Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2251 โอกาสรอดอันเลือนราง!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2251 โอกาสรอดอันเลือนราง! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เย่หยวนนั้นไม่ได้คิดยอมแพ้ เวลานี้สมองของเขากำลังทำงานอย่างหนักเพื่อคิดหาทางรอด

ดูเหมือนว่าเขาเองก็จะดูถูกความอยากได้ธนูสาบานสังหารเทพของสองเจ้าฟ้าดินมากเกินไป

เครื่องรางเต๋านั้นมันน่าดึงดูดจนเกินจะทน!

คนเราตายลงเพราะความโลกได้ทั้งสิ้น

เพื่อที่จะได้ธนูสาบานสังหารเทพมาครองนี้ ตัวเจียงซือก็ยังยอมที่จะทิ้งชีวิตของตัวเองลง

สองเจ้าฟ้าดินนั้นเองก็คงไม่ยอมปล่อยสมบัติล้ำค่าเช่นนี้ไปง่ายๆ

“ซุ่ยหยวนและกู้หวนนั้นย่อมจะต้องไปขอยืมแรงจากยอดฝีมือผู้เชี่ยวชาญการแกะรอยแน่ ที่สำคัญไปกว่านั้นผู้เชี่ยวชาญคนนี้คงมีวิชาเต๋าค่ายกลที่เก่งกาจไม่น้อย! การที่จะถูกคนทั้งสองเชิญมา มันย่อมจะต้องเป็นเจ้าฟ้าดินด้วยกันแน่แล้ว!” เย่หยวนวิเคราะห์

ซุ่ยหยวนและกู้หวนนั้นเป็นเจ้าฟ้าดินผู้มีชื่อเสียงลือลั่นแน่นอนว่าตัวเจียงซือเองก็ย่อมจะต้องรู้จักหน้าของคนทั้งสองดี

เย่หยวนจึงได้รู้ถึงนามของผู้ไล่ล่าเขามาจากปากของเจียงซือนั่นเอง

เจียงซือนั้นกล่าวออกมาด้วยสีหน้าหมดสิ้นหวัง “เช่นนั้นแล้วมันคงเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานแน่! ดวงตาของเขานั้นสามารถมองเห็นถึงความจริงได้ทุกสิ่งอย่าง ว่ากันว่าเขามีเวลาที่จะมองดูเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีตได้เสียด้วยซ้ำ! สหายหนุ่มเย่ ทิ้งข้าไว้แล้วเอาตัวรอดไปเถอะ!”

เย่หยวนที่ได้ยินต้องหัวเราะออกมา “มันสายไปแล้ว! ต่อให้ข้าจะส่งทั้งตัวท่านทั้งธนูสาบานสังหารเทพไปให้พวกมัน มีหรือที่มันจะปล่อยข้าไป? เดิมทีข้านั้นคิดว่าแผนการของตัวเองแยบยลพอแล้ว ไม่นึกว่ามันจะยังมีเจ้าฟ้าดินที่มีวิชาอย่างจักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานนี้ ดูท่าข้าจะยังไม่เข้าใจตัวตนของเหล่าเจ้าฟ้าดินจริงๆ!”

เจียงซือได้แต่ถอนหายใจยาวเพราะเข้าใจดีว่าสิ่งที่เย่หยวนกล่าวมานั้นคือความจริง

เย่หยวนนั้นได้เอาตัวเองเข้ามาเกี่ยวพันกับเรื่องราวแล้ว ย่อมจะไม่สามารถหลุดพ้นไปได้ง่ายๆ

ต่อให้จะส่งธนูสาบานสังหารเทพคืนกลับไปให้เหล่าเจ้าฟ้าดินทั้งหลายนั้นเองก็คงไม่คิดปล่อยเย่หยวนรอดชีวิต

ส่วนตัวเขาเองก็เป็นได้แค่คนพิการไร้พลังใด

“สหายหนุ่มเย่ มันเป็นเพราะข้าเองที่ทำให้เจ้าต้องมาเจอเรื่องแบบนี้!” เจียงซือถอนหายใจยาว

ต่อให้เขาจะเป็นสัตว์ประหลาดเฒ่าปานใด เขาก็ยังรู้สึกซาบซึ้งบุญคุณเย่หยวนอย่างสุดใจ

หากเป็นคนอื่นแล้วพวกเขาคงแค่สังหารเขาและแย่งชิงเอาสมบัติไป

เย่หยวนนั้นนอกจากจะไม่แย่งชิงเอาธนูสาบานสังหารเทพไปแล้วยังช่วยเหลือรักษาชีวิตเขาไว้

เวลานี้เขานั้นตื้นตันจนแทบจะหลั่งน้ำตาออกมา

น่าเสียดายที่…

“ผู้อาวุโสเจียงซือ ท่านรู้จักสถานที่ใดที่มีพลังปิดกั้นรุนแรงมากพอจะทำให้แม้แต่เหล่าเจ้าฟ้าดินยังต้องหวาดกลัวหรือไม่?” เย่หยวนถาม

“พลังปิดกั้น?” เจียงซือหันหน้ามามอง

“ใช่แล้ว! นั่นคือทางรอดเดียวของเรา!” เย่หยวนตอบกลับมา

ระหว่างทางที่หนีมานั้นเย่หยวนได้คิดถึงสิ่งต่างๆ ที่ตัวเขาพอจะทำได้และตัดสินใจว่าเส้นทางเดียวที่ยังเหลือรอดก็คือเต๋าค่ายกลนี้!

เวลานี้มีเจ้าฟ้าดินติดตามเขามาถึงสามคน ไม่ว่าจะอย่างไรอีกฝ่ายก็ย่อมต้องเก่งกาจกว่าตัวหยวนเจี่ยวไปมากแล้ว

ต่อให้จะดึงพวกเขาเข้าไปสู้ในพิภพโกลาหลมันก็คงไม่มีทางใดที่เย่หยวนจะเอาชนะได้

ส่วนเรื่องของเวลาชะงักใดๆ นั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึงกันไปใหญ่ต่อหน้าเหล่าเจ้าฟ้าดินทั้งหลาย

เส้นทางเดียวที่จะนำให้รอดชีวิตได้ก็คือเต๋าค่ายกล!

เจียงซือนั้นเป็นเฒ่าที่อยู่มานับล้านๆ ปีแน่นอนว่าความเข้าใจต่อมหาพิภพถงเทียนของเขามันย่อมจะเหนือล้ำกว่าเย่หยวนอย่างมาก เย่หยวนจึงได้ถามเขาขึ้น

ตัวเจียงซือเองก็ได้แต่ตอบกลับมาด้วยสีหน้าแปลกๆ “พลังปิดกั้นที่แม้แต่เจ้าฟ้าดินยังหวาดกลัว เช่นนั้นแล้วเราจะรอดจากมันได้หรือ!”

แต่เย่หยวนกลับตอบมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ท่านอยากอยู่หรือตายเล่า?”

เจียงซือตอบกลับมา “แน่นอนว่าต้องยังอยากอยู่!”

เย่หยวนจึงสวนกลับไป “ถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ก็เลิกพูดจาไร้สาระเสียที! มันมีที่เช่นนั้นอยู่หรือไม่?”

เจียงซือตอบกลับมา “หากพูดถึงพลังปิดกั้นที่รุนแรงล้ำจนแม้แต่เหล่าเจ้าฟ้าดินยังกลัวแล้ว มันก็คงมีแต่… ยอดเขาแปดโมฆะ!”

เย่หยวนนั้นย่อมจะไม่เคยได้ยินถึงสถานที่แห่งนี้มาก่อนและต้องกล่าวขึ้นถาม “ยอดเขาแปดโมฆะ?”

เจียงซือจึงได้เริ่มอธิบายออกมา “เทือกเขาแปดโมฆะนั้นคือเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างแดนกลางและแดนตะวันตก ทอดตัวยาวอย่างไม่รู้กี่ล้านต่อกี่ล้านกิโลเมตร! และที่ยอดของมันนั้นก็มียอดเขาแปดโมฆะที่เปี่ยมล้นไปด้วยพลังปิดกั้นอย่างมหาศาลทั่วทุกทิศ ตำนานว่ากันว่าพลังปิดกั้นของยอดเขาแปดโมฆะนี้ถูกสร้างขึ้นโดยยอดฝีมือในอดีตด้วยเวลาชั่วข้ามคืน ทำลายสังหารนักยุทธไปนักต่อนักในเวลานั้นและมันยังเป็นพลังปิดกั้นที่ทอดตัวยาวออกไปถึงแปดสิบล้านกิโลเมตร ยิ่งใหญ่จนเหนือความเข้าใจ! แต่แน่นอนว่าภายในนั้นมันก็ย่อมจะมีสมบัติล้ำค่าโชคให้แสวงหา คนมากมายจึงได้เสี่ยงชีวิตเข้าไปภายในเพื่อเสาะหาโชค แม้แต่เหล่าเจ้าฟ้าดินทั้งหลายเองก็ไม่เว้นและเจ้าฟ้าดินที่ตายลงไปในที่แห่งนั้นมันก็มีมากมายเช่นกัน”

เมื่อเย่หยวนได้ยินเขาก็ต้องตื่นตะลึงไปทั้งใจ

เพราะในเวลาแค่ชั่วข้ามคืนกลับสร้างค่ายกลพลังปิดกั้นครอบพื้นที่กว่าแปดสิบล้านกิโลเมตรมันเป็นสิ่งที่เกิดกว่าจะเข้าใจได้

ปรมาจารย์เต๋าค่ายกลผู้สร้างมันขึ้นมานี้ต้องเก่งกาจถึงปานใด!

เต๋าค่ายกลของเย่หยวนในเวลานี้เองก็คงนับถึงขั้นระดับปรมาจารย์ได้

แต่ในเวลาแค่คืนเดียวนั้น ตัวเขาคงกางค่ายกลปิดกั้นได้อย่างมากที่สุดก็แค่ระยะแปดพันกิโลเมตร

และนี่คือการทุ่มสุดตัวของเขาแล้ว!

เย่หยวนหรี่ตาขึ้นบอก “ดี ไปที่นั่นกัน! ท่านนำทางไป!”

มิติผีไร้แดนนั้นมันตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ หากมุ่งหน้าขึ้นเหนือไปเรื่อยๆ เช่นนี้พวกเขาทั้งหลายก็คงไปถึงยอดเขาแปดโมฆะได้แน่

ทั้งสองฝ่ายนั้นหนึ่งไล่หนึ่งตามกันไปด้วยความเร็วที่เหนือกว่ามนุษย์จะเข้าใจ

แต่ทว่าระยะห่างของทั้งสองมันก็ค่อยๆ สั้นลงเรื่อยๆ

เวลาผ่านไปแค่ครึ่งวันนี้จากระยะห่างหนึ่งล้านกิโลเมตรมันย่นมาเหลือเพียงแค่ห้าแสนกิโลเมตร

หากเป็นเช่นนี้ต่อไปแล้วในเวลาอีกแค่ครึ่งวันเหล่าเจ้าฟ้าดินทั้งสามคงติดตามมาทันแน่

“เด็กน้อย หนีไปสิ! เจ้าฟ้าดินผู้นี้อยากรู้ว่าเจ้าจะหนีไปได้สักกี่น้ำ!” ที่ด้านหลังนั้นเกิดเสียงตะโกนลั่นของซุ่ยหยวนขึ้น

ด้วยกำลังของเจ้าฟ้าดินแล้วการจะส่งเสียงดังลั่นด้วยปราณเทวะนี้มันคงทำให้คนในระยะนับล้านๆ กิโลเมตรได้ยินอย่างชัดเจน

ตัวเทียนหยานนั้นยังไม่เท่าไหร่แต่ซุ่ยหยวนและกู้หวนนั้นกำลังแค้นเคืองอย่างมาก

คนทั้งสองนั้นได้ต่อสู้แย่งชิงเอาธนูสาบานสังหารเทพจนฟ้าดินแตกสลาย

แต่ในวินาทีที่การต่อสู้กำลังค่อยๆ จะรู้ผลมันกลับมีเจียงซือเข้ามาแย่งชิงฉวยโอกาสอย่างไม่คิดชีวิต

และก่อนที่พวกเขาจะทันได้จับตัวเจียงซือ เย่หยวนก็ยังมาช่วยเหลือพาเจียงซือหนีไป

ทั้งสองนั้นไม่มีทางเลือกจึงต้องยอมจ่ายเงินอย่างมากมายมหาศาลเพื่อเรียกขอความช่วยเหลือจากจักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยาน

เมื่อเรื่องราวมันเกิดขึ้นมาจนถึงขั้นนี้และพวกเขาได้มาเจอตัวการคนร้าย มีหรือที่คนทั้งสองจะยังเก็บคุมอารมณ์เอาไว้ได้

เวลานี้พวกเขาต่างอยากจะฉีกร่างของเย่หยวนออกเป็นชิ้นๆ

เย่หยวนนั้นยังคงมีจิตใจสงบเร่งความเร็วสุดตัว

แต่เจียงซือนั้นต้องขมวดคิ้วแน่น “ไม่ได้การ! แบบนี้เราไปไม่ถึงยอดเขาแปดโมฆะแน่!”

เย่หยวนจึงได้ถามขึ้น “ทางข้างหน้านี้มันมีที่ใดที่มิติบิดเบี้ยวคดเคี้ยวบ้างหรือไม่?”

เจียงซือจึงเบิกตาขึ้นมา “มี! ตรงไปเหนือ! ด้วยความเร็วของเจ้านี้คงไปถึงที่นั้นได้ในเวลาไม่ถึงครึ่งวัน!”

เย่หยวนไม่คิดถามใดๆ ต่อรีบหันหน้าขึ้นเหนือทันที

เจียงซือนั้นตื่นตะลึงอยู่ลึกๆ ในใจเพราะเขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าจิตใจของเย่หยวนมันสงบนิ่งอย่างมาก

ภายใต้แรงกดดันมหาศาลที่พลาดไม่ได้แม้สักก้าวเช่นนี้เขากลับยังรักษาจิตใจให้สงบได้ มันมิใช่สิ่งที่คนหนุ่มทั่วๆ ไปจะทำได้อย่างแน่นอน

ตัวเขานั้นมีชีวิตมานานนับล้านๆ ปีเองก็ยังไม่อาจจะสงบจิตได้เท่าเย่หยวน

เวลานี้ทั้งสองฝ่ายหนึ่งหนีหนึ่งไล่กันไปในห้วงมิติที่ราบรื่น

เมื่อเป็นเช่นนั้น แม้เย่หยวนจะใช้ความเร็วสูงสุดออกมามันก็ยังไม่อาจจะทิ้งห่างจากคนทั้งสามได้

แต่เมื่อเข้าไปถึงจุดที่มิติบิดเบี้ยวซับซ้อนแล้วพลังของแนวคิดแห่งห้วงมิติที่เย่หยวนชำนาญมันจะฉายแสงขึ้นอีกครั้ง

ในห้วงมิติที่บิดเบี้ยวซับซ้อนนั้นตัวเย่หยวนคงเคลื่อนที่ได้ช้าลงไปมาก แต่คนทั้งสามนั้นย่อมจะช้าลงกว่า!

เท่านั้นความได้เปรียบด้านแนวคิดห้วงมิติของเย่หยวนก็จะเจิดจ้าขึ้นทิ้งระยะห่างจากคนทั้งสามได้อีกครั้ง

เดิมทีแล้วความคิดเช่นนี้มันควรจะเป็นตัวเฒ่าเจียงซือนี้ที่คิดขึ้นได้ แต่ตัวเขานั้นไม่มีสติมากพอที่จะหยุดคิด

เพราะในสถานการณ์ที่ไร้ความหวังใดๆ เช่นนี้ คนทั้งหลายย่อมจะไม่เหลือสติมากพอคิดหาทางออกใดอีก

แต่เย่หยวนนั้นมิใช่คนประเภทนั้น

ตั้งแต่ที่สัมผัสได้ถึงตัวตนของคนทั้งสามนั้นเย่หยวนก็ไม่ได้รู้สึกตื่นตระหนกใดๆ มากมาย ราวกับว่าตัวเขานี้เป็นเครื่องจักรสมองกล!

เจ้าหนุ่มคนนี้มันทำได้อย่างไรกัน?

……………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2251 โอกาสรอดอันเลือนราง!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2251 โอกาสรอดอันเลือนราง! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เย่หยวนนั้นไม่ได้คิดยอมแพ้ เวลานี้สมองของเขากำลังทำงานอย่างหนักเพื่อคิดหาทางรอด

ดูเหมือนว่าเขาเองก็จะดูถูกความอยากได้ธนูสาบานสังหารเทพของสองเจ้าฟ้าดินมากเกินไป

เครื่องรางเต๋านั้นมันน่าดึงดูดจนเกินจะทน!

คนเราตายลงเพราะความโลกได้ทั้งสิ้น

เพื่อที่จะได้ธนูสาบานสังหารเทพมาครองนี้ ตัวเจียงซือก็ยังยอมที่จะทิ้งชีวิตของตัวเองลง

สองเจ้าฟ้าดินนั้นเองก็คงไม่ยอมปล่อยสมบัติล้ำค่าเช่นนี้ไปง่ายๆ

“ซุ่ยหยวนและกู้หวนนั้นย่อมจะต้องไปขอยืมแรงจากยอดฝีมือผู้เชี่ยวชาญการแกะรอยแน่ ที่สำคัญไปกว่านั้นผู้เชี่ยวชาญคนนี้คงมีวิชาเต๋าค่ายกลที่เก่งกาจไม่น้อย! การที่จะถูกคนทั้งสองเชิญมา มันย่อมจะต้องเป็นเจ้าฟ้าดินด้วยกันแน่แล้ว!” เย่หยวนวิเคราะห์

ซุ่ยหยวนและกู้หวนนั้นเป็นเจ้าฟ้าดินผู้มีชื่อเสียงลือลั่นแน่นอนว่าตัวเจียงซือเองก็ย่อมจะต้องรู้จักหน้าของคนทั้งสองดี

เย่หยวนจึงได้รู้ถึงนามของผู้ไล่ล่าเขามาจากปากของเจียงซือนั่นเอง

เจียงซือนั้นกล่าวออกมาด้วยสีหน้าหมดสิ้นหวัง “เช่นนั้นแล้วมันคงเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานแน่! ดวงตาของเขานั้นสามารถมองเห็นถึงความจริงได้ทุกสิ่งอย่าง ว่ากันว่าเขามีเวลาที่จะมองดูเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีตได้เสียด้วยซ้ำ! สหายหนุ่มเย่ ทิ้งข้าไว้แล้วเอาตัวรอดไปเถอะ!”

เย่หยวนที่ได้ยินต้องหัวเราะออกมา “มันสายไปแล้ว! ต่อให้ข้าจะส่งทั้งตัวท่านทั้งธนูสาบานสังหารเทพไปให้พวกมัน มีหรือที่มันจะปล่อยข้าไป? เดิมทีข้านั้นคิดว่าแผนการของตัวเองแยบยลพอแล้ว ไม่นึกว่ามันจะยังมีเจ้าฟ้าดินที่มีวิชาอย่างจักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานนี้ ดูท่าข้าจะยังไม่เข้าใจตัวตนของเหล่าเจ้าฟ้าดินจริงๆ!”

เจียงซือได้แต่ถอนหายใจยาวเพราะเข้าใจดีว่าสิ่งที่เย่หยวนกล่าวมานั้นคือความจริง

เย่หยวนนั้นได้เอาตัวเองเข้ามาเกี่ยวพันกับเรื่องราวแล้ว ย่อมจะไม่สามารถหลุดพ้นไปได้ง่ายๆ

ต่อให้จะส่งธนูสาบานสังหารเทพคืนกลับไปให้เหล่าเจ้าฟ้าดินทั้งหลายนั้นเองก็คงไม่คิดปล่อยเย่หยวนรอดชีวิต

ส่วนตัวเขาเองก็เป็นได้แค่คนพิการไร้พลังใด

“สหายหนุ่มเย่ มันเป็นเพราะข้าเองที่ทำให้เจ้าต้องมาเจอเรื่องแบบนี้!” เจียงซือถอนหายใจยาว

ต่อให้เขาจะเป็นสัตว์ประหลาดเฒ่าปานใด เขาก็ยังรู้สึกซาบซึ้งบุญคุณเย่หยวนอย่างสุดใจ

หากเป็นคนอื่นแล้วพวกเขาคงแค่สังหารเขาและแย่งชิงเอาสมบัติไป

เย่หยวนนั้นนอกจากจะไม่แย่งชิงเอาธนูสาบานสังหารเทพไปแล้วยังช่วยเหลือรักษาชีวิตเขาไว้

เวลานี้เขานั้นตื้นตันจนแทบจะหลั่งน้ำตาออกมา

น่าเสียดายที่…

“ผู้อาวุโสเจียงซือ ท่านรู้จักสถานที่ใดที่มีพลังปิดกั้นรุนแรงมากพอจะทำให้แม้แต่เหล่าเจ้าฟ้าดินยังต้องหวาดกลัวหรือไม่?” เย่หยวนถาม

“พลังปิดกั้น?” เจียงซือหันหน้ามามอง

“ใช่แล้ว! นั่นคือทางรอดเดียวของเรา!” เย่หยวนตอบกลับมา

ระหว่างทางที่หนีมานั้นเย่หยวนได้คิดถึงสิ่งต่างๆ ที่ตัวเขาพอจะทำได้และตัดสินใจว่าเส้นทางเดียวที่ยังเหลือรอดก็คือเต๋าค่ายกลนี้!

เวลานี้มีเจ้าฟ้าดินติดตามเขามาถึงสามคน ไม่ว่าจะอย่างไรอีกฝ่ายก็ย่อมต้องเก่งกาจกว่าตัวหยวนเจี่ยวไปมากแล้ว

ต่อให้จะดึงพวกเขาเข้าไปสู้ในพิภพโกลาหลมันก็คงไม่มีทางใดที่เย่หยวนจะเอาชนะได้

ส่วนเรื่องของเวลาชะงักใดๆ นั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึงกันไปใหญ่ต่อหน้าเหล่าเจ้าฟ้าดินทั้งหลาย

เส้นทางเดียวที่จะนำให้รอดชีวิตได้ก็คือเต๋าค่ายกล!

เจียงซือนั้นเป็นเฒ่าที่อยู่มานับล้านๆ ปีแน่นอนว่าความเข้าใจต่อมหาพิภพถงเทียนของเขามันย่อมจะเหนือล้ำกว่าเย่หยวนอย่างมาก เย่หยวนจึงได้ถามเขาขึ้น

ตัวเจียงซือเองก็ได้แต่ตอบกลับมาด้วยสีหน้าแปลกๆ “พลังปิดกั้นที่แม้แต่เจ้าฟ้าดินยังหวาดกลัว เช่นนั้นแล้วเราจะรอดจากมันได้หรือ!”

แต่เย่หยวนกลับตอบมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ท่านอยากอยู่หรือตายเล่า?”

เจียงซือตอบกลับมา “แน่นอนว่าต้องยังอยากอยู่!”

เย่หยวนจึงสวนกลับไป “ถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ก็เลิกพูดจาไร้สาระเสียที! มันมีที่เช่นนั้นอยู่หรือไม่?”

เจียงซือตอบกลับมา “หากพูดถึงพลังปิดกั้นที่รุนแรงล้ำจนแม้แต่เหล่าเจ้าฟ้าดินยังกลัวแล้ว มันก็คงมีแต่… ยอดเขาแปดโมฆะ!”

เย่หยวนนั้นย่อมจะไม่เคยได้ยินถึงสถานที่แห่งนี้มาก่อนและต้องกล่าวขึ้นถาม “ยอดเขาแปดโมฆะ?”

เจียงซือจึงได้เริ่มอธิบายออกมา “เทือกเขาแปดโมฆะนั้นคือเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างแดนกลางและแดนตะวันตก ทอดตัวยาวอย่างไม่รู้กี่ล้านต่อกี่ล้านกิโลเมตร! และที่ยอดของมันนั้นก็มียอดเขาแปดโมฆะที่เปี่ยมล้นไปด้วยพลังปิดกั้นอย่างมหาศาลทั่วทุกทิศ ตำนานว่ากันว่าพลังปิดกั้นของยอดเขาแปดโมฆะนี้ถูกสร้างขึ้นโดยยอดฝีมือในอดีตด้วยเวลาชั่วข้ามคืน ทำลายสังหารนักยุทธไปนักต่อนักในเวลานั้นและมันยังเป็นพลังปิดกั้นที่ทอดตัวยาวออกไปถึงแปดสิบล้านกิโลเมตร ยิ่งใหญ่จนเหนือความเข้าใจ! แต่แน่นอนว่าภายในนั้นมันก็ย่อมจะมีสมบัติล้ำค่าโชคให้แสวงหา คนมากมายจึงได้เสี่ยงชีวิตเข้าไปภายในเพื่อเสาะหาโชค แม้แต่เหล่าเจ้าฟ้าดินทั้งหลายเองก็ไม่เว้นและเจ้าฟ้าดินที่ตายลงไปในที่แห่งนั้นมันก็มีมากมายเช่นกัน”

เมื่อเย่หยวนได้ยินเขาก็ต้องตื่นตะลึงไปทั้งใจ

เพราะในเวลาแค่ชั่วข้ามคืนกลับสร้างค่ายกลพลังปิดกั้นครอบพื้นที่กว่าแปดสิบล้านกิโลเมตรมันเป็นสิ่งที่เกิดกว่าจะเข้าใจได้

ปรมาจารย์เต๋าค่ายกลผู้สร้างมันขึ้นมานี้ต้องเก่งกาจถึงปานใด!

เต๋าค่ายกลของเย่หยวนในเวลานี้เองก็คงนับถึงขั้นระดับปรมาจารย์ได้

แต่ในเวลาแค่คืนเดียวนั้น ตัวเขาคงกางค่ายกลปิดกั้นได้อย่างมากที่สุดก็แค่ระยะแปดพันกิโลเมตร

และนี่คือการทุ่มสุดตัวของเขาแล้ว!

เย่หยวนหรี่ตาขึ้นบอก “ดี ไปที่นั่นกัน! ท่านนำทางไป!”

มิติผีไร้แดนนั้นมันตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ หากมุ่งหน้าขึ้นเหนือไปเรื่อยๆ เช่นนี้พวกเขาทั้งหลายก็คงไปถึงยอดเขาแปดโมฆะได้แน่

ทั้งสองฝ่ายนั้นหนึ่งไล่หนึ่งตามกันไปด้วยความเร็วที่เหนือกว่ามนุษย์จะเข้าใจ

แต่ทว่าระยะห่างของทั้งสองมันก็ค่อยๆ สั้นลงเรื่อยๆ

เวลาผ่านไปแค่ครึ่งวันนี้จากระยะห่างหนึ่งล้านกิโลเมตรมันย่นมาเหลือเพียงแค่ห้าแสนกิโลเมตร

หากเป็นเช่นนี้ต่อไปแล้วในเวลาอีกแค่ครึ่งวันเหล่าเจ้าฟ้าดินทั้งสามคงติดตามมาทันแน่

“เด็กน้อย หนีไปสิ! เจ้าฟ้าดินผู้นี้อยากรู้ว่าเจ้าจะหนีไปได้สักกี่น้ำ!” ที่ด้านหลังนั้นเกิดเสียงตะโกนลั่นของซุ่ยหยวนขึ้น

ด้วยกำลังของเจ้าฟ้าดินแล้วการจะส่งเสียงดังลั่นด้วยปราณเทวะนี้มันคงทำให้คนในระยะนับล้านๆ กิโลเมตรได้ยินอย่างชัดเจน

ตัวเทียนหยานนั้นยังไม่เท่าไหร่แต่ซุ่ยหยวนและกู้หวนนั้นกำลังแค้นเคืองอย่างมาก

คนทั้งสองนั้นได้ต่อสู้แย่งชิงเอาธนูสาบานสังหารเทพจนฟ้าดินแตกสลาย

แต่ในวินาทีที่การต่อสู้กำลังค่อยๆ จะรู้ผลมันกลับมีเจียงซือเข้ามาแย่งชิงฉวยโอกาสอย่างไม่คิดชีวิต

และก่อนที่พวกเขาจะทันได้จับตัวเจียงซือ เย่หยวนก็ยังมาช่วยเหลือพาเจียงซือหนีไป

ทั้งสองนั้นไม่มีทางเลือกจึงต้องยอมจ่ายเงินอย่างมากมายมหาศาลเพื่อเรียกขอความช่วยเหลือจากจักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยาน

เมื่อเรื่องราวมันเกิดขึ้นมาจนถึงขั้นนี้และพวกเขาได้มาเจอตัวการคนร้าย มีหรือที่คนทั้งสองจะยังเก็บคุมอารมณ์เอาไว้ได้

เวลานี้พวกเขาต่างอยากจะฉีกร่างของเย่หยวนออกเป็นชิ้นๆ

เย่หยวนนั้นยังคงมีจิตใจสงบเร่งความเร็วสุดตัว

แต่เจียงซือนั้นต้องขมวดคิ้วแน่น “ไม่ได้การ! แบบนี้เราไปไม่ถึงยอดเขาแปดโมฆะแน่!”

เย่หยวนจึงได้ถามขึ้น “ทางข้างหน้านี้มันมีที่ใดที่มิติบิดเบี้ยวคดเคี้ยวบ้างหรือไม่?”

เจียงซือจึงเบิกตาขึ้นมา “มี! ตรงไปเหนือ! ด้วยความเร็วของเจ้านี้คงไปถึงที่นั้นได้ในเวลาไม่ถึงครึ่งวัน!”

เย่หยวนไม่คิดถามใดๆ ต่อรีบหันหน้าขึ้นเหนือทันที

เจียงซือนั้นตื่นตะลึงอยู่ลึกๆ ในใจเพราะเขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าจิตใจของเย่หยวนมันสงบนิ่งอย่างมาก

ภายใต้แรงกดดันมหาศาลที่พลาดไม่ได้แม้สักก้าวเช่นนี้เขากลับยังรักษาจิตใจให้สงบได้ มันมิใช่สิ่งที่คนหนุ่มทั่วๆ ไปจะทำได้อย่างแน่นอน

ตัวเขานั้นมีชีวิตมานานนับล้านๆ ปีเองก็ยังไม่อาจจะสงบจิตได้เท่าเย่หยวน

เวลานี้ทั้งสองฝ่ายหนึ่งหนีหนึ่งไล่กันไปในห้วงมิติที่ราบรื่น

เมื่อเป็นเช่นนั้น แม้เย่หยวนจะใช้ความเร็วสูงสุดออกมามันก็ยังไม่อาจจะทิ้งห่างจากคนทั้งสามได้

แต่เมื่อเข้าไปถึงจุดที่มิติบิดเบี้ยวซับซ้อนแล้วพลังของแนวคิดแห่งห้วงมิติที่เย่หยวนชำนาญมันจะฉายแสงขึ้นอีกครั้ง

ในห้วงมิติที่บิดเบี้ยวซับซ้อนนั้นตัวเย่หยวนคงเคลื่อนที่ได้ช้าลงไปมาก แต่คนทั้งสามนั้นย่อมจะช้าลงกว่า!

เท่านั้นความได้เปรียบด้านแนวคิดห้วงมิติของเย่หยวนก็จะเจิดจ้าขึ้นทิ้งระยะห่างจากคนทั้งสามได้อีกครั้ง

เดิมทีแล้วความคิดเช่นนี้มันควรจะเป็นตัวเฒ่าเจียงซือนี้ที่คิดขึ้นได้ แต่ตัวเขานั้นไม่มีสติมากพอที่จะหยุดคิด

เพราะในสถานการณ์ที่ไร้ความหวังใดๆ เช่นนี้ คนทั้งหลายย่อมจะไม่เหลือสติมากพอคิดหาทางออกใดอีก

แต่เย่หยวนนั้นมิใช่คนประเภทนั้น

ตั้งแต่ที่สัมผัสได้ถึงตัวตนของคนทั้งสามนั้นเย่หยวนก็ไม่ได้รู้สึกตื่นตระหนกใดๆ มากมาย ราวกับว่าตัวเขานี้เป็นเครื่องจักรสมองกล!

เจ้าหนุ่มคนนี้มันทำได้อย่างไรกัน?

……………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+