Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2147 เด็ดขาด

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2147 เด็ดขาด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เฒ่าไป่ เจ้าพูดโกหกใดก็จะไม่คิดเกินไปหน่อยหรือไม่? แค่การบรรลุอาณาจักรของเทพถ่องแท้คนหนึ่งมันจะรุนแรงจนสร้างรอยร้าวบนผนึกชั้นที่สามได้อย่างไร?”

เมื่อไป่เชินกลับมาถึงยังก้นนรกตัวเขาก็ได้เล่าบอกเรื่องราวที่ไปเจอด้านนอกให้แก่คนทั้งหลายฟังจนทำให้พวกเขาต่างต้องเลิกคิ้วสูง

การบรรลุของเทพถ่องแท้ขึ้นสู่อาณาจักรเทพสวรรค์ ไม่ว่ามันจะเป็นตัวประหลาดเช่นใดมันก็ไม่มีทางจะสร้างความเสียหายใดๆ ให้ผนึกชั้นที่สามได้!

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียผนึกชั้นที่สามนี้มันก็แข็งแกร่งพอที่จะต้านทานการโจมตีจากจักรพรรดิเทพสวรรค์เก้าดาวได้ไม่ยาก

ภายในความมืดมิดนี้ไป่เชินได้แต่ยิ้มตอบกลับไม่คิดอธิบายใดๆ ให้คนที่ไม่คิดเชื่อคำ “หึ มันเป็นเด็กที่น่าสนใจจริงๆ! ไม่เพียงแค่มันจะทำความเสียหายให้แก่ผนึกชั้นที่สามได้แต่มันยังสามารถสัมผัสถึงตัวตนของข้าได้เสียด้วย อ่า จริงด้วยสิหัวหน้า เจ้าเด็กคนนั้นมันมีความเกี่ยวข้องกับท่านด้วย! ข้าเห็นว่ามันมีพรสวรรค์ดีไม่น้อยจึงได้ทิ้งสมบัติไว้ให้แทนตัวท่าน แน่นอนว่าหากวันหน้ามันกลับกลายเป็นคนชั่วร้ายไปเราก็จะสามารถใช้สมบัตินั้นจัดการมันลงได้ด้วย”

“โอ้? เท่าที่ฟังเจ้ามานี้มันย่อมจะเป็นเด็กที่น่าสนใจจริงๆ น่าเสียดายที่ข้าไม่อาจทิ้งจุดนี้ไปได้ไม่เช่นนั้นคงต้องออกไปเจอหน้ามันเองเสียหน่อย แต่ฟังจากที่เจ้าว่ามานี้เจ้าเด็กคนนี้มันก็น่าสนใจจริงๆ ดูท่ามหาพิภพถงเทียนคงจะได้เจอเรื่องราวใหญ่โตขึ้นอีกครั้งแล้ว” อีกเสียงหนึ่งดังตอบกลับมาจากความมืดมิด

ไป่เชินถอนหายใจออกมาตอบ “มันราวกับว่าสงครามสิ้นโลกได้มาปรากฏต่อหน้าอีกครั้ง ไม่นึกเลยว่าในที่สุดห้วงการกำเนิดแห่งเต๋าสวรรค์ก็จะเริ่มขึ้นอีกครั้งแล้ว”

หลังจากพูดคุยกันไปอีกเล็กน้อย ในที่สุดความเงียบงันก็ได้เข้าปกคลุมความมืดมิดนี้อีกครั้ง

ภายในปราการมังกรพิรุณนี้เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายที่ประจำการอยู่ต่างมารวมตัวกันในที่เดียวสิ้น

เพราะเวลานี้ที่หน้าถ้ำเนตรมังกรมันได้สั่นสะท้านและเริ่มแสดงรอยแตกร้ายออกมา

ทุกผู้คนที่มาต่างพยายามใช้ปราณเทวะของตนกดดันให้ผนึกนี้กลับมาสู่ความเสถียร

แต่คลื่นพลังรุนแรงจากภายในนี้มันทำให้เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายต้องหน้าขาวซีด

เวลานี้มีจักรพรรดิเทพสวรรค์ร่วมมือกันอยู่ราวเจ็ดถึงแปดคน แต่พวกเขากลับทำให้แค่รักษาสภาพไม่ให้ผนึกนี้แตกสลายลงเท่านั้น

หลงฉือได้แต่กัดฟันร้องขึ้นมาด้วยใบหน้าขาวซีด “ให้ตายสิ! ถ้ำเนตรมังกรมันไม่เคยจะเกิดเรื่องราวเช่นนี้ขึ้นมาก่อน เหตุใดมันถึงได้มีปัญหาใหญ่เช่นนี้ขึ้นมาได้?”

ท่านเจ้ามังกรเองก็ตอบกลับมาด้วยใบหน้าขาวซีด “คงมิใช่ว่ามันมีมารนรกดุร้ายเก่งกาจเกิดขึ้นภายในและกำลังคิดทะลวงผนึกออกมาใช่หรือไม่? เสี่ยวฉุน…จะไม่เป็นไรใช่หรือไม่?”

หลงจื่อที่ได้ยินก็ยิ้มเย้ย “เช่นนี้มันก็ดี อย่างน้อยๆ เท่านี้เจ้าเด็กคนนั้นมันก็ต้องตายลงแล้วแน่! ห่าวเอ๋อ วิญญาณเจ้าบนสวรรค์จะได้สู่สุคติเสียที”

หลงฉือนั้นคิดถึงความเป็นไปได้อีกอย่างขึ้นมาก่อนจะหันหน้าไปบอกเจ้ามังกร “ท่านเจ้ามังกร ความวุ่นวายนี้…คงมิใช่ว่าเสี่ยวฉุนไปเจอเรื่องอันตรายภายในหรอกใช่หรือไม่?”

เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวทุกผู้คนก็หน้าเปลี่ยนสีไป

ดูท่าแล้วความเป็นไปได้นี้มันจะยิ่งใหญ่ที่สุด

“หึ! ช่างเป็นดาวหายนะเสียจริงๆ เข้าถ้ำเนตรมังกรไปแล้วก็ยังไม่หยุดนำพาหายนะมา!” หลงจื่อร้องลั่น

ใบหน้างามๆ ของเจ้ามังกรจึงมืดดำลง “หลงจื่อ! เจ้าอย่าได้ลืมไปว่าเสี่ยวฉุนคือใคร! เดิมทีคนที่รับหน้าที่ดูแลถ้ำเนตรมังกรนี้มันก็คือเจ้า แต่เพราะความสะเพร่าของเจ้าทำให้เสี่ยวฉุนเข้าไปภายในได้จนเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น หากข้ารายกายเบื้องบนไปเจ้าจะรับผลที่ตามมาได้หรือ?”

หลงจื่อที่ได้ยินก็หน้าซีดลง ไม่กล้าจะพูดกล่าวใดๆ อีก

“หืม? คลื่นพลังภายในมันดูจะสงบลงแล้ว!” จู่ๆ หลงฉือก็ร้องบอกขึ้น

แน่นอนว่าเวลานี้คลื่นพลังรุนแรงจากภายในมันได้เบาบางลงจนแทบจะกลับสู่ความสงบ

นั่นทำให้เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายต้องถอนหายใจยาว

แต่ในเวลานี้มันกลับเกิดเรื่องราวไม่คาดฝันขึ้นที่ด้านนอกหอศิลาจรัส

หลงจื่อที่อารมณ์ไม่ดีอยู่แล้วจึงได้กล่าวขึ้นมา “ใครกันมาสร้างเรื่องแถวนี้? พวกมันไม่รู้หรือว่าที่แห่งนี้เป็นเขตต้องห้ามของปราการ?”

พูดไปเขาก็ขยับร่างหายไปทันที

“พวกเจ้า ปล่อยข้าเข้าไป! ปล่อยข้า!” ลู่เอ๋อพยายามที่จะฝ่ายามเฝ้าหอเข้าไปด้านใน

แต่ยามเฝ้าหอผู้นั้นกลับตอบกลับมา “หากเจ้าทั้งหลายคิดมาหาสร้างเรื่องแล้ว ก็อย่าได้หาว่าเราไม่เกรงใจกันอีก!”

เพราะยามที่เฝ้าหอศิลาจรัสนี้ย่อมจะเป็นเทพสวรรค์สิ้น หากพวกเขาคิดลงมือจริงๆ แล้วพวกลู่เอ๋อย่อมไม่อาจต้านทาน

ลู่เอ๋อกัดฟันร้องตอบกลับมาด้วยใบหน้าเอ่อน้ำตา “ข้าขอร้องล่ะ ให้ข้าไปเถอะ! นายน้อยไม่ได้ออกมาถึงสิบปีแล้ว ข้าจะเข้าไปหาเขาเอง!”

เพราะเวลาสิบปีมานี้แท้จริงแล้วลู่เอ๋อแทบกินไม่ได้นอนไม่หลับทุกวี่วัน

หากมิใช่เพราะคำของเย่หยวนที่สั่งไว้แล้ว ตัวนางคงคิดจะติดตามเย่หยวนลงถ้ำเนตรมังกรไปนานแสนนาน

แต่เมื่อเวลายิ่งผ่านไป จนเกือบถึงกำหนดครบสิบปีนี้ความหวังที่เย่หยวนจะกลับออกมามันก็ยิ่งเลือนรางจนตัวนางและคนทั้งหลายนั้นไม่อาจทนรอได้อีกต่อไป

เพียงแค่ว่ายามเฝ้าหอนี้กลับไม่คิดจะฝ่าฝืนกฎใดๆ ให้คนทั้งหลายนี้.ไอลีนโนเวล.

“พวกข้าอยากเข้าถ้ำเนตรมังกรมันเกี่ยวข้องใดกับพวกเจ้าเล่า? นายท่านยังไม่ออกมา เช่นนั้นข้านี่แหละจะเข้าไปหาเขาเอง!” หนิงเทียนปิงร้องบอก

แต่จู่ๆ มันก็มีเงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้นมา “มันตายไปแล้ว พวกเจ้าจะเข้าไปให้มันได้อะไร!”

คนผู้นี้คือหลงจื่อ!

ลู่เอ๋อและพวกจ้องมองดูหลงจื่ออย่างโกรธแค้น คิดอยากฉีกร่างอีกฝ่ายเป็นชิ้นๆ

นางนั้นรู้ดีว่าคนที่โยนนายน้อยของนางลงไปยังแดนไร้ความหวังอย่างถ้ำเนตรมังกรนั้นมันก็คือเจ้าจอมมารผู้นี้

“เจ้าพูดจาเหลวไหล! นายน้อยไม่มีทางตายลงได้ง่ายๆ หรอก!” ลู่เอ๋อกรีดร้อง

“ใช่แล้ว นายท่านนั้นมากพรสวรรค์ เป็นยอดคนเทียบ เขาย่อมจะไม่มาตายกับถ้ำเนตรมังกรกระจอกๆ ของพวกเจ้าหรอก!” หนิงเทียนปิงกล่าวขึ้นมาด้วยความเคียดแค้น

เมื่อได้เห็นใบหน้าสิ้นหวังของพวกลู่เอ๋อทั้งหลาย ตัวหลงจื่อก็แทบจะหัวเราะออกมา

นี่แหละคือสิ่งที่เขาตั้งตารอดู

“หึๆ ถ้ำเนตรมังกรกระจอกๆ? พวกเจ้าก็อยู่มาถึงสิบปีแล้วแต่ยังไม่เข้าใจอีกว่าถ้ำเนตรมังกรนั้นมันคือสถานที่เช่นใด! ที่แห่งนั้นมันเปี่ยมล้นไปด้วยมารนรกนับไม่ถ้วน แต่ละตัวนั้นเก่งกาจกว่าผู้คนในระดับเดียวกันไปมากมาย ภายในนั้นอากาศมันเต็มไปด้วยคลื่นพลังชั่วร้าย เข้าไปภายในแล้วย่อมจะไม่อาจบ่มเพาะใดๆ ได้อีก แค่จะฟื้นฟูกำลังยังทำได้ยากเย็น ระหว่างที่ปราณเทวะยังไม่ทันฟื้นคืนคนที่เข้าไปก็จะถูกฝูงมารนรกเข้ามาจู่โจมไปเรื่อยๆ เจ้าคิดว่าในสถานที่เช่นนั้นคนผู้หนึ่งจะเอาชีวิตรอดไปได้นานเพียงใด? ให้ข้าบอกตรงๆ มันมีครั้งหนึ่งที่แม้แต่จักรพรรดิเทพสวรรค์ก็ยังลงไปแล้วกลับออกมาไม่ได้!”

หลงจื่อนั้นกล่าวเล่าเรื่องราวทั้งหลายนี้ออกมาในคราเดียว พูดกล่าวถึงความโหดร้ายของถ้ำเนตรมังกรให้คนทั้งหลายได้ยินได้ฟัง

และยิ่งพวกเขาได้รู้มากเท่าไหร่ พวกลู่เอ๋อก็ยิ่งสิ้นหวังมากเท่านั้น

จนสุดท้ายมันแทบจะสิ้นไร้ความหวังใดๆ อีก

พวกเขาทั้งหลายนั้นรู้ดีว่าเย่หยวนเก่งกาจปานใด แต่ไม่ว่าจะเก่งกาจสักเท่าใด มันก็ย่อมจะมีสภาพแวดล้อมที่ไม่อาจทนรับได้เช่นกัน สุดท้ายแล้วตัวเขาเองก็คงจะหมดแรงลงในที่สุด

แล้วคำถามคือเย่หยวนจะทนอยู่ได้ถึงสิบปีหรือไม่?

“เจ้า…เจ้าพูดจาไร้สาระ! หากมิใช่เพราะเจ้าแล้วนายน้อยเองก็คงไม่ต้องลงไปในถ้ำเนตรมังกร! ข้า…ข้าจะสู้กับเจ้าให้มันรู้แล้วรู้รอดไป!”

ลู่เอ๋อร้องบอกพร้อมกระโดดขึ้นไปยังร่างบนท้องฟ้านั้น ส่งคลื่นพลังเย็นเยือกแช่แข็งทุกสิ่งอย่าง

คนทั้งหลายที่ได้เห็นต่างแสดงสีหน้าเคียดแค้นพุ่งตัวตามลู่เอ๋อขึ้นไปหาหลงจื่อ รวมไปถึงตัวกู้หงด้วย

แต่ตัวตนของหลงจื่อนั้นคืออะไร?

การโจมตีเช่นนี้มันอ่อนแอเสียยิ่งกว่าเด็กเล่นต่อหน้าเขานี้

“หึ!”

หลงจื่อไม่ได้โจมตีตอบกลับใดๆ เขาเพียงแค่พ่นลมออกมาทางจมูกแต่มันกลับรุนแรงหนักหน่วงส่งร่างของคนทั้งหลายร่วงลงตามๆ กัน

“อ่อก!”

“อ้า!”

“อ่อก!”

คนทั้งหลายต่างกระอักเลือดออกมาคำโตพร้อมลอยลิ่วร่วงกลับมา

ต่อหน้าจักรพรรดิเทพสวรรค์แล้ว แม้แต่เทพสวรรค์ยังเป็นแค่มดปลวก ไม่ต้องพูดถึงเทพถ่องแท้เลย

“ไม่รู้จักประเมินตน! หากเจ้าเด็กคนนั้นมันไม่บังคับให้จักรพรรดิผู้นี้สาบานต่อเต๋าสวรรค์ไว้ พวกเจ้าทั้งหลายคงได้ตายไปสิ้นแล้ว!” หลงจื่อร้องบอก

หลงจื่อนั้นแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมา แต่แท้จริงตัวเขานั้นแทบจะหัวเราะลั่น

สังหารพวกลู่เอ๋อหรือไม่นั้นมันก็แค่เรื่องราวสุดแสนเล็กน้อยสำหรับตัวเขา

แต่การได้เห็นสีหน้าเศร้าหมดหวังของคนทั้งหลายนี้ ตัวเขานั้นรู้สึกสะใจเป็นอย่างมาก

ลู่เอ๋อได้แต่กัดฟันแน่นอย่างเคียดแค้น

“ในเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วข้าก็จะบังคับให้เจ้าต้องฆ่าข้า! วันนี้ข้าจะลากเจ้าลงนรกไปกับนายน้อยให้ได้!”

ลู่เอ๋อพุ่งตัวเข้าไปหาหลงจื่ออีกครั้งอย่างไม่มีท่าทางลังเลใดๆ

“ใช่แล้ว เราจะสู้กับเจ้าให้รู้แล้วรู้รอดไป! หากเจ้าไม่กล้าสังหารเรา เราก็จะบีบให้มือเจ้าต้องสังหารคน!” หนิงเทียนปิงร้องบอกอย่างหนักแน่นตัดสินใจแลกชีวิตกับอีกฝ่าย

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2147 เด็ดขาด

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2147 เด็ดขาด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เฒ่าไป่ เจ้าพูดโกหกใดก็จะไม่คิดเกินไปหน่อยหรือไม่? แค่การบรรลุอาณาจักรของเทพถ่องแท้คนหนึ่งมันจะรุนแรงจนสร้างรอยร้าวบนผนึกชั้นที่สามได้อย่างไร?”

เมื่อไป่เชินกลับมาถึงยังก้นนรกตัวเขาก็ได้เล่าบอกเรื่องราวที่ไปเจอด้านนอกให้แก่คนทั้งหลายฟังจนทำให้พวกเขาต่างต้องเลิกคิ้วสูง

การบรรลุของเทพถ่องแท้ขึ้นสู่อาณาจักรเทพสวรรค์ ไม่ว่ามันจะเป็นตัวประหลาดเช่นใดมันก็ไม่มีทางจะสร้างความเสียหายใดๆ ให้ผนึกชั้นที่สามได้!

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียผนึกชั้นที่สามนี้มันก็แข็งแกร่งพอที่จะต้านทานการโจมตีจากจักรพรรดิเทพสวรรค์เก้าดาวได้ไม่ยาก

ภายในความมืดมิดนี้ไป่เชินได้แต่ยิ้มตอบกลับไม่คิดอธิบายใดๆ ให้คนที่ไม่คิดเชื่อคำ “หึ มันเป็นเด็กที่น่าสนใจจริงๆ! ไม่เพียงแค่มันจะทำความเสียหายให้แก่ผนึกชั้นที่สามได้แต่มันยังสามารถสัมผัสถึงตัวตนของข้าได้เสียด้วย อ่า จริงด้วยสิหัวหน้า เจ้าเด็กคนนั้นมันมีความเกี่ยวข้องกับท่านด้วย! ข้าเห็นว่ามันมีพรสวรรค์ดีไม่น้อยจึงได้ทิ้งสมบัติไว้ให้แทนตัวท่าน แน่นอนว่าหากวันหน้ามันกลับกลายเป็นคนชั่วร้ายไปเราก็จะสามารถใช้สมบัตินั้นจัดการมันลงได้ด้วย”

“โอ้? เท่าที่ฟังเจ้ามานี้มันย่อมจะเป็นเด็กที่น่าสนใจจริงๆ น่าเสียดายที่ข้าไม่อาจทิ้งจุดนี้ไปได้ไม่เช่นนั้นคงต้องออกไปเจอหน้ามันเองเสียหน่อย แต่ฟังจากที่เจ้าว่ามานี้เจ้าเด็กคนนี้มันก็น่าสนใจจริงๆ ดูท่ามหาพิภพถงเทียนคงจะได้เจอเรื่องราวใหญ่โตขึ้นอีกครั้งแล้ว” อีกเสียงหนึ่งดังตอบกลับมาจากความมืดมิด

ไป่เชินถอนหายใจออกมาตอบ “มันราวกับว่าสงครามสิ้นโลกได้มาปรากฏต่อหน้าอีกครั้ง ไม่นึกเลยว่าในที่สุดห้วงการกำเนิดแห่งเต๋าสวรรค์ก็จะเริ่มขึ้นอีกครั้งแล้ว”

หลังจากพูดคุยกันไปอีกเล็กน้อย ในที่สุดความเงียบงันก็ได้เข้าปกคลุมความมืดมิดนี้อีกครั้ง

ภายในปราการมังกรพิรุณนี้เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายที่ประจำการอยู่ต่างมารวมตัวกันในที่เดียวสิ้น

เพราะเวลานี้ที่หน้าถ้ำเนตรมังกรมันได้สั่นสะท้านและเริ่มแสดงรอยแตกร้ายออกมา

ทุกผู้คนที่มาต่างพยายามใช้ปราณเทวะของตนกดดันให้ผนึกนี้กลับมาสู่ความเสถียร

แต่คลื่นพลังรุนแรงจากภายในนี้มันทำให้เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายต้องหน้าขาวซีด

เวลานี้มีจักรพรรดิเทพสวรรค์ร่วมมือกันอยู่ราวเจ็ดถึงแปดคน แต่พวกเขากลับทำให้แค่รักษาสภาพไม่ให้ผนึกนี้แตกสลายลงเท่านั้น

หลงฉือได้แต่กัดฟันร้องขึ้นมาด้วยใบหน้าขาวซีด “ให้ตายสิ! ถ้ำเนตรมังกรมันไม่เคยจะเกิดเรื่องราวเช่นนี้ขึ้นมาก่อน เหตุใดมันถึงได้มีปัญหาใหญ่เช่นนี้ขึ้นมาได้?”

ท่านเจ้ามังกรเองก็ตอบกลับมาด้วยใบหน้าขาวซีด “คงมิใช่ว่ามันมีมารนรกดุร้ายเก่งกาจเกิดขึ้นภายในและกำลังคิดทะลวงผนึกออกมาใช่หรือไม่? เสี่ยวฉุน…จะไม่เป็นไรใช่หรือไม่?”

หลงจื่อที่ได้ยินก็ยิ้มเย้ย “เช่นนี้มันก็ดี อย่างน้อยๆ เท่านี้เจ้าเด็กคนนั้นมันก็ต้องตายลงแล้วแน่! ห่าวเอ๋อ วิญญาณเจ้าบนสวรรค์จะได้สู่สุคติเสียที”

หลงฉือนั้นคิดถึงความเป็นไปได้อีกอย่างขึ้นมาก่อนจะหันหน้าไปบอกเจ้ามังกร “ท่านเจ้ามังกร ความวุ่นวายนี้…คงมิใช่ว่าเสี่ยวฉุนไปเจอเรื่องอันตรายภายในหรอกใช่หรือไม่?”

เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวทุกผู้คนก็หน้าเปลี่ยนสีไป

ดูท่าแล้วความเป็นไปได้นี้มันจะยิ่งใหญ่ที่สุด

“หึ! ช่างเป็นดาวหายนะเสียจริงๆ เข้าถ้ำเนตรมังกรไปแล้วก็ยังไม่หยุดนำพาหายนะมา!” หลงจื่อร้องลั่น

ใบหน้างามๆ ของเจ้ามังกรจึงมืดดำลง “หลงจื่อ! เจ้าอย่าได้ลืมไปว่าเสี่ยวฉุนคือใคร! เดิมทีคนที่รับหน้าที่ดูแลถ้ำเนตรมังกรนี้มันก็คือเจ้า แต่เพราะความสะเพร่าของเจ้าทำให้เสี่ยวฉุนเข้าไปภายในได้จนเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น หากข้ารายกายเบื้องบนไปเจ้าจะรับผลที่ตามมาได้หรือ?”

หลงจื่อที่ได้ยินก็หน้าซีดลง ไม่กล้าจะพูดกล่าวใดๆ อีก

“หืม? คลื่นพลังภายในมันดูจะสงบลงแล้ว!” จู่ๆ หลงฉือก็ร้องบอกขึ้น

แน่นอนว่าเวลานี้คลื่นพลังรุนแรงจากภายในมันได้เบาบางลงจนแทบจะกลับสู่ความสงบ

นั่นทำให้เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายต้องถอนหายใจยาว

แต่ในเวลานี้มันกลับเกิดเรื่องราวไม่คาดฝันขึ้นที่ด้านนอกหอศิลาจรัส

หลงจื่อที่อารมณ์ไม่ดีอยู่แล้วจึงได้กล่าวขึ้นมา “ใครกันมาสร้างเรื่องแถวนี้? พวกมันไม่รู้หรือว่าที่แห่งนี้เป็นเขตต้องห้ามของปราการ?”

พูดไปเขาก็ขยับร่างหายไปทันที

“พวกเจ้า ปล่อยข้าเข้าไป! ปล่อยข้า!” ลู่เอ๋อพยายามที่จะฝ่ายามเฝ้าหอเข้าไปด้านใน

แต่ยามเฝ้าหอผู้นั้นกลับตอบกลับมา “หากเจ้าทั้งหลายคิดมาหาสร้างเรื่องแล้ว ก็อย่าได้หาว่าเราไม่เกรงใจกันอีก!”

เพราะยามที่เฝ้าหอศิลาจรัสนี้ย่อมจะเป็นเทพสวรรค์สิ้น หากพวกเขาคิดลงมือจริงๆ แล้วพวกลู่เอ๋อย่อมไม่อาจต้านทาน

ลู่เอ๋อกัดฟันร้องตอบกลับมาด้วยใบหน้าเอ่อน้ำตา “ข้าขอร้องล่ะ ให้ข้าไปเถอะ! นายน้อยไม่ได้ออกมาถึงสิบปีแล้ว ข้าจะเข้าไปหาเขาเอง!”

เพราะเวลาสิบปีมานี้แท้จริงแล้วลู่เอ๋อแทบกินไม่ได้นอนไม่หลับทุกวี่วัน

หากมิใช่เพราะคำของเย่หยวนที่สั่งไว้แล้ว ตัวนางคงคิดจะติดตามเย่หยวนลงถ้ำเนตรมังกรไปนานแสนนาน

แต่เมื่อเวลายิ่งผ่านไป จนเกือบถึงกำหนดครบสิบปีนี้ความหวังที่เย่หยวนจะกลับออกมามันก็ยิ่งเลือนรางจนตัวนางและคนทั้งหลายนั้นไม่อาจทนรอได้อีกต่อไป

เพียงแค่ว่ายามเฝ้าหอนี้กลับไม่คิดจะฝ่าฝืนกฎใดๆ ให้คนทั้งหลายนี้.ไอลีนโนเวล.

“พวกข้าอยากเข้าถ้ำเนตรมังกรมันเกี่ยวข้องใดกับพวกเจ้าเล่า? นายท่านยังไม่ออกมา เช่นนั้นข้านี่แหละจะเข้าไปหาเขาเอง!” หนิงเทียนปิงร้องบอก

แต่จู่ๆ มันก็มีเงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้นมา “มันตายไปแล้ว พวกเจ้าจะเข้าไปให้มันได้อะไร!”

คนผู้นี้คือหลงจื่อ!

ลู่เอ๋อและพวกจ้องมองดูหลงจื่ออย่างโกรธแค้น คิดอยากฉีกร่างอีกฝ่ายเป็นชิ้นๆ

นางนั้นรู้ดีว่าคนที่โยนนายน้อยของนางลงไปยังแดนไร้ความหวังอย่างถ้ำเนตรมังกรนั้นมันก็คือเจ้าจอมมารผู้นี้

“เจ้าพูดจาเหลวไหล! นายน้อยไม่มีทางตายลงได้ง่ายๆ หรอก!” ลู่เอ๋อกรีดร้อง

“ใช่แล้ว นายท่านนั้นมากพรสวรรค์ เป็นยอดคนเทียบ เขาย่อมจะไม่มาตายกับถ้ำเนตรมังกรกระจอกๆ ของพวกเจ้าหรอก!” หนิงเทียนปิงกล่าวขึ้นมาด้วยความเคียดแค้น

เมื่อได้เห็นใบหน้าสิ้นหวังของพวกลู่เอ๋อทั้งหลาย ตัวหลงจื่อก็แทบจะหัวเราะออกมา

นี่แหละคือสิ่งที่เขาตั้งตารอดู

“หึๆ ถ้ำเนตรมังกรกระจอกๆ? พวกเจ้าก็อยู่มาถึงสิบปีแล้วแต่ยังไม่เข้าใจอีกว่าถ้ำเนตรมังกรนั้นมันคือสถานที่เช่นใด! ที่แห่งนั้นมันเปี่ยมล้นไปด้วยมารนรกนับไม่ถ้วน แต่ละตัวนั้นเก่งกาจกว่าผู้คนในระดับเดียวกันไปมากมาย ภายในนั้นอากาศมันเต็มไปด้วยคลื่นพลังชั่วร้าย เข้าไปภายในแล้วย่อมจะไม่อาจบ่มเพาะใดๆ ได้อีก แค่จะฟื้นฟูกำลังยังทำได้ยากเย็น ระหว่างที่ปราณเทวะยังไม่ทันฟื้นคืนคนที่เข้าไปก็จะถูกฝูงมารนรกเข้ามาจู่โจมไปเรื่อยๆ เจ้าคิดว่าในสถานที่เช่นนั้นคนผู้หนึ่งจะเอาชีวิตรอดไปได้นานเพียงใด? ให้ข้าบอกตรงๆ มันมีครั้งหนึ่งที่แม้แต่จักรพรรดิเทพสวรรค์ก็ยังลงไปแล้วกลับออกมาไม่ได้!”

หลงจื่อนั้นกล่าวเล่าเรื่องราวทั้งหลายนี้ออกมาในคราเดียว พูดกล่าวถึงความโหดร้ายของถ้ำเนตรมังกรให้คนทั้งหลายได้ยินได้ฟัง

และยิ่งพวกเขาได้รู้มากเท่าไหร่ พวกลู่เอ๋อก็ยิ่งสิ้นหวังมากเท่านั้น

จนสุดท้ายมันแทบจะสิ้นไร้ความหวังใดๆ อีก

พวกเขาทั้งหลายนั้นรู้ดีว่าเย่หยวนเก่งกาจปานใด แต่ไม่ว่าจะเก่งกาจสักเท่าใด มันก็ย่อมจะมีสภาพแวดล้อมที่ไม่อาจทนรับได้เช่นกัน สุดท้ายแล้วตัวเขาเองก็คงจะหมดแรงลงในที่สุด

แล้วคำถามคือเย่หยวนจะทนอยู่ได้ถึงสิบปีหรือไม่?

“เจ้า…เจ้าพูดจาไร้สาระ! หากมิใช่เพราะเจ้าแล้วนายน้อยเองก็คงไม่ต้องลงไปในถ้ำเนตรมังกร! ข้า…ข้าจะสู้กับเจ้าให้มันรู้แล้วรู้รอดไป!”

ลู่เอ๋อร้องบอกพร้อมกระโดดขึ้นไปยังร่างบนท้องฟ้านั้น ส่งคลื่นพลังเย็นเยือกแช่แข็งทุกสิ่งอย่าง

คนทั้งหลายที่ได้เห็นต่างแสดงสีหน้าเคียดแค้นพุ่งตัวตามลู่เอ๋อขึ้นไปหาหลงจื่อ รวมไปถึงตัวกู้หงด้วย

แต่ตัวตนของหลงจื่อนั้นคืออะไร?

การโจมตีเช่นนี้มันอ่อนแอเสียยิ่งกว่าเด็กเล่นต่อหน้าเขานี้

“หึ!”

หลงจื่อไม่ได้โจมตีตอบกลับใดๆ เขาเพียงแค่พ่นลมออกมาทางจมูกแต่มันกลับรุนแรงหนักหน่วงส่งร่างของคนทั้งหลายร่วงลงตามๆ กัน

“อ่อก!”

“อ้า!”

“อ่อก!”

คนทั้งหลายต่างกระอักเลือดออกมาคำโตพร้อมลอยลิ่วร่วงกลับมา

ต่อหน้าจักรพรรดิเทพสวรรค์แล้ว แม้แต่เทพสวรรค์ยังเป็นแค่มดปลวก ไม่ต้องพูดถึงเทพถ่องแท้เลย

“ไม่รู้จักประเมินตน! หากเจ้าเด็กคนนั้นมันไม่บังคับให้จักรพรรดิผู้นี้สาบานต่อเต๋าสวรรค์ไว้ พวกเจ้าทั้งหลายคงได้ตายไปสิ้นแล้ว!” หลงจื่อร้องบอก

หลงจื่อนั้นแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมา แต่แท้จริงตัวเขานั้นแทบจะหัวเราะลั่น

สังหารพวกลู่เอ๋อหรือไม่นั้นมันก็แค่เรื่องราวสุดแสนเล็กน้อยสำหรับตัวเขา

แต่การได้เห็นสีหน้าเศร้าหมดหวังของคนทั้งหลายนี้ ตัวเขานั้นรู้สึกสะใจเป็นอย่างมาก

ลู่เอ๋อได้แต่กัดฟันแน่นอย่างเคียดแค้น

“ในเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วข้าก็จะบังคับให้เจ้าต้องฆ่าข้า! วันนี้ข้าจะลากเจ้าลงนรกไปกับนายน้อยให้ได้!”

ลู่เอ๋อพุ่งตัวเข้าไปหาหลงจื่ออีกครั้งอย่างไม่มีท่าทางลังเลใดๆ

“ใช่แล้ว เราจะสู้กับเจ้าให้รู้แล้วรู้รอดไป! หากเจ้าไม่กล้าสังหารเรา เราก็จะบีบให้มือเจ้าต้องสังหารคน!” หนิงเทียนปิงร้องบอกอย่างหนักแน่นตัดสินใจแลกชีวิตกับอีกฝ่าย

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+