Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2246 เจ้าฟ้าดินห้าทลาย!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2246 เจ้าฟ้าดินห้าทลาย! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จะอย่างไรเสียมันก็คงต้องยอมรับถึงความเก่งกาจของเทียนเหออย่างไม่อาจเถียง

ตั้งแต่เกิดจนมาถึงวันนี้ เทียนเหอผู้นี้คงเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เย่หยวนเคยพบเจอ

ต่อให้จะมีพลังบ่มเพาะไม่ห่างกันมากแต่เวลาชะงักของเย่หยวนที่ใช้พลังกายสุดตัวออกมาก็ยังหยุดเขาลงได้แค่ชั่วเสี้ยววินาที

ส่วนเจ้าดาบแสงรวมจิตนั้น เย่หยวนต้องใช้พลังปราณเทวะที่เหลือออกมาจนแทบหมดสิ้น

การโจมตีทุ่มสุดตัวนี้ของเย่หยวนมันกลับไม่อาจสังหารเขาผู้นั้นลงได้

ทั้งๆ ที่ตัวเทียนเหอนั้นถูกกักขังผนึกไว้นานนับล้านปีและยังได้รับบาดเจ็บจากธนูสาบานสังหารเทพไปไม่น้อย

เทียนเหอบอกว่าตัวเองนั้นเคยฆ่าสังหารมังกรบรรพกาลมาก่อน เย่หยวนนั้นย่อมไม่มั่นใจได้ว่าเขาพูดจริงหรือไม่ แต่พลังของเขานี้มันก็คงมากพอทำได้!

แต่ดาบนี้ของเย่หยวนเองก็ได้ทำลายรากฐานพลังของเทียนเหอไปไม่น้อย ดูท่าแล้วเขาคงไม่อาจจะออกมาสร้างเรื่องราวได้อีกสักระยะใหญ่ๆ

เย่หยวนหยิบโอสถขึ้นมากลืนมันลงและนั่งพักฟื้นทันทีที่เทียนเหอจากไป

เวลานี้รอบๆ ตัวเขามันยังมียอดฝีมืออยู่อีกไม่น้อย เย่หยวนย่อมไม่กล้าที่จะประมาท

แต่ในเวลานั้นเองมันกลับมีสามเงาร่างพุ่งทะยานบินขึ้นไปหาธนูสาบานสังหารเทพ!

พวกเขาทั้งหลายนี้ต่างเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์สิ้น!

ที่แท้เวลาตอนนี้มันยังมีจักรพรรดิเทพสวรรค์ซ่อนตัวอยู่อีก!

ดูท่าแล้วคนทั้งหลายย่อมจะคิดไปหยิบเอาสิ่งที่คนทั้งหลายลืมสนใจไป

สามยอดจักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นต่อสู้กันอย่างดุดันบนท้องฟ้า ต่อสู้กันจนฟ้าดินแทบแตกแยกออกจากกันพลังปราณเทวะบินว่อนไปทุกทิศ

คนทั้งสามนี้ต่างต่อสู้กันอย่างสุดตัวไม่มีใครคิดยอมใคร

หากมีใครคนหนึ่งเข้าไปใกล้สมบัติ อีกสองคนก็จะหันมาร่วมมือกันทันที

สุดท้ายมันจึงกลายเป็นการต่อสู้ที่สุดแสนยุ่งเหยิง

ทุกผู้คนที่สัมผัสได้ถึงพลังนั้นต่างค่อยๆ ทิ้งระยะถอยตัวออกห่างมา

เวลานี้คนทั้งสามมีสภาพไม่ต่างจากสัตว์ร้ายที่คุ้มคลั่ง

เวลาเดียวกันทางเย่หยวนก็ใช้วรยุทธบ่มเพาะออกมาซึมซับพลังของโอสถเข้าไปฟื้นคืนพลังกายและปราณเทวะเรื่อยๆ

แต่เขากลับสัมผัสได้ว่ามีพลังรุนแรงจุดหนึ่งกำลังค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาใกล้ตัวเขา

ไม่ไกลออกไปจักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางได้กล่าวทักขึ้น “เจ้าคนที่ไม่ประเมินตัวเองทั้งหลาย เครื่องรางเต๋านั้นมันเป็นสิ่งที่พวกเจ้าคิดอยากได้ก็ได้หรือ? สหายหนุ่มเย่ เครื่องรางเต๋านี้มันอยู่ในระยะที่เจ้าเอื้อมถึงแท้ๆ เหตุใดจึงไม่คิดหยิบฉวยมันมาเล่า?”

ในเวลานี้จักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางที่ฟื้นฟูกำลังได้แล้วจึงได้ก้าวเดินเข้ามาหาเย่หยวน

เขานั้นเงยหน้าขึ้นมองดูธนูสาบานสังหารเทพบนท้องฟ้าด้วยสายตาแห่งความโลภและความเสียใจ

สมบัติล้ำค่าเช่นนี้มีหรือที่เขาจะไม่อยากได้มัน?

เพียงแค่ว่าสภาพของเขาในเวลานี้มันไม่มีทางจะหยิบฉวยมันมาได้แม้อยากได้มัน

แต่ก่อนหน้านี้เย่หยวนอยู่ใกล้เจ้าเครื่องรางเต๋านั้นกว่าเขามาก

ด้วยวิชาการเคลื่อนที่ของเย่หยวนการจะเข้าไปหยิบฉวยธนูสาบานสังหารเทพมามันก็คงมิใช่เรื่องที่เกินมือแต่เย่หยวนกลับไม่คิดแม้แต่จะหันไปมองที่มัน

เย่หยวนได้แต่ยิ้มตอบกลับมา “ธนูศักดิ์สิทธิ์ระดับนั้นปรากฏออกมามันย่อมจะทำให้เกิดเรื่องราวใหญ่โต บางทีเหล่าบรรพกาลทั้งหลายอาจจะหันมาสนใจเสียด้วยซ้ำ ข้านั้นไม่อยากจะถูกคนทั้งโลกตามล่านักและยังมีเรื่องอื่นที่สำคัญกว่าต้องทำอีกมาก”

จักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางนั้นผงะไปไม่น้อย ได้ยินเช่นนี้เขาย่อมเข้าใจได้ทันทีว่าเย่หยวนนั้นไม่ได้คิดสนใจเจ้าธนูสาบานสังหารเทพจริงๆ

นอกจากเจ้าเด็กคนนี้จะเก่งกาจเหนือฟ้า มีความสามารถในการเรียนรู้ที่เหนือคน เขาคนนี้ยังมีสติมากพอที่จะไปไหลตัวไปตามความโลภ

ต่อให้เป็นผีเฒ่าอย่างเขาก็ยังแทบไม่อาจควบคุมตัวเองไว้ได้ต่อหน้าสมบัติล้ำค่าอย่างธนูสาบานสังหารเทพทั้งอย่างนั้นเย่หยวนกลับสามารถตั้งสติได้อย่างหนักแน่น

หลังหยุดพูดไปพักหนึ่งเย่หยวนก็กล่าวขึ้นมาอีกครั้ง “อ่า จริงด้วยผู้อาวุโสเหลียวชาง เย่ผู้นี้มีเรื่องอยากขอคำสั่งสอนจากท่านหน่อย”

จักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางนั้นติดหนีบุญคุณที่เย่หยวนช่วยชีวิตไว้เขาจึงรีบตอบกลับมาทันที “ไม่กล้ากล่าวถึงการสั่งสอนใด แต่หากสหายหนุ่มเย่มีเรื่องอยากถามข้า ข้าก็พร้อมรับฟัง”

เย่หยวนจึงกล่าวขึ้น “ตามที่ข้ารู้มานั้นเหนือกว่าอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์ไปมันควรเป็นอาณาจักรเต๋าบรรพกาล แต่เทียนเหอผู้นั้นมันกลับกล่าวถึงอาณาจักรเจ้าฟ้าดิน มันคือสิ่งใดหรือ?”

เพราะความเข้าใจเรื่องระดับการบ่มเพาะของเย่หยวนนั้นมันล้วนได้ยินมาจากปากหวู่เฉิน

แต่ไม่ว่าจะอย่างไรตัวจอมเทพนิรันดร์เองก็ยังเป็นแค่เทพสวรรค์ขั้นสุด สิ่งที่เขารู้มันย่อมไม่ได้อยู่ในระดับของเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลาย ตัวตนของอาณาจักรเจ้าฟ้าดินใดๆ เองเขาก็ย่อมจะไม่เคยได้ยินถึงมัน

จักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางนั้นเป็นถึงจักรพรรดิเทพสวรรค์ขั้นปลาย แน่นอนว่าเขาย่อมจะเข้าใจความลับต่างๆ มากกว่าคนทั่วไป

“ไม่แปลกหรอกที่สหายหนุ่มเย่จะไม่รู้จัก อาณาจักรเจ้าฟ้าดินนั้นมันคือสิ่งที่อยู่เหนือล้ำฟ้าเหนือล้ำดิน เป็นตัวตนผู้ปกครองมหาพิภพถงเทียนนี้อย่างแท้จริง! แม้ว่าเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายนั้นจะมีชีวิตที่ยาวนานแต่สุดท้ายวันหนึ่งมันก็จะดับลง สำหรับจักรพรรดิเทพสวรรค์ธรรมดาๆ แล้วความตายก็คือความตาย แต่หากคนผู้นั้นบ่มเพาะจนก้าวขึ้นถึงอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์เจ็ดดาวแล้วในทุกๆ ล้านล้านปีพวกเราก็จะได้พบเจอสิ่งที่เรียกว่าทุกข์ทลาย! ทุกข์ทลายนั้นมีอยู่ด้วยกันทั้งหมดห้าระดับ ขึ้นไปจนถึงระดับของเจ้าฟ้าดินห้าทลาย แต่ละทุกข์ทลายนั้นจะเป็นการทดสอบที่ยากจนเกินกว่าจะเอาชีวิตรอด จักรพรรดิเทพสวรรค์ขั้นปลายมากมายสุดท้ายก็ต้องตายลงไปเพราะทุกข์ทลายนี้ แต่ทว่าหากเมื่อคนผู้นั้นผ่านทุกข์ทลายไปได้แล้วเขาก็จะได้รับการจุติใหม่ เป็นเวลาที่พวกเขาจะได้สัมผัสถึงพลังของต้นกำเนิดเต๋าสวรรค์ เมื่อผ่านจุดนั้นไปได้คนผู้นั้นก็จะมีพลังเพิ่มขึ้นอย่างมากมายมหาศาล เราเรียกคนทั้งหลายที่ผ่านมันไปได้นั้นว่าอาณาจักรเจ้าฟ้าดิน!” จักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางเล่าบอก

เย่หยวนที่ได้ยินก็เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดในทันที เป็นเวลานี้เองที่เขาได้เข้าใจถึงตัวตนของอาณาจักรเจ้าฟ้าดิน

มีแท้ระหว่างอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์และอาณาจักรเต๋าบรรพกาลมันยังมีอาณาจักรเช่นนี้ซ่อนไว้อยู่

อาณาจักรนี้มันคือจักรพรรดิเทพสวรรค์ขั้นสุดผู้บรรลุที่หวู่เฉินเคยกล่าวถึง

เพียงแค่ว่าด้วยความเข้าใจของหวู่เฉินนั้นเขาย่อมไม่อาจจะรับรู้ถึงตัวตนของเหล่าเจ้าฟ้าดินได้และจึงเข้าใจผิดไปว่ามันคือส่วนปลายสุดของอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์

แม้ว่าเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์จะไม่อาจก้าวขึ้นเป็นเต๋าบรรพกาลได้แต่พวกเขาก็ยังสามารถรับรู้ถึงต้นกำเนิดเต๋าสวรรค์ได้ด้วยทุกข์ทลายนี้ จนเริ่มที่จะก้าวขึ้นถึงระดับของเต๋า

ในที่สุดเย่หยวนก็ได้เข้าใจว่าเหตุใดเหล่าจักรรพรรดิเทพสวรรค์เจ็ดดาวขึ้นไปนั้นถึงถูกยกย่องสูงล้ำกว่ายอดฝีมืออื่นๆ นัก

เพราะว่าพวกเขาทั้งหลายนี้มีสิทธิที่จะผ่านทุกข์ทลายนี้ไปได้ทุกเมื่อ

“เช่นนั้นแล้วเจ้าฟ้าดินห้าทลายนั้นแข็งแกร่งปานใด? เทียนเหอนั้นมันบอกว่ามันเคยสังหารแม้แต่เต๋าบรรพกาล หรือว่าตัวตนของเต๋าบรรพกาลนั้นจะไม่ได้เป็นนิรันดร์?” เย่หยวนถามขึ้น

จักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางยิ้มตอบกลับมา “อย่าว่าแต่เจ้าฟ้าดินห้าทลายเลย แต่เจ้าฟ้าดินหนึ่งทลายมันก็นับได้ว่าแข็งแกร่งจนยากจะเปรียบ! เมื่อจักรพรรดิเทพสวรรค์เจ็ดดาวผ่านขึ้นอาณาจักรเจ้าฟ้าดินไปได้แล้วพวกเขาก็จะแข็งแกร่งจนพอที่จะสังหารจักรพรรดิเทพสวรรค์เก้าดาวลงได้! แน่นอนว่าจักรพรรดิเทพสวรรค์เจ็ดดาวที่จะผ่านทุกข์ทลายไปได้นั้นมันคงมีแค่หนึ่งในล้านเพราะหากไม่มีความรู้และการบ่มเพาะที่ดีพอแล้วการท้าทายทุกข์ทลายมันก็เท่ากับการถามหาความตายดีๆ นี่เอง ส่วนเรื่องของเจ้าฟ้าดินห้าทลายนั้นจักรพรรดิผู้นี้เองก็ไม่แน่ใจ อย่าว่าแต่เจ้าฟ้าดินห้าทลาย แม้แต่สองทลายเองคนที่จะผ่านไปได้มันก็มีแค่หยิบมือ คนที่ผ่านสามทลายหรือสี่ทลายขึ้นไปได้นั้นยิ่งนับได้ว่าเป็นสุดยอดตัวตนที่ปกครองมหาพิภพถงเทียนนี้อย่างแท้จริง!”

จักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางค่อยๆ สูดหายใจเข้าลึกก่อนจะกล่าวขึ้นมาอีกครั้ง “ส่วนเรื่องของเหล่าเต๋าบรรพกาลนั้น… ตามที่ข้ารู้ พวกเขาย่อมจะเหนือล้ำไปกว่าอาณาจักรเจ้าฟ้าดิน ส่วนเรื่องที่ว่าเก่งกาจกว่ากันแค่ไหนนั้น ข้าเองก็ไม่ทราบแน่ เพราะตัวตนระดับนั้นมันมิใช่สิ่งที่จักรพรรดิผู้นี้จะเคยได้พบเจอ ข้าเพียงแค่รู้สึกว่าเจ้าฟ้าดินห้าทลายนั้นคงไม่ได้อ่อนแอกว่าเต๋าบรรพกาลไปมากมายหรอก เจ้าคิดว่าอย่างไรเล่า?”

ดูท่าตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางเองก็คงไม่เคยจะได้พบเจอเหล่ายอดฝีมือที่แท้จริงทั้งหลายนั้น

เย่หยวนจึงได้แต่ก้มหน้าลง เวลานี้เขาได้เข้าใจมหาพิภพถงเทียนมากขึ้นอีกไม่น้อย

แต่สิ่งที่เขามั่นใจก็คือเทียนเหอนั้นเก่งกาจจนถึงที่สุด

แปดเจ้าฟ้าดินสี่ทลายทั้งหลายนั้นกลับไม่อาจสังหารเขาลงและทำได้เพียงแค่ผนึกเขา

พลังของเจ้าหมอนี่มันอาจจะไม่ด้อยกว่าเต๋าบรรพกาลจริงๆ

หากอยากจะเข้าใจเรื่องราวจริงๆ ทางเดียวของเขาคงต้องเป็นการไปถามตัวมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาล

มีเพียงแค่คนระดับนั้นเท่านั้นที่จะเข้าใจได้อย่างแท้จริง

“เป็นเช่นนั้นเอง ขอบคุณผู้อาวุโสเหลียวชาง! เวลานี้เย่ผู้นี้มีเรื่องสำคัญต้องไปทำต่อ ขอตัวลา!”

พูดจบเย่หยวนก็พุ่งตัวเข้าไปหาผีเทพสวรรค์ขวังต้าวที่กำลังดูการต่อสู้บนท้องฟ้าอยู่

“ฮ่าๆๆ… เครื่องรางเต๋านี้มันเป็นของจักรพรรดิผู้นี้!”

ในเวลาเดียวกันนั้นทางการต่อสู้ของสามจักรพรรดิเทพสวรรค์มันก็ได้รู้ผลมีคนหนึ่งที่ก้าวขึ้นไปถึงระยะที่จะหยิบธนูสาบานสังหารเทพได้ในที่สุด

แต่ระหว่างที่เขาหัวเราะยื่นมือไปหยิบนั้นธนูสาบานสังหารเทพก็ปล่อยคลื่นพลังสว่างล้ำออกมา

ลูกศรแสงพุ่งผ่านไปทำลายร่างของจักรพรรดิเทพสวรรค์ผู้นั้นลงจนไม่เหลือแม้แต่เศษเสี้ยว

เย่หยวนที่เห็นก็ได้แต่ต้องส่ายหัวออกมา

เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายนี้อยู่มานานแสนนานแต่กลับไม่มีปัญญาที่จะประเมินพลังของตัวเอง

มีหรือที่สมบัติระดับนี้มันจะเป็นสิ่งที่พวกเขาทั้งหลายเอามาครองได้?

“ไปกัน!” พูดจบเย่หยวนก็เดินนำเทพสวรรค์ขวังต้าวเดินจากไปจากฝูงชน

ไม่นานจากนั้นมันก็มีคลื่นพลังรุนแรงหนักหน่วงพุ่งทะยานมาจากขอบฟ้าไกล

และคลื่นพลังแต่ละสายที่กำลังมุ่งหน้ามานี้ต่างเหนือล้ำกว่าจักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางสิ้น!

………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2246 เจ้าฟ้าดินห้าทลาย!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2246 เจ้าฟ้าดินห้าทลาย! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จะอย่างไรเสียมันก็คงต้องยอมรับถึงความเก่งกาจของเทียนเหออย่างไม่อาจเถียง

ตั้งแต่เกิดจนมาถึงวันนี้ เทียนเหอผู้นี้คงเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เย่หยวนเคยพบเจอ

ต่อให้จะมีพลังบ่มเพาะไม่ห่างกันมากแต่เวลาชะงักของเย่หยวนที่ใช้พลังกายสุดตัวออกมาก็ยังหยุดเขาลงได้แค่ชั่วเสี้ยววินาที

ส่วนเจ้าดาบแสงรวมจิตนั้น เย่หยวนต้องใช้พลังปราณเทวะที่เหลือออกมาจนแทบหมดสิ้น

การโจมตีทุ่มสุดตัวนี้ของเย่หยวนมันกลับไม่อาจสังหารเขาผู้นั้นลงได้

ทั้งๆ ที่ตัวเทียนเหอนั้นถูกกักขังผนึกไว้นานนับล้านปีและยังได้รับบาดเจ็บจากธนูสาบานสังหารเทพไปไม่น้อย

เทียนเหอบอกว่าตัวเองนั้นเคยฆ่าสังหารมังกรบรรพกาลมาก่อน เย่หยวนนั้นย่อมไม่มั่นใจได้ว่าเขาพูดจริงหรือไม่ แต่พลังของเขานี้มันก็คงมากพอทำได้!

แต่ดาบนี้ของเย่หยวนเองก็ได้ทำลายรากฐานพลังของเทียนเหอไปไม่น้อย ดูท่าแล้วเขาคงไม่อาจจะออกมาสร้างเรื่องราวได้อีกสักระยะใหญ่ๆ

เย่หยวนหยิบโอสถขึ้นมากลืนมันลงและนั่งพักฟื้นทันทีที่เทียนเหอจากไป

เวลานี้รอบๆ ตัวเขามันยังมียอดฝีมืออยู่อีกไม่น้อย เย่หยวนย่อมไม่กล้าที่จะประมาท

แต่ในเวลานั้นเองมันกลับมีสามเงาร่างพุ่งทะยานบินขึ้นไปหาธนูสาบานสังหารเทพ!

พวกเขาทั้งหลายนี้ต่างเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์สิ้น!

ที่แท้เวลาตอนนี้มันยังมีจักรพรรดิเทพสวรรค์ซ่อนตัวอยู่อีก!

ดูท่าแล้วคนทั้งหลายย่อมจะคิดไปหยิบเอาสิ่งที่คนทั้งหลายลืมสนใจไป

สามยอดจักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นต่อสู้กันอย่างดุดันบนท้องฟ้า ต่อสู้กันจนฟ้าดินแทบแตกแยกออกจากกันพลังปราณเทวะบินว่อนไปทุกทิศ

คนทั้งสามนี้ต่างต่อสู้กันอย่างสุดตัวไม่มีใครคิดยอมใคร

หากมีใครคนหนึ่งเข้าไปใกล้สมบัติ อีกสองคนก็จะหันมาร่วมมือกันทันที

สุดท้ายมันจึงกลายเป็นการต่อสู้ที่สุดแสนยุ่งเหยิง

ทุกผู้คนที่สัมผัสได้ถึงพลังนั้นต่างค่อยๆ ทิ้งระยะถอยตัวออกห่างมา

เวลานี้คนทั้งสามมีสภาพไม่ต่างจากสัตว์ร้ายที่คุ้มคลั่ง

เวลาเดียวกันทางเย่หยวนก็ใช้วรยุทธบ่มเพาะออกมาซึมซับพลังของโอสถเข้าไปฟื้นคืนพลังกายและปราณเทวะเรื่อยๆ

แต่เขากลับสัมผัสได้ว่ามีพลังรุนแรงจุดหนึ่งกำลังค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาใกล้ตัวเขา

ไม่ไกลออกไปจักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางได้กล่าวทักขึ้น “เจ้าคนที่ไม่ประเมินตัวเองทั้งหลาย เครื่องรางเต๋านั้นมันเป็นสิ่งที่พวกเจ้าคิดอยากได้ก็ได้หรือ? สหายหนุ่มเย่ เครื่องรางเต๋านี้มันอยู่ในระยะที่เจ้าเอื้อมถึงแท้ๆ เหตุใดจึงไม่คิดหยิบฉวยมันมาเล่า?”

ในเวลานี้จักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางที่ฟื้นฟูกำลังได้แล้วจึงได้ก้าวเดินเข้ามาหาเย่หยวน

เขานั้นเงยหน้าขึ้นมองดูธนูสาบานสังหารเทพบนท้องฟ้าด้วยสายตาแห่งความโลภและความเสียใจ

สมบัติล้ำค่าเช่นนี้มีหรือที่เขาจะไม่อยากได้มัน?

เพียงแค่ว่าสภาพของเขาในเวลานี้มันไม่มีทางจะหยิบฉวยมันมาได้แม้อยากได้มัน

แต่ก่อนหน้านี้เย่หยวนอยู่ใกล้เจ้าเครื่องรางเต๋านั้นกว่าเขามาก

ด้วยวิชาการเคลื่อนที่ของเย่หยวนการจะเข้าไปหยิบฉวยธนูสาบานสังหารเทพมามันก็คงมิใช่เรื่องที่เกินมือแต่เย่หยวนกลับไม่คิดแม้แต่จะหันไปมองที่มัน

เย่หยวนได้แต่ยิ้มตอบกลับมา “ธนูศักดิ์สิทธิ์ระดับนั้นปรากฏออกมามันย่อมจะทำให้เกิดเรื่องราวใหญ่โต บางทีเหล่าบรรพกาลทั้งหลายอาจจะหันมาสนใจเสียด้วยซ้ำ ข้านั้นไม่อยากจะถูกคนทั้งโลกตามล่านักและยังมีเรื่องอื่นที่สำคัญกว่าต้องทำอีกมาก”

จักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางนั้นผงะไปไม่น้อย ได้ยินเช่นนี้เขาย่อมเข้าใจได้ทันทีว่าเย่หยวนนั้นไม่ได้คิดสนใจเจ้าธนูสาบานสังหารเทพจริงๆ

นอกจากเจ้าเด็กคนนี้จะเก่งกาจเหนือฟ้า มีความสามารถในการเรียนรู้ที่เหนือคน เขาคนนี้ยังมีสติมากพอที่จะไปไหลตัวไปตามความโลภ

ต่อให้เป็นผีเฒ่าอย่างเขาก็ยังแทบไม่อาจควบคุมตัวเองไว้ได้ต่อหน้าสมบัติล้ำค่าอย่างธนูสาบานสังหารเทพทั้งอย่างนั้นเย่หยวนกลับสามารถตั้งสติได้อย่างหนักแน่น

หลังหยุดพูดไปพักหนึ่งเย่หยวนก็กล่าวขึ้นมาอีกครั้ง “อ่า จริงด้วยผู้อาวุโสเหลียวชาง เย่ผู้นี้มีเรื่องอยากขอคำสั่งสอนจากท่านหน่อย”

จักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางนั้นติดหนีบุญคุณที่เย่หยวนช่วยชีวิตไว้เขาจึงรีบตอบกลับมาทันที “ไม่กล้ากล่าวถึงการสั่งสอนใด แต่หากสหายหนุ่มเย่มีเรื่องอยากถามข้า ข้าก็พร้อมรับฟัง”

เย่หยวนจึงกล่าวขึ้น “ตามที่ข้ารู้มานั้นเหนือกว่าอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์ไปมันควรเป็นอาณาจักรเต๋าบรรพกาล แต่เทียนเหอผู้นั้นมันกลับกล่าวถึงอาณาจักรเจ้าฟ้าดิน มันคือสิ่งใดหรือ?”

เพราะความเข้าใจเรื่องระดับการบ่มเพาะของเย่หยวนนั้นมันล้วนได้ยินมาจากปากหวู่เฉิน

แต่ไม่ว่าจะอย่างไรตัวจอมเทพนิรันดร์เองก็ยังเป็นแค่เทพสวรรค์ขั้นสุด สิ่งที่เขารู้มันย่อมไม่ได้อยู่ในระดับของเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลาย ตัวตนของอาณาจักรเจ้าฟ้าดินใดๆ เองเขาก็ย่อมจะไม่เคยได้ยินถึงมัน

จักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางนั้นเป็นถึงจักรพรรดิเทพสวรรค์ขั้นปลาย แน่นอนว่าเขาย่อมจะเข้าใจความลับต่างๆ มากกว่าคนทั่วไป

“ไม่แปลกหรอกที่สหายหนุ่มเย่จะไม่รู้จัก อาณาจักรเจ้าฟ้าดินนั้นมันคือสิ่งที่อยู่เหนือล้ำฟ้าเหนือล้ำดิน เป็นตัวตนผู้ปกครองมหาพิภพถงเทียนนี้อย่างแท้จริง! แม้ว่าเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายนั้นจะมีชีวิตที่ยาวนานแต่สุดท้ายวันหนึ่งมันก็จะดับลง สำหรับจักรพรรดิเทพสวรรค์ธรรมดาๆ แล้วความตายก็คือความตาย แต่หากคนผู้นั้นบ่มเพาะจนก้าวขึ้นถึงอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์เจ็ดดาวแล้วในทุกๆ ล้านล้านปีพวกเราก็จะได้พบเจอสิ่งที่เรียกว่าทุกข์ทลาย! ทุกข์ทลายนั้นมีอยู่ด้วยกันทั้งหมดห้าระดับ ขึ้นไปจนถึงระดับของเจ้าฟ้าดินห้าทลาย แต่ละทุกข์ทลายนั้นจะเป็นการทดสอบที่ยากจนเกินกว่าจะเอาชีวิตรอด จักรพรรดิเทพสวรรค์ขั้นปลายมากมายสุดท้ายก็ต้องตายลงไปเพราะทุกข์ทลายนี้ แต่ทว่าหากเมื่อคนผู้นั้นผ่านทุกข์ทลายไปได้แล้วเขาก็จะได้รับการจุติใหม่ เป็นเวลาที่พวกเขาจะได้สัมผัสถึงพลังของต้นกำเนิดเต๋าสวรรค์ เมื่อผ่านจุดนั้นไปได้คนผู้นั้นก็จะมีพลังเพิ่มขึ้นอย่างมากมายมหาศาล เราเรียกคนทั้งหลายที่ผ่านมันไปได้นั้นว่าอาณาจักรเจ้าฟ้าดิน!” จักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางเล่าบอก

เย่หยวนที่ได้ยินก็เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดในทันที เป็นเวลานี้เองที่เขาได้เข้าใจถึงตัวตนของอาณาจักรเจ้าฟ้าดิน

มีแท้ระหว่างอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์และอาณาจักรเต๋าบรรพกาลมันยังมีอาณาจักรเช่นนี้ซ่อนไว้อยู่

อาณาจักรนี้มันคือจักรพรรดิเทพสวรรค์ขั้นสุดผู้บรรลุที่หวู่เฉินเคยกล่าวถึง

เพียงแค่ว่าด้วยความเข้าใจของหวู่เฉินนั้นเขาย่อมไม่อาจจะรับรู้ถึงตัวตนของเหล่าเจ้าฟ้าดินได้และจึงเข้าใจผิดไปว่ามันคือส่วนปลายสุดของอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์

แม้ว่าเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์จะไม่อาจก้าวขึ้นเป็นเต๋าบรรพกาลได้แต่พวกเขาก็ยังสามารถรับรู้ถึงต้นกำเนิดเต๋าสวรรค์ได้ด้วยทุกข์ทลายนี้ จนเริ่มที่จะก้าวขึ้นถึงระดับของเต๋า

ในที่สุดเย่หยวนก็ได้เข้าใจว่าเหตุใดเหล่าจักรรพรรดิเทพสวรรค์เจ็ดดาวขึ้นไปนั้นถึงถูกยกย่องสูงล้ำกว่ายอดฝีมืออื่นๆ นัก

เพราะว่าพวกเขาทั้งหลายนี้มีสิทธิที่จะผ่านทุกข์ทลายนี้ไปได้ทุกเมื่อ

“เช่นนั้นแล้วเจ้าฟ้าดินห้าทลายนั้นแข็งแกร่งปานใด? เทียนเหอนั้นมันบอกว่ามันเคยสังหารแม้แต่เต๋าบรรพกาล หรือว่าตัวตนของเต๋าบรรพกาลนั้นจะไม่ได้เป็นนิรันดร์?” เย่หยวนถามขึ้น

จักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางยิ้มตอบกลับมา “อย่าว่าแต่เจ้าฟ้าดินห้าทลายเลย แต่เจ้าฟ้าดินหนึ่งทลายมันก็นับได้ว่าแข็งแกร่งจนยากจะเปรียบ! เมื่อจักรพรรดิเทพสวรรค์เจ็ดดาวผ่านขึ้นอาณาจักรเจ้าฟ้าดินไปได้แล้วพวกเขาก็จะแข็งแกร่งจนพอที่จะสังหารจักรพรรดิเทพสวรรค์เก้าดาวลงได้! แน่นอนว่าจักรพรรดิเทพสวรรค์เจ็ดดาวที่จะผ่านทุกข์ทลายไปได้นั้นมันคงมีแค่หนึ่งในล้านเพราะหากไม่มีความรู้และการบ่มเพาะที่ดีพอแล้วการท้าทายทุกข์ทลายมันก็เท่ากับการถามหาความตายดีๆ นี่เอง ส่วนเรื่องของเจ้าฟ้าดินห้าทลายนั้นจักรพรรดิผู้นี้เองก็ไม่แน่ใจ อย่าว่าแต่เจ้าฟ้าดินห้าทลาย แม้แต่สองทลายเองคนที่จะผ่านไปได้มันก็มีแค่หยิบมือ คนที่ผ่านสามทลายหรือสี่ทลายขึ้นไปได้นั้นยิ่งนับได้ว่าเป็นสุดยอดตัวตนที่ปกครองมหาพิภพถงเทียนนี้อย่างแท้จริง!”

จักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางค่อยๆ สูดหายใจเข้าลึกก่อนจะกล่าวขึ้นมาอีกครั้ง “ส่วนเรื่องของเหล่าเต๋าบรรพกาลนั้น… ตามที่ข้ารู้ พวกเขาย่อมจะเหนือล้ำไปกว่าอาณาจักรเจ้าฟ้าดิน ส่วนเรื่องที่ว่าเก่งกาจกว่ากันแค่ไหนนั้น ข้าเองก็ไม่ทราบแน่ เพราะตัวตนระดับนั้นมันมิใช่สิ่งที่จักรพรรดิผู้นี้จะเคยได้พบเจอ ข้าเพียงแค่รู้สึกว่าเจ้าฟ้าดินห้าทลายนั้นคงไม่ได้อ่อนแอกว่าเต๋าบรรพกาลไปมากมายหรอก เจ้าคิดว่าอย่างไรเล่า?”

ดูท่าตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางเองก็คงไม่เคยจะได้พบเจอเหล่ายอดฝีมือที่แท้จริงทั้งหลายนั้น

เย่หยวนจึงได้แต่ก้มหน้าลง เวลานี้เขาได้เข้าใจมหาพิภพถงเทียนมากขึ้นอีกไม่น้อย

แต่สิ่งที่เขามั่นใจก็คือเทียนเหอนั้นเก่งกาจจนถึงที่สุด

แปดเจ้าฟ้าดินสี่ทลายทั้งหลายนั้นกลับไม่อาจสังหารเขาลงและทำได้เพียงแค่ผนึกเขา

พลังของเจ้าหมอนี่มันอาจจะไม่ด้อยกว่าเต๋าบรรพกาลจริงๆ

หากอยากจะเข้าใจเรื่องราวจริงๆ ทางเดียวของเขาคงต้องเป็นการไปถามตัวมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาล

มีเพียงแค่คนระดับนั้นเท่านั้นที่จะเข้าใจได้อย่างแท้จริง

“เป็นเช่นนั้นเอง ขอบคุณผู้อาวุโสเหลียวชาง! เวลานี้เย่ผู้นี้มีเรื่องสำคัญต้องไปทำต่อ ขอตัวลา!”

พูดจบเย่หยวนก็พุ่งตัวเข้าไปหาผีเทพสวรรค์ขวังต้าวที่กำลังดูการต่อสู้บนท้องฟ้าอยู่

“ฮ่าๆๆ… เครื่องรางเต๋านี้มันเป็นของจักรพรรดิผู้นี้!”

ในเวลาเดียวกันนั้นทางการต่อสู้ของสามจักรพรรดิเทพสวรรค์มันก็ได้รู้ผลมีคนหนึ่งที่ก้าวขึ้นไปถึงระยะที่จะหยิบธนูสาบานสังหารเทพได้ในที่สุด

แต่ระหว่างที่เขาหัวเราะยื่นมือไปหยิบนั้นธนูสาบานสังหารเทพก็ปล่อยคลื่นพลังสว่างล้ำออกมา

ลูกศรแสงพุ่งผ่านไปทำลายร่างของจักรพรรดิเทพสวรรค์ผู้นั้นลงจนไม่เหลือแม้แต่เศษเสี้ยว

เย่หยวนที่เห็นก็ได้แต่ต้องส่ายหัวออกมา

เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายนี้อยู่มานานแสนนานแต่กลับไม่มีปัญญาที่จะประเมินพลังของตัวเอง

มีหรือที่สมบัติระดับนี้มันจะเป็นสิ่งที่พวกเขาทั้งหลายเอามาครองได้?

“ไปกัน!” พูดจบเย่หยวนก็เดินนำเทพสวรรค์ขวังต้าวเดินจากไปจากฝูงชน

ไม่นานจากนั้นมันก็มีคลื่นพลังรุนแรงหนักหน่วงพุ่งทะยานมาจากขอบฟ้าไกล

และคลื่นพลังแต่ละสายที่กำลังมุ่งหน้ามานี้ต่างเหนือล้ำกว่าจักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางสิ้น!

………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2246 เจ้าฟ้าดินห้าทลาย!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2246 เจ้าฟ้าดินห้าทลาย! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จะอย่างไรเสียมันก็คงต้องยอมรับถึงความเก่งกาจของเทียนเหออย่างไม่อาจเถียง

ตั้งแต่เกิดจนมาถึงวันนี้ เทียนเหอผู้นี้คงเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เย่หยวนเคยพบเจอ

ต่อให้จะมีพลังบ่มเพาะไม่ห่างกันมากแต่เวลาชะงักของเย่หยวนที่ใช้พลังกายสุดตัวออกมาก็ยังหยุดเขาลงได้แค่ชั่วเสี้ยววินาที

ส่วนเจ้าดาบแสงรวมจิตนั้น เย่หยวนต้องใช้พลังปราณเทวะที่เหลือออกมาจนแทบหมดสิ้น

การโจมตีทุ่มสุดตัวนี้ของเย่หยวนมันกลับไม่อาจสังหารเขาผู้นั้นลงได้

ทั้งๆ ที่ตัวเทียนเหอนั้นถูกกักขังผนึกไว้นานนับล้านปีและยังได้รับบาดเจ็บจากธนูสาบานสังหารเทพไปไม่น้อย

เทียนเหอบอกว่าตัวเองนั้นเคยฆ่าสังหารมังกรบรรพกาลมาก่อน เย่หยวนนั้นย่อมไม่มั่นใจได้ว่าเขาพูดจริงหรือไม่ แต่พลังของเขานี้มันก็คงมากพอทำได้!

แต่ดาบนี้ของเย่หยวนเองก็ได้ทำลายรากฐานพลังของเทียนเหอไปไม่น้อย ดูท่าแล้วเขาคงไม่อาจจะออกมาสร้างเรื่องราวได้อีกสักระยะใหญ่ๆ

เย่หยวนหยิบโอสถขึ้นมากลืนมันลงและนั่งพักฟื้นทันทีที่เทียนเหอจากไป

เวลานี้รอบๆ ตัวเขามันยังมียอดฝีมืออยู่อีกไม่น้อย เย่หยวนย่อมไม่กล้าที่จะประมาท

แต่ในเวลานั้นเองมันกลับมีสามเงาร่างพุ่งทะยานบินขึ้นไปหาธนูสาบานสังหารเทพ!

พวกเขาทั้งหลายนี้ต่างเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์สิ้น!

ที่แท้เวลาตอนนี้มันยังมีจักรพรรดิเทพสวรรค์ซ่อนตัวอยู่อีก!

ดูท่าแล้วคนทั้งหลายย่อมจะคิดไปหยิบเอาสิ่งที่คนทั้งหลายลืมสนใจไป

สามยอดจักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นต่อสู้กันอย่างดุดันบนท้องฟ้า ต่อสู้กันจนฟ้าดินแทบแตกแยกออกจากกันพลังปราณเทวะบินว่อนไปทุกทิศ

คนทั้งสามนี้ต่างต่อสู้กันอย่างสุดตัวไม่มีใครคิดยอมใคร

หากมีใครคนหนึ่งเข้าไปใกล้สมบัติ อีกสองคนก็จะหันมาร่วมมือกันทันที

สุดท้ายมันจึงกลายเป็นการต่อสู้ที่สุดแสนยุ่งเหยิง

ทุกผู้คนที่สัมผัสได้ถึงพลังนั้นต่างค่อยๆ ทิ้งระยะถอยตัวออกห่างมา

เวลานี้คนทั้งสามมีสภาพไม่ต่างจากสัตว์ร้ายที่คุ้มคลั่ง

เวลาเดียวกันทางเย่หยวนก็ใช้วรยุทธบ่มเพาะออกมาซึมซับพลังของโอสถเข้าไปฟื้นคืนพลังกายและปราณเทวะเรื่อยๆ

แต่เขากลับสัมผัสได้ว่ามีพลังรุนแรงจุดหนึ่งกำลังค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาใกล้ตัวเขา

ไม่ไกลออกไปจักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางได้กล่าวทักขึ้น “เจ้าคนที่ไม่ประเมินตัวเองทั้งหลาย เครื่องรางเต๋านั้นมันเป็นสิ่งที่พวกเจ้าคิดอยากได้ก็ได้หรือ? สหายหนุ่มเย่ เครื่องรางเต๋านี้มันอยู่ในระยะที่เจ้าเอื้อมถึงแท้ๆ เหตุใดจึงไม่คิดหยิบฉวยมันมาเล่า?”

ในเวลานี้จักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางที่ฟื้นฟูกำลังได้แล้วจึงได้ก้าวเดินเข้ามาหาเย่หยวน

เขานั้นเงยหน้าขึ้นมองดูธนูสาบานสังหารเทพบนท้องฟ้าด้วยสายตาแห่งความโลภและความเสียใจ

สมบัติล้ำค่าเช่นนี้มีหรือที่เขาจะไม่อยากได้มัน?

เพียงแค่ว่าสภาพของเขาในเวลานี้มันไม่มีทางจะหยิบฉวยมันมาได้แม้อยากได้มัน

แต่ก่อนหน้านี้เย่หยวนอยู่ใกล้เจ้าเครื่องรางเต๋านั้นกว่าเขามาก

ด้วยวิชาการเคลื่อนที่ของเย่หยวนการจะเข้าไปหยิบฉวยธนูสาบานสังหารเทพมามันก็คงมิใช่เรื่องที่เกินมือแต่เย่หยวนกลับไม่คิดแม้แต่จะหันไปมองที่มัน

เย่หยวนได้แต่ยิ้มตอบกลับมา “ธนูศักดิ์สิทธิ์ระดับนั้นปรากฏออกมามันย่อมจะทำให้เกิดเรื่องราวใหญ่โต บางทีเหล่าบรรพกาลทั้งหลายอาจจะหันมาสนใจเสียด้วยซ้ำ ข้านั้นไม่อยากจะถูกคนทั้งโลกตามล่านักและยังมีเรื่องอื่นที่สำคัญกว่าต้องทำอีกมาก”

จักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางนั้นผงะไปไม่น้อย ได้ยินเช่นนี้เขาย่อมเข้าใจได้ทันทีว่าเย่หยวนนั้นไม่ได้คิดสนใจเจ้าธนูสาบานสังหารเทพจริงๆ

นอกจากเจ้าเด็กคนนี้จะเก่งกาจเหนือฟ้า มีความสามารถในการเรียนรู้ที่เหนือคน เขาคนนี้ยังมีสติมากพอที่จะไปไหลตัวไปตามความโลภ

ต่อให้เป็นผีเฒ่าอย่างเขาก็ยังแทบไม่อาจควบคุมตัวเองไว้ได้ต่อหน้าสมบัติล้ำค่าอย่างธนูสาบานสังหารเทพทั้งอย่างนั้นเย่หยวนกลับสามารถตั้งสติได้อย่างหนักแน่น

หลังหยุดพูดไปพักหนึ่งเย่หยวนก็กล่าวขึ้นมาอีกครั้ง “อ่า จริงด้วยผู้อาวุโสเหลียวชาง เย่ผู้นี้มีเรื่องอยากขอคำสั่งสอนจากท่านหน่อย”

จักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางนั้นติดหนีบุญคุณที่เย่หยวนช่วยชีวิตไว้เขาจึงรีบตอบกลับมาทันที “ไม่กล้ากล่าวถึงการสั่งสอนใด แต่หากสหายหนุ่มเย่มีเรื่องอยากถามข้า ข้าก็พร้อมรับฟัง”

เย่หยวนจึงกล่าวขึ้น “ตามที่ข้ารู้มานั้นเหนือกว่าอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์ไปมันควรเป็นอาณาจักรเต๋าบรรพกาล แต่เทียนเหอผู้นั้นมันกลับกล่าวถึงอาณาจักรเจ้าฟ้าดิน มันคือสิ่งใดหรือ?”

เพราะความเข้าใจเรื่องระดับการบ่มเพาะของเย่หยวนนั้นมันล้วนได้ยินมาจากปากหวู่เฉิน

แต่ไม่ว่าจะอย่างไรตัวจอมเทพนิรันดร์เองก็ยังเป็นแค่เทพสวรรค์ขั้นสุด สิ่งที่เขารู้มันย่อมไม่ได้อยู่ในระดับของเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลาย ตัวตนของอาณาจักรเจ้าฟ้าดินใดๆ เองเขาก็ย่อมจะไม่เคยได้ยินถึงมัน

จักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางนั้นเป็นถึงจักรพรรดิเทพสวรรค์ขั้นปลาย แน่นอนว่าเขาย่อมจะเข้าใจความลับต่างๆ มากกว่าคนทั่วไป

“ไม่แปลกหรอกที่สหายหนุ่มเย่จะไม่รู้จัก อาณาจักรเจ้าฟ้าดินนั้นมันคือสิ่งที่อยู่เหนือล้ำฟ้าเหนือล้ำดิน เป็นตัวตนผู้ปกครองมหาพิภพถงเทียนนี้อย่างแท้จริง! แม้ว่าเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายนั้นจะมีชีวิตที่ยาวนานแต่สุดท้ายวันหนึ่งมันก็จะดับลง สำหรับจักรพรรดิเทพสวรรค์ธรรมดาๆ แล้วความตายก็คือความตาย แต่หากคนผู้นั้นบ่มเพาะจนก้าวขึ้นถึงอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์เจ็ดดาวแล้วในทุกๆ ล้านล้านปีพวกเราก็จะได้พบเจอสิ่งที่เรียกว่าทุกข์ทลาย! ทุกข์ทลายนั้นมีอยู่ด้วยกันทั้งหมดห้าระดับ ขึ้นไปจนถึงระดับของเจ้าฟ้าดินห้าทลาย แต่ละทุกข์ทลายนั้นจะเป็นการทดสอบที่ยากจนเกินกว่าจะเอาชีวิตรอด จักรพรรดิเทพสวรรค์ขั้นปลายมากมายสุดท้ายก็ต้องตายลงไปเพราะทุกข์ทลายนี้ แต่ทว่าหากเมื่อคนผู้นั้นผ่านทุกข์ทลายไปได้แล้วเขาก็จะได้รับการจุติใหม่ เป็นเวลาที่พวกเขาจะได้สัมผัสถึงพลังของต้นกำเนิดเต๋าสวรรค์ เมื่อผ่านจุดนั้นไปได้คนผู้นั้นก็จะมีพลังเพิ่มขึ้นอย่างมากมายมหาศาล เราเรียกคนทั้งหลายที่ผ่านมันไปได้นั้นว่าอาณาจักรเจ้าฟ้าดิน!” จักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางเล่าบอก

เย่หยวนที่ได้ยินก็เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดในทันที เป็นเวลานี้เองที่เขาได้เข้าใจถึงตัวตนของอาณาจักรเจ้าฟ้าดิน

มีแท้ระหว่างอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์และอาณาจักรเต๋าบรรพกาลมันยังมีอาณาจักรเช่นนี้ซ่อนไว้อยู่

อาณาจักรนี้มันคือจักรพรรดิเทพสวรรค์ขั้นสุดผู้บรรลุที่หวู่เฉินเคยกล่าวถึง

เพียงแค่ว่าด้วยความเข้าใจของหวู่เฉินนั้นเขาย่อมไม่อาจจะรับรู้ถึงตัวตนของเหล่าเจ้าฟ้าดินได้และจึงเข้าใจผิดไปว่ามันคือส่วนปลายสุดของอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์

แม้ว่าเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์จะไม่อาจก้าวขึ้นเป็นเต๋าบรรพกาลได้แต่พวกเขาก็ยังสามารถรับรู้ถึงต้นกำเนิดเต๋าสวรรค์ได้ด้วยทุกข์ทลายนี้ จนเริ่มที่จะก้าวขึ้นถึงระดับของเต๋า

ในที่สุดเย่หยวนก็ได้เข้าใจว่าเหตุใดเหล่าจักรรพรรดิเทพสวรรค์เจ็ดดาวขึ้นไปนั้นถึงถูกยกย่องสูงล้ำกว่ายอดฝีมืออื่นๆ นัก

เพราะว่าพวกเขาทั้งหลายนี้มีสิทธิที่จะผ่านทุกข์ทลายนี้ไปได้ทุกเมื่อ

“เช่นนั้นแล้วเจ้าฟ้าดินห้าทลายนั้นแข็งแกร่งปานใด? เทียนเหอนั้นมันบอกว่ามันเคยสังหารแม้แต่เต๋าบรรพกาล หรือว่าตัวตนของเต๋าบรรพกาลนั้นจะไม่ได้เป็นนิรันดร์?” เย่หยวนถามขึ้น

จักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางยิ้มตอบกลับมา “อย่าว่าแต่เจ้าฟ้าดินห้าทลายเลย แต่เจ้าฟ้าดินหนึ่งทลายมันก็นับได้ว่าแข็งแกร่งจนยากจะเปรียบ! เมื่อจักรพรรดิเทพสวรรค์เจ็ดดาวผ่านขึ้นอาณาจักรเจ้าฟ้าดินไปได้แล้วพวกเขาก็จะแข็งแกร่งจนพอที่จะสังหารจักรพรรดิเทพสวรรค์เก้าดาวลงได้! แน่นอนว่าจักรพรรดิเทพสวรรค์เจ็ดดาวที่จะผ่านทุกข์ทลายไปได้นั้นมันคงมีแค่หนึ่งในล้านเพราะหากไม่มีความรู้และการบ่มเพาะที่ดีพอแล้วการท้าทายทุกข์ทลายมันก็เท่ากับการถามหาความตายดีๆ นี่เอง ส่วนเรื่องของเจ้าฟ้าดินห้าทลายนั้นจักรพรรดิผู้นี้เองก็ไม่แน่ใจ อย่าว่าแต่เจ้าฟ้าดินห้าทลาย แม้แต่สองทลายเองคนที่จะผ่านไปได้มันก็มีแค่หยิบมือ คนที่ผ่านสามทลายหรือสี่ทลายขึ้นไปได้นั้นยิ่งนับได้ว่าเป็นสุดยอดตัวตนที่ปกครองมหาพิภพถงเทียนนี้อย่างแท้จริง!”

จักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางค่อยๆ สูดหายใจเข้าลึกก่อนจะกล่าวขึ้นมาอีกครั้ง “ส่วนเรื่องของเหล่าเต๋าบรรพกาลนั้น… ตามที่ข้ารู้ พวกเขาย่อมจะเหนือล้ำไปกว่าอาณาจักรเจ้าฟ้าดิน ส่วนเรื่องที่ว่าเก่งกาจกว่ากันแค่ไหนนั้น ข้าเองก็ไม่ทราบแน่ เพราะตัวตนระดับนั้นมันมิใช่สิ่งที่จักรพรรดิผู้นี้จะเคยได้พบเจอ ข้าเพียงแค่รู้สึกว่าเจ้าฟ้าดินห้าทลายนั้นคงไม่ได้อ่อนแอกว่าเต๋าบรรพกาลไปมากมายหรอก เจ้าคิดว่าอย่างไรเล่า?”

ดูท่าตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางเองก็คงไม่เคยจะได้พบเจอเหล่ายอดฝีมือที่แท้จริงทั้งหลายนั้น

เย่หยวนจึงได้แต่ก้มหน้าลง เวลานี้เขาได้เข้าใจมหาพิภพถงเทียนมากขึ้นอีกไม่น้อย

แต่สิ่งที่เขามั่นใจก็คือเทียนเหอนั้นเก่งกาจจนถึงที่สุด

แปดเจ้าฟ้าดินสี่ทลายทั้งหลายนั้นกลับไม่อาจสังหารเขาลงและทำได้เพียงแค่ผนึกเขา

พลังของเจ้าหมอนี่มันอาจจะไม่ด้อยกว่าเต๋าบรรพกาลจริงๆ

หากอยากจะเข้าใจเรื่องราวจริงๆ ทางเดียวของเขาคงต้องเป็นการไปถามตัวมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาล

มีเพียงแค่คนระดับนั้นเท่านั้นที่จะเข้าใจได้อย่างแท้จริง

“เป็นเช่นนั้นเอง ขอบคุณผู้อาวุโสเหลียวชาง! เวลานี้เย่ผู้นี้มีเรื่องสำคัญต้องไปทำต่อ ขอตัวลา!”

พูดจบเย่หยวนก็พุ่งตัวเข้าไปหาผีเทพสวรรค์ขวังต้าวที่กำลังดูการต่อสู้บนท้องฟ้าอยู่

“ฮ่าๆๆ… เครื่องรางเต๋านี้มันเป็นของจักรพรรดิผู้นี้!”

ในเวลาเดียวกันนั้นทางการต่อสู้ของสามจักรพรรดิเทพสวรรค์มันก็ได้รู้ผลมีคนหนึ่งที่ก้าวขึ้นไปถึงระยะที่จะหยิบธนูสาบานสังหารเทพได้ในที่สุด

แต่ระหว่างที่เขาหัวเราะยื่นมือไปหยิบนั้นธนูสาบานสังหารเทพก็ปล่อยคลื่นพลังสว่างล้ำออกมา

ลูกศรแสงพุ่งผ่านไปทำลายร่างของจักรพรรดิเทพสวรรค์ผู้นั้นลงจนไม่เหลือแม้แต่เศษเสี้ยว

เย่หยวนที่เห็นก็ได้แต่ต้องส่ายหัวออกมา

เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายนี้อยู่มานานแสนนานแต่กลับไม่มีปัญญาที่จะประเมินพลังของตัวเอง

มีหรือที่สมบัติระดับนี้มันจะเป็นสิ่งที่พวกเขาทั้งหลายเอามาครองได้?

“ไปกัน!” พูดจบเย่หยวนก็เดินนำเทพสวรรค์ขวังต้าวเดินจากไปจากฝูงชน

ไม่นานจากนั้นมันก็มีคลื่นพลังรุนแรงหนักหน่วงพุ่งทะยานมาจากขอบฟ้าไกล

และคลื่นพลังแต่ละสายที่กำลังมุ่งหน้ามานี้ต่างเหนือล้ำกว่าจักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางสิ้น!

………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+