Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2205 หมู่บ้านอาณาจักรพระเจ้า

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2205 หมู่บ้านอาณาจักรพระเจ้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ภายใต้สายตาที่รอคอยของคนในหมู่บ้านทั้งหลายนั้นเฉินยองและอาซิ่วก็ได้ก้าวเดินออกมาจากการเก็บตัวแทบพร้อมกัน

พร้อมด้วยคลื่นพลังจากร่างกายที่แตกต่างจากเดิมไปสิ้น!

อาณาจักรพระเจ้า!

หลังจากที่คนทั้งสองกลืนโอสถใจหยกที่เย่หยวนหลอมลงไปพวกเขาก็บรรลุขึ้นอาณาจักรพระเจ้าได้อย่างไม่ต้องลำบากลำบนใด!

ที่สำคัญไปกว่านั้นเวลานี้คนทั้งสองยังก้าวขึ้นไปถึงอาณาจักรปฐมพระเจ้าขั้นกลาง

พลังของเจ้าโอสถนี้มันทำให้คนทั้งหลายต้องอ้าปากค้างตาถลน

มีโอสถวิเศษเช่นนี้ มันยังจะต้องบ่มเพาะใดๆ อีกหรือ?

ก่อนหน้านี้เฉินยองและอาซิ่วย่อมยังยังอยู่ห่างจากอาณาจักรเต๋าลึกล้ำขั้นสุดไปมาก

แต่พริบตาเดียวพวกเขาก็ก้าวผ่านอาณาจักรพระเจ้าขึ้นมาได้

นี่มันคือสิ่งที่อยู่เหนือล้ำฟ้า แต่จู่ๆ หมู่บ้านตระกูลเฉินนี้กลับสร้างพวกเขาขึ้นมาได้ถึงสี่คน ชาวบ้านทั้งหลายย่อมจะรู้สึกราวกับตัวเองกำลังนอนหลับฝันไป

“ชิๆ อาหนิงนี่เป็นสมบัติล้ำค่าของหมู่บ้านเราเสียจริง!”

“ลุงหยาน ท่านนำพาสมบัติเข้ามาในหมู่บ้านเราโดยแท้!”

“อาหนิง ชวนเอ๋อของข้าเองก็กำลังเข้าวัยแต่งงานพอดี เจ้าช่วยรับนางไปหน่อยได้หรือไม่?”

ชาวบ้านทั้งหลายย่อมรุมล้อมเย่หยวนไว้อย่างรอบด้าน บ้างก็ดึงบ้าก็ดันจนทำให้เย่หยวนแทบหายใจไม่ออก

“เอาล่ะๆ! อาหนิงนั้นมิใช่คนที่จะมาจมอยู่ในที่แบบนี้ หมู่บ้านเราไม่อาจรั้งเขาไว้ได้หรอก!” เฉินหยานเดินเข้ามาไล่คนทั้งหลายให้ออกห่างจากตัวเย่หยวนไป

เขานั้นไม่ได้หลงไหลเรื่องราวที่เกิดขึ้นตรงหน้าจนโงหัวไม่ขึ้น การที่สามารถหลอมโอสถเช่นนี้ขึ้นมาได้มันย่อมจะเป็นเครื่องยืนยันอย่างชัดเจนว่าเย่หยวนนั้นมิใช่คนธรรมดา

มีหรือที่หมู่บ้านตระกูลเฉินน้อยๆ นี้จะรั้งยอดคนระดับเขาไว้ได้?

เฉินหยานนั้นได้แต่ต้องแอบหันไปมองดูหลานสาวอย่างสงสาร เมื่อได้เห็นดวงตาของนางในเวลานี้ตัวเขาก็ได้แต่ต้องถอนหายใจยาว

เดิมทีแล้วทุกผู้คนต่างคิดว่าอาซิ่วและอายองนั้นเป็นกิ่งทองใบหยก แต่การปรากฏตัวของเย่หยวนมันได้เปลี่ยนทุกอย่างไป

เพียงแค่ว่าแม้จะเป็นดอกไม้ที่งดงามปานใด มันก็คงไม่มีประโยชน์หากอีกฝ่ายไม่เห็นค่า!

ต่อให้เวลานี้อาซิ่วจะก้าวขึ้นมาถึงอาณาจักรพระเจ้าแล้ว แต่มันก็คงไม่อาจเทียบเคียงมาคู่เย่หยวนได้

ต่อให้เขาจะไม่เข้าใจว่าโอสถใจหยกนี้มันเหนือล้ำปานใด แต่เขาก็รู้ดีว่ามันเหนือกว่าที่ตัวเองจะจินตนาการได้!

เย่หยวนนั้นสามารถหลอมโอสถระดับนั้นออกมาได้ในสภาพที่เสียความทรงจำและไร้ซึ่งปราณเทวะใดๆ แค่นี้มันก็ชัดเจนแล้วว่าเขาเป็นคนในระดับไหน

“อายอง อาซิ่ว ทำไมยังไม่มาขอบคุณอาหนิงอีกเล่า?” เฉินหยานกล่าวขึ้น

เฉินยองนั้นได้แต่ทำหน้าไม่พอใจแต่สุดท้ายก็ยังเดินเข้ามาก้มหัวลงขอบคุณ “ขอบคุณมากอาหนิง!”

ส่วนทางอาซิ่วนั้นร้องกล่าวขึ้นอย่างตื่นเต้น “อาหนิง โอสถนี้มันวิเศษสุดๆ ไปเลย! หลังข้ากลืนมันลงไปแล้วก็ราวกับว่าการบ่มเพาะเกิดขึ้นในร่างกายอย่างไม่ต้องควบคุมใดๆ บรรลุขึ้นสู่อาณาจักรพระเจ้าในพริบตา!”

เย่หยวนได้แต่ยกมือขึ้นมาเกาหัว “อ่า มันดีขนาดนั้นเลยหรือ? ข้าเองก็ไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่!”

อาซิ่วได้แต่พยักหน้ารับ “ดีมาก! ดีสุดๆ ไปเลยล่ะ! เจ้าไม่เห็นหน้าของหลัวเซิงมันหรือ? ดูแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยซ้ำ!”

เย่หยวนได้แต่ยิ้มออกมาเพราะเมื่อคิดย้อนกลับไปมันก็คงเป็นโอสถวิเศษจริงๆ

หลังผ่านไปได้อีกหลายวันในที่สุดเฉินเจียนก็พาตัวหลัวเซิงกลับมา

ทุกผู้คนนั้นได้แต่สงสัยไม่รู้ว่าเฉินเจียนเอาอะไรกลับมาบ้าง

ต่อหน้าทุกผู้คนนี้เฉินเจียนได้หัวเราะขึ้น “ข้าต้องขอบอกเลยนะว่าเจ้าหมอนี่มันซ่อนสมบัติไว้มากมายจริงๆ! หมู่บ้านตระกูลหลัวนั้นถึงขั้นมีสวนน้อยปลูกสมุนไพรวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายไว้ภายใน ครั้งนี้ข้าจึงกวาดมาเรียบ”

เมื่อเฉินหยานได้ยินเช่นนั้นดวงตาของเขาก็เบิกกว้างขึ้นพร้อมๆ กับชาวบ้านทั้งหลาย

เพราะสิ่งที่พวกเขาต้องการที่สุดในเวลานี้มันย่อมจะเป็นสมุนไพรวิญญาณศักดิ์สิทธิ์!

ถามว่าสมุนไพรวิญญาณศักดิ์สิทธิ์นั้นมันมีค่าใด?

แค่ต้นอ่อนของหญ้าใจหยกยังสามารถสร้างยอดฝีมืออาณาจักรปฐมพระเจ้าได้ถึงสี่คน

หากมันมีสมุนไพรวิญญาณศักดิ์สิทธิ์มากกว่านั้น… อะไรจะเกิดขึ้นคงไม่ต้องถามกันอีก

ชาวบ้านทั้งหลายต่างร่ำร้องขึ้นอย่างตื่นเต้นเพราะหากสมุนไพรมีมากพอ พวกเขาเองก็อาจจะก้าวขึ้นถึงอาณาจักรพระเจ้าได้มิใช่หรือ?

โครม!

เฉินเจียนเทของที่แบกมาในแหวนลงสู่พื้นจนทำให้เฉินหยานต้องเบิกตากว้างสีหน้าราวกับได้เห็นทองคำกองอยู่ตรงหน้า

“หญ้าขาดมิติ โสมเงินแข็ง ดอกไร้ตะเข็บ… แล้วนี่มันหญ้าใจหยกอีกด้วย! ไม่นึกเลยว่าหมู่บ้านตระกูลหลัวจะเก็บของดีไว้ได้มากมายปานนี้!” เฉินหยานได้แต่ร้องขึ้นอย่างตื่นเต้น

ที่ด้านข้างนั้นทางหลัวเซิงได้แต่ต้องก้มหน้าต่ำอย่างเจ็บใจ

เพราะสมุนไพรวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายนี้มันคือสิ่งที่เขาเก็บเกี่ยวมาหลายปีคิดที่จะใช้มันกับตัวเองสิ้น

ใครจะไปคิดว่าวันหนึ่งจะถูกผู้คนแย่งชิงไปสิ้น

“อาหนิง ของพวกนี้…” เฉินหยานได้แต่หันไปมองเย่หยวนด้วยท่าทางกังวลไม่น้อย

เย่หยวนหยุดคิดไปพักหนึ่งก่อนจะตอบกลับมา “ข้าจะลองดู!”

เฉินหยานแทบจะลุกขึ้นกระโดดเมื่อได้ยินเช่นนั้นก่อนจะช่วยขนสมุนไพรวิญญาณทั้งหลายเข้าสู่ห้องหลอมไป

จากนั้นมันก็เกิดแสงเจิดจ้าขึ้นหลายครั้งติดๆ กัน

ภายในห้องหลอมนั้นใบหน้าของหลัวเซิงได้แต่แข็งค้างเมื่อเห็นการหลอมโอสถของเย่หยวนเข้า

“นี่… นี่มันปาฏิหาริย์ชัดๆ! ข้าไม่เคยจะได้ยินเลยว่ามีใครหลอมโอสถได้เช่นนี้! ไม่แปลกใจเลยจริงๆ ที่หมู่บ้านตระกูลเฉินจะสร้างนักยุทธอาณาจักรพระเจ้าขึ้นมาได้พร้อมๆ กันถึงสี่คนในคราเดียว! เจ้าหนุ่มคนนี้มันเป็นใครมาจากไหนกันแน่?” หลัวเซิงได้แต่กล่าวขึ้นอย่างตื่นตะลึง

เฉินลี่นั้นยิ้มกว้างออกมาอย่างไม่อาจหุบลงได้ “สามปีก่อนอาหนิงนั้นได้รับบาดเจ็บสาหัสมากจนลุงหยานและอาซิ่วไปเจอเขาเข้าและได้พาเขากลับมารักษา ส่วนเรื่องที่ว่าเขาเป็นใครมาจากไหนนั้นเราก็ไม่รู้ได้”

แม้ว่าจะไม่รู้แต่น้ำเสียงของเฉินลี่นั้นมันก็แฝงไปด้วยความภาคภูมิและรอยยิ้มที่ไม่อาจปกปิดได้

เพราะเขารู้ดีว่าจากวันนี้ไปหมู่บ้านตระกูลเฉินนี้คงพัฒนาไปอย่างไม่เห็นฝุ่นของวันวาน!

เมื่อได้เห็นสีหน้านั้นของเฉินลี่ทางหลัวเซิงก็ได้แต่ร่ำร้องขึ้นมาในใจ

แต่เขาก็ไม่อาจจะทำอะไรไปได้มากกว่ารู้สึกอิจฉา

‘ให้ตายสิ ทำไมข้าไม่เจอโชคเช่นนั้นบ้าง?!’ หลัวเซิงได้แต่คิดว่าอยู่ในใจ

ค่ายกลหลอมโอสถของเย่หยวนนี้มันทรงพลังอย่างมาก ในเวลาแค่ครึ่งวันนี้สมุนไพรวิญญาณทั้งหลายก็ได้ถูกแปรรูปให้กลายเป็นโอสถสิ้น

ที่สำคัญไปกว่านั้นโอสถแต่ละเม็ดนั้นยังมีคลื่นพลังสุดแสนรุนแรง ดูท่าคงมีคุณภาพระดับสูงเป็นแน่

เฉินหยาน เฉินลี่และคนทั้งหลายได้แต่ยิ้มกว้าง ด้วยโอสถทั้งหลายนี้หมู่บ้านตระกูลเฉินคงได้พลิกโฉมจากหน้ามือเป็นหลังมือแน่!

อาณาจักรเมฆานที จวนเจ้าเมือง

เวลานี้เจ้าเมืองหวงเหว่ยกำลังพูดคุยเรื่องราวกับผู้นำตระกูลใหญ่ทั้งหลายก่อนที่จู่ๆ ผู้บัญชาการของอาณาจักรเมฆานที หลี่เจ๋อก็ได้บุกเข้ามาภายในอย่างรีบร้อน

หวงเหว่ยต้องขมวดคิ้วแน่นก่อนจะถามขึ้น “เจ้าทำอะไรของเจ้า? ไม่รู้จักกฎไม่รู้จักมารยาทหรืออย่างไร?”

แต่หลี่เจ๋อกลับตอบกลับมาด้วยใบหน้าหนักแน่น “นายท่าน มันเกิดเรื่องใหญ่แล้ว! ข้าน้อยไม่กล้าจะรีรอชักช้าใดๆ อีก!”

หวงเหว่ยจึงได้กล่าวขึ้น “อาณาจักรเมฆานทีข้าแสนจะสงบสุข มันจะมีเรื่องใหญ่ใดเกิดขึ้นได้?”

หลี่เจ๋อจึงได้ตอบกลับไป “นายท่าน จู่ๆ มันก็เกิดหมู่บ้านอาณาจักรพระเจ้าขึ้นในอาณาจักรเมฆานทีเรา! ภายในคืนเดียวคนหมู่บ้านตระกูลเฉินทั้งร้อยยี่สิบเอ็ดคนกลับบรรลุขึ้นอาณาจักรพระเจ้าพร้อมๆ กัน!”

“เจ้าว่าอย่างไรนะ?” เมื่อหวงเหว่ยได้ยินเขาก็รีบลึกขึ้นมาพร้อมถามอย่างไม่อยากเชื่อหู

“คืนเดียว? เจ้าบ้าแล้ว! คนในหมู่บ้านนั้นคงไม่ได้บอกว่าถูกสวรรค์เลือกหรืออะไรหรอกใช่ไหม?”

“ผู้บัญชาการหลี่ อาหารนั้นกินลงไปได้ง่ายๆ แต่คำพูดจะกลืนลงไปง่ายๆ ไม่ได้! ต่อให้จะเป็นเหล่าจอมเทพโอสถสามดาวจากเมืองหลวงทั้งหลายเองก็คงไม่อาจจะสร้างอาณาจักรพระเจ้าขึ้นมานับร้อยได้ในเวลาชั่วข้ามคืน”

เมื่อเหล่าผู้นำตระกูลใหญ่ทั้งหลายได้ยินพวกเขาย่อมจะไม่คิดอยากเชื่อจึงได้แต่ต้องว่ากล่าวตักเตือนหลี่เจ๋อออกมา

แต่หลี่เจ๋อกลับยังคงยืนยัน “นายท่าน ข้าน้อยนั้นมีนายทหารลูกน้องที่เป็นคนจากหมู่บ้านตระกูลหลัวใกล้ๆ หมู่บ้านตระกูลเฉินที่ว่านี้ วันก่อนเขาได้กลับไปเยี่ยมบ้านเกิดและนำเรื่องราวนี้กลับมาเล่าให้ฟัง! ทีแรกข้าน้อยก็ย่อมไม่คิดเชื่อจึงได้ออกเดินทางไปดูให้เห็นกับตาตนเอง แต่มันกลับกลายเป็นเรื่องจริง!”

นั่นทำให้ทุกผู้คนต้องอ้าปากค้างไปตามๆ กัน

หากหลี่เจ๋อเดินทางออกไปและได้เห็นมันกับตา มันย่อมจะมิใช่เรื่องราวที่ผิดพลาดไปได้

แต่ไม่ว่าจะอย่างไรเรื่องราวนี้มันก็น่าเหลือเชื่อจนเกินไป!

……………………….

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2205 หมู่บ้านอาณาจักรพระเจ้า

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2205 หมู่บ้านอาณาจักรพระเจ้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ภายใต้สายตาที่รอคอยของคนในหมู่บ้านทั้งหลายนั้นเฉินยองและอาซิ่วก็ได้ก้าวเดินออกมาจากการเก็บตัวแทบพร้อมกัน

พร้อมด้วยคลื่นพลังจากร่างกายที่แตกต่างจากเดิมไปสิ้น!

อาณาจักรพระเจ้า!

หลังจากที่คนทั้งสองกลืนโอสถใจหยกที่เย่หยวนหลอมลงไปพวกเขาก็บรรลุขึ้นอาณาจักรพระเจ้าได้อย่างไม่ต้องลำบากลำบนใด!

ที่สำคัญไปกว่านั้นเวลานี้คนทั้งสองยังก้าวขึ้นไปถึงอาณาจักรปฐมพระเจ้าขั้นกลาง

พลังของเจ้าโอสถนี้มันทำให้คนทั้งหลายต้องอ้าปากค้างตาถลน

มีโอสถวิเศษเช่นนี้ มันยังจะต้องบ่มเพาะใดๆ อีกหรือ?

ก่อนหน้านี้เฉินยองและอาซิ่วย่อมยังยังอยู่ห่างจากอาณาจักรเต๋าลึกล้ำขั้นสุดไปมาก

แต่พริบตาเดียวพวกเขาก็ก้าวผ่านอาณาจักรพระเจ้าขึ้นมาได้

นี่มันคือสิ่งที่อยู่เหนือล้ำฟ้า แต่จู่ๆ หมู่บ้านตระกูลเฉินนี้กลับสร้างพวกเขาขึ้นมาได้ถึงสี่คน ชาวบ้านทั้งหลายย่อมจะรู้สึกราวกับตัวเองกำลังนอนหลับฝันไป

“ชิๆ อาหนิงนี่เป็นสมบัติล้ำค่าของหมู่บ้านเราเสียจริง!”

“ลุงหยาน ท่านนำพาสมบัติเข้ามาในหมู่บ้านเราโดยแท้!”

“อาหนิง ชวนเอ๋อของข้าเองก็กำลังเข้าวัยแต่งงานพอดี เจ้าช่วยรับนางไปหน่อยได้หรือไม่?”

ชาวบ้านทั้งหลายย่อมรุมล้อมเย่หยวนไว้อย่างรอบด้าน บ้างก็ดึงบ้าก็ดันจนทำให้เย่หยวนแทบหายใจไม่ออก

“เอาล่ะๆ! อาหนิงนั้นมิใช่คนที่จะมาจมอยู่ในที่แบบนี้ หมู่บ้านเราไม่อาจรั้งเขาไว้ได้หรอก!” เฉินหยานเดินเข้ามาไล่คนทั้งหลายให้ออกห่างจากตัวเย่หยวนไป

เขานั้นไม่ได้หลงไหลเรื่องราวที่เกิดขึ้นตรงหน้าจนโงหัวไม่ขึ้น การที่สามารถหลอมโอสถเช่นนี้ขึ้นมาได้มันย่อมจะเป็นเครื่องยืนยันอย่างชัดเจนว่าเย่หยวนนั้นมิใช่คนธรรมดา

มีหรือที่หมู่บ้านตระกูลเฉินน้อยๆ นี้จะรั้งยอดคนระดับเขาไว้ได้?

เฉินหยานนั้นได้แต่ต้องแอบหันไปมองดูหลานสาวอย่างสงสาร เมื่อได้เห็นดวงตาของนางในเวลานี้ตัวเขาก็ได้แต่ต้องถอนหายใจยาว

เดิมทีแล้วทุกผู้คนต่างคิดว่าอาซิ่วและอายองนั้นเป็นกิ่งทองใบหยก แต่การปรากฏตัวของเย่หยวนมันได้เปลี่ยนทุกอย่างไป

เพียงแค่ว่าแม้จะเป็นดอกไม้ที่งดงามปานใด มันก็คงไม่มีประโยชน์หากอีกฝ่ายไม่เห็นค่า!

ต่อให้เวลานี้อาซิ่วจะก้าวขึ้นมาถึงอาณาจักรพระเจ้าแล้ว แต่มันก็คงไม่อาจเทียบเคียงมาคู่เย่หยวนได้

ต่อให้เขาจะไม่เข้าใจว่าโอสถใจหยกนี้มันเหนือล้ำปานใด แต่เขาก็รู้ดีว่ามันเหนือกว่าที่ตัวเองจะจินตนาการได้!

เย่หยวนนั้นสามารถหลอมโอสถระดับนั้นออกมาได้ในสภาพที่เสียความทรงจำและไร้ซึ่งปราณเทวะใดๆ แค่นี้มันก็ชัดเจนแล้วว่าเขาเป็นคนในระดับไหน

“อายอง อาซิ่ว ทำไมยังไม่มาขอบคุณอาหนิงอีกเล่า?” เฉินหยานกล่าวขึ้น

เฉินยองนั้นได้แต่ทำหน้าไม่พอใจแต่สุดท้ายก็ยังเดินเข้ามาก้มหัวลงขอบคุณ “ขอบคุณมากอาหนิง!”

ส่วนทางอาซิ่วนั้นร้องกล่าวขึ้นอย่างตื่นเต้น “อาหนิง โอสถนี้มันวิเศษสุดๆ ไปเลย! หลังข้ากลืนมันลงไปแล้วก็ราวกับว่าการบ่มเพาะเกิดขึ้นในร่างกายอย่างไม่ต้องควบคุมใดๆ บรรลุขึ้นสู่อาณาจักรพระเจ้าในพริบตา!”

เย่หยวนได้แต่ยกมือขึ้นมาเกาหัว “อ่า มันดีขนาดนั้นเลยหรือ? ข้าเองก็ไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่!”

อาซิ่วได้แต่พยักหน้ารับ “ดีมาก! ดีสุดๆ ไปเลยล่ะ! เจ้าไม่เห็นหน้าของหลัวเซิงมันหรือ? ดูแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยซ้ำ!”

เย่หยวนได้แต่ยิ้มออกมาเพราะเมื่อคิดย้อนกลับไปมันก็คงเป็นโอสถวิเศษจริงๆ

หลังผ่านไปได้อีกหลายวันในที่สุดเฉินเจียนก็พาตัวหลัวเซิงกลับมา

ทุกผู้คนนั้นได้แต่สงสัยไม่รู้ว่าเฉินเจียนเอาอะไรกลับมาบ้าง

ต่อหน้าทุกผู้คนนี้เฉินเจียนได้หัวเราะขึ้น “ข้าต้องขอบอกเลยนะว่าเจ้าหมอนี่มันซ่อนสมบัติไว้มากมายจริงๆ! หมู่บ้านตระกูลหลัวนั้นถึงขั้นมีสวนน้อยปลูกสมุนไพรวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายไว้ภายใน ครั้งนี้ข้าจึงกวาดมาเรียบ”

เมื่อเฉินหยานได้ยินเช่นนั้นดวงตาของเขาก็เบิกกว้างขึ้นพร้อมๆ กับชาวบ้านทั้งหลาย

เพราะสิ่งที่พวกเขาต้องการที่สุดในเวลานี้มันย่อมจะเป็นสมุนไพรวิญญาณศักดิ์สิทธิ์!

ถามว่าสมุนไพรวิญญาณศักดิ์สิทธิ์นั้นมันมีค่าใด?

แค่ต้นอ่อนของหญ้าใจหยกยังสามารถสร้างยอดฝีมืออาณาจักรปฐมพระเจ้าได้ถึงสี่คน

หากมันมีสมุนไพรวิญญาณศักดิ์สิทธิ์มากกว่านั้น… อะไรจะเกิดขึ้นคงไม่ต้องถามกันอีก

ชาวบ้านทั้งหลายต่างร่ำร้องขึ้นอย่างตื่นเต้นเพราะหากสมุนไพรมีมากพอ พวกเขาเองก็อาจจะก้าวขึ้นถึงอาณาจักรพระเจ้าได้มิใช่หรือ?

โครม!

เฉินเจียนเทของที่แบกมาในแหวนลงสู่พื้นจนทำให้เฉินหยานต้องเบิกตากว้างสีหน้าราวกับได้เห็นทองคำกองอยู่ตรงหน้า

“หญ้าขาดมิติ โสมเงินแข็ง ดอกไร้ตะเข็บ… แล้วนี่มันหญ้าใจหยกอีกด้วย! ไม่นึกเลยว่าหมู่บ้านตระกูลหลัวจะเก็บของดีไว้ได้มากมายปานนี้!” เฉินหยานได้แต่ร้องขึ้นอย่างตื่นเต้น

ที่ด้านข้างนั้นทางหลัวเซิงได้แต่ต้องก้มหน้าต่ำอย่างเจ็บใจ

เพราะสมุนไพรวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายนี้มันคือสิ่งที่เขาเก็บเกี่ยวมาหลายปีคิดที่จะใช้มันกับตัวเองสิ้น

ใครจะไปคิดว่าวันหนึ่งจะถูกผู้คนแย่งชิงไปสิ้น

“อาหนิง ของพวกนี้…” เฉินหยานได้แต่หันไปมองเย่หยวนด้วยท่าทางกังวลไม่น้อย

เย่หยวนหยุดคิดไปพักหนึ่งก่อนจะตอบกลับมา “ข้าจะลองดู!”

เฉินหยานแทบจะลุกขึ้นกระโดดเมื่อได้ยินเช่นนั้นก่อนจะช่วยขนสมุนไพรวิญญาณทั้งหลายเข้าสู่ห้องหลอมไป

จากนั้นมันก็เกิดแสงเจิดจ้าขึ้นหลายครั้งติดๆ กัน

ภายในห้องหลอมนั้นใบหน้าของหลัวเซิงได้แต่แข็งค้างเมื่อเห็นการหลอมโอสถของเย่หยวนเข้า

“นี่… นี่มันปาฏิหาริย์ชัดๆ! ข้าไม่เคยจะได้ยินเลยว่ามีใครหลอมโอสถได้เช่นนี้! ไม่แปลกใจเลยจริงๆ ที่หมู่บ้านตระกูลเฉินจะสร้างนักยุทธอาณาจักรพระเจ้าขึ้นมาได้พร้อมๆ กันถึงสี่คนในคราเดียว! เจ้าหนุ่มคนนี้มันเป็นใครมาจากไหนกันแน่?” หลัวเซิงได้แต่กล่าวขึ้นอย่างตื่นตะลึง

เฉินลี่นั้นยิ้มกว้างออกมาอย่างไม่อาจหุบลงได้ “สามปีก่อนอาหนิงนั้นได้รับบาดเจ็บสาหัสมากจนลุงหยานและอาซิ่วไปเจอเขาเข้าและได้พาเขากลับมารักษา ส่วนเรื่องที่ว่าเขาเป็นใครมาจากไหนนั้นเราก็ไม่รู้ได้”

แม้ว่าจะไม่รู้แต่น้ำเสียงของเฉินลี่นั้นมันก็แฝงไปด้วยความภาคภูมิและรอยยิ้มที่ไม่อาจปกปิดได้

เพราะเขารู้ดีว่าจากวันนี้ไปหมู่บ้านตระกูลเฉินนี้คงพัฒนาไปอย่างไม่เห็นฝุ่นของวันวาน!

เมื่อได้เห็นสีหน้านั้นของเฉินลี่ทางหลัวเซิงก็ได้แต่ร่ำร้องขึ้นมาในใจ

แต่เขาก็ไม่อาจจะทำอะไรไปได้มากกว่ารู้สึกอิจฉา

‘ให้ตายสิ ทำไมข้าไม่เจอโชคเช่นนั้นบ้าง?!’ หลัวเซิงได้แต่คิดว่าอยู่ในใจ

ค่ายกลหลอมโอสถของเย่หยวนนี้มันทรงพลังอย่างมาก ในเวลาแค่ครึ่งวันนี้สมุนไพรวิญญาณทั้งหลายก็ได้ถูกแปรรูปให้กลายเป็นโอสถสิ้น

ที่สำคัญไปกว่านั้นโอสถแต่ละเม็ดนั้นยังมีคลื่นพลังสุดแสนรุนแรง ดูท่าคงมีคุณภาพระดับสูงเป็นแน่

เฉินหยาน เฉินลี่และคนทั้งหลายได้แต่ยิ้มกว้าง ด้วยโอสถทั้งหลายนี้หมู่บ้านตระกูลเฉินคงได้พลิกโฉมจากหน้ามือเป็นหลังมือแน่!

อาณาจักรเมฆานที จวนเจ้าเมือง

เวลานี้เจ้าเมืองหวงเหว่ยกำลังพูดคุยเรื่องราวกับผู้นำตระกูลใหญ่ทั้งหลายก่อนที่จู่ๆ ผู้บัญชาการของอาณาจักรเมฆานที หลี่เจ๋อก็ได้บุกเข้ามาภายในอย่างรีบร้อน

หวงเหว่ยต้องขมวดคิ้วแน่นก่อนจะถามขึ้น “เจ้าทำอะไรของเจ้า? ไม่รู้จักกฎไม่รู้จักมารยาทหรืออย่างไร?”

แต่หลี่เจ๋อกลับตอบกลับมาด้วยใบหน้าหนักแน่น “นายท่าน มันเกิดเรื่องใหญ่แล้ว! ข้าน้อยไม่กล้าจะรีรอชักช้าใดๆ อีก!”

หวงเหว่ยจึงได้กล่าวขึ้น “อาณาจักรเมฆานทีข้าแสนจะสงบสุข มันจะมีเรื่องใหญ่ใดเกิดขึ้นได้?”

หลี่เจ๋อจึงได้ตอบกลับไป “นายท่าน จู่ๆ มันก็เกิดหมู่บ้านอาณาจักรพระเจ้าขึ้นในอาณาจักรเมฆานทีเรา! ภายในคืนเดียวคนหมู่บ้านตระกูลเฉินทั้งร้อยยี่สิบเอ็ดคนกลับบรรลุขึ้นอาณาจักรพระเจ้าพร้อมๆ กัน!”

“เจ้าว่าอย่างไรนะ?” เมื่อหวงเหว่ยได้ยินเขาก็รีบลึกขึ้นมาพร้อมถามอย่างไม่อยากเชื่อหู

“คืนเดียว? เจ้าบ้าแล้ว! คนในหมู่บ้านนั้นคงไม่ได้บอกว่าถูกสวรรค์เลือกหรืออะไรหรอกใช่ไหม?”

“ผู้บัญชาการหลี่ อาหารนั้นกินลงไปได้ง่ายๆ แต่คำพูดจะกลืนลงไปง่ายๆ ไม่ได้! ต่อให้จะเป็นเหล่าจอมเทพโอสถสามดาวจากเมืองหลวงทั้งหลายเองก็คงไม่อาจจะสร้างอาณาจักรพระเจ้าขึ้นมานับร้อยได้ในเวลาชั่วข้ามคืน”

เมื่อเหล่าผู้นำตระกูลใหญ่ทั้งหลายได้ยินพวกเขาย่อมจะไม่คิดอยากเชื่อจึงได้แต่ต้องว่ากล่าวตักเตือนหลี่เจ๋อออกมา

แต่หลี่เจ๋อกลับยังคงยืนยัน “นายท่าน ข้าน้อยนั้นมีนายทหารลูกน้องที่เป็นคนจากหมู่บ้านตระกูลหลัวใกล้ๆ หมู่บ้านตระกูลเฉินที่ว่านี้ วันก่อนเขาได้กลับไปเยี่ยมบ้านเกิดและนำเรื่องราวนี้กลับมาเล่าให้ฟัง! ทีแรกข้าน้อยก็ย่อมไม่คิดเชื่อจึงได้ออกเดินทางไปดูให้เห็นกับตาตนเอง แต่มันกลับกลายเป็นเรื่องจริง!”

นั่นทำให้ทุกผู้คนต้องอ้าปากค้างไปตามๆ กัน

หากหลี่เจ๋อเดินทางออกไปและได้เห็นมันกับตา มันย่อมจะมิใช่เรื่องราวที่ผิดพลาดไปได้

แต่ไม่ว่าจะอย่างไรเรื่องราวนี้มันก็น่าเหลือเชื่อจนเกินไป!

……………………….

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+