Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2169 ไม่อาจทนดูได้

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2169 ไม่อาจทนดูได้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ทำไมมันเป็นเช่นนี้ไปได้? ต่อให้จะเป็นหัตถ์อนิจจังมังกรสวรรค์มันก็คงไม่มีทางจะรุนแรงได้ปานนี้ใช่หรือไม่? เจ้าเด็กคนนี้มันใช้วิธีการลึกลับใดกันแน่?”

หลงเทียนยู่มองดูเย่หยวนบนจอนั้นด้วยความมึนงงสงสัยอย่างสุดใจ

ก็จริงที่ว่าหัตถ์อนิจจังมังกรสวรรค์มันรุนแรง

แต่จะอย่างไรหมัดกระบวยใหญ่ไร้สุดก็ย่อมจะเหนือกว่า!

ต่อให้เย่หยวนจะมีกายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ดมันก็คงไม่มีทางจะเอาชนะอ่าวหยูลงอย่างเด็ดขาดเช่นนี้มิใช่หรือ?

เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายที่ได้เห็นภาพนั้นต่างก็รู้สึกสงสัยกับผลลัพธ์นี้ไม่ต่างกัน

พวกเขาทั้งหลายนั้นไม่ได้สนใจว่าอ่าวหยูจะตายหรือรอด สิ่งที่พวกเขาสนใจนั้นมันคือความเก่งกาจของเย่หยวน

“ใครจะสนเล่าว่าเขามีวิธีการลึกลับใด? ชนะก็คือชนะ! ท่านบอกไว้มิใช่หรือว่าเย่หยวนนั้นไม่มีโอกาสชนะแม้แต่น้อย?” หลงเสี่ยวฉุนถือโอกาสพูดฉีกหน้าหลงเทียนยู่ทันทีที่ได้โอกาส

หลงเทียนยู่เองก็ได้แต่นั่งหน้าแดงก่ำอย่างอับอายไม่กล้าพูดกล่าวใดๆ สวนกลับไปอีก

แต่เฉินซิงกลับเป็นฝ่ายที่กล่าวพูดขึ้นมา “หากข้าดูไม่ผิดสิ่งที่เย่หยวนทำมันน่าจะเป็นการกักพลัง! วิธีการเช่นนี้มันจะทำให้วรยุทธไม่สูญเสียพลังก่อนจะปล่อยออกทำให้มันดูสุดแสนธรรมดาก่อนจะปล่อยแต่เมื่อปล่อยออกมาแล้วมันจะเกิดคลื่นพลังที่รุนแรงกว่าเก่าอย่างไม่อาจหยุดยั้งได้! ทำเช่นนี้ได้มันก็จะทำให้วรยุทธนั้นรุนแรงกว่าเก่าได้เป็นเท่าตัวหรือหลายเท่าตัวจากพลังเดิม!”

“หะ? มันมีวิธีการเช่นนั้นอยู่ด้วย!”

“นี่มันจะบ้าเกินฟ้าดินไปแล้ว! วิธีการเช่นนั้นมันย่อมจะทำให้วรยุทธแสดงพลังออกมาได้อย่างถึงที่สุดเป็นแน่! ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดหมัดกระบวยใหญ่ไร้สุดมันถึงได้ดูอ่อนแอเสียเหลือเกินเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา!”

“ทำไมข้าจึงไม่เคยได้ยินวิธีการเช่นนั้นมาก่อนเลยเล่า?”

เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายนั้นมีชีวิตมาอย่างยาวนาน หากพูดตามสามัญสำนึกแล้วความรู้ความเข้าใจที่พวกเขาทั้งหลายมีต่อโลกหล้ามันย่อมจะเหนือล้ำผู้คนทั่วไป

แต่วิธีการปล่อยวรยุทธของเย่หยวนนี้มันไม่เคยมีใครได้ยินมาก่อน

เจ้าเด็กคนนี้มันต้องมีโชคดีล้ำปานใดจึงไปเจอเรื่องราวเช่นนั้นได้?

เฉินซิงได้แต่ส่ายหัวออกมา “วิธีการเช่นนี้ในยุคก่อนมันนับว่าเป็นเรื่องแสนธรรมดา แต่เวลาผ่านไปมันก็จางหายไปตามกาลเวลา จักรพรรดิผู้นี้เองก็แค่ได้เห็นมันสลักอยู่ในบันทึกโบราณของเขามังกรสวรรค์และวิธีการที่เย่หยวนใช้ออกมานี้มันก็ตรงกับที่บันทึกไว้อย่างน่าเหลือเชื่อ”

เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายต่างหันมามองหน้ากันพร้อมสูดหายใจเข้าลึก

หลังจากไม้ตายแล้วไม้ตายเล่าของเย่หยวนถูกเปิดเผยออกสู่สายตาพวกเขา เวลานี้ความตื่นตกใจที่พวกเขามีมันจึงยิ่งเพิ่มพูน

ภายในลานศึกหมอกเวลานี้เย่หยวนก้มลงมองดูอ่าวหยูที่อยู่ใต้เท้าก่อนกล่าวขึ้น “มันไม่มีทำไม เหตุผลเดียวนั้น…เพราะว่าเจ้าอ่อนแอ! ปลุกตรามังกรสวรรค์ครั้งที่สองแล้วทำไมเล่า? สุดท้ายเจ้าก็ไม่อาจจะทำให้ข้าต้องเอาจริงได้ด้วยซ้ำ ฝีมือเพียงเท่านี้ก็คิดอยากฆ่าสังหารข้าแล้วหรือ?”

อ่าวหยูจ้องมองดูภาพตรงหน้าอย่างไม่อาจทำใจเชื่อ แต่เวลานี้ม่านตาของเขามันก็เริ่มเบิกกว้างขึ้นเรื่อยๆ

หลังจากต่อสู้กันปานนี้แล้วเย่หยวนกลับยังไม่ได้เอาจริง?

เจ้าหมอนี่…มันมีขีดจำกัดหรือไม่?

แต่ทว่าเรื่องราวจากนี้มันมิใช่สิ่งที่เขาต้องกังวลอีกต่อไปแล้ว

เย่หยวนเหยียบเท้าลงจบชีวิตอันน่าสมเพชของอ่าวหยู

หลงเจิงนั้นไม่ได้มีความแค้นใดๆ กับเย่หยวน เย่หยวนจึงไม่ได้ถึงขั้นฆ่าสังหารใดๆ

แต่อ่าวหยูนี้คิดอยากฆ่าสังหารเขา แน่นอนว่าเขาย่อมจะไม่ปล่อยเสือเข้าป่า

ได้เห็นเช่นนั้นอ่าวฉีเองก็ได้แต่ส่ายหัวออกมาอย่างหนักใจ

เขานั้นไม่นึกไม่ฝันว่าปราการมังกรม่วงของเขานั้นจะให้กำเนิดยอดอัจฉริยะขึ้นมาถึงสองคนเช่นนี้ แต่สุดท้ายคนทั้งสองกลับต้องมาเอาชีวิตกันเอง

เย่หยวนเก็บผลึกต้นมังกรขึ้นมาและเดินทางต่อไปในลานศึกหมอก

เขานั้นเดินไปอย่างสบายใจไม่คิดกังวลใดๆ ทั้งสิ้น

ในลานศึกหมอกนี้คนที่จะสามารถทำร้ายเขาได้นั้นมันยังไม่ปรากฏตัวขึ้น

หากเขาไม่อาจจัดการคนในระดับเดียวกันได้แล้วมันก็คงจะอ่อนแอจนเกินไป

แต่ไม่ว่าอย่างไรเหล่าทายาทมังกรสวรรค์ทั้งหลายนั้นก็เก่งกาจเหนือล้ำ ต่อสู้ข้ามดาวได้อย่างไม่ยากเย็น

หากเอาอ่าวหยูออกไปจากลานศึกหมอกนี้ ตัวเขาคงบรรลุขึ้นอาณาจักรเทพสวรรค์สามดาวได้ในไม่ช้า

ด้วยพลังการต่อสู้ของเขาแล้วต่อให้จะต้องเจอเทพสวรรค์สี่ดาวตัวเขาก็คงพอปกป้องตัวเองได้

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียสำหรับคนทั่วๆ ไปการที่เทพสวรรค์สี่ดาวสู้กับเทพสวรรค์สามดาวนั้นมันก็เท่ากับความตายอย่างไม่อาจเลี่ยง

แต่ในระดับเดียวกันแล้วใครก็คงไม่อาจจะโค่นเย่หยวนลงได้ง่ายๆ

ยิ่งเวลาผ่านไปนานเข้าเหล่าทายาทมังกรสวรรค์ที่ยังอยู่ในลานศึกหมอกมันก็ค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ

เวลานี้เหล่าคนเหลืออยู่ย่อมเป็นยอดของยอดคน ทำให้การต่อสู้ใดๆ ก็ยิ่งจะรุนแรงมากขึ้น

หลังจากที่เย่หยวนจัดการทายาทมังกรสวรรค์ลงอีกสองคนเขาก็ได้มาเจอหลงฉีอย่างไม่คาดฝัน

หลงฉีนั้นแม้จะพ่ายแพ้แก่อ่าวหยูแต่เขาก็ไม่ได้ถอนตัวออกจากลานศึกหมอกและไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ มากมาย

หลังจากหลบหนีมาได้ตัวเขาก็เริ่มออกล่าหาผลึกต้นมังกรอีกครั้ง

เมื่อหลบงฉีเห็นเย่หยวนเขาก็หรี่ตาลงก่อนร้องบอก “เป็นเจ้าจอมโอหังนี่เองหรือ? ไปให้พ้น ไม่เช่นนั้นเจ้าตาย!”

เมื่อเย่หยวนได้ยินคำพูดนั้นเขาก็แทบจะอดหัวเราะขึ้นไม่ได้

เหล่าคนทั้งหลายนี้ต่างเดินเข้ามาข่มขู่เขาด้วยคำพูดอวดตัว พูดจาในทำนองเดียวกันนี้สิ้น

เย่หยวนนั้นไม่คิดสนใจเขาและเดินเข้าไปหาผลึกต้นมังกรอย่างไม่แยแส

หลงฉีที่ได้เห็นต้องเบิกตากว้างขึ้น “ข้าพูดกับเจ้า เจ้าหูหนวกหรือ? เข้าไปใกล้กว่านี้ข้าจะให้เจ้าได้ตายลงแล้ว!”

หลงฉีนั้นไม่ได้รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นแต่หลงจื่อเฟิงที่ด้านนอกนั้นได้แต่นั่งคอตก

ในลานศึกหมอกนี้ไม่ว่าจะต่อสู้กันดุเดือดรุนแรงปานใด คนที่ไม่ได้เข้าร่วมต่อสู้ก็จะไม่รู้ถึงเรื่องราวอย่างสิ้นเชิง

หลงฉีนั้นไม่ได้รู้เลยว่าอ่าวหยูที่ชนะเขาไปได้นั้นกลับต้องตายลงใต้เท้าของเย่หยวน

เวลานี้เมื่อหลงฉีเดินเข้ามาหาเรื่องเย่หยวนด้วยท่าทางอวดดีเช่นนี้ มันจะไม่เป็นการรนหาที่ตายอย่างใช่เหตุหรือ?

เมื่อจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายที่ด้านนอกเห็นภาพนี้พวกเขาก็อดหัวเราะกันขึ้นไม่ได้

เวลานี้แม้แต่อ่าวฉีที่นั่งหนักใจในทีแรกยังต้องกล่าวเย้ยขึ้น “หลงจื่อเฟิง หลงฉีนั้นจะติดหนึ่งในสามมิใช่หรือ? หากเขาเอาชนะเย่หยวนลงได้แล้วเขาคงติดหนึ่งในสามได้แน่ อ่า จริงด้วยสิ เจ้าบอกว่าเจ้ามีปัญญาพอจะอวดอ้างตนต่อหน้าปราการมังกรม่วงเรามิใช่หรือ? เอาสิๆ อวดอ้างตัวเองให้เต็มที่เลย”

เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายที่ได้ยินต่างหัวเราะลั่นขึ้นตามๆ กัน

เวลานี้หลงจื่อเฟิงจะยังอวดอ้างใดๆ ได้?

เขานั้นแค่พ่นลมตอบกลับมาด้วยสีหน้าไม่พอใจ แต่สายตาของเขานั้นยังมีความหวัง หวังว่าหลงฉีจะไม่ลงมือกับเย่หยวนจริงๆ

แต่น่าเสียดายที่หลงฉีกลับทำลายความหวังนั้นลง

เมื่อได้เห็นเย่หยวนไม่คิดสนใจเขาแม้แต่น้อยยังคงเดินเข้าไปหาผลึกต้นมังกร หลงฉีก็ร้องขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก “คนเขาอุตส่าห์ไว้หน้ากลับไม่รับ เจ้าคิดว่าตนเองนั้นเก่งกาจมากมายหรือ? ในเมื่อเจ้าคิดรนหาที่ตายเองก็อย่าได้มาโทษข้าเลย! พิฆาตมังกรทรราชเลือนหาย!”

หลงฉีเองก็ปลุกทักษะเทวะภายในที่สองขึ้นมาได้แต่ตรามังกรสวรรค์ของเขานั้นยังไม่ได้ตื่นครั้งที่สองทำให้พลังของมันไม่อาจเทียบกับอ่าวหยูได้

เย่หยวนนั้นไม่คิดสนใจพูดกล่าวใดๆ และปล่อยฝ่ามือล้ำจักรวาลออกมาส่งร่างของหลงฉีลอยลิ่วไป

หลงฉีร่วงตกลงพื้นด้วยความมึนงงสุดหัวใจ

“บ้าน่า! ฝ่ามือล้ำจักรวาลกลับทำลายพิฆาตมังกรทรราชเลือนหายข้าลงได้?” หลงฉีได้แต่เบิกตากว้าง

คำพูดที่เย่หยวนกล่าวก่อนเข้ามานี้หลงฉีย่อมไม่คิดสนใจใดๆ

เจ้าคนที่ยังไม่อาจปลุกตรามังกรสวรรค์ขึ้นมาได้มันจะเก่งกาจสักเท่าใด?

แต่เวลานี้เขาได้รู้แล้วว่าตนนั้นคิดผิด!

ผิดอย่างมหันต์!

เย่หยวนนั้นเก่งกาจอย่างที่โม้ไว้จริงๆ!

เย่หยวนก้มลงเก็บผลึกต้นมังกรนั้นและหันไปกล่าวบอก “เจ้าเองก็น่าจะปลุกหมัดกระบวยใหญ่ไร้สุดได้ใช่ไหมเล่า? หากยังไม่ยอมรับจะใช้มันออกมาก็ได้”

ท้าทาย!

ดูถูกอย่างชัดเจน!

หลงฉีนั้นเป็นคนมากเกียรติศักดิ์ศรี มีหรือที่จะทนการท้าทายนี้ได้?

“เด็กน้อย ในเมื่อเจ้าอยากตายจริงๆ ก็ตายไปเสียเถอะ!”

หลงฉีหรี่ตาลงพร้อมก่อร่างมังกรขึ้นมาอีกครั้ง มันเป็นพลังของหมัดกระบวยใหญ่ไร้สุด!

แต่เขานั้นไม่ได้รู้เลยว่าที่โลกด้านนอกเวลานี้หลงจื่อเฟิงได้แต่นั่งหลับตาไม่อาจจะทนมองดูภาพตรงหน้าได้อีกต่อไป

แน่นอนว่าเมื่อปะทะหลงฉีก็ถูกซัดลอยลิ่วไปจนไม่เหลือแรงจะลุกขึ้นใดๆ อีก

แต่ทว่าครั้งนี้เย่หยวนไม่ได้คิดลงมือสังหารใดๆ เขาจึงได้ปล่อยให้หลงฉีได้ถอนตัวออกจากลานศึกหมอกไป

……………….

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2169 ไม่อาจทนดูได้

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2169 ไม่อาจทนดูได้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ทำไมมันเป็นเช่นนี้ไปได้? ต่อให้จะเป็นหัตถ์อนิจจังมังกรสวรรค์มันก็คงไม่มีทางจะรุนแรงได้ปานนี้ใช่หรือไม่? เจ้าเด็กคนนี้มันใช้วิธีการลึกลับใดกันแน่?”

หลงเทียนยู่มองดูเย่หยวนบนจอนั้นด้วยความมึนงงสงสัยอย่างสุดใจ

ก็จริงที่ว่าหัตถ์อนิจจังมังกรสวรรค์มันรุนแรง

แต่จะอย่างไรหมัดกระบวยใหญ่ไร้สุดก็ย่อมจะเหนือกว่า!

ต่อให้เย่หยวนจะมีกายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ดมันก็คงไม่มีทางจะเอาชนะอ่าวหยูลงอย่างเด็ดขาดเช่นนี้มิใช่หรือ?

เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายที่ได้เห็นภาพนั้นต่างก็รู้สึกสงสัยกับผลลัพธ์นี้ไม่ต่างกัน

พวกเขาทั้งหลายนั้นไม่ได้สนใจว่าอ่าวหยูจะตายหรือรอด สิ่งที่พวกเขาสนใจนั้นมันคือความเก่งกาจของเย่หยวน

“ใครจะสนเล่าว่าเขามีวิธีการลึกลับใด? ชนะก็คือชนะ! ท่านบอกไว้มิใช่หรือว่าเย่หยวนนั้นไม่มีโอกาสชนะแม้แต่น้อย?” หลงเสี่ยวฉุนถือโอกาสพูดฉีกหน้าหลงเทียนยู่ทันทีที่ได้โอกาส

หลงเทียนยู่เองก็ได้แต่นั่งหน้าแดงก่ำอย่างอับอายไม่กล้าพูดกล่าวใดๆ สวนกลับไปอีก

แต่เฉินซิงกลับเป็นฝ่ายที่กล่าวพูดขึ้นมา “หากข้าดูไม่ผิดสิ่งที่เย่หยวนทำมันน่าจะเป็นการกักพลัง! วิธีการเช่นนี้มันจะทำให้วรยุทธไม่สูญเสียพลังก่อนจะปล่อยออกทำให้มันดูสุดแสนธรรมดาก่อนจะปล่อยแต่เมื่อปล่อยออกมาแล้วมันจะเกิดคลื่นพลังที่รุนแรงกว่าเก่าอย่างไม่อาจหยุดยั้งได้! ทำเช่นนี้ได้มันก็จะทำให้วรยุทธนั้นรุนแรงกว่าเก่าได้เป็นเท่าตัวหรือหลายเท่าตัวจากพลังเดิม!”

“หะ? มันมีวิธีการเช่นนั้นอยู่ด้วย!”

“นี่มันจะบ้าเกินฟ้าดินไปแล้ว! วิธีการเช่นนั้นมันย่อมจะทำให้วรยุทธแสดงพลังออกมาได้อย่างถึงที่สุดเป็นแน่! ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดหมัดกระบวยใหญ่ไร้สุดมันถึงได้ดูอ่อนแอเสียเหลือเกินเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา!”

“ทำไมข้าจึงไม่เคยได้ยินวิธีการเช่นนั้นมาก่อนเลยเล่า?”

เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายนั้นมีชีวิตมาอย่างยาวนาน หากพูดตามสามัญสำนึกแล้วความรู้ความเข้าใจที่พวกเขาทั้งหลายมีต่อโลกหล้ามันย่อมจะเหนือล้ำผู้คนทั่วไป

แต่วิธีการปล่อยวรยุทธของเย่หยวนนี้มันไม่เคยมีใครได้ยินมาก่อน

เจ้าเด็กคนนี้มันต้องมีโชคดีล้ำปานใดจึงไปเจอเรื่องราวเช่นนั้นได้?

เฉินซิงได้แต่ส่ายหัวออกมา “วิธีการเช่นนี้ในยุคก่อนมันนับว่าเป็นเรื่องแสนธรรมดา แต่เวลาผ่านไปมันก็จางหายไปตามกาลเวลา จักรพรรดิผู้นี้เองก็แค่ได้เห็นมันสลักอยู่ในบันทึกโบราณของเขามังกรสวรรค์และวิธีการที่เย่หยวนใช้ออกมานี้มันก็ตรงกับที่บันทึกไว้อย่างน่าเหลือเชื่อ”

เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายต่างหันมามองหน้ากันพร้อมสูดหายใจเข้าลึก

หลังจากไม้ตายแล้วไม้ตายเล่าของเย่หยวนถูกเปิดเผยออกสู่สายตาพวกเขา เวลานี้ความตื่นตกใจที่พวกเขามีมันจึงยิ่งเพิ่มพูน

ภายในลานศึกหมอกเวลานี้เย่หยวนก้มลงมองดูอ่าวหยูที่อยู่ใต้เท้าก่อนกล่าวขึ้น “มันไม่มีทำไม เหตุผลเดียวนั้น…เพราะว่าเจ้าอ่อนแอ! ปลุกตรามังกรสวรรค์ครั้งที่สองแล้วทำไมเล่า? สุดท้ายเจ้าก็ไม่อาจจะทำให้ข้าต้องเอาจริงได้ด้วยซ้ำ ฝีมือเพียงเท่านี้ก็คิดอยากฆ่าสังหารข้าแล้วหรือ?”

อ่าวหยูจ้องมองดูภาพตรงหน้าอย่างไม่อาจทำใจเชื่อ แต่เวลานี้ม่านตาของเขามันก็เริ่มเบิกกว้างขึ้นเรื่อยๆ

หลังจากต่อสู้กันปานนี้แล้วเย่หยวนกลับยังไม่ได้เอาจริง?

เจ้าหมอนี่…มันมีขีดจำกัดหรือไม่?

แต่ทว่าเรื่องราวจากนี้มันมิใช่สิ่งที่เขาต้องกังวลอีกต่อไปแล้ว

เย่หยวนเหยียบเท้าลงจบชีวิตอันน่าสมเพชของอ่าวหยู

หลงเจิงนั้นไม่ได้มีความแค้นใดๆ กับเย่หยวน เย่หยวนจึงไม่ได้ถึงขั้นฆ่าสังหารใดๆ

แต่อ่าวหยูนี้คิดอยากฆ่าสังหารเขา แน่นอนว่าเขาย่อมจะไม่ปล่อยเสือเข้าป่า

ได้เห็นเช่นนั้นอ่าวฉีเองก็ได้แต่ส่ายหัวออกมาอย่างหนักใจ

เขานั้นไม่นึกไม่ฝันว่าปราการมังกรม่วงของเขานั้นจะให้กำเนิดยอดอัจฉริยะขึ้นมาถึงสองคนเช่นนี้ แต่สุดท้ายคนทั้งสองกลับต้องมาเอาชีวิตกันเอง

เย่หยวนเก็บผลึกต้นมังกรขึ้นมาและเดินทางต่อไปในลานศึกหมอก

เขานั้นเดินไปอย่างสบายใจไม่คิดกังวลใดๆ ทั้งสิ้น

ในลานศึกหมอกนี้คนที่จะสามารถทำร้ายเขาได้นั้นมันยังไม่ปรากฏตัวขึ้น

หากเขาไม่อาจจัดการคนในระดับเดียวกันได้แล้วมันก็คงจะอ่อนแอจนเกินไป

แต่ไม่ว่าอย่างไรเหล่าทายาทมังกรสวรรค์ทั้งหลายนั้นก็เก่งกาจเหนือล้ำ ต่อสู้ข้ามดาวได้อย่างไม่ยากเย็น

หากเอาอ่าวหยูออกไปจากลานศึกหมอกนี้ ตัวเขาคงบรรลุขึ้นอาณาจักรเทพสวรรค์สามดาวได้ในไม่ช้า

ด้วยพลังการต่อสู้ของเขาแล้วต่อให้จะต้องเจอเทพสวรรค์สี่ดาวตัวเขาก็คงพอปกป้องตัวเองได้

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียสำหรับคนทั่วๆ ไปการที่เทพสวรรค์สี่ดาวสู้กับเทพสวรรค์สามดาวนั้นมันก็เท่ากับความตายอย่างไม่อาจเลี่ยง

แต่ในระดับเดียวกันแล้วใครก็คงไม่อาจจะโค่นเย่หยวนลงได้ง่ายๆ

ยิ่งเวลาผ่านไปนานเข้าเหล่าทายาทมังกรสวรรค์ที่ยังอยู่ในลานศึกหมอกมันก็ค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ

เวลานี้เหล่าคนเหลืออยู่ย่อมเป็นยอดของยอดคน ทำให้การต่อสู้ใดๆ ก็ยิ่งจะรุนแรงมากขึ้น

หลังจากที่เย่หยวนจัดการทายาทมังกรสวรรค์ลงอีกสองคนเขาก็ได้มาเจอหลงฉีอย่างไม่คาดฝัน

หลงฉีนั้นแม้จะพ่ายแพ้แก่อ่าวหยูแต่เขาก็ไม่ได้ถอนตัวออกจากลานศึกหมอกและไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ มากมาย

หลังจากหลบหนีมาได้ตัวเขาก็เริ่มออกล่าหาผลึกต้นมังกรอีกครั้ง

เมื่อหลบงฉีเห็นเย่หยวนเขาก็หรี่ตาลงก่อนร้องบอก “เป็นเจ้าจอมโอหังนี่เองหรือ? ไปให้พ้น ไม่เช่นนั้นเจ้าตาย!”

เมื่อเย่หยวนได้ยินคำพูดนั้นเขาก็แทบจะอดหัวเราะขึ้นไม่ได้

เหล่าคนทั้งหลายนี้ต่างเดินเข้ามาข่มขู่เขาด้วยคำพูดอวดตัว พูดจาในทำนองเดียวกันนี้สิ้น

เย่หยวนนั้นไม่คิดสนใจเขาและเดินเข้าไปหาผลึกต้นมังกรอย่างไม่แยแส

หลงฉีที่ได้เห็นต้องเบิกตากว้างขึ้น “ข้าพูดกับเจ้า เจ้าหูหนวกหรือ? เข้าไปใกล้กว่านี้ข้าจะให้เจ้าได้ตายลงแล้ว!”

หลงฉีนั้นไม่ได้รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นแต่หลงจื่อเฟิงที่ด้านนอกนั้นได้แต่นั่งคอตก

ในลานศึกหมอกนี้ไม่ว่าจะต่อสู้กันดุเดือดรุนแรงปานใด คนที่ไม่ได้เข้าร่วมต่อสู้ก็จะไม่รู้ถึงเรื่องราวอย่างสิ้นเชิง

หลงฉีนั้นไม่ได้รู้เลยว่าอ่าวหยูที่ชนะเขาไปได้นั้นกลับต้องตายลงใต้เท้าของเย่หยวน

เวลานี้เมื่อหลงฉีเดินเข้ามาหาเรื่องเย่หยวนด้วยท่าทางอวดดีเช่นนี้ มันจะไม่เป็นการรนหาที่ตายอย่างใช่เหตุหรือ?

เมื่อจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายที่ด้านนอกเห็นภาพนี้พวกเขาก็อดหัวเราะกันขึ้นไม่ได้

เวลานี้แม้แต่อ่าวฉีที่นั่งหนักใจในทีแรกยังต้องกล่าวเย้ยขึ้น “หลงจื่อเฟิง หลงฉีนั้นจะติดหนึ่งในสามมิใช่หรือ? หากเขาเอาชนะเย่หยวนลงได้แล้วเขาคงติดหนึ่งในสามได้แน่ อ่า จริงด้วยสิ เจ้าบอกว่าเจ้ามีปัญญาพอจะอวดอ้างตนต่อหน้าปราการมังกรม่วงเรามิใช่หรือ? เอาสิๆ อวดอ้างตัวเองให้เต็มที่เลย”

เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายที่ได้ยินต่างหัวเราะลั่นขึ้นตามๆ กัน

เวลานี้หลงจื่อเฟิงจะยังอวดอ้างใดๆ ได้?

เขานั้นแค่พ่นลมตอบกลับมาด้วยสีหน้าไม่พอใจ แต่สายตาของเขานั้นยังมีความหวัง หวังว่าหลงฉีจะไม่ลงมือกับเย่หยวนจริงๆ

แต่น่าเสียดายที่หลงฉีกลับทำลายความหวังนั้นลง

เมื่อได้เห็นเย่หยวนไม่คิดสนใจเขาแม้แต่น้อยยังคงเดินเข้าไปหาผลึกต้นมังกร หลงฉีก็ร้องขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก “คนเขาอุตส่าห์ไว้หน้ากลับไม่รับ เจ้าคิดว่าตนเองนั้นเก่งกาจมากมายหรือ? ในเมื่อเจ้าคิดรนหาที่ตายเองก็อย่าได้มาโทษข้าเลย! พิฆาตมังกรทรราชเลือนหาย!”

หลงฉีเองก็ปลุกทักษะเทวะภายในที่สองขึ้นมาได้แต่ตรามังกรสวรรค์ของเขานั้นยังไม่ได้ตื่นครั้งที่สองทำให้พลังของมันไม่อาจเทียบกับอ่าวหยูได้

เย่หยวนนั้นไม่คิดสนใจพูดกล่าวใดๆ และปล่อยฝ่ามือล้ำจักรวาลออกมาส่งร่างของหลงฉีลอยลิ่วไป

หลงฉีร่วงตกลงพื้นด้วยความมึนงงสุดหัวใจ

“บ้าน่า! ฝ่ามือล้ำจักรวาลกลับทำลายพิฆาตมังกรทรราชเลือนหายข้าลงได้?” หลงฉีได้แต่เบิกตากว้าง

คำพูดที่เย่หยวนกล่าวก่อนเข้ามานี้หลงฉีย่อมไม่คิดสนใจใดๆ

เจ้าคนที่ยังไม่อาจปลุกตรามังกรสวรรค์ขึ้นมาได้มันจะเก่งกาจสักเท่าใด?

แต่เวลานี้เขาได้รู้แล้วว่าตนนั้นคิดผิด!

ผิดอย่างมหันต์!

เย่หยวนนั้นเก่งกาจอย่างที่โม้ไว้จริงๆ!

เย่หยวนก้มลงเก็บผลึกต้นมังกรนั้นและหันไปกล่าวบอก “เจ้าเองก็น่าจะปลุกหมัดกระบวยใหญ่ไร้สุดได้ใช่ไหมเล่า? หากยังไม่ยอมรับจะใช้มันออกมาก็ได้”

ท้าทาย!

ดูถูกอย่างชัดเจน!

หลงฉีนั้นเป็นคนมากเกียรติศักดิ์ศรี มีหรือที่จะทนการท้าทายนี้ได้?

“เด็กน้อย ในเมื่อเจ้าอยากตายจริงๆ ก็ตายไปเสียเถอะ!”

หลงฉีหรี่ตาลงพร้อมก่อร่างมังกรขึ้นมาอีกครั้ง มันเป็นพลังของหมัดกระบวยใหญ่ไร้สุด!

แต่เขานั้นไม่ได้รู้เลยว่าที่โลกด้านนอกเวลานี้หลงจื่อเฟิงได้แต่นั่งหลับตาไม่อาจจะทนมองดูภาพตรงหน้าได้อีกต่อไป

แน่นอนว่าเมื่อปะทะหลงฉีก็ถูกซัดลอยลิ่วไปจนไม่เหลือแรงจะลุกขึ้นใดๆ อีก

แต่ทว่าครั้งนี้เย่หยวนไม่ได้คิดลงมือสังหารใดๆ เขาจึงได้ปล่อยให้หลงฉีได้ถอนตัวออกจากลานศึกหมอกไป

……………….

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+