Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2186 ทิ่ม

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2186 ทิ่ม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

คำพูดนั้นทำให้เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายต้องเปลี่ยนสีหน้าไปทันที

เทพสวรรค์สองดาวนั้นกลับมาถามเหล่าเทพสวรรค์ขั้นกลางทั้งหลายว่าอยากอยู่หรือตาย เรื่องนี้มันย่อมจะฟังดูแสนตลก

แต่เวลานี้มันไม่มีเวลาจะมาหัวเราะใดๆ สถานการณ์ตรงหน้านี้มันคือสถานการณ์เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายไม่เหลือที่ให้พวกเขาคิดเรื่องราวมากมาย

ตัวเลือกนี้จะตัดสินผลชีวิตของพวกเขาทั้งหลายทันที

จะเชื่อเย่หยวนหรือจะต่อสู้ในศึกที่ตายแน่นอน?

หลี่เยว่นั้นสับสนไม่อาจตัดสินใจเพราะเขานั้นไม่ชอบใจท่าทางโอหังอวดดีของเย่หยวนอย่างมาก

แต่เขานั้นก็เข้าใจสถานการณ์ตรงหน้าดีว่าต่อให้จะอยากหนีมันก็คงไม่อาจรอดพ้นไปได้!

“พี่เย่ ข้าจะเชื่อฟังท่าน!” ในเวลานั้นเองที่เจิ้งหยูเฟิงได้ก้าวออกมายอมรับคำเย่หยวนเป็นคนแรก

เขานั้นรู้ดีว่าพวกตนไม่เหลือเวลาให้ลังเลอีกแล้ว!

“น้องชาย หวังว่าเจ้าจะไม่หลอกลวงเรา!” เทพสวรรค์อีกผู้กล่าวเสริม

“น้องเย่ เทพสวรรค์ผู้นี้ขอฝากชีวิตเฒ่าๆ นี้ไว้ด้วย!”

เมื่อต้องเผชิญความตายอยู่ตรงหน้าการตัดสินใจใดๆ มันจึงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

ในสถานการณ์ที่ต้องตายแน่นอนเช่นนี้ พวกเขาย่อมจะเลือกเชื่อเย่หยวนมากกว่าตายไปเปล่าๆ

หลี่เยว่ที่ได้ยินก็ได้แต่ต้องยืนนิ่ง จนสุดท้ายเขาก็กล่าวขึ้นมาในที่สุด “เจ้าหนุ่ม หากเจ้ากล้าหลอกลวงเทพสวรรค์ผู้นี้ต่อให้ข้าตายไปข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่!”

เย่หยวนพยักหน้ารับก่อนจะหยิบเข็มทองออกมาเต็มกำมือ

เมื่อทุกคนเห็นเช่นนั้นพวกเขาต่างก็ต้องอ้าปากค้าง

เจ้าเด็กคนนี้มันคิดจะทำอะไรกันแน่?

“ข้าจะฝังเข็มใส่พวกเจ้า อย่าได้ขัดขืนหลบหลีกมัน ไม่เช่นนั้นแล้วก็อยากมาถามหาความรับผิดชอบจากข้า” เย่หยวนบอก

หลี่เยว่ที่ได้เห็นเช่นนั้นก็ต้องเบิกตากว้างขึ้น “เจ้าหนุ่ม เจ้าคิดจะฝังเข็มทองใส่พวกเราอย่างนั้นหรือ?”

เย่หยวนพยักหน้ารับ “ใช่!”

หลี่เยว่จึงได้แต่ต้องส่ายหัวออกมา “ไร้สาระ! เราตั้งมากมายปานนี้กว่าเจ้าจะฝังมันแล้วเสร็จเราคงไม่ตายกันหมดพอดีหรือ! เจ้าล้อพวกเราเล่นแล้ว?”

ได้ยินคำของหลี่เยว่นั้นคนทั้งหลายก็แสดงสีหน้าไม่พอใจออกมาตามๆ กัน

ดูท่าแล้วพวกเขาทั้งหลายเองก็คงคิดว่าตัวเองถูกปั่นหัวเล่น

ทางด้านจ่าฝูงมารนรกเองก็หัวเราะลั่นขึ้นมาเมื่อเห็น “ฮ่าๆๆ… เด็กน้อย แค่เข็มไม่กี่เล่มนั้นมันจะจัดการเหล่ามารนรกเราลงได้หรือ?”

เย่หยวนจึงกล่าวตอบออกมา “ใครบอกว่าข้าจะฝังทีละคนเล่า? ข้าบอกแล้วมิใช่หรือว่าอย่าได้ขัดขืนมัน ไม่เช่นนั้นก็จงเตรียมรับผลของมันเองเถอะ! ข้าลงมือล่ะ!”

คำพูดนี้ทำให้ทุกผู้คนใจหายวาบพร้อมๆ กับภาพของเย่หยวนที่วาดตราขึ้นมาบนอากาศ

จากนั้นเจ้าเข็มทองนับร้อยนั้นมันก็พุ่งทะลวงผ่านอากาศไปในความมืดมิด

ฟุบ ฟุบ ฟุบ…

ในเวลาแค่อึดใจเข็มทองนับร้อยมันก็ได้จางหายไปในความมืดสิ้น

เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายนั้นรู้สึกเหมือนมีมดนับไม่ถ้วนเข้ามากัดบนร่างกายก่อนจะพบว่าพลังงานในร่างของตนมันปะทุขึ้นอย่างไม่อาจควบคุม

“ช่างเป็นพลังที่รุนแรงนัก! ข้ารู้สึกราวกับว่าฟ้าดินนี้ไม่มีใครต้านทานข้าได้!”

“นี่หรือคือวิชาฝังเข็มทอง? สุดยอดเสียจริงๆ!”

“ฮ่าๆๆ ไอ้พวกขยะจากนรก เฒ่าคนนี้จะกวาดล้างพวกเจ้าให้สิ้น!”

เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายนั้นต่างปลดปล่อยพลังรุนแรงออกมาจากร่างกายพร้อมๆ กัน

มันราวกับว่าในวินาทีนี้พลังบ่มเพาะของพวกเขาได้พุ่งทะยานขึ้นไปถึงหนึ่งดาว

หลี่เยว่นั้นสัมผัสได้ถึงพลังที่ปะทุขึ้นมาจากทุกรูขุมขนนี้เช่นกัน เขารู้สึกได้เลยว่าเวลานี้ต่อให้อีกฝ่ายจะเป็นเทพสวรรค์เจ็ดดาวเขาก็คงพอต่อสู้รับมือได้!

แต่ยิ่งรู้สึกได้แบบนั้นสายตาที่เขาจ้องมองไปยังเย่หยวนมันก็ยิ่งแฝงความตื่นตะลึง

ในเวลาอึดใจเดียวนี้เขากลับฝังเข็มทองลงบนร่างของเทพสวรรค์หลายสิบนี้ได้อย่างไม่มีผิดพลาด มันจะต้องเป็นความแม่นยำที่ล้ำฟ้าปานใด?

แม้ว่าตัวเขานั้นจะไม่ได้ศึกษาวิชาการโอสถรักษาใดๆ แต่เขาก็รู้ได้ว่าการควบคุมที่แม่นยำปานนี้มันมิใช่สิ่งที่นักหลอมโอสถทั่วๆ ไปจะทำได้!

วิชาการฝังเข็มทองนั้นมันจะต้องมีทั้งแรง ปราณเทวะ จิตและความแม่นยำผสานเข้าด้วยกันอย่างเหมาะสมจึงจะสามารถดึงพลังเช่นนี้ออกมาได้

ที่สำคัญไปกว่านั้นเหล่าเทพสวรรค์ในที่นี้แต่ละคนต่างก็มาจากต่างค่ายสำนักวิชา มีพลังบ่มเพาะไม่เท่าเทียมวิชาวรยุทธใดๆ แตกต่างกันไป มันเป็นสิ่งที่ยากจนเกินกว่าจะทำความเข้าใจได้เสียด้วยซ้ำ

เพราะฉะนั้นการฝังเข็มของแต่ละคนในที่นี้มันจึงจะต้องแตกต่างกันไปอย่างสิ้นเชิง

การฝังเข็มทองนั้นมันเป็นวิชาที่แสนอันตรายหากผิดพลาดขึ้นมาแม้แต่เสี้ยวเดียวมันก็อาจทำให้ถึงชีวิต

แต่เย่หยวนกลับมองออกว่าแต่ละคนต้องฝังเข็มใส่อย่างไรในเวลาแค่อึดใจนี้

ต่อให้จะเป็นจอมเทพโอสถแปดดาวเอง มันก็คงไม่อาจจะทำได้ถึงขั้นนี้หรอกใช่หรือไม่?

แล้วเจ้าหมอนี่มันเป็นสัตว์ประหลาดจากที่ใด?!

เหล่ามารร้ายตรงหน้านั้นเป็นสัตว์ประหลาดอย่างไม่ต้องสงสัย

แต่เจ้าสัตว์ประหลาดที่อยู่ตรงหน้าพวกเขานี้มันยิ่งน่ากลัวกว่า!

ในเวลานี้ทางจ่าฝูงของมารนรกทั้งหลายเริ่มจะสัมผัสได้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น

เพราะคลื่นพลังจากร่างของเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายมันกลับพุ่งทะยานสูงล้ำขึ้นในพริบตา

แต่ทว่าตัวเขาเองก็ไม่คิดว่ามารนรกทั้งหลายจะแพ้ให้มนุษย์แสนอ่อนแอเช่นนี้!

“พวกเจ้าทั้งหลาย ไปสังหารมัน! ฉีกร่างมนุษย์ผู้โง่เขลานี้ให้เป็นชิ้น!” มันสั่งออกมา

เมื่อได้ยินคำสั่งแล้วเหล่ามารนรกทั้งหลายก็ต่างพุ่งทะย่านเข้าไปหาเทพสวรรค์ทั้งหลายที่จับกลุ่มกันอยู่

“ฮ่าๆๆ เยี่ยม! จงถูกเทพสวรรค์ผู้นี้ฉีกเป็นชิ้นๆ ไปเถอะ!”

ทางเทพสวรรค์ฝ่ายมนุษย์ที่มีพลังเพิ่มพูนนี้ต่างก็มีขวัญกำลังใจกันมหาศาล เรื่องเดียวที่พวกเขายังกังวลก็คือกลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่พอมือตน

เวลานี้เมื่อเห็นว่าเหล่ามารนรกทั้งหลายไม่คิดเกรงกลัวและยังพุ่งตัวเข้ามาหา พวกเขาทั้งหลายจึงพุ่งทะยานออกไปรับหน้าทันที

จากนั้นเหล่ามารนรกและมนุษย์จึงได้เข้าสังหารฆ่ากันอย่างไม่ลดละ การปะทะของสองฝ่ายนั้นรุนแรงจนแทบจะแยกป้าดินออกจากกัน

ทางหลี่เยว่เองก็พุ่งตัวเข้าไปหาจ่าฝูงของมารนรกทั้งหลายทันที!

เพราะเจ้าตัวจ่าฝูงนี้เป็นตัวเดียวที่มีพลังระดับเทพสวรรค์หกดาว แม้จะไม่อาจชนะเทพสวรรค์เจ็ดดาวลงได้ แต่หากแค่ให้จัดการเทพสวรรค์หกดาวมันคงไม่ยาก

เพียงแค่ว่าเมื่อมันปะทะกับหลี่เยว่เข้า ทางหลี่เยว่กลับไม่ตกเป็นรองแม้แต่น้อย!

ทางเทพสวรรค์ของฝ่ายมนุษย์ทั้งหลายนั้นเหมือนได้รับยากระตุ้นประสาท พุ่งทะยานเข้าไปไล่ฆ่าสังหารมารนรกอย่างไม่ยั้งมือใดๆ

คลื่นพลังที่รุนแรงเหนือล้ำนี้มันทำให้เหล่ามารนรกทั้งหลายต้องร่ำร้อง

ที่ด้านข้างเมื่อหลินฉางชิงเห็นภาพนี้ ตัวเขาเองก็ได้แต่ยืนนิ่ง

กำลังของเขานั้นอ่อนแอจนเกินไป จะได้รับการฝังเข็มทองหรือไม่มันก็ไม่ส่งผลใดๆ กับการต่อสู้ แน่นอนว่าเย่หยวนย่อมจะไม่เสียเวลามาฝังเข็มให้เขา

วิธีการของนั้นมันเหนือล้ำกว่าที่หลินฉางชิงจะรับได้!

ในเวลานี้ตัวเขาถึงขั้นรู้สึกเสียใจที่ติดตามมาในครั้งนี้

ยิ่งเขาได้เห็นเย่หยวนมากเท่าใด เขาก็ยิ่งได้เห็นว่าวิธีการของเย่หยวนนั้นมันมากล้ำจนทำให้ตัวเขาเริ่มหมดความมั่นใจในตัวเองสิ้น

เวลานี้เขาถึงขั้นรู้สึกว่าคนอย่างเย่หยวนต่างหากที่จะเหมาะสมกับเยวี่ยเมิ่งลี่

การที่ตัวเขานั้นไปตามจีบเยวี่ยเมิ่งลี่ใดๆ มันถือเป็นการด้อยค่าดูถูกนางโดยแท้!

หลินฉางชิงนั้นได้แต่พยายามส่ายหัวคิดสลัดความกังวลไร้สาระนี้ออกไป

แต่ไม่ว่าจะพยายามสักเท่าไหร่มันก็ไม่จางหายไป!

ต่อหน้าเย่หยวนนี้เขามีแต่จะหมดสิ้นความมั่นใจลง

เหล่าเทพสวรรค์ฝั่งมนุษย์ทั้งหลายนี้ต่างเป็นคนจากวังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์ แน่นอนว่าย่อมจะมีฝีมือเหนือล้ำผู้คนมากแต่แรก

เวลานี้เมื่อถูกกระตุ้นพลังถึงขีดสุด พวกเขาทั้งหลายย่อมจะยิ่งเก่งกาจเหนือฟ้าดินทำลายไล่สังหารเหล่ามารนรกลงอย่างไม่เหลือชิ้นดี

สถานการณ์ที่เดิมทีเป็นความตายอย่างแน่นอนนั้นมันกลับกลายเป็นชัยชนะอย่างเด็ดขาด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าผู้นำของค่ายสำนักต่างๆ อย่างเจิ้งหยูเฟิงที่มีกำลังแทบไม่ด้อยกว่าหลี่เยว่

เวลานี้พวกเขาทั้งหลายต่างแยกย้ายกันไปไล่สังหารมารนรกห้าดาวที่แยกกระจายไปในแต่ละทิศ

หลังจากไล่ล่าตัวอันตรายทั้งหลายลงสิ้นแล้วพวกเขาก็เข้าไปร่วมกลุ่มกับหลี่เยว่

จากหนึ่งต่อหนึ่งเป็นสองต่อหนึ่งจนกลายเป็นสามต่อหนึ่ง

เวลานี้เจ้าจ่าฝูงมารนรกนั้นได้แต่ต้องกระอักเลือด

แต่ต่อให้อยากจะหนีมันก็ไม่อาจหนีรอดได้แล้ว

ภายใต้การรุมจู่โจมของยอดฝีมือ ต่อให้จะเป็นจ่าฝูงมารนรกเองก็คงไม่อาจจะยื้อชีวิตได้นานนัก

เจ้ามารนรกนั้นเริ่มอ่อนแอลงเรื่อยๆ จนสุดท้ายคลื่นพลังของมันนั้นเหลือไม่ถึงหนึ่งในสิบ

“อย่าเพิ่งฆ่ามัน!” เย่หยวนร้องบอก

หลี่เยว่จึงตะโกนตอบ “สัตว์ร้ายเช่นนี้จะปล่อยมันไว้ทำไม? ฆ่า!”

พูดไปเขาก็ยกมือขึ้นเตรียมตัวลงดาบสุดท้ายคิดฆ่าสังหารจ่าฝูงมารนรกนี้

“หยุด!”

เสียงกังวานดังลั่นไปทั่ว

เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายที่ไม่ทันตั้งตัวนั้นกลับต้องหยุดลงกับที่ตามคำพูดนั้น!

และมันก็ปรากฏเงาร่างหนึ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าเจ้าจ่าฝูงมารนรก

“อ่อก!”

เย่หยวนทิ่มแทงมือเข้าไปในหัวของเจ้าจ่าฝูงมารนรกพร้อมๆ กับบีบผลึกมารดำของมันไว้แน่น!

………………….

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2186 ทิ่ม

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2186 ทิ่ม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

คำพูดนั้นทำให้เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายต้องเปลี่ยนสีหน้าไปทันที

เทพสวรรค์สองดาวนั้นกลับมาถามเหล่าเทพสวรรค์ขั้นกลางทั้งหลายว่าอยากอยู่หรือตาย เรื่องนี้มันย่อมจะฟังดูแสนตลก

แต่เวลานี้มันไม่มีเวลาจะมาหัวเราะใดๆ สถานการณ์ตรงหน้านี้มันคือสถานการณ์เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายไม่เหลือที่ให้พวกเขาคิดเรื่องราวมากมาย

ตัวเลือกนี้จะตัดสินผลชีวิตของพวกเขาทั้งหลายทันที

จะเชื่อเย่หยวนหรือจะต่อสู้ในศึกที่ตายแน่นอน?

หลี่เยว่นั้นสับสนไม่อาจตัดสินใจเพราะเขานั้นไม่ชอบใจท่าทางโอหังอวดดีของเย่หยวนอย่างมาก

แต่เขานั้นก็เข้าใจสถานการณ์ตรงหน้าดีว่าต่อให้จะอยากหนีมันก็คงไม่อาจรอดพ้นไปได้!

“พี่เย่ ข้าจะเชื่อฟังท่าน!” ในเวลานั้นเองที่เจิ้งหยูเฟิงได้ก้าวออกมายอมรับคำเย่หยวนเป็นคนแรก

เขานั้นรู้ดีว่าพวกตนไม่เหลือเวลาให้ลังเลอีกแล้ว!

“น้องชาย หวังว่าเจ้าจะไม่หลอกลวงเรา!” เทพสวรรค์อีกผู้กล่าวเสริม

“น้องเย่ เทพสวรรค์ผู้นี้ขอฝากชีวิตเฒ่าๆ นี้ไว้ด้วย!”

เมื่อต้องเผชิญความตายอยู่ตรงหน้าการตัดสินใจใดๆ มันจึงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

ในสถานการณ์ที่ต้องตายแน่นอนเช่นนี้ พวกเขาย่อมจะเลือกเชื่อเย่หยวนมากกว่าตายไปเปล่าๆ

หลี่เยว่ที่ได้ยินก็ได้แต่ต้องยืนนิ่ง จนสุดท้ายเขาก็กล่าวขึ้นมาในที่สุด “เจ้าหนุ่ม หากเจ้ากล้าหลอกลวงเทพสวรรค์ผู้นี้ต่อให้ข้าตายไปข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่!”

เย่หยวนพยักหน้ารับก่อนจะหยิบเข็มทองออกมาเต็มกำมือ

เมื่อทุกคนเห็นเช่นนั้นพวกเขาต่างก็ต้องอ้าปากค้าง

เจ้าเด็กคนนี้มันคิดจะทำอะไรกันแน่?

“ข้าจะฝังเข็มใส่พวกเจ้า อย่าได้ขัดขืนหลบหลีกมัน ไม่เช่นนั้นแล้วก็อยากมาถามหาความรับผิดชอบจากข้า” เย่หยวนบอก

หลี่เยว่ที่ได้เห็นเช่นนั้นก็ต้องเบิกตากว้างขึ้น “เจ้าหนุ่ม เจ้าคิดจะฝังเข็มทองใส่พวกเราอย่างนั้นหรือ?”

เย่หยวนพยักหน้ารับ “ใช่!”

หลี่เยว่จึงได้แต่ต้องส่ายหัวออกมา “ไร้สาระ! เราตั้งมากมายปานนี้กว่าเจ้าจะฝังมันแล้วเสร็จเราคงไม่ตายกันหมดพอดีหรือ! เจ้าล้อพวกเราเล่นแล้ว?”

ได้ยินคำของหลี่เยว่นั้นคนทั้งหลายก็แสดงสีหน้าไม่พอใจออกมาตามๆ กัน

ดูท่าแล้วพวกเขาทั้งหลายเองก็คงคิดว่าตัวเองถูกปั่นหัวเล่น

ทางด้านจ่าฝูงมารนรกเองก็หัวเราะลั่นขึ้นมาเมื่อเห็น “ฮ่าๆๆ… เด็กน้อย แค่เข็มไม่กี่เล่มนั้นมันจะจัดการเหล่ามารนรกเราลงได้หรือ?”

เย่หยวนจึงกล่าวตอบออกมา “ใครบอกว่าข้าจะฝังทีละคนเล่า? ข้าบอกแล้วมิใช่หรือว่าอย่าได้ขัดขืนมัน ไม่เช่นนั้นก็จงเตรียมรับผลของมันเองเถอะ! ข้าลงมือล่ะ!”

คำพูดนี้ทำให้ทุกผู้คนใจหายวาบพร้อมๆ กับภาพของเย่หยวนที่วาดตราขึ้นมาบนอากาศ

จากนั้นเจ้าเข็มทองนับร้อยนั้นมันก็พุ่งทะลวงผ่านอากาศไปในความมืดมิด

ฟุบ ฟุบ ฟุบ…

ในเวลาแค่อึดใจเข็มทองนับร้อยมันก็ได้จางหายไปในความมืดสิ้น

เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายนั้นรู้สึกเหมือนมีมดนับไม่ถ้วนเข้ามากัดบนร่างกายก่อนจะพบว่าพลังงานในร่างของตนมันปะทุขึ้นอย่างไม่อาจควบคุม

“ช่างเป็นพลังที่รุนแรงนัก! ข้ารู้สึกราวกับว่าฟ้าดินนี้ไม่มีใครต้านทานข้าได้!”

“นี่หรือคือวิชาฝังเข็มทอง? สุดยอดเสียจริงๆ!”

“ฮ่าๆๆ ไอ้พวกขยะจากนรก เฒ่าคนนี้จะกวาดล้างพวกเจ้าให้สิ้น!”

เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายนั้นต่างปลดปล่อยพลังรุนแรงออกมาจากร่างกายพร้อมๆ กัน

มันราวกับว่าในวินาทีนี้พลังบ่มเพาะของพวกเขาได้พุ่งทะยานขึ้นไปถึงหนึ่งดาว

หลี่เยว่นั้นสัมผัสได้ถึงพลังที่ปะทุขึ้นมาจากทุกรูขุมขนนี้เช่นกัน เขารู้สึกได้เลยว่าเวลานี้ต่อให้อีกฝ่ายจะเป็นเทพสวรรค์เจ็ดดาวเขาก็คงพอต่อสู้รับมือได้!

แต่ยิ่งรู้สึกได้แบบนั้นสายตาที่เขาจ้องมองไปยังเย่หยวนมันก็ยิ่งแฝงความตื่นตะลึง

ในเวลาอึดใจเดียวนี้เขากลับฝังเข็มทองลงบนร่างของเทพสวรรค์หลายสิบนี้ได้อย่างไม่มีผิดพลาด มันจะต้องเป็นความแม่นยำที่ล้ำฟ้าปานใด?

แม้ว่าตัวเขานั้นจะไม่ได้ศึกษาวิชาการโอสถรักษาใดๆ แต่เขาก็รู้ได้ว่าการควบคุมที่แม่นยำปานนี้มันมิใช่สิ่งที่นักหลอมโอสถทั่วๆ ไปจะทำได้!

วิชาการฝังเข็มทองนั้นมันจะต้องมีทั้งแรง ปราณเทวะ จิตและความแม่นยำผสานเข้าด้วยกันอย่างเหมาะสมจึงจะสามารถดึงพลังเช่นนี้ออกมาได้

ที่สำคัญไปกว่านั้นเหล่าเทพสวรรค์ในที่นี้แต่ละคนต่างก็มาจากต่างค่ายสำนักวิชา มีพลังบ่มเพาะไม่เท่าเทียมวิชาวรยุทธใดๆ แตกต่างกันไป มันเป็นสิ่งที่ยากจนเกินกว่าจะทำความเข้าใจได้เสียด้วยซ้ำ

เพราะฉะนั้นการฝังเข็มของแต่ละคนในที่นี้มันจึงจะต้องแตกต่างกันไปอย่างสิ้นเชิง

การฝังเข็มทองนั้นมันเป็นวิชาที่แสนอันตรายหากผิดพลาดขึ้นมาแม้แต่เสี้ยวเดียวมันก็อาจทำให้ถึงชีวิต

แต่เย่หยวนกลับมองออกว่าแต่ละคนต้องฝังเข็มใส่อย่างไรในเวลาแค่อึดใจนี้

ต่อให้จะเป็นจอมเทพโอสถแปดดาวเอง มันก็คงไม่อาจจะทำได้ถึงขั้นนี้หรอกใช่หรือไม่?

แล้วเจ้าหมอนี่มันเป็นสัตว์ประหลาดจากที่ใด?!

เหล่ามารร้ายตรงหน้านั้นเป็นสัตว์ประหลาดอย่างไม่ต้องสงสัย

แต่เจ้าสัตว์ประหลาดที่อยู่ตรงหน้าพวกเขานี้มันยิ่งน่ากลัวกว่า!

ในเวลานี้ทางจ่าฝูงของมารนรกทั้งหลายเริ่มจะสัมผัสได้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น

เพราะคลื่นพลังจากร่างของเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายมันกลับพุ่งทะยานสูงล้ำขึ้นในพริบตา

แต่ทว่าตัวเขาเองก็ไม่คิดว่ามารนรกทั้งหลายจะแพ้ให้มนุษย์แสนอ่อนแอเช่นนี้!

“พวกเจ้าทั้งหลาย ไปสังหารมัน! ฉีกร่างมนุษย์ผู้โง่เขลานี้ให้เป็นชิ้น!” มันสั่งออกมา

เมื่อได้ยินคำสั่งแล้วเหล่ามารนรกทั้งหลายก็ต่างพุ่งทะย่านเข้าไปหาเทพสวรรค์ทั้งหลายที่จับกลุ่มกันอยู่

“ฮ่าๆๆ เยี่ยม! จงถูกเทพสวรรค์ผู้นี้ฉีกเป็นชิ้นๆ ไปเถอะ!”

ทางเทพสวรรค์ฝ่ายมนุษย์ที่มีพลังเพิ่มพูนนี้ต่างก็มีขวัญกำลังใจกันมหาศาล เรื่องเดียวที่พวกเขายังกังวลก็คือกลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่พอมือตน

เวลานี้เมื่อเห็นว่าเหล่ามารนรกทั้งหลายไม่คิดเกรงกลัวและยังพุ่งตัวเข้ามาหา พวกเขาทั้งหลายจึงพุ่งทะยานออกไปรับหน้าทันที

จากนั้นเหล่ามารนรกและมนุษย์จึงได้เข้าสังหารฆ่ากันอย่างไม่ลดละ การปะทะของสองฝ่ายนั้นรุนแรงจนแทบจะแยกป้าดินออกจากกัน

ทางหลี่เยว่เองก็พุ่งตัวเข้าไปหาจ่าฝูงของมารนรกทั้งหลายทันที!

เพราะเจ้าตัวจ่าฝูงนี้เป็นตัวเดียวที่มีพลังระดับเทพสวรรค์หกดาว แม้จะไม่อาจชนะเทพสวรรค์เจ็ดดาวลงได้ แต่หากแค่ให้จัดการเทพสวรรค์หกดาวมันคงไม่ยาก

เพียงแค่ว่าเมื่อมันปะทะกับหลี่เยว่เข้า ทางหลี่เยว่กลับไม่ตกเป็นรองแม้แต่น้อย!

ทางเทพสวรรค์ของฝ่ายมนุษย์ทั้งหลายนั้นเหมือนได้รับยากระตุ้นประสาท พุ่งทะยานเข้าไปไล่ฆ่าสังหารมารนรกอย่างไม่ยั้งมือใดๆ

คลื่นพลังที่รุนแรงเหนือล้ำนี้มันทำให้เหล่ามารนรกทั้งหลายต้องร่ำร้อง

ที่ด้านข้างเมื่อหลินฉางชิงเห็นภาพนี้ ตัวเขาเองก็ได้แต่ยืนนิ่ง

กำลังของเขานั้นอ่อนแอจนเกินไป จะได้รับการฝังเข็มทองหรือไม่มันก็ไม่ส่งผลใดๆ กับการต่อสู้ แน่นอนว่าเย่หยวนย่อมจะไม่เสียเวลามาฝังเข็มให้เขา

วิธีการของนั้นมันเหนือล้ำกว่าที่หลินฉางชิงจะรับได้!

ในเวลานี้ตัวเขาถึงขั้นรู้สึกเสียใจที่ติดตามมาในครั้งนี้

ยิ่งเขาได้เห็นเย่หยวนมากเท่าใด เขาก็ยิ่งได้เห็นว่าวิธีการของเย่หยวนนั้นมันมากล้ำจนทำให้ตัวเขาเริ่มหมดความมั่นใจในตัวเองสิ้น

เวลานี้เขาถึงขั้นรู้สึกว่าคนอย่างเย่หยวนต่างหากที่จะเหมาะสมกับเยวี่ยเมิ่งลี่

การที่ตัวเขานั้นไปตามจีบเยวี่ยเมิ่งลี่ใดๆ มันถือเป็นการด้อยค่าดูถูกนางโดยแท้!

หลินฉางชิงนั้นได้แต่พยายามส่ายหัวคิดสลัดความกังวลไร้สาระนี้ออกไป

แต่ไม่ว่าจะพยายามสักเท่าไหร่มันก็ไม่จางหายไป!

ต่อหน้าเย่หยวนนี้เขามีแต่จะหมดสิ้นความมั่นใจลง

เหล่าเทพสวรรค์ฝั่งมนุษย์ทั้งหลายนี้ต่างเป็นคนจากวังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์ แน่นอนว่าย่อมจะมีฝีมือเหนือล้ำผู้คนมากแต่แรก

เวลานี้เมื่อถูกกระตุ้นพลังถึงขีดสุด พวกเขาทั้งหลายย่อมจะยิ่งเก่งกาจเหนือฟ้าดินทำลายไล่สังหารเหล่ามารนรกลงอย่างไม่เหลือชิ้นดี

สถานการณ์ที่เดิมทีเป็นความตายอย่างแน่นอนนั้นมันกลับกลายเป็นชัยชนะอย่างเด็ดขาด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าผู้นำของค่ายสำนักต่างๆ อย่างเจิ้งหยูเฟิงที่มีกำลังแทบไม่ด้อยกว่าหลี่เยว่

เวลานี้พวกเขาทั้งหลายต่างแยกย้ายกันไปไล่สังหารมารนรกห้าดาวที่แยกกระจายไปในแต่ละทิศ

หลังจากไล่ล่าตัวอันตรายทั้งหลายลงสิ้นแล้วพวกเขาก็เข้าไปร่วมกลุ่มกับหลี่เยว่

จากหนึ่งต่อหนึ่งเป็นสองต่อหนึ่งจนกลายเป็นสามต่อหนึ่ง

เวลานี้เจ้าจ่าฝูงมารนรกนั้นได้แต่ต้องกระอักเลือด

แต่ต่อให้อยากจะหนีมันก็ไม่อาจหนีรอดได้แล้ว

ภายใต้การรุมจู่โจมของยอดฝีมือ ต่อให้จะเป็นจ่าฝูงมารนรกเองก็คงไม่อาจจะยื้อชีวิตได้นานนัก

เจ้ามารนรกนั้นเริ่มอ่อนแอลงเรื่อยๆ จนสุดท้ายคลื่นพลังของมันนั้นเหลือไม่ถึงหนึ่งในสิบ

“อย่าเพิ่งฆ่ามัน!” เย่หยวนร้องบอก

หลี่เยว่จึงตะโกนตอบ “สัตว์ร้ายเช่นนี้จะปล่อยมันไว้ทำไม? ฆ่า!”

พูดไปเขาก็ยกมือขึ้นเตรียมตัวลงดาบสุดท้ายคิดฆ่าสังหารจ่าฝูงมารนรกนี้

“หยุด!”

เสียงกังวานดังลั่นไปทั่ว

เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายที่ไม่ทันตั้งตัวนั้นกลับต้องหยุดลงกับที่ตามคำพูดนั้น!

และมันก็ปรากฏเงาร่างหนึ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าเจ้าจ่าฝูงมารนรก

“อ่อก!”

เย่หยวนทิ่มแทงมือเข้าไปในหัวของเจ้าจ่าฝูงมารนรกพร้อมๆ กับบีบผลึกมารดำของมันไว้แน่น!

………………….

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+