Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2201 หญ้าใจหยก

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2201 หญ้าใจหยก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“พ่อ ลุงเจียน กลับมากันแล้วหรือ?”

อายองรีบเดินก้าวออกมารับเหล่านายพรานทั้งหลายด้วยสีหน้าภาคภูมิ

พ่อของเขานั้นมีนามว่าเฉินลี่เป็นผู้ใหญ่ของหมู่บ้านนี้ ชื่อเสียงความเก่งกาจของเขานั้นโด่งดังไปไกลทั่วสารทิศ

ในเวลานี้เหล่านายพรานผู้เก่งกาจทั้งหลายต่างกลับมาถึงหมู่บ้านพร้อมด้วยพืชสัตว์มากมายที่ล่ามาได้อีกครั้งหนึ่ง

“ฮ่าๆๆ ยองเอ๋อ ครั้งนี้พ่อเจ้าโชคดีเสียจริงๆ ข้าได้กวางหยกหิมะมาด้วย” เฉินลี่ร้องบอกพร้อมเสียงหัวเราะลั่น

ในเวลานี้เหล่าชาวบ้านทั้งหลายต่างเดินออกมาดูกองภูเขาของอาหารที่นายพรานทั้งหลายได้ล่ามาอย่างยิ้มแย้ม

“ผู้ใหญ่สุดยอด! เจ้ากวางหยกหิมะนี้มันได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดสัตว์อสูรของระดับมนุษย์ธรรมดา อยู่ห่างจากระดับพระเจ้าเป็นสัตว์อสูรเทวะไปแค่เล็กน้อย แต่ท่านกลับฆ่าสังหารมันลงได้!”

“เท่านี้หมู่บ้านตระกูลเฉินเราก็ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารเครื่องนุ่งห่มไปอีกนับครึ่งปี!”

“ได้ติดตามท่านผู้ใหญ่ลี่นี่มันเป็นโชคของเราจริงๆ!”

ทุกผู้คนต่างร้องกล่าวชมต่อเฉินลี่อย่างไม่ขาดสาย แต่ละคำพูดกล่าวชมนี้มันล้วนดังออกมาจากหัวใจ

ในมหาพิภพถงเทียนนี้ชีวิตของผู้คนธรรมดาทั่วไปนั้นมันมักจะถูกสัตว์ร้ายอสูรทั้งหลายทำลายจนถึงตายลงได้ง่ายๆ

หมู่บ้านทั้งหมู่บ้านถูกทำลายไปในการโจมตีครั้งเดียวก็มีให้เห็นบ่อยครั้ง

แต่หมู่บ้านตระกูลเฉินนี้กลับค่อยๆ พัฒนาไปด้านหน้าอย่างไม่หยุดยั้งด้วยการนำของผู้ใหญ่เฉินลี่ผู้นี้

อย่างน้อยๆ พวกเขาก็สามารถมีที่ตั้งรกรากได้อย่างไม่ต้องย้ายบ้านช่องใช้ชีวิตหลบๆ ซ่อนๆ ใด

บนโลกใบนี้กำลังที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะนำพาความสงบสุขในชีวิตมาได้

อาซิ่วเองก็พยายามเดินแทรกตัวขึ้นมาด้วยหน้าพร้อมกล่าวขึ้นอย่างตกตะลึง “ลุงลี่ ท่านเองก็จะเก่งกาจเกินไปแล้ว ถึงกับล่ากวางหยกหิมะมาได้เช่นนี้ ข้าว่าวันหน้าท่านอาจจะบรรลุขึ้นอาณาจักรพระเจ้าได้สักวันก็ได้! เจ้าว่าอย่างนั้นหรือไม่อาหนิง?”

ตัวเย่หยวนก็พยักหน้ารับไปด้วยท่าทางเหม่อลอย

เฉินลี่นั้นจึงเดินเข้ามาลูบหัวของอาซิ่วด้วยความเอ็นดู “เด็กโง่ มีหรือที่อาณาจักรพระเจ้ามันจะขึ้นไปได้ง่ายดายปานนั้น? ข้ารู้ดีว่าตนมีกำลังเพียงแค่ใด แค่ขึ้นมาถึงยอดของอาณาจักรพลังสามัญได้มันก็ถึงว่าเกินขีดจำกัดแล้ว! แต่ว่า… ข้านั้นตั้งความหวังกับยองเอ๋อไว้มาก!”

ที่ด้านข้างกันนั้นเฉินเจียนเองก็ยิ้มขึ้นมา “ใช่แล้ว! ยองเอ๋อนั้นมีกำลังพรสวรรค์มากพอที่จะก้าวขึ้นมาเทียบระดับเราได้ไม่ยาก วันหน้าเขานี้แหละจะเป็นเสาหลักของหมู่บ้านเฉินเรา!”

เมื่อได้ยินคำชื่นชมมากมายจากเหล่าผู้ใหญ่ผู้อาวุโสของหมู่บ้านทางตัวเฉินยองก็เริ่มแสดงสีหน้าแดงขึ้นมาอย่างอับอายแต่ความหยิ่งผยองที่มีในใจมันกลับมาขึ้นและหันหน้ามาเหยียดสายตาใส่เย่หยวนอย่างที่คิดว่าตัวเองเหนือกว่า

แต่เย่หยวนเองก็ได้แต่ยืนนิ่งไม่รู้ต้องตอบกลับไปว่าอย่างไร

เฉินลี่นั้นยกตัวกลางหยกหิมะขึ้นและโยนมันไปให้ทางลูกชาย “เอาไปแล่แยกส่วนและไปส่งให้ปู่หยานทีหลัง อาหนิง เจ้ากวางหยกหิมะนี้มันคงเป็นยาดีช่วยรักษาอาการให้แก่เจ้าได้แน่”

ทางเฉินยองที่ได้ยินก็แสดงสีหน้าไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน

ส่วนทางเย่หยวนนั้นก็ยิ้มตอบรับกลับมา “ขอบคุณลุงลี่มาก”

ทุกผู้คนในหมู่บ้านนี้ต่างกังวลเรื่องของเย่หยวนไม่น้อย

เพราะฉะนั้นแม้เวลานี้เขาจะไร้ความทรงจำใดๆ แต่เขาก็ยังรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณของทุกผู้คน

“อ่า จริงด้วยสิ ลุงหยาน ออกไปล่าครานี้ข้าไปเจอเจ้านี่มาเสียด้วย” พูดไปเฉินลี่ก็ยกกระเป๋าใบน้อยของตนขึ้นมาเปิด

ท่าทางของเขาในการเปิดกระเป๋านี้มันสุดแสนจะระมัดระวังราวกับสิ่งที่อยู่ภายในนั้นเป็นแค่ใบไม้แห้งที่จะแตกสลายลงได้ทุกเมื่อ

แต่เมื่อกระเป๋าใบน้อยนั้นถูกเปิดออกมันกลับส่งคลื่นพลังวิญญาณออกมาอย่างมหาศาล

เฉินหยานที่ได้เห็นก็ต้องหน้าถอนสีทันที “สมุนไพรวิญญาณ! สมุนไพรวิญญาณระดับศักดิ์สิทธิ์! หญ้าใจหยก! แม้ว่ามันจะยังไม่เติบโตเต็มที่แต่มันก็มีพลังวิญญาณมากพอที่จะช่วยเพิ่มโอกาสบรรลุอาณาจักรพระเจ้าได้ถึงหนึ่งในสิบ!”

เฉินหยานนั้นเป็นชายแก่ผู้ได้รับความเคารพจากคนทั้งหมู่บ้าน หากให้พูดแล้วสถานะของเขานั้นคงยิ่งใหญ่สูงล้ำกว่าผู้ใหญ่บ้านอย่างเฉิยลี่เสียอีก

เพราะว่าเขานั้นคือนักหลอมโอสถ!

เพราะฉะนั้นในวินาทีที่เขาได้เห็นเจ้าสมุนไพรนี้ ตัวเขาจึงจดจำมันได้ทันที

เมื่อเฉินลี่ได้ยินเช่นนั้นเขาก็เบิกตากว้างขึ้นอย่างตื่นเต้น “เป็นเช่นนั้นจริงๆ! เจ้ากวางหยกหิมะนี้มันปกป้องดูแลเจ้าหญ้านี้อย่างไม่คิดจะทิ้งไปไหน มันเป็นเพราะว่าเจ้าหญ้านี้สามารถจะช่วยให้มันบรรลุอาณาจักรพระเจ้าได้จริงๆ เสียด้วย!”

เฉินหยานพยักหน้ารับออกมา “ใช่แล้ว! หากเจ้ากวางหยกหิมะนั้นมันได้กินเจ้าหญ้าใจหยกที่เติบโตเต็มที่แล้วมันคงสามารถบรรลุขึ้นอาณจักรพระเจ้าได้เป็นแน่! น่าเสียดายที่… เฒ่าคนนี้ไม่มีฝีมือมากพอที่จะหลอมโอสถใจหยกได้ ไม่เช่นนั้นแล้วเจ้าคงสามารถก้าวขึ้นอาณาจักรพระเจ้าได้แน่! น่าเสียดาย!”

เฉินหยานนั้นได้แต่ร้องร่ำขึ้นมาอย่างเสียดายสุดใจ ดูจากสีหน้าแล้วมันคงเป็นเรื่องที่เขาเสียดายอย่างมากจริงๆ

โอสถใจหยกนั้นมันเป็นโอสถศักดิ์สิทธิ์ สำหรับตัวเขาที่เป็นแค่คนธรรมดาแล้วมันย่อมจะยากเกินเอื้อม

และการที่ต้องกินสมุนไพรลงไปตรงๆ อย่างไม่ได้ทำการหลอมโอสถนั้นมันก็นับว่าเป็นเรื่องที่สุดแสนน่าเสียดาย

แต่เฉินลี่นั้นกลับยิ้มกล่าวขึ้นอย่างไม่คิดมากใดๆ “ลุงหยาน ท่านก็ไม่ต้องทำหน้าเช่นนั้นไปหรอก ข้านั้นคิดไว้แต่แรกแล้วว่าจะเก็บเจ้าหญ้าใจหยกนี้ไว้ให้ยองเอ๋อ เขานั้นมีพรสวรรค์ที่เหนือล้ำข้า สักวันเขาคงก้าวขึ้นถึงอาณาจักรพระเจ้าได้แน่ๆ”

แต่เฉินหยานกลับส่ายหัวออกมา “ไม่ได้หรอก! กว่าจะถึงเวลาที่ยองเอ๋อบ่มเพาะถึงอาณาจักรเต๋าลึกล้ำขั้นสุด หญ้าใจหยกนี้มันคงเสียพลังวิญญาณไปกว่าครึ่งแล้ว ถึงเวลานั้นมันก็คงไม่ได้ต่างจากสมุนไพรสามัญทั่วไป และก็อย่าได้คิดถึงเรื่องการจะปลูกมันใดๆ เพราะสมุนไพรวิญญาณระดับศักดิ์สิทธิ์นั้นมันต้องมีอาหารหล่อเลี้ยงอย่างมากล้นและลึกลับ และเฒ่าคนนี้ไม่มีความรู้มากพอที่จะเก็บกักพลังของมันไว้เสียด้วยซ้ำ  ที่สำคัญไปกว่านั้น… วันพรุ่งทางหลัวเซิงยังจะมาเก็บส่วยอีก เจ้าคิดว่ามันผู้นั้นจะปล่อยสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ระดับนี้ไว้หรือ?”

คำพูดนี้มันทำให้เฉินลี่ต้องก้มหน้าลงอย่างหนักใจทันที

ที่ด้านข้างทางเฉินยองเองก็มีสีหน้าไม่ต่างกัน

ในหมู่บ้านน้อยๆ เช่นนี้นักยุทธอาณาจักรพระเจ้านั้นนับว่าเป็นตัวตนที่สูงล้ำฟ้า

ตราบเท่าที่หมู่บ้านหนึ่งๆ มีนักยุทธระดับพระเจ้าเกิดขึ้นมาได้อัตราการอยู่รอดของพวกเขาก็จะพุ่งทะยานล้ำ ไม่ต้องเกรงกลัวว่าจะมีสัตว์ร้ายใดๆ มาบุกรุกอีก

และเรื่องราวเช่นนั้นมันก็จะทำให้หมู่บ้านนั้นยิ่งใหญ่ขึ้นได้ในชั่วข้ามคืน ก้าวขึ้นปกครองหมู่บ้านในละแวกเดียวกันจนสิ้น!

หลัวเซิงที่เฉินหยานกล่าวถึงนี้เองก็เป็นหนึ่งในนักยุทธอาณาจักรพระเจ้าเหล่านั้น!

เพราะฉะนั้นในแถบนี้หมู่บ้านตระกูลหลัวจึงได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำ หมู่บ้านทั้งหลายได้แต่ต้องก้มหัวยอมรับ

“มัน… มีโอกาสแค่หนึ่งในสิบจริงๆ หรือ? น่าเสียดายจริงๆ!” เฉินลี่ร้องบอก

คนอื่นๆ เองก็ได้แต่เงียบปากลง ทางเฉินยองเองก็ได้แต่ยืนนิ่งด้วยใบหน้าดำมืด เสียใจที่กำลังของตนนั้นมันไม่มากพอที่จะกลืนกินเข้าสมุนไพรล้ำค่านี้

แต่ในเวลานั้นเองกลับเกิดเสียงเรียบเฉยหนึ่งขึ้น “ทำไม… ไม่ให้ข้าลองหน่อยเล่า”

ทุกผู้คนต่างหันหน้าไปมองที่ต้นเสียงพร้อมๆ กันและไม่ต้องสงสัยว่ามันคือตัวเย่หยวนนั่นเอง

เฉินยองเองก็ระเบิดเสียงลั่นขึ้นมาเพราะว่าอารมณ์ที่ไม่ดีอยู่แต่ก่อนแล้วของตน

“เรื่องนี้มันเกี่ยวใดๆ กับเจ้า? เจ้าคนที่ไม่มีพลังปราณแม้แต่น้อยคิดจะทำอะไรได้? นี่มันคือสมุนไพรศักดิสิทธิ์ ไม่ใช่ของเล่นที่เจ้าจะเล่นด้วยได้!” เฉินยองกล่าวตวาดใส่เย่หยวนพร้อมน้ำลายที่พุ่งกระเด็น

เย่หยวนได้แต่ต้องยกมือขึ้นมาเช็ดหน้าที่เปื้อนน้ำลายอย่างนิ่งเฉย

ทุกผู้คนต่างไม่เข้าใจว่าทำไมเย่หยวนจึงได้กล่าวออกมาเช่นนั้น

เมื่ออาซิ่วได้ยินเช่นนั้นนางก็ได้แต่ต้องยกมือขึ้นมาเท้าเอวไว้อย่างไม่พอใจ “เจ้าจะตะโกนเสียงดังทำไม? อาหนิงนั้นก็แค่คิดอยากช่วย! ที่สำคัญปู่เองก็เคยบอกไว้ว่าอาหนิงนั้นคงเคยเป็นคนใหญ่คนโตมาก่อนแน่ เจ้ามั่นใจได้อย่างไรว่าเขาจะไม่มีปัญญาทำ?”

เฉินลี่เองก็ได้แต่กล่าวขึ้นมาด้วยท่าทางอับอายแทนลูกชาย “อาหนิง มันมิใช่ว่าลุงลี่ไม่เชื่อมือเจ้าหรอก แต่… เจ้านั่นไม่มีแม้แต่พลังปราณมิใช่หรือ”

เย่หยวนจึงได้แต่ต้องเอียงคอกล่าวขึ้น “อ่า… ก็ใช่”

แต่ที่ด้านข้างนั้นเฉินหยานกลับนิ่งเงียบจมลงสู่ความคิดของตนก่อนจะกล่าวถามขึ้นมา “อาหนิง เจ้ามีความมั่นใจหรือไม่ว่าจะทำได้จริง?”

คนอื่นๆ ได้แต่ต้องหันไปมองที่เฉินหยานอย่างไม่อาจเข้าใจได้ว่าเขาคิดอะไร

คนพิการที่ไร้ปราณใดๆ เช่นนี้จะไปทำอะไรได้มากมาย?

เย่หยวนเองก็ได้แต่ต้องผงะไปเล็กน้อยก่อนจะส่ายหัวออกมา “ข้า… ข้าเองก็ไม่มั่นใจ”

เฉินหยานจึงได้แต่ถามตามขึ้น “เช่นนั้นทำไมเจ้าจึงกล่าวออกมา?”

เย่หยวนจึงได้แต่ต้องยิ้มแห้งๆ รับไป “ข้าเองก็ไม่ทราบ ข้านั้นไม่ได้คิดอะไร รู้ตัวอีกครั้งปากก็พูดออกไปแล้ว”

เฉินหยานที่ได้ยินจึงต้องหรี่ตาลงก่อนจะพยักหน้าอย่างหนักแน่นพร้อมยื่นหญ้าใจหยกให้เย่หยวนไป “เจ้ามาที่ห้องหลอมโอสถของข้า เจ้าอยากใช้อยากได้อะไร เจ้าสามารถใช้ได้ไม่ต้องเกรงใจ!”

เฉินลี่นั้นยังไม่ทันจะได้กล่าวอะไรแต่ทางเฉินยองที่แบกกวางหยกหิมะไว้กลับตะโกนลั่นขัดขึ้น “ปู่หยาน! นี่มันสมุนไพรวิญญาณศักดิ์สิทธิ์เลยนะ!”

…………..

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2201 หญ้าใจหยก

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2201 หญ้าใจหยก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“พ่อ ลุงเจียน กลับมากันแล้วหรือ?”

อายองรีบเดินก้าวออกมารับเหล่านายพรานทั้งหลายด้วยสีหน้าภาคภูมิ

พ่อของเขานั้นมีนามว่าเฉินลี่เป็นผู้ใหญ่ของหมู่บ้านนี้ ชื่อเสียงความเก่งกาจของเขานั้นโด่งดังไปไกลทั่วสารทิศ

ในเวลานี้เหล่านายพรานผู้เก่งกาจทั้งหลายต่างกลับมาถึงหมู่บ้านพร้อมด้วยพืชสัตว์มากมายที่ล่ามาได้อีกครั้งหนึ่ง

“ฮ่าๆๆ ยองเอ๋อ ครั้งนี้พ่อเจ้าโชคดีเสียจริงๆ ข้าได้กวางหยกหิมะมาด้วย” เฉินลี่ร้องบอกพร้อมเสียงหัวเราะลั่น

ในเวลานี้เหล่าชาวบ้านทั้งหลายต่างเดินออกมาดูกองภูเขาของอาหารที่นายพรานทั้งหลายได้ล่ามาอย่างยิ้มแย้ม

“ผู้ใหญ่สุดยอด! เจ้ากวางหยกหิมะนี้มันได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดสัตว์อสูรของระดับมนุษย์ธรรมดา อยู่ห่างจากระดับพระเจ้าเป็นสัตว์อสูรเทวะไปแค่เล็กน้อย แต่ท่านกลับฆ่าสังหารมันลงได้!”

“เท่านี้หมู่บ้านตระกูลเฉินเราก็ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารเครื่องนุ่งห่มไปอีกนับครึ่งปี!”

“ได้ติดตามท่านผู้ใหญ่ลี่นี่มันเป็นโชคของเราจริงๆ!”

ทุกผู้คนต่างร้องกล่าวชมต่อเฉินลี่อย่างไม่ขาดสาย แต่ละคำพูดกล่าวชมนี้มันล้วนดังออกมาจากหัวใจ

ในมหาพิภพถงเทียนนี้ชีวิตของผู้คนธรรมดาทั่วไปนั้นมันมักจะถูกสัตว์ร้ายอสูรทั้งหลายทำลายจนถึงตายลงได้ง่ายๆ

หมู่บ้านทั้งหมู่บ้านถูกทำลายไปในการโจมตีครั้งเดียวก็มีให้เห็นบ่อยครั้ง

แต่หมู่บ้านตระกูลเฉินนี้กลับค่อยๆ พัฒนาไปด้านหน้าอย่างไม่หยุดยั้งด้วยการนำของผู้ใหญ่เฉินลี่ผู้นี้

อย่างน้อยๆ พวกเขาก็สามารถมีที่ตั้งรกรากได้อย่างไม่ต้องย้ายบ้านช่องใช้ชีวิตหลบๆ ซ่อนๆ ใด

บนโลกใบนี้กำลังที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะนำพาความสงบสุขในชีวิตมาได้

อาซิ่วเองก็พยายามเดินแทรกตัวขึ้นมาด้วยหน้าพร้อมกล่าวขึ้นอย่างตกตะลึง “ลุงลี่ ท่านเองก็จะเก่งกาจเกินไปแล้ว ถึงกับล่ากวางหยกหิมะมาได้เช่นนี้ ข้าว่าวันหน้าท่านอาจจะบรรลุขึ้นอาณาจักรพระเจ้าได้สักวันก็ได้! เจ้าว่าอย่างนั้นหรือไม่อาหนิง?”

ตัวเย่หยวนก็พยักหน้ารับไปด้วยท่าทางเหม่อลอย

เฉินลี่นั้นจึงเดินเข้ามาลูบหัวของอาซิ่วด้วยความเอ็นดู “เด็กโง่ มีหรือที่อาณาจักรพระเจ้ามันจะขึ้นไปได้ง่ายดายปานนั้น? ข้ารู้ดีว่าตนมีกำลังเพียงแค่ใด แค่ขึ้นมาถึงยอดของอาณาจักรพลังสามัญได้มันก็ถึงว่าเกินขีดจำกัดแล้ว! แต่ว่า… ข้านั้นตั้งความหวังกับยองเอ๋อไว้มาก!”

ที่ด้านข้างกันนั้นเฉินเจียนเองก็ยิ้มขึ้นมา “ใช่แล้ว! ยองเอ๋อนั้นมีกำลังพรสวรรค์มากพอที่จะก้าวขึ้นมาเทียบระดับเราได้ไม่ยาก วันหน้าเขานี้แหละจะเป็นเสาหลักของหมู่บ้านเฉินเรา!”

เมื่อได้ยินคำชื่นชมมากมายจากเหล่าผู้ใหญ่ผู้อาวุโสของหมู่บ้านทางตัวเฉินยองก็เริ่มแสดงสีหน้าแดงขึ้นมาอย่างอับอายแต่ความหยิ่งผยองที่มีในใจมันกลับมาขึ้นและหันหน้ามาเหยียดสายตาใส่เย่หยวนอย่างที่คิดว่าตัวเองเหนือกว่า

แต่เย่หยวนเองก็ได้แต่ยืนนิ่งไม่รู้ต้องตอบกลับไปว่าอย่างไร

เฉินลี่นั้นยกตัวกลางหยกหิมะขึ้นและโยนมันไปให้ทางลูกชาย “เอาไปแล่แยกส่วนและไปส่งให้ปู่หยานทีหลัง อาหนิง เจ้ากวางหยกหิมะนี้มันคงเป็นยาดีช่วยรักษาอาการให้แก่เจ้าได้แน่”

ทางเฉินยองที่ได้ยินก็แสดงสีหน้าไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน

ส่วนทางเย่หยวนนั้นก็ยิ้มตอบรับกลับมา “ขอบคุณลุงลี่มาก”

ทุกผู้คนในหมู่บ้านนี้ต่างกังวลเรื่องของเย่หยวนไม่น้อย

เพราะฉะนั้นแม้เวลานี้เขาจะไร้ความทรงจำใดๆ แต่เขาก็ยังรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณของทุกผู้คน

“อ่า จริงด้วยสิ ลุงหยาน ออกไปล่าครานี้ข้าไปเจอเจ้านี่มาเสียด้วย” พูดไปเฉินลี่ก็ยกกระเป๋าใบน้อยของตนขึ้นมาเปิด

ท่าทางของเขาในการเปิดกระเป๋านี้มันสุดแสนจะระมัดระวังราวกับสิ่งที่อยู่ภายในนั้นเป็นแค่ใบไม้แห้งที่จะแตกสลายลงได้ทุกเมื่อ

แต่เมื่อกระเป๋าใบน้อยนั้นถูกเปิดออกมันกลับส่งคลื่นพลังวิญญาณออกมาอย่างมหาศาล

เฉินหยานที่ได้เห็นก็ต้องหน้าถอนสีทันที “สมุนไพรวิญญาณ! สมุนไพรวิญญาณระดับศักดิ์สิทธิ์! หญ้าใจหยก! แม้ว่ามันจะยังไม่เติบโตเต็มที่แต่มันก็มีพลังวิญญาณมากพอที่จะช่วยเพิ่มโอกาสบรรลุอาณาจักรพระเจ้าได้ถึงหนึ่งในสิบ!”

เฉินหยานนั้นเป็นชายแก่ผู้ได้รับความเคารพจากคนทั้งหมู่บ้าน หากให้พูดแล้วสถานะของเขานั้นคงยิ่งใหญ่สูงล้ำกว่าผู้ใหญ่บ้านอย่างเฉิยลี่เสียอีก

เพราะว่าเขานั้นคือนักหลอมโอสถ!

เพราะฉะนั้นในวินาทีที่เขาได้เห็นเจ้าสมุนไพรนี้ ตัวเขาจึงจดจำมันได้ทันที

เมื่อเฉินลี่ได้ยินเช่นนั้นเขาก็เบิกตากว้างขึ้นอย่างตื่นเต้น “เป็นเช่นนั้นจริงๆ! เจ้ากวางหยกหิมะนี้มันปกป้องดูแลเจ้าหญ้านี้อย่างไม่คิดจะทิ้งไปไหน มันเป็นเพราะว่าเจ้าหญ้านี้สามารถจะช่วยให้มันบรรลุอาณาจักรพระเจ้าได้จริงๆ เสียด้วย!”

เฉินหยานพยักหน้ารับออกมา “ใช่แล้ว! หากเจ้ากวางหยกหิมะนั้นมันได้กินเจ้าหญ้าใจหยกที่เติบโตเต็มที่แล้วมันคงสามารถบรรลุขึ้นอาณจักรพระเจ้าได้เป็นแน่! น่าเสียดายที่… เฒ่าคนนี้ไม่มีฝีมือมากพอที่จะหลอมโอสถใจหยกได้ ไม่เช่นนั้นแล้วเจ้าคงสามารถก้าวขึ้นอาณาจักรพระเจ้าได้แน่! น่าเสียดาย!”

เฉินหยานนั้นได้แต่ร้องร่ำขึ้นมาอย่างเสียดายสุดใจ ดูจากสีหน้าแล้วมันคงเป็นเรื่องที่เขาเสียดายอย่างมากจริงๆ

โอสถใจหยกนั้นมันเป็นโอสถศักดิ์สิทธิ์ สำหรับตัวเขาที่เป็นแค่คนธรรมดาแล้วมันย่อมจะยากเกินเอื้อม

และการที่ต้องกินสมุนไพรลงไปตรงๆ อย่างไม่ได้ทำการหลอมโอสถนั้นมันก็นับว่าเป็นเรื่องที่สุดแสนน่าเสียดาย

แต่เฉินลี่นั้นกลับยิ้มกล่าวขึ้นอย่างไม่คิดมากใดๆ “ลุงหยาน ท่านก็ไม่ต้องทำหน้าเช่นนั้นไปหรอก ข้านั้นคิดไว้แต่แรกแล้วว่าจะเก็บเจ้าหญ้าใจหยกนี้ไว้ให้ยองเอ๋อ เขานั้นมีพรสวรรค์ที่เหนือล้ำข้า สักวันเขาคงก้าวขึ้นถึงอาณาจักรพระเจ้าได้แน่ๆ”

แต่เฉินหยานกลับส่ายหัวออกมา “ไม่ได้หรอก! กว่าจะถึงเวลาที่ยองเอ๋อบ่มเพาะถึงอาณาจักรเต๋าลึกล้ำขั้นสุด หญ้าใจหยกนี้มันคงเสียพลังวิญญาณไปกว่าครึ่งแล้ว ถึงเวลานั้นมันก็คงไม่ได้ต่างจากสมุนไพรสามัญทั่วไป และก็อย่าได้คิดถึงเรื่องการจะปลูกมันใดๆ เพราะสมุนไพรวิญญาณระดับศักดิ์สิทธิ์นั้นมันต้องมีอาหารหล่อเลี้ยงอย่างมากล้นและลึกลับ และเฒ่าคนนี้ไม่มีความรู้มากพอที่จะเก็บกักพลังของมันไว้เสียด้วยซ้ำ  ที่สำคัญไปกว่านั้น… วันพรุ่งทางหลัวเซิงยังจะมาเก็บส่วยอีก เจ้าคิดว่ามันผู้นั้นจะปล่อยสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ระดับนี้ไว้หรือ?”

คำพูดนี้มันทำให้เฉินลี่ต้องก้มหน้าลงอย่างหนักใจทันที

ที่ด้านข้างทางเฉินยองเองก็มีสีหน้าไม่ต่างกัน

ในหมู่บ้านน้อยๆ เช่นนี้นักยุทธอาณาจักรพระเจ้านั้นนับว่าเป็นตัวตนที่สูงล้ำฟ้า

ตราบเท่าที่หมู่บ้านหนึ่งๆ มีนักยุทธระดับพระเจ้าเกิดขึ้นมาได้อัตราการอยู่รอดของพวกเขาก็จะพุ่งทะยานล้ำ ไม่ต้องเกรงกลัวว่าจะมีสัตว์ร้ายใดๆ มาบุกรุกอีก

และเรื่องราวเช่นนั้นมันก็จะทำให้หมู่บ้านนั้นยิ่งใหญ่ขึ้นได้ในชั่วข้ามคืน ก้าวขึ้นปกครองหมู่บ้านในละแวกเดียวกันจนสิ้น!

หลัวเซิงที่เฉินหยานกล่าวถึงนี้เองก็เป็นหนึ่งในนักยุทธอาณาจักรพระเจ้าเหล่านั้น!

เพราะฉะนั้นในแถบนี้หมู่บ้านตระกูลหลัวจึงได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำ หมู่บ้านทั้งหลายได้แต่ต้องก้มหัวยอมรับ

“มัน… มีโอกาสแค่หนึ่งในสิบจริงๆ หรือ? น่าเสียดายจริงๆ!” เฉินลี่ร้องบอก

คนอื่นๆ เองก็ได้แต่เงียบปากลง ทางเฉินยองเองก็ได้แต่ยืนนิ่งด้วยใบหน้าดำมืด เสียใจที่กำลังของตนนั้นมันไม่มากพอที่จะกลืนกินเข้าสมุนไพรล้ำค่านี้

แต่ในเวลานั้นเองกลับเกิดเสียงเรียบเฉยหนึ่งขึ้น “ทำไม… ไม่ให้ข้าลองหน่อยเล่า”

ทุกผู้คนต่างหันหน้าไปมองที่ต้นเสียงพร้อมๆ กันและไม่ต้องสงสัยว่ามันคือตัวเย่หยวนนั่นเอง

เฉินยองเองก็ระเบิดเสียงลั่นขึ้นมาเพราะว่าอารมณ์ที่ไม่ดีอยู่แต่ก่อนแล้วของตน

“เรื่องนี้มันเกี่ยวใดๆ กับเจ้า? เจ้าคนที่ไม่มีพลังปราณแม้แต่น้อยคิดจะทำอะไรได้? นี่มันคือสมุนไพรศักดิสิทธิ์ ไม่ใช่ของเล่นที่เจ้าจะเล่นด้วยได้!” เฉินยองกล่าวตวาดใส่เย่หยวนพร้อมน้ำลายที่พุ่งกระเด็น

เย่หยวนได้แต่ต้องยกมือขึ้นมาเช็ดหน้าที่เปื้อนน้ำลายอย่างนิ่งเฉย

ทุกผู้คนต่างไม่เข้าใจว่าทำไมเย่หยวนจึงได้กล่าวออกมาเช่นนั้น

เมื่ออาซิ่วได้ยินเช่นนั้นนางก็ได้แต่ต้องยกมือขึ้นมาเท้าเอวไว้อย่างไม่พอใจ “เจ้าจะตะโกนเสียงดังทำไม? อาหนิงนั้นก็แค่คิดอยากช่วย! ที่สำคัญปู่เองก็เคยบอกไว้ว่าอาหนิงนั้นคงเคยเป็นคนใหญ่คนโตมาก่อนแน่ เจ้ามั่นใจได้อย่างไรว่าเขาจะไม่มีปัญญาทำ?”

เฉินลี่เองก็ได้แต่กล่าวขึ้นมาด้วยท่าทางอับอายแทนลูกชาย “อาหนิง มันมิใช่ว่าลุงลี่ไม่เชื่อมือเจ้าหรอก แต่… เจ้านั่นไม่มีแม้แต่พลังปราณมิใช่หรือ”

เย่หยวนจึงได้แต่ต้องเอียงคอกล่าวขึ้น “อ่า… ก็ใช่”

แต่ที่ด้านข้างนั้นเฉินหยานกลับนิ่งเงียบจมลงสู่ความคิดของตนก่อนจะกล่าวถามขึ้นมา “อาหนิง เจ้ามีความมั่นใจหรือไม่ว่าจะทำได้จริง?”

คนอื่นๆ ได้แต่ต้องหันไปมองที่เฉินหยานอย่างไม่อาจเข้าใจได้ว่าเขาคิดอะไร

คนพิการที่ไร้ปราณใดๆ เช่นนี้จะไปทำอะไรได้มากมาย?

เย่หยวนเองก็ได้แต่ต้องผงะไปเล็กน้อยก่อนจะส่ายหัวออกมา “ข้า… ข้าเองก็ไม่มั่นใจ”

เฉินหยานจึงได้แต่ถามตามขึ้น “เช่นนั้นทำไมเจ้าจึงกล่าวออกมา?”

เย่หยวนจึงได้แต่ต้องยิ้มแห้งๆ รับไป “ข้าเองก็ไม่ทราบ ข้านั้นไม่ได้คิดอะไร รู้ตัวอีกครั้งปากก็พูดออกไปแล้ว”

เฉินหยานที่ได้ยินจึงต้องหรี่ตาลงก่อนจะพยักหน้าอย่างหนักแน่นพร้อมยื่นหญ้าใจหยกให้เย่หยวนไป “เจ้ามาที่ห้องหลอมโอสถของข้า เจ้าอยากใช้อยากได้อะไร เจ้าสามารถใช้ได้ไม่ต้องเกรงใจ!”

เฉินลี่นั้นยังไม่ทันจะได้กล่าวอะไรแต่ทางเฉินยองที่แบกกวางหยกหิมะไว้กลับตะโกนลั่นขัดขึ้น “ปู่หยาน! นี่มันสมุนไพรวิญญาณศักดิ์สิทธิ์เลยนะ!”

…………..

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+