Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2250 หนีไม่พ้น!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2250 หนีไม่พ้น! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ซี๊ด… โอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ดขั้นเทวะวิญญาณมรณา!”

เจียงซือนั้นได้แต่ต้องสูดหายใจเข้าลึกเมื่อได้เห็นโอสถในมือนั้น

โอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ดขั้นเทวะวิญญาณมรณา แม้แต่ตัวเขาก็ไม่เคยพบเจอมันมาก่อน

โอสถนี้มันมีค่ามากจนเกินไป!

“สหายหนุ่มเย่ ห-หรือว่าเจ้าจะเป็นศิษย์ของโอสถบรรพกาลกัน?” เจียงซือถาม

เพราะยิ่งคิดไปเขาก็ยิ่งรู้สึกว่ามันเป็นไปได้

เย่หยวนนั้นไม่ได้คิดสนใจใดๆ ธนูสาบานสังหารเทพและยังมีวิชาการรักษาที่เหนือล้ำและพกโอสถขั้นเทวะวิญญาณมรณาติดตัว!

อายุก็ยังน้อยแต่กลับก้าวขึ้นมาถึงอาณาจักรเทพสวรรค์ได้

นอกจากศิษย์ของโอสถบรรพกาลแล้วมันจะยังมีใครทำได้เช่นนี้?

แต่เขานั้นไม่ได้คิดว่าเย่หยวนมีปัญญาจะหลอมโอสถขั้นเทวะวิญญาณมรณาด้วยตัวเอง เขานั้นแค่คิดว่าเย่หยวนคงได้มันมาจากเหล่าผู้อาวุโสของตระกูลตน

แต่เย่หยวนที่ได้ยินก็ต้องหันมามองด้วยสีหน้าแปลกๆ ก่อนจะกล่าว “ศิษย์ของโอสถบรรพกาล? หึๆ เวลานี้เขาคงกำลังคิดหาวิธีจัดการข้าทิ้งอยู่มากกว่าล่ะมั้ง?”

เจียงซือนั้นผงะไปทันทีที่ได้ยิน เพราะคำพูดนี้มันดูแฝงมาด้วยความไม่พอใจไม่น้อย!

มันมิใช่ว่าเจียงซือนั้นเป็นคนไม่รู้เรื่องราวทางโลกใดๆ เพียงแค่ว่าตำแหน่งของเขามันสูงเกินกว่าที่จะมาสนใจเรื่องเล็กน้อยบนโลกหล้าจึงไม่เคยได้ยินนามของเย่หยวนมาก่อน

และที่สำคัญไปกว่านั้นคือหลายปีมานี้เขาได้ตามหาโอกาสที่จะช่วยให้เขาผ่านทุกข์ทลายไปได้ ทำให้ไม่มีเวลามาสนใจเรื่องข่าวของโลกเบื้องล่างในแดนใต้ใดๆ

ไม่เช่นนั้นแล้วหากเคยได้ยินนามของเย่หยวน ใครๆ ก็คงพอเดาออก

“มิใช่ศิษย์ของโอสถบรรพกาล? เช่นนั้นเจ้า…” เจียงซือถามขึ้นด้วยสีหน้าลังเล

เย่หยวนตอบกลบัไป “เอาเป็นว่าข้าคือศัตรูในอนาคตของเขาก็แล้วกัน”

‘อย่าถาม’ นั้นมันเป็นสิ่งที่โอสถบรรพกาลสร้างขึ้นมา

เย่หยวนรู้ได้ว่าวันหนึ่งเขาจะต้องปะทะกับโอสถบรรพกาลผู้นี้เข้าแน่ๆ

มุมปากของเจียงซือที่ได้ยินต้องกระตุกขึ้นมา รู้สึกลึกๆ ในใจว่าเย่หยวนนั้นกำลังพูดจาอวดตัว

โอสถบรรพกาลนั้นคือตัวตนระดับเทพเจ้าในมหาพิภพถงเทียนนี้

เต๋าโอสถของเขานั้นคือที่หนึ่ง!

มียอดอัจฉริยะมากมายปานใดที่คิดตั้งเขาไว้เป็นเป้าหมาย? แต่สุดท้ายมีใครบ้างที่ขึ้นไปถึง

แน่นอนว่าเย่หยวนเองก็เช่นกัน

เจียงซือได้แต่หัวเราะแห้งๆ ตอบกลับมา “ฮ่าๆ ขอบคุณสหายหนุ่มเย่ที่ช่วยเหลือชีวิต”

เย่หยวนย่อมเดาได้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไร แต่ก็ไม่ได้คิดอธิบายเรื่องราวให้มากความ แต่ในเวลานั้นเองที่สีหน้าของเขาต้องเปลี่ยนสีรีบพาตัวเจียงซือและขวังต้าวมุดห้วงมิติหนีหายไปจากถ้ำ

ก่อนหน้านั้น

เทียนหยานนั้นได้นำพาคนทั้งสองมาจนถึงใกล้ถ้ำที่เย่หยวนซ่อนตัวอยู่ในปัจจุบัน

“เดี๋ยว!” เทียนหยานกล่าว

ซุ่ยหยวนและกู้หวนจึงหยุดตัวลง

เทียนหยานได้แต่ต้องหัวเราะขึ้นมา “มันมีพลังปิดกั้นทั่วบริเวณไปหมด หากเจ้าไปแตะมันโดนเข้าแล้วเจ้าเด็กคนนั้นก็จะรู้ถึงมันได้ทันที!”

ซุ่ยหยวนนั้นตอบกลับมาอย่างไม่คิดสนใจ “รู้ก็รู้ไปสิ แค่เทพสวรรค์มันจะหนีเราพ้น?”

แต่ทางเทียนหยานนั้นกลับดุว่าออกมา “เจ้าเด็กคึนนั้นมันพาคนเจ็บหนีมาได้ในระยะปานนี้ด้วยเวลาสั้นๆ ทั้งยังวางค่ายกลซับซ้อนไว้ตลอดทาง เจ้าไม่คิดว่ามันแปลกหรือ?”

ซุ่ยหยวนที่ได้ยินก็ต้องสั่นสะท้านไปทั้งกาย เป็นเวลานี้เองที่พวกเขาได้รู้ถึงความไม่รอบคอบของตนเอง

สำหรับเทพสวรรค์ทั่วๆ ไปแล้ว การจะทำเรื่องเช่นนั้นมันย่อมไม่มีทางทำได้ในเวลาสั้นๆ

เว้นเสียแต่ว่าเขาจะมีอะไรพิเศษ!

“เช่นนั้น… แล้วเจ้าเด็กคนนี้มันทำได้อย่างไร?” ซุ่ยหยวนถาม

เทียนหยานจึงตอบกลับไปด้วยท่าทางเหนื่อยใจ “หากข้าเดาไม่ผิดมันคงมีแนวคิดแห่งห้วงมิติที่เหนือล้ำ! จากระยะที่มันหนีมาได้นี้ข้าว่าอย่างต่ำๆ ก็คงระดับหกขั้นสุด!”

ซุ่ยหยวนและกู้หวนต้องหันมามองหน้ากันทันทีอย่างตื่นตะลึง แนวคิดแห่งห้วงมิติในระดับนั้นแค่คิดคนผู้นั้นก็คงหนีไปได้ไกลนับแสนๆ กิโลเมตร

ด้วยความเร็วของอาณาจักรเจ้าฟ้าดินแล้ว การจะตามให้ทันมันก็คงมิใช่เรื่องง่ายดายนัก

“โชคยังดีที่เราเชิญสหายเทียนหยานมาด้วย ไม่เช่นนั้นเราทั้งสองคงไม่อาจทำอะไรได้เลยเป็นแน่!” ซุ่ยหยวนกล่าว

เทียนหยานจึงยิ้มรับ “ทีนี้เจ้าคิดว่าข้าทำงานคุ้มค่าจ้างหรือไม่เล่า?”

คนทั้งสองได้แต่ต้องพยักหน้ารับออกมาเพราะเวลานี้พวกเขายอมรับอย่างสุดใจแล้ว

“สหายเทียนหยาน ครั้งนี้ต้องขอบคุณเจ้าจริงๆ ที่ช่วยเหลือ”

เทียนหยานมองดูที่พลังปิดกั้นตรงหน้าก่อนจะกล่าวขึ้น “เจ้าเด็กคนนี้มันคงไม่เคยคิดฝันว่าจักรพรรดิผู้นี้เองก็จะเป็นจอมเทพค่ายกลเช่นกัน! มีหรือที่พลังปิดกั้นแค่นี้จะทำอะไรข้าได้?”

จักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานนั้นบ่มเพาะพลังของตาที่สามอย่างหนักหน่วง

ตาที่สามของเขานี้จึงมองเห็นได้ทุกสิ่งอย่างจนถึงต้นกำเนิดของมัน

เพราะเรื่องนั้นทำให้การศึกษาวิชาเต๋าค่ายกลของเขาง่ายกว่าคนทั่วๆ ไปอย่างมาก

ด้วยเต๋าค่ายกลและวิชาตาวิเศษนี้ทำให้เขาสามารถผ่านทุกข์ทลายแรกมาได้ กลายเป็นเจ้าฟ้าดินหนึ่งทลาย!

เวลานี้เย่หยวนย่อมจะยังไม่ทราบว่าทางพวกซุ่ยหยวนนั้นได้ไปเชิญยอดฝีมือเช่นนี้มาและไม่ได้รับรู้เลยว่าความอันตรายกำลังคืบคลานมาใกล้

เทียนหยานนั้นค่อยๆ มองดูที่พลังปิดกั้นรอบๆ นั้นก่อนจะพบว่ามันเป็นแค่ค่ายกลแจ้งเตือนง่ายๆ จนอดที่จะมองด้วยความดูถูกไม่ได้

จากนั้นเขาก็ชี้นิ้วออกมายิงลำแสงพลังงานจนทำให้ค่ายกลของเย่หยวนนั้นแตกสลายลง

ซุ่ยหยวนและกู้หวนนั้นมองดูภาพตรงหน้าอย่างตกตะลึง

เทียนหยานนั้นยังไม่ทันจะยิ้มขึ้นมาได้จู่ๆ สีหน้าของเขาก็ต้องเปลี่ยนสีไป

เพราะในห้วงมิติพลังปิดกั้นค่ายกลมากมายกลับทำงานขึ้นมาพร้อมๆ กันทำให้เกิดแสงสว่างจ้า

“ให้ตาย! มันเป็นค่ายกลเชื่อมอย่างนั้นหรือ ตราบเท่าที่หนึ่งค่ายกลในเครือข่ายถูกทำลายลงมันก็จะทำให้ค่ายกลอื่นๆ ทำงานขึ้นพร้อมกัน! เจ้าเด็กคนนี้มันเจ้าเล่ห์นัก!” เทียนหยานต้องเบิกตากว้าง

แน่นอนว่าเขาย่อมมีสิ่งที่ไม่ได้กล่าวพูด

นั่นคือการเชื่อมต่อของเย่หยวนมันแยบยลจนเขาไม่อาจจะมองออกได้เลยว่าค่ายกลทั้งหลายนั้นเชื่อมต่อเป็นเครือข่ายใหญ่

ในเรื่องนี้ เย่หยวนเอาชนะเขาไปอย่างขาดลอย

แพ้ให้เด็กน้อยเทพสวรรค์ผู้หนึ่ง เทียนหยานย่อมรู้สึกขายหน้าอย่างมาก

ซุ่ยหยวนและกู้หวนนั้นได้แต่ส่ายหัวออกมา หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ก็บุกเข้าไปเสียแต่แรกจะไม่ดีกว่าหรือ

ในเวลานั้นเองที่มิติเกิดบิดเบี้ยวขึ้นทำให้ใบหน้าของคนทั้งสามต้องเปลี่ยนสี

“วิชาห้วงมิติเปล่า! เป็นคนเจ้าเล่ห์นัก ตามเร็ว!” ซุ่ยหยวนไม่รอช้ารีบพุ่งตัวเข้าห้วงมิติตามไปทันที

คนทั้งสองเองก็ไม่คิดรีรอรีบตามติดไปทันที

อีกด้านหนึ่งทางเย่หยวนก็ได้ใช้วิชาห้วงมิติเปล่าออกมาอย่างต่อเนื่องจนหนีมาได้หลายล้านกิโลเมตร

เมื่อได้เตรียมแผนหนีเอาไว้ก่อน โอกาสที่เขาจะหนีรอดไปได้มันย่อมจะเพิ่มขึ้นมาก

ตั้งแต่ที่เขาคิดช่วยเจียงซือนั้นเขาก็รู้แล้วว่าตนเองต้องได้เจอกับเหล่าเจ้าฟ้าดินเข้าแน่และย่อมต้องเตรียมตัวอย่างหนักหน่วง

แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าซุ่ยหยวนจะติดตามมาได้หรือไม่แต่เขาก็ไม่คิดประมาท

หลายวันมานี้เขาได้ใช้เวลาที่เหลือจากการรักษาไปเก็บซ่อนการเชื่อมต่อของค่ายกลปิดกั้นทั้งหลาย

นอกจากนั้นแล้วในระยะหลายล้านกิโลเมตรนี้เขายังได้ทิ้งจุดมิติไว้มากมายเผื่อในกรณีฉุกเฉิน

เขานั้นไม่อยากจะถูกเจ้าฟ้าดินทั้งหลายล้อมสักเท่าไหร่

แต่เขาก็ไม่ได้นึกว่าจะต้องเอามันออกมาใช้จริงๆ

เรื่องราวตรงหน้านี้มันทำให้เจียงซือมึนงงอย่างมาก

และหลังจากนั้นมันก็ตามมาด้วยความตกตะลึง

เพราะเด็กน้อยเทพสวรรค์คนนี้กลับสร้างปาฏิหาริย์แล้วปาฏิหาริย์เล่าต่อหน้าเขา

หากมิใช่เพราะเย่หยวนระวังตัวอย่างมาก พวกเขาทั้งสามคงได้ตายลงไปสิ้นแล้ว

เย่หยวนได้ช่วยเขาไว้อีกครั้ง

“เร็ว!”

คนทั้งสามนั้นติดตามมาด้วยคลื่นพลังหนักหน่วงอย่างไม่ลดละ

เวลานี้จิตของคนทั้งสามย่อมติดที่ตัวของเย่หยวนไว้อย่างไม่คิดปล่อยไปอีก!

ต่อให้อยากจะหนีมันก็ไม่มีที่ให้หลบได้อีกแล้ว

เย่หยวนนั้นสัมผัสได้ถึงความน่ากลัวของเจ้าฟ้าดินอีกครั้ง!

นี่มันเป็นครั้งแรกที่เขาได้พบเจอคนที่ตามติดความเร็วของเขาได้ทัน

เจียงซือได้แต่ยิ้มแห้งๆ ออกมา “เจ้าฟ้าดินนั้นมีพลังถึงระดับของต้นกำเนิดเต๋าสวรรค์ ความเข้าใจในห้วงมิติของพวกเขานั้นมันเหนือล้ำกว่าเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั่วๆ ไปมากมายนัก! พลังของแนวคิดแห่งห้วงมิติที่พวกเขามีมันอาจจะไม่ถึงระดับของเจ้า แต่หากวัดกันแค่ที่ความเร็วแล้วพวกเขาย่อมจะเร็วกว่าเจ้าไประดับหนึ่ง! เรา… ไม่อาจหนีได้แล้ว!”

เหล่าคนที่สามารถเรียนรู้ถึงต้นกำเนิดของเต๋าสวรรค์ได้ล้วนแล้วแต่จะต้องเก่งกาจเป็นที่สุดของยอดฝีมือ

เหมือนดั่งที่เย่หยวนบรรลุต้นกำเนิดเต๋าดาบนั้น มันทำให้ความเก่งกาจของเขาเพิ่มพูนจนแทบสังหารคนอย่างเทียนเหอนั้นลงได้!

ผู้บรรลุอาณาจักรเจ้าฟ้าดินเองก็คือคนในระดับนั้นด้วยกันทั้งสิ้น

……………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2250 หนีไม่พ้น!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2250 หนีไม่พ้น! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ซี๊ด… โอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ดขั้นเทวะวิญญาณมรณา!”

เจียงซือนั้นได้แต่ต้องสูดหายใจเข้าลึกเมื่อได้เห็นโอสถในมือนั้น

โอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ดขั้นเทวะวิญญาณมรณา แม้แต่ตัวเขาก็ไม่เคยพบเจอมันมาก่อน

โอสถนี้มันมีค่ามากจนเกินไป!

“สหายหนุ่มเย่ ห-หรือว่าเจ้าจะเป็นศิษย์ของโอสถบรรพกาลกัน?” เจียงซือถาม

เพราะยิ่งคิดไปเขาก็ยิ่งรู้สึกว่ามันเป็นไปได้

เย่หยวนนั้นไม่ได้คิดสนใจใดๆ ธนูสาบานสังหารเทพและยังมีวิชาการรักษาที่เหนือล้ำและพกโอสถขั้นเทวะวิญญาณมรณาติดตัว!

อายุก็ยังน้อยแต่กลับก้าวขึ้นมาถึงอาณาจักรเทพสวรรค์ได้

นอกจากศิษย์ของโอสถบรรพกาลแล้วมันจะยังมีใครทำได้เช่นนี้?

แต่เขานั้นไม่ได้คิดว่าเย่หยวนมีปัญญาจะหลอมโอสถขั้นเทวะวิญญาณมรณาด้วยตัวเอง เขานั้นแค่คิดว่าเย่หยวนคงได้มันมาจากเหล่าผู้อาวุโสของตระกูลตน

แต่เย่หยวนที่ได้ยินก็ต้องหันมามองด้วยสีหน้าแปลกๆ ก่อนจะกล่าว “ศิษย์ของโอสถบรรพกาล? หึๆ เวลานี้เขาคงกำลังคิดหาวิธีจัดการข้าทิ้งอยู่มากกว่าล่ะมั้ง?”

เจียงซือนั้นผงะไปทันทีที่ได้ยิน เพราะคำพูดนี้มันดูแฝงมาด้วยความไม่พอใจไม่น้อย!

มันมิใช่ว่าเจียงซือนั้นเป็นคนไม่รู้เรื่องราวทางโลกใดๆ เพียงแค่ว่าตำแหน่งของเขามันสูงเกินกว่าที่จะมาสนใจเรื่องเล็กน้อยบนโลกหล้าจึงไม่เคยได้ยินนามของเย่หยวนมาก่อน

และที่สำคัญไปกว่านั้นคือหลายปีมานี้เขาได้ตามหาโอกาสที่จะช่วยให้เขาผ่านทุกข์ทลายไปได้ ทำให้ไม่มีเวลามาสนใจเรื่องข่าวของโลกเบื้องล่างในแดนใต้ใดๆ

ไม่เช่นนั้นแล้วหากเคยได้ยินนามของเย่หยวน ใครๆ ก็คงพอเดาออก

“มิใช่ศิษย์ของโอสถบรรพกาล? เช่นนั้นเจ้า…” เจียงซือถามขึ้นด้วยสีหน้าลังเล

เย่หยวนตอบกลบัไป “เอาเป็นว่าข้าคือศัตรูในอนาคตของเขาก็แล้วกัน”

‘อย่าถาม’ นั้นมันเป็นสิ่งที่โอสถบรรพกาลสร้างขึ้นมา

เย่หยวนรู้ได้ว่าวันหนึ่งเขาจะต้องปะทะกับโอสถบรรพกาลผู้นี้เข้าแน่ๆ

มุมปากของเจียงซือที่ได้ยินต้องกระตุกขึ้นมา รู้สึกลึกๆ ในใจว่าเย่หยวนนั้นกำลังพูดจาอวดตัว

โอสถบรรพกาลนั้นคือตัวตนระดับเทพเจ้าในมหาพิภพถงเทียนนี้

เต๋าโอสถของเขานั้นคือที่หนึ่ง!

มียอดอัจฉริยะมากมายปานใดที่คิดตั้งเขาไว้เป็นเป้าหมาย? แต่สุดท้ายมีใครบ้างที่ขึ้นไปถึง

แน่นอนว่าเย่หยวนเองก็เช่นกัน

เจียงซือได้แต่หัวเราะแห้งๆ ตอบกลับมา “ฮ่าๆ ขอบคุณสหายหนุ่มเย่ที่ช่วยเหลือชีวิต”

เย่หยวนย่อมเดาได้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไร แต่ก็ไม่ได้คิดอธิบายเรื่องราวให้มากความ แต่ในเวลานั้นเองที่สีหน้าของเขาต้องเปลี่ยนสีรีบพาตัวเจียงซือและขวังต้าวมุดห้วงมิติหนีหายไปจากถ้ำ

ก่อนหน้านั้น

เทียนหยานนั้นได้นำพาคนทั้งสองมาจนถึงใกล้ถ้ำที่เย่หยวนซ่อนตัวอยู่ในปัจจุบัน

“เดี๋ยว!” เทียนหยานกล่าว

ซุ่ยหยวนและกู้หวนจึงหยุดตัวลง

เทียนหยานได้แต่ต้องหัวเราะขึ้นมา “มันมีพลังปิดกั้นทั่วบริเวณไปหมด หากเจ้าไปแตะมันโดนเข้าแล้วเจ้าเด็กคนนั้นก็จะรู้ถึงมันได้ทันที!”

ซุ่ยหยวนนั้นตอบกลับมาอย่างไม่คิดสนใจ “รู้ก็รู้ไปสิ แค่เทพสวรรค์มันจะหนีเราพ้น?”

แต่ทางเทียนหยานนั้นกลับดุว่าออกมา “เจ้าเด็กคึนนั้นมันพาคนเจ็บหนีมาได้ในระยะปานนี้ด้วยเวลาสั้นๆ ทั้งยังวางค่ายกลซับซ้อนไว้ตลอดทาง เจ้าไม่คิดว่ามันแปลกหรือ?”

ซุ่ยหยวนที่ได้ยินก็ต้องสั่นสะท้านไปทั้งกาย เป็นเวลานี้เองที่พวกเขาได้รู้ถึงความไม่รอบคอบของตนเอง

สำหรับเทพสวรรค์ทั่วๆ ไปแล้ว การจะทำเรื่องเช่นนั้นมันย่อมไม่มีทางทำได้ในเวลาสั้นๆ

เว้นเสียแต่ว่าเขาจะมีอะไรพิเศษ!

“เช่นนั้น… แล้วเจ้าเด็กคนนี้มันทำได้อย่างไร?” ซุ่ยหยวนถาม

เทียนหยานจึงตอบกลับไปด้วยท่าทางเหนื่อยใจ “หากข้าเดาไม่ผิดมันคงมีแนวคิดแห่งห้วงมิติที่เหนือล้ำ! จากระยะที่มันหนีมาได้นี้ข้าว่าอย่างต่ำๆ ก็คงระดับหกขั้นสุด!”

ซุ่ยหยวนและกู้หวนต้องหันมามองหน้ากันทันทีอย่างตื่นตะลึง แนวคิดแห่งห้วงมิติในระดับนั้นแค่คิดคนผู้นั้นก็คงหนีไปได้ไกลนับแสนๆ กิโลเมตร

ด้วยความเร็วของอาณาจักรเจ้าฟ้าดินแล้ว การจะตามให้ทันมันก็คงมิใช่เรื่องง่ายดายนัก

“โชคยังดีที่เราเชิญสหายเทียนหยานมาด้วย ไม่เช่นนั้นเราทั้งสองคงไม่อาจทำอะไรได้เลยเป็นแน่!” ซุ่ยหยวนกล่าว

เทียนหยานจึงยิ้มรับ “ทีนี้เจ้าคิดว่าข้าทำงานคุ้มค่าจ้างหรือไม่เล่า?”

คนทั้งสองได้แต่ต้องพยักหน้ารับออกมาเพราะเวลานี้พวกเขายอมรับอย่างสุดใจแล้ว

“สหายเทียนหยาน ครั้งนี้ต้องขอบคุณเจ้าจริงๆ ที่ช่วยเหลือ”

เทียนหยานมองดูที่พลังปิดกั้นตรงหน้าก่อนจะกล่าวขึ้น “เจ้าเด็กคนนี้มันคงไม่เคยคิดฝันว่าจักรพรรดิผู้นี้เองก็จะเป็นจอมเทพค่ายกลเช่นกัน! มีหรือที่พลังปิดกั้นแค่นี้จะทำอะไรข้าได้?”

จักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานนั้นบ่มเพาะพลังของตาที่สามอย่างหนักหน่วง

ตาที่สามของเขานี้จึงมองเห็นได้ทุกสิ่งอย่างจนถึงต้นกำเนิดของมัน

เพราะเรื่องนั้นทำให้การศึกษาวิชาเต๋าค่ายกลของเขาง่ายกว่าคนทั่วๆ ไปอย่างมาก

ด้วยเต๋าค่ายกลและวิชาตาวิเศษนี้ทำให้เขาสามารถผ่านทุกข์ทลายแรกมาได้ กลายเป็นเจ้าฟ้าดินหนึ่งทลาย!

เวลานี้เย่หยวนย่อมจะยังไม่ทราบว่าทางพวกซุ่ยหยวนนั้นได้ไปเชิญยอดฝีมือเช่นนี้มาและไม่ได้รับรู้เลยว่าความอันตรายกำลังคืบคลานมาใกล้

เทียนหยานนั้นค่อยๆ มองดูที่พลังปิดกั้นรอบๆ นั้นก่อนจะพบว่ามันเป็นแค่ค่ายกลแจ้งเตือนง่ายๆ จนอดที่จะมองด้วยความดูถูกไม่ได้

จากนั้นเขาก็ชี้นิ้วออกมายิงลำแสงพลังงานจนทำให้ค่ายกลของเย่หยวนนั้นแตกสลายลง

ซุ่ยหยวนและกู้หวนนั้นมองดูภาพตรงหน้าอย่างตกตะลึง

เทียนหยานนั้นยังไม่ทันจะยิ้มขึ้นมาได้จู่ๆ สีหน้าของเขาก็ต้องเปลี่ยนสีไป

เพราะในห้วงมิติพลังปิดกั้นค่ายกลมากมายกลับทำงานขึ้นมาพร้อมๆ กันทำให้เกิดแสงสว่างจ้า

“ให้ตาย! มันเป็นค่ายกลเชื่อมอย่างนั้นหรือ ตราบเท่าที่หนึ่งค่ายกลในเครือข่ายถูกทำลายลงมันก็จะทำให้ค่ายกลอื่นๆ ทำงานขึ้นพร้อมกัน! เจ้าเด็กคนนี้มันเจ้าเล่ห์นัก!” เทียนหยานต้องเบิกตากว้าง

แน่นอนว่าเขาย่อมมีสิ่งที่ไม่ได้กล่าวพูด

นั่นคือการเชื่อมต่อของเย่หยวนมันแยบยลจนเขาไม่อาจจะมองออกได้เลยว่าค่ายกลทั้งหลายนั้นเชื่อมต่อเป็นเครือข่ายใหญ่

ในเรื่องนี้ เย่หยวนเอาชนะเขาไปอย่างขาดลอย

แพ้ให้เด็กน้อยเทพสวรรค์ผู้หนึ่ง เทียนหยานย่อมรู้สึกขายหน้าอย่างมาก

ซุ่ยหยวนและกู้หวนนั้นได้แต่ส่ายหัวออกมา หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ก็บุกเข้าไปเสียแต่แรกจะไม่ดีกว่าหรือ

ในเวลานั้นเองที่มิติเกิดบิดเบี้ยวขึ้นทำให้ใบหน้าของคนทั้งสามต้องเปลี่ยนสี

“วิชาห้วงมิติเปล่า! เป็นคนเจ้าเล่ห์นัก ตามเร็ว!” ซุ่ยหยวนไม่รอช้ารีบพุ่งตัวเข้าห้วงมิติตามไปทันที

คนทั้งสองเองก็ไม่คิดรีรอรีบตามติดไปทันที

อีกด้านหนึ่งทางเย่หยวนก็ได้ใช้วิชาห้วงมิติเปล่าออกมาอย่างต่อเนื่องจนหนีมาได้หลายล้านกิโลเมตร

เมื่อได้เตรียมแผนหนีเอาไว้ก่อน โอกาสที่เขาจะหนีรอดไปได้มันย่อมจะเพิ่มขึ้นมาก

ตั้งแต่ที่เขาคิดช่วยเจียงซือนั้นเขาก็รู้แล้วว่าตนเองต้องได้เจอกับเหล่าเจ้าฟ้าดินเข้าแน่และย่อมต้องเตรียมตัวอย่างหนักหน่วง

แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าซุ่ยหยวนจะติดตามมาได้หรือไม่แต่เขาก็ไม่คิดประมาท

หลายวันมานี้เขาได้ใช้เวลาที่เหลือจากการรักษาไปเก็บซ่อนการเชื่อมต่อของค่ายกลปิดกั้นทั้งหลาย

นอกจากนั้นแล้วในระยะหลายล้านกิโลเมตรนี้เขายังได้ทิ้งจุดมิติไว้มากมายเผื่อในกรณีฉุกเฉิน

เขานั้นไม่อยากจะถูกเจ้าฟ้าดินทั้งหลายล้อมสักเท่าไหร่

แต่เขาก็ไม่ได้นึกว่าจะต้องเอามันออกมาใช้จริงๆ

เรื่องราวตรงหน้านี้มันทำให้เจียงซือมึนงงอย่างมาก

และหลังจากนั้นมันก็ตามมาด้วยความตกตะลึง

เพราะเด็กน้อยเทพสวรรค์คนนี้กลับสร้างปาฏิหาริย์แล้วปาฏิหาริย์เล่าต่อหน้าเขา

หากมิใช่เพราะเย่หยวนระวังตัวอย่างมาก พวกเขาทั้งสามคงได้ตายลงไปสิ้นแล้ว

เย่หยวนได้ช่วยเขาไว้อีกครั้ง

“เร็ว!”

คนทั้งสามนั้นติดตามมาด้วยคลื่นพลังหนักหน่วงอย่างไม่ลดละ

เวลานี้จิตของคนทั้งสามย่อมติดที่ตัวของเย่หยวนไว้อย่างไม่คิดปล่อยไปอีก!

ต่อให้อยากจะหนีมันก็ไม่มีที่ให้หลบได้อีกแล้ว

เย่หยวนนั้นสัมผัสได้ถึงความน่ากลัวของเจ้าฟ้าดินอีกครั้ง!

นี่มันเป็นครั้งแรกที่เขาได้พบเจอคนที่ตามติดความเร็วของเขาได้ทัน

เจียงซือได้แต่ยิ้มแห้งๆ ออกมา “เจ้าฟ้าดินนั้นมีพลังถึงระดับของต้นกำเนิดเต๋าสวรรค์ ความเข้าใจในห้วงมิติของพวกเขานั้นมันเหนือล้ำกว่าเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั่วๆ ไปมากมายนัก! พลังของแนวคิดแห่งห้วงมิติที่พวกเขามีมันอาจจะไม่ถึงระดับของเจ้า แต่หากวัดกันแค่ที่ความเร็วแล้วพวกเขาย่อมจะเร็วกว่าเจ้าไประดับหนึ่ง! เรา… ไม่อาจหนีได้แล้ว!”

เหล่าคนที่สามารถเรียนรู้ถึงต้นกำเนิดของเต๋าสวรรค์ได้ล้วนแล้วแต่จะต้องเก่งกาจเป็นที่สุดของยอดฝีมือ

เหมือนดั่งที่เย่หยวนบรรลุต้นกำเนิดเต๋าดาบนั้น มันทำให้ความเก่งกาจของเขาเพิ่มพูนจนแทบสังหารคนอย่างเทียนเหอนั้นลงได้!

ผู้บรรลุอาณาจักรเจ้าฟ้าดินเองก็คือคนในระดับนั้นด้วยกันทั้งสิ้น

……………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2250 หนีไม่พ้น!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2250 หนีไม่พ้น! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ซี๊ด… โอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ดขั้นเทวะวิญญาณมรณา!”

เจียงซือนั้นได้แต่ต้องสูดหายใจเข้าลึกเมื่อได้เห็นโอสถในมือนั้น

โอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ดขั้นเทวะวิญญาณมรณา แม้แต่ตัวเขาก็ไม่เคยพบเจอมันมาก่อน

โอสถนี้มันมีค่ามากจนเกินไป!

“สหายหนุ่มเย่ ห-หรือว่าเจ้าจะเป็นศิษย์ของโอสถบรรพกาลกัน?” เจียงซือถาม

เพราะยิ่งคิดไปเขาก็ยิ่งรู้สึกว่ามันเป็นไปได้

เย่หยวนนั้นไม่ได้คิดสนใจใดๆ ธนูสาบานสังหารเทพและยังมีวิชาการรักษาที่เหนือล้ำและพกโอสถขั้นเทวะวิญญาณมรณาติดตัว!

อายุก็ยังน้อยแต่กลับก้าวขึ้นมาถึงอาณาจักรเทพสวรรค์ได้

นอกจากศิษย์ของโอสถบรรพกาลแล้วมันจะยังมีใครทำได้เช่นนี้?

แต่เขานั้นไม่ได้คิดว่าเย่หยวนมีปัญญาจะหลอมโอสถขั้นเทวะวิญญาณมรณาด้วยตัวเอง เขานั้นแค่คิดว่าเย่หยวนคงได้มันมาจากเหล่าผู้อาวุโสของตระกูลตน

แต่เย่หยวนที่ได้ยินก็ต้องหันมามองด้วยสีหน้าแปลกๆ ก่อนจะกล่าว “ศิษย์ของโอสถบรรพกาล? หึๆ เวลานี้เขาคงกำลังคิดหาวิธีจัดการข้าทิ้งอยู่มากกว่าล่ะมั้ง?”

เจียงซือนั้นผงะไปทันทีที่ได้ยิน เพราะคำพูดนี้มันดูแฝงมาด้วยความไม่พอใจไม่น้อย!

มันมิใช่ว่าเจียงซือนั้นเป็นคนไม่รู้เรื่องราวทางโลกใดๆ เพียงแค่ว่าตำแหน่งของเขามันสูงเกินกว่าที่จะมาสนใจเรื่องเล็กน้อยบนโลกหล้าจึงไม่เคยได้ยินนามของเย่หยวนมาก่อน

และที่สำคัญไปกว่านั้นคือหลายปีมานี้เขาได้ตามหาโอกาสที่จะช่วยให้เขาผ่านทุกข์ทลายไปได้ ทำให้ไม่มีเวลามาสนใจเรื่องข่าวของโลกเบื้องล่างในแดนใต้ใดๆ

ไม่เช่นนั้นแล้วหากเคยได้ยินนามของเย่หยวน ใครๆ ก็คงพอเดาออก

“มิใช่ศิษย์ของโอสถบรรพกาล? เช่นนั้นเจ้า…” เจียงซือถามขึ้นด้วยสีหน้าลังเล

เย่หยวนตอบกลบัไป “เอาเป็นว่าข้าคือศัตรูในอนาคตของเขาก็แล้วกัน”

‘อย่าถาม’ นั้นมันเป็นสิ่งที่โอสถบรรพกาลสร้างขึ้นมา

เย่หยวนรู้ได้ว่าวันหนึ่งเขาจะต้องปะทะกับโอสถบรรพกาลผู้นี้เข้าแน่ๆ

มุมปากของเจียงซือที่ได้ยินต้องกระตุกขึ้นมา รู้สึกลึกๆ ในใจว่าเย่หยวนนั้นกำลังพูดจาอวดตัว

โอสถบรรพกาลนั้นคือตัวตนระดับเทพเจ้าในมหาพิภพถงเทียนนี้

เต๋าโอสถของเขานั้นคือที่หนึ่ง!

มียอดอัจฉริยะมากมายปานใดที่คิดตั้งเขาไว้เป็นเป้าหมาย? แต่สุดท้ายมีใครบ้างที่ขึ้นไปถึง

แน่นอนว่าเย่หยวนเองก็เช่นกัน

เจียงซือได้แต่หัวเราะแห้งๆ ตอบกลับมา “ฮ่าๆ ขอบคุณสหายหนุ่มเย่ที่ช่วยเหลือชีวิต”

เย่หยวนย่อมเดาได้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไร แต่ก็ไม่ได้คิดอธิบายเรื่องราวให้มากความ แต่ในเวลานั้นเองที่สีหน้าของเขาต้องเปลี่ยนสีรีบพาตัวเจียงซือและขวังต้าวมุดห้วงมิติหนีหายไปจากถ้ำ

ก่อนหน้านั้น

เทียนหยานนั้นได้นำพาคนทั้งสองมาจนถึงใกล้ถ้ำที่เย่หยวนซ่อนตัวอยู่ในปัจจุบัน

“เดี๋ยว!” เทียนหยานกล่าว

ซุ่ยหยวนและกู้หวนจึงหยุดตัวลง

เทียนหยานได้แต่ต้องหัวเราะขึ้นมา “มันมีพลังปิดกั้นทั่วบริเวณไปหมด หากเจ้าไปแตะมันโดนเข้าแล้วเจ้าเด็กคนนั้นก็จะรู้ถึงมันได้ทันที!”

ซุ่ยหยวนนั้นตอบกลับมาอย่างไม่คิดสนใจ “รู้ก็รู้ไปสิ แค่เทพสวรรค์มันจะหนีเราพ้น?”

แต่ทางเทียนหยานนั้นกลับดุว่าออกมา “เจ้าเด็กคึนนั้นมันพาคนเจ็บหนีมาได้ในระยะปานนี้ด้วยเวลาสั้นๆ ทั้งยังวางค่ายกลซับซ้อนไว้ตลอดทาง เจ้าไม่คิดว่ามันแปลกหรือ?”

ซุ่ยหยวนที่ได้ยินก็ต้องสั่นสะท้านไปทั้งกาย เป็นเวลานี้เองที่พวกเขาได้รู้ถึงความไม่รอบคอบของตนเอง

สำหรับเทพสวรรค์ทั่วๆ ไปแล้ว การจะทำเรื่องเช่นนั้นมันย่อมไม่มีทางทำได้ในเวลาสั้นๆ

เว้นเสียแต่ว่าเขาจะมีอะไรพิเศษ!

“เช่นนั้น… แล้วเจ้าเด็กคนนี้มันทำได้อย่างไร?” ซุ่ยหยวนถาม

เทียนหยานจึงตอบกลับไปด้วยท่าทางเหนื่อยใจ “หากข้าเดาไม่ผิดมันคงมีแนวคิดแห่งห้วงมิติที่เหนือล้ำ! จากระยะที่มันหนีมาได้นี้ข้าว่าอย่างต่ำๆ ก็คงระดับหกขั้นสุด!”

ซุ่ยหยวนและกู้หวนต้องหันมามองหน้ากันทันทีอย่างตื่นตะลึง แนวคิดแห่งห้วงมิติในระดับนั้นแค่คิดคนผู้นั้นก็คงหนีไปได้ไกลนับแสนๆ กิโลเมตร

ด้วยความเร็วของอาณาจักรเจ้าฟ้าดินแล้ว การจะตามให้ทันมันก็คงมิใช่เรื่องง่ายดายนัก

“โชคยังดีที่เราเชิญสหายเทียนหยานมาด้วย ไม่เช่นนั้นเราทั้งสองคงไม่อาจทำอะไรได้เลยเป็นแน่!” ซุ่ยหยวนกล่าว

เทียนหยานจึงยิ้มรับ “ทีนี้เจ้าคิดว่าข้าทำงานคุ้มค่าจ้างหรือไม่เล่า?”

คนทั้งสองได้แต่ต้องพยักหน้ารับออกมาเพราะเวลานี้พวกเขายอมรับอย่างสุดใจแล้ว

“สหายเทียนหยาน ครั้งนี้ต้องขอบคุณเจ้าจริงๆ ที่ช่วยเหลือ”

เทียนหยานมองดูที่พลังปิดกั้นตรงหน้าก่อนจะกล่าวขึ้น “เจ้าเด็กคนนี้มันคงไม่เคยคิดฝันว่าจักรพรรดิผู้นี้เองก็จะเป็นจอมเทพค่ายกลเช่นกัน! มีหรือที่พลังปิดกั้นแค่นี้จะทำอะไรข้าได้?”

จักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานนั้นบ่มเพาะพลังของตาที่สามอย่างหนักหน่วง

ตาที่สามของเขานี้จึงมองเห็นได้ทุกสิ่งอย่างจนถึงต้นกำเนิดของมัน

เพราะเรื่องนั้นทำให้การศึกษาวิชาเต๋าค่ายกลของเขาง่ายกว่าคนทั่วๆ ไปอย่างมาก

ด้วยเต๋าค่ายกลและวิชาตาวิเศษนี้ทำให้เขาสามารถผ่านทุกข์ทลายแรกมาได้ กลายเป็นเจ้าฟ้าดินหนึ่งทลาย!

เวลานี้เย่หยวนย่อมจะยังไม่ทราบว่าทางพวกซุ่ยหยวนนั้นได้ไปเชิญยอดฝีมือเช่นนี้มาและไม่ได้รับรู้เลยว่าความอันตรายกำลังคืบคลานมาใกล้

เทียนหยานนั้นค่อยๆ มองดูที่พลังปิดกั้นรอบๆ นั้นก่อนจะพบว่ามันเป็นแค่ค่ายกลแจ้งเตือนง่ายๆ จนอดที่จะมองด้วยความดูถูกไม่ได้

จากนั้นเขาก็ชี้นิ้วออกมายิงลำแสงพลังงานจนทำให้ค่ายกลของเย่หยวนนั้นแตกสลายลง

ซุ่ยหยวนและกู้หวนนั้นมองดูภาพตรงหน้าอย่างตกตะลึง

เทียนหยานนั้นยังไม่ทันจะยิ้มขึ้นมาได้จู่ๆ สีหน้าของเขาก็ต้องเปลี่ยนสีไป

เพราะในห้วงมิติพลังปิดกั้นค่ายกลมากมายกลับทำงานขึ้นมาพร้อมๆ กันทำให้เกิดแสงสว่างจ้า

“ให้ตาย! มันเป็นค่ายกลเชื่อมอย่างนั้นหรือ ตราบเท่าที่หนึ่งค่ายกลในเครือข่ายถูกทำลายลงมันก็จะทำให้ค่ายกลอื่นๆ ทำงานขึ้นพร้อมกัน! เจ้าเด็กคนนี้มันเจ้าเล่ห์นัก!” เทียนหยานต้องเบิกตากว้าง

แน่นอนว่าเขาย่อมมีสิ่งที่ไม่ได้กล่าวพูด

นั่นคือการเชื่อมต่อของเย่หยวนมันแยบยลจนเขาไม่อาจจะมองออกได้เลยว่าค่ายกลทั้งหลายนั้นเชื่อมต่อเป็นเครือข่ายใหญ่

ในเรื่องนี้ เย่หยวนเอาชนะเขาไปอย่างขาดลอย

แพ้ให้เด็กน้อยเทพสวรรค์ผู้หนึ่ง เทียนหยานย่อมรู้สึกขายหน้าอย่างมาก

ซุ่ยหยวนและกู้หวนนั้นได้แต่ส่ายหัวออกมา หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ก็บุกเข้าไปเสียแต่แรกจะไม่ดีกว่าหรือ

ในเวลานั้นเองที่มิติเกิดบิดเบี้ยวขึ้นทำให้ใบหน้าของคนทั้งสามต้องเปลี่ยนสี

“วิชาห้วงมิติเปล่า! เป็นคนเจ้าเล่ห์นัก ตามเร็ว!” ซุ่ยหยวนไม่รอช้ารีบพุ่งตัวเข้าห้วงมิติตามไปทันที

คนทั้งสองเองก็ไม่คิดรีรอรีบตามติดไปทันที

อีกด้านหนึ่งทางเย่หยวนก็ได้ใช้วิชาห้วงมิติเปล่าออกมาอย่างต่อเนื่องจนหนีมาได้หลายล้านกิโลเมตร

เมื่อได้เตรียมแผนหนีเอาไว้ก่อน โอกาสที่เขาจะหนีรอดไปได้มันย่อมจะเพิ่มขึ้นมาก

ตั้งแต่ที่เขาคิดช่วยเจียงซือนั้นเขาก็รู้แล้วว่าตนเองต้องได้เจอกับเหล่าเจ้าฟ้าดินเข้าแน่และย่อมต้องเตรียมตัวอย่างหนักหน่วง

แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าซุ่ยหยวนจะติดตามมาได้หรือไม่แต่เขาก็ไม่คิดประมาท

หลายวันมานี้เขาได้ใช้เวลาที่เหลือจากการรักษาไปเก็บซ่อนการเชื่อมต่อของค่ายกลปิดกั้นทั้งหลาย

นอกจากนั้นแล้วในระยะหลายล้านกิโลเมตรนี้เขายังได้ทิ้งจุดมิติไว้มากมายเผื่อในกรณีฉุกเฉิน

เขานั้นไม่อยากจะถูกเจ้าฟ้าดินทั้งหลายล้อมสักเท่าไหร่

แต่เขาก็ไม่ได้นึกว่าจะต้องเอามันออกมาใช้จริงๆ

เรื่องราวตรงหน้านี้มันทำให้เจียงซือมึนงงอย่างมาก

และหลังจากนั้นมันก็ตามมาด้วยความตกตะลึง

เพราะเด็กน้อยเทพสวรรค์คนนี้กลับสร้างปาฏิหาริย์แล้วปาฏิหาริย์เล่าต่อหน้าเขา

หากมิใช่เพราะเย่หยวนระวังตัวอย่างมาก พวกเขาทั้งสามคงได้ตายลงไปสิ้นแล้ว

เย่หยวนได้ช่วยเขาไว้อีกครั้ง

“เร็ว!”

คนทั้งสามนั้นติดตามมาด้วยคลื่นพลังหนักหน่วงอย่างไม่ลดละ

เวลานี้จิตของคนทั้งสามย่อมติดที่ตัวของเย่หยวนไว้อย่างไม่คิดปล่อยไปอีก!

ต่อให้อยากจะหนีมันก็ไม่มีที่ให้หลบได้อีกแล้ว

เย่หยวนนั้นสัมผัสได้ถึงความน่ากลัวของเจ้าฟ้าดินอีกครั้ง!

นี่มันเป็นครั้งแรกที่เขาได้พบเจอคนที่ตามติดความเร็วของเขาได้ทัน

เจียงซือได้แต่ยิ้มแห้งๆ ออกมา “เจ้าฟ้าดินนั้นมีพลังถึงระดับของต้นกำเนิดเต๋าสวรรค์ ความเข้าใจในห้วงมิติของพวกเขานั้นมันเหนือล้ำกว่าเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั่วๆ ไปมากมายนัก! พลังของแนวคิดแห่งห้วงมิติที่พวกเขามีมันอาจจะไม่ถึงระดับของเจ้า แต่หากวัดกันแค่ที่ความเร็วแล้วพวกเขาย่อมจะเร็วกว่าเจ้าไประดับหนึ่ง! เรา… ไม่อาจหนีได้แล้ว!”

เหล่าคนที่สามารถเรียนรู้ถึงต้นกำเนิดของเต๋าสวรรค์ได้ล้วนแล้วแต่จะต้องเก่งกาจเป็นที่สุดของยอดฝีมือ

เหมือนดั่งที่เย่หยวนบรรลุต้นกำเนิดเต๋าดาบนั้น มันทำให้ความเก่งกาจของเขาเพิ่มพูนจนแทบสังหารคนอย่างเทียนเหอนั้นลงได้!

ผู้บรรลุอาณาจักรเจ้าฟ้าดินเองก็คือคนในระดับนั้นด้วยกันทั้งสิ้น

……………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+