Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2245 ดาบจงมา!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2245 ดาบจงมา! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จู่ๆ ในวินาทีนั้นคลื่นพลังบนร่างของเย่หยวนมันก็เปลี่ยนแปลงไป

ระหว่างฟ้าดินนี้มันได้เกิดคลื่นกระแสลมประหลาดพัดผ่าน

กระแสลมนี้มันค่อยๆ รุนแรงขึ้น หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ

เวลานี้เสื้อผ้าบนร่างของเขานั้นมันถูกสายลมประหลาดที่ไม่มีอยู่จริงนี้พัดจนปลิวไหว

“หืม? ดาบข้า!”

“ดาบข้าเป็นอะไรไปกัน?”

“ดาบข้าด้วย!”

ไกลออกไปนั้นเหล่ายอดฝีมือที่หนีออกมาจากบ่อโลหิตอสุราได้ทันต่างสัมผัสได้ว่าดาบที่พกมาด้วยกำลังสั่นไหวอย่างไม่อาจควบคุม!

แม้จะเป็นดาบทั้งหลายที่เก็บไว้ในแหวนเองต่างก็สั่นสะท้านขึ้นอย่างไม่อาจหยุดยั้งจนแทบจะหยุดออกมาสู่มิติภายนอก!

เย่หยวนนั้นยืนมั่นอยู่บนท้องฟ้าพร้อมด้วยคลื่นพลังชีวิตมากมายรายล้อมร่าง

สภาพของเย่หยวนในเวลานี้มันดูสง่าไม่คิดสนใจโลกหล้า เป็นท่าทางของปรมาจารย์ที่เหนือล้ำฟ้าดินของยุคสมัย

นี่มันมิใช่การแกล้งทำเป็นเหนือล้ำใดๆ ของเย่หยวนแต่มันคือสภาพจิตใจที่แท้ในเวลานี้ของเขา

ในวินาทีที่ดาบกระดูกหักคามือเย่หยวนไปนั้นเขาก็รู้สึกแปลกๆ ขึ้นในใจ

ระหว่างการโจมตีที่ดุเดือดนั้น เขากลับยังใช้สมาธิส่วนมากไปกับการศึกษาเต๋า!

เต๋าโอสถและเต๋าดาบ แม้แต่เหล่าแนวคิดแห่งห้วงมิติ แนวคิดแห่งกาลเวลาและแนวคิดอื่นๆ เย่หยวนก็ล้วนแล้วแต่ศึกษามันมาอย่างมากมาย

แต่หากพูดกันถึงแค่วรยุทธการต่อสู้แล้ว พื้นฐานที่หนักแน่นที่สุดของเย่หยวนมันก็ย่อมจะยังเป็นเต๋าดาบ

แนวคิดแห่งห้วงมิติของเขาเองนี้เดิมทีมันก็ถูกศึกษาด้วยเต๋าดาบ เขาจึงเริ่มที่จะเข้าถึงความลึกล้ำของแนวคิดแห่งห้วงมิติและศึกษามันมาได้

จะเรียกว่าเต๋าดาบนั้นคือเต๋าพื้นฐานของชีวิตเย่หยวนมันก็คงไม่ผิดนัก

คิดย้อนกลับไปแล้วเย่หยวนได้ศึกษาวิชาดาบท่ามกลางดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่ร่วงหล่นสร้างวิชาดาบขึ้นมาด้วยตัวเอง

แม้ครั้งนั้นมันเป็นแค่การเล่นสนุก แต่เขาก็ยังสามารถเข้าใจถึงเจตจำนงแห่งดาบได้ง่ายๆ

ตั้งแต่ที่เริ่มการบ่มเพาะเส้นทางยุทธใหม่นี้เย่หยวนได้ลอยไปตามกระแสของเต๋าดาบมาเรื่อย

หลายต่อหลายปีที่ผ่านๆ มานี้เย่หยวนได้ใช้ดาบมากมายอยู่คู่กายเดินทางไปไหนมาไหนเสมอ

ดาบนั้นสังหารปีศาจอสูรได้สิ้น!

ดาบนั้นเอาชนะได้แม้แต่ตะวันจันทรา!

ดาบนั้นทำลายได้แม้กระทั่งดวงดาวบนท้องฟ้า!

แต่ทว่าในวินาทีที่ดาบกระดูกนั้นแตกสลายลง เย่หยวนกลับเริ่มเข้าใจได้ถึงสัจธรรม

เพราะเขานั้นกำลังพึ่งพาพลังจากภายนอกอยู่

หากมีดาบอยู่ในจิตใจแล้ว เหตุใดยังจะต้องใช้ดาบจากภายนอกอีกเล่า?

ดาบมีอยู่ในอกนี้ เหตุใดจึงไปจับดาบจากภายนอก ยืมพลังของผู้คน?

ดาบนั้นมันคือทุกสิ่ง ใบไม้ดอกไม้ที่ร่วงลงมาก็ยังเป็นดาบได้ ก้อนหินที่ตกอยู่ริมทางเองก็เป็นดาบ ล้วนแล้วแต่เป็นดาบสิ้น!

แม้ว่าเหล่าสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ สมบัติวิญญาณจักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นมันจะเพิ่มพูนขยายพลังของผู้ใช้ดาบได้มากมายก็ตาม

แต่สุดท้ายแล้วต้นกำเนิดของพลังนั้นมันก็มาจากผู้ที่ใช้ดาบเอง!

“ดาบ จงมา!”

เย่หยวนยื่นมือออกไปด้านหน้าทำให้เหล่าดาบทั้งหลายที่สั่นไหวนั้นไม่อาจทนได้อีกต่อไปต้องพุ่งทะยานออกมา

แต่ว่าสิ่งที่พุ่งออกมานั้นมันมิใช่ตัวดาบที่เป็นวัตถุ แต่เป็นจิตของดาบนั้น!

เย่หยวนยื่นมือออกมาดึงจิตของดาบมากมายในระยะนับสิบๆ กิโลเมตรเข้ามาหา!

ในเวลานี้ฟ้าดินทั่วทิศมันจึงมีเงาจิตของดาบปกคลุมไปทั่วราวกับอุกกาบาตที่พุ่งตกลงสู่แผ่นดิน

มันเป็นภาพที่เหนือล้ำจินตนาการไปมาก!

เหล่า ‘อุกกาบาต’ นี้สุดท้ายก็ได้พุ่งเข้ามาถึงมือของเย่หยวนและรวมกันเป็นดาบแสงเล่มหนึ่ง!

เย่หยวนรวบมือลงจับมั่นปล่อยคลื่นพลังที่ทำให้ฟ้าดินต้องสั่นไหวออกมา

เทียนเหอนั้นต้องเบิกตากว้างออกมาอย่างตื่นตะลึง “เจ้าเด็กคนนี้มันกลับบรรลุต้นกำเนิดของเต๋าดาบได้! มัน… มันเป็นข้าเองที่ทำลายสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ของมันลง! มันจึงใช้โอกาสนี้ในการบรรลุต้นกำเนิดเต๋าอย่างนั้นหรือ?”

ในวินาทีนี้เทียนเหอต้องรู้สึกสับสนอยู่ในใจ

สมบัติวิญญาณเทพสวรรค์แลกกับการบรรลุต้นกำเนิดเต๋าดาบ มันย่อมเป็นการแลกเปลี่ยนที่แสนถูก

แต่ทว่าตัวเขากลับมอบโอกาสนี้ให้อีกฝ่าย

เขานั้นได่แต่ต้องยืนตื่นตะลึง ไม่อาจเข้าใจได้ว่าเหตุใดเย่หยวนจึงมีความสามารถในการทำความเข้าใจได้มากมายปานนี้

เพราะเขานั้นกลับศึกษาเต๋าไปด้วยระหว่างสู้!

แต่มีหรือที่เทียนเหอจะรู้ได้ว่านี่คือวิธีปกติที่เย่หยวนใช้?

เขานั้นศึกษาเต๋าด้วยการต่อสู้แลกชีวิตในมิติบ่มเพาะมรณามาเสมอๆ

เพราะว่าวิธีที่จะออกมาจากมิติบ่มเพาะมรณาได้มันก็คือทางนั้น!

ยิ่งเวลาผ่านไปมาก ฝึกฝนจนชำนาญ การเรียนรู้ศึกษาเต๋าไปด้วยต่อสู้ไปด้วยมันจึงมิใช่เรื่องแปลกใหม่ที่ยากเย็นใดๆ กับเย่หยวนอีก

“ทุกสิ่งบนโลกหล้านี้ล้วนเป็นดาบได้สิ้น ดาบทั้งหลายบนโลกนี้รับฟังเขา! นี่… นี่มันคือต้นกำเนิดของเต๋าดาบแล้วมิใช่หรือ!”

“เจ้าเด็กคนนี้มันมีสมองกี่อันกันแน่? มันกลับผ่านเต๋าดาบแปดดาวและขึ้นสู่ต้นกำเนิดของเต๋าดาบได้เสียอย่างนั้น? นี่มันมีแต่ระดับเจ้าฟ้าดินเท่านั้นที่จะทำได้!”

“บ้าไปแล้ว! มันคือสัตว์ประหลาดโดยแท้! แนวคิดต่างๆ ที่เจ้าเด็กคนนี้บรรลุล้วนแต่เป็นสิ่งที่เหนือล้ำโลกสิ้น! ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมันถึงได้ไม่คิดกลัวเกรงเผ่าเทวาใด! ข้าแค่ไม่แน่ใจว่าระหว่างเขานี้กับเจ้าบรรพกาลเผ่าเทวานั้นใครมันจะเก่งกว่ากัน!”

เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายต่างตื่นตะลึงจนแทบลืมหายใจ

พลังของเผ่าเทวานั้นพวกเขาได้รับรู้ถึงกระดูก

แต่ความเป็นสัตว์ประหลาดของเย่หยวนนี้มันกลับเหนือล้ำกว่าที่พวกเขาจะเข้าใจ

แต่ในเวลานี้พวกเขาต่างจะอยากให้เย่หยวนชนะ!

เพราะไม่ว่าจะดูอย่างไรเจ้าเผ่าเทวาผู้นี้มันก็ไม่ได้เป็นมิตร

หากทางบรรพกาลเผ่าเทวาชนะไปได้ พวกเขาทั้งหลายคงได้ตายสิ้น

จู่ๆ เทียนเหอก็หรี่ตาลงอย่างหนักแน่น “จะเป็นต้นกำเนิดเต๋าดาบแล้วทำไม? สิ่งที่บรรพกาลผู้นี้มีคือเต่าสวรรค์! เต๋าสวรรค์นั้นคือข้า มีหรือที่เต๋าดาบใดๆ มันจะมาเทียบเคียงได้? เต๋าสวรรค์ครามทอง จัดการมันเสีย!”

บนร่างของเทียนเหอนั้นมันได้ปรากฏลายพระเจ้ามากมายพุ่งพวยลงมาจากสวรรค์เบื้องบน

คลื่นพลังนี้มันรุนแรงจนทำให้ฟ้าดินต้องสั่นสะเทือน

ในเวลานี้ไม่ว่าจะเป็นการบ่มเพาะใด พลังแนวคิดไหนมันก็ไร้ค่าสิ้น

หากวัดกันแค่ที่พลังแล้วบรรพกาลเผ่าเทวานี้ย่อมจะเอาชนะเย่หยวนได้ขาดลอย

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียตัวเขานี้ก็คือผู้มีพลังระดับเต๋าบรรพกาล!

เมื่อถูกหุ้มห่อไปด้วยพลังของเต๋าสวรรค์ตัวเทียนเหอก็ยิ่งมีพลังที่เหนือล้ำฟ้าดิน

จากนั้นเขาก็ได้ยกมือขึ้นมาวาดเป็นวงและพร้อมชี้อออกทุกเมื่อ

ทุกผู้คนต่างได้แต่คาดเดาว่าการโจมตีนี้มันคงรุนแรงมากมายปานใด

แต่ทว่าก่อนที่มันจะทันได้ชี้ออกมานั้นมันกลับมีเสียงหนึ่งดังลั่นขึ้นมาจนทำให้ทุกสิ่งอย่างหยุดชะงักลง!

“หยุด!”

ทุกสิ่งอย่างหยุดลงทันที!

เทียนเหอนนั้นสั่นสะท้านไปทั้งใจ!

ในสายตาของเขานั้นเขาย่อมจะเห็นว่าดาบของเย่หยวนมันได้ผ่าลงมาที่กลางหัวของเขา!

ฟู…

คลื่นพลังดาบนั้นมันได้ทะยานผ่านท้องฟ้าเข้ามาจนทำให้ตัวเทียนเหอต้องสั่นสะท้านขนลุกไปทั้งร่างกาย

กลิ่นของความตายนั้นมันมาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว

เขานั้นเดินทางไปทำศึกมาทั่วทิศนานหลายต่อหลายล้านปี มันยังไม่เคยจะมีอะไรที่ทำให้เขารู้สึกได้ถึงความตายอย่างชัดเจนเช่นนี้มาก่อน

ต่อให้จะเป็นเหล่าแปดเจ้าฟ้าดินสี่ทลายในตอนนั้นมันก็ยังไม่ทำให้เขารู้สึกถึงความตายได้เช่นนี้

ดาบที่ฟันลงมานี้มันได้ฟันทำลายห้วงมิติลงสิ้น

ในวินาทีสุดท้ายนั้นมีหรือที่เทียนเหอจะยังกล้าออมมือใดๆ?

ลายพระเจ้าบนร่างของเขานั้นพุ่งพล่านขึ้นอย่างรุนแรงพยายามขัดพลังของคำบัญชาเต๋าสวรรค์จนสลายลงอย่างรวดเร็ว

เร็วกว่าเสี้ยววินาที!

เย่หยวนย่อมรู้ดีว่าเวลาชะงักมันไม่อาจจะขังคนอย่างเทียนเหอได้นานนัก แต่สิ่งที่เขาต้องการนั้นมันก็คือเวลาแค่เสี้ยววินาทีนี้เท่านั้น!

ฉัวะ!

เทียนเหอขยับหัวออกมาได้ทัน หลบดาบสังหารนี้ไปได้

แต่ตัวเขาก็ยังไม่อาจจะหลบมันจนพ้นได้ทั้งหมด

เวลานี้แขนซ้ายของตัวเทียนเหอจึงได้ถูกตัดขาดออกไปด้วยดาบนี้

คลื่นพลังรุนแรงของดาบนั้นมันได้ทำลายแขนของเขาจนสิ้นไม่เหลือแม้แต่เศษซากใด

เย่หยวนขมวดคิ้วแน่นดูท่าไม่พอใจอย่างมาก

“ดูท่าข้าจะยังประเมินเจ้าต่ำไป! แต่ว่าหากดาบเดียวไม่ตาย ข้าก็แค่ต้องฟันอีกดาบเท่านั้น!”

เย่หยวนไม่คิดรีรอใดๆ อีกง้างดาบขึ้นอีกครั้งทันทีพร้อมฟันมันลงทุกเมื่อ

ตัวเทียนเหอนั้นต้องเบิกตากว้างโยนบางอย่างสีเงินพุ่งออกมาพร้อมร้องลั่น “เอาข่ายเงินแก่นโลหิตของเจ้าไปเถอะ!”

พร้อมๆ กันนั้นเขาก็พุ่งตัวไปยังทิศตรงกันข้ามกับที่โยนเจ้าข่ายเงินแก่นโลหิตออกมา หนีหางจุกตูดไปอย่างไม่มีสภาพของยอดคนใดๆ

เย่หยวนเบิกตากว้างขึ้นพร้อมพุ่งร่างออกไปจับเจ้าข่ายเงินแก่นโลหิตนั้นไว้ด้วยมือที่ว่าง

แน่นอนว่าตัวเทียนเหอย่อมจะใช้โอกาสนี้หนีจนหายลับไป

เย่หยวนจับเจ้าข่ายเงินแก่นโลหิตไว้และกางค่ายกลขังมันทันทีพร้อมความรู้สึกอ่อนล้าทั่วทั้งร่างกาย

เขาได้แต่ยิ้มแห้งๆ ออกมา “โชคดีที่มันกลัวหัวหดไปก่อน ข้าจะไปเอาแรงที่ไหนมาฟาดฟันดาบเช่นนั้นออกมาอีกครั้งกันเล่า?”

…………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2245 ดาบจงมา!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2245 ดาบจงมา! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จู่ๆ ในวินาทีนั้นคลื่นพลังบนร่างของเย่หยวนมันก็เปลี่ยนแปลงไป

ระหว่างฟ้าดินนี้มันได้เกิดคลื่นกระแสลมประหลาดพัดผ่าน

กระแสลมนี้มันค่อยๆ รุนแรงขึ้น หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ

เวลานี้เสื้อผ้าบนร่างของเขานั้นมันถูกสายลมประหลาดที่ไม่มีอยู่จริงนี้พัดจนปลิวไหว

“หืม? ดาบข้า!”

“ดาบข้าเป็นอะไรไปกัน?”

“ดาบข้าด้วย!”

ไกลออกไปนั้นเหล่ายอดฝีมือที่หนีออกมาจากบ่อโลหิตอสุราได้ทันต่างสัมผัสได้ว่าดาบที่พกมาด้วยกำลังสั่นไหวอย่างไม่อาจควบคุม!

แม้จะเป็นดาบทั้งหลายที่เก็บไว้ในแหวนเองต่างก็สั่นสะท้านขึ้นอย่างไม่อาจหยุดยั้งจนแทบจะหยุดออกมาสู่มิติภายนอก!

เย่หยวนนั้นยืนมั่นอยู่บนท้องฟ้าพร้อมด้วยคลื่นพลังชีวิตมากมายรายล้อมร่าง

สภาพของเย่หยวนในเวลานี้มันดูสง่าไม่คิดสนใจโลกหล้า เป็นท่าทางของปรมาจารย์ที่เหนือล้ำฟ้าดินของยุคสมัย

นี่มันมิใช่การแกล้งทำเป็นเหนือล้ำใดๆ ของเย่หยวนแต่มันคือสภาพจิตใจที่แท้ในเวลานี้ของเขา

ในวินาทีที่ดาบกระดูกหักคามือเย่หยวนไปนั้นเขาก็รู้สึกแปลกๆ ขึ้นในใจ

ระหว่างการโจมตีที่ดุเดือดนั้น เขากลับยังใช้สมาธิส่วนมากไปกับการศึกษาเต๋า!

เต๋าโอสถและเต๋าดาบ แม้แต่เหล่าแนวคิดแห่งห้วงมิติ แนวคิดแห่งกาลเวลาและแนวคิดอื่นๆ เย่หยวนก็ล้วนแล้วแต่ศึกษามันมาอย่างมากมาย

แต่หากพูดกันถึงแค่วรยุทธการต่อสู้แล้ว พื้นฐานที่หนักแน่นที่สุดของเย่หยวนมันก็ย่อมจะยังเป็นเต๋าดาบ

แนวคิดแห่งห้วงมิติของเขาเองนี้เดิมทีมันก็ถูกศึกษาด้วยเต๋าดาบ เขาจึงเริ่มที่จะเข้าถึงความลึกล้ำของแนวคิดแห่งห้วงมิติและศึกษามันมาได้

จะเรียกว่าเต๋าดาบนั้นคือเต๋าพื้นฐานของชีวิตเย่หยวนมันก็คงไม่ผิดนัก

คิดย้อนกลับไปแล้วเย่หยวนได้ศึกษาวิชาดาบท่ามกลางดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่ร่วงหล่นสร้างวิชาดาบขึ้นมาด้วยตัวเอง

แม้ครั้งนั้นมันเป็นแค่การเล่นสนุก แต่เขาก็ยังสามารถเข้าใจถึงเจตจำนงแห่งดาบได้ง่ายๆ

ตั้งแต่ที่เริ่มการบ่มเพาะเส้นทางยุทธใหม่นี้เย่หยวนได้ลอยไปตามกระแสของเต๋าดาบมาเรื่อย

หลายต่อหลายปีที่ผ่านๆ มานี้เย่หยวนได้ใช้ดาบมากมายอยู่คู่กายเดินทางไปไหนมาไหนเสมอ

ดาบนั้นสังหารปีศาจอสูรได้สิ้น!

ดาบนั้นเอาชนะได้แม้แต่ตะวันจันทรา!

ดาบนั้นทำลายได้แม้กระทั่งดวงดาวบนท้องฟ้า!

แต่ทว่าในวินาทีที่ดาบกระดูกนั้นแตกสลายลง เย่หยวนกลับเริ่มเข้าใจได้ถึงสัจธรรม

เพราะเขานั้นกำลังพึ่งพาพลังจากภายนอกอยู่

หากมีดาบอยู่ในจิตใจแล้ว เหตุใดยังจะต้องใช้ดาบจากภายนอกอีกเล่า?

ดาบมีอยู่ในอกนี้ เหตุใดจึงไปจับดาบจากภายนอก ยืมพลังของผู้คน?

ดาบนั้นมันคือทุกสิ่ง ใบไม้ดอกไม้ที่ร่วงลงมาก็ยังเป็นดาบได้ ก้อนหินที่ตกอยู่ริมทางเองก็เป็นดาบ ล้วนแล้วแต่เป็นดาบสิ้น!

แม้ว่าเหล่าสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ สมบัติวิญญาณจักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นมันจะเพิ่มพูนขยายพลังของผู้ใช้ดาบได้มากมายก็ตาม

แต่สุดท้ายแล้วต้นกำเนิดของพลังนั้นมันก็มาจากผู้ที่ใช้ดาบเอง!

“ดาบ จงมา!”

เย่หยวนยื่นมือออกไปด้านหน้าทำให้เหล่าดาบทั้งหลายที่สั่นไหวนั้นไม่อาจทนได้อีกต่อไปต้องพุ่งทะยานออกมา

แต่ว่าสิ่งที่พุ่งออกมานั้นมันมิใช่ตัวดาบที่เป็นวัตถุ แต่เป็นจิตของดาบนั้น!

เย่หยวนยื่นมือออกมาดึงจิตของดาบมากมายในระยะนับสิบๆ กิโลเมตรเข้ามาหา!

ในเวลานี้ฟ้าดินทั่วทิศมันจึงมีเงาจิตของดาบปกคลุมไปทั่วราวกับอุกกาบาตที่พุ่งตกลงสู่แผ่นดิน

มันเป็นภาพที่เหนือล้ำจินตนาการไปมาก!

เหล่า ‘อุกกาบาต’ นี้สุดท้ายก็ได้พุ่งเข้ามาถึงมือของเย่หยวนและรวมกันเป็นดาบแสงเล่มหนึ่ง!

เย่หยวนรวบมือลงจับมั่นปล่อยคลื่นพลังที่ทำให้ฟ้าดินต้องสั่นไหวออกมา

เทียนเหอนั้นต้องเบิกตากว้างออกมาอย่างตื่นตะลึง “เจ้าเด็กคนนี้มันกลับบรรลุต้นกำเนิดของเต๋าดาบได้! มัน… มันเป็นข้าเองที่ทำลายสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ของมันลง! มันจึงใช้โอกาสนี้ในการบรรลุต้นกำเนิดเต๋าอย่างนั้นหรือ?”

ในวินาทีนี้เทียนเหอต้องรู้สึกสับสนอยู่ในใจ

สมบัติวิญญาณเทพสวรรค์แลกกับการบรรลุต้นกำเนิดเต๋าดาบ มันย่อมเป็นการแลกเปลี่ยนที่แสนถูก

แต่ทว่าตัวเขากลับมอบโอกาสนี้ให้อีกฝ่าย

เขานั้นได่แต่ต้องยืนตื่นตะลึง ไม่อาจเข้าใจได้ว่าเหตุใดเย่หยวนจึงมีความสามารถในการทำความเข้าใจได้มากมายปานนี้

เพราะเขานั้นกลับศึกษาเต๋าไปด้วยระหว่างสู้!

แต่มีหรือที่เทียนเหอจะรู้ได้ว่านี่คือวิธีปกติที่เย่หยวนใช้?

เขานั้นศึกษาเต๋าด้วยการต่อสู้แลกชีวิตในมิติบ่มเพาะมรณามาเสมอๆ

เพราะว่าวิธีที่จะออกมาจากมิติบ่มเพาะมรณาได้มันก็คือทางนั้น!

ยิ่งเวลาผ่านไปมาก ฝึกฝนจนชำนาญ การเรียนรู้ศึกษาเต๋าไปด้วยต่อสู้ไปด้วยมันจึงมิใช่เรื่องแปลกใหม่ที่ยากเย็นใดๆ กับเย่หยวนอีก

“ทุกสิ่งบนโลกหล้านี้ล้วนเป็นดาบได้สิ้น ดาบทั้งหลายบนโลกนี้รับฟังเขา! นี่… นี่มันคือต้นกำเนิดของเต๋าดาบแล้วมิใช่หรือ!”

“เจ้าเด็กคนนี้มันมีสมองกี่อันกันแน่? มันกลับผ่านเต๋าดาบแปดดาวและขึ้นสู่ต้นกำเนิดของเต๋าดาบได้เสียอย่างนั้น? นี่มันมีแต่ระดับเจ้าฟ้าดินเท่านั้นที่จะทำได้!”

“บ้าไปแล้ว! มันคือสัตว์ประหลาดโดยแท้! แนวคิดต่างๆ ที่เจ้าเด็กคนนี้บรรลุล้วนแต่เป็นสิ่งที่เหนือล้ำโลกสิ้น! ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมันถึงได้ไม่คิดกลัวเกรงเผ่าเทวาใด! ข้าแค่ไม่แน่ใจว่าระหว่างเขานี้กับเจ้าบรรพกาลเผ่าเทวานั้นใครมันจะเก่งกว่ากัน!”

เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายต่างตื่นตะลึงจนแทบลืมหายใจ

พลังของเผ่าเทวานั้นพวกเขาได้รับรู้ถึงกระดูก

แต่ความเป็นสัตว์ประหลาดของเย่หยวนนี้มันกลับเหนือล้ำกว่าที่พวกเขาจะเข้าใจ

แต่ในเวลานี้พวกเขาต่างจะอยากให้เย่หยวนชนะ!

เพราะไม่ว่าจะดูอย่างไรเจ้าเผ่าเทวาผู้นี้มันก็ไม่ได้เป็นมิตร

หากทางบรรพกาลเผ่าเทวาชนะไปได้ พวกเขาทั้งหลายคงได้ตายสิ้น

จู่ๆ เทียนเหอก็หรี่ตาลงอย่างหนักแน่น “จะเป็นต้นกำเนิดเต๋าดาบแล้วทำไม? สิ่งที่บรรพกาลผู้นี้มีคือเต่าสวรรค์! เต๋าสวรรค์นั้นคือข้า มีหรือที่เต๋าดาบใดๆ มันจะมาเทียบเคียงได้? เต๋าสวรรค์ครามทอง จัดการมันเสีย!”

บนร่างของเทียนเหอนั้นมันได้ปรากฏลายพระเจ้ามากมายพุ่งพวยลงมาจากสวรรค์เบื้องบน

คลื่นพลังนี้มันรุนแรงจนทำให้ฟ้าดินต้องสั่นสะเทือน

ในเวลานี้ไม่ว่าจะเป็นการบ่มเพาะใด พลังแนวคิดไหนมันก็ไร้ค่าสิ้น

หากวัดกันแค่ที่พลังแล้วบรรพกาลเผ่าเทวานี้ย่อมจะเอาชนะเย่หยวนได้ขาดลอย

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียตัวเขานี้ก็คือผู้มีพลังระดับเต๋าบรรพกาล!

เมื่อถูกหุ้มห่อไปด้วยพลังของเต๋าสวรรค์ตัวเทียนเหอก็ยิ่งมีพลังที่เหนือล้ำฟ้าดิน

จากนั้นเขาก็ได้ยกมือขึ้นมาวาดเป็นวงและพร้อมชี้อออกทุกเมื่อ

ทุกผู้คนต่างได้แต่คาดเดาว่าการโจมตีนี้มันคงรุนแรงมากมายปานใด

แต่ทว่าก่อนที่มันจะทันได้ชี้ออกมานั้นมันกลับมีเสียงหนึ่งดังลั่นขึ้นมาจนทำให้ทุกสิ่งอย่างหยุดชะงักลง!

“หยุด!”

ทุกสิ่งอย่างหยุดลงทันที!

เทียนเหอนนั้นสั่นสะท้านไปทั้งใจ!

ในสายตาของเขานั้นเขาย่อมจะเห็นว่าดาบของเย่หยวนมันได้ผ่าลงมาที่กลางหัวของเขา!

ฟู…

คลื่นพลังดาบนั้นมันได้ทะยานผ่านท้องฟ้าเข้ามาจนทำให้ตัวเทียนเหอต้องสั่นสะท้านขนลุกไปทั้งร่างกาย

กลิ่นของความตายนั้นมันมาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว

เขานั้นเดินทางไปทำศึกมาทั่วทิศนานหลายต่อหลายล้านปี มันยังไม่เคยจะมีอะไรที่ทำให้เขารู้สึกได้ถึงความตายอย่างชัดเจนเช่นนี้มาก่อน

ต่อให้จะเป็นเหล่าแปดเจ้าฟ้าดินสี่ทลายในตอนนั้นมันก็ยังไม่ทำให้เขารู้สึกถึงความตายได้เช่นนี้

ดาบที่ฟันลงมานี้มันได้ฟันทำลายห้วงมิติลงสิ้น

ในวินาทีสุดท้ายนั้นมีหรือที่เทียนเหอจะยังกล้าออมมือใดๆ?

ลายพระเจ้าบนร่างของเขานั้นพุ่งพล่านขึ้นอย่างรุนแรงพยายามขัดพลังของคำบัญชาเต๋าสวรรค์จนสลายลงอย่างรวดเร็ว

เร็วกว่าเสี้ยววินาที!

เย่หยวนย่อมรู้ดีว่าเวลาชะงักมันไม่อาจจะขังคนอย่างเทียนเหอได้นานนัก แต่สิ่งที่เขาต้องการนั้นมันก็คือเวลาแค่เสี้ยววินาทีนี้เท่านั้น!

ฉัวะ!

เทียนเหอขยับหัวออกมาได้ทัน หลบดาบสังหารนี้ไปได้

แต่ตัวเขาก็ยังไม่อาจจะหลบมันจนพ้นได้ทั้งหมด

เวลานี้แขนซ้ายของตัวเทียนเหอจึงได้ถูกตัดขาดออกไปด้วยดาบนี้

คลื่นพลังรุนแรงของดาบนั้นมันได้ทำลายแขนของเขาจนสิ้นไม่เหลือแม้แต่เศษซากใด

เย่หยวนขมวดคิ้วแน่นดูท่าไม่พอใจอย่างมาก

“ดูท่าข้าจะยังประเมินเจ้าต่ำไป! แต่ว่าหากดาบเดียวไม่ตาย ข้าก็แค่ต้องฟันอีกดาบเท่านั้น!”

เย่หยวนไม่คิดรีรอใดๆ อีกง้างดาบขึ้นอีกครั้งทันทีพร้อมฟันมันลงทุกเมื่อ

ตัวเทียนเหอนั้นต้องเบิกตากว้างโยนบางอย่างสีเงินพุ่งออกมาพร้อมร้องลั่น “เอาข่ายเงินแก่นโลหิตของเจ้าไปเถอะ!”

พร้อมๆ กันนั้นเขาก็พุ่งตัวไปยังทิศตรงกันข้ามกับที่โยนเจ้าข่ายเงินแก่นโลหิตออกมา หนีหางจุกตูดไปอย่างไม่มีสภาพของยอดคนใดๆ

เย่หยวนเบิกตากว้างขึ้นพร้อมพุ่งร่างออกไปจับเจ้าข่ายเงินแก่นโลหิตนั้นไว้ด้วยมือที่ว่าง

แน่นอนว่าตัวเทียนเหอย่อมจะใช้โอกาสนี้หนีจนหายลับไป

เย่หยวนจับเจ้าข่ายเงินแก่นโลหิตไว้และกางค่ายกลขังมันทันทีพร้อมความรู้สึกอ่อนล้าทั่วทั้งร่างกาย

เขาได้แต่ยิ้มแห้งๆ ออกมา “โชคดีที่มันกลัวหัวหดไปก่อน ข้าจะไปเอาแรงที่ไหนมาฟาดฟันดาบเช่นนั้นออกมาอีกครั้งกันเล่า?”

…………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2245 ดาบจงมา!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2245 ดาบจงมา! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จู่ๆ ในวินาทีนั้นคลื่นพลังบนร่างของเย่หยวนมันก็เปลี่ยนแปลงไป

ระหว่างฟ้าดินนี้มันได้เกิดคลื่นกระแสลมประหลาดพัดผ่าน

กระแสลมนี้มันค่อยๆ รุนแรงขึ้น หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ

เวลานี้เสื้อผ้าบนร่างของเขานั้นมันถูกสายลมประหลาดที่ไม่มีอยู่จริงนี้พัดจนปลิวไหว

“หืม? ดาบข้า!”

“ดาบข้าเป็นอะไรไปกัน?”

“ดาบข้าด้วย!”

ไกลออกไปนั้นเหล่ายอดฝีมือที่หนีออกมาจากบ่อโลหิตอสุราได้ทันต่างสัมผัสได้ว่าดาบที่พกมาด้วยกำลังสั่นไหวอย่างไม่อาจควบคุม!

แม้จะเป็นดาบทั้งหลายที่เก็บไว้ในแหวนเองต่างก็สั่นสะท้านขึ้นอย่างไม่อาจหยุดยั้งจนแทบจะหยุดออกมาสู่มิติภายนอก!

เย่หยวนนั้นยืนมั่นอยู่บนท้องฟ้าพร้อมด้วยคลื่นพลังชีวิตมากมายรายล้อมร่าง

สภาพของเย่หยวนในเวลานี้มันดูสง่าไม่คิดสนใจโลกหล้า เป็นท่าทางของปรมาจารย์ที่เหนือล้ำฟ้าดินของยุคสมัย

นี่มันมิใช่การแกล้งทำเป็นเหนือล้ำใดๆ ของเย่หยวนแต่มันคือสภาพจิตใจที่แท้ในเวลานี้ของเขา

ในวินาทีที่ดาบกระดูกหักคามือเย่หยวนไปนั้นเขาก็รู้สึกแปลกๆ ขึ้นในใจ

ระหว่างการโจมตีที่ดุเดือดนั้น เขากลับยังใช้สมาธิส่วนมากไปกับการศึกษาเต๋า!

เต๋าโอสถและเต๋าดาบ แม้แต่เหล่าแนวคิดแห่งห้วงมิติ แนวคิดแห่งกาลเวลาและแนวคิดอื่นๆ เย่หยวนก็ล้วนแล้วแต่ศึกษามันมาอย่างมากมาย

แต่หากพูดกันถึงแค่วรยุทธการต่อสู้แล้ว พื้นฐานที่หนักแน่นที่สุดของเย่หยวนมันก็ย่อมจะยังเป็นเต๋าดาบ

แนวคิดแห่งห้วงมิติของเขาเองนี้เดิมทีมันก็ถูกศึกษาด้วยเต๋าดาบ เขาจึงเริ่มที่จะเข้าถึงความลึกล้ำของแนวคิดแห่งห้วงมิติและศึกษามันมาได้

จะเรียกว่าเต๋าดาบนั้นคือเต๋าพื้นฐานของชีวิตเย่หยวนมันก็คงไม่ผิดนัก

คิดย้อนกลับไปแล้วเย่หยวนได้ศึกษาวิชาดาบท่ามกลางดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่ร่วงหล่นสร้างวิชาดาบขึ้นมาด้วยตัวเอง

แม้ครั้งนั้นมันเป็นแค่การเล่นสนุก แต่เขาก็ยังสามารถเข้าใจถึงเจตจำนงแห่งดาบได้ง่ายๆ

ตั้งแต่ที่เริ่มการบ่มเพาะเส้นทางยุทธใหม่นี้เย่หยวนได้ลอยไปตามกระแสของเต๋าดาบมาเรื่อย

หลายต่อหลายปีที่ผ่านๆ มานี้เย่หยวนได้ใช้ดาบมากมายอยู่คู่กายเดินทางไปไหนมาไหนเสมอ

ดาบนั้นสังหารปีศาจอสูรได้สิ้น!

ดาบนั้นเอาชนะได้แม้แต่ตะวันจันทรา!

ดาบนั้นทำลายได้แม้กระทั่งดวงดาวบนท้องฟ้า!

แต่ทว่าในวินาทีที่ดาบกระดูกนั้นแตกสลายลง เย่หยวนกลับเริ่มเข้าใจได้ถึงสัจธรรม

เพราะเขานั้นกำลังพึ่งพาพลังจากภายนอกอยู่

หากมีดาบอยู่ในจิตใจแล้ว เหตุใดยังจะต้องใช้ดาบจากภายนอกอีกเล่า?

ดาบมีอยู่ในอกนี้ เหตุใดจึงไปจับดาบจากภายนอก ยืมพลังของผู้คน?

ดาบนั้นมันคือทุกสิ่ง ใบไม้ดอกไม้ที่ร่วงลงมาก็ยังเป็นดาบได้ ก้อนหินที่ตกอยู่ริมทางเองก็เป็นดาบ ล้วนแล้วแต่เป็นดาบสิ้น!

แม้ว่าเหล่าสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ สมบัติวิญญาณจักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นมันจะเพิ่มพูนขยายพลังของผู้ใช้ดาบได้มากมายก็ตาม

แต่สุดท้ายแล้วต้นกำเนิดของพลังนั้นมันก็มาจากผู้ที่ใช้ดาบเอง!

“ดาบ จงมา!”

เย่หยวนยื่นมือออกไปด้านหน้าทำให้เหล่าดาบทั้งหลายที่สั่นไหวนั้นไม่อาจทนได้อีกต่อไปต้องพุ่งทะยานออกมา

แต่ว่าสิ่งที่พุ่งออกมานั้นมันมิใช่ตัวดาบที่เป็นวัตถุ แต่เป็นจิตของดาบนั้น!

เย่หยวนยื่นมือออกมาดึงจิตของดาบมากมายในระยะนับสิบๆ กิโลเมตรเข้ามาหา!

ในเวลานี้ฟ้าดินทั่วทิศมันจึงมีเงาจิตของดาบปกคลุมไปทั่วราวกับอุกกาบาตที่พุ่งตกลงสู่แผ่นดิน

มันเป็นภาพที่เหนือล้ำจินตนาการไปมาก!

เหล่า ‘อุกกาบาต’ นี้สุดท้ายก็ได้พุ่งเข้ามาถึงมือของเย่หยวนและรวมกันเป็นดาบแสงเล่มหนึ่ง!

เย่หยวนรวบมือลงจับมั่นปล่อยคลื่นพลังที่ทำให้ฟ้าดินต้องสั่นไหวออกมา

เทียนเหอนั้นต้องเบิกตากว้างออกมาอย่างตื่นตะลึง “เจ้าเด็กคนนี้มันกลับบรรลุต้นกำเนิดของเต๋าดาบได้! มัน… มันเป็นข้าเองที่ทำลายสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ของมันลง! มันจึงใช้โอกาสนี้ในการบรรลุต้นกำเนิดเต๋าอย่างนั้นหรือ?”

ในวินาทีนี้เทียนเหอต้องรู้สึกสับสนอยู่ในใจ

สมบัติวิญญาณเทพสวรรค์แลกกับการบรรลุต้นกำเนิดเต๋าดาบ มันย่อมเป็นการแลกเปลี่ยนที่แสนถูก

แต่ทว่าตัวเขากลับมอบโอกาสนี้ให้อีกฝ่าย

เขานั้นได่แต่ต้องยืนตื่นตะลึง ไม่อาจเข้าใจได้ว่าเหตุใดเย่หยวนจึงมีความสามารถในการทำความเข้าใจได้มากมายปานนี้

เพราะเขานั้นกลับศึกษาเต๋าไปด้วยระหว่างสู้!

แต่มีหรือที่เทียนเหอจะรู้ได้ว่านี่คือวิธีปกติที่เย่หยวนใช้?

เขานั้นศึกษาเต๋าด้วยการต่อสู้แลกชีวิตในมิติบ่มเพาะมรณามาเสมอๆ

เพราะว่าวิธีที่จะออกมาจากมิติบ่มเพาะมรณาได้มันก็คือทางนั้น!

ยิ่งเวลาผ่านไปมาก ฝึกฝนจนชำนาญ การเรียนรู้ศึกษาเต๋าไปด้วยต่อสู้ไปด้วยมันจึงมิใช่เรื่องแปลกใหม่ที่ยากเย็นใดๆ กับเย่หยวนอีก

“ทุกสิ่งบนโลกหล้านี้ล้วนเป็นดาบได้สิ้น ดาบทั้งหลายบนโลกนี้รับฟังเขา! นี่… นี่มันคือต้นกำเนิดของเต๋าดาบแล้วมิใช่หรือ!”

“เจ้าเด็กคนนี้มันมีสมองกี่อันกันแน่? มันกลับผ่านเต๋าดาบแปดดาวและขึ้นสู่ต้นกำเนิดของเต๋าดาบได้เสียอย่างนั้น? นี่มันมีแต่ระดับเจ้าฟ้าดินเท่านั้นที่จะทำได้!”

“บ้าไปแล้ว! มันคือสัตว์ประหลาดโดยแท้! แนวคิดต่างๆ ที่เจ้าเด็กคนนี้บรรลุล้วนแต่เป็นสิ่งที่เหนือล้ำโลกสิ้น! ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมันถึงได้ไม่คิดกลัวเกรงเผ่าเทวาใด! ข้าแค่ไม่แน่ใจว่าระหว่างเขานี้กับเจ้าบรรพกาลเผ่าเทวานั้นใครมันจะเก่งกว่ากัน!”

เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายต่างตื่นตะลึงจนแทบลืมหายใจ

พลังของเผ่าเทวานั้นพวกเขาได้รับรู้ถึงกระดูก

แต่ความเป็นสัตว์ประหลาดของเย่หยวนนี้มันกลับเหนือล้ำกว่าที่พวกเขาจะเข้าใจ

แต่ในเวลานี้พวกเขาต่างจะอยากให้เย่หยวนชนะ!

เพราะไม่ว่าจะดูอย่างไรเจ้าเผ่าเทวาผู้นี้มันก็ไม่ได้เป็นมิตร

หากทางบรรพกาลเผ่าเทวาชนะไปได้ พวกเขาทั้งหลายคงได้ตายสิ้น

จู่ๆ เทียนเหอก็หรี่ตาลงอย่างหนักแน่น “จะเป็นต้นกำเนิดเต๋าดาบแล้วทำไม? สิ่งที่บรรพกาลผู้นี้มีคือเต่าสวรรค์! เต๋าสวรรค์นั้นคือข้า มีหรือที่เต๋าดาบใดๆ มันจะมาเทียบเคียงได้? เต๋าสวรรค์ครามทอง จัดการมันเสีย!”

บนร่างของเทียนเหอนั้นมันได้ปรากฏลายพระเจ้ามากมายพุ่งพวยลงมาจากสวรรค์เบื้องบน

คลื่นพลังนี้มันรุนแรงจนทำให้ฟ้าดินต้องสั่นสะเทือน

ในเวลานี้ไม่ว่าจะเป็นการบ่มเพาะใด พลังแนวคิดไหนมันก็ไร้ค่าสิ้น

หากวัดกันแค่ที่พลังแล้วบรรพกาลเผ่าเทวานี้ย่อมจะเอาชนะเย่หยวนได้ขาดลอย

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียตัวเขานี้ก็คือผู้มีพลังระดับเต๋าบรรพกาล!

เมื่อถูกหุ้มห่อไปด้วยพลังของเต๋าสวรรค์ตัวเทียนเหอก็ยิ่งมีพลังที่เหนือล้ำฟ้าดิน

จากนั้นเขาก็ได้ยกมือขึ้นมาวาดเป็นวงและพร้อมชี้อออกทุกเมื่อ

ทุกผู้คนต่างได้แต่คาดเดาว่าการโจมตีนี้มันคงรุนแรงมากมายปานใด

แต่ทว่าก่อนที่มันจะทันได้ชี้ออกมานั้นมันกลับมีเสียงหนึ่งดังลั่นขึ้นมาจนทำให้ทุกสิ่งอย่างหยุดชะงักลง!

“หยุด!”

ทุกสิ่งอย่างหยุดลงทันที!

เทียนเหอนนั้นสั่นสะท้านไปทั้งใจ!

ในสายตาของเขานั้นเขาย่อมจะเห็นว่าดาบของเย่หยวนมันได้ผ่าลงมาที่กลางหัวของเขา!

ฟู…

คลื่นพลังดาบนั้นมันได้ทะยานผ่านท้องฟ้าเข้ามาจนทำให้ตัวเทียนเหอต้องสั่นสะท้านขนลุกไปทั้งร่างกาย

กลิ่นของความตายนั้นมันมาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว

เขานั้นเดินทางไปทำศึกมาทั่วทิศนานหลายต่อหลายล้านปี มันยังไม่เคยจะมีอะไรที่ทำให้เขารู้สึกได้ถึงความตายอย่างชัดเจนเช่นนี้มาก่อน

ต่อให้จะเป็นเหล่าแปดเจ้าฟ้าดินสี่ทลายในตอนนั้นมันก็ยังไม่ทำให้เขารู้สึกถึงความตายได้เช่นนี้

ดาบที่ฟันลงมานี้มันได้ฟันทำลายห้วงมิติลงสิ้น

ในวินาทีสุดท้ายนั้นมีหรือที่เทียนเหอจะยังกล้าออมมือใดๆ?

ลายพระเจ้าบนร่างของเขานั้นพุ่งพล่านขึ้นอย่างรุนแรงพยายามขัดพลังของคำบัญชาเต๋าสวรรค์จนสลายลงอย่างรวดเร็ว

เร็วกว่าเสี้ยววินาที!

เย่หยวนย่อมรู้ดีว่าเวลาชะงักมันไม่อาจจะขังคนอย่างเทียนเหอได้นานนัก แต่สิ่งที่เขาต้องการนั้นมันก็คือเวลาแค่เสี้ยววินาทีนี้เท่านั้น!

ฉัวะ!

เทียนเหอขยับหัวออกมาได้ทัน หลบดาบสังหารนี้ไปได้

แต่ตัวเขาก็ยังไม่อาจจะหลบมันจนพ้นได้ทั้งหมด

เวลานี้แขนซ้ายของตัวเทียนเหอจึงได้ถูกตัดขาดออกไปด้วยดาบนี้

คลื่นพลังรุนแรงของดาบนั้นมันได้ทำลายแขนของเขาจนสิ้นไม่เหลือแม้แต่เศษซากใด

เย่หยวนขมวดคิ้วแน่นดูท่าไม่พอใจอย่างมาก

“ดูท่าข้าจะยังประเมินเจ้าต่ำไป! แต่ว่าหากดาบเดียวไม่ตาย ข้าก็แค่ต้องฟันอีกดาบเท่านั้น!”

เย่หยวนไม่คิดรีรอใดๆ อีกง้างดาบขึ้นอีกครั้งทันทีพร้อมฟันมันลงทุกเมื่อ

ตัวเทียนเหอนั้นต้องเบิกตากว้างโยนบางอย่างสีเงินพุ่งออกมาพร้อมร้องลั่น “เอาข่ายเงินแก่นโลหิตของเจ้าไปเถอะ!”

พร้อมๆ กันนั้นเขาก็พุ่งตัวไปยังทิศตรงกันข้ามกับที่โยนเจ้าข่ายเงินแก่นโลหิตออกมา หนีหางจุกตูดไปอย่างไม่มีสภาพของยอดคนใดๆ

เย่หยวนเบิกตากว้างขึ้นพร้อมพุ่งร่างออกไปจับเจ้าข่ายเงินแก่นโลหิตนั้นไว้ด้วยมือที่ว่าง

แน่นอนว่าตัวเทียนเหอย่อมจะใช้โอกาสนี้หนีจนหายลับไป

เย่หยวนจับเจ้าข่ายเงินแก่นโลหิตไว้และกางค่ายกลขังมันทันทีพร้อมความรู้สึกอ่อนล้าทั่วทั้งร่างกาย

เขาได้แต่ยิ้มแห้งๆ ออกมา “โชคดีที่มันกลัวหัวหดไปก่อน ข้าจะไปเอาแรงที่ไหนมาฟาดฟันดาบเช่นนั้นออกมาอีกครั้งกันเล่า?”

…………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+