Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2212 จะยังดื้อรั้นไปเพื่อการใด?

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2212 จะยังดื้อรั้นไปเพื่อการใด? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ท่ามกลางสายตาของคนทั้งหลายนั้นหยุนยี่ค่อยๆ ก้าวเดินออกมา

เทพสวรรค์ดันหยู่ที่เห็นก็ยิ้มออกมาพร้อมพยักหน้ารับ “ยี่เอ๋อ เทพสวรรค์ผู้นี้รู้ว่าหลายปีมานี้เจ้าคงลำบากไม่น้อย! ในคนทั้งยอดเมืองหลวงจักรพรรดิโอสถเมฆานั้นมันมีแค่เจ้าเท่านั้นที่เหมาะสมจะสืบต่อตำแหน่งของข้า วันหน้าเจ้าจะต้องขึ้นมาเป็นผู้นำของยอดเมืองหลวงจักรพรรดิโอสถเมฆา!”

เขานั้นพึงพอใจกับเหลนคนนี้มาก เพราะนอกจากจะมีพรสวรรค์เหนือล้ำฟ้าดินแล้วเขายังสามารถเอาชนะความเชื่อใจจากเย่หยวนผู้นั้นมาได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่ทำการทดสอบนั้น เขากลับทำใจหนักแน่นไม่จากไปไหนทำให้เทพสวรรค์ดันหยู่ต้องตกตะลึงในความคิดของเขามากขึ้นกว่าเก่า

เขานั้นมีทั้งนิสัยที่หนักแน่น พรสวรรค์ที่มากมาย เป็นผู้เหมาะสมจะรับตำแหน่งต่อจากเขาอย่างมาก

หยุนยี่ได้แต่มองดูที่เทพสวรรค์ดันหยู่ด้วยสีหน้ากังวล ลังเลอย่างไม่อาจพูดกล่าวใดๆ ออกมาได้

เมื่อเทพสวรรค์ดันหยู่เห็นถึงความผิดปกตินี้เขาก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแน่นถามขึ้น “ยี่เอ๋อ ทำไมยังไม่มาอีก?”

หยุนยี่จึงได้แต่ต้องหายใจสูดเข้าลึกและคุกเข่าลงจรดพื้น “ท่านทวด ท่านจะช่วยปล่อยให้เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์รอดพ่นไปได้หรือไม่? ถือว่าเห็นแก่หน้ายี่เอ๋อคนนี้?”

เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวสีหน้าของคนทั้งหลายที่ติดตามดันหยู่มาก็เปลี่ยนสีทันที

เจข้าหมอนี่บ้าไปแล้ว?

นี่มันคือทวดของตัวเองเชียวนะ!

เทพสวรรค์ดันหยู่นั้นขมวดคิ้วแน่นร้องออกมา “ยี่เอ๋อ เจ้าเข้าใจความหมายของคำที่ตนกล่าวออกมาหรือไม่?”

หยุนยี่จึงพยักหน้ารับ “บุญคุณของอาจารย์ท่านนั้นมากล้นดั่งขุนเขา เขานั้นสอนสั่งการหลอมโอสถให้ข้าเข้าใจถึงแก่น ชี้นำอนาคตอันสดใส! หลายร้อยปีมานี้ยี่เอ๋อราวกับได้เกิดขึ้นมาเป็นคนใหม่! ต่อหน้าบุญคุณที่มากล้นเช่นนั้นยี่เอ๋อคงไม่อาจจะทรยศอาจารย์ลงได้โดยไม่ช่วยเหลือใดๆ เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์!”

คำพูดของหยุนยี่นี้มันถูกกล่าวออกมาจากใจ

เป็นตอนที่เขาได้เริ่มมายังหอโอสถนี้เองที่ตัวเขาได้เริ่มเข้าใจความหมายของเต๋าโอสถอย่างแท้จริง!

หลายร้อยปีมานี้เขาเหมือนกับได้เกิดใหม่อย่างแท้จริง

สภาพของหยุนยี่ในเวลานี้มันแตกต่างจากหยุนยี่ในสมัยก่อนอย่างไม่อาจเทียบ

ที่สำคัญไปกว่านั้นเย่หยวนยังสั่งสอนให้อย่างเต็มที่ไม่ปิดบัง ราวกับที่คนอื่นๆ สอนศิษย์เอกของตน สอนทุกความรู้ที่มีในการหลอมโอสถออกมา

เป็นอาจารย์ที่ราวกับพ่อ!

ในหัวใจของหยุนยี่นั้นเขาได้ยอมรับนับถือตัวเย่หยวนอยู่เหนือหัว วางตัวตนของเย่หยวนไว้เป็นดั่งเต๋าที่ต้องเดินตาม… เป็นดั่งพระเจ้าที่เขานับถือ

หากจะให้เขาต้องทรยศเย่หยวนแล้ว ต่อให้ต้องตายเขาก็คงไม่อาจทำลง!

“เจ้าเด็กไม่รักดี! เจ้าลืมกำพืดของเจ้าไปแล้วหรือ?” เทพสวรรค์ดันหยู่ตวาด

หยุนยี่ทำเช่นนี้มันย่อมจะทำให้เขาขายหน้าต่อหน้าผู้คนอย่างมากล้น

เหลนของตนกลับเลือกจะไปยืนข้างศัตรูอย่างหนักแน่นเช่นนั้น

หยุนยี่เองก็ร้องบอกมาด้วยสีหน้าหนักแน่น “ท่านทวด หยุนยี่นี้ไม่กล้าลืมกำพืดตนเองแน่! แต่เหมือนดั่งที่ตอนนั้นอาจารย์บอกให้ยี่เอ๋อทรยศท่านทวด ทรยศยอดเมืองหลวงจักรพรรดิโอสถเมฆา เวลานี้หากจะบอกให้หยุนยี่ทรยศเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์แล้ว หยุนยี่เองก็คงไม่อาจทำได้! ท่านทวดถือว่าเห็นแก่หน้าข้าโปรดแสดงความเมตตาด้วยเถอะ”

เทพสวรรค์ดันหยู่จึงร้องลั่น “หากข้าบอกว่าไม่เล่า?”

หยุนยี่นั่นย่อมจะรู้ดีว่าสุดท้ายมันคงจบลงที่คำพูดนี้ เขาจึงตอบกลับมาด้วยใบหน้าเตรียมใจพร้อม “เช่นนั้นยี่เอ๋อก็คงทำได้แต่ตายไปกับเมืองอินทรีสวรรค์นี้!”

พูดจบเขาก็เดินเข้ากลับเข้าไปยืนข้างไป๋ตงอีกครา

“ดี! ดี! ดี! ใครจะไปคิดว่าข้า ดันหยู่ ฉลาดมาทั้งชีวิตกลับมาเลี้ยงดูเหลนไม่รักดีเช่นนี้ขึ้นมาได้! ช่างเถอะ! ข้าจะถือว่าเจ้าไม่เคยได้กำเนิดขึ้นมาแล้วกัน!”

การที่เทพสวรรค์ดันหยู่กล่าวคำว่า ‘ดี’ ออกมาถึงสามครั้งนี้มันย่อมแสดงถึงความไม่พอใจที่มีอย่างมหาศาล

ดวงตาของเขาหรี่เล็กลงพร้อมหันไปบอกคนทั้งหลายในเมือง “ชาวเมืองทั้งหลายจงฟัง! เทพสวรรค์ผู้นี้มาเพื่อที่จะสะสางความแค้นแก่เจ้าเด็กเย่หยวน! ใครที่คิดว่าตัวเองเป็นหมารับใช้ของมันก็จงอยู่และตายไปพร้อมๆ กันเสีย! แต่เทพสวรรค์ผู้นี้เองก็มิใช่คนโหดเหี้ยม ไม่คิดฆ่าสังหารคนไม่รู้เรื่องราวใด เวลานี้หากพวกเจ้าก้าวออกมายอมจำนน เทพสวรรค์ผู้นี้จะไว้ชีวิตไว้ให้! และหากใครอยากไปอยู่ที่ยอดเมืองหลวงจักรพรรดิโอสถเมฆาแทนข้าก็พร้อมต้อนรับ!”

การแก้แค้นก็เรื่องหนึ่ง แต่สิ่งที่เทพสวรรค์ดันหยู่ต้องการนั้นคือสูตรโอสถนั้น!

สูตรโอสถที่จะพลิกอนาคตของพันธมิตรแดนใต้

เวลานี้แดนใต้ทั้งหลายนั้นอยู่ใต้อิทธิพลการค้าของหอมหาสมบัติสิ้น แน่นอนว่ากำไรที่พวกเขาได้มันย่อมล้นฟ้าดิน

แต่ด้วยสูตรโอสถนี้ ทุกสิ่งอย่างมันจะพลิกกลับได้!

และอีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจก็คือโอสถที่เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นี้หลอมขึ้นมันจะมีคุณภาพสูงกว่าที่ใดๆ เสมอ!

เรื่องนั้นมันหมายถึงสิ่งใด?

มันย่อมหมายถึงว่านักหลอมโอสถแห่งเมืองอินทรีสวรรค์นี้เก่งกาจกว่าชาวบ้าน!

หอโอสถแห่งเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นั้นเป็นศูนย์กลางของดินแดน มีมาตรฐานและฝีมือเหนือล้ำนักหลอมโอสถจากที่อื่นๆ ชัดเจน

และยอดคนมากมายปานนั้น ฆ่าสังหารไปมันก็มีแต่จะเสียของเปล่า

เพราะสิ่งที่เทพสวรรค์ดันหยู่ต้องการนั้นคือผลประโยชน์ มิใช่แค่การหลั่งเลือดอย่างไร้เหตุผล

เพราะฉะนั้นเขาจึงได้พยายามดึงตัวนักหลอมโอสถทั้งหลายก่อนที่จะทำลายเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ลง

ด้วยกำลังของพันธมิตรแดนใต้นั้นเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์มันได้กลายเป็นแค่กองไข่แสนเปราะบาง

ตัวดันหยู่จึงมั่นใจมากว่านักหลอมโอสถของเมืองนี้จะต้องรับโอกาสนี้ไว้

หนึ่งชั่วอึดใจ

สามชั่วอีดใจ

สิบชั่วอึดใจ

ไม่มีใครออกมา!

ไม่แม้แต่คนเดียว!

ดันหยู่ได้แต่ต้องขมวดคิ้วแน่นอย่างไม่อยากเชื่อสายตา “พวกเจ้าวางใจเถอะ ด้วยกำลังของเทพสวรรค์ผู้นี้แล้วคนเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์น้อยๆ นี้ย่อมไม่อาจจะทำอันตรายพวกเจ้าได้!”

พันธมิตรแดนใต้นั้นมียอดฝีมือกองกำลังยิ่งใหญ่ ตัวดันหยู่เองก็เป็นถึงยอดฝีมือเทพสวรรค์เก้าดาว

การต่อสู้นี้มันย่อมจะไม่มีการขัดขืนใดๆ เกิดขึ้นได้

แต่มันก็ยังไม่มีใครก้าวออกมา

“เทพสวรรค์ดันหยู่ พอเถอะ! มันไม่มีใครจะไปกับเจ้าหรอก! เรานั้นยอมตายไปพร้อมๆ กับเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นี้สิ้น!”

“เลิกวางท่าเอาใจผู้คนเถอะ! ใครๆ ก็รู้ว่าเจ้าแค่อยากได้สูตรโอสถ! ทำหน้าตาท่าทางแบบนั้นออกมาเจ้าไม่อาจพ่อแม่เจ้าบ้างหรือ?”

“เลิกฝันหวานเถอะ! ต่อให้เราจะตายเราก็จะเก็บสูตรโอสถทั้งหลายเป็นความลับลงโลงไปด้วยกัน! หากเจ้ามีปัญญาจริงก็ไปถามหามันจากหอมหาสมบัติหรือเจ็ดตระกูลเอาเถอะ!”

เกิดเสียงโห่ร้องดังขึ้นตามๆ กัน

เหล่านักยุทธและนักหลอมโอสถภายในเมืองนั้นต่างด่าว่าความหน้าด้านนี้ของเทพสวรรค์ดันหยู่

เทพสวรรค์ดันหยู่ที่ได้ยินก็หน้าแดงก่ำขึ้นมาด้วยความอับอาย แต่จิตใจของเขานั้นมีแต่ความตกตะลึงอย่างเหนือล้น

หรือว่าคนเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นี้มันจะมีแต่พวกบ้าไม่กลัวตายกัน?

บนมหาพิภพถงเทียนมันมีที่เช่นนี้ด้วยหรือ?

ทำไมกัน?

ทำไมพวกมันทั้งหลายนี้ถึงคิดยอมตายไม่ยอมแพ้?

เมื่อได้ยินเสียงด่าทอทั้งหลายนั้นเหล่ายอดฝีมือจากพันธมิตรแดนใต้ต่างก็ต้องเบิกตากว้างขึ้นตามๆ กัน

“จ-เจ้าพวกนี้มันบ้าไปแล้วหรือ? หรือว่าพวกมันจะไม่รู้จักคำว่าตาย?”

“เมืองอินทรีสวรรค์นี้มันเป็นบ้าอะไรกันแน่? ทำไมพวกมันดูราวกับคนคลั่งเช่นนี้?”

“มันไม่มีใครแม้สักคนที่ยอมแพ้! นี่มัน… เป็นไปได้ด้วยหรือ?”

พวกเขาทั้งหลายนั้นย่อมไม่รู้เลยว่ากว่าที่เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์จะรวมเป็นหนึ่งได้เช่นนี้ เย่หยวนต้องเสี่ยงชีวิตปกป้องผู้คนไว้มากมายปานใด

มีเพียงความจริงใจเท่านั้นที่จะเอาชนะใจคนได้

สายสัมพันธ์ที่ก่อขึ้นบนผลประโยชน์ มันก็ย่อมจบลงได้ด้วยผลประโยชน์

ไป๋ตงนั้นจ้องมองดูดันหยู่ด้วยสีหน้าเย้ยหยัน “เลิกวางท่าเสียทีเถอะ! เย่หยวนนั้นมันมีความสามารถมากมายกว่าที่เจ้าจะเข้าใจได้ ต่อให้จะเหลือเพียงแค่ตัวคนเดียว คนเมืองนี้ก็จะปกป้องเมืองนี้อย่างสุดชีวิตไม่คิดยอมแพ้ วิธีการของเจ้านั้นมันไม่มีทางจะได้สูตรโอสถเราไปหรอก คิดใช้วิธีโง่ๆ เช่นนี้กับเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นั้นมันจะได้แต่คำเย้ยหยันเท่านั้นแหละ”

เทพสวรรค์ดันหยู่นั้นโกรธจนหน้าสั่น ไม่นึกไม่ฝันว่าผลลัพธ์ที่ออกมามันจะผิดคาดไปได้ปานนี้

เขานั้นนึกไปเสียว่าเมื่อเอากองกำลังมาประชิด ไม่ต้องต่อสู้ใดๆ เรื่องราวมันก็คงจบลงได้ เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์คงแตกสลายลงไปด้วยตัวเอง

ใครจะไปคิดว่าคนทั้งหลายในเมืองนี้มันกลับเป็นคนบ้าไม่กลัวตาย

ไม่มีใครหนี!

ไม่มีใครยอมจำนน!

เจ้าเย่หยวนนั้นมันใช้ยาวิเศษใดในการสร้างเมืองเช่นนี้ขึ้นมากันแน่?

เขานั้นตายไปแล้วแท้ๆ คนทั้งหลายนี้จะยังดื้อด้านไปเพื่อเหตุผลใด?

สุดท้ายเขาจึงได้แต่ต้องกัดฟันแน่นร้องสั่ง “เช่นนั้นก็ดี! หากเป็นเช่นนั้นแล้วพวกเจ้าทั้งหลายก็ไปตายเสียเถอะ! เทพสวรรค์ผู้นี้อยากจะรู้จริงๆ ว่าเมืองนี้มันจะอวดเก่งไปได้ถึงตอนไหน!”

พูดจบเขาก็ยกมือขึ้นส่งสัญญาณให้เทพสวรรค์นับร้อยและเทพถ่องแท้นับไม่ถ้วนพุ่งตัวลงไปยังเมืองอย่างบ้าคลั่ง

…………………….

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2212 จะยังดื้อรั้นไปเพื่อการใด?

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2212 จะยังดื้อรั้นไปเพื่อการใด? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ท่ามกลางสายตาของคนทั้งหลายนั้นหยุนยี่ค่อยๆ ก้าวเดินออกมา

เทพสวรรค์ดันหยู่ที่เห็นก็ยิ้มออกมาพร้อมพยักหน้ารับ “ยี่เอ๋อ เทพสวรรค์ผู้นี้รู้ว่าหลายปีมานี้เจ้าคงลำบากไม่น้อย! ในคนทั้งยอดเมืองหลวงจักรพรรดิโอสถเมฆานั้นมันมีแค่เจ้าเท่านั้นที่เหมาะสมจะสืบต่อตำแหน่งของข้า วันหน้าเจ้าจะต้องขึ้นมาเป็นผู้นำของยอดเมืองหลวงจักรพรรดิโอสถเมฆา!”

เขานั้นพึงพอใจกับเหลนคนนี้มาก เพราะนอกจากจะมีพรสวรรค์เหนือล้ำฟ้าดินแล้วเขายังสามารถเอาชนะความเชื่อใจจากเย่หยวนผู้นั้นมาได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่ทำการทดสอบนั้น เขากลับทำใจหนักแน่นไม่จากไปไหนทำให้เทพสวรรค์ดันหยู่ต้องตกตะลึงในความคิดของเขามากขึ้นกว่าเก่า

เขานั้นมีทั้งนิสัยที่หนักแน่น พรสวรรค์ที่มากมาย เป็นผู้เหมาะสมจะรับตำแหน่งต่อจากเขาอย่างมาก

หยุนยี่ได้แต่มองดูที่เทพสวรรค์ดันหยู่ด้วยสีหน้ากังวล ลังเลอย่างไม่อาจพูดกล่าวใดๆ ออกมาได้

เมื่อเทพสวรรค์ดันหยู่เห็นถึงความผิดปกตินี้เขาก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแน่นถามขึ้น “ยี่เอ๋อ ทำไมยังไม่มาอีก?”

หยุนยี่จึงได้แต่ต้องหายใจสูดเข้าลึกและคุกเข่าลงจรดพื้น “ท่านทวด ท่านจะช่วยปล่อยให้เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์รอดพ่นไปได้หรือไม่? ถือว่าเห็นแก่หน้ายี่เอ๋อคนนี้?”

เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวสีหน้าของคนทั้งหลายที่ติดตามดันหยู่มาก็เปลี่ยนสีทันที

เจข้าหมอนี่บ้าไปแล้ว?

นี่มันคือทวดของตัวเองเชียวนะ!

เทพสวรรค์ดันหยู่นั้นขมวดคิ้วแน่นร้องออกมา “ยี่เอ๋อ เจ้าเข้าใจความหมายของคำที่ตนกล่าวออกมาหรือไม่?”

หยุนยี่จึงพยักหน้ารับ “บุญคุณของอาจารย์ท่านนั้นมากล้นดั่งขุนเขา เขานั้นสอนสั่งการหลอมโอสถให้ข้าเข้าใจถึงแก่น ชี้นำอนาคตอันสดใส! หลายร้อยปีมานี้ยี่เอ๋อราวกับได้เกิดขึ้นมาเป็นคนใหม่! ต่อหน้าบุญคุณที่มากล้นเช่นนั้นยี่เอ๋อคงไม่อาจจะทรยศอาจารย์ลงได้โดยไม่ช่วยเหลือใดๆ เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์!”

คำพูดของหยุนยี่นี้มันถูกกล่าวออกมาจากใจ

เป็นตอนที่เขาได้เริ่มมายังหอโอสถนี้เองที่ตัวเขาได้เริ่มเข้าใจความหมายของเต๋าโอสถอย่างแท้จริง!

หลายร้อยปีมานี้เขาเหมือนกับได้เกิดใหม่อย่างแท้จริง

สภาพของหยุนยี่ในเวลานี้มันแตกต่างจากหยุนยี่ในสมัยก่อนอย่างไม่อาจเทียบ

ที่สำคัญไปกว่านั้นเย่หยวนยังสั่งสอนให้อย่างเต็มที่ไม่ปิดบัง ราวกับที่คนอื่นๆ สอนศิษย์เอกของตน สอนทุกความรู้ที่มีในการหลอมโอสถออกมา

เป็นอาจารย์ที่ราวกับพ่อ!

ในหัวใจของหยุนยี่นั้นเขาได้ยอมรับนับถือตัวเย่หยวนอยู่เหนือหัว วางตัวตนของเย่หยวนไว้เป็นดั่งเต๋าที่ต้องเดินตาม… เป็นดั่งพระเจ้าที่เขานับถือ

หากจะให้เขาต้องทรยศเย่หยวนแล้ว ต่อให้ต้องตายเขาก็คงไม่อาจทำลง!

“เจ้าเด็กไม่รักดี! เจ้าลืมกำพืดของเจ้าไปแล้วหรือ?” เทพสวรรค์ดันหยู่ตวาด

หยุนยี่ทำเช่นนี้มันย่อมจะทำให้เขาขายหน้าต่อหน้าผู้คนอย่างมากล้น

เหลนของตนกลับเลือกจะไปยืนข้างศัตรูอย่างหนักแน่นเช่นนั้น

หยุนยี่เองก็ร้องบอกมาด้วยสีหน้าหนักแน่น “ท่านทวด หยุนยี่นี้ไม่กล้าลืมกำพืดตนเองแน่! แต่เหมือนดั่งที่ตอนนั้นอาจารย์บอกให้ยี่เอ๋อทรยศท่านทวด ทรยศยอดเมืองหลวงจักรพรรดิโอสถเมฆา เวลานี้หากจะบอกให้หยุนยี่ทรยศเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์แล้ว หยุนยี่เองก็คงไม่อาจทำได้! ท่านทวดถือว่าเห็นแก่หน้าข้าโปรดแสดงความเมตตาด้วยเถอะ”

เทพสวรรค์ดันหยู่จึงร้องลั่น “หากข้าบอกว่าไม่เล่า?”

หยุนยี่นั่นย่อมจะรู้ดีว่าสุดท้ายมันคงจบลงที่คำพูดนี้ เขาจึงตอบกลับมาด้วยใบหน้าเตรียมใจพร้อม “เช่นนั้นยี่เอ๋อก็คงทำได้แต่ตายไปกับเมืองอินทรีสวรรค์นี้!”

พูดจบเขาก็เดินเข้ากลับเข้าไปยืนข้างไป๋ตงอีกครา

“ดี! ดี! ดี! ใครจะไปคิดว่าข้า ดันหยู่ ฉลาดมาทั้งชีวิตกลับมาเลี้ยงดูเหลนไม่รักดีเช่นนี้ขึ้นมาได้! ช่างเถอะ! ข้าจะถือว่าเจ้าไม่เคยได้กำเนิดขึ้นมาแล้วกัน!”

การที่เทพสวรรค์ดันหยู่กล่าวคำว่า ‘ดี’ ออกมาถึงสามครั้งนี้มันย่อมแสดงถึงความไม่พอใจที่มีอย่างมหาศาล

ดวงตาของเขาหรี่เล็กลงพร้อมหันไปบอกคนทั้งหลายในเมือง “ชาวเมืองทั้งหลายจงฟัง! เทพสวรรค์ผู้นี้มาเพื่อที่จะสะสางความแค้นแก่เจ้าเด็กเย่หยวน! ใครที่คิดว่าตัวเองเป็นหมารับใช้ของมันก็จงอยู่และตายไปพร้อมๆ กันเสีย! แต่เทพสวรรค์ผู้นี้เองก็มิใช่คนโหดเหี้ยม ไม่คิดฆ่าสังหารคนไม่รู้เรื่องราวใด เวลานี้หากพวกเจ้าก้าวออกมายอมจำนน เทพสวรรค์ผู้นี้จะไว้ชีวิตไว้ให้! และหากใครอยากไปอยู่ที่ยอดเมืองหลวงจักรพรรดิโอสถเมฆาแทนข้าก็พร้อมต้อนรับ!”

การแก้แค้นก็เรื่องหนึ่ง แต่สิ่งที่เทพสวรรค์ดันหยู่ต้องการนั้นคือสูตรโอสถนั้น!

สูตรโอสถที่จะพลิกอนาคตของพันธมิตรแดนใต้

เวลานี้แดนใต้ทั้งหลายนั้นอยู่ใต้อิทธิพลการค้าของหอมหาสมบัติสิ้น แน่นอนว่ากำไรที่พวกเขาได้มันย่อมล้นฟ้าดิน

แต่ด้วยสูตรโอสถนี้ ทุกสิ่งอย่างมันจะพลิกกลับได้!

และอีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจก็คือโอสถที่เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นี้หลอมขึ้นมันจะมีคุณภาพสูงกว่าที่ใดๆ เสมอ!

เรื่องนั้นมันหมายถึงสิ่งใด?

มันย่อมหมายถึงว่านักหลอมโอสถแห่งเมืองอินทรีสวรรค์นี้เก่งกาจกว่าชาวบ้าน!

หอโอสถแห่งเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นั้นเป็นศูนย์กลางของดินแดน มีมาตรฐานและฝีมือเหนือล้ำนักหลอมโอสถจากที่อื่นๆ ชัดเจน

และยอดคนมากมายปานนั้น ฆ่าสังหารไปมันก็มีแต่จะเสียของเปล่า

เพราะสิ่งที่เทพสวรรค์ดันหยู่ต้องการนั้นคือผลประโยชน์ มิใช่แค่การหลั่งเลือดอย่างไร้เหตุผล

เพราะฉะนั้นเขาจึงได้พยายามดึงตัวนักหลอมโอสถทั้งหลายก่อนที่จะทำลายเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ลง

ด้วยกำลังของพันธมิตรแดนใต้นั้นเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์มันได้กลายเป็นแค่กองไข่แสนเปราะบาง

ตัวดันหยู่จึงมั่นใจมากว่านักหลอมโอสถของเมืองนี้จะต้องรับโอกาสนี้ไว้

หนึ่งชั่วอึดใจ

สามชั่วอีดใจ

สิบชั่วอึดใจ

ไม่มีใครออกมา!

ไม่แม้แต่คนเดียว!

ดันหยู่ได้แต่ต้องขมวดคิ้วแน่นอย่างไม่อยากเชื่อสายตา “พวกเจ้าวางใจเถอะ ด้วยกำลังของเทพสวรรค์ผู้นี้แล้วคนเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์น้อยๆ นี้ย่อมไม่อาจจะทำอันตรายพวกเจ้าได้!”

พันธมิตรแดนใต้นั้นมียอดฝีมือกองกำลังยิ่งใหญ่ ตัวดันหยู่เองก็เป็นถึงยอดฝีมือเทพสวรรค์เก้าดาว

การต่อสู้นี้มันย่อมจะไม่มีการขัดขืนใดๆ เกิดขึ้นได้

แต่มันก็ยังไม่มีใครก้าวออกมา

“เทพสวรรค์ดันหยู่ พอเถอะ! มันไม่มีใครจะไปกับเจ้าหรอก! เรานั้นยอมตายไปพร้อมๆ กับเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นี้สิ้น!”

“เลิกวางท่าเอาใจผู้คนเถอะ! ใครๆ ก็รู้ว่าเจ้าแค่อยากได้สูตรโอสถ! ทำหน้าตาท่าทางแบบนั้นออกมาเจ้าไม่อาจพ่อแม่เจ้าบ้างหรือ?”

“เลิกฝันหวานเถอะ! ต่อให้เราจะตายเราก็จะเก็บสูตรโอสถทั้งหลายเป็นความลับลงโลงไปด้วยกัน! หากเจ้ามีปัญญาจริงก็ไปถามหามันจากหอมหาสมบัติหรือเจ็ดตระกูลเอาเถอะ!”

เกิดเสียงโห่ร้องดังขึ้นตามๆ กัน

เหล่านักยุทธและนักหลอมโอสถภายในเมืองนั้นต่างด่าว่าความหน้าด้านนี้ของเทพสวรรค์ดันหยู่

เทพสวรรค์ดันหยู่ที่ได้ยินก็หน้าแดงก่ำขึ้นมาด้วยความอับอาย แต่จิตใจของเขานั้นมีแต่ความตกตะลึงอย่างเหนือล้น

หรือว่าคนเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นี้มันจะมีแต่พวกบ้าไม่กลัวตายกัน?

บนมหาพิภพถงเทียนมันมีที่เช่นนี้ด้วยหรือ?

ทำไมกัน?

ทำไมพวกมันทั้งหลายนี้ถึงคิดยอมตายไม่ยอมแพ้?

เมื่อได้ยินเสียงด่าทอทั้งหลายนั้นเหล่ายอดฝีมือจากพันธมิตรแดนใต้ต่างก็ต้องเบิกตากว้างขึ้นตามๆ กัน

“จ-เจ้าพวกนี้มันบ้าไปแล้วหรือ? หรือว่าพวกมันจะไม่รู้จักคำว่าตาย?”

“เมืองอินทรีสวรรค์นี้มันเป็นบ้าอะไรกันแน่? ทำไมพวกมันดูราวกับคนคลั่งเช่นนี้?”

“มันไม่มีใครแม้สักคนที่ยอมแพ้! นี่มัน… เป็นไปได้ด้วยหรือ?”

พวกเขาทั้งหลายนั้นย่อมไม่รู้เลยว่ากว่าที่เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์จะรวมเป็นหนึ่งได้เช่นนี้ เย่หยวนต้องเสี่ยงชีวิตปกป้องผู้คนไว้มากมายปานใด

มีเพียงความจริงใจเท่านั้นที่จะเอาชนะใจคนได้

สายสัมพันธ์ที่ก่อขึ้นบนผลประโยชน์ มันก็ย่อมจบลงได้ด้วยผลประโยชน์

ไป๋ตงนั้นจ้องมองดูดันหยู่ด้วยสีหน้าเย้ยหยัน “เลิกวางท่าเสียทีเถอะ! เย่หยวนนั้นมันมีความสามารถมากมายกว่าที่เจ้าจะเข้าใจได้ ต่อให้จะเหลือเพียงแค่ตัวคนเดียว คนเมืองนี้ก็จะปกป้องเมืองนี้อย่างสุดชีวิตไม่คิดยอมแพ้ วิธีการของเจ้านั้นมันไม่มีทางจะได้สูตรโอสถเราไปหรอก คิดใช้วิธีโง่ๆ เช่นนี้กับเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นั้นมันจะได้แต่คำเย้ยหยันเท่านั้นแหละ”

เทพสวรรค์ดันหยู่นั้นโกรธจนหน้าสั่น ไม่นึกไม่ฝันว่าผลลัพธ์ที่ออกมามันจะผิดคาดไปได้ปานนี้

เขานั้นนึกไปเสียว่าเมื่อเอากองกำลังมาประชิด ไม่ต้องต่อสู้ใดๆ เรื่องราวมันก็คงจบลงได้ เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์คงแตกสลายลงไปด้วยตัวเอง

ใครจะไปคิดว่าคนทั้งหลายในเมืองนี้มันกลับเป็นคนบ้าไม่กลัวตาย

ไม่มีใครหนี!

ไม่มีใครยอมจำนน!

เจ้าเย่หยวนนั้นมันใช้ยาวิเศษใดในการสร้างเมืองเช่นนี้ขึ้นมากันแน่?

เขานั้นตายไปแล้วแท้ๆ คนทั้งหลายนี้จะยังดื้อด้านไปเพื่อเหตุผลใด?

สุดท้ายเขาจึงได้แต่ต้องกัดฟันแน่นร้องสั่ง “เช่นนั้นก็ดี! หากเป็นเช่นนั้นแล้วพวกเจ้าทั้งหลายก็ไปตายเสียเถอะ! เทพสวรรค์ผู้นี้อยากจะรู้จริงๆ ว่าเมืองนี้มันจะอวดเก่งไปได้ถึงตอนไหน!”

พูดจบเขาก็ยกมือขึ้นส่งสัญญาณให้เทพสวรรค์นับร้อยและเทพถ่องแท้นับไม่ถ้วนพุ่งตัวลงไปยังเมืองอย่างบ้าคลั่ง

…………………….

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+