Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2137 พี่ซุนจะปกป้องเจ้าเอง

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2137 พี่ซุนจะปกป้องเจ้าเอง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ปัง! ปัง! ปัง!

ภายในป่ามืดทึบนั้นมีหลายเงาร่างกำลังต่อสู้ตะลุมบอนกันอยู่อย่างรุนแรงดุดัน

เงาร่างในชุดขาวนั้นกำลังวิ่งวนอยู่ภายในฝูงสัตว์ร้ายสีดำ ดูสภาพการแล้วมันสุดแสนจะอันตรายจนยากจะหลบรอดได้

แต่ทว่าเงาร่างชุดขาวนั้นกลับขยับเคลื่อนอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นภัยอันตรายใด ๆ ตัวเขาย่อมจะเปลี่ยนให้มันกลับมาเป็นความได้เปรียบ

แน่นอนว่าชายชุดขาวผู้นี้มันจะคือเย่หยวน

ในเวลานี้ตัวเขาได้เข้ามาอยู่ในถ้ำเนตรมังกรเป็นเวลาเกือบหนึ่งปีแล้ว

คลื่นพลังจากร่างของเย่หยวนในเวลานี้มันสุดแสนรุนแรงกว่าตอนที่เพิ่งเข้ามาอย่างมาก

ในหนึ่งปีมานี้เย่หยวนได้ล่ามารนรกระดับหกไปนับพัน ๆ ตัวและได้รับผลึกดำมาครอบครองอย่างมหาศาล

แน่นอนว่ามีหรือที่เรื่องราวมันจะง่ายดายไร้ภัยอันตราย? ระหว่างทางนั้นเย่หยวนก็ย่อมจะเจอมารนรกระดับเทพสวรรค์อยู่บ้าง

เพียงแค่ว่าเย่หยวนนั้นเตรียมการดีก่อนออกล่าทุกครั้ง เขาได้วางวิชาห้วงมิติเปล่าไว้พร้อม หากไปเจอมารนรกระดับเทพสวรรค์เข้าเย่หยวนก็ไม่ลังเลที่จะใช้งานวิชาห้วงมิติเปล่าหนีออกมาทันที

เพราะฉะนั้นแม้ว่ามันจะมีมารนรกสุดแข็งแกร่งอยู่ไม่น้อย แต่เย่หยวนเองก็ยังสามารถเอาตัวรอดมาได้อย่างไม่ยากเย็น

จนถึงวันนี้ เย่หยวนก็ยังไม่ได้พบเจอภัยอันตรายที่แท้จริงถึงชีวิตเลยสักครั้ง

“ดาบสลักกลวงแท้!”

เสียงร้องดังขึ้นพร้อมดาบไร้เสียงที่พุ่งทำลายร่างของมารนรกถึงสามตัวลง

“โฮ่ก ๆ!”

เหล่ามารนรกที่เหลือเมื่อได้เห็นต่างร้องร่ำอย่างเดือดดาลพร้อมเข้าโจมตีเย่หยวนอย่างบ้าคลั่ง

“หึ! พวกเจ้าทั้งหลายนี้มันไม่มีสมองพอจะเข้าใจความอันตรายจริง ๆ! ฝ่ามือล้ำจักรวาล!”

เย่หยวนร้องบอกก่อนจะซัดฝ่ามือออกมา

พลังของเผ่ามังกรที่เหนือฟ้าดินนี้มันย่อมจะช่วยให้เขาสามารถผ่านพ้นอันตรายมาได้นับไม่ถ้วน

เมื่อมารนรกทั้งหลายถูกฝ่ามือนี้ไป พวกมันอีกราวห้าตัวก็แตกสลายลง!

“โฮ่ก!”

เหล่ามารนรกที่เหลือยิ่งร่ำร้องก่อนจะเห็นระเบิดคลื่นพลังงานลูกหนึ่งพุ่งเข้ามาตัวเย่หยวน

“ดาบสลักกลวงแท้!”

เย่หยวนแทงดาบไร้เสียงออกมาอีกครั้งหนึ่งส่งเหล่ามารนรกทั้งหลายไปยังโลกหน้าอย่างไร้ปรานี

หลังต่อสู้มาได้หนึ่งวันเต็ม ในที่สุดเย่หยวนก็ได้จัดการสังหารมารนรกฝูงนี้ลง

“เฮ้อ…เจ้าพวกนี้มันเก่งกาจเสียจริง ๆ ต่อให้จะเป็นเทพถ่องแท้เก้าดาวก็คงไม่อาจจะรอดพ้นจากพวกมันได้” เย่หยวนถอนหายใจยาว

เหล่ามารนรกทั้งหลายนี้ล้วนแล้วต่างมีพลังในร่างไม่ต่ำกว่าเทพถ่องแท้แปดดาว

แต่พลังการต่อสู้ของพวกมันนั้นเหนือล้ำกว่าที่เทพถ่องแท้เก้าดาวชาวมนุษย์จะมาเทียบเคียงได้

พลังบ่มเพาะของเย่หยวนในเวลานี้มันก้าวขึ้นมาใกล้เทพถ่องแท้แปดดาวเต็มที พร้อม ๆ กับพลังจากกายเนื้อนั้นมันย่อมจะทำให้เขาไม่พ่ายแพ้หากอีกฝ่ายมิใช่เทพสวรรค์

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นตัวเขาเองก็ยังต้องเหนื่อยยากกว่าจะสังหารพวกมันลงได้

เย่หยวนเก็บผลึกดำทั้งหลายที่ตกเรี่ยราดบนพื้นด้วยรอยยิ้ม “หึ เจ้ามารนรกทั้งหลายนี้มันสุดแสนแข็งแกร่ง แต่ผลึกดำของพวกมันเองก็มีพลังหนาแน่นไม่แพ้กัน .ไอลีนโนเวล. ด้วยผลึกดำชุดนี้แล้วข้าคงสามารถบรรลุอาณาจักรเม็ดต้นกำเนิดแปดดาวได้แน่!”

ในหนึ่งปีมานี้เย่หยวนได้มองถ้ำเนตรมังกรนี้เป็นดั่งคลังสมบัติโดยแท้

ตราบเท่าที่เขาเห็นมารนรกหกดาวตัวเย่หยวนก็จะพุ่งเข้าไปล่าสังหารอีกฝ่ายทันที

หากหลงจื่อมาเห็นเรื่องราวในเวลานี้พวกเขาคงต้องโกรธจนกระอักเลือด

วิธีการที่เขาคิดใช้สังหารเย่หยวนมันกลับเป็นการป้อนอาหารใส่ปากเย่หยวนแทน

แต่ในเวลาหนึ่งปีมานี้เย่หยวนก็ได้รู้ถึงสถานการณ์ภายในและกฎต่าง ๆ ของถ้ำเนตรมังกรนี้

ที่ใดอันตราย ที่ใดพอปลอดภัย ที่ใดเป็นแหล่งอาศัยของมารนรกสุดแกร่ง ตัวเย่หยวนเข้าใจถึงมันอย่างดี

ตราบเท่าที่ตัวเขาไม่ก้าวผ่านเส้นเขตแดนไป มันก็ย่อมจะไม่มีภัยที่เกินรับมือ

ป่าทึบที่เขาอยู่ในเวลานี้มันนับเป็นหนึ่งในดินแดนที่อันตรายไม่น้อย มีมารนรกระดับเทพถ่องแท้ขั้นปลายอาศัยอยู่ไม่น้อย

แต่หลังจากที่เย่หยวนพัฒนาพลังบ่มเพาะของตนมาเรื่อย เหล่ามารนรกในพื้นที่ปลอดภัยทั้งหลายมันจึงไม่ได้เป็นภัยอันตรายใด ๆ แก่เย่หยวนอีก

เมื่อหาพื้นที่ปลอดภัยได้เย่หยวนก็เริ่มวางค่ายกลป้องกันขึ้นหลายชั้นก่อนที่จะเริ่มทำการหลอมดูดพลังจากผลึกดำทั้งหลาย

เมื่อคลื่นพลังชั่วร้ายนี้พุ่งเข้าสู่ร่าง พลังบ่มเพาะของเย่หยวนก็เริ่มขยับเคลื่อนอีกครั้ง

หลายวันจากนั้นคลื่นพลังจากร่างของเย่หยวนก็ปะทุขึ้น เขาก้าวขึ้นมาถึงอาณาจักรเม็ดต้นดำเนิดแปดดาวเป็นที่เรียบร้อย

“การบรรลุต่อจากนี้ไปคงมีแต่ยากขึ้นแล้ว!” เมื่อค่อย ๆ เปิดลืมตาออกมาเย่หยวนก็ต้องถอนหายใจยาว

“แต่สุดท้ายมันก็ถือว่าคุ้มค่า! เวลานี้แม้ข้าจะอยู่แค่อาณาจักรเม็ดต้นกำเนิดแปดดาวแต่หากวัดกันแค่ที่ความหนาแน่นของปราณเทวะ ตัวข้านั้นคงเหนือล้ำกว่าเหล่าเทพถ่องแท้เก้าดาวที่บ่มเพาะด้วยวรยุทธทั่วไป! อย่าว่าแต่เทพถ่องแท้ เวลานี้ต่อให้เป็นเทพสวรรค์ตัวข้าเองก็คงพอจะต่อต้านใด ๆ ได้บ้างแล้ว หากบรรลุขึ้นอาณาจักรเม็ดต้นกำเนิดเก้าดาวได้ ถึงเวลานั้นตัวข้าก็คงพอจะเทียบเคียงฝีมือกับเทพสวรรค์หนึ่งดาวได้เช่นกัน!”

จากนั้นเย่หยวนก็เงยหน้ามองท้องฟ้ากล่าวออกมาอย่างเปี่ยมอารมณ์ “ลี่เอ๋อ หลังจากข้าบรรลุอาณาจักรต่อไปได้แล้วข้าจะไปรับเจ้ากลับเอง! หลินฉางชิง เวลาสองพันปีนั้นมันยังมาไม่ถึงก็จริง แต่ข้านั้นอยากจะรู้เหลือเกินว่าเจ้าที่อ้างตนเป็นอัจฉริยะนั้นพัฒนาขึ้นไปได้ถึงปานใดแล้ว!”

เวลาจากวันนั้นมาถึงตอนนี้มันผ่านไปราวหนึ่งพันปีแล้ว แต่ช่วงเวลาหนึ่งพันปีนี้เย่หยวนก็ยังคิดถึงห่วงหาลี่เอ๋ออย่างไม่มีหยุดพัก

ส่วนท่าทางไร้เหตุผลของหลินฉางชิงเองมันก็ยังฝังอยู่ในใจของเย่หยวน

เจ้าหลินฉางชิงนั้นมาอวดอ้างตัวเองว่าเป็นยอดคนอัจฉริยะ บอกว่าเย่หยวนเป็นแค่มดปลวก

ในตอนนั้นเย่หยวนเพิ่งจะขึ้นอาณาจักรนภาสวรรค์มา ส่วนทางหลินฉางชิงนั้นเป็นถึงเทพสวรรค์

แต่เวลาผ่านไปแค่พันปีนี้ เย่หยวนกลับพุ่งทะยานล้ำฟ้าขึ้นมาอยู่หน้าประตูอาณาจักรเทพสวรรค์ได้แล้ว

แล้วตัวหลินฉางชิงนั้นเล่าจะบ่มเพาะไปได้ถึงระดับไหน?

ทั้งเรื่องของทะเลแห่งแนวคิด ทั้งเรื่องของอย่าถามนั้นมันต่างได้ให้ประโยชน์มหาศาลแก่เย่หยวนจนทำให้เกิดผลลัพธ์ที่เหนือฟ้าดินเช่นนี้ได้

เรื่องของอาณาจักรระดับต่อไปนั้นเอง เย่หยวนก็เริ่มที่จะทำการคาดเดาไว้ได้บ้างแล้ว

เย่หยวนนั้นรู้สึกได้ว่าอาณาจักรต่อไปของเขานี้มันจะแตกต่างจากเก่ามาก

กฎใด ๆ ที่ว่าอาณาจักรเทพสวรรค์ไม่สามารถกระโดดข้ามผ่านไปได้ง่าย ๆ นั้นย่อมไม่รวมไปถึงตัวเย่หยวนนี้

เย่หยวนนั้นมั่นใจว่าตราบเท่าที่เขาบรรลุขึ้นไปได้ เขาย่อมจะไม่อ่อนแอกว่าหลินฉางชิงแล้ว

“หืม? มันมีคนอยู่ในที่แบบนี้ด้วยหรือ แถมยังเป็นมนุษย์เสียอีก”

ระหว่างที่เย่หยวนกำลังคิดเรื่องราวในวันหน้าไปมันก็เกิดเสียงหนึ่งดังขึ้นมาไม่ไกล

อีกเสียงหนึ่งดังพูดขึ้นตาม “หึ เทพถ่องแท้แปดดาว? การที่มันอยู่รอดในป่ามารดารานี้ได้คงนับว่าเป็นผู้โชคดีมหาศาล!”

“ทำไมมันถึงมีเด็กมนุษย์มาอยู่ที่นี่ได้เล่า? หรือว่า…มันจะเข้ามาจากทางร่องมิติ?”

เย่หยวนหันหน้ากลับไปยังต้นเสียงและพบว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นเด็กหนุ่มเผ่ามังกรสามคนกำลังจ้องมองมาด้วยใบหน้าเหยียดหยาม

คนที่นำมานั้นมีรอยแผลเป็นเต็มร่าง เขาเดินมาหยุดตรงหน้าเย่หยวนด้วยรอยยิ้ม “เด็กน้อย เจ้ารู้หรือไม่ว่าที่นี่คือที่ใด?”

เย่หยวนพยักหน้ารับ “ถ้ำเนตรมังกร”

นั่นทำให้เหล่ามังกรหนุ่มทั้งหลายต้องหรี่ตาลงมองอย่างผิดหวัง

เพราะหากรู้จักนามถ้ำเนตรมังกรแล้ว เขาก็คงไม่ได้มาจากร่องมิติเป็นแน่

เพราะว่าที่แห่งนั้นมันมิใช่นามที่มนุษย์จากโลกภายนอกจะรู้จักได้

ชายหนุ่มที่เดินนำมานั้นจึงได้กล่าวขึ้น “โอ้? เจ้ารู้จักถ้ำเนตรมังกรแต่กลับกล้ามานั่งเล่นในป่ามารดารา? ช่างโอหังไม่กลัวสิ่งใดจริง ๆ!”

เย่หยวนจึงยิ้มตอบกลับไป “หรือว่าพวกเจ้าทั้งหลายจะรู้จักสถานที่ที่ปลอดภัยอย่างแท้จริงในถ้ำเนตรมังกรนี้เล่า?”

นั่นทำให้พวกเขาทั้งสามแทบสำลัก

เพราะที่แห่งนี้มันคือโลกของมารนรก ไม่มีที่ใดจะปลอดภัยได้เต็มร้อย

ชายหนุ่มที่นำหน้ามากล่าวขึ้นเปลี่ยนเรื่อง “เด็กน้อย เจ้าคิดเสียว่าตนโชคดีเถอะ มาเดินเล่นในป่ามารดาราด้วยกำลังของเจ้านี้หากไปเจอมารนรกที่แข็งแกร่งเข้าเจ้าคงได้ตายลงอย่างไม่รู้เหตุแน่ ในเมื่อเรามีชะตามาพบกันแล้ว เจ้าก็ตามเรามาเถอะ จากนี้ไปพี่ซุนผู้นี้จะช่วยปกป้องเจ้าเอง ต่อให้เจ้าจะอยากตายมันก็คงไม่ง่ายนักแล้ว!”

“ได้!” เย่หยวนตอบรับไป

เพราะหนึ่งปีที่ผ่านมานี้ตัวเขาอยู่คนเดียวมาแสนนาน มันก็อยากจะหาผู้คนอยู่บ้าง

ที่สำคัญในสถานที่เช่นนี้มีคนเพิ่มมันก็เท่ากับมีกำลังเพิ่ม

ดูท่าแล้วคนทั้งหลายนี้ย่อมจะเป็นเจ้าถิ่นของที่นี่ ย่อมจะพอเข้าใจพื้นที่ดี การจะเรียนรู้ความเข้าใจนั้นจากพวกเขาเองมันก็คงมิใช่เรื่องเลวร้ายใด

ส่วนคำที่ว่า ‘พี่ซุนจะปกป้องเจ้าเอง’ นั้น เย่หยวนย่อมได้แต่ทำหูทวนลมไป

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2137 พี่ซุนจะปกป้องเจ้าเอง

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2137 พี่ซุนจะปกป้องเจ้าเอง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ปัง! ปัง! ปัง!

ภายในป่ามืดทึบนั้นมีหลายเงาร่างกำลังต่อสู้ตะลุมบอนกันอยู่อย่างรุนแรงดุดัน

เงาร่างในชุดขาวนั้นกำลังวิ่งวนอยู่ภายในฝูงสัตว์ร้ายสีดำ ดูสภาพการแล้วมันสุดแสนจะอันตรายจนยากจะหลบรอดได้

แต่ทว่าเงาร่างชุดขาวนั้นกลับขยับเคลื่อนอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นภัยอันตรายใด ๆ ตัวเขาย่อมจะเปลี่ยนให้มันกลับมาเป็นความได้เปรียบ

แน่นอนว่าชายชุดขาวผู้นี้มันจะคือเย่หยวน

ในเวลานี้ตัวเขาได้เข้ามาอยู่ในถ้ำเนตรมังกรเป็นเวลาเกือบหนึ่งปีแล้ว

คลื่นพลังจากร่างของเย่หยวนในเวลานี้มันสุดแสนรุนแรงกว่าตอนที่เพิ่งเข้ามาอย่างมาก

ในหนึ่งปีมานี้เย่หยวนได้ล่ามารนรกระดับหกไปนับพัน ๆ ตัวและได้รับผลึกดำมาครอบครองอย่างมหาศาล

แน่นอนว่ามีหรือที่เรื่องราวมันจะง่ายดายไร้ภัยอันตราย? ระหว่างทางนั้นเย่หยวนก็ย่อมจะเจอมารนรกระดับเทพสวรรค์อยู่บ้าง

เพียงแค่ว่าเย่หยวนนั้นเตรียมการดีก่อนออกล่าทุกครั้ง เขาได้วางวิชาห้วงมิติเปล่าไว้พร้อม หากไปเจอมารนรกระดับเทพสวรรค์เข้าเย่หยวนก็ไม่ลังเลที่จะใช้งานวิชาห้วงมิติเปล่าหนีออกมาทันที

เพราะฉะนั้นแม้ว่ามันจะมีมารนรกสุดแข็งแกร่งอยู่ไม่น้อย แต่เย่หยวนเองก็ยังสามารถเอาตัวรอดมาได้อย่างไม่ยากเย็น

จนถึงวันนี้ เย่หยวนก็ยังไม่ได้พบเจอภัยอันตรายที่แท้จริงถึงชีวิตเลยสักครั้ง

“ดาบสลักกลวงแท้!”

เสียงร้องดังขึ้นพร้อมดาบไร้เสียงที่พุ่งทำลายร่างของมารนรกถึงสามตัวลง

“โฮ่ก ๆ!”

เหล่ามารนรกที่เหลือเมื่อได้เห็นต่างร้องร่ำอย่างเดือดดาลพร้อมเข้าโจมตีเย่หยวนอย่างบ้าคลั่ง

“หึ! พวกเจ้าทั้งหลายนี้มันไม่มีสมองพอจะเข้าใจความอันตรายจริง ๆ! ฝ่ามือล้ำจักรวาล!”

เย่หยวนร้องบอกก่อนจะซัดฝ่ามือออกมา

พลังของเผ่ามังกรที่เหนือฟ้าดินนี้มันย่อมจะช่วยให้เขาสามารถผ่านพ้นอันตรายมาได้นับไม่ถ้วน

เมื่อมารนรกทั้งหลายถูกฝ่ามือนี้ไป พวกมันอีกราวห้าตัวก็แตกสลายลง!

“โฮ่ก!”

เหล่ามารนรกที่เหลือยิ่งร่ำร้องก่อนจะเห็นระเบิดคลื่นพลังงานลูกหนึ่งพุ่งเข้ามาตัวเย่หยวน

“ดาบสลักกลวงแท้!”

เย่หยวนแทงดาบไร้เสียงออกมาอีกครั้งหนึ่งส่งเหล่ามารนรกทั้งหลายไปยังโลกหน้าอย่างไร้ปรานี

หลังต่อสู้มาได้หนึ่งวันเต็ม ในที่สุดเย่หยวนก็ได้จัดการสังหารมารนรกฝูงนี้ลง

“เฮ้อ…เจ้าพวกนี้มันเก่งกาจเสียจริง ๆ ต่อให้จะเป็นเทพถ่องแท้เก้าดาวก็คงไม่อาจจะรอดพ้นจากพวกมันได้” เย่หยวนถอนหายใจยาว

เหล่ามารนรกทั้งหลายนี้ล้วนแล้วต่างมีพลังในร่างไม่ต่ำกว่าเทพถ่องแท้แปดดาว

แต่พลังการต่อสู้ของพวกมันนั้นเหนือล้ำกว่าที่เทพถ่องแท้เก้าดาวชาวมนุษย์จะมาเทียบเคียงได้

พลังบ่มเพาะของเย่หยวนในเวลานี้มันก้าวขึ้นมาใกล้เทพถ่องแท้แปดดาวเต็มที พร้อม ๆ กับพลังจากกายเนื้อนั้นมันย่อมจะทำให้เขาไม่พ่ายแพ้หากอีกฝ่ายมิใช่เทพสวรรค์

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นตัวเขาเองก็ยังต้องเหนื่อยยากกว่าจะสังหารพวกมันลงได้

เย่หยวนเก็บผลึกดำทั้งหลายที่ตกเรี่ยราดบนพื้นด้วยรอยยิ้ม “หึ เจ้ามารนรกทั้งหลายนี้มันสุดแสนแข็งแกร่ง แต่ผลึกดำของพวกมันเองก็มีพลังหนาแน่นไม่แพ้กัน .ไอลีนโนเวล. ด้วยผลึกดำชุดนี้แล้วข้าคงสามารถบรรลุอาณาจักรเม็ดต้นกำเนิดแปดดาวได้แน่!”

ในหนึ่งปีมานี้เย่หยวนได้มองถ้ำเนตรมังกรนี้เป็นดั่งคลังสมบัติโดยแท้

ตราบเท่าที่เขาเห็นมารนรกหกดาวตัวเย่หยวนก็จะพุ่งเข้าไปล่าสังหารอีกฝ่ายทันที

หากหลงจื่อมาเห็นเรื่องราวในเวลานี้พวกเขาคงต้องโกรธจนกระอักเลือด

วิธีการที่เขาคิดใช้สังหารเย่หยวนมันกลับเป็นการป้อนอาหารใส่ปากเย่หยวนแทน

แต่ในเวลาหนึ่งปีมานี้เย่หยวนก็ได้รู้ถึงสถานการณ์ภายในและกฎต่าง ๆ ของถ้ำเนตรมังกรนี้

ที่ใดอันตราย ที่ใดพอปลอดภัย ที่ใดเป็นแหล่งอาศัยของมารนรกสุดแกร่ง ตัวเย่หยวนเข้าใจถึงมันอย่างดี

ตราบเท่าที่ตัวเขาไม่ก้าวผ่านเส้นเขตแดนไป มันก็ย่อมจะไม่มีภัยที่เกินรับมือ

ป่าทึบที่เขาอยู่ในเวลานี้มันนับเป็นหนึ่งในดินแดนที่อันตรายไม่น้อย มีมารนรกระดับเทพถ่องแท้ขั้นปลายอาศัยอยู่ไม่น้อย

แต่หลังจากที่เย่หยวนพัฒนาพลังบ่มเพาะของตนมาเรื่อย เหล่ามารนรกในพื้นที่ปลอดภัยทั้งหลายมันจึงไม่ได้เป็นภัยอันตรายใด ๆ แก่เย่หยวนอีก

เมื่อหาพื้นที่ปลอดภัยได้เย่หยวนก็เริ่มวางค่ายกลป้องกันขึ้นหลายชั้นก่อนที่จะเริ่มทำการหลอมดูดพลังจากผลึกดำทั้งหลาย

เมื่อคลื่นพลังชั่วร้ายนี้พุ่งเข้าสู่ร่าง พลังบ่มเพาะของเย่หยวนก็เริ่มขยับเคลื่อนอีกครั้ง

หลายวันจากนั้นคลื่นพลังจากร่างของเย่หยวนก็ปะทุขึ้น เขาก้าวขึ้นมาถึงอาณาจักรเม็ดต้นดำเนิดแปดดาวเป็นที่เรียบร้อย

“การบรรลุต่อจากนี้ไปคงมีแต่ยากขึ้นแล้ว!” เมื่อค่อย ๆ เปิดลืมตาออกมาเย่หยวนก็ต้องถอนหายใจยาว

“แต่สุดท้ายมันก็ถือว่าคุ้มค่า! เวลานี้แม้ข้าจะอยู่แค่อาณาจักรเม็ดต้นกำเนิดแปดดาวแต่หากวัดกันแค่ที่ความหนาแน่นของปราณเทวะ ตัวข้านั้นคงเหนือล้ำกว่าเหล่าเทพถ่องแท้เก้าดาวที่บ่มเพาะด้วยวรยุทธทั่วไป! อย่าว่าแต่เทพถ่องแท้ เวลานี้ต่อให้เป็นเทพสวรรค์ตัวข้าเองก็คงพอจะต่อต้านใด ๆ ได้บ้างแล้ว หากบรรลุขึ้นอาณาจักรเม็ดต้นกำเนิดเก้าดาวได้ ถึงเวลานั้นตัวข้าก็คงพอจะเทียบเคียงฝีมือกับเทพสวรรค์หนึ่งดาวได้เช่นกัน!”

จากนั้นเย่หยวนก็เงยหน้ามองท้องฟ้ากล่าวออกมาอย่างเปี่ยมอารมณ์ “ลี่เอ๋อ หลังจากข้าบรรลุอาณาจักรต่อไปได้แล้วข้าจะไปรับเจ้ากลับเอง! หลินฉางชิง เวลาสองพันปีนั้นมันยังมาไม่ถึงก็จริง แต่ข้านั้นอยากจะรู้เหลือเกินว่าเจ้าที่อ้างตนเป็นอัจฉริยะนั้นพัฒนาขึ้นไปได้ถึงปานใดแล้ว!”

เวลาจากวันนั้นมาถึงตอนนี้มันผ่านไปราวหนึ่งพันปีแล้ว แต่ช่วงเวลาหนึ่งพันปีนี้เย่หยวนก็ยังคิดถึงห่วงหาลี่เอ๋ออย่างไม่มีหยุดพัก

ส่วนท่าทางไร้เหตุผลของหลินฉางชิงเองมันก็ยังฝังอยู่ในใจของเย่หยวน

เจ้าหลินฉางชิงนั้นมาอวดอ้างตัวเองว่าเป็นยอดคนอัจฉริยะ บอกว่าเย่หยวนเป็นแค่มดปลวก

ในตอนนั้นเย่หยวนเพิ่งจะขึ้นอาณาจักรนภาสวรรค์มา ส่วนทางหลินฉางชิงนั้นเป็นถึงเทพสวรรค์

แต่เวลาผ่านไปแค่พันปีนี้ เย่หยวนกลับพุ่งทะยานล้ำฟ้าขึ้นมาอยู่หน้าประตูอาณาจักรเทพสวรรค์ได้แล้ว

แล้วตัวหลินฉางชิงนั้นเล่าจะบ่มเพาะไปได้ถึงระดับไหน?

ทั้งเรื่องของทะเลแห่งแนวคิด ทั้งเรื่องของอย่าถามนั้นมันต่างได้ให้ประโยชน์มหาศาลแก่เย่หยวนจนทำให้เกิดผลลัพธ์ที่เหนือฟ้าดินเช่นนี้ได้

เรื่องของอาณาจักรระดับต่อไปนั้นเอง เย่หยวนก็เริ่มที่จะทำการคาดเดาไว้ได้บ้างแล้ว

เย่หยวนนั้นรู้สึกได้ว่าอาณาจักรต่อไปของเขานี้มันจะแตกต่างจากเก่ามาก

กฎใด ๆ ที่ว่าอาณาจักรเทพสวรรค์ไม่สามารถกระโดดข้ามผ่านไปได้ง่าย ๆ นั้นย่อมไม่รวมไปถึงตัวเย่หยวนนี้

เย่หยวนนั้นมั่นใจว่าตราบเท่าที่เขาบรรลุขึ้นไปได้ เขาย่อมจะไม่อ่อนแอกว่าหลินฉางชิงแล้ว

“หืม? มันมีคนอยู่ในที่แบบนี้ด้วยหรือ แถมยังเป็นมนุษย์เสียอีก”

ระหว่างที่เย่หยวนกำลังคิดเรื่องราวในวันหน้าไปมันก็เกิดเสียงหนึ่งดังขึ้นมาไม่ไกล

อีกเสียงหนึ่งดังพูดขึ้นตาม “หึ เทพถ่องแท้แปดดาว? การที่มันอยู่รอดในป่ามารดารานี้ได้คงนับว่าเป็นผู้โชคดีมหาศาล!”

“ทำไมมันถึงมีเด็กมนุษย์มาอยู่ที่นี่ได้เล่า? หรือว่า…มันจะเข้ามาจากทางร่องมิติ?”

เย่หยวนหันหน้ากลับไปยังต้นเสียงและพบว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นเด็กหนุ่มเผ่ามังกรสามคนกำลังจ้องมองมาด้วยใบหน้าเหยียดหยาม

คนที่นำมานั้นมีรอยแผลเป็นเต็มร่าง เขาเดินมาหยุดตรงหน้าเย่หยวนด้วยรอยยิ้ม “เด็กน้อย เจ้ารู้หรือไม่ว่าที่นี่คือที่ใด?”

เย่หยวนพยักหน้ารับ “ถ้ำเนตรมังกร”

นั่นทำให้เหล่ามังกรหนุ่มทั้งหลายต้องหรี่ตาลงมองอย่างผิดหวัง

เพราะหากรู้จักนามถ้ำเนตรมังกรแล้ว เขาก็คงไม่ได้มาจากร่องมิติเป็นแน่

เพราะว่าที่แห่งนั้นมันมิใช่นามที่มนุษย์จากโลกภายนอกจะรู้จักได้

ชายหนุ่มที่เดินนำมานั้นจึงได้กล่าวขึ้น “โอ้? เจ้ารู้จักถ้ำเนตรมังกรแต่กลับกล้ามานั่งเล่นในป่ามารดารา? ช่างโอหังไม่กลัวสิ่งใดจริง ๆ!”

เย่หยวนจึงยิ้มตอบกลับไป “หรือว่าพวกเจ้าทั้งหลายจะรู้จักสถานที่ที่ปลอดภัยอย่างแท้จริงในถ้ำเนตรมังกรนี้เล่า?”

นั่นทำให้พวกเขาทั้งสามแทบสำลัก

เพราะที่แห่งนี้มันคือโลกของมารนรก ไม่มีที่ใดจะปลอดภัยได้เต็มร้อย

ชายหนุ่มที่นำหน้ามากล่าวขึ้นเปลี่ยนเรื่อง “เด็กน้อย เจ้าคิดเสียว่าตนโชคดีเถอะ มาเดินเล่นในป่ามารดาราด้วยกำลังของเจ้านี้หากไปเจอมารนรกที่แข็งแกร่งเข้าเจ้าคงได้ตายลงอย่างไม่รู้เหตุแน่ ในเมื่อเรามีชะตามาพบกันแล้ว เจ้าก็ตามเรามาเถอะ จากนี้ไปพี่ซุนผู้นี้จะช่วยปกป้องเจ้าเอง ต่อให้เจ้าจะอยากตายมันก็คงไม่ง่ายนักแล้ว!”

“ได้!” เย่หยวนตอบรับไป

เพราะหนึ่งปีที่ผ่านมานี้ตัวเขาอยู่คนเดียวมาแสนนาน มันก็อยากจะหาผู้คนอยู่บ้าง

ที่สำคัญในสถานที่เช่นนี้มีคนเพิ่มมันก็เท่ากับมีกำลังเพิ่ม

ดูท่าแล้วคนทั้งหลายนี้ย่อมจะเป็นเจ้าถิ่นของที่นี่ ย่อมจะพอเข้าใจพื้นที่ดี การจะเรียนรู้ความเข้าใจนั้นจากพวกเขาเองมันก็คงมิใช่เรื่องเลวร้ายใด

ส่วนคำที่ว่า ‘พี่ซุนจะปกป้องเจ้าเอง’ นั้น เย่หยวนย่อมได้แต่ทำหูทวนลมไป

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+