Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2175 ศิลาเทวะผสานวิญญาณ!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2175 ศิลาเทวะผสานวิญญาณ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ชิ้นที่สิบหก!

ชิ้นที่สิบเจ็ด!

ชิ้นที่ยี่สิบ!

ชิ้นที่ยี่สิบเอ็ด!

ในพริบตาเดียวเย่หยวนก็ได้ดูดซับผลึกต้นมังกรลงไปอีกถึงหกชิ้น

ความเร็วในการดูดซับนี้มันทำให้คนทั้งหลายต้องอ้าปากค้าง

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือใบหน้าของเย่หยวนมันกลับนิ่งเฉยไร้ท่าทางเจ็บปวดใดๆ เหมือนดั่งเขากำลังนั่งบ่มเพาะตามธรรมดา

“แน่นอนล่ะว่ากายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ดมันต้องทำได้ขนาดนี้!”

“ความมั่นใจของเจ้าเด็กคนนี้มันเกิดขึ้นมาเพราะกายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ดใช่หรือไม่? แต่กายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ดเองมันจะทนได้ถึงเมื่อไหร่กัน?”

“เผ่ามังกรเรานั้นมีกายเนื้อแข็งแกร่งมากล้น ต่อให้มันจะไม่อาจเทียบกายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ดได้แต่ความแตกต่างมันก็คงไม่มากมาย ข้าว่าอย่างมากก็คงจบที่สามสิบชิ้นเท่านั้น!”

คนทั้งหลายที่ล้อมรอบอยู่เวลานี้ ทั้งจักรพรรดิเทพสวรรค์ที่นำมาและเหล่าทายาทมังกรสวรรค์ทั้งหลายต่างพูดคุยกันถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นตรงหน้านี้

พวกเขานั้นคิดว่าเหตุผลที่เย่หยวนเก่งกาจกว่าพวกเขาไปนั้นมันเพราะว่าเขามีกายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ดเท่านั้น

แต่ทว่าเมื่อจำนวนที่เย่หยวนดูดกลืนลงไปมันยิ่งมาก ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นมันก็ยิ่งเพิ่มพูนตาม

เขานั้นดูดซับผลึกต้นมังกรและรับพลังต้นกำเนิดมังกรไปอย่างมากมายแต่ตรามังกรสวรรค์ของเขามันกลับไม่ตอบสนองใดๆ เลย

กลับกัน มันเป็นทางการบ่มเพาะของเขาที่เพิ่มพูนขึ้นหลังจากดูดซับผลึกต้นมังกรลงไปเป็นจำนวนมาก

เมื่อเย่หยวนดูดซับผลึกต้นมังกรไปถึงชิ้นที่สามสิบ คนทั้งหลายก็ได้แต่ต้องเบิกตาค้าง

“เจ้าหมอนี่มันบ้าไปแล้วหรือ? เขา…เขาไม่รู้จักความเจ็บปวดหรืออย่างไร?” หลงฉีมองดูเย่หยวนที่กัดฟันแน่นพร้อมกล้ามเนื้อบนใบหน้าที่สั่นกระตุก

ตามที่เล่ากันมานั้นมันเคยมีคนดูดซับผลึกต้นมังกรลงไปถึงยี่สิบห้าชิ้น

แต่ตามความเป็นจริงแล้วแค่จะหาคนที่ดูดซับมันลงได้ไปถึงชิ้นที่ยี่สิบมันก็แทบจะหาไม่ได้บนโลกหล้า

เพราะว่ายิ่งดูดซับลงไปมาก คนทั้งหลายก็จะยิ่งไม่อาจทนทานความทรมานนั้นไหว

แต่เย่หยวนนั้นกลับดูดซับผลึกต้นมังกรลงไปถึงสามสิบชิ้นแล้วในเวลานี้และยังสามารถจะทนรับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นไว้อย่างไม่ร้องส่งเสียงสักคำ

เจ้าหมอนี่จะต้องมีจิตใจที่หนักแน่นปานใด?

หากให้พูดแล้วสามสิบชิ้นนี้มันคงเป็นขีดจำกัดของมังกรทั้งหมดทั้งสิ้น!

หากมิใช่เพราะใบหน้าที่กระตุกพร้อมกันฟันแน่นของเย่หยวนแล้ว คนทั้งหลายคงไม่อาจจะรู้ได้เลยว่าเวลานี้เขาก็กำลังเจ็บปวดอยู่

ชิ้นที่สามสิบเอ็ด!

ชิ้นที่สามสิบสอง!

เย่หยวนนั้นไม่คิดที่จะหยุดลงแม้แต่น้อย ยังคงทำการหลอมดูดซับพลังจากผลึกต้นมังกรไปเรื่อยๆ

แต่สีหน้าของคนทั้งหลายที่รายล้อมอยู่มันต่างแปลกประหลาดขึ้นไปทุกที

เวลานี้มันมีเหงื่อเม็ดใหญ่ไหลลงมาบนหน้าผากของเย่หยวนอย่างชัดเจน

ยิ่งดูดซับพลังจากผลึกต้นมังกรไปมากเท่าใด เหงื่อทั้งหลายนั้นมันก็ยิ่งออกมาให้เห็นมากขึ้น

พร้อมๆ กันนั้นการกระตุกของกล้ามเนื้อบนใบหน้าเขาเองก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน

ชิ้นที่ห้าสิบสี่!

ชิ้นที่ห้าสิบห้า!

คนทั้งหลายในเวลานี้ต่างได้แต่อ้าปากค้างไม่คิดอยากเชื่อภาพตรงหน้าตนเองแม้แต่น้อย

เจ้าหมอนี่มันบ้าอย่างแท้จริง!

กฎเหล็กที่ว่าทายาทมังกรสวรรค์ไม่อาจดูดซับผลึกต้นมังกรได้มากกว่ายี่สิบห้าชิ้นนั้นมันถูกเย่หยวนทำลายลงสิ้น

ทุกผู้คนนั้นต่างดูถูกเย่หยวนจนเกินไป

พวกเขานั้นประเมินพลังของกายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ดต่ำจนเกินไปและยังประเมินความหนักแน่นของจิตใจเย่หยวนผิดไปจากความจริงเป็นอย่างมาก

กายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ดนั้นมันมิใช่เพียงแค่เพิ่มพลังให้กล้ามเนื้อ แต่มันยังเพิ่มพลังให้แก่หลอดเลือดและเส้นชีพจรต่างๆ

มันแข็งแกร่งจนไม่อาจถูกพลังภายนอกพังทลายได้ แต่ความแข็งแกร่งของอวัยวะภายในนั้นมันก็เหนือล้ำไม่แพ้กัน

ร่างกายของคนอื่นไม่อาจทนทานได้มันไม่ได้หมายความว่าร่างกายของเย่หยวนนี้จะไม่อาจทนทานได้เช่นกัน

ส่วนเรื่องของความเจ็บปวดทรมานนั้นเย่หยวนได้ผ่านมันมาอย่างนับครั้งไม่ถ้วน!

และครานี้มันก็แค่ความเจ็บปวดทรมานอีกครั้งหนึ่ง!

เฉินซิงได้แต่มองดูเย่หยวนพร้อมถอนหายใจยาว “การที่เด็กคนนี้ก้าวขึ้นมาได้ถึงปานนี้มันย่อมจะไม่อาจพึ่งแค่พรสวรรค์ได้! ดูท่าแล้วความลำบากที่เขาต้องฝ่าฟันมาเองมันก็คงเหนือล้ำเกินกว่าที่เราจะคาดคิด!”

เฉินซิงทั้งหลายนั้นต่างเป็นยอดคนที่อยู่มานับล้านๆ ปี พวกเขานั้นเข้าใจอย่างดีว่าความยากลำบากของยอดฝีมือมันคืออะไร

เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายที่อยู่ตรงหน้าเขานี้เองอาจจะมีพรสวรรค์ไม่เหนือล้ำมากมาย แต่ความลำบากที่พวกเขาทั้งหลายนี้ผ่านมามันย่อมไม่น้อยเช่นกัน

บางทีในตอนที่คนทั้งหลายยังหนุ่ม มันคงมียอดอัจฉริยะมากมายในรุ่นเดียวกัน

แต่เหล่าอัจฉริยะทั้งหลายนั้นสุดท้ายกลับกลายเป็นแค่คนธรรมดาไป

มีเพียงตัวพวกเขาทั้งหลายเท่านั้นที่ผ่านขึ้นมาถึงอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์อันยิ่งใหญ่นี้ได้

เหตุผลที่ทายาทมังกรสวรรค์ทั้งหลายไม่อาจดูดซับพลังของผลึกต้นมังกรได้มากมายนั้นมันเป็นเพราะว่าพวกเขามีจิตใจไม่หนักแน่นมากพอจะรับความทรมานนี้

แต่ปัญหาเช่นนั้นมันไม่เกิดขึ้นกับเย่หยวนเลย

ไม่ว่าจะเป็นทายาทมังกรสวรรค์ที่มีจิตใจ เจตจำนงหนักแน่นปานใดมันก็ไม่อาจจะเอามาเทียบเคียงกับความหนักแน่นที่เย่หยวนมีได้

การดูดซับผลึกต้นมังกรไปกว่าห้าสิบชิ้นนี้มันเหนือกว่าที่จะมีใครคาดคิดไปมาก!

หลงจื่อเฟิงที่เห็นเช่นนั้นได้แต่ต้องยิ้มออกมาอย่างขื่นขมใจ “อย่าได้กลัวว่าคนอื่นจะมากพรสวรรค์กว่า จงกลัวว่าคนอื่นจะพยายามได้อย่างหนักแน่นกว่า! หลงฉี หนทางในวันหน้าของเจ้านั้นมันยังอีกยาวไกล เข้าใจหรือไม่?”

หลงฉีผงะไปทันทีที่ได้ยินคำนั้นก่อนที่จะพยักหน้ารับออกมา “หลงฉีเข้าใจแล้ว!”

เหล่าทายาทมังกรสวรรค์ทั้งหลายที่ได้เห็นเย่หยวนนี้ต่างก็เกิดคำถามขึ้นในใจตัวเองสิ้น

ตัวเย่หยวนนั้นมีสิ่งที่พวกเขาขาด มันคือสิ่งจำเป็นอย่างแท้จริงหากพวกเขาต้องการจะก้าวขึ้นเป็นยอดฝีมือ

มีเพียงหลงหยวนเท่านั้นที่นั่งนิ่งอย่างไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ในหัว

แปดสิบสองชิ้น!

แปดสิบสามชิ้น!

แปดสิบเก้าชิ้น!

ระหว่างที่ทุกผู้คนกำลังนั่งตั้งคำถามในหัวของตนตรามังกรสวรรค์ตรงหว่างคิ้วของเย่หยวนมันก็เกิดส่องแสงขึ้นราวกับลุกติดไฟ

คลื่นพลังสายเลือดมังกรนี้มันทำให้ทุกผู้คนต่างขนลุกไปตามๆ กัน!

เฉินซิงหรี่ตาลงมองอย่างตกตะลึง “ตื่นแล้ว! ไม่สิ เดี๋ยว นี่มัน…”

จู่ๆ เขานั้นก็เงยหน้าขึ้นไปมองยังยอดเขามังกรสวรรค์และเป็นไปตามคาด เพราะเวลานี้ที่ยอดเขานั้นมันกำลังส่องแสงลงมายังร่างของเย่หยวนโดยตรง

ตรามังกรสวรรค์ ณ หว่างคิ้วของเย่หยวนมันค่อยๆ เปลี่ยนกลายเป็นเส้นสายไหลลงสู่หน้าอกของเขาราวกับงูที่เลื้อยคลาน

“ศิลาเทวะผสานวิญญาณ! เด็กคนนี้…” เฉินซิงได้แต่เบิกตากว้างอ้าปากค้าง

เขานั้นรู้สึกขึ้นมาว่าตัวเองได้ทำผิดพลาดมหันต์ไปแล้ว!

หากเขานั้นหนักแน่นกว่านี้หน่อย ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือเย่หยวนตอนมีภัยระหว่างที่สู้หลงหยวน

ต่อให้เย่หยวนจะไม่ต้องการความช่วยเหลือใด เขาก็คงมีท่าทีขอบคุณอยู่ไม่น้อย จะไม่กลายเป็นเช่นนี้ไปแน่!

หลงเสี่ยวฉุนนั้นได้แต่มองดูพร้อมถามขึ้นอย่างสงสัย “ศิลาเทวะผสานวิญญาณ? อะไรกันเล่านั่น?”

เฉินซิงถอนหายใจยาวออกมาอย่างหนักใจ “ตรามังกรสวรรค์นั้นมันคือตราที่เกิดขึ้นมาจากการที่แท่นตรามังกรสัมผัสได้ถึงพลังสายเลือด เมื่อพลังสายเลือดของคนผู้นั้นพุ่งขึ้นสูงถึงระดับหนึ่งทางแท่นตรามังกรก็จะตอบรับกับพลังสายเลือดนั้นจนทำให้เกิดการตื่นขึ้น แน่นอนว่าการตื่นของแต่ละคนนั้นมันก็ย่อมจะมีเงื่อนไขความสูงต่ำต่างกันไป”

เฉินซิงหยุดไปพักหนึ่งก่อนจะกล่าวต่อ “แต่มันมีข้อยกเว้นอยู่! เมื่อพลังสายเลือดของเจ้านั้นสูงขึ้นไปจนถึงอีกระดับหนึ่ง แท่นตรามังกรนั้นจะถือโอกาสผสานวิญญาณมังกรลงในตัวเจ้า เป็นเครื่องแสดงว่าแท่นตรามังกรนั้นยอมรับเจ้าอย่างแท้จริง! เราเรียกสิ่งนั้นว่าศิลาเทวะผสานวิญญาณ! และผู้ที่ได้รับศิลาเทวะผสานวิญญาณนี้มันจะมีโอกาสขึ้นเป็น…มังกรบรรพกาลคนต่อไป!”

หลงเสี่ยวฉุนต้องอ้าปากค้างอย่างไม่อยากเชื่อเรื่องที่ได้ยิน

ส่วนเหล่ามังกรทั้งหลายเองต่างก็ได้แต่จ้องมองภาพตรงหน้า มองดูเย่หยวนอย่างไม่อยากเชื่อสายตา

มังกรบรรพกาลนั้นมันคือต้นกำเนิดของมังกรทั้งหมดทั้งสิ้น เป็นยอดฝีมือที่เป็นต้นกำเนิดสายเลือดมังกร!

เหล่ายอดฝีมือในเผ่ามังกรทั้งหลายนั้นต่างเป็นทายาทของท่านผู้นั้น

และมังกรบรรพกาลของแต่ละยุคสมัยนั้นก็จะถือตำแหน่งไว้นับแสนๆ ล้านปีกว่าที่จะเปลี่ยนมือ ถือกำเนิดมังกรบรรพกาลคนใหม่ขึ้นมา

เพราะเช่นนั้นมันจึงไม่จำเป็นต้องมีศิลาเทวะผสานวิญญาณเกิดขึ้นในทุกรุ่น

เพราะว่าสุดท้ายแล้วมันก็แค่โอกาสจะได้เป็น มิใช่ว่าจะได้เป็นแน่นอน

ในแต่ละยุคสมัยนั้นมันย่อมจะมีศิลาเทวะผสานวิญญาณเกิดขึ้นหลายครั้ง

เพียงแค่ว่าผู้จะได้เป็นมังกรบรรพกาลนั้นมันมีเพียงแค่หนึ่ง!

ไม่มีใครคาดคิดว่าหลังจากเย่หยวนดูดซับผลึกต้นมังกรไปเรื่อยๆ แล้วเขากลับจะทำให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้

ในเวลานี้เย่หยวนได้ลืมตาทั้งสองข้างขึ้นพร้อมพ่นลมหายใจยาวออกมา

จากนั้นก็เกิดแสงวาบขึ้นลบล้างตรามังกรสวรรค์ออกไปจากตัวเขาสิ้น!

“หึ ข้ารู้อยู่แล้วเชียวว่ามันไม่ชอบมาพากล! ที่แท้มันซ่อนอยู่ตรงนี้!” เย่หยวนค่อยๆ ลุกขึ้นยืนด้วยรอยยิ้ม

……………………..

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2175 ศิลาเทวะผสานวิญญาณ!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2175 ศิลาเทวะผสานวิญญาณ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ชิ้นที่สิบหก!

ชิ้นที่สิบเจ็ด!

ชิ้นที่ยี่สิบ!

ชิ้นที่ยี่สิบเอ็ด!

ในพริบตาเดียวเย่หยวนก็ได้ดูดซับผลึกต้นมังกรลงไปอีกถึงหกชิ้น

ความเร็วในการดูดซับนี้มันทำให้คนทั้งหลายต้องอ้าปากค้าง

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือใบหน้าของเย่หยวนมันกลับนิ่งเฉยไร้ท่าทางเจ็บปวดใดๆ เหมือนดั่งเขากำลังนั่งบ่มเพาะตามธรรมดา

“แน่นอนล่ะว่ากายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ดมันต้องทำได้ขนาดนี้!”

“ความมั่นใจของเจ้าเด็กคนนี้มันเกิดขึ้นมาเพราะกายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ดใช่หรือไม่? แต่กายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ดเองมันจะทนได้ถึงเมื่อไหร่กัน?”

“เผ่ามังกรเรานั้นมีกายเนื้อแข็งแกร่งมากล้น ต่อให้มันจะไม่อาจเทียบกายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ดได้แต่ความแตกต่างมันก็คงไม่มากมาย ข้าว่าอย่างมากก็คงจบที่สามสิบชิ้นเท่านั้น!”

คนทั้งหลายที่ล้อมรอบอยู่เวลานี้ ทั้งจักรพรรดิเทพสวรรค์ที่นำมาและเหล่าทายาทมังกรสวรรค์ทั้งหลายต่างพูดคุยกันถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นตรงหน้านี้

พวกเขานั้นคิดว่าเหตุผลที่เย่หยวนเก่งกาจกว่าพวกเขาไปนั้นมันเพราะว่าเขามีกายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ดเท่านั้น

แต่ทว่าเมื่อจำนวนที่เย่หยวนดูดกลืนลงไปมันยิ่งมาก ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นมันก็ยิ่งเพิ่มพูนตาม

เขานั้นดูดซับผลึกต้นมังกรและรับพลังต้นกำเนิดมังกรไปอย่างมากมายแต่ตรามังกรสวรรค์ของเขามันกลับไม่ตอบสนองใดๆ เลย

กลับกัน มันเป็นทางการบ่มเพาะของเขาที่เพิ่มพูนขึ้นหลังจากดูดซับผลึกต้นมังกรลงไปเป็นจำนวนมาก

เมื่อเย่หยวนดูดซับผลึกต้นมังกรไปถึงชิ้นที่สามสิบ คนทั้งหลายก็ได้แต่ต้องเบิกตาค้าง

“เจ้าหมอนี่มันบ้าไปแล้วหรือ? เขา…เขาไม่รู้จักความเจ็บปวดหรืออย่างไร?” หลงฉีมองดูเย่หยวนที่กัดฟันแน่นพร้อมกล้ามเนื้อบนใบหน้าที่สั่นกระตุก

ตามที่เล่ากันมานั้นมันเคยมีคนดูดซับผลึกต้นมังกรลงไปถึงยี่สิบห้าชิ้น

แต่ตามความเป็นจริงแล้วแค่จะหาคนที่ดูดซับมันลงได้ไปถึงชิ้นที่ยี่สิบมันก็แทบจะหาไม่ได้บนโลกหล้า

เพราะว่ายิ่งดูดซับลงไปมาก คนทั้งหลายก็จะยิ่งไม่อาจทนทานความทรมานนั้นไหว

แต่เย่หยวนนั้นกลับดูดซับผลึกต้นมังกรลงไปถึงสามสิบชิ้นแล้วในเวลานี้และยังสามารถจะทนรับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นไว้อย่างไม่ร้องส่งเสียงสักคำ

เจ้าหมอนี่จะต้องมีจิตใจที่หนักแน่นปานใด?

หากให้พูดแล้วสามสิบชิ้นนี้มันคงเป็นขีดจำกัดของมังกรทั้งหมดทั้งสิ้น!

หากมิใช่เพราะใบหน้าที่กระตุกพร้อมกันฟันแน่นของเย่หยวนแล้ว คนทั้งหลายคงไม่อาจจะรู้ได้เลยว่าเวลานี้เขาก็กำลังเจ็บปวดอยู่

ชิ้นที่สามสิบเอ็ด!

ชิ้นที่สามสิบสอง!

เย่หยวนนั้นไม่คิดที่จะหยุดลงแม้แต่น้อย ยังคงทำการหลอมดูดซับพลังจากผลึกต้นมังกรไปเรื่อยๆ

แต่สีหน้าของคนทั้งหลายที่รายล้อมอยู่มันต่างแปลกประหลาดขึ้นไปทุกที

เวลานี้มันมีเหงื่อเม็ดใหญ่ไหลลงมาบนหน้าผากของเย่หยวนอย่างชัดเจน

ยิ่งดูดซับพลังจากผลึกต้นมังกรไปมากเท่าใด เหงื่อทั้งหลายนั้นมันก็ยิ่งออกมาให้เห็นมากขึ้น

พร้อมๆ กันนั้นการกระตุกของกล้ามเนื้อบนใบหน้าเขาเองก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน

ชิ้นที่ห้าสิบสี่!

ชิ้นที่ห้าสิบห้า!

คนทั้งหลายในเวลานี้ต่างได้แต่อ้าปากค้างไม่คิดอยากเชื่อภาพตรงหน้าตนเองแม้แต่น้อย

เจ้าหมอนี่มันบ้าอย่างแท้จริง!

กฎเหล็กที่ว่าทายาทมังกรสวรรค์ไม่อาจดูดซับผลึกต้นมังกรได้มากกว่ายี่สิบห้าชิ้นนั้นมันถูกเย่หยวนทำลายลงสิ้น

ทุกผู้คนนั้นต่างดูถูกเย่หยวนจนเกินไป

พวกเขานั้นประเมินพลังของกายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ดต่ำจนเกินไปและยังประเมินความหนักแน่นของจิตใจเย่หยวนผิดไปจากความจริงเป็นอย่างมาก

กายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ดนั้นมันมิใช่เพียงแค่เพิ่มพลังให้กล้ามเนื้อ แต่มันยังเพิ่มพลังให้แก่หลอดเลือดและเส้นชีพจรต่างๆ

มันแข็งแกร่งจนไม่อาจถูกพลังภายนอกพังทลายได้ แต่ความแข็งแกร่งของอวัยวะภายในนั้นมันก็เหนือล้ำไม่แพ้กัน

ร่างกายของคนอื่นไม่อาจทนทานได้มันไม่ได้หมายความว่าร่างกายของเย่หยวนนี้จะไม่อาจทนทานได้เช่นกัน

ส่วนเรื่องของความเจ็บปวดทรมานนั้นเย่หยวนได้ผ่านมันมาอย่างนับครั้งไม่ถ้วน!

และครานี้มันก็แค่ความเจ็บปวดทรมานอีกครั้งหนึ่ง!

เฉินซิงได้แต่มองดูเย่หยวนพร้อมถอนหายใจยาว “การที่เด็กคนนี้ก้าวขึ้นมาได้ถึงปานนี้มันย่อมจะไม่อาจพึ่งแค่พรสวรรค์ได้! ดูท่าแล้วความลำบากที่เขาต้องฝ่าฟันมาเองมันก็คงเหนือล้ำเกินกว่าที่เราจะคาดคิด!”

เฉินซิงทั้งหลายนั้นต่างเป็นยอดคนที่อยู่มานับล้านๆ ปี พวกเขานั้นเข้าใจอย่างดีว่าความยากลำบากของยอดฝีมือมันคืออะไร

เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายที่อยู่ตรงหน้าเขานี้เองอาจจะมีพรสวรรค์ไม่เหนือล้ำมากมาย แต่ความลำบากที่พวกเขาทั้งหลายนี้ผ่านมามันย่อมไม่น้อยเช่นกัน

บางทีในตอนที่คนทั้งหลายยังหนุ่ม มันคงมียอดอัจฉริยะมากมายในรุ่นเดียวกัน

แต่เหล่าอัจฉริยะทั้งหลายนั้นสุดท้ายกลับกลายเป็นแค่คนธรรมดาไป

มีเพียงตัวพวกเขาทั้งหลายเท่านั้นที่ผ่านขึ้นมาถึงอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์อันยิ่งใหญ่นี้ได้

เหตุผลที่ทายาทมังกรสวรรค์ทั้งหลายไม่อาจดูดซับพลังของผลึกต้นมังกรได้มากมายนั้นมันเป็นเพราะว่าพวกเขามีจิตใจไม่หนักแน่นมากพอจะรับความทรมานนี้

แต่ปัญหาเช่นนั้นมันไม่เกิดขึ้นกับเย่หยวนเลย

ไม่ว่าจะเป็นทายาทมังกรสวรรค์ที่มีจิตใจ เจตจำนงหนักแน่นปานใดมันก็ไม่อาจจะเอามาเทียบเคียงกับความหนักแน่นที่เย่หยวนมีได้

การดูดซับผลึกต้นมังกรไปกว่าห้าสิบชิ้นนี้มันเหนือกว่าที่จะมีใครคาดคิดไปมาก!

หลงจื่อเฟิงที่เห็นเช่นนั้นได้แต่ต้องยิ้มออกมาอย่างขื่นขมใจ “อย่าได้กลัวว่าคนอื่นจะมากพรสวรรค์กว่า จงกลัวว่าคนอื่นจะพยายามได้อย่างหนักแน่นกว่า! หลงฉี หนทางในวันหน้าของเจ้านั้นมันยังอีกยาวไกล เข้าใจหรือไม่?”

หลงฉีผงะไปทันทีที่ได้ยินคำนั้นก่อนที่จะพยักหน้ารับออกมา “หลงฉีเข้าใจแล้ว!”

เหล่าทายาทมังกรสวรรค์ทั้งหลายที่ได้เห็นเย่หยวนนี้ต่างก็เกิดคำถามขึ้นในใจตัวเองสิ้น

ตัวเย่หยวนนั้นมีสิ่งที่พวกเขาขาด มันคือสิ่งจำเป็นอย่างแท้จริงหากพวกเขาต้องการจะก้าวขึ้นเป็นยอดฝีมือ

มีเพียงหลงหยวนเท่านั้นที่นั่งนิ่งอย่างไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ในหัว

แปดสิบสองชิ้น!

แปดสิบสามชิ้น!

แปดสิบเก้าชิ้น!

ระหว่างที่ทุกผู้คนกำลังนั่งตั้งคำถามในหัวของตนตรามังกรสวรรค์ตรงหว่างคิ้วของเย่หยวนมันก็เกิดส่องแสงขึ้นราวกับลุกติดไฟ

คลื่นพลังสายเลือดมังกรนี้มันทำให้ทุกผู้คนต่างขนลุกไปตามๆ กัน!

เฉินซิงหรี่ตาลงมองอย่างตกตะลึง “ตื่นแล้ว! ไม่สิ เดี๋ยว นี่มัน…”

จู่ๆ เขานั้นก็เงยหน้าขึ้นไปมองยังยอดเขามังกรสวรรค์และเป็นไปตามคาด เพราะเวลานี้ที่ยอดเขานั้นมันกำลังส่องแสงลงมายังร่างของเย่หยวนโดยตรง

ตรามังกรสวรรค์ ณ หว่างคิ้วของเย่หยวนมันค่อยๆ เปลี่ยนกลายเป็นเส้นสายไหลลงสู่หน้าอกของเขาราวกับงูที่เลื้อยคลาน

“ศิลาเทวะผสานวิญญาณ! เด็กคนนี้…” เฉินซิงได้แต่เบิกตากว้างอ้าปากค้าง

เขานั้นรู้สึกขึ้นมาว่าตัวเองได้ทำผิดพลาดมหันต์ไปแล้ว!

หากเขานั้นหนักแน่นกว่านี้หน่อย ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือเย่หยวนตอนมีภัยระหว่างที่สู้หลงหยวน

ต่อให้เย่หยวนจะไม่ต้องการความช่วยเหลือใด เขาก็คงมีท่าทีขอบคุณอยู่ไม่น้อย จะไม่กลายเป็นเช่นนี้ไปแน่!

หลงเสี่ยวฉุนนั้นได้แต่มองดูพร้อมถามขึ้นอย่างสงสัย “ศิลาเทวะผสานวิญญาณ? อะไรกันเล่านั่น?”

เฉินซิงถอนหายใจยาวออกมาอย่างหนักใจ “ตรามังกรสวรรค์นั้นมันคือตราที่เกิดขึ้นมาจากการที่แท่นตรามังกรสัมผัสได้ถึงพลังสายเลือด เมื่อพลังสายเลือดของคนผู้นั้นพุ่งขึ้นสูงถึงระดับหนึ่งทางแท่นตรามังกรก็จะตอบรับกับพลังสายเลือดนั้นจนทำให้เกิดการตื่นขึ้น แน่นอนว่าการตื่นของแต่ละคนนั้นมันก็ย่อมจะมีเงื่อนไขความสูงต่ำต่างกันไป”

เฉินซิงหยุดไปพักหนึ่งก่อนจะกล่าวต่อ “แต่มันมีข้อยกเว้นอยู่! เมื่อพลังสายเลือดของเจ้านั้นสูงขึ้นไปจนถึงอีกระดับหนึ่ง แท่นตรามังกรนั้นจะถือโอกาสผสานวิญญาณมังกรลงในตัวเจ้า เป็นเครื่องแสดงว่าแท่นตรามังกรนั้นยอมรับเจ้าอย่างแท้จริง! เราเรียกสิ่งนั้นว่าศิลาเทวะผสานวิญญาณ! และผู้ที่ได้รับศิลาเทวะผสานวิญญาณนี้มันจะมีโอกาสขึ้นเป็น…มังกรบรรพกาลคนต่อไป!”

หลงเสี่ยวฉุนต้องอ้าปากค้างอย่างไม่อยากเชื่อเรื่องที่ได้ยิน

ส่วนเหล่ามังกรทั้งหลายเองต่างก็ได้แต่จ้องมองภาพตรงหน้า มองดูเย่หยวนอย่างไม่อยากเชื่อสายตา

มังกรบรรพกาลนั้นมันคือต้นกำเนิดของมังกรทั้งหมดทั้งสิ้น เป็นยอดฝีมือที่เป็นต้นกำเนิดสายเลือดมังกร!

เหล่ายอดฝีมือในเผ่ามังกรทั้งหลายนั้นต่างเป็นทายาทของท่านผู้นั้น

และมังกรบรรพกาลของแต่ละยุคสมัยนั้นก็จะถือตำแหน่งไว้นับแสนๆ ล้านปีกว่าที่จะเปลี่ยนมือ ถือกำเนิดมังกรบรรพกาลคนใหม่ขึ้นมา

เพราะเช่นนั้นมันจึงไม่จำเป็นต้องมีศิลาเทวะผสานวิญญาณเกิดขึ้นในทุกรุ่น

เพราะว่าสุดท้ายแล้วมันก็แค่โอกาสจะได้เป็น มิใช่ว่าจะได้เป็นแน่นอน

ในแต่ละยุคสมัยนั้นมันย่อมจะมีศิลาเทวะผสานวิญญาณเกิดขึ้นหลายครั้ง

เพียงแค่ว่าผู้จะได้เป็นมังกรบรรพกาลนั้นมันมีเพียงแค่หนึ่ง!

ไม่มีใครคาดคิดว่าหลังจากเย่หยวนดูดซับผลึกต้นมังกรไปเรื่อยๆ แล้วเขากลับจะทำให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้

ในเวลานี้เย่หยวนได้ลืมตาทั้งสองข้างขึ้นพร้อมพ่นลมหายใจยาวออกมา

จากนั้นก็เกิดแสงวาบขึ้นลบล้างตรามังกรสวรรค์ออกไปจากตัวเขาสิ้น!

“หึ ข้ารู้อยู่แล้วเชียวว่ามันไม่ชอบมาพากล! ที่แท้มันซ่อนอยู่ตรงนี้!” เย่หยวนค่อยๆ ลุกขึ้นยืนด้วยรอยยิ้ม

……………………..

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+