Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2280 กำเนิดมหาพิภพ

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2280 กำเนิดมหาพิภพ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

แต่เย่หยวนนั้นกลับไม่ได้ยินเสียงใดๆ นั้นและเข้าสู่สภาวะอันแปลกประหลาด

ระหว่างทางที่เดินขึ้นมานี้เขามีแต่จะเข้าใจเรื่องราวของโลกหล้ามากขึ้น

เพราะเวลานี้จิตของเขามันได้ผสานเข้าเป็นหนึ่งกับกฎของเขาแห่งถงเทียนไปแล้ว

เวลานี้ในสายตาของเย่หยวนนั้นเขาแห่งถงเทียนนั้นไม่ได้เป็นแค่เขาแห่งถงเทียนอีกต่อไป มันกลายเป็นจุดปมของเส้นสายอันหนามากมายหลายเส้น

เจ้าเส้นอันหนาใหญ่ทั้งหลายนี้มันแผ่ไปทั่วทั้งมหาพิภพถงเทียนก่อนจะแยกย่อยลงเป็นเส้นบางๆ

เจ้าเส้นบางทั้งหลายนั้นจะค่อยๆ แผ่ออกไปจนปกคลุมครอบทุกสิ่งอย่างสิ้น

เย่หยวนนั้นผสานจิตของตนลงกับเต๋าจนได้เห็นทุกสิ่งอย่างชัดเจน

เจ้าเส้นหนาและเส้นบางทั้งสองนี้มันเหมือนกับเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทำงานตามกฎบางอย่าง

ตัวมหาพิภพถงเทียนทั้งหมดนี้มันเหมือนเป็นดั่งเครื่องจักรที่ทำงานอย่างต่อเนื่องไม่มีหยุด

โดยที่มีเขาแห่งถงเทียนนี้เป็นศูนย์กลางให้พลังงานเครื่องจักรนี้

เขาแห่งถงเทียนนั้นทำงานได้ด้วยตัวเอง ก่อนที่มันจะส่งคำสั่งไปให้แก่มหาพิภพถงเทียนทั้งหมดทำงานตามนั้น

ทุกสิ่งอย่างล้วนเกิดขึ้นอย่างเรียบง่ายเช่นนี้

“เส้นหนาทั้งหลายนี้คงเป็นต้นกำเนิดเต๋าแล้ว? ส่วนเส้นบางทั้งหลายคงเป็นพลังเต๋าที่กระจายออกไปกลายเป็นแนวคิดต่างๆ นาๆ!”

“ต้นกำเนิดพลังนี้มันคือสิ่งที่ทำให้มหาพิภพถงเทียนดำเนินต่อไปได้ ควบคุมทุกชีวิตไว้สิ้นและยิ่งเข้ามาใกล้แหล่งกำเนิดพวกมันก็จะยิ่งยุ่งเหยิง ด้วยความสามารถของข้าในเวลานี้คงไม่อาจจะทำความเข้าใจพวกมันทั้งหลายนี้ได้เลย”

“แต่ว่า… ข้าไม่จำเป็นต้องเข้าใจพวกมันเลย เพราะโลกของข้ามันย่อมจะเกิดขึ้นด้วยตัวข้าเอง!”

“ขึ้นมาจนถึงระดับจักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นย่อมจะอยู่เหนือล้ำโลก ตัดสินได้ว่าโลกนั้นมันควรถูกสร้างขึ้นอย่างไร!”

เย่หยวนได้เข้าใจทุกสิ่งอย่างขึ้นอย่างแจ่มชัด

ทั้งเรื่องของการสร้างมหาพิภพใหม่นี้ขึ้นและรูปร่างของมันด้วย

เพราะฉะนั้นเขาจึงเดินผ่านขึ้นม่านหมอกไปอีกครั้ง

“เจ้าเด็กคนนี้มันมาจากที่ใดกัน? เขา… เขากลับเข้าม่านหมอกไปหรือ?”

“เขาน่าจะกำลังบรรลุใช่หรือไม่? หรือว่าเขาคิดจะเดินผ่านและขึ้นไปยังเขตจักรพรรดิเทพสวรรค์เหนือระยะแสนกิโลเมตร?”

“ทรงพลังจริงๆ! แม้แต่เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายก็ยังไม่กล้าจะผ่านม่านหมอกนี้ไป แต่เขากลับทำได้!”

เขตของเทพสวรรค์นั้นมันกว้างใหญ่มากกินพื้นที่ตั้งแต่หนึ่งหมื่นกิโลเมตรจนถึงหนึ่งแสนกิโลเมตร

เย่หยวนนั้นเดินออกมาจากม่านหมอกในตอนแรกมันก็ทำให้คนทั้งหลายต้องหันมาสนใจอย่างไม่อาจห้ามได้แล้ว

เพราะฉะนั้นการกระทำทุกย่างก้าวของเขาจึงถูกผู้คนจับตามองตลอด

เวลานี้เมื่อเขาเดินมาจนถึงสุดระยะหนึ่งแสนกิโลเมตร มันย่อมจะทำให้คนทั้งหลายต้องตื่นตะลึง

เพราะพวกเขานั้นไม่เคยจะได้ยินว่ามีใครคิดบรรลุด้วยวิธีการเดินผ่านม่านหมอกเช่นนี้มาก่อนบนเขาแห่งถงเทียน

และในหมู่คนนั้นมันมีสาวรูปงามผู้หนึ่งในชุดสีฟ้าครามกำลังมองดูเย่หยวนด้วยร่างกายที่สั่นเทา

คำพูดของนางนั้นหลุดออกมาจากปากครั้งหนึ่งแต่นางก็ไม่คิดจะเรียกใดๆ ต่อ

เวลาพันกว่าปีนั้นไม่ได้ยาวนานสำหรับนักยุทธแต่กับนางแล้วเวลาพันปีนี้มันมีเรื่องราวเกิดขึ้นอย่างมากหลาย

นางไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้มาเจอเย่หยวนอีกครั้งในสถานการณ์เช่นนี้

แต่สภาพของเย่หยวนในเวลานี้มันเหมือนคนที่ใกล้บรรลุเต็มที

หากนางไปขัดจังหวะเขานั้นมันอาจจะทำให้ความพยายามทั้งหลายของเขาสูญเปล่าลง

เพราะฉะนั้นนางจึงไม่ได้กล่าวเรียกออกไป

จนได้เห็นเย่หยวนเดินหายผ่านม่านหมอกไปแล้วนางจึงเริ่มกลับมาตั้งสติได้

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด สุดท้ายนางผู้นี้ก็ยิ้มกว้างออกมาราวกับดอกไม้ที่ผลิบาน

สายตาของนางนั้นแสดงความหนักแน่นอย่างถึงที่สุดก่อนจะรีบหันหน้าเดินลงเขาไปทันที

เหนือระยะเก้าแสนกิโลเมตรนั้นจักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงกำลังศึกษาบ่มเพาะเต๋าอยู่บนนี้มานานกว่าแสนปี

เขานั้นมีอายุกว่าสิบล้านปีแล้ว และบ่มเพาะขึ้นมาจนถึงอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์แปดดาว

สิบล้านปีที่บ่มเพาะมานี้ในที่สุดเขาก็ก้าวขึ้นมาจนถึงอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์แปดดาวขั้นสุดได้!

การมาที่เขาแห่งถงเทียนในครั้งนี้มันก็เพื่อที่จะผ่านด่านสุดท้ายหาทางขึ้นสู่การเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์เก้าดาว

“ฮ่าๆๆ… จักรพรรดิผู้นี้ใกล้จะบรรลุได้แล้ว! ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง! ทุกข์ทลายของข้านั้นใกล้มาถึงเต็มทีการบรรลุขึ้นอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์เก้าดาวนี้มันย่อมจะช่วยให้ข้ามีโอกาสสำเร็จผ่านมันไปได้! จงดูดกลืน!”

จักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงนั้นยกมือขึ้นสูงใช้วรยุทธบ่มเพาะออกมาจนถึงที่สุดเรียกกลืนพลังงานวิญญาณฟ้าดินจากรอบๆ อย่างบ้าคลั่งจนเกิดเป็นมิติที่บิดเบี้ยว

เหนือระยะเก้าแสนกิโลเมตรนั้นมันย่อมจะมีพลังงานที่หนักแน่นจนไม่อาจจินตนาการได้

จักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงนั้นกลืนมันลงไปอย่างบ้าคลั่งเหมือนฟองน้ำยักษ์ที่ดูดกลืนทะเลลงไป กลืนกินพลังงานฟ้าดินทั้งหลายอย่างไม่มีหยุด

แต่จู่ๆ สีหน้าของเขาก็ต้องเปลี่ยนสีไป

“นี่มัน… เกิดอะไรขึ้นกัน? ทำไมพลังงานวิญญาณทั้งหลายมันกลับไหลลงเขาไปเล่า? ไม่ดีแล้ว เช่นนี้ข้าจะเสียพลังงานมากจนเกินไป! เช่นนี้มันคงไม่พอให้ข้าบรรลุได้แน่! เจ้าบ้าคนไหนมันมาสร้างเรื่องเช่นนี้กัน?”

จักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงนั้นอดไม่ได้ที่จะร้องลั่นอย่างไม่พอใจ

เพราะเวลานี้เขากำลังจะบรรลุขึ้นดาวต่อไปได้ แต่สุดท้ายเขากลับถูกแย่งชิงพลังงานฟ้าดินไปจนสิ้น

การทำเช่นนี้มันก็เหมือนการดึงฟืนออกจากหม้อต้มที่ข้าวยังไม่สุกดี

ระยะหนึ่งแสนถึงหนึ่งล้านกิโลเมตรนั้นมันเป็นเขตแดนอันกว้างใหญ่ของเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์

แม้ว่ามันจะกว้างใหญ่มากแต่จำนวนจักรพรรดิเทพสวรรค์ที่มาอยู่ในที่แห่งนี้มันก็สุดแสนจะเบาบาง

เขตแดนนี้แม้จะผ่านไปนับหมื่นหรือแสนปีมันก็ไม่แน่ว่าจะมีใครบรรลุขึ้นมาได้

เวลานี้ในช่วงจังหวะกำลังพอดีที่เขาหาทางบรรลุได้มันกลับมีคนมาแย่งชิงพลังขัดขวางการบรรลุของเขา

น่าเจ็บแค้นใจนัก!

หลังจากพยายามขัดขืนอยู่พักใหญ่ตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงก็ไม่อาจทนได้อีกต่อไป

เขานั้นลุกขึ้นด้วยหน้าดำมืด เดินลงเขาไปด้วยจิตสังหาร

“ข้าอยากจะรู้เสียจริงๆ ว่ามันเป็นใครที่ไม่กลัวตาย กล้ามาแย่งชิงพลังงานวิญญาณฟ้าดินของจักรพรรดิผู้นี้! แม้บนเขาแห่งถงเทียนนี้ข้าจะทำอะไรมันไม่ได้ แต่เมื่อจักรพรรดิผู้นี้ออกไปได้แล้วข้าจะจัดการระบายความเจ็บแค้นนี้ให้สิ้น!”

เมื่อเย่หยวนเดินออกมาจากม่านหมอกนั้นจนเข้าถึงเขตเหนือหนึ่งแสนกิโลเมตรเขาก็รู้สึกราวกับว่าโลกหล้ามันชัดเจนสว่างขึ้นมากับตา

ทุกสิ่งอย่างที่เคยไม่กระจ่างนั้นชัดเจนขึ้นเหมือนได้อาบแสงจันทร์!

ตูม!

ภายในกายของเย่หยวนนั้นพิภพโกลาหลมันค่อยๆ สั่นสะท้านขึ้นอย่างไม่อาจหยุด

วินาทีต่อมาบัญญัติเทพแห่งถงเทียนก็เริ่มทำงานขึ้นอย่างไม่มีหยุดยั้ง!

แต่การทำงานของมันในครั้งนี้กลับรุนแรงกว่าครั้งก่อนๆ อย่างสิ้นเชิง

พลังงานวิญญาณฟ้าดินในระยะหนึ่งแสนกิโลเมตรนั้นต่างพุ่งเข้ามาหาตัวเย่หยวนอย่างบ้าคลั่ง

เวลานี้ทุกรูขุมขนของเย่หยวนนั้นได้ทำงานอย่างถึงที่สุดเพื่อดูดกลืนพลังงานฟ้าดินเข้ามาเป็นปราณเทวะอย่างบ้าคลั่ง

ภายในกายของเย่หยวนตอนนี้มันเหมือนได้มีแม่น้ำหลายล้านสายไหลเทลงสู่โลกของเขา

คลื่นพลังปราณเทวะอันบ้าคลั่งนั้นมันไหลลงสู่พิภพโกลาหลอย่างไม่มีท่าทีจะหยุดลง

พร้อมๆ กันนั้นตัวพิภพโกลาหลมันก็ขยายตัวขึ้นอย่างมากล้น!

เวลานี้พิภพโกลาหลนั้นมันเหมือนดั่งลูกโป่งที่ถูกสูบอัดไปด้วยปราณเทวะคลั่งนี้แทนที่ลม

ในพริบตาเดียวพิภพโกลาหลมันก็ขยายตัวไปจากแต่ก่อนหลายต่อหลายเท่าตัว

จากหนึ่งแสนเมตร เป็นสองแสนเมตร เป็นห้าแสนเมตร เป็นหนึ่งล้านเมตร เป็นสิบล้านเมตรในพริบตา!

พริบตาเดียวนี้พิภพโกลาหลของเย่หยวนมันก็ได้ขยายตัวไปนับร้อยๆ เท่า!

แกรก… แกรก แกรก…

แต่จู่ๆ มันกลับเกิดรอยแยกเกิดขึ้นที่กลางพิภพโกลาหลนั้น!

จนแตกออกเป็นสอง!

ส่วนด้านบนนั้นค่อยๆ ลอยสูงขึ้น สูงขึ้นและสูงขึ้น

ส่วนด้านล่างนั้นค่อยๆ ร่วงต่ำลง ต่ำลงและต่ำลง!

จากนั้นมันก็ปรากฏเงาร่างหนึ่งขึ้นที่ระหว่างกลางของพิภพโกลาหลที่หักแยกนั้น แน่นอนว่าย่อมจะเป็นเงาร่างของเย่หยวนแล้ว!

เขานั้นยื่นมือขึ้นสูงและกระแทกฝ่ามือออกไป

พร้อมๆ กันนั้นเขาก็เหยียบเท้าลงกระทืบรุนแรง!

แผ่นดินทั้งสองของพิภพโกลาหลนั้นมันจึงแยกออกจากกันมากขึ้นและมากขึ้น

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด สุดท้ายทั้งสองแผ่นดินนั้นมันก็หยุดลงกับที่

เมื่อได้เห็นโลกตรงหน้านี้เย่หยวนก็ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ

“พิภพโกลาหลแยกเป็นหยินและหยางกำเนิดฟ้าและดิน! หนึ่งนั้นคือสวรรค์ หนึ่งนั้นคือแผ่นดิน! อาณาจักรนี้ ข้าจะเรียกมันว่าอาณาจักรมหาพิภพก็แล้วกัน!”

……………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2280 กำเนิดมหาพิภพ

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2280 กำเนิดมหาพิภพ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

แต่เย่หยวนนั้นกลับไม่ได้ยินเสียงใดๆ นั้นและเข้าสู่สภาวะอันแปลกประหลาด

ระหว่างทางที่เดินขึ้นมานี้เขามีแต่จะเข้าใจเรื่องราวของโลกหล้ามากขึ้น

เพราะเวลานี้จิตของเขามันได้ผสานเข้าเป็นหนึ่งกับกฎของเขาแห่งถงเทียนไปแล้ว

เวลานี้ในสายตาของเย่หยวนนั้นเขาแห่งถงเทียนนั้นไม่ได้เป็นแค่เขาแห่งถงเทียนอีกต่อไป มันกลายเป็นจุดปมของเส้นสายอันหนามากมายหลายเส้น

เจ้าเส้นอันหนาใหญ่ทั้งหลายนี้มันแผ่ไปทั่วทั้งมหาพิภพถงเทียนก่อนจะแยกย่อยลงเป็นเส้นบางๆ

เจ้าเส้นบางทั้งหลายนั้นจะค่อยๆ แผ่ออกไปจนปกคลุมครอบทุกสิ่งอย่างสิ้น

เย่หยวนนั้นผสานจิตของตนลงกับเต๋าจนได้เห็นทุกสิ่งอย่างชัดเจน

เจ้าเส้นหนาและเส้นบางทั้งสองนี้มันเหมือนกับเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทำงานตามกฎบางอย่าง

ตัวมหาพิภพถงเทียนทั้งหมดนี้มันเหมือนเป็นดั่งเครื่องจักรที่ทำงานอย่างต่อเนื่องไม่มีหยุด

โดยที่มีเขาแห่งถงเทียนนี้เป็นศูนย์กลางให้พลังงานเครื่องจักรนี้

เขาแห่งถงเทียนนั้นทำงานได้ด้วยตัวเอง ก่อนที่มันจะส่งคำสั่งไปให้แก่มหาพิภพถงเทียนทั้งหมดทำงานตามนั้น

ทุกสิ่งอย่างล้วนเกิดขึ้นอย่างเรียบง่ายเช่นนี้

“เส้นหนาทั้งหลายนี้คงเป็นต้นกำเนิดเต๋าแล้ว? ส่วนเส้นบางทั้งหลายคงเป็นพลังเต๋าที่กระจายออกไปกลายเป็นแนวคิดต่างๆ นาๆ!”

“ต้นกำเนิดพลังนี้มันคือสิ่งที่ทำให้มหาพิภพถงเทียนดำเนินต่อไปได้ ควบคุมทุกชีวิตไว้สิ้นและยิ่งเข้ามาใกล้แหล่งกำเนิดพวกมันก็จะยิ่งยุ่งเหยิง ด้วยความสามารถของข้าในเวลานี้คงไม่อาจจะทำความเข้าใจพวกมันทั้งหลายนี้ได้เลย”

“แต่ว่า… ข้าไม่จำเป็นต้องเข้าใจพวกมันเลย เพราะโลกของข้ามันย่อมจะเกิดขึ้นด้วยตัวข้าเอง!”

“ขึ้นมาจนถึงระดับจักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นย่อมจะอยู่เหนือล้ำโลก ตัดสินได้ว่าโลกนั้นมันควรถูกสร้างขึ้นอย่างไร!”

เย่หยวนได้เข้าใจทุกสิ่งอย่างขึ้นอย่างแจ่มชัด

ทั้งเรื่องของการสร้างมหาพิภพใหม่นี้ขึ้นและรูปร่างของมันด้วย

เพราะฉะนั้นเขาจึงเดินผ่านขึ้นม่านหมอกไปอีกครั้ง

“เจ้าเด็กคนนี้มันมาจากที่ใดกัน? เขา… เขากลับเข้าม่านหมอกไปหรือ?”

“เขาน่าจะกำลังบรรลุใช่หรือไม่? หรือว่าเขาคิดจะเดินผ่านและขึ้นไปยังเขตจักรพรรดิเทพสวรรค์เหนือระยะแสนกิโลเมตร?”

“ทรงพลังจริงๆ! แม้แต่เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายก็ยังไม่กล้าจะผ่านม่านหมอกนี้ไป แต่เขากลับทำได้!”

เขตของเทพสวรรค์นั้นมันกว้างใหญ่มากกินพื้นที่ตั้งแต่หนึ่งหมื่นกิโลเมตรจนถึงหนึ่งแสนกิโลเมตร

เย่หยวนนั้นเดินออกมาจากม่านหมอกในตอนแรกมันก็ทำให้คนทั้งหลายต้องหันมาสนใจอย่างไม่อาจห้ามได้แล้ว

เพราะฉะนั้นการกระทำทุกย่างก้าวของเขาจึงถูกผู้คนจับตามองตลอด

เวลานี้เมื่อเขาเดินมาจนถึงสุดระยะหนึ่งแสนกิโลเมตร มันย่อมจะทำให้คนทั้งหลายต้องตื่นตะลึง

เพราะพวกเขานั้นไม่เคยจะได้ยินว่ามีใครคิดบรรลุด้วยวิธีการเดินผ่านม่านหมอกเช่นนี้มาก่อนบนเขาแห่งถงเทียน

และในหมู่คนนั้นมันมีสาวรูปงามผู้หนึ่งในชุดสีฟ้าครามกำลังมองดูเย่หยวนด้วยร่างกายที่สั่นเทา

คำพูดของนางนั้นหลุดออกมาจากปากครั้งหนึ่งแต่นางก็ไม่คิดจะเรียกใดๆ ต่อ

เวลาพันกว่าปีนั้นไม่ได้ยาวนานสำหรับนักยุทธแต่กับนางแล้วเวลาพันปีนี้มันมีเรื่องราวเกิดขึ้นอย่างมากหลาย

นางไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้มาเจอเย่หยวนอีกครั้งในสถานการณ์เช่นนี้

แต่สภาพของเย่หยวนในเวลานี้มันเหมือนคนที่ใกล้บรรลุเต็มที

หากนางไปขัดจังหวะเขานั้นมันอาจจะทำให้ความพยายามทั้งหลายของเขาสูญเปล่าลง

เพราะฉะนั้นนางจึงไม่ได้กล่าวเรียกออกไป

จนได้เห็นเย่หยวนเดินหายผ่านม่านหมอกไปแล้วนางจึงเริ่มกลับมาตั้งสติได้

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด สุดท้ายนางผู้นี้ก็ยิ้มกว้างออกมาราวกับดอกไม้ที่ผลิบาน

สายตาของนางนั้นแสดงความหนักแน่นอย่างถึงที่สุดก่อนจะรีบหันหน้าเดินลงเขาไปทันที

เหนือระยะเก้าแสนกิโลเมตรนั้นจักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงกำลังศึกษาบ่มเพาะเต๋าอยู่บนนี้มานานกว่าแสนปี

เขานั้นมีอายุกว่าสิบล้านปีแล้ว และบ่มเพาะขึ้นมาจนถึงอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์แปดดาว

สิบล้านปีที่บ่มเพาะมานี้ในที่สุดเขาก็ก้าวขึ้นมาจนถึงอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์แปดดาวขั้นสุดได้!

การมาที่เขาแห่งถงเทียนในครั้งนี้มันก็เพื่อที่จะผ่านด่านสุดท้ายหาทางขึ้นสู่การเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์เก้าดาว

“ฮ่าๆๆ… จักรพรรดิผู้นี้ใกล้จะบรรลุได้แล้ว! ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง! ทุกข์ทลายของข้านั้นใกล้มาถึงเต็มทีการบรรลุขึ้นอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์เก้าดาวนี้มันย่อมจะช่วยให้ข้ามีโอกาสสำเร็จผ่านมันไปได้! จงดูดกลืน!”

จักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงนั้นยกมือขึ้นสูงใช้วรยุทธบ่มเพาะออกมาจนถึงที่สุดเรียกกลืนพลังงานวิญญาณฟ้าดินจากรอบๆ อย่างบ้าคลั่งจนเกิดเป็นมิติที่บิดเบี้ยว

เหนือระยะเก้าแสนกิโลเมตรนั้นมันย่อมจะมีพลังงานที่หนักแน่นจนไม่อาจจินตนาการได้

จักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงนั้นกลืนมันลงไปอย่างบ้าคลั่งเหมือนฟองน้ำยักษ์ที่ดูดกลืนทะเลลงไป กลืนกินพลังงานฟ้าดินทั้งหลายอย่างไม่มีหยุด

แต่จู่ๆ สีหน้าของเขาก็ต้องเปลี่ยนสีไป

“นี่มัน… เกิดอะไรขึ้นกัน? ทำไมพลังงานวิญญาณทั้งหลายมันกลับไหลลงเขาไปเล่า? ไม่ดีแล้ว เช่นนี้ข้าจะเสียพลังงานมากจนเกินไป! เช่นนี้มันคงไม่พอให้ข้าบรรลุได้แน่! เจ้าบ้าคนไหนมันมาสร้างเรื่องเช่นนี้กัน?”

จักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงนั้นอดไม่ได้ที่จะร้องลั่นอย่างไม่พอใจ

เพราะเวลานี้เขากำลังจะบรรลุขึ้นดาวต่อไปได้ แต่สุดท้ายเขากลับถูกแย่งชิงพลังงานฟ้าดินไปจนสิ้น

การทำเช่นนี้มันก็เหมือนการดึงฟืนออกจากหม้อต้มที่ข้าวยังไม่สุกดี

ระยะหนึ่งแสนถึงหนึ่งล้านกิโลเมตรนั้นมันเป็นเขตแดนอันกว้างใหญ่ของเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์

แม้ว่ามันจะกว้างใหญ่มากแต่จำนวนจักรพรรดิเทพสวรรค์ที่มาอยู่ในที่แห่งนี้มันก็สุดแสนจะเบาบาง

เขตแดนนี้แม้จะผ่านไปนับหมื่นหรือแสนปีมันก็ไม่แน่ว่าจะมีใครบรรลุขึ้นมาได้

เวลานี้ในช่วงจังหวะกำลังพอดีที่เขาหาทางบรรลุได้มันกลับมีคนมาแย่งชิงพลังขัดขวางการบรรลุของเขา

น่าเจ็บแค้นใจนัก!

หลังจากพยายามขัดขืนอยู่พักใหญ่ตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงก็ไม่อาจทนได้อีกต่อไป

เขานั้นลุกขึ้นด้วยหน้าดำมืด เดินลงเขาไปด้วยจิตสังหาร

“ข้าอยากจะรู้เสียจริงๆ ว่ามันเป็นใครที่ไม่กลัวตาย กล้ามาแย่งชิงพลังงานวิญญาณฟ้าดินของจักรพรรดิผู้นี้! แม้บนเขาแห่งถงเทียนนี้ข้าจะทำอะไรมันไม่ได้ แต่เมื่อจักรพรรดิผู้นี้ออกไปได้แล้วข้าจะจัดการระบายความเจ็บแค้นนี้ให้สิ้น!”

เมื่อเย่หยวนเดินออกมาจากม่านหมอกนั้นจนเข้าถึงเขตเหนือหนึ่งแสนกิโลเมตรเขาก็รู้สึกราวกับว่าโลกหล้ามันชัดเจนสว่างขึ้นมากับตา

ทุกสิ่งอย่างที่เคยไม่กระจ่างนั้นชัดเจนขึ้นเหมือนได้อาบแสงจันทร์!

ตูม!

ภายในกายของเย่หยวนนั้นพิภพโกลาหลมันค่อยๆ สั่นสะท้านขึ้นอย่างไม่อาจหยุด

วินาทีต่อมาบัญญัติเทพแห่งถงเทียนก็เริ่มทำงานขึ้นอย่างไม่มีหยุดยั้ง!

แต่การทำงานของมันในครั้งนี้กลับรุนแรงกว่าครั้งก่อนๆ อย่างสิ้นเชิง

พลังงานวิญญาณฟ้าดินในระยะหนึ่งแสนกิโลเมตรนั้นต่างพุ่งเข้ามาหาตัวเย่หยวนอย่างบ้าคลั่ง

เวลานี้ทุกรูขุมขนของเย่หยวนนั้นได้ทำงานอย่างถึงที่สุดเพื่อดูดกลืนพลังงานฟ้าดินเข้ามาเป็นปราณเทวะอย่างบ้าคลั่ง

ภายในกายของเย่หยวนตอนนี้มันเหมือนได้มีแม่น้ำหลายล้านสายไหลเทลงสู่โลกของเขา

คลื่นพลังปราณเทวะอันบ้าคลั่งนั้นมันไหลลงสู่พิภพโกลาหลอย่างไม่มีท่าทีจะหยุดลง

พร้อมๆ กันนั้นตัวพิภพโกลาหลมันก็ขยายตัวขึ้นอย่างมากล้น!

เวลานี้พิภพโกลาหลนั้นมันเหมือนดั่งลูกโป่งที่ถูกสูบอัดไปด้วยปราณเทวะคลั่งนี้แทนที่ลม

ในพริบตาเดียวพิภพโกลาหลมันก็ขยายตัวไปจากแต่ก่อนหลายต่อหลายเท่าตัว

จากหนึ่งแสนเมตร เป็นสองแสนเมตร เป็นห้าแสนเมตร เป็นหนึ่งล้านเมตร เป็นสิบล้านเมตรในพริบตา!

พริบตาเดียวนี้พิภพโกลาหลของเย่หยวนมันก็ได้ขยายตัวไปนับร้อยๆ เท่า!

แกรก… แกรก แกรก…

แต่จู่ๆ มันกลับเกิดรอยแยกเกิดขึ้นที่กลางพิภพโกลาหลนั้น!

จนแตกออกเป็นสอง!

ส่วนด้านบนนั้นค่อยๆ ลอยสูงขึ้น สูงขึ้นและสูงขึ้น

ส่วนด้านล่างนั้นค่อยๆ ร่วงต่ำลง ต่ำลงและต่ำลง!

จากนั้นมันก็ปรากฏเงาร่างหนึ่งขึ้นที่ระหว่างกลางของพิภพโกลาหลที่หักแยกนั้น แน่นอนว่าย่อมจะเป็นเงาร่างของเย่หยวนแล้ว!

เขานั้นยื่นมือขึ้นสูงและกระแทกฝ่ามือออกไป

พร้อมๆ กันนั้นเขาก็เหยียบเท้าลงกระทืบรุนแรง!

แผ่นดินทั้งสองของพิภพโกลาหลนั้นมันจึงแยกออกจากกันมากขึ้นและมากขึ้น

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด สุดท้ายทั้งสองแผ่นดินนั้นมันก็หยุดลงกับที่

เมื่อได้เห็นโลกตรงหน้านี้เย่หยวนก็ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ

“พิภพโกลาหลแยกเป็นหยินและหยางกำเนิดฟ้าและดิน! หนึ่งนั้นคือสวรรค์ หนึ่งนั้นคือแผ่นดิน! อาณาจักรนี้ ข้าจะเรียกมันว่าอาณาจักรมหาพิภพก็แล้วกัน!”

……………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+