Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2268 กดหัวเผ่าเทวาด้วยตัวคนเดียว!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2268 กดหัวเผ่าเทวาด้วยตัวคนเดียว! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“น-นายท่าน! ท-ทำไมท่านมาอยู่ที่นี่?”

เมื่อหนิงเทียนปิงได้สติกลับมานั้นและพบว่ามีเย่หยวนอยู่ตรงหน้าเขาก็ย่อมจะตื่นตะลึงอย่างสุดใจพยายามฝืนตัวลุกขึ้นจากเตียงนอนแต่เย่หยวนกลับรีบเดินมากดตัวเขาลง “นอนไปดีๆ! อย่าได้ขยับ!”

หนิงเทียนปิงนั้นเพิ่งตื่นขึ้นมาได้แน่นอนว่าบาดแผลของเขามันยังห่างไกลจากคำว่าหายดีนัก

เพราะครั้งนี้หนิงเทียนปิงบาดเจ็บอย่างสาหัสจนแทบจะตายลง มันย่อมไม่มีทางใดที่จะรักษาได้หายอย่างทันท่วงที

เมื่อเริ่มตั้งสติขึ้นมาได้หนิงเทียนปิงก็เริ่มเข้าใจได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นในเวลานี้

หนิงเทียนปิงนั้นได้แต่นอนนิ่งกัดฟันแน่น “นายท่าน ข้า… ข้าสร้างปัญหาให้ท่านแล้ว!”

เขานั้นมาเพื่อจะแก้แค้นให้แก่อาจารย์แต่กลับกลายเป็นการเดินเข้ามากลางดงกับดักของประตูวิญญาณมรณาแทน

เสี้ยววิญญาณของโม่ลี่เฟยนั้นต้องดับสูญลงเพราะคิดปกป้องตัวเขา

หลังจากนั้นเขาก็ถูกตัวหรงซีเยว่นั้นจับมาทรมานอย่างหนักหน่วงคิดรีดข้อมูลเกี่ยวกับเย่หยวนออกมา

แต่เขาไม่ได้คิดบอกเรื่องราวใดๆ

เย่หยวนจึงกล่าวออกมา “เจ้าปลอดภัยก็ดีแล้ว เวลานี้มีความแค้นใดก็ค่อยมาสะสางกัน!”

แต่จู่ๆ สายตาของหนิงเทียนปิงก็หันไปเห็นหรงซีเยว่ที่มุมห้องจนต้องอ้าปากค้าง

“นายท่าน นาง… นาง…”

“นางนั้นเป็นคนเผ่าเทวา ที่แห่งนี้มันคือโลกใบน้อยของตระกูลสายเลือดเร้นแห่งเผ่าเทวา อ่า เจ้าไม่ต้องกังวลไป เวลานี้พวกมันทั้งหลายคงกำลังวุ่นวายกันยกใหญ่” เย่หยวนกล่าว

ระหว่างที่พูดคุยกันไปประตูห้องโอสถมันก็ถูกเปิดขึ้นเผยให้เห็นหรูเฟิงที่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าหนักใจ

ดูท่าแล้วเขาคงต้องเสียเวลาและกำลังอย่างหนักหน่วงไปกับการจัดการหยุดยั้งการกระจายตัวของพิษ

เขานั้นต้องเสียเวลาและกำลังมหาศาลกว่าที่จะหยุดการไหลของพลังฟ้าดินในโลกใบน้อยนี้ได้ นั่นคือวิธีที่เขาใช้ในการหยุดการแพร่กระตายตัวของพิษ

เพราะนอกจากวิธีนี้เขาก็ไม่อาจจะนึกถึงวิธีอื่นได้แล้ว

เพียงแค่ว่านี่มันคือวิธีหยุดการแพร่กระจาย มิใช่วิธีการรักษาใดๆ ทั้งสิ้น

สุดท้ายการรักษานั้นมันก็คงมีแต่ต้องก้มหัวขอร้องเย่หยวน

หลังจากที่ต่อสู้กับมันยาวนานในที่สุดหรูเฟิงก็ได้เข้าใจถึงความน่ากลัวของเจ้าพิษร้ายนี้

ในเวลาสั้นๆ นี้ความเร็วการแพร่กระจายของพิษมันเหนือล้ำกว่าที่เขาคิดไปมาก

แม้ว่าเผ่าเทวานั้นจะมีจำนวนน้อยนิดแต่ตระกูลสายเลือดเร้นของพวกเขานี้ก็ใช้เวลามากมายหลายต่อหลายล้านปีในการรวบรวมผู้คนของเผ่าเทวามาอยู่ในโลกใบน้อยนี้

โชคยังดีที่เขาลงมือรวดเร็วมีสมาชิกเผ่าเทวาต้องตายลงไปแค่ไม่กี่พัน

เหล่ายอดฝีมือที่อยู่ในระดับเต๋าสวรรค์เจ็ดลายนั้นยังพอจะเอาชีวิตรอดได้แต่สุดท้ายก็คงอยู่ได้อีกไม่นาน

ส่วนเหล่าที่ขึ้นถึงระดับเต๋าสวรรค์แปดลายนั้นแม้พิษจะไม่อาจเอาชีวิตพวกเขาได้แต่พวกเขาก็คงต้องใช้ชีวิตไปพร้อมๆ กับการกดดันการแพร่กระจายของพิษนี้

พลังงานในชีวิตของพวกเขาแทบทั้งหมดมันต้องเสียไปกับเจ้าพิษตัวนี้

มันเป็นพิษที่น่ากลัวจนเกินไป!

“เด็กน้อย ส่งยาแก้พิษมา!” หรูเฟิงกล่าวด้วยสีหน้าหนักใจ

เย่หยวนหันมามองด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน “นี่คือวิธีที่เจ้าใช้ขอร้องคน? หากข้าให้ยาแก้พิษไปทั้งอย่างนี้ข้าคงไม่มีค่าใดแล้ว?”

หรูเฟิงนั้นเข้าใจได้ทันทีว่าเจ้าเด็กคนนี้มันมากเล่ห์ไม่อาจจะจัดการลงได้แม้แต่น้อย

ตระกูลสายเลือดเร้นนั้นหลบซ่อนอยู่ในโลกนี้มานานนับล้านปีแต่ก็อยู่กันอย่างสงบสุขมาเสมอ

เจ้าเด็กคนนี้มาถึงแค่วันเดียวกลับทำให้โลกทั้งใบแทบแตกสลายลง

ที่น่าเจ็บใจที่สุดก็คือต่อให้จะมีฝีมือมากแค่ไหนมันก็ไม่อาจจะทำอะไรเจ้าเด็กน่ารังเกียจคนนี้ได้!

น่าเจ็บแค้นนัก!

แม้ว่าการสังหารเย่หยวนนั้นจะง่าย แต่หากพิษนี้กระจายออกไปแล้วทั้งโลกใบน้อยนี้มันคงได้กลายเป็นดินแดนแห่งความตาย

ถึงเวลานั้นมันคงจะเหลือแต่เหล่าเต๋าสวรรค์แปดลายทั้งหลายที่รอดชีวิตได้

หรูเฟิงกัดฟันแน่นก่อนจะพยายามฝืนทำหน้าตาอ่อนโยน “สหายหนุ่มเย่ เรื่องราวของสหายผู้นี้เราต้องขอโทษด้วยจริงๆ! หลังจากจบเรื่องราวแล้วข้าจะหาวิธีชดเชยให้แน่ๆ ช่วยมอบยาแก้พิษนั้นให้ข้าด้วยเถอะ!”

เมื่อเขาพูดออกไปเขาก็แทบอยากจะตบปากตัวเอง

ตัวเขานี้คือใคร?

เขาคือหนึ่งในเก้าผู้อาวุโสแห่งสายเลือดเร้น!

สถานะของเขานี้สูงล้ำปานใด? มีหรือที่เขาจะเคยมาก้มหัวพูดจาขอร้องต่อมนุษย์เช่นนี้

เย่หยวนมองดูด้วยท่าทางเย้ยหยัน “น้ำเสียงยังแข็งไปอยู่ แต่ก็พอทนรับได้ แต่… คนอย่างเจ้านั้นมันยังไม่มีค่าพอ!”

หรูเฟิงกล่าวออกมาด้วยใบหน้าแดงก่ำ “เด็กน้อย เจ้าได้คืบแล้วจะเอาศอกหรือ?”

เย่หยวนตอบกลับไป “ให้ผู้อาวุโสใหญ่เจ้ามา ต้องเป็นเขานั้นถึงค่อยมีค่าพอจะขอร้องข้าได้!”

หรูเฟิงหน้าแดงก่ำจนแทบกลายเป็นสีดำ “ผู้อาวุโสใหญ่นั้นเป็นใคร? คนอย่างเขาไม่มีทางจะมาขอโทษเจ้าได้แน่!”

เย่หยวนจึงยักไหล่ตอบกลับไป “เช่นนั้นเจ้าก็ฆ่าข้าสิ แล้วให้เผ่าเทวานับสิบๆ ล้านนั้นตายไปกับข้าด้วย จะได้ถือว่าหายๆ กันไป แล้วเจ้าก็สบายใจได้เลย เพราะข้านั้นไม่ได้มียาแก้พิษติดตัวใดๆ ทั้งสิ้น”

จำนวนนับสิบๆ ล้านนั้นมันอาจจะฟังดูเหมือนเยอะ แต่หากเทียบกับประชากรของเผ่ามนุษย์หรือเผ่าอสูรแล้วมันไม่อาจจะเทียบได้แม้แต่เส้นขน

หรูเฟิงนั้นคิดอยากสังหารอีกฝ่ายลงให้มันรู้แล้วรู้รอดไป!

สายเลือดเร้นของพวกเขานี้ต้องเสียเวลาและทรัพยากรไปมากมายเท่าใดกว่าที่จะมาถึงทุกวันนี้ได้?

แต่เย่หยวนกลับปล่อยระเบิดพิษสังหารผู้คนทั้งหลายในคราเดียว!

แน่นอนว่ามันยังมีอีกวิธีหนึ่งนั่นคือการอพยพย้ายถิ่นฐาน

แต่ในเวลานี้เหล่ายอดฝีมือเผ่ามนุษย์เองก็เริ่มสัมผัสได้ถึงความผิดปกติและรอจะจัดการพวกเขาทั้งหลายอยู่ หากต้องอพยพด้วยจำนวนคนนับล้านนี้มันย่อมจะไม่มีทางหลบรอดสายตาของพวกเขาทั้งหลายนั้นไปได้

ถึงเวลานั้นมันย่อมจะมีแต่ตายกับตาย

ก่อนหน้านี้หรูเฟิงย่อมไม่เคยคิดว่าเผ่าเทวาอันสูงล้ำนั้นจะต้องก้มหัวให้กับมนุษย์คนหนึ่ง

มันควรเป็นมนุษย์ที่ก้มกราบพวกเขา

หรูเฟิงได้แค้กัดฟันแต่สุดท้ายก็ต้องหันหน้าเดินกลับออกจากห้องโอสถไป

ที่ด้านข้างตัวหรงซีเยว่และหนิงเทียนปิงต่างอ้าปากค้างอย่างตื่นตะลึง

ยอดฝีมือระดับนั้นกลับไม่กล้าจะเถียงเย่หยวนแม้สักคำ

น่ากลัว!

หนิงเทียนปิงนั้นคิดว่าตนต้องตายลงแน่แล้ว ไม่นึกไม่ฝันว่าวินาทีที่นายท่านของเขามาถึงมันกลับเป็นฝ่ายศัตรูที่ต้องก้มหัวลงจรดพื้น!

หากไม่มีอะไรผิดคาดผู้อาวุโสใหญ่ที่ว่านั้นจะต้องมาขอร้องเย่หยวนด้วยตัวเองแน่

ไม่เช่นนั้นแล้วหากคนเผ่าเทวานับสิบๆ ล้านนี้ตายลงสิ้นแล้วพวกเขาทั้งหลายคงได้กลายเป็นแม่ทัพที่ไร้ทหาร

แต่ในระหว่างที่หรูเฟิงกำลังไปตามตัวผู้อาวุโสใหญ่มานั้นลุงซ่งที่ได้รับคำสั่งแรกไปก็ได้นำเอาตัวหลี่จ้าวชิงมา

เมื่อหนิงเทียนปิงเห็นหลี่จ้าวชิงเขาก็แทบจะลุกขึ้นมาอีกครั้ง

หลี่จ้าวชิงนั้นมีใบหน้าขาวซีด เมื่อเขาได้เห็นหรงซีเยว่เขาก็ต้องรีบวิ่งเข้าไปกอดขานางร้องไห้ขอชีวิต “บุตรีศักดิ์สิทธิ์ ช-ช่วยข้าด้วย! ข้าน้อยนั้นรับใช้ประตูวิญญาณมรณามานานนับแสนๆ ปีและไม่เคยละเลยหน้าที่! ท่าน… ท่านจะทิ้งข้าไม่ได้นะ!”

หลี่จ้าวชิงนั้นเป็นแค่ผู้น้อยในประตูวิญญาณมรณาและย่อมไม่ได้รู้ถึงเรื่องราวของเผ่าเทวาใดๆ ตัวตนของหรงซีเยว่ในประตูวิญญาณมรณานั้นมันเป็นบุตรีศักดิ์สิทธิ์

แต่หรงซีเยว่กลับยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไปด้วยความสงสาร “มันมิใช่ว่าข้าไม่อยากช่วยเจ้า แต่เวลานี้ข้าเองยังเอาตัวไม่รอด! เจ้า… ภาวนาเถอะ”

พูดจบนางก็หันหน้าหนีไป

เย่หยวนนั้นยกดาบขึ้นมาตัดที่ขอบโต๊ะออกมาเหมือนเป็นแผ่นระลึกถึงคนตาย

จากนั้นเขาก็ขยันิ้วขีดตัวอักษรลงไปสร้างแผ่นระลึกถึงคนตายขึ้นมาจริงๆ

เมื่อสลักแล้วเสร็จเขาก็วางมันลงบนโต๊ะและกล่าวบอกหลี่จ้าวชิง “คุกเข่า!”

หลี่จ้าวชิงนั้นหันไปมองที่อักษรบนแผ่นนั้นและได้เห็นว่ามันเขียนไว้ว่า ‘ระลึกถึงอาจารย์ผู้ล่วงลับ โม่ลี่เฟย’

หลี่จ้าวชิงสั่นสะท้านไปทั้งกายเขานั้นไม่อาจเข้าใจได้เลยว่าแค่เด็กน้อยเทพสวรรค์คนหนึ่งแห่งใดจึงยังไม่มีใครมาจับจัดการมันไปอีก?

หรือว่าประตูวิญญาณมรณานั้นจะหวาดกลัวเด็กน้อยเทพสวรรค์คนหนึ่งนี้?

เพราะยอดฝีมือระดับจักรพรรดิเทพสวรรค์ที่สังกัดอยู่กับประตูวิญญาณมรณามันก็มีไม่น้อย!

ตุบ!

แต่หลี่จ้าวชิงก็ไม่คิดลังเลคุกเข่าลงตามที่ได้รับคำสั่ง

“กราบคารวะและขออภัย!” เย่หยวนสั่งออกมาด้วยท่าทางไม่เปิดช่องให้ต่อรองใดๆ

“น-นายท่านไว้ชีวิตข้าด้วย! ข้าจะกราบคารวะ! ข้าขอกราบ! พี่โม่ ข้านั้นทำการไปตามคำสั่งผู้คน มันไม่ได้เป็นสิ่งที่ข้าต้องการทำด้วยตัวเองเลยจริงๆ!”

พูดไปหลี่จ้าวชิงก็ก้มหัวลงโขกพื้นต่อหน้าป้ายระลึกนั้น

หนิงเทียนปิงนั้นรู้สึกตื้นตันขึ้นในหัวใจ หากมิใช่เพราะนายท่านเขานี้แล้วความแค้นใดๆ มันก็คงไม่มีทางจะสะสางได้

…………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2268 กดหัวเผ่าเทวาด้วยตัวคนเดียว!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2268 กดหัวเผ่าเทวาด้วยตัวคนเดียว! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“น-นายท่าน! ท-ทำไมท่านมาอยู่ที่นี่?”

เมื่อหนิงเทียนปิงได้สติกลับมานั้นและพบว่ามีเย่หยวนอยู่ตรงหน้าเขาก็ย่อมจะตื่นตะลึงอย่างสุดใจพยายามฝืนตัวลุกขึ้นจากเตียงนอนแต่เย่หยวนกลับรีบเดินมากดตัวเขาลง “นอนไปดีๆ! อย่าได้ขยับ!”

หนิงเทียนปิงนั้นเพิ่งตื่นขึ้นมาได้แน่นอนว่าบาดแผลของเขามันยังห่างไกลจากคำว่าหายดีนัก

เพราะครั้งนี้หนิงเทียนปิงบาดเจ็บอย่างสาหัสจนแทบจะตายลง มันย่อมไม่มีทางใดที่จะรักษาได้หายอย่างทันท่วงที

เมื่อเริ่มตั้งสติขึ้นมาได้หนิงเทียนปิงก็เริ่มเข้าใจได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นในเวลานี้

หนิงเทียนปิงนั้นได้แต่นอนนิ่งกัดฟันแน่น “นายท่าน ข้า… ข้าสร้างปัญหาให้ท่านแล้ว!”

เขานั้นมาเพื่อจะแก้แค้นให้แก่อาจารย์แต่กลับกลายเป็นการเดินเข้ามากลางดงกับดักของประตูวิญญาณมรณาแทน

เสี้ยววิญญาณของโม่ลี่เฟยนั้นต้องดับสูญลงเพราะคิดปกป้องตัวเขา

หลังจากนั้นเขาก็ถูกตัวหรงซีเยว่นั้นจับมาทรมานอย่างหนักหน่วงคิดรีดข้อมูลเกี่ยวกับเย่หยวนออกมา

แต่เขาไม่ได้คิดบอกเรื่องราวใดๆ

เย่หยวนจึงกล่าวออกมา “เจ้าปลอดภัยก็ดีแล้ว เวลานี้มีความแค้นใดก็ค่อยมาสะสางกัน!”

แต่จู่ๆ สายตาของหนิงเทียนปิงก็หันไปเห็นหรงซีเยว่ที่มุมห้องจนต้องอ้าปากค้าง

“นายท่าน นาง… นาง…”

“นางนั้นเป็นคนเผ่าเทวา ที่แห่งนี้มันคือโลกใบน้อยของตระกูลสายเลือดเร้นแห่งเผ่าเทวา อ่า เจ้าไม่ต้องกังวลไป เวลานี้พวกมันทั้งหลายคงกำลังวุ่นวายกันยกใหญ่” เย่หยวนกล่าว

ระหว่างที่พูดคุยกันไปประตูห้องโอสถมันก็ถูกเปิดขึ้นเผยให้เห็นหรูเฟิงที่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าหนักใจ

ดูท่าแล้วเขาคงต้องเสียเวลาและกำลังอย่างหนักหน่วงไปกับการจัดการหยุดยั้งการกระจายตัวของพิษ

เขานั้นต้องเสียเวลาและกำลังมหาศาลกว่าที่จะหยุดการไหลของพลังฟ้าดินในโลกใบน้อยนี้ได้ นั่นคือวิธีที่เขาใช้ในการหยุดการแพร่กระตายตัวของพิษ

เพราะนอกจากวิธีนี้เขาก็ไม่อาจจะนึกถึงวิธีอื่นได้แล้ว

เพียงแค่ว่านี่มันคือวิธีหยุดการแพร่กระจาย มิใช่วิธีการรักษาใดๆ ทั้งสิ้น

สุดท้ายการรักษานั้นมันก็คงมีแต่ต้องก้มหัวขอร้องเย่หยวน

หลังจากที่ต่อสู้กับมันยาวนานในที่สุดหรูเฟิงก็ได้เข้าใจถึงความน่ากลัวของเจ้าพิษร้ายนี้

ในเวลาสั้นๆ นี้ความเร็วการแพร่กระจายของพิษมันเหนือล้ำกว่าที่เขาคิดไปมาก

แม้ว่าเผ่าเทวานั้นจะมีจำนวนน้อยนิดแต่ตระกูลสายเลือดเร้นของพวกเขานี้ก็ใช้เวลามากมายหลายต่อหลายล้านปีในการรวบรวมผู้คนของเผ่าเทวามาอยู่ในโลกใบน้อยนี้

โชคยังดีที่เขาลงมือรวดเร็วมีสมาชิกเผ่าเทวาต้องตายลงไปแค่ไม่กี่พัน

เหล่ายอดฝีมือที่อยู่ในระดับเต๋าสวรรค์เจ็ดลายนั้นยังพอจะเอาชีวิตรอดได้แต่สุดท้ายก็คงอยู่ได้อีกไม่นาน

ส่วนเหล่าที่ขึ้นถึงระดับเต๋าสวรรค์แปดลายนั้นแม้พิษจะไม่อาจเอาชีวิตพวกเขาได้แต่พวกเขาก็คงต้องใช้ชีวิตไปพร้อมๆ กับการกดดันการแพร่กระจายของพิษนี้

พลังงานในชีวิตของพวกเขาแทบทั้งหมดมันต้องเสียไปกับเจ้าพิษตัวนี้

มันเป็นพิษที่น่ากลัวจนเกินไป!

“เด็กน้อย ส่งยาแก้พิษมา!” หรูเฟิงกล่าวด้วยสีหน้าหนักใจ

เย่หยวนหันมามองด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน “นี่คือวิธีที่เจ้าใช้ขอร้องคน? หากข้าให้ยาแก้พิษไปทั้งอย่างนี้ข้าคงไม่มีค่าใดแล้ว?”

หรูเฟิงนั้นเข้าใจได้ทันทีว่าเจ้าเด็กคนนี้มันมากเล่ห์ไม่อาจจะจัดการลงได้แม้แต่น้อย

ตระกูลสายเลือดเร้นนั้นหลบซ่อนอยู่ในโลกนี้มานานนับล้านปีแต่ก็อยู่กันอย่างสงบสุขมาเสมอ

เจ้าเด็กคนนี้มาถึงแค่วันเดียวกลับทำให้โลกทั้งใบแทบแตกสลายลง

ที่น่าเจ็บใจที่สุดก็คือต่อให้จะมีฝีมือมากแค่ไหนมันก็ไม่อาจจะทำอะไรเจ้าเด็กน่ารังเกียจคนนี้ได้!

น่าเจ็บแค้นนัก!

แม้ว่าการสังหารเย่หยวนนั้นจะง่าย แต่หากพิษนี้กระจายออกไปแล้วทั้งโลกใบน้อยนี้มันคงได้กลายเป็นดินแดนแห่งความตาย

ถึงเวลานั้นมันคงจะเหลือแต่เหล่าเต๋าสวรรค์แปดลายทั้งหลายที่รอดชีวิตได้

หรูเฟิงกัดฟันแน่นก่อนจะพยายามฝืนทำหน้าตาอ่อนโยน “สหายหนุ่มเย่ เรื่องราวของสหายผู้นี้เราต้องขอโทษด้วยจริงๆ! หลังจากจบเรื่องราวแล้วข้าจะหาวิธีชดเชยให้แน่ๆ ช่วยมอบยาแก้พิษนั้นให้ข้าด้วยเถอะ!”

เมื่อเขาพูดออกไปเขาก็แทบอยากจะตบปากตัวเอง

ตัวเขานี้คือใคร?

เขาคือหนึ่งในเก้าผู้อาวุโสแห่งสายเลือดเร้น!

สถานะของเขานี้สูงล้ำปานใด? มีหรือที่เขาจะเคยมาก้มหัวพูดจาขอร้องต่อมนุษย์เช่นนี้

เย่หยวนมองดูด้วยท่าทางเย้ยหยัน “น้ำเสียงยังแข็งไปอยู่ แต่ก็พอทนรับได้ แต่… คนอย่างเจ้านั้นมันยังไม่มีค่าพอ!”

หรูเฟิงกล่าวออกมาด้วยใบหน้าแดงก่ำ “เด็กน้อย เจ้าได้คืบแล้วจะเอาศอกหรือ?”

เย่หยวนตอบกลับไป “ให้ผู้อาวุโสใหญ่เจ้ามา ต้องเป็นเขานั้นถึงค่อยมีค่าพอจะขอร้องข้าได้!”

หรูเฟิงหน้าแดงก่ำจนแทบกลายเป็นสีดำ “ผู้อาวุโสใหญ่นั้นเป็นใคร? คนอย่างเขาไม่มีทางจะมาขอโทษเจ้าได้แน่!”

เย่หยวนจึงยักไหล่ตอบกลับไป “เช่นนั้นเจ้าก็ฆ่าข้าสิ แล้วให้เผ่าเทวานับสิบๆ ล้านนั้นตายไปกับข้าด้วย จะได้ถือว่าหายๆ กันไป แล้วเจ้าก็สบายใจได้เลย เพราะข้านั้นไม่ได้มียาแก้พิษติดตัวใดๆ ทั้งสิ้น”

จำนวนนับสิบๆ ล้านนั้นมันอาจจะฟังดูเหมือนเยอะ แต่หากเทียบกับประชากรของเผ่ามนุษย์หรือเผ่าอสูรแล้วมันไม่อาจจะเทียบได้แม้แต่เส้นขน

หรูเฟิงนั้นคิดอยากสังหารอีกฝ่ายลงให้มันรู้แล้วรู้รอดไป!

สายเลือดเร้นของพวกเขานี้ต้องเสียเวลาและทรัพยากรไปมากมายเท่าใดกว่าที่จะมาถึงทุกวันนี้ได้?

แต่เย่หยวนกลับปล่อยระเบิดพิษสังหารผู้คนทั้งหลายในคราเดียว!

แน่นอนว่ามันยังมีอีกวิธีหนึ่งนั่นคือการอพยพย้ายถิ่นฐาน

แต่ในเวลานี้เหล่ายอดฝีมือเผ่ามนุษย์เองก็เริ่มสัมผัสได้ถึงความผิดปกติและรอจะจัดการพวกเขาทั้งหลายอยู่ หากต้องอพยพด้วยจำนวนคนนับล้านนี้มันย่อมจะไม่มีทางหลบรอดสายตาของพวกเขาทั้งหลายนั้นไปได้

ถึงเวลานั้นมันย่อมจะมีแต่ตายกับตาย

ก่อนหน้านี้หรูเฟิงย่อมไม่เคยคิดว่าเผ่าเทวาอันสูงล้ำนั้นจะต้องก้มหัวให้กับมนุษย์คนหนึ่ง

มันควรเป็นมนุษย์ที่ก้มกราบพวกเขา

หรูเฟิงได้แค้กัดฟันแต่สุดท้ายก็ต้องหันหน้าเดินกลับออกจากห้องโอสถไป

ที่ด้านข้างตัวหรงซีเยว่และหนิงเทียนปิงต่างอ้าปากค้างอย่างตื่นตะลึง

ยอดฝีมือระดับนั้นกลับไม่กล้าจะเถียงเย่หยวนแม้สักคำ

น่ากลัว!

หนิงเทียนปิงนั้นคิดว่าตนต้องตายลงแน่แล้ว ไม่นึกไม่ฝันว่าวินาทีที่นายท่านของเขามาถึงมันกลับเป็นฝ่ายศัตรูที่ต้องก้มหัวลงจรดพื้น!

หากไม่มีอะไรผิดคาดผู้อาวุโสใหญ่ที่ว่านั้นจะต้องมาขอร้องเย่หยวนด้วยตัวเองแน่

ไม่เช่นนั้นแล้วหากคนเผ่าเทวานับสิบๆ ล้านนี้ตายลงสิ้นแล้วพวกเขาทั้งหลายคงได้กลายเป็นแม่ทัพที่ไร้ทหาร

แต่ในระหว่างที่หรูเฟิงกำลังไปตามตัวผู้อาวุโสใหญ่มานั้นลุงซ่งที่ได้รับคำสั่งแรกไปก็ได้นำเอาตัวหลี่จ้าวชิงมา

เมื่อหนิงเทียนปิงเห็นหลี่จ้าวชิงเขาก็แทบจะลุกขึ้นมาอีกครั้ง

หลี่จ้าวชิงนั้นมีใบหน้าขาวซีด เมื่อเขาได้เห็นหรงซีเยว่เขาก็ต้องรีบวิ่งเข้าไปกอดขานางร้องไห้ขอชีวิต “บุตรีศักดิ์สิทธิ์ ช-ช่วยข้าด้วย! ข้าน้อยนั้นรับใช้ประตูวิญญาณมรณามานานนับแสนๆ ปีและไม่เคยละเลยหน้าที่! ท่าน… ท่านจะทิ้งข้าไม่ได้นะ!”

หลี่จ้าวชิงนั้นเป็นแค่ผู้น้อยในประตูวิญญาณมรณาและย่อมไม่ได้รู้ถึงเรื่องราวของเผ่าเทวาใดๆ ตัวตนของหรงซีเยว่ในประตูวิญญาณมรณานั้นมันเป็นบุตรีศักดิ์สิทธิ์

แต่หรงซีเยว่กลับยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไปด้วยความสงสาร “มันมิใช่ว่าข้าไม่อยากช่วยเจ้า แต่เวลานี้ข้าเองยังเอาตัวไม่รอด! เจ้า… ภาวนาเถอะ”

พูดจบนางก็หันหน้าหนีไป

เย่หยวนนั้นยกดาบขึ้นมาตัดที่ขอบโต๊ะออกมาเหมือนเป็นแผ่นระลึกถึงคนตาย

จากนั้นเขาก็ขยันิ้วขีดตัวอักษรลงไปสร้างแผ่นระลึกถึงคนตายขึ้นมาจริงๆ

เมื่อสลักแล้วเสร็จเขาก็วางมันลงบนโต๊ะและกล่าวบอกหลี่จ้าวชิง “คุกเข่า!”

หลี่จ้าวชิงนั้นหันไปมองที่อักษรบนแผ่นนั้นและได้เห็นว่ามันเขียนไว้ว่า ‘ระลึกถึงอาจารย์ผู้ล่วงลับ โม่ลี่เฟย’

หลี่จ้าวชิงสั่นสะท้านไปทั้งกายเขานั้นไม่อาจเข้าใจได้เลยว่าแค่เด็กน้อยเทพสวรรค์คนหนึ่งแห่งใดจึงยังไม่มีใครมาจับจัดการมันไปอีก?

หรือว่าประตูวิญญาณมรณานั้นจะหวาดกลัวเด็กน้อยเทพสวรรค์คนหนึ่งนี้?

เพราะยอดฝีมือระดับจักรพรรดิเทพสวรรค์ที่สังกัดอยู่กับประตูวิญญาณมรณามันก็มีไม่น้อย!

ตุบ!

แต่หลี่จ้าวชิงก็ไม่คิดลังเลคุกเข่าลงตามที่ได้รับคำสั่ง

“กราบคารวะและขออภัย!” เย่หยวนสั่งออกมาด้วยท่าทางไม่เปิดช่องให้ต่อรองใดๆ

“น-นายท่านไว้ชีวิตข้าด้วย! ข้าจะกราบคารวะ! ข้าขอกราบ! พี่โม่ ข้านั้นทำการไปตามคำสั่งผู้คน มันไม่ได้เป็นสิ่งที่ข้าต้องการทำด้วยตัวเองเลยจริงๆ!”

พูดไปหลี่จ้าวชิงก็ก้มหัวลงโขกพื้นต่อหน้าป้ายระลึกนั้น

หนิงเทียนปิงนั้นรู้สึกตื้นตันขึ้นในหัวใจ หากมิใช่เพราะนายท่านเขานี้แล้วความแค้นใดๆ มันก็คงไม่มีทางจะสะสางได้

…………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+