Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2304 สหายของรองมหาปราชญ์

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2304 สหายของรองมหาปราชญ์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“อาจารย์!”

“ฮี่ๆ อาจารย์ เรามาแล้ว! ชิๆ ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าชีวิตนี้จะได้มายังดินแดนศักดิ์สิทธิ์อันดับหนึ่งแห่งการโอสถเช่นนี้!”

เมื่อหยุนยี่เห็นเย่หยวนเขาก็รีบเข้ามาโค้งคารวะอย่างสุดตัว

ส่วนทางหนิงซืออวี๋นั้นมีท่าทางตื่นเต้นกว่ามากมองดูภาพรอบกายด้วยความตื่นตะลึง

สำหรับตัวนางแล้ว อาณาจักรทหัยเมฆานั้นมันเป็นสิ่งที่นางได้แต่ฝันถึงไม่อาจเข้ามาเหยียบได้

แต่วันนี้นางกลับสามารถเข้ามาเหยียบแผ่นดินของอาณาจักรทหัยเมฆาและกำลังจะเข้าร่วมงานในฐานะยอดคนอัจฉริยะแห่งมหาพิภพถงเทียน

เรื่องราวเช่นนั้นมันเหมือนกับว่าได้ฝันไป

งานใหญ่โตเช่นนี้มันย่อมจะเป็นประสบการณ์ที่ดีงาม เย่หยวนย่อมไม่คิดลืมศิษย์ทั้งหลายของเขา

หยุนยี่นั้นมีพรสวรรค์เหนือผู้คน ภายใต้การสั่งสอนของเย่หยวนนั้นเขาได้ก้าวขึ้นมาถึงอาณาจักรบรรพกาลเมื่อไม่นานมานี้

ส่วนตัวหนิงซืออวี๋เองก็เป็นรองหยุนยี่ไปเล็กน้อย แต่ด้วยพื้นฐานที่หนักแน่นกว่าหยุนยี่มากนางจึงก้าวขึ้นมาถึงอาณาจักรเต๋าขั้นสุดได้

เมื่อเย่หยวนได้เห็นคนทั้งสองนั้นเขาก็ยิ้มรับ “งานประชุมโอสถสหภูมิภาคครั้งนี้มันมียอดฝีมือมากหลาย พวกเจ้าทั้งสองจงอย่าได้หลงตัวเองและศึกษาเรื่องราวให้มากไว้”

คนทั้งสองรับคำทันที “ทราบแล้วท่านอาจารย์!”

เมื่อมาถึงยังอาณาจักรทหัยเมฆาครั้งนี้ มันเป็นครั้งแรกที่เย่หยวนได้รู้ว่ายังมียอดอัจฉริยะในการโอสถหลบซ่อนตัวอยู่อีกมากมายแค่ไหน

ไม่ต้องไปมองที่ใดไกล แค่พรสวรรค์ของพวกจ้าวซีซวนทั้งหลายนั้นมันก็ยากที่จะปรากฏขึ้นบนโลกเบื้องล่างแล้ว

กำลังของพวกเขานี้เก่งกาจกว่านักหลอมโอสถรุ่นใหญ่ไปมากหลาย

และมันไม่ได้มีแค่พวกเขานั้น ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายนั้นมันมีคนหนุ่มสาวที่ขึ้นถึงอาณาจักรบรรพกาลได้มากมาย

ส่วนเหล่าเฒ่าที่อยู่ในอาณาจักรบรรพกาลนั้นยิ่งมีมากล้นภูเขา

แม้ว่าคนทั้งหลายอาจจะไม่อาจเทียบเคียงกับเย่หยวนได้ แต่กับพวกหยุนยี่นี้มันย่อมจะกลายเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่ากว่าสิ่งใด

ในเวลานั้นเองมันก็ได้มีคนอีกกลุ่มเข้ามาถึงอาณษจักรทหัยเมฆา

เย่หยวนหันไปมองคนทั้งหลายและพบว่ามันมีจักรพรรดิเทพสวรรค์หลายคนเดินเข้ามาหา

ส่วนที่ด้านหลังของเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นมันมีผู้คนหน้าคุ้นเคยกันอยู่ไม่น้อย คนที่ติดตามจักรพรรดิเทพสวรรค์เหล่านี้มามันคือตัวเทพสวรรค์เปียวหยูและเทพสวรรค์ดันหยู่พร้อมด้วยเหล่ายอดคนจากตระกูลโอสถโบราณ

พวกเขาทั้งหลายนี้ล้วนมาจากแดนใต้ จึงได้เดินทางมาถึงแทบจะพร้อมๆ กัน

เมื่อเทพสวรรค์ดันหยู่ได้เห็นเย่หยวนและหยุนยี่เขาก็ผงะไปเล็กน้อยก่อนจะกล่าวขึ้นด้วยใบหน้าดำมืด

“หึ! เจ้าเด็กไม่รักดี!”

หยุนยี่เองก็ได้แต่ยืนตัวแข็งไม่อาจตอบโต้ใดๆ กลับไป

เย่หยวนเองก็ไม่คิดสนใจทำเป็นไม่ได้ยินและเดินเข้าไปหาเทพสวรรค์เปียวหยู “พี่เปียวหยู เดินทางเป็นอย่างไรบ้าง?”

ส่วนด้านตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์วันเปาที่ด้านข้างกันนั้นเย่หยวนไม่คิดสนใจใดๆ

เขานั้นไม่เคยพบเจอจักรพรรดิเทพสวรรค์วันเปามาก่อน แต่คนที่เดินนำหน้าเทพสวรรค์เปียวหยูมาได้เช่นนี้มันก็คงมีแค่จักรพรรดิเทพสวรรค์วันเปาแล้ว

เทพสวรรค์เปียวหยูนั้นกล่าวตอบไปด้วยรอยยิ้มแห้งๆ “น้องเย่ ที่แท้เจ้ามาถึงก่อนนานแล้ว”

เย่หยวนพยักหน้ารับ “มาถึงหลายวันแล้วทีเดียว ในเมื่อพี่เปียวหยูมาแล้วทำไมไม่มาพักที่เขาขนนกกับพวกเราเล่า จะได้มีเวลาะพูดคุยกันได้ง่ายๆ”

เทพสวรรค์เปียวหยูนั้นยังไม่ทันได้ตอบใดๆ ไปแต่จักรพรรดิเทพสวรรค์วันเปาก็ตอบกลับมาด้วยสีหน้าไม่ค่อยพอใจ “ไม่ต้องหรอก เรามีที่ต้องไป เปียวหยู ไปเถอะ”

“อาจารย์…” ครานี้เป็นตัวหยุนยี่ที่เดินขึ้นมาเรียกเย่หยวนบ้าง

แม้ว่าใบหน้าของเขาจะยังเปี่ยมไปด้วยความละอายแต่เย่หยวนก็รู้ว่ามันเป็นเรื่องใด

เพราะจะอย่างไรเด็กหนุ่มคนนี้ก็ยังอยากจะช่วยให้เทพสวรรค์ดันหยู่ได้มีที่พักสบายๆ

เพียงแค่ว่าตัวเย่หยวนยังไม่ทันได้กล่าวใดๆ ทางดันหยู่ก็กล่าวสวนขึ้นมา “ไม่ต้อง! เทพสวรรค์ผู้นี้ยังไม่ได้ตกต่ำจนต้องให้เด็กไม่รักดีมาช่วยเหลือใด!”

พูดจบเขาก็เดินจากไปอย่างเต็มฝีเท้า

ระหว่างทางไปนั้นจักรพรรดิเทพสวรรค์วันเปาก็ได้บ่นขึ้นมา “เจ้าเด็กคนนี้มันไม่ได้รู้จักฟ้าดินเสียจริงๆ! มันคิดว่าได้เป็นรองมหาปราชญ์ใดๆ นั้นแล้วจะดูถูกพวกเราได้จริงๆ หรือ?”

จักรพรรดิเทพสวรรค์จั่วหยุนยิ้มตอบกลับมา “รองมหาปราชญ์แล้วทำไมเล่า? ต่อหน้าโอสถบรรพกาลหรือมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลมันก็เป็นแค่เด็กน้อยคนหนึ่ง มันกลับคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่มากมายหรือ? ไม่ได้รู้จักความน่ากลัวของเหล่ายอดฝีมือเสียแล้ว คนทั้งหลายจะมีใครมาสนใจเด็กน้อยอย่างมันกัน?”

จักรพรรดิเทพสวรรค์จั่วหยุนนี้ก็คือเจ้านายที่เทพสวรรค์ดันหยู่รับใช้อยู่นั่นเอง

และตัวเขาเองก็เป็นถึงจอมเทพโอสถแปดดาว!

คนทั้งหลายนั้นต่างต้องใช้ทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้รับสิทธิเข้ามายังอาณาจักรทหัยเมฆานี้

เพราะจะอย่างไรเสียเทพสวรรค์เปียวหยูและเทพสวรรค์ดันหยู่นั้นก็ต่างเป็นแค่ยอดฝีมืออาณาจักรบรรพกาลที่แทบไม่มีสิทธิมาร่วมงานประชุมโอสถสหภูมิภาค

เว้นเสียแต่ว่าเมื่อเข้ามาถึงพวกเขากลับได้พบเจอเย่หยวนจนทำเอาพวกเขากลืนไม่เข้าคายไม่ออก

เจ้าเด็กคนนี้มันได้แย่งชิงผลประโยชน์ไปจากพวกเขามากมาย

“ดูท่าทางโอหังของมันนั้น มันคงไม่อาจจะอยู่ในอาณาจักรทหัยเมฆานี้ได้นานนักแน่!” ดันหยู่ร้องกล่าวขึ้น

เมื่อเข้ามาถึงเมืองนี้แล้ว แม้แต่เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์เองก็ไม่กล้าจะวางท่าใดๆ

ในแดนใต้นั้นพวกเขาทั้งหลายต่างวางตัวใหญ่โตเหนือหัวผู้คน แต่ในเมืองนี้พวกเขาทำได้แต่ต้องก้มหัวทำตัวเรียบร้อย

“น้องชายท่านนี้ เรามาจากแดนใต้ สงสัยว่าพอจะมีห้องพักว่างหรือไม่?” จักรพรรดิเทพสวรรค์จั่วหยุนกล่าวขึ้นมาต่อเทพสวรรค์ผู้หนึ่งอย่างเคารพ

เทพสวรรค์ผู้นี้เองก็ไม่คิดแสดงท่าทีนอบน้อมใดๆ แสดงความดูถูกเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายอย่างสุดตัว

จักรพรรดิเทพสวรรค์ที่โลกภายนอกไม่อาจจะพบเจอตัวได้ง่ายๆ นี้ เขาได้เห็นพวกเขาผ่านไปมาอยู่ทุกวี่วัน

คนของโอสถบรรพกาลมีสิทธิพอที่จะวางท่าเช่นนี้ได้

เทพสวรรค์ผู้นั้นพาคนทั้งหลายไปถึงยังห้องพักเมื่อเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ได้เห็นสีหน้าของพวกเขาก็ต้องเปลี่ยนสีไป

ที่พักนี้มันเหมือนสลัมที่อัดแน่นไปด้วยผู้คนอย่างมากล้น

ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือแม้จะเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์ก็ยังต้องแบ่งห้องกันใช้สองคน ส่วนพวกเทพสวรรค์นั้น… แต่ละห้องแคบๆ พวกเขาต้องแบ่งที่กันถึงหกคน

ไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์จั่วหยุนหรือจักรพรรดิเทพสวรรค์วันเปานั้นต่างก็เป็นยอดคนที่ควบคุมดินแดนกว้างไกล มีหรือที่จะเคยต้องมาพักในที่แคบๆ โทรมๆ เช่นนี้?

จักรพรรดิเทพสวรรค์จั่วหยุนนั้นได้แต่ต้องหันไปหาเทพสวรรค์ผู้นั้นด้วยใบหน้าเหยเก “น้องชาย เจ้าช่วยเปลี่ยนห้องให้เราได้ไม่หรือ? ราคามันมิใช่ปัญหาเลย!”

เทพสวรรค์ผู้นั้นที่ได้ยินก็ต้องยิ้มเย้ยออกมา “คนที่มาถึงอาณาจักรทหัยเมฆานี้ได้เจ้าคิดว่ามีใครจนบ้าง? ภายในงานประชุมโอสถสหภูมิภาคครั้งนี้มันมีคนอย่างพวกเจ้าที่หลุดหลงเข้ามาได้มากมายจนทำให้ที่นี่แทบจะไม่มีที่ว่างแล้ว! หากอยากอยู่ก็อยู่ ไม่อยากอยู่ก็ไสหัวไปเถอะ!”

คำพูดนี้มันทำให้คนทั้งหลายหน้าดำมืดขึ้นมาทันที

เมื่อมาถึงอาณาจักรทหัยเมฆานี้ แม้แต่เทพสวรรค์ตัวน้อยก็ยังกล้าจะว่าดูถูกพวกเขา ไม่คิดไว้หน้ากันแม้แต่น้อย

ช่างคับแค้นจิตใจยิ่งนัก!

เว้นเสียแต่ว่าพวกเขาไม่มีทางระบายความไม่พอใจนี้ออกมาได้

เพราะหากพวกเขาสังหารเทพสวรรค์ผู้นี้ลงในพริบตาแล้ว มันก็คงมีคนออกมาสังหารพวกเขาลงในพริบตาเช่นกัน

เมื่อไม่มีทางเลือกอื่นพวกเขาจึงได้แต่ต้องเข้าพัก

ที่พักแห่งนี้มันสุดแสนแออัด ดูอย่างไรมันก็คงถูกสร้างขึ้นมาชั่วคราวเพราะจำนวนคนที่มากเกินรับ

เมื่อมาถึงที่แห่งนี้แล้วพวกจักรพรรดิเทพสวรรค์จั่วหยุนจึงได้รู้ถึงมันอย่างแท้จริง

ที่แห่งนี้มันมีจักรพรรดิเทพสวรรค์อยู่กันอย่างแออัดบรรยากาศหนักหน่วงไม่มีทางใดที่จะบ่มเพาะได้

ในเวลานั้นเองมันก็ได้มีเงาร่างหนึ่งเดินลงมายังที่พักนี้ด้วยสีหน้าหงุดหงิด

คลื่นพลังแข็งแกร่งนี้มันทำให้คนทั้งหลายต้องหันหน้ามองเป็นตาเดียว

สีหน้าของเทพสวรรค์ผู้นำทางมานั้นเปลี่ยนสีก่อนจะก้มหัวลงคารวะ “ท่านชิงหยู!”

จักรพรรดิเทพสวรรค์วันเปาและจักรพรรดิเทพสวรรค์จั่วหยุนเองก็เปลี่ยนสีหน้าไปทันที ชื่อเสียงของชิงหยูผู้นี้มันโด่งดังจนแม้แต่พวกเขาก็ยังเคยได้ยิน

คนทั้งสองจึงรีบก้มหัวลงคารวะทันที “ขอคารวะท่านชิงหยู!”

ชิงหยูพยักหน้ารับก่อนจะหันหน้ามองดูคนทั้งหลายอย่างเหนื่อยหน่าย “ใครคือเปียวหยู ใครคือดันหยู่?”

คนทั้งสองใจหายวาบก่อนจะตอบรับไปด้วยความกังวลสุดใจ

“ข้าน้อยคือเปียวหยู!”

“ข้าน้อยคือดันหยู่!”

ชิงหยูพยักหน้ารับ “พวกเจ้าทั้งหลายตามข้ามา”

คนทั้งหลายย่อมไม่กล้าขัดและเดินตามชิงหยูไป

ชิงหยูนั้นพาพวกเขามายังเรือนแห่งหนึ่ง “พวกเจ้าพักที่นี่ เดี๋ยวจะมีคนมาช่วยดูแลเจ้าให้เอง”

คนทั้งหลายหันมองหน้ากันอย่างมึนงง

พวกเขานั้นไม่เข้าใจว่าเหตุใดจู่ๆ จึงได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษเช่นนี้

เพราะจะอย่างไรเสียคนที่ไปมาในที่แห่งนี้มันก็มากล้นทั้งแต่ละคนนั้นยังมีชื่อเสียงอำนาจเหนือล้ำพวกเขาไปมาก

เรือนพักเช่นนี้ไม่ต้องถามก็รู้ได้ว่ามันเป็นเรือนรับรองแขกคนสำคัญ

“ท่านชิงหยู ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าทำไมจึงได้อนุญาตให้เราพักในที่ดีๆ เช่นนี้?” จักรพรรดิเทพสวรรค์วันเปาถามขึ้น

ชิงหยูจึงตอบกลับไป “ในเมื่อพวกเจ้าเป็นสหายของรองมหาปราชญ์พวกเจ้าก็ย่อมจะได้ที่พักที่ดีกว่าคนทั้งหลาย”

……………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2304 สหายของรองมหาปราชญ์

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2304 สหายของรองมหาปราชญ์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“อาจารย์!”

“ฮี่ๆ อาจารย์ เรามาแล้ว! ชิๆ ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าชีวิตนี้จะได้มายังดินแดนศักดิ์สิทธิ์อันดับหนึ่งแห่งการโอสถเช่นนี้!”

เมื่อหยุนยี่เห็นเย่หยวนเขาก็รีบเข้ามาโค้งคารวะอย่างสุดตัว

ส่วนทางหนิงซืออวี๋นั้นมีท่าทางตื่นเต้นกว่ามากมองดูภาพรอบกายด้วยความตื่นตะลึง

สำหรับตัวนางแล้ว อาณาจักรทหัยเมฆานั้นมันเป็นสิ่งที่นางได้แต่ฝันถึงไม่อาจเข้ามาเหยียบได้

แต่วันนี้นางกลับสามารถเข้ามาเหยียบแผ่นดินของอาณาจักรทหัยเมฆาและกำลังจะเข้าร่วมงานในฐานะยอดคนอัจฉริยะแห่งมหาพิภพถงเทียน

เรื่องราวเช่นนั้นมันเหมือนกับว่าได้ฝันไป

งานใหญ่โตเช่นนี้มันย่อมจะเป็นประสบการณ์ที่ดีงาม เย่หยวนย่อมไม่คิดลืมศิษย์ทั้งหลายของเขา

หยุนยี่นั้นมีพรสวรรค์เหนือผู้คน ภายใต้การสั่งสอนของเย่หยวนนั้นเขาได้ก้าวขึ้นมาถึงอาณาจักรบรรพกาลเมื่อไม่นานมานี้

ส่วนตัวหนิงซืออวี๋เองก็เป็นรองหยุนยี่ไปเล็กน้อย แต่ด้วยพื้นฐานที่หนักแน่นกว่าหยุนยี่มากนางจึงก้าวขึ้นมาถึงอาณาจักรเต๋าขั้นสุดได้

เมื่อเย่หยวนได้เห็นคนทั้งสองนั้นเขาก็ยิ้มรับ “งานประชุมโอสถสหภูมิภาคครั้งนี้มันมียอดฝีมือมากหลาย พวกเจ้าทั้งสองจงอย่าได้หลงตัวเองและศึกษาเรื่องราวให้มากไว้”

คนทั้งสองรับคำทันที “ทราบแล้วท่านอาจารย์!”

เมื่อมาถึงยังอาณาจักรทหัยเมฆาครั้งนี้ มันเป็นครั้งแรกที่เย่หยวนได้รู้ว่ายังมียอดอัจฉริยะในการโอสถหลบซ่อนตัวอยู่อีกมากมายแค่ไหน

ไม่ต้องไปมองที่ใดไกล แค่พรสวรรค์ของพวกจ้าวซีซวนทั้งหลายนั้นมันก็ยากที่จะปรากฏขึ้นบนโลกเบื้องล่างแล้ว

กำลังของพวกเขานี้เก่งกาจกว่านักหลอมโอสถรุ่นใหญ่ไปมากหลาย

และมันไม่ได้มีแค่พวกเขานั้น ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายนั้นมันมีคนหนุ่มสาวที่ขึ้นถึงอาณาจักรบรรพกาลได้มากมาย

ส่วนเหล่าเฒ่าที่อยู่ในอาณาจักรบรรพกาลนั้นยิ่งมีมากล้นภูเขา

แม้ว่าคนทั้งหลายอาจจะไม่อาจเทียบเคียงกับเย่หยวนได้ แต่กับพวกหยุนยี่นี้มันย่อมจะกลายเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่ากว่าสิ่งใด

ในเวลานั้นเองมันก็ได้มีคนอีกกลุ่มเข้ามาถึงอาณษจักรทหัยเมฆา

เย่หยวนหันไปมองคนทั้งหลายและพบว่ามันมีจักรพรรดิเทพสวรรค์หลายคนเดินเข้ามาหา

ส่วนที่ด้านหลังของเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นมันมีผู้คนหน้าคุ้นเคยกันอยู่ไม่น้อย คนที่ติดตามจักรพรรดิเทพสวรรค์เหล่านี้มามันคือตัวเทพสวรรค์เปียวหยูและเทพสวรรค์ดันหยู่พร้อมด้วยเหล่ายอดคนจากตระกูลโอสถโบราณ

พวกเขาทั้งหลายนี้ล้วนมาจากแดนใต้ จึงได้เดินทางมาถึงแทบจะพร้อมๆ กัน

เมื่อเทพสวรรค์ดันหยู่ได้เห็นเย่หยวนและหยุนยี่เขาก็ผงะไปเล็กน้อยก่อนจะกล่าวขึ้นด้วยใบหน้าดำมืด

“หึ! เจ้าเด็กไม่รักดี!”

หยุนยี่เองก็ได้แต่ยืนตัวแข็งไม่อาจตอบโต้ใดๆ กลับไป

เย่หยวนเองก็ไม่คิดสนใจทำเป็นไม่ได้ยินและเดินเข้าไปหาเทพสวรรค์เปียวหยู “พี่เปียวหยู เดินทางเป็นอย่างไรบ้าง?”

ส่วนด้านตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์วันเปาที่ด้านข้างกันนั้นเย่หยวนไม่คิดสนใจใดๆ

เขานั้นไม่เคยพบเจอจักรพรรดิเทพสวรรค์วันเปามาก่อน แต่คนที่เดินนำหน้าเทพสวรรค์เปียวหยูมาได้เช่นนี้มันก็คงมีแค่จักรพรรดิเทพสวรรค์วันเปาแล้ว

เทพสวรรค์เปียวหยูนั้นกล่าวตอบไปด้วยรอยยิ้มแห้งๆ “น้องเย่ ที่แท้เจ้ามาถึงก่อนนานแล้ว”

เย่หยวนพยักหน้ารับ “มาถึงหลายวันแล้วทีเดียว ในเมื่อพี่เปียวหยูมาแล้วทำไมไม่มาพักที่เขาขนนกกับพวกเราเล่า จะได้มีเวลาะพูดคุยกันได้ง่ายๆ”

เทพสวรรค์เปียวหยูนั้นยังไม่ทันได้ตอบใดๆ ไปแต่จักรพรรดิเทพสวรรค์วันเปาก็ตอบกลับมาด้วยสีหน้าไม่ค่อยพอใจ “ไม่ต้องหรอก เรามีที่ต้องไป เปียวหยู ไปเถอะ”

“อาจารย์…” ครานี้เป็นตัวหยุนยี่ที่เดินขึ้นมาเรียกเย่หยวนบ้าง

แม้ว่าใบหน้าของเขาจะยังเปี่ยมไปด้วยความละอายแต่เย่หยวนก็รู้ว่ามันเป็นเรื่องใด

เพราะจะอย่างไรเด็กหนุ่มคนนี้ก็ยังอยากจะช่วยให้เทพสวรรค์ดันหยู่ได้มีที่พักสบายๆ

เพียงแค่ว่าตัวเย่หยวนยังไม่ทันได้กล่าวใดๆ ทางดันหยู่ก็กล่าวสวนขึ้นมา “ไม่ต้อง! เทพสวรรค์ผู้นี้ยังไม่ได้ตกต่ำจนต้องให้เด็กไม่รักดีมาช่วยเหลือใด!”

พูดจบเขาก็เดินจากไปอย่างเต็มฝีเท้า

ระหว่างทางไปนั้นจักรพรรดิเทพสวรรค์วันเปาก็ได้บ่นขึ้นมา “เจ้าเด็กคนนี้มันไม่ได้รู้จักฟ้าดินเสียจริงๆ! มันคิดว่าได้เป็นรองมหาปราชญ์ใดๆ นั้นแล้วจะดูถูกพวกเราได้จริงๆ หรือ?”

จักรพรรดิเทพสวรรค์จั่วหยุนยิ้มตอบกลับมา “รองมหาปราชญ์แล้วทำไมเล่า? ต่อหน้าโอสถบรรพกาลหรือมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลมันก็เป็นแค่เด็กน้อยคนหนึ่ง มันกลับคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่มากมายหรือ? ไม่ได้รู้จักความน่ากลัวของเหล่ายอดฝีมือเสียแล้ว คนทั้งหลายจะมีใครมาสนใจเด็กน้อยอย่างมันกัน?”

จักรพรรดิเทพสวรรค์จั่วหยุนนี้ก็คือเจ้านายที่เทพสวรรค์ดันหยู่รับใช้อยู่นั่นเอง

และตัวเขาเองก็เป็นถึงจอมเทพโอสถแปดดาว!

คนทั้งหลายนั้นต่างต้องใช้ทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้รับสิทธิเข้ามายังอาณาจักรทหัยเมฆานี้

เพราะจะอย่างไรเสียเทพสวรรค์เปียวหยูและเทพสวรรค์ดันหยู่นั้นก็ต่างเป็นแค่ยอดฝีมืออาณาจักรบรรพกาลที่แทบไม่มีสิทธิมาร่วมงานประชุมโอสถสหภูมิภาค

เว้นเสียแต่ว่าเมื่อเข้ามาถึงพวกเขากลับได้พบเจอเย่หยวนจนทำเอาพวกเขากลืนไม่เข้าคายไม่ออก

เจ้าเด็กคนนี้มันได้แย่งชิงผลประโยชน์ไปจากพวกเขามากมาย

“ดูท่าทางโอหังของมันนั้น มันคงไม่อาจจะอยู่ในอาณาจักรทหัยเมฆานี้ได้นานนักแน่!” ดันหยู่ร้องกล่าวขึ้น

เมื่อเข้ามาถึงเมืองนี้แล้ว แม้แต่เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์เองก็ไม่กล้าจะวางท่าใดๆ

ในแดนใต้นั้นพวกเขาทั้งหลายต่างวางตัวใหญ่โตเหนือหัวผู้คน แต่ในเมืองนี้พวกเขาทำได้แต่ต้องก้มหัวทำตัวเรียบร้อย

“น้องชายท่านนี้ เรามาจากแดนใต้ สงสัยว่าพอจะมีห้องพักว่างหรือไม่?” จักรพรรดิเทพสวรรค์จั่วหยุนกล่าวขึ้นมาต่อเทพสวรรค์ผู้หนึ่งอย่างเคารพ

เทพสวรรค์ผู้นี้เองก็ไม่คิดแสดงท่าทีนอบน้อมใดๆ แสดงความดูถูกเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายอย่างสุดตัว

จักรพรรดิเทพสวรรค์ที่โลกภายนอกไม่อาจจะพบเจอตัวได้ง่ายๆ นี้ เขาได้เห็นพวกเขาผ่านไปมาอยู่ทุกวี่วัน

คนของโอสถบรรพกาลมีสิทธิพอที่จะวางท่าเช่นนี้ได้

เทพสวรรค์ผู้นั้นพาคนทั้งหลายไปถึงยังห้องพักเมื่อเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ได้เห็นสีหน้าของพวกเขาก็ต้องเปลี่ยนสีไป

ที่พักนี้มันเหมือนสลัมที่อัดแน่นไปด้วยผู้คนอย่างมากล้น

ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือแม้จะเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์ก็ยังต้องแบ่งห้องกันใช้สองคน ส่วนพวกเทพสวรรค์นั้น… แต่ละห้องแคบๆ พวกเขาต้องแบ่งที่กันถึงหกคน

ไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์จั่วหยุนหรือจักรพรรดิเทพสวรรค์วันเปานั้นต่างก็เป็นยอดคนที่ควบคุมดินแดนกว้างไกล มีหรือที่จะเคยต้องมาพักในที่แคบๆ โทรมๆ เช่นนี้?

จักรพรรดิเทพสวรรค์จั่วหยุนนั้นได้แต่ต้องหันไปหาเทพสวรรค์ผู้นั้นด้วยใบหน้าเหยเก “น้องชาย เจ้าช่วยเปลี่ยนห้องให้เราได้ไม่หรือ? ราคามันมิใช่ปัญหาเลย!”

เทพสวรรค์ผู้นั้นที่ได้ยินก็ต้องยิ้มเย้ยออกมา “คนที่มาถึงอาณาจักรทหัยเมฆานี้ได้เจ้าคิดว่ามีใครจนบ้าง? ภายในงานประชุมโอสถสหภูมิภาคครั้งนี้มันมีคนอย่างพวกเจ้าที่หลุดหลงเข้ามาได้มากมายจนทำให้ที่นี่แทบจะไม่มีที่ว่างแล้ว! หากอยากอยู่ก็อยู่ ไม่อยากอยู่ก็ไสหัวไปเถอะ!”

คำพูดนี้มันทำให้คนทั้งหลายหน้าดำมืดขึ้นมาทันที

เมื่อมาถึงอาณาจักรทหัยเมฆานี้ แม้แต่เทพสวรรค์ตัวน้อยก็ยังกล้าจะว่าดูถูกพวกเขา ไม่คิดไว้หน้ากันแม้แต่น้อย

ช่างคับแค้นจิตใจยิ่งนัก!

เว้นเสียแต่ว่าพวกเขาไม่มีทางระบายความไม่พอใจนี้ออกมาได้

เพราะหากพวกเขาสังหารเทพสวรรค์ผู้นี้ลงในพริบตาแล้ว มันก็คงมีคนออกมาสังหารพวกเขาลงในพริบตาเช่นกัน

เมื่อไม่มีทางเลือกอื่นพวกเขาจึงได้แต่ต้องเข้าพัก

ที่พักแห่งนี้มันสุดแสนแออัด ดูอย่างไรมันก็คงถูกสร้างขึ้นมาชั่วคราวเพราะจำนวนคนที่มากเกินรับ

เมื่อมาถึงที่แห่งนี้แล้วพวกจักรพรรดิเทพสวรรค์จั่วหยุนจึงได้รู้ถึงมันอย่างแท้จริง

ที่แห่งนี้มันมีจักรพรรดิเทพสวรรค์อยู่กันอย่างแออัดบรรยากาศหนักหน่วงไม่มีทางใดที่จะบ่มเพาะได้

ในเวลานั้นเองมันก็ได้มีเงาร่างหนึ่งเดินลงมายังที่พักนี้ด้วยสีหน้าหงุดหงิด

คลื่นพลังแข็งแกร่งนี้มันทำให้คนทั้งหลายต้องหันหน้ามองเป็นตาเดียว

สีหน้าของเทพสวรรค์ผู้นำทางมานั้นเปลี่ยนสีก่อนจะก้มหัวลงคารวะ “ท่านชิงหยู!”

จักรพรรดิเทพสวรรค์วันเปาและจักรพรรดิเทพสวรรค์จั่วหยุนเองก็เปลี่ยนสีหน้าไปทันที ชื่อเสียงของชิงหยูผู้นี้มันโด่งดังจนแม้แต่พวกเขาก็ยังเคยได้ยิน

คนทั้งสองจึงรีบก้มหัวลงคารวะทันที “ขอคารวะท่านชิงหยู!”

ชิงหยูพยักหน้ารับก่อนจะหันหน้ามองดูคนทั้งหลายอย่างเหนื่อยหน่าย “ใครคือเปียวหยู ใครคือดันหยู่?”

คนทั้งสองใจหายวาบก่อนจะตอบรับไปด้วยความกังวลสุดใจ

“ข้าน้อยคือเปียวหยู!”

“ข้าน้อยคือดันหยู่!”

ชิงหยูพยักหน้ารับ “พวกเจ้าทั้งหลายตามข้ามา”

คนทั้งหลายย่อมไม่กล้าขัดและเดินตามชิงหยูไป

ชิงหยูนั้นพาพวกเขามายังเรือนแห่งหนึ่ง “พวกเจ้าพักที่นี่ เดี๋ยวจะมีคนมาช่วยดูแลเจ้าให้เอง”

คนทั้งหลายหันมองหน้ากันอย่างมึนงง

พวกเขานั้นไม่เข้าใจว่าเหตุใดจู่ๆ จึงได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษเช่นนี้

เพราะจะอย่างไรเสียคนที่ไปมาในที่แห่งนี้มันก็มากล้นทั้งแต่ละคนนั้นยังมีชื่อเสียงอำนาจเหนือล้ำพวกเขาไปมาก

เรือนพักเช่นนี้ไม่ต้องถามก็รู้ได้ว่ามันเป็นเรือนรับรองแขกคนสำคัญ

“ท่านชิงหยู ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าทำไมจึงได้อนุญาตให้เราพักในที่ดีๆ เช่นนี้?” จักรพรรดิเทพสวรรค์วันเปาถามขึ้น

ชิงหยูจึงตอบกลับไป “ในเมื่อพวกเจ้าเป็นสหายของรองมหาปราชญ์พวกเจ้าก็ย่อมจะได้ที่พักที่ดีกว่าคนทั้งหลาย”

……………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+