Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2163 ไม่คุกเข่ากราบฟ้าดินใด!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2163 ไม่คุกเข่ากราบฟ้าดินใด! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เอาล่ะ เหล่าทายาทมังกรสวรรค์ทั้งหลาย จะมีความขัดแย้งใดกันมาก็ขอให้ไปตัดสินกันที่ลานศึกหมอกเถอะ”

ในเวลานี้ผู้อาวุโสพิทักษ์อ่าวฉีที่นำคนทั้งหลายมาก็หันมาพูดว่า

คนทั้งหลายในที่นี้ต่างเป็นถึงทายาทมังกรสวรรค์มีตัวตนสูงล้ำ อนาคตอาจก้าวขึ้นถึงความเป็นมังกรสวรรค์ได้

แม้ว่าเขาเองก็จะเป็นถึงจักรพรรดิเทพสวรรค์ แต่ตัวเขานั้นก็ไม่อาจจะไปพูดกล่าวดุด่าใดๆ คนทั้งหลายนี้ได้แม้สักคำ

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นครั้งนี้เขาก็จำใจต้องพูดขัดขึ้นมาเพราะหากปล่อยไว้มันคงกลายเป็นเรื่องใหญ่

“หึ!” อ่าวหยูพ่นลมออกมาอย่างไม่พอใจก่อนจะเงียบปากลง

อ่าวฉีจึงกล่าวขึ้นอีกครั้ง “เอาล่ะ มันใกล้ถึงเวลาเต็มที เราควรเข้าไปในเขามังกรสวรรค์ได้แล้ว!”

จากนั้นเขาก็สะบัดแขนออกข้างหนึ่งดึงร่างของคนทั้งหลายเข้าไปด้วยพลังที่ไม่อาจต้านก่อนจะบินลอยเข้าไปในเขามังกรสวรรค์นั้น

เย่หยวนนั้นรู้สึกเหมือนภาพตรงหน้าดับมืดไปเสี้ยววินาทีก่อนจะพบว่าตัวเองนั้นยืนอยู่บนลานกว้างหนึ่ง

ด้านบนลานกว้างนี้มันมีหมอกหนาบังไว้ทำให้ไม่อาจเห็นได้ชัดว่ามีอะไรอยู่เบื้องบน

เย่หยวนนั้นรู้สึกได้ว่าแม้เวลานี้พวกเขาจะเข้ามาในเขตเขามังกรสวรรค์แล้วจริง แต่มันก็คงเป็นแค่ส่วนตีนเขาเท่านั้น

เมื่อเข้ามาถึงภายในนี้เย่หยวนก็รู้สึกได้ถึงคลื่นพลังวิญญาณอันหนักหน่วงที่ไม่ด้อยไปกว่าที่เขาแห่งถงเทียน

แน่นอนว่าสถานที่เช่นนี้ย่อมจะเป็นสวรรค์แห่งการบ่มเพาะ ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดแม้แต่อ่าวเจิ้นคนนั้นเองก็ยังอยากจะเข้ามาอาศัยอยู่ภายใน

ในเวลานี้มันปรากฏร่างของเด็กหนุ่มมากมายยืนอยู่บนลานกว้างพร้อมๆ กับตัวเย่หยวน คนทั้งหลายนี้แต่ละคนเองก็ล้วนมีตรามังกรสวรรค์อยู่บนหว่างคิ้วสิ้น ดูท่าแล้วคงเป็นทายาทมังกรสวรรค์กันทุกคน

“คนจากปราการมังกรม่วงนี่นา หึๆ ครั้งก่อนปราการมังกรม่วงเองก็ได้แค่ที่โหล่ คนที่มาครั้งนี้เองก็ดูไม่เท่าไหร่!”

“พวกอ่อนแอมันก็เป็นพวกอ่อนแออยู่วันยันค่ำ ต่อให้จะเป็นทายาทมังกรสวรรค์เองมันก็มีพวกขยะเปียกอยู่เหมือนกันแหละ!”

“ข้าว่านะพวกปราการมังกรม่วงทั้งหลายควรจะถูกตัดสิทธิไปเสียด้วยซ้ำ! ครั้งนี้พวกมันส่งมาแม้แต่เทพสวรรค์หนึ่งดาว ดูท่าทางปราการมังกรม่วงมันคงไม่มียอดฝีมือแล้วจริงๆ”

เย่หยวนและพวกยังมาถึงไม่ทันได้พักหายใจพวกเขาทั้งหลายก็ต้องได้ยินเสียงร้องดูถูกลอยมาตามลมเสียก่อน

เหล่าทายาทมังกรสวรรค์ทั้งหลายนี้ต่างจะดูถูกเหยียดหยามปราการมังกรม่วงไม่น้อย แต่ละคนต่างแสดงท่าทีออกมาอย่างไม่คิดปิดปังแม้แต่น้อย

อ่าวฉีเองก็ได้แต่ยืนยิ้มแห้งๆ อยู่ตรงนั้น คนทั้งหลายนี้เป็นถึงทายาทมังกรสวรรค์แน่นอนว่าย่อมจะมีตำแหน่งสูงส่งจนเขาไม่อาจเถียงใดๆ กลับไปได้

คนของปราการมังกรม่วงทั้งหลายนั้นรวมไปถึงตัวอ่าวหยูต่างล้วนแสดงสีหน้าเหยเกออกมา

“อ่าวฉี ครั้งนี้ก็เป็นเจ้านำมาอีกแล้วหรือ? ครั้งก่อนเองปราการมังกรม่วงเจ้าก็แทบจะถูกกวาดล้างสิ้น เจ้าเด็กที่รอดกลับไปได้นั้นก็ถูกถอนตรามังกรสวรรค์ไปเสียด้วย เจ้าเด็กคนนั้นมันตายไปหรือยังเล่า?” ไม่ไกลออกไปก็มีเสียงของจักรพรรดิเทพสวรรค์อีกผู้หนึ่งกล่าวดังขึ้น

อ่าวฉีที่ได้ยินก็ต้องหันกลับไปมองอย่างไม่พอใจ “หลงจื่อเฟิง พวกเจ้าเองก็ได้แค่ที่ห้า มีหน้ามาทำตัวอวดดีเช่นนี้หรือ?”

หลงจื่อเฟิงหัวเราะลั่นขึ้นเมื่อได้ยิน “ต่อหน้าปราการมังกรเทวะนั้นข้าย่อมจะไม่กล้า แต่ต่อหน้าปราการมังกรม่วงเจ้านั้นจักรพรรดิผู้นี้ย่อมจะกล่าวว่าได้! ที่สำคัญไปกว่านั้นคือศึกทายาทมังกรครานี้ปราการมังกรเมฆาเรามีหลงฉีที่มีโอกาสจะคว้าอันดับหนึ่งในสามมาได้!”

อ่าวฉีที่ได้ยินก็ยิ้มเย้ยขึ้น “หนึ่งในสาม เจ้าก็ช่างกล้าพูด! แม้จะไม่นับคนจากปราการมังกรเทวะแต่ทางปราการมังกรดำหรือปราการมังกรมงคลเองก็เก่งกาจมีพลังสายเลือดเข้มข้น แค่คนของเจ้านี้ก็จะขึ้นไปถึงหนึ่งในสามได้?”

หลงจื่อเฟิงยิ้มขึ้นมาเมื่อได้ยิน “หลงฉีนั้นสามารถปลุกทักษะเทวะภายในมาได้ถึงสองอย่างและที่สำคัญไปกว่านั้นเขายังสามารถปลุกตรามังกรสวรรค์ขึ้นมาได้อีกด้วย! เจ้าคิดว่าเขามีกำลังพอจะติดหนึ่งในสามหรือไม่เล่า?”

ตรามังกรสวรรค์นั้นย่อมจะมิใช่แค่ตราแสดงตำแหน่ง

ตรานี้มันคือสิ่งที่ยอดฝีมือในเขามังกรสวรรค์มอบให้แก่มังกรรุ่นหลัง หากมันถูกปลุกตื่นขึ้นมาได้คนผู้ที่สามารถปลุกมันนั้นก็จะได้รับพลังมหาศาล ช่วยพัฒนาทักษะเทวะภายในไปอีกหลายขั้น เพิ่มพลังให้อย่างไม่อาจคาดวัดได้

แน่นอนว่าหากคิดอยากปลุกตรามังกรสวรรค์ขึ้นมานี้มันย่อมจะต้องใช้ทั้งโชคและพรสวรรค์อย่างมากเกินจินตนาการ

ในหมู่ทายาทมังกรสวรรค์ทั้งหลายในที่นี้มันมีคนที่สามารถปลุกตรามังกรสวรรค์ขึ้นมาได้แค่ไม่กี่คน

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือทักษะเทวะภายในของเผ่ามังกรนั้นมันปลุกขึ้นได้ยากกว่าของเผ่ากิเลนมาก ทั้งยังมีพลังที่รุนแรงเหนือล้ำกว่ามากด้วยเช่นกัน.ไอรีนโนเวล.

หลงฉีนั้นสามารถปลุกทักษะเทวะภายในขึ้นมาได้ถึงสองอย่างย่อมจะต้องมีพลังฝีมือเหนือล้ำอย่างไม่อาจคาดเดา!

ได้ยินคำพูดอวดนี้ของหลงจื่อเฟิงสีหน้าของเหล่าทายาทมังกรสวรรค์ทั้งหลายเองมันก็เปลี่ยนแปลงไป

เพราะหากมันเป็นจริงดั่งที่หลงจื่อเฟิงว่าแล้ว เขาผู้นั้นก็ย่อมจะเก่งกาจพอได้รับหนึ่งในสามอันดับแรกไป!

“มากันครบแล้วสินะ” ในเวลานั้นเองมันก็เกิดเสียงแห้งๆ เสียงหนึ่งดังเข้าหูทุกผู้คน

จากนั้นก็ปรากฏร่างของชายแก่ท่าทางราวนักปราชญ์ค่อยๆ บินร่อนลงมายังกลางลาน

เหล่าทายาทมังกรสวรรค์ทั้งหลายรวมไปถึงเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายที่นำทางมานั้นต่างก้มคุกเข่าลงทันทีที่ได้เห็นชายแก่ผู้นี้

“ขอคารวะท่านเฉินซิง!”

เมื่อเย่หยวนเห็นชายแก่นี้ดวงตาของเขาก็ต้องหรี่ลงเล็กอย่างไม่อาจห้ามตัวเองได้

เพราะชายแก่คนนี้ให้ความรู้สึกลึกลับไม่น้อยไปกว่าตัวจีโมผู้นั้น!

หรือก็คือชายแก่คนนี้ย่อมจะเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์ขั้นปลายแน่แท้แล้ว

แต่ชายแก่คนนี้เองก็ยังไม่อาจจะเทียบเคียงความลึกลับของผู้อาวุโสที่เขาได้เจอในถ้ำเนตรมังกรได้

เฉินซิงหันกวาดมองดูรอบๆ ก่อนจะมาหยุดตาลงที่เย่หยวน

เมื่ออ่าวหยูเห็นภาพนี้เขาก็อดไม่ได้ที่จะอมยิ้มขึ้น

ในเวลานี้ที่คนทั้งหลายคุกเข่าลงนั้นมันมีเพียงแค่เย่หยวนเท่านั้นที่ยืนนิ่งไม่ขยับไหว ราวกับว่าตัวเป็นหอคอยสูงส่ง

เจ้าเด็กคนนี้มันมีตาหามีแววไม่ แม้จะเห็นท่านเฉินซิงอยู่ตรงหน้าแต่มันกลับไม่คิดคุกเข่าลง ไม่ว่าจะมองดูอย่างไรก็เป็นการหาเรื่องใส่ตัว!

เพราะต่อให้เขาจะเป็นทายาทมังกรสวรรค์แต่ตำแหน่งนี้มันก็ย่อมไม่อาจจะเทียบมังกรสวรรค์ที่แท้จริงได้

ต่อหน้ามังกรสวรรค์แล้ว ต่อให้จะเป็นเจ้ามังกรใดๆ มันก็เป็นได้แค่เศษสวะ

“เย่หยวน นี่คือท่านเฉินซิง! ท่านเฉินซิงนั้นเป็นมังกรสวรรค์ ตำแหน่งของท่านนั้นสูงล้ำฟ้า เหตุใดเจ้ายังไม่คิดแสดงความเคารพอีก?” อ่าวฉีรีบพูดขึ้นมา

เย่หยวนจึงตอบกลับไป “ข้า เย่หยวนผู้นี้ไม่คุกเข่ากราบฟ้าดินใด ผู้ที่ข้าคุกเข่าให้นั้นคือพ่อแม่เท่านั้น! คนอื่นข้าก้มหัวทำความเคารพให้ได้ แต่จะให้คุกเข่า…มันย่อมไม่มีทาง!”

อ่าวหยูที่ได้ยินจึงหัวเราะขึ้น “เจ้าโง่! รนหาที่ตาย!”

จักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นไม่มีสิทธิจะฆ่าสังหารทายาทมังกรสวรรค์ลงได้ แต่มังกรสวรรค์นั้นทำได้!

ต่อให้ตัวเฉินซิงจะไม่ได้คิดฆ่าคนเป็นผักปลาแต่เขาก็คิดลงโทษได้

“ฮ่าๆๆ ไม่คุกเข่าให้ฟ้าดินใด! เย่หยวน ข้าหวังแค่ว่าเมื่อเจ้าก้าวขึ้นมาถึงระดับของข้าผู้นี้แล้วเจ้าจะยังมีความกล้ากล่าววาจาเช่นนั้นออกมา!” เฉินซิงหัวเราะลั่น

“ผู้อาวุโสเฉินซิงโปรดวางใจ จิตใจของเย่หยวนนี้หนักแน่นไม่มีเปลี่ยนแปลงแน่!” เย่หยวนตอบกลับ

เขาทำมาเช่นนี้และจะทำตลอดไป

เฉินซิงยิ้มขึ้นมามองดูเย่หยวนอย่างสนใจ “เจ้าคือทายาทมังกรสวรรค์คนใหม่ เย่หยวน?”

เย่หยวนจึงพยักหน้ารับ “เป็นข้าเอง”

เฉินซิงกล่าวขึ้น “ดีมาก หวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้จักรพรรดิผู้นี้ต้องผิดหวังในศึกทายาทมังกรครั้งนี้!”

เย่หยวนจึงยิ้มรับไป “ข้าจะไม่ทำให้ท่านผู้อาวุโสต้องผิดหวัง”

เฉินซิงพยักหน้ารับและหันไปหาทางหลงเสี่ยวฉุนแทน “เสี่ยวฉุน มานี้”

อ่าวหยูได้แต่นั่งมึนงงอย่างไม่อยากเชื่อสายตา

จบเท่านี้หรือ?

เพราะเหตุใด?

การลบหลู่มังกรสวรรค์นั้นคือโทษร้ายแรง!

ยอดฝีมือระดับเฉินซิงนั้นย่อมจะไม่ยอมทนรับการลบหลู่ใดๆ

แต่เย่หยวนกลับไม่ถูกลงโทษใดๆ เลยด้วยซ้ำ?

อ่าวหยูที่คุกเข่าอยู่กับพื้นนั้นต้องแสดงสีหน้าไม่คิดอยากเชื่อสายตาตนเอง

แต่มันมิใช่แค่ตัวเขานั้น ทุกผู้คนต่างตกตะลึงไม่ต่างกัน

ท่าทางเย่อหยิ่งของเย่หยวนนี้ท่านเฉินซิงควรฆ่าสังหารมันด้วยฝ่ามือแล้วมิใช่หรือ?

พวกเขานั้นไม่อาจทำความเข้าใจใดๆ ได้แต่เย่หยวนพอจะเดาเหตุผลออก

ดูท่าแล้วตรามังกรสวรรค์ที่อยู่บนร่างเขานี้มันจะแตกต่างจากตรามังกรสวรรค์ของคนทั้งหลาย

เพราะตัวตนที่อยู่ในถ้ำเนตรมังกรผู้นั้นย่อมจะมิใช่จักรพรรดิเทพสวรรค์ทั่วๆ ไปแน่นอน

บางทีเขาผู้นั้นอาจจะเป็นตัวตนยิ่งใหญ่เหมือนดั่งมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลก็เป็นได้

กับคนระดับนั้นแล้วเย่หยวนย่อมจะไม่อาจทำความเข้าใจพวกเขาได้ แต่ตัวเขาก็พอจะเดาได้ว่าช่องว่างระหว่างจักรพรรดิเทพสวรรค์และเต๋าบรรพกาลนั้นมันมีอะไรที่มากกว่าแค่พลัง

หลงเสี่ยวฉุนสะดุ้งไปทั้งกายเมื่อได้ยินคำเรียกก่อนจะเดินเข้าไปหาเฉินซิงด้วยหน้ามุ่ยๆ “ปู่เฉินซิง”

เฉินซิงกล่าวดุขึ้นมา “นังเด็กคนนี้! ครั้งนี้เจ้าต้องขึ้นไปบนเขามังกรสวรรค์กับข้า!”

……………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2163 ไม่คุกเข่ากราบฟ้าดินใด!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2163 ไม่คุกเข่ากราบฟ้าดินใด! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เอาล่ะ เหล่าทายาทมังกรสวรรค์ทั้งหลาย จะมีความขัดแย้งใดกันมาก็ขอให้ไปตัดสินกันที่ลานศึกหมอกเถอะ”

ในเวลานี้ผู้อาวุโสพิทักษ์อ่าวฉีที่นำคนทั้งหลายมาก็หันมาพูดว่า

คนทั้งหลายในที่นี้ต่างเป็นถึงทายาทมังกรสวรรค์มีตัวตนสูงล้ำ อนาคตอาจก้าวขึ้นถึงความเป็นมังกรสวรรค์ได้

แม้ว่าเขาเองก็จะเป็นถึงจักรพรรดิเทพสวรรค์ แต่ตัวเขานั้นก็ไม่อาจจะไปพูดกล่าวดุด่าใดๆ คนทั้งหลายนี้ได้แม้สักคำ

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นครั้งนี้เขาก็จำใจต้องพูดขัดขึ้นมาเพราะหากปล่อยไว้มันคงกลายเป็นเรื่องใหญ่

“หึ!” อ่าวหยูพ่นลมออกมาอย่างไม่พอใจก่อนจะเงียบปากลง

อ่าวฉีจึงกล่าวขึ้นอีกครั้ง “เอาล่ะ มันใกล้ถึงเวลาเต็มที เราควรเข้าไปในเขามังกรสวรรค์ได้แล้ว!”

จากนั้นเขาก็สะบัดแขนออกข้างหนึ่งดึงร่างของคนทั้งหลายเข้าไปด้วยพลังที่ไม่อาจต้านก่อนจะบินลอยเข้าไปในเขามังกรสวรรค์นั้น

เย่หยวนนั้นรู้สึกเหมือนภาพตรงหน้าดับมืดไปเสี้ยววินาทีก่อนจะพบว่าตัวเองนั้นยืนอยู่บนลานกว้างหนึ่ง

ด้านบนลานกว้างนี้มันมีหมอกหนาบังไว้ทำให้ไม่อาจเห็นได้ชัดว่ามีอะไรอยู่เบื้องบน

เย่หยวนนั้นรู้สึกได้ว่าแม้เวลานี้พวกเขาจะเข้ามาในเขตเขามังกรสวรรค์แล้วจริง แต่มันก็คงเป็นแค่ส่วนตีนเขาเท่านั้น

เมื่อเข้ามาถึงภายในนี้เย่หยวนก็รู้สึกได้ถึงคลื่นพลังวิญญาณอันหนักหน่วงที่ไม่ด้อยไปกว่าที่เขาแห่งถงเทียน

แน่นอนว่าสถานที่เช่นนี้ย่อมจะเป็นสวรรค์แห่งการบ่มเพาะ ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดแม้แต่อ่าวเจิ้นคนนั้นเองก็ยังอยากจะเข้ามาอาศัยอยู่ภายใน

ในเวลานี้มันปรากฏร่างของเด็กหนุ่มมากมายยืนอยู่บนลานกว้างพร้อมๆ กับตัวเย่หยวน คนทั้งหลายนี้แต่ละคนเองก็ล้วนมีตรามังกรสวรรค์อยู่บนหว่างคิ้วสิ้น ดูท่าแล้วคงเป็นทายาทมังกรสวรรค์กันทุกคน

“คนจากปราการมังกรม่วงนี่นา หึๆ ครั้งก่อนปราการมังกรม่วงเองก็ได้แค่ที่โหล่ คนที่มาครั้งนี้เองก็ดูไม่เท่าไหร่!”

“พวกอ่อนแอมันก็เป็นพวกอ่อนแออยู่วันยันค่ำ ต่อให้จะเป็นทายาทมังกรสวรรค์เองมันก็มีพวกขยะเปียกอยู่เหมือนกันแหละ!”

“ข้าว่านะพวกปราการมังกรม่วงทั้งหลายควรจะถูกตัดสิทธิไปเสียด้วยซ้ำ! ครั้งนี้พวกมันส่งมาแม้แต่เทพสวรรค์หนึ่งดาว ดูท่าทางปราการมังกรม่วงมันคงไม่มียอดฝีมือแล้วจริงๆ”

เย่หยวนและพวกยังมาถึงไม่ทันได้พักหายใจพวกเขาทั้งหลายก็ต้องได้ยินเสียงร้องดูถูกลอยมาตามลมเสียก่อน

เหล่าทายาทมังกรสวรรค์ทั้งหลายนี้ต่างจะดูถูกเหยียดหยามปราการมังกรม่วงไม่น้อย แต่ละคนต่างแสดงท่าทีออกมาอย่างไม่คิดปิดปังแม้แต่น้อย

อ่าวฉีเองก็ได้แต่ยืนยิ้มแห้งๆ อยู่ตรงนั้น คนทั้งหลายนี้เป็นถึงทายาทมังกรสวรรค์แน่นอนว่าย่อมจะมีตำแหน่งสูงส่งจนเขาไม่อาจเถียงใดๆ กลับไปได้

คนของปราการมังกรม่วงทั้งหลายนั้นรวมไปถึงตัวอ่าวหยูต่างล้วนแสดงสีหน้าเหยเกออกมา

“อ่าวฉี ครั้งนี้ก็เป็นเจ้านำมาอีกแล้วหรือ? ครั้งก่อนเองปราการมังกรม่วงเจ้าก็แทบจะถูกกวาดล้างสิ้น เจ้าเด็กที่รอดกลับไปได้นั้นก็ถูกถอนตรามังกรสวรรค์ไปเสียด้วย เจ้าเด็กคนนั้นมันตายไปหรือยังเล่า?” ไม่ไกลออกไปก็มีเสียงของจักรพรรดิเทพสวรรค์อีกผู้หนึ่งกล่าวดังขึ้น

อ่าวฉีที่ได้ยินก็ต้องหันกลับไปมองอย่างไม่พอใจ “หลงจื่อเฟิง พวกเจ้าเองก็ได้แค่ที่ห้า มีหน้ามาทำตัวอวดดีเช่นนี้หรือ?”

หลงจื่อเฟิงหัวเราะลั่นขึ้นเมื่อได้ยิน “ต่อหน้าปราการมังกรเทวะนั้นข้าย่อมจะไม่กล้า แต่ต่อหน้าปราการมังกรม่วงเจ้านั้นจักรพรรดิผู้นี้ย่อมจะกล่าวว่าได้! ที่สำคัญไปกว่านั้นคือศึกทายาทมังกรครานี้ปราการมังกรเมฆาเรามีหลงฉีที่มีโอกาสจะคว้าอันดับหนึ่งในสามมาได้!”

อ่าวฉีที่ได้ยินก็ยิ้มเย้ยขึ้น “หนึ่งในสาม เจ้าก็ช่างกล้าพูด! แม้จะไม่นับคนจากปราการมังกรเทวะแต่ทางปราการมังกรดำหรือปราการมังกรมงคลเองก็เก่งกาจมีพลังสายเลือดเข้มข้น แค่คนของเจ้านี้ก็จะขึ้นไปถึงหนึ่งในสามได้?”

หลงจื่อเฟิงยิ้มขึ้นมาเมื่อได้ยิน “หลงฉีนั้นสามารถปลุกทักษะเทวะภายในมาได้ถึงสองอย่างและที่สำคัญไปกว่านั้นเขายังสามารถปลุกตรามังกรสวรรค์ขึ้นมาได้อีกด้วย! เจ้าคิดว่าเขามีกำลังพอจะติดหนึ่งในสามหรือไม่เล่า?”

ตรามังกรสวรรค์นั้นย่อมจะมิใช่แค่ตราแสดงตำแหน่ง

ตรานี้มันคือสิ่งที่ยอดฝีมือในเขามังกรสวรรค์มอบให้แก่มังกรรุ่นหลัง หากมันถูกปลุกตื่นขึ้นมาได้คนผู้ที่สามารถปลุกมันนั้นก็จะได้รับพลังมหาศาล ช่วยพัฒนาทักษะเทวะภายในไปอีกหลายขั้น เพิ่มพลังให้อย่างไม่อาจคาดวัดได้

แน่นอนว่าหากคิดอยากปลุกตรามังกรสวรรค์ขึ้นมานี้มันย่อมจะต้องใช้ทั้งโชคและพรสวรรค์อย่างมากเกินจินตนาการ

ในหมู่ทายาทมังกรสวรรค์ทั้งหลายในที่นี้มันมีคนที่สามารถปลุกตรามังกรสวรรค์ขึ้นมาได้แค่ไม่กี่คน

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือทักษะเทวะภายในของเผ่ามังกรนั้นมันปลุกขึ้นได้ยากกว่าของเผ่ากิเลนมาก ทั้งยังมีพลังที่รุนแรงเหนือล้ำกว่ามากด้วยเช่นกัน.ไอรีนโนเวล.

หลงฉีนั้นสามารถปลุกทักษะเทวะภายในขึ้นมาได้ถึงสองอย่างย่อมจะต้องมีพลังฝีมือเหนือล้ำอย่างไม่อาจคาดเดา!

ได้ยินคำพูดอวดนี้ของหลงจื่อเฟิงสีหน้าของเหล่าทายาทมังกรสวรรค์ทั้งหลายเองมันก็เปลี่ยนแปลงไป

เพราะหากมันเป็นจริงดั่งที่หลงจื่อเฟิงว่าแล้ว เขาผู้นั้นก็ย่อมจะเก่งกาจพอได้รับหนึ่งในสามอันดับแรกไป!

“มากันครบแล้วสินะ” ในเวลานั้นเองมันก็เกิดเสียงแห้งๆ เสียงหนึ่งดังเข้าหูทุกผู้คน

จากนั้นก็ปรากฏร่างของชายแก่ท่าทางราวนักปราชญ์ค่อยๆ บินร่อนลงมายังกลางลาน

เหล่าทายาทมังกรสวรรค์ทั้งหลายรวมไปถึงเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายที่นำทางมานั้นต่างก้มคุกเข่าลงทันทีที่ได้เห็นชายแก่ผู้นี้

“ขอคารวะท่านเฉินซิง!”

เมื่อเย่หยวนเห็นชายแก่นี้ดวงตาของเขาก็ต้องหรี่ลงเล็กอย่างไม่อาจห้ามตัวเองได้

เพราะชายแก่คนนี้ให้ความรู้สึกลึกลับไม่น้อยไปกว่าตัวจีโมผู้นั้น!

หรือก็คือชายแก่คนนี้ย่อมจะเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์ขั้นปลายแน่แท้แล้ว

แต่ชายแก่คนนี้เองก็ยังไม่อาจจะเทียบเคียงความลึกลับของผู้อาวุโสที่เขาได้เจอในถ้ำเนตรมังกรได้

เฉินซิงหันกวาดมองดูรอบๆ ก่อนจะมาหยุดตาลงที่เย่หยวน

เมื่ออ่าวหยูเห็นภาพนี้เขาก็อดไม่ได้ที่จะอมยิ้มขึ้น

ในเวลานี้ที่คนทั้งหลายคุกเข่าลงนั้นมันมีเพียงแค่เย่หยวนเท่านั้นที่ยืนนิ่งไม่ขยับไหว ราวกับว่าตัวเป็นหอคอยสูงส่ง

เจ้าเด็กคนนี้มันมีตาหามีแววไม่ แม้จะเห็นท่านเฉินซิงอยู่ตรงหน้าแต่มันกลับไม่คิดคุกเข่าลง ไม่ว่าจะมองดูอย่างไรก็เป็นการหาเรื่องใส่ตัว!

เพราะต่อให้เขาจะเป็นทายาทมังกรสวรรค์แต่ตำแหน่งนี้มันก็ย่อมไม่อาจจะเทียบมังกรสวรรค์ที่แท้จริงได้

ต่อหน้ามังกรสวรรค์แล้ว ต่อให้จะเป็นเจ้ามังกรใดๆ มันก็เป็นได้แค่เศษสวะ

“เย่หยวน นี่คือท่านเฉินซิง! ท่านเฉินซิงนั้นเป็นมังกรสวรรค์ ตำแหน่งของท่านนั้นสูงล้ำฟ้า เหตุใดเจ้ายังไม่คิดแสดงความเคารพอีก?” อ่าวฉีรีบพูดขึ้นมา

เย่หยวนจึงตอบกลับไป “ข้า เย่หยวนผู้นี้ไม่คุกเข่ากราบฟ้าดินใด ผู้ที่ข้าคุกเข่าให้นั้นคือพ่อแม่เท่านั้น! คนอื่นข้าก้มหัวทำความเคารพให้ได้ แต่จะให้คุกเข่า…มันย่อมไม่มีทาง!”

อ่าวหยูที่ได้ยินจึงหัวเราะขึ้น “เจ้าโง่! รนหาที่ตาย!”

จักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นไม่มีสิทธิจะฆ่าสังหารทายาทมังกรสวรรค์ลงได้ แต่มังกรสวรรค์นั้นทำได้!

ต่อให้ตัวเฉินซิงจะไม่ได้คิดฆ่าคนเป็นผักปลาแต่เขาก็คิดลงโทษได้

“ฮ่าๆๆ ไม่คุกเข่าให้ฟ้าดินใด! เย่หยวน ข้าหวังแค่ว่าเมื่อเจ้าก้าวขึ้นมาถึงระดับของข้าผู้นี้แล้วเจ้าจะยังมีความกล้ากล่าววาจาเช่นนั้นออกมา!” เฉินซิงหัวเราะลั่น

“ผู้อาวุโสเฉินซิงโปรดวางใจ จิตใจของเย่หยวนนี้หนักแน่นไม่มีเปลี่ยนแปลงแน่!” เย่หยวนตอบกลับ

เขาทำมาเช่นนี้และจะทำตลอดไป

เฉินซิงยิ้มขึ้นมามองดูเย่หยวนอย่างสนใจ “เจ้าคือทายาทมังกรสวรรค์คนใหม่ เย่หยวน?”

เย่หยวนจึงพยักหน้ารับ “เป็นข้าเอง”

เฉินซิงกล่าวขึ้น “ดีมาก หวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้จักรพรรดิผู้นี้ต้องผิดหวังในศึกทายาทมังกรครั้งนี้!”

เย่หยวนจึงยิ้มรับไป “ข้าจะไม่ทำให้ท่านผู้อาวุโสต้องผิดหวัง”

เฉินซิงพยักหน้ารับและหันไปหาทางหลงเสี่ยวฉุนแทน “เสี่ยวฉุน มานี้”

อ่าวหยูได้แต่นั่งมึนงงอย่างไม่อยากเชื่อสายตา

จบเท่านี้หรือ?

เพราะเหตุใด?

การลบหลู่มังกรสวรรค์นั้นคือโทษร้ายแรง!

ยอดฝีมือระดับเฉินซิงนั้นย่อมจะไม่ยอมทนรับการลบหลู่ใดๆ

แต่เย่หยวนกลับไม่ถูกลงโทษใดๆ เลยด้วยซ้ำ?

อ่าวหยูที่คุกเข่าอยู่กับพื้นนั้นต้องแสดงสีหน้าไม่คิดอยากเชื่อสายตาตนเอง

แต่มันมิใช่แค่ตัวเขานั้น ทุกผู้คนต่างตกตะลึงไม่ต่างกัน

ท่าทางเย่อหยิ่งของเย่หยวนนี้ท่านเฉินซิงควรฆ่าสังหารมันด้วยฝ่ามือแล้วมิใช่หรือ?

พวกเขานั้นไม่อาจทำความเข้าใจใดๆ ได้แต่เย่หยวนพอจะเดาเหตุผลออก

ดูท่าแล้วตรามังกรสวรรค์ที่อยู่บนร่างเขานี้มันจะแตกต่างจากตรามังกรสวรรค์ของคนทั้งหลาย

เพราะตัวตนที่อยู่ในถ้ำเนตรมังกรผู้นั้นย่อมจะมิใช่จักรพรรดิเทพสวรรค์ทั่วๆ ไปแน่นอน

บางทีเขาผู้นั้นอาจจะเป็นตัวตนยิ่งใหญ่เหมือนดั่งมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลก็เป็นได้

กับคนระดับนั้นแล้วเย่หยวนย่อมจะไม่อาจทำความเข้าใจพวกเขาได้ แต่ตัวเขาก็พอจะเดาได้ว่าช่องว่างระหว่างจักรพรรดิเทพสวรรค์และเต๋าบรรพกาลนั้นมันมีอะไรที่มากกว่าแค่พลัง

หลงเสี่ยวฉุนสะดุ้งไปทั้งกายเมื่อได้ยินคำเรียกก่อนจะเดินเข้าไปหาเฉินซิงด้วยหน้ามุ่ยๆ “ปู่เฉินซิง”

เฉินซิงกล่าวดุขึ้นมา “นังเด็กคนนี้! ครั้งนี้เจ้าต้องขึ้นไปบนเขามังกรสวรรค์กับข้า!”

……………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+