เผ่ามังกรล้วนมิใช่ความลับใด ๆ ต่อข้าเลย”

หลงฉือสั่นสะท้านไปทั้งกายก่อนจะกล่าวขึ้นอย่างไม่คิดอยากเชื่อ “ฤทัยแห่งฟานจู้หลง! ท่านกลับมีฤทัยแห่งฟานจู้หลง! แม้แต่ในเผ่ามังกรเองฤทัยแห่งฟานจู้หลงเองก็ยังเกิดขึ้นได้แค่หนึ่งในล้าน! เช่นนั้นแล้ว…ท่านเป็นสมาชิกเผ่ามังกรจริง ๆ อย่างนั้นหรือ?”

เย่หยวนพยักหน้ารับ “แท้จริงอย่างแน่นอน!”

หลงฉือตื่นตะลึงอย่างมาก ฤทัยแห่งฟานจู้หลงนั้นมันเป็นจิตวิญญาณมังกรอันยิ่งใหญ่

รองมหาปราชญ์ผู้นี้มิใช่แค่มีวิชาเหนือโลกหล้า แต่เขายังมีจิตมังกรที่เหนือล้ำกว่าเผ่ามังกรทั้งหลาย เป็นตัวตนที่รวบรวมโชคชะตาไว้อย่างแท้จริง!

ตอนนี้แม้แต่หลงเสี่ยวฉุนก็ยังได้แต่อ้าปากค้างมองดูเย่หยวนอย่างไม่คิดอยากเชื่อสายตา

“จ-จ-เจ้า…เจ้ากลับมีฤทัยแห่งฟานจู้หลง! นี่มันสุดยอดของสุดยอดสมบัติสืบทอด ตราบเท่าที่เจ้าปลุกมันขึ้นไปเรื่อย ๆ เจ้าก็จะมีกำลังเหนือฟ้าดินอย่างไม่ต้องบ่มเพาะใด ๆ เลย!” หลงเสี่ยวฉุนร้องขึ้น

“ข้าแค่ไม่ทราบว่า…บรรพบุรุษของท่านรองมหาปราชญ์เป็นใครกัน เผ่ามังกรเรานั้นเก็บตัวตัดขาดจากโลกภายนอกมาแสนนาน ข้าไม่เคยได้ยินเลยว่ามีใครออกไปใช้ชีวิตนอกโลกเสมือน” หลงฉือบอกขึ้น

เย่หยวนที่ได้ยินก็ส่ายหัวออกมาตาม “เรื่องนั้นข้าก็ไม่ทราบได้ ความทรงจำที่ข้าได้รับสืบทอดมามันไม่มีเรื่องราวนั้นอยู่เลย บางทีมันอาจจะถูกฝังไว้ในความทรงจำช่วงสุดท้าย แต่…ข้าคิดว่าบรรพบุรุษของข้านี้คงไม่ได้เป็นเกินกว่าเทพสวรรค์แน่ คงมิใช่ยอดคนที่ใดมา”

เพราะหลังจากปลุกระดับหกให้ตื่นขึ้นได้เย่หยวนก็รู้สึกได้ว่าจิตวิญญาณมังกรของเขานั้นมันกลับจะถึงขั้นสุดเต็มที

จากที่คาดเดา ปลุกขึ้นอีกครั้งมันก็คงถึงขีดจำกัดแล้ว

ที่สำคัญมังกรที่จะมาติดตามจอมเทพสวรรค์นิรันดร์นั้นมันย่อมจะไม่มีทางมีฝีมือเหนือล้ำกว่าตัวเขา

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียจอมเทพสวรรค์นิรันดร์ก็เป็นแค่เทพสวรรค์ขั้นสุด

หากเป็นเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ของเผ่ามังกรจริง พวกเขาก็คงไม่คิดจะหันมาสนใจจอมเทพสวรรค์นิรันดร์ใด ๆ แน่

ที่ด้านข้างหลงเสี่ยวไห่นั้นเบิกตากว้างกล่าวพรวดขึ้น “เอาเช่นนี้เป็นอย่างไร? พี่เย่เดินทางไปเมืองบูรพาโลกเสมือนกับเราสิ! บางทีหลังไปเจอเผ่ามังกรแล้วท่านอาจจะได้เจอต้นกำเนิดตระกูลของตน ที่สำคัญระหว่างทางเรายังจะได้คุยเรื่องเต๋าโอสถไปด้วย”

เมื่อหลงเสี่ยวฉุนได้ยินข้อเสนอนี้นางก็รีบปรบมือขึ้นเสริม “ดี ๆ ๆ! ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดครั้งแรกที่ข้าเห็นเย่หยวนมันก็เหมือนได้เห็นพี่น้อง บางทีแล้วเราอาจจะมีสายเลือดใกล้เคียงกันก็ได้นะ?”

แต่หลงฉือนั้นกลับหรี่ตาลงทันทีด้วยท่าทางเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็ต้องกลืนมันลงคอไป

ให้คนแปลกหน้าไปยังเผ่ามังกร มันเป็นเรื่องที่เขากังวลไม่น้อย

แต่เมื่อเย่หยวนได้ยินข้อเสนอนี้เขาก็รู้สึกตื่นเต้นดีใจขึ้นทันที

เพราะตัวเขาเองก็สงสัยในที่มาของตนไม่น้อย เพียงแค่ว่าที่อยู่ของสี่สัตว์เทวะนั้นมันเป็นสิ่งที่แม้แต่หวู่เฉินเองก็ยังไม่อาจทราบได้

มันเหมือนว่าหวู่เฉินนั้นถูกลบล้างความทรงจำส่วนนี้ออกไป

ดูท่าแล้วจอมเทพสวรรค์นิรันดร์คงยังมีความลับเก็บซ่อนไว้อีกมากมาย

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+