Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2318 เต๋าโอสถของเหล่ามนุษย์ตกต่ำ!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2318 เต๋าโอสถของเหล่ามนุษย์ตกต่ำ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เย่หยวนหรี่ตาลงมองด้วยจิตสังหารที่แทบทลายฟ้าดินลง

แต่หยวนเว่ยกลับยิ้มตอบกลับไป “โกรธหรือ? ข้านั้นรู้ว่าเจ้ามีพรสวรรค์มากล้น เจ้านั้นกระโดดอาณาจักรต่อสู้กับหยวนเจี่ยวได้ เพียงแค่ว่า… เจ้ามันก็แค่มดปลวก! ในมหาพิภพนี้ผู้ปกครองที่แท้มันคือเรา เราคือยอดฝีมือที่แท้จริง!”

โอสถบรรพกาลหรี่ตาลงมองด้วยท่าทางไม่พอใจ “เจ้าเป็นใครมาจากไหน? หากยังไม่บอกกล่าวอย่าได้หาว่าข้าไม่เกรงใจ!”

หยวนเว่ยนั้นหันไปมองพร้อมส่ายหัวออกมา “เจ้าคือนักหลอมโอสถอันดับหนึ่งแห่งเผ่ามนุษย์? อ่อนแอเสียจริง!”

โอสถบรรพกาลนั้นหรี่ตาลงกล่าวสวนไป “อวดดีโอหัง! ขยะอย่างเจ้านั้นจะเข้าใจหรือว่าเต๋าโอสถมันคือสิ่งใด?”

หยวนเว่ยนั้นไม่คิดอธิบายด้วยคำพูดใดๆ แต่เขานั้นยกมือข้างหนึ่งขึ้นแสดงให้เห็นลูกแก้วโปร่งแสงลูกหนึ่ง

เมื่อโอสถบรรพกาล เย่หยวนและมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลได้เห็นมันพวกเขาต่างต้องอ้าปากค้างด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง

หยวนเว่ยนั้นได้แสดงการพัฒนาโลกด้วยเต๋าโอสถออกมาอย่างเหนือล้ำ

ฝีมือในระดับนี้มันเทียบเคียงได้กับโอสถบรรพกาลอย่างที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าแม้แต่น้อย

เมื่อเย่หยวนได้เห็นเขาก็ตื่นตะลึงสุดใจ

เขานั้นไม่นึกไม่ฝันว่าแท้จริงแล้วเผ่าเทวาจะยังมีตัวตนเหนือล้ำฟ้าดินเช่นนี้อยู่อีก

คนอื่นๆ นั้นก็ต่างตกตะลึงไม่แพ้กัน พวกเขานั้นไม่เคยจะได้ยินมาก่อนว่ามหาพิภพถงเทียนนั้นมีตัวตนที่เทียบเคียงกับโอสถบรรพกาลได้ถึงขั้นนี้

เจ้าหมอนี่มันมาจากที่ใด?

“เจ้าคิดว่าบรรพกาลผู้นี้รู้จักเต๋าโอสถหรือไม่เล่า?” หยวนเว่ยถามขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม

โอสถบรรพกาลนั้นตื่นตะลึงสุดใจ “เจ้า… เจ้าเป็นใครมาจากที่ไหนกัน?”

“บรรพกาลผู้นี้คิดไปเสียว่าต่อให้วิชาโอสถของเผ่ามนุษย์มันจะไม่ฟื้นคืนสู่จุดสูงสุดมันก็น่าจะได้สักเจ็ดส่วนแปดส่วน เมื่อข้าได้ยินว่ามีงานชุมนุมการโอสถที่นี่ข้าก็คิดถือโอกาสนี้กวาดล้างเหล่านักหลอมโอสถให้สิ้น แต่… พวกเจ้าทำให้บรรพกาลผู้นี้ผิดหวังเกินไปแล้ว! ฝีมือของพวกเจ้าทั้งหลายในเวลานี้มันอ่อนแอกว่าเหล่ามนุษย์ในสมัยรุ่งเรืองไปมากนัก!”

หยวนเว่ยนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยสีหน้าผิดหวัง เขานั้นคงกำลังผิดหวังที่อุตส่าห์ลงแรงมากมายสุดท้ายมันกลับไม่คุ้มค่าที่เหนื่อย

เย่หยวนนั้นหน้าเปลี่ยนสีไปร้องบอก “คิดอยากใช้โอกาสนี้ทำลายล้างเหล่านักหลอมโอสถของเผ่ามนุษย์ลงให้สิ้น ตัดทำลายกำลังเสริมของเผ่ามนุษย์เมื่อถึงเวลาสงคราม!”

หยวนเว่ยยิ้มตอบกลับไป “ใช่แล้ว เจ้านั่นฉลาด ในสงครามสิ้นโลกครั้งก่อนนั้นเหล่านักหลอมโอสถของเผ่ามนุษย์ได้สร้างปัญหาให้เรามากล้น หากไม่ใช่เพราะพวกเฒ่าทั้งหลายนั้นส่งมอบโอสถไปทั่วสนามรบแล้วเราก็คงไม่พ่ายแพ้ลง เพราะฉะนั้นวันนี้บรรพกาลผู้นี้จึงยอมลงทุนลงแรงมาจัดการมันให้สิ้นเสียก่อน แต่พอได้เห็นแล้วมันช่างทำให้บรรพกาลผู้นี้รู้สึกผิดหวังเหลือเกิน”

ทุกผู้คนนั้นต้องตกตะลึงไปตามๆ กัน

“สงครามสิ้นโลก? มันคืออะไรกัน?”

“อวดดีอย่างบ้าคลั่ง! แค่ขยะอย่างพวกเจ้านี้ก็คิดทำลายล้างโลกได้?”

“เจ้าโง่ไร้สมอง แค่เอาสัตว์ร้ายหน้าโง่เช่นนี้มาก็คิดว่าจะทำลายโลกได้?”

สงครามสิ้นโลกนั้นมันมิใช่สิ่งที่คนทั้งหลายจะเคยได้ยินมาก่อน

มันมีชื่อที่ฟังดูน่าหวาดกลัวจริงแต่หากไม่ได้รู้ถึงมันจริงๆ แล้วคนทั้งหลายก็คงไม่คิดสนใจ

แต่เวลานี้เหล่าเฒ่าทั้งหลายที่อยู่มายาวนานและเคยได้ยินถึงมันกลับต้องยืนนิ่งด้วยใบหน้าขาวซีด

“หุบปากให้หมด!”

เย่หยวนร้องบอกขัดการพูดคุยของคนทั้งหลาย “เก็บความโอหังเจ้าไว้ก่อน! เจ้าพวกนี้มันแข็งแกร่งมาก! หากคิดอยากรอดออกไปก็จงเก็บสายตาอวดดีไม่สนใจผู้คนนั้นไว้ ทุกผู้คนร่วมมือกันเป็นหนึ่งเดียว! ไม่เช่นนั้นแล้ววันนี้มันจะไม่มีใครได้รอดชีวิตออกไป”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นคนส่วนใหญ่ย่อมจะไม่คิดสนใจ

เพราะพวกเขานั้นมีความโอหังที่เหลือล้นมาทั้งชีวิต มีหรือที่จะต้องกลัวเหล่าคนที่ไม่เคยได้ยินถึงชื่อมาก่อน?

หยวนเว่ยนั้นยิ้ม “ดูท่าเผ่าเทวาข้าไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นนานมันจะทำให้เหล่ามนุษย์ลืมเลือนผู้ปกครองมหาพิภพถงเทียนไปแล้ว! วันนี้ข้าจะทำให้มหาพิภพถงเทียนต้องสั่นสะเทือนอีกครา!”

จากนั้นเขาก็ยกมือขึ้นเป็นสัญญาณให้เหล่าเผ่าเทวาและมารนรกทั้งหลายพุ่งตัวลงไป

วินาทีนี้มันมีก้อนพลังงานนับไม่ถ้วนพุ่งตัวเข้ามาหาคนทั้งหลายคนฟ้าดินสั่นสะเทือน!

เมื่อคนทั้งหลายที่มาร่วมงานประชุมโอสถสหภูมิภาคได้เห็นภาพนั้นพวกเขาต่างก็ต้องผงะไปตามๆ กัน

“แค่ฝูงสัตว์ร้าย! พวกเราช่วยกันโจมตีจัดการพวกมันให้สิ้น!”

มีเสียงคนผู้หนึ่งร้องกล่าว

แน่นอนว่ามันย่อมทำให้คนทั้งหลายลงมือตามอย่างไม่คิด

วินาทีนี้มันเกิดคลื่นพลังรุนแรงปะทะกันอย่างหนักแน่นบนท้องฟ้ากว้าง

ด้านบนนั้นมันมีทั้งวิชายุทธมากมายคลื่นพลังหลากหลายพร้อมด้วยเสียงการปะทะอย่างหนักหน่วง

เว้นเสียแต่ว่าการโจมตีทั้งหลายนี้มันถูกปล่อยออกมาอย่างไร้ระเบียบ แม้มันจะสร้างความสั่นสะเทือนได้มากมายแต่แท้จริงมันไม่ได้เป็นอันตรายใหญ่หลวง

ในการต่อสู้ขนาดใหญ่เช่นนี้ พลังฝีมือของคนแค่ผู้เดียวมันไม่มากพอจะทำอะไรได้

ที่สำคัญไปกว่านั้นเหล่ามารนรกมันยังเก่งกาจกว่ามนุษย์ในระดับเดียวกันไปมาก

เมื่อจบการโจมตีระลอกแรกไปเหล่ามารนรกทั้งหลายก็ทนรับไว้อย่างไม่คิดแม้แต่จะหลบ ที่สำคัญไปกว่านั้นคือพวกมันแทบไม่ได้บาดเจ็บล้มตายลงเลย

เมื่อเหล่ายอดฝีมือฝ่ายมนุษย์ทั้งหลายได้เห็นเช่นนั้นพวกเขาต่างก็ต้องหน้าถอดสีไปตามๆ กัน

พร้อมๆ กันนั้นการโจมตีระลอกแรกของฝ่ายมารนรกมันก็มาถึง

คลื่นพลังโจมตีนั้นถูกโยนลงกลางฝูงชนจนระเบิดแตกทลาย

ปัง ปัง ปัง…

เสียงระเบิดดังสนั่นขึ้นมาพร้อมเสียงกรีดร้อง

คลื่นพลังการโจมตีนี้มันได้ทำให้ฝ่ายมนุษย์สูญเสียกำลังไปอย่างมาก

จากนั้นไม่นานทั้งสองฝ่ายเริ่มเข้าปะทะกันในระยะประชิด

เมื่อพวกเขาปะทะกันแล้ว เหล่ามนุษย์ก็สัมผัสได้ทันทีว่ามันมีอะไรผิดแปลกไป

เพราะศัตรูแข็งแกร่งจนเกินไป!

มารนรกทั้งหลายนั้นต่างแข็งแกร่งจนเกินรับมือ ที่สำคัญไปกว่านั้นคือพวกมันนั้นมีเนื้อหนังที่หนาทน การป้องกันเหนือล้ำกว่าที่อาวุธทั่วๆ ไปจะแทงผ่านได้ มันต้องใช้กำลังถึงสามหรือสี่คนกว่าจะรับมือการโจมตีของมารนรกไว้ได้

เพียงแค่ว่าเวลานี้ทางมนุษย์ไม่ได้มีกำลังจำนวนมากมายขนาดนั้น

ส่วนเผ่าเทวานั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง

เมื่อใดที่พวกเขาลงสนามรบ มันก็จะเหมือนเสือกลางฝูงแกะ อันตรายอย่างถึงที่สุด

นามของเผ่าเทวามันได้แสดงพลังออกมาแล้วในวินาทีนี้!

“มันเก่งกาจขนาดนี้กันได้อย่างไร? นี่… นี่มันเป็นพลังในระดับที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง!”

“นี่หรือคือเผ่าเทวา? พวกมันไม่มีพลังโลกใดๆ เลย! สิ่งที่เป็นต้นกำเนิดพลังของพวกมันคือเต๋าสวรรค์!”

“มหาพิภพถงเทียนกลับมีเผ่าพันธุ์ที่เก่งกาจเช่นนี้? ทำไมข้าจึงไม่เคยจะได้ยินถึงพวกมันมาก่อนเลย?”

เหล่ายอดฝีมือฝ่ายมนุษย์ทั้งหลายนั้นต่างตื่นตะลึงสุดใจ!

เป็นเวลานี้เองที่พวกเขาทั้งหลายได้เข้าใจถึงความหมายในคำเตือนของเย่หยวน

แท้จริงแล้ว กำลังของเหล่าเผ่าเทวามันอาจจะเหนือล้ำกว่าที่เย่หยวนเตือนด้วยซ้ำ!

ในเวลานี้สายตาของพวกเขาทั้งหลายต่างหันไปมองดูหยวนเว่ยอย่างตื่นกลัว

หากเผ่าเทวามันแข็งแกร่งได้ขนาดนี้ แล้วตัวตนระดับบรรพกาลของเผ่านี้จะเก่งกาจได้สักเท่าใด?

ยอดฝีมือเผ่ามนุษย์นั้นต่างหน้าซีดขาวตื่นตะลึงสุดใจขึ้นตามๆ กัน

หยวนเว่ยนั้นยิ้มกล่าวขึ้น “ดูท่าพวกเจ้าจะได้เข้าใจถึงกำลังของเผ่าเทวาแล้ว เผ่าเทวาเรานั้นคือเผ่าที่ได้รับเลือกจากเต๋าสวรรค์ เรานั้นบ่มเพาะเพียงแค่เต๋าสวรรค์เท่านั้น! ในยุคก่อนนั้นมันล้วนเป็นเผ่าเทวาเราที่ปกครองมหาพิภพถงเทียนนี้ ไม่ว่าจะเป็นเผ่ามนุษย์ เผ่าอสูรหรือเผ่าใดๆ มันก็ล้วนเป็นแค่ทาสของเรา! และวันนี้เราจะกลับมาทวงสิ่งที่เคยเสียไป!”

ทุกผู้คนนั้นต้องสั่นสะท้านไปตามๆ กันอย่างตื่นตะลึง

ที่แท้เผ่าเทวามันกลับกลายเป็นผู้ปกครองเก่าของมหาพิภพนี้!

ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ!

แต่จู่ๆ วินาทีนั้นเหล่ายอดฝีมือหลายต่อหลายคนก็ตัดสินใจพุ่งตัวหนี้เข้าห้วงมิติไป คิดอยากหนีไปจากอาณาจักรทหัยเมฆา

เย่หยวนที่เห็นต้องขมวดคิ้วตวาดลั่น “อย่าได้หนี! เวลานี้มิติมันคงถูกปิดตายไปแล้ว!”

เสียงของเขายังไม่ทันจางหายมันก็ปรากฏร่างของผู้คนร่วงตกกลับมาจากห้วงมิตินั้นตามๆ กัน

หยวนเว่ยยิ้ม “อย่าได้คิดหนี เวลานี้มันมียอดฝีมือเต๋าสวรรค์แปดลายถึงสามหมื่นหกพันคนกำลังวางกำลังอยู่รอบๆ อาณาจักรทหัยเมฆาและใช้มหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์! แม้แต่เจ้าฟ้าดินสี่ทลายเองก็คงไม่อาจจะหนีออกไปจากที่แห่งนี้ได้! เด็กน้อย เจ้านั้นมากพรสวรรค์จริง น่าเสียดายที่ว่า… เจ้าไม่อาจเป็นประโยชน์กับเราได้!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2318 เต๋าโอสถของเหล่ามนุษย์ตกต่ำ!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2318 เต๋าโอสถของเหล่ามนุษย์ตกต่ำ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เย่หยวนหรี่ตาลงมองด้วยจิตสังหารที่แทบทลายฟ้าดินลง

แต่หยวนเว่ยกลับยิ้มตอบกลับไป “โกรธหรือ? ข้านั้นรู้ว่าเจ้ามีพรสวรรค์มากล้น เจ้านั้นกระโดดอาณาจักรต่อสู้กับหยวนเจี่ยวได้ เพียงแค่ว่า… เจ้ามันก็แค่มดปลวก! ในมหาพิภพนี้ผู้ปกครองที่แท้มันคือเรา เราคือยอดฝีมือที่แท้จริง!”

โอสถบรรพกาลหรี่ตาลงมองด้วยท่าทางไม่พอใจ “เจ้าเป็นใครมาจากไหน? หากยังไม่บอกกล่าวอย่าได้หาว่าข้าไม่เกรงใจ!”

หยวนเว่ยนั้นหันไปมองพร้อมส่ายหัวออกมา “เจ้าคือนักหลอมโอสถอันดับหนึ่งแห่งเผ่ามนุษย์? อ่อนแอเสียจริง!”

โอสถบรรพกาลนั้นหรี่ตาลงกล่าวสวนไป “อวดดีโอหัง! ขยะอย่างเจ้านั้นจะเข้าใจหรือว่าเต๋าโอสถมันคือสิ่งใด?”

หยวนเว่ยนั้นไม่คิดอธิบายด้วยคำพูดใดๆ แต่เขานั้นยกมือข้างหนึ่งขึ้นแสดงให้เห็นลูกแก้วโปร่งแสงลูกหนึ่ง

เมื่อโอสถบรรพกาล เย่หยวนและมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลได้เห็นมันพวกเขาต่างต้องอ้าปากค้างด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง

หยวนเว่ยนั้นได้แสดงการพัฒนาโลกด้วยเต๋าโอสถออกมาอย่างเหนือล้ำ

ฝีมือในระดับนี้มันเทียบเคียงได้กับโอสถบรรพกาลอย่างที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าแม้แต่น้อย

เมื่อเย่หยวนได้เห็นเขาก็ตื่นตะลึงสุดใจ

เขานั้นไม่นึกไม่ฝันว่าแท้จริงแล้วเผ่าเทวาจะยังมีตัวตนเหนือล้ำฟ้าดินเช่นนี้อยู่อีก

คนอื่นๆ นั้นก็ต่างตกตะลึงไม่แพ้กัน พวกเขานั้นไม่เคยจะได้ยินมาก่อนว่ามหาพิภพถงเทียนนั้นมีตัวตนที่เทียบเคียงกับโอสถบรรพกาลได้ถึงขั้นนี้

เจ้าหมอนี่มันมาจากที่ใด?

“เจ้าคิดว่าบรรพกาลผู้นี้รู้จักเต๋าโอสถหรือไม่เล่า?” หยวนเว่ยถามขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม

โอสถบรรพกาลนั้นตื่นตะลึงสุดใจ “เจ้า… เจ้าเป็นใครมาจากที่ไหนกัน?”

“บรรพกาลผู้นี้คิดไปเสียว่าต่อให้วิชาโอสถของเผ่ามนุษย์มันจะไม่ฟื้นคืนสู่จุดสูงสุดมันก็น่าจะได้สักเจ็ดส่วนแปดส่วน เมื่อข้าได้ยินว่ามีงานชุมนุมการโอสถที่นี่ข้าก็คิดถือโอกาสนี้กวาดล้างเหล่านักหลอมโอสถให้สิ้น แต่… พวกเจ้าทำให้บรรพกาลผู้นี้ผิดหวังเกินไปแล้ว! ฝีมือของพวกเจ้าทั้งหลายในเวลานี้มันอ่อนแอกว่าเหล่ามนุษย์ในสมัยรุ่งเรืองไปมากนัก!”

หยวนเว่ยนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยสีหน้าผิดหวัง เขานั้นคงกำลังผิดหวังที่อุตส่าห์ลงแรงมากมายสุดท้ายมันกลับไม่คุ้มค่าที่เหนื่อย

เย่หยวนนั้นหน้าเปลี่ยนสีไปร้องบอก “คิดอยากใช้โอกาสนี้ทำลายล้างเหล่านักหลอมโอสถของเผ่ามนุษย์ลงให้สิ้น ตัดทำลายกำลังเสริมของเผ่ามนุษย์เมื่อถึงเวลาสงคราม!”

หยวนเว่ยยิ้มตอบกลับไป “ใช่แล้ว เจ้านั่นฉลาด ในสงครามสิ้นโลกครั้งก่อนนั้นเหล่านักหลอมโอสถของเผ่ามนุษย์ได้สร้างปัญหาให้เรามากล้น หากไม่ใช่เพราะพวกเฒ่าทั้งหลายนั้นส่งมอบโอสถไปทั่วสนามรบแล้วเราก็คงไม่พ่ายแพ้ลง เพราะฉะนั้นวันนี้บรรพกาลผู้นี้จึงยอมลงทุนลงแรงมาจัดการมันให้สิ้นเสียก่อน แต่พอได้เห็นแล้วมันช่างทำให้บรรพกาลผู้นี้รู้สึกผิดหวังเหลือเกิน”

ทุกผู้คนนั้นต้องตกตะลึงไปตามๆ กัน

“สงครามสิ้นโลก? มันคืออะไรกัน?”

“อวดดีอย่างบ้าคลั่ง! แค่ขยะอย่างพวกเจ้านี้ก็คิดทำลายล้างโลกได้?”

“เจ้าโง่ไร้สมอง แค่เอาสัตว์ร้ายหน้าโง่เช่นนี้มาก็คิดว่าจะทำลายโลกได้?”

สงครามสิ้นโลกนั้นมันมิใช่สิ่งที่คนทั้งหลายจะเคยได้ยินมาก่อน

มันมีชื่อที่ฟังดูน่าหวาดกลัวจริงแต่หากไม่ได้รู้ถึงมันจริงๆ แล้วคนทั้งหลายก็คงไม่คิดสนใจ

แต่เวลานี้เหล่าเฒ่าทั้งหลายที่อยู่มายาวนานและเคยได้ยินถึงมันกลับต้องยืนนิ่งด้วยใบหน้าขาวซีด

“หุบปากให้หมด!”

เย่หยวนร้องบอกขัดการพูดคุยของคนทั้งหลาย “เก็บความโอหังเจ้าไว้ก่อน! เจ้าพวกนี้มันแข็งแกร่งมาก! หากคิดอยากรอดออกไปก็จงเก็บสายตาอวดดีไม่สนใจผู้คนนั้นไว้ ทุกผู้คนร่วมมือกันเป็นหนึ่งเดียว! ไม่เช่นนั้นแล้ววันนี้มันจะไม่มีใครได้รอดชีวิตออกไป”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นคนส่วนใหญ่ย่อมจะไม่คิดสนใจ

เพราะพวกเขานั้นมีความโอหังที่เหลือล้นมาทั้งชีวิต มีหรือที่จะต้องกลัวเหล่าคนที่ไม่เคยได้ยินถึงชื่อมาก่อน?

หยวนเว่ยนั้นยิ้ม “ดูท่าเผ่าเทวาข้าไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นนานมันจะทำให้เหล่ามนุษย์ลืมเลือนผู้ปกครองมหาพิภพถงเทียนไปแล้ว! วันนี้ข้าจะทำให้มหาพิภพถงเทียนต้องสั่นสะเทือนอีกครา!”

จากนั้นเขาก็ยกมือขึ้นเป็นสัญญาณให้เหล่าเผ่าเทวาและมารนรกทั้งหลายพุ่งตัวลงไป

วินาทีนี้มันมีก้อนพลังงานนับไม่ถ้วนพุ่งตัวเข้ามาหาคนทั้งหลายคนฟ้าดินสั่นสะเทือน!

เมื่อคนทั้งหลายที่มาร่วมงานประชุมโอสถสหภูมิภาคได้เห็นภาพนั้นพวกเขาต่างก็ต้องผงะไปตามๆ กัน

“แค่ฝูงสัตว์ร้าย! พวกเราช่วยกันโจมตีจัดการพวกมันให้สิ้น!”

มีเสียงคนผู้หนึ่งร้องกล่าว

แน่นอนว่ามันย่อมทำให้คนทั้งหลายลงมือตามอย่างไม่คิด

วินาทีนี้มันเกิดคลื่นพลังรุนแรงปะทะกันอย่างหนักแน่นบนท้องฟ้ากว้าง

ด้านบนนั้นมันมีทั้งวิชายุทธมากมายคลื่นพลังหลากหลายพร้อมด้วยเสียงการปะทะอย่างหนักหน่วง

เว้นเสียแต่ว่าการโจมตีทั้งหลายนี้มันถูกปล่อยออกมาอย่างไร้ระเบียบ แม้มันจะสร้างความสั่นสะเทือนได้มากมายแต่แท้จริงมันไม่ได้เป็นอันตรายใหญ่หลวง

ในการต่อสู้ขนาดใหญ่เช่นนี้ พลังฝีมือของคนแค่ผู้เดียวมันไม่มากพอจะทำอะไรได้

ที่สำคัญไปกว่านั้นเหล่ามารนรกมันยังเก่งกาจกว่ามนุษย์ในระดับเดียวกันไปมาก

เมื่อจบการโจมตีระลอกแรกไปเหล่ามารนรกทั้งหลายก็ทนรับไว้อย่างไม่คิดแม้แต่จะหลบ ที่สำคัญไปกว่านั้นคือพวกมันแทบไม่ได้บาดเจ็บล้มตายลงเลย

เมื่อเหล่ายอดฝีมือฝ่ายมนุษย์ทั้งหลายได้เห็นเช่นนั้นพวกเขาต่างก็ต้องหน้าถอดสีไปตามๆ กัน

พร้อมๆ กันนั้นการโจมตีระลอกแรกของฝ่ายมารนรกมันก็มาถึง

คลื่นพลังโจมตีนั้นถูกโยนลงกลางฝูงชนจนระเบิดแตกทลาย

ปัง ปัง ปัง…

เสียงระเบิดดังสนั่นขึ้นมาพร้อมเสียงกรีดร้อง

คลื่นพลังการโจมตีนี้มันได้ทำให้ฝ่ายมนุษย์สูญเสียกำลังไปอย่างมาก

จากนั้นไม่นานทั้งสองฝ่ายเริ่มเข้าปะทะกันในระยะประชิด

เมื่อพวกเขาปะทะกันแล้ว เหล่ามนุษย์ก็สัมผัสได้ทันทีว่ามันมีอะไรผิดแปลกไป

เพราะศัตรูแข็งแกร่งจนเกินไป!

มารนรกทั้งหลายนั้นต่างแข็งแกร่งจนเกินรับมือ ที่สำคัญไปกว่านั้นคือพวกมันนั้นมีเนื้อหนังที่หนาทน การป้องกันเหนือล้ำกว่าที่อาวุธทั่วๆ ไปจะแทงผ่านได้ มันต้องใช้กำลังถึงสามหรือสี่คนกว่าจะรับมือการโจมตีของมารนรกไว้ได้

เพียงแค่ว่าเวลานี้ทางมนุษย์ไม่ได้มีกำลังจำนวนมากมายขนาดนั้น

ส่วนเผ่าเทวานั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง

เมื่อใดที่พวกเขาลงสนามรบ มันก็จะเหมือนเสือกลางฝูงแกะ อันตรายอย่างถึงที่สุด

นามของเผ่าเทวามันได้แสดงพลังออกมาแล้วในวินาทีนี้!

“มันเก่งกาจขนาดนี้กันได้อย่างไร? นี่… นี่มันเป็นพลังในระดับที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง!”

“นี่หรือคือเผ่าเทวา? พวกมันไม่มีพลังโลกใดๆ เลย! สิ่งที่เป็นต้นกำเนิดพลังของพวกมันคือเต๋าสวรรค์!”

“มหาพิภพถงเทียนกลับมีเผ่าพันธุ์ที่เก่งกาจเช่นนี้? ทำไมข้าจึงไม่เคยจะได้ยินถึงพวกมันมาก่อนเลย?”

เหล่ายอดฝีมือฝ่ายมนุษย์ทั้งหลายนั้นต่างตื่นตะลึงสุดใจ!

เป็นเวลานี้เองที่พวกเขาทั้งหลายได้เข้าใจถึงความหมายในคำเตือนของเย่หยวน

แท้จริงแล้ว กำลังของเหล่าเผ่าเทวามันอาจจะเหนือล้ำกว่าที่เย่หยวนเตือนด้วยซ้ำ!

ในเวลานี้สายตาของพวกเขาทั้งหลายต่างหันไปมองดูหยวนเว่ยอย่างตื่นกลัว

หากเผ่าเทวามันแข็งแกร่งได้ขนาดนี้ แล้วตัวตนระดับบรรพกาลของเผ่านี้จะเก่งกาจได้สักเท่าใด?

ยอดฝีมือเผ่ามนุษย์นั้นต่างหน้าซีดขาวตื่นตะลึงสุดใจขึ้นตามๆ กัน

หยวนเว่ยนั้นยิ้มกล่าวขึ้น “ดูท่าพวกเจ้าจะได้เข้าใจถึงกำลังของเผ่าเทวาแล้ว เผ่าเทวาเรานั้นคือเผ่าที่ได้รับเลือกจากเต๋าสวรรค์ เรานั้นบ่มเพาะเพียงแค่เต๋าสวรรค์เท่านั้น! ในยุคก่อนนั้นมันล้วนเป็นเผ่าเทวาเราที่ปกครองมหาพิภพถงเทียนนี้ ไม่ว่าจะเป็นเผ่ามนุษย์ เผ่าอสูรหรือเผ่าใดๆ มันก็ล้วนเป็นแค่ทาสของเรา! และวันนี้เราจะกลับมาทวงสิ่งที่เคยเสียไป!”

ทุกผู้คนนั้นต้องสั่นสะท้านไปตามๆ กันอย่างตื่นตะลึง

ที่แท้เผ่าเทวามันกลับกลายเป็นผู้ปกครองเก่าของมหาพิภพนี้!

ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ!

แต่จู่ๆ วินาทีนั้นเหล่ายอดฝีมือหลายต่อหลายคนก็ตัดสินใจพุ่งตัวหนี้เข้าห้วงมิติไป คิดอยากหนีไปจากอาณาจักรทหัยเมฆา

เย่หยวนที่เห็นต้องขมวดคิ้วตวาดลั่น “อย่าได้หนี! เวลานี้มิติมันคงถูกปิดตายไปแล้ว!”

เสียงของเขายังไม่ทันจางหายมันก็ปรากฏร่างของผู้คนร่วงตกกลับมาจากห้วงมิตินั้นตามๆ กัน

หยวนเว่ยยิ้ม “อย่าได้คิดหนี เวลานี้มันมียอดฝีมือเต๋าสวรรค์แปดลายถึงสามหมื่นหกพันคนกำลังวางกำลังอยู่รอบๆ อาณาจักรทหัยเมฆาและใช้มหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์! แม้แต่เจ้าฟ้าดินสี่ทลายเองก็คงไม่อาจจะหนีออกไปจากที่แห่งนี้ได้! เด็กน้อย เจ้านั้นมากพรสวรรค์จริง น่าเสียดายที่ว่า… เจ้าไม่อาจเป็นประโยชน์กับเราได้!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+