Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2322 มหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2322 มหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ระหว่างที่สองทัพต่อสู้กันนั้นตัวตนที่จะตัดสินชะตาของสงครามได้มันย่อมเป็นเหล่าแม่ทัพ

แม่ทัพที่เก่งกาจกล้าหาญนั้นจะนำทัพเข้าบุกโจมตีฆ่าสังหารอีกฝ่ายจนทำให้เกิดความโกลาหล

เรื่องนี้ไม่ว่ามันจะเป็นสงครามของผู้คนหรือสงครามของนักยุทธก็ไม่ได้แตกต่างมากมาย

และเวลานี้เย่หยวนก็กำลังได้รับบทบาทนั้น

เดิมทีนั้นเหล่าเผ่าเทวาทั้งหลายนั้นมีจำนวนมากล้นสังหารฆ่าเหล่ามนุษย์ไปมากจนแทบไม่เหลือพลังใดๆ

แต่เวลานี้สถานการณ์มันกลับพลิกผัน

เพราะที่ใดที่เย่หยวนพุ่งผ่านนั้นมันจะกลายเป็นดินแดนแห่งความตาย!

เผ่าเทวานั้นเก่งกาจจริง แต่เย่หยวนนั้นเก่งกาจกว่า!

ไม่นานจากนั้นเย่หยวนก็ได้พากองทัพมนุษย์พุ่งผ่านฆ่าสังหารจนราบคาบ

เผ่าเทวานั้นเสียกำลังไปอย่างมากกับการบุกทะลวงนี้

เดิมทีนั้นมันเป็นการฆ่าล้างบางของเผ่าเทวา แต่เวลานี้มันกลับเป็นฝ่ายมนุษย์ที่ลุกขึ้นมาฆ่าล้างบางเผ่าเทวาบ้าง

มันมิใช่ว่ามนุษย์นั้นมีกำลังเพิ่มมากขึ้นแต่มันเป็นเพราะว่ามนุษย์นั้นมีศูนย์รวม ทุกผู้คนจึงสามารถต่อสู้กันได้อย่างเป็นระบบกว่าก่อน

ตะเกียบคู่เดียวมันหักลงได้ง่ายๆ แต่ตะเกียบสิบคู่ที่ผสานเข้าด้วยกันนั้นมันย่อมจะไม่หักงอลงแล้ว

เหล่ามนุษย์นั้นเดิมทีต่างแยกกันอยู่ใครอยู่มัน ต่อสู้ใครต่อสู้มัน ไม่ได้มีความคิดใดที่จะร่วมมือกันเพื่อต่อสู้ใดๆ

แต่เวลานี้เมื่อมนุษย์ทั้งหลายมารวมตัวตามเย่หยวนแล้ว พวกเขาก็นับถือเย่หยวนเป็นผู้นำไปอย่างปริยาย

ที่ใดที่เย่หยวนสู้ พวกเขาทั้งหลายก็จะบุกตามไปอย่างเป็นหนึ่งเดียว

เพราะฉะนั้นพลังการสู้รบของคนทั้งหลายจึงเพิ่มขึ้นมากล้น!

ในเวลานี้ทั้งอาณาจักรทหัยเมฆานั้นต่างถูกทำลายราบ ไม่ว่าจะเป็นเขาขนนก เขาทหัยเมฆา เขาเมฆาคิมหันต์ใดๆ นั้นต่างถูกทำลายราบลงสิ้น

ทั้งอาณาจักรทหัยเมฆานั้นมันเริ่มแสดงรอยแตกร้ายของห้วงมิติจนเริ่มเสียสภาพของแผ่นดินไป

เพราะจะอย่างไรเสียเหล่ายอดฝีมือที่มาร่วมงานในอาณาจักรทหัยเมฆาครั้งนี้ หลายต่อหลายคนมันก็ล้วนเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์สิ้น

ยอดฝีมือในระดับนี้เมื่อต่อสู้ออกมาแล้วมันย่อมจะรุนแรงจนทลายฟ้าดินลง ไหนจะยังมีการต่อสู้ของหยวนเว่ยกับพวกโอสถบรรพกาล ยอดฝีมือระดับเหนือฟ้าดินนั้นอีกด้วย

มิตินั้นร้าวแตกออกมาจนทำให้อาณาจักรทหัยเมฆาทั้งหมดนั้นแตกสลายพังทลายลงสิ้น

เวลานี้สถานที่ที่พวกเขาทั้งหลายกำลังอยู่กันนั้นมันคือห้วงมืดมิดของกระแสคลื่นห้วงมิติ

และในห้วงมิตินี้มันมีจุดสว่างเหมือนดวงดาวล้อมรอบไปทุกทิศ

เหล่าดวงดาวทั้งหลายนั้นมันเชื่อมต่อกันไปสร้างเป็นเหมือนดั่งใยแมงมุมที่ปกครองมิติรอบๆ อาณาจักรทหัยเมฆาไว้สิ้น

นี่มันคือมหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์ของเผ่าเทวา พร้อมกับยอดฝีมือเต๋าสวรรค์แปดลายนับหมื่นๆ ที่ล้อมรอบอยู่มันจึงไม่มีใครจะออกไปจากห้วงมิติแห่งนี้ได้

เย่หยวนนั้นไม่ได้นำกำลังบุกเข้าไปยังดวงดาวทั้งหลายนั้นอย่างโง่ๆ เวลานี้เขาค่อยๆ พากองกำลังฝ่ายมนุษย์ทั้งหลายนั้นพุ่งเข้าโจมตีไปมาจนสังหารไล่เหล่ายอดฝีมือเผ่าเทวาทั้งหลายจนแตกพ่ายหนีหาย

แม้แต่เหล่าเต๋าสวรรค์แปดลายขั้นปลายเองก็ยังไม่กล้าจะปะทะกับกองกำลังนี้ตรงๆ

จากนั้นมนุษย์ที่กระจัดกระจายกันก็เริ่มเข้ามาร่วมกองทัพของเย่หยวนนี้ขึ้นมาเรื่อยๆ และยิ่งทำให้กองกำลังของเขาทำลายล้างได้รุนแรงกว่าเก่า

เวลานี้แม้แต่เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ขั้นปลายทั้งหลายก็ยังมาเข้าร่วมและกลายเป็นผู้นำของกลุ่มย่อยไป

เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายมารวมตัวกับเย่หยวนมากขึ้นเรื่อยทำให้พลังของพวกเขายิ่งเหนือล้ำ

แต่ไม่ว่าจะมีพลังบ่มเพาะสูงล้ำแค่ใด จะเก่งกาจแค่ไหน หลังจากเข้ามาร่วมกองทัพแล้วพวกเขาก็จะยึดถือเย่หยวนเป็นหัวหน้าผู้นำ

เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ขั้นปลายทั้งหลายนั้นจะติดตามเย่หยวนไปอย่างใกล้ชิด พวกเขานั้นจะตามเย่หยวนบุกทะลวงเข้าไปทุกเส้นทาง ทำลายทุกอย่างที่กีดขวางลงสิ้น

ไม่นานนักทัพเผ่าเทวาก็ต้องแตกพ่ายหนีไปรอบทิศออกจากมหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์ไป

ข้างๆ เย่หยวนนั้นจีโมถามขึ้นมา “ท่านรองมหาปราชญ์ จะอย่างไรปัญหามันก็คงเป็นดวงดาวปิดกั้นทั้งหลายนั้น! เผ่าเทวานั้นมันเก่งกาจล้ำ หลังจากพวกมันทั้งหลายฟื้นกำลังกลับมาได้พวกเราก็จะเป็นได้แค่หนูติดจั่น”

ภายในการต่อสู้อันโกลาหลนั้นจีโมได้เห็นว่ามีทัพนำกำลังเข้าโจมตีไปทั่วสนามรบทำให้เขาตัดสินใจเข้าร่วมด้วยทันที

เมื่อเขาได้เห็นว่าผู้นำทัพนั้นมามันกลับเป็นเย่หยวนตัวเขาก็ต้องเบิกตาค้าง

เพราะจะอย่างไรเสียเย่หยวนก็ถูกจักรพรรดิเทพสวรรค์ขั้นกลางถึงสองคนเข้าล้อมโจมตี

เขานั้นรู้ว่าเย่หยวนเก่งกาจ แต่ภายใต้การโจมตีของยอดฝีมือระดับนั้นเขาคิดไปเสียว่าต่อให้ไม่ตายก็คงพิการ

แต่ใครจะไปคิดว่านอกจากเย่หยวนจะไม่ตาย เขานั้นกลับพัฒนาขึ้นมาได้เสียอย่างนั้น

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือเขานั้นกลับนำกองทัพมนุษย์ไล่ล้างสังหารศัตรูไปทั่ว

แต่จะอย่างไรวิกฤตมันก็ยังไม่ผ่านพ้น เพราะจะอย่างไรพวกเขาทั้งหลายก็คงเป็นได้แค่มดปลวกต่อหน้าหยวนเว่ยผู้นั้น

เพราะหากเจ้าฟ้าดินของเผ่าเทวาลงมือแล้ว พวกเขาทั้งหลายก็คงได้แต่นั่งรอความตาย

เย่หยวนพยักหน้ารับ “มหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์นี้มันใช้พลังของรากฐานแนวคิดแห่งห้วงมิติทั้งยังมียอดฝีมือเต๋าแปดลายนับหมื่นๆ ดูแลอยู่ มันมีพลังมากมายอย่างไม่อาจเปรียบเทียบ หากคิดอยากทำลายมันลงแล้วเราก็คงได้แต่ต้องหาจุดอ่อนของมัน ไม่เช่นนั่นจะโจมตีอย่างไรก็คงไม่อาจรอดออกไปได้”

จีโมนั้นอ้าปากค้าง “รองมหาปราชญ์ท่านนั้นเก่งกาจในแนวคิดห้วงมิติอย่างมาก แต่แม้จะเป็นท่านก็ไม่อาจทำลายมันลงได้?”

เย่หยวนตอบกลับไป “วิชานี้มันใช้พลังของต้นกำเนิดของแนวคิดแห่งห้วงมิติพร้อมด้วยยอดฝีมือหลายหมื่นคอยดูแลรักษามัน เป็นสิ่งที่แข็งแกร่งอย่างเหนือล้ำ ด้วยแนวคิดแห่งห้วงมิติที่ข้ามีตอนนี้ มันไม่พอที่จะทำลายมันลง”

เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดนั้นพวกเขาต่างก็ได้ยื่นหน้าซีด

เพราะในหมู่ผู้คนทั้งหลายนั้นเย่หยวนนับว่ามีแนวคิดแห่งห้วงมิติสูงส่งที่สุด

แม้แต่เขายังไม่อาจทำอะไรได้ สภาพของพวกเขานั้นคงได้แต่ต้องรอความตายแล้ว

“นี่มัน… หรือว่าเรามีเพียงต้องนั่งรอความตายหรือ?” จีโมถามขึ้นมาราวกับคนเสียสติ

เย่หยวนตอบกลับไป “ข้าจะไปลองทดสอบมันดูก่อน พวกเจ้าทั้งหลายจงทำในสิ่งที่พอทำได้และภาวนาเถอะ…”

จีโมนั้นแสดงสีหน้าหนักหน่วงหัวใจขึ้นมา “รองมหาปราชญ์เชิญเถอะ! ที่เหลือให้พวกเขาจัดการต่อเอง! ต่อให้ข้าตายข้าก็จะไม่ปล่อยให้มีใครเข้ามารบกวนท่านได้แน่!”

เมื่อเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายได้ยินพวกเขาก็ตอบรับขึ้นตามๆ กัน

เย่หยวนพยักหน้ารับพร้อมก้าวเท้าออกไปยังดวงดาวที่เชื่อมต่อเป็นใยแมงมุมนั้น

เมื่อมาถึงดวงดาวตรงหน้าเขาก็สัมผัสได้ถึงคลื่นพลังกดดันหนักหน่วงที่ปะทะเข้ากับร่างกาย

เย่หยวนนั้นรู้สึกเหมือนกับว่ามิติตรงหน้านี้มันแข็งแกร่งเหล็ก ไม่อาจจะเจาะทะลวงไปได้

พร้อมๆ กันในห้วงมิตินั้นมันก็ยังมีคลื่นพลังแอบซ่อนพร้อมปะทุออก เหมือนดาบที่เก็บซ่อนไว้และสามารถนำออกมาจัดการเขาได้ทุกเมื่อ

เย่หยวนนั้นมีแนวคิดแห่งห้วงมิติที่เหนือล้ำ เขานั้นย่อมจะอ่านคุณสมบัติของห้วงมิติตรงหน้าออก

มันสามารถโจมตีได้เมื่อเดินหน้าและสามารถป้องกันได้เมื่อถอยหลัง

มันเฉียบคามดั่งหอกดาบเมื่อโจมตี แข็งแกร่งดั่งปราการเมื่อป้องกัน

เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายต่างจะปะทะเข้ากับพลังมิติหนักหน่วงนี้อย่างที่ไม่มีทางจะต่อสู้ขัดขืนใดๆ ได้!

“หึ มารนหาที่ตายอีกคนแล้ว!”

“ข้าล่ะชอบสีหน้าสิ้นหวังของพวกมนุษย์จริงๆ! ภายใต้มหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์นี้ไม่มีใครจะหลบรอดไปได้!”

“เหล่ามนุษย์ทั้งหลายมันคงไม่ได้รู้ว่ามหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์นี้คือไพ่ตายที่แท้ของเรา!”

เมื่อเหล่ายอดฝีมือเผ่าเทวาได้เห็นเย่หยวนเดินหน้าเข้ามาพวกเขาทั้งหลายต่างก็อมยิ้มขึ้นตามๆ กัน

เพราะจากภายในห้วงมิตินี้พวกเขานั้นไม่อาจจะเห็นได้ว่าภายในอาณาจักรทหัยเมฆานั้นมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง

ตราบเท่าที่มีใครคิดหนี พวกเขาก็จะสังหารอีกฝ่ายลงสิ้น

เย่หยวนนั้นเดินมาถึงข่ายดวงดาวนี้ทำให้เหล่ายอดฝีมือเผ่าเทวานั้นเตรียมตัวโจมตีเย่หยวนเต็มที่ แต่ตัวเย่หยวนนั้นกลับหยุดตัวลงเสียก่อน

ที่ที่เย่หยวนยืนอยู่ในเวลานี้มันพอดิบพอดีว่าอยู่นอกระยะการโจมตีของมหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์

เหล่ายอดฝีมือเผ่าเทวาทั้งหลายนั้นต่างโกรธจนหน้าดำหน้าแดง แทบต้องกระอักเลือดออกมา

เย่หยวนนั้นหยุดและหันมองดูข่ายดวงดาวรอบๆ ก่อนจะหันไปมองที่อีกด้านเพื่อสัมผัสถึงคลื่นมิติจากข่ายดวงดาวนี้

ไม่นานนักเขาก็ก้าวเท้าออกมาจนเข้าสู้ระยะโจมตีของเหล่ายอดฝีมือเผ่าเทวาทั้งหลาย

พริบตานั้นมันเกิดเสียงสว่างพุ่งลงมาจากดวงดาวราวกับเป็นฝนดาวตกลงมาปะทะในจุดที่เย่หยวนอยู่

ปัง ปัง ปัง…

หลังจากเสียงระเบิดลั่นนั้น มันก็ปรากฏร่างของเย่หยวนกลับมายืนอยู่นอกระยะโจมตีอีกครา

การโจมตีทั้งหมดนั้นไม่อาจสร้างความเสียดายใดๆ ได้!

……………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2322 มหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2322 มหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ระหว่างที่สองทัพต่อสู้กันนั้นตัวตนที่จะตัดสินชะตาของสงครามได้มันย่อมเป็นเหล่าแม่ทัพ

แม่ทัพที่เก่งกาจกล้าหาญนั้นจะนำทัพเข้าบุกโจมตีฆ่าสังหารอีกฝ่ายจนทำให้เกิดความโกลาหล

เรื่องนี้ไม่ว่ามันจะเป็นสงครามของผู้คนหรือสงครามของนักยุทธก็ไม่ได้แตกต่างมากมาย

และเวลานี้เย่หยวนก็กำลังได้รับบทบาทนั้น

เดิมทีนั้นเหล่าเผ่าเทวาทั้งหลายนั้นมีจำนวนมากล้นสังหารฆ่าเหล่ามนุษย์ไปมากจนแทบไม่เหลือพลังใดๆ

แต่เวลานี้สถานการณ์มันกลับพลิกผัน

เพราะที่ใดที่เย่หยวนพุ่งผ่านนั้นมันจะกลายเป็นดินแดนแห่งความตาย!

เผ่าเทวานั้นเก่งกาจจริง แต่เย่หยวนนั้นเก่งกาจกว่า!

ไม่นานจากนั้นเย่หยวนก็ได้พากองทัพมนุษย์พุ่งผ่านฆ่าสังหารจนราบคาบ

เผ่าเทวานั้นเสียกำลังไปอย่างมากกับการบุกทะลวงนี้

เดิมทีนั้นมันเป็นการฆ่าล้างบางของเผ่าเทวา แต่เวลานี้มันกลับเป็นฝ่ายมนุษย์ที่ลุกขึ้นมาฆ่าล้างบางเผ่าเทวาบ้าง

มันมิใช่ว่ามนุษย์นั้นมีกำลังเพิ่มมากขึ้นแต่มันเป็นเพราะว่ามนุษย์นั้นมีศูนย์รวม ทุกผู้คนจึงสามารถต่อสู้กันได้อย่างเป็นระบบกว่าก่อน

ตะเกียบคู่เดียวมันหักลงได้ง่ายๆ แต่ตะเกียบสิบคู่ที่ผสานเข้าด้วยกันนั้นมันย่อมจะไม่หักงอลงแล้ว

เหล่ามนุษย์นั้นเดิมทีต่างแยกกันอยู่ใครอยู่มัน ต่อสู้ใครต่อสู้มัน ไม่ได้มีความคิดใดที่จะร่วมมือกันเพื่อต่อสู้ใดๆ

แต่เวลานี้เมื่อมนุษย์ทั้งหลายมารวมตัวตามเย่หยวนแล้ว พวกเขาก็นับถือเย่หยวนเป็นผู้นำไปอย่างปริยาย

ที่ใดที่เย่หยวนสู้ พวกเขาทั้งหลายก็จะบุกตามไปอย่างเป็นหนึ่งเดียว

เพราะฉะนั้นพลังการสู้รบของคนทั้งหลายจึงเพิ่มขึ้นมากล้น!

ในเวลานี้ทั้งอาณาจักรทหัยเมฆานั้นต่างถูกทำลายราบ ไม่ว่าจะเป็นเขาขนนก เขาทหัยเมฆา เขาเมฆาคิมหันต์ใดๆ นั้นต่างถูกทำลายราบลงสิ้น

ทั้งอาณาจักรทหัยเมฆานั้นมันเริ่มแสดงรอยแตกร้ายของห้วงมิติจนเริ่มเสียสภาพของแผ่นดินไป

เพราะจะอย่างไรเสียเหล่ายอดฝีมือที่มาร่วมงานในอาณาจักรทหัยเมฆาครั้งนี้ หลายต่อหลายคนมันก็ล้วนเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์สิ้น

ยอดฝีมือในระดับนี้เมื่อต่อสู้ออกมาแล้วมันย่อมจะรุนแรงจนทลายฟ้าดินลง ไหนจะยังมีการต่อสู้ของหยวนเว่ยกับพวกโอสถบรรพกาล ยอดฝีมือระดับเหนือฟ้าดินนั้นอีกด้วย

มิตินั้นร้าวแตกออกมาจนทำให้อาณาจักรทหัยเมฆาทั้งหมดนั้นแตกสลายพังทลายลงสิ้น

เวลานี้สถานที่ที่พวกเขาทั้งหลายกำลังอยู่กันนั้นมันคือห้วงมืดมิดของกระแสคลื่นห้วงมิติ

และในห้วงมิตินี้มันมีจุดสว่างเหมือนดวงดาวล้อมรอบไปทุกทิศ

เหล่าดวงดาวทั้งหลายนั้นมันเชื่อมต่อกันไปสร้างเป็นเหมือนดั่งใยแมงมุมที่ปกครองมิติรอบๆ อาณาจักรทหัยเมฆาไว้สิ้น

นี่มันคือมหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์ของเผ่าเทวา พร้อมกับยอดฝีมือเต๋าสวรรค์แปดลายนับหมื่นๆ ที่ล้อมรอบอยู่มันจึงไม่มีใครจะออกไปจากห้วงมิติแห่งนี้ได้

เย่หยวนนั้นไม่ได้นำกำลังบุกเข้าไปยังดวงดาวทั้งหลายนั้นอย่างโง่ๆ เวลานี้เขาค่อยๆ พากองกำลังฝ่ายมนุษย์ทั้งหลายนั้นพุ่งเข้าโจมตีไปมาจนสังหารไล่เหล่ายอดฝีมือเผ่าเทวาทั้งหลายจนแตกพ่ายหนีหาย

แม้แต่เหล่าเต๋าสวรรค์แปดลายขั้นปลายเองก็ยังไม่กล้าจะปะทะกับกองกำลังนี้ตรงๆ

จากนั้นมนุษย์ที่กระจัดกระจายกันก็เริ่มเข้ามาร่วมกองทัพของเย่หยวนนี้ขึ้นมาเรื่อยๆ และยิ่งทำให้กองกำลังของเขาทำลายล้างได้รุนแรงกว่าเก่า

เวลานี้แม้แต่เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ขั้นปลายทั้งหลายก็ยังมาเข้าร่วมและกลายเป็นผู้นำของกลุ่มย่อยไป

เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายมารวมตัวกับเย่หยวนมากขึ้นเรื่อยทำให้พลังของพวกเขายิ่งเหนือล้ำ

แต่ไม่ว่าจะมีพลังบ่มเพาะสูงล้ำแค่ใด จะเก่งกาจแค่ไหน หลังจากเข้ามาร่วมกองทัพแล้วพวกเขาก็จะยึดถือเย่หยวนเป็นหัวหน้าผู้นำ

เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ขั้นปลายทั้งหลายนั้นจะติดตามเย่หยวนไปอย่างใกล้ชิด พวกเขานั้นจะตามเย่หยวนบุกทะลวงเข้าไปทุกเส้นทาง ทำลายทุกอย่างที่กีดขวางลงสิ้น

ไม่นานนักทัพเผ่าเทวาก็ต้องแตกพ่ายหนีไปรอบทิศออกจากมหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์ไป

ข้างๆ เย่หยวนนั้นจีโมถามขึ้นมา “ท่านรองมหาปราชญ์ จะอย่างไรปัญหามันก็คงเป็นดวงดาวปิดกั้นทั้งหลายนั้น! เผ่าเทวานั้นมันเก่งกาจล้ำ หลังจากพวกมันทั้งหลายฟื้นกำลังกลับมาได้พวกเราก็จะเป็นได้แค่หนูติดจั่น”

ภายในการต่อสู้อันโกลาหลนั้นจีโมได้เห็นว่ามีทัพนำกำลังเข้าโจมตีไปทั่วสนามรบทำให้เขาตัดสินใจเข้าร่วมด้วยทันที

เมื่อเขาได้เห็นว่าผู้นำทัพนั้นมามันกลับเป็นเย่หยวนตัวเขาก็ต้องเบิกตาค้าง

เพราะจะอย่างไรเสียเย่หยวนก็ถูกจักรพรรดิเทพสวรรค์ขั้นกลางถึงสองคนเข้าล้อมโจมตี

เขานั้นรู้ว่าเย่หยวนเก่งกาจ แต่ภายใต้การโจมตีของยอดฝีมือระดับนั้นเขาคิดไปเสียว่าต่อให้ไม่ตายก็คงพิการ

แต่ใครจะไปคิดว่านอกจากเย่หยวนจะไม่ตาย เขานั้นกลับพัฒนาขึ้นมาได้เสียอย่างนั้น

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือเขานั้นกลับนำกองทัพมนุษย์ไล่ล้างสังหารศัตรูไปทั่ว

แต่จะอย่างไรวิกฤตมันก็ยังไม่ผ่านพ้น เพราะจะอย่างไรพวกเขาทั้งหลายก็คงเป็นได้แค่มดปลวกต่อหน้าหยวนเว่ยผู้นั้น

เพราะหากเจ้าฟ้าดินของเผ่าเทวาลงมือแล้ว พวกเขาทั้งหลายก็คงได้แต่นั่งรอความตาย

เย่หยวนพยักหน้ารับ “มหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์นี้มันใช้พลังของรากฐานแนวคิดแห่งห้วงมิติทั้งยังมียอดฝีมือเต๋าแปดลายนับหมื่นๆ ดูแลอยู่ มันมีพลังมากมายอย่างไม่อาจเปรียบเทียบ หากคิดอยากทำลายมันลงแล้วเราก็คงได้แต่ต้องหาจุดอ่อนของมัน ไม่เช่นนั่นจะโจมตีอย่างไรก็คงไม่อาจรอดออกไปได้”

จีโมนั้นอ้าปากค้าง “รองมหาปราชญ์ท่านนั้นเก่งกาจในแนวคิดห้วงมิติอย่างมาก แต่แม้จะเป็นท่านก็ไม่อาจทำลายมันลงได้?”

เย่หยวนตอบกลับไป “วิชานี้มันใช้พลังของต้นกำเนิดของแนวคิดแห่งห้วงมิติพร้อมด้วยยอดฝีมือหลายหมื่นคอยดูแลรักษามัน เป็นสิ่งที่แข็งแกร่งอย่างเหนือล้ำ ด้วยแนวคิดแห่งห้วงมิติที่ข้ามีตอนนี้ มันไม่พอที่จะทำลายมันลง”

เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดนั้นพวกเขาต่างก็ได้ยื่นหน้าซีด

เพราะในหมู่ผู้คนทั้งหลายนั้นเย่หยวนนับว่ามีแนวคิดแห่งห้วงมิติสูงส่งที่สุด

แม้แต่เขายังไม่อาจทำอะไรได้ สภาพของพวกเขานั้นคงได้แต่ต้องรอความตายแล้ว

“นี่มัน… หรือว่าเรามีเพียงต้องนั่งรอความตายหรือ?” จีโมถามขึ้นมาราวกับคนเสียสติ

เย่หยวนตอบกลับไป “ข้าจะไปลองทดสอบมันดูก่อน พวกเจ้าทั้งหลายจงทำในสิ่งที่พอทำได้และภาวนาเถอะ…”

จีโมนั้นแสดงสีหน้าหนักหน่วงหัวใจขึ้นมา “รองมหาปราชญ์เชิญเถอะ! ที่เหลือให้พวกเขาจัดการต่อเอง! ต่อให้ข้าตายข้าก็จะไม่ปล่อยให้มีใครเข้ามารบกวนท่านได้แน่!”

เมื่อเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายได้ยินพวกเขาก็ตอบรับขึ้นตามๆ กัน

เย่หยวนพยักหน้ารับพร้อมก้าวเท้าออกไปยังดวงดาวที่เชื่อมต่อเป็นใยแมงมุมนั้น

เมื่อมาถึงดวงดาวตรงหน้าเขาก็สัมผัสได้ถึงคลื่นพลังกดดันหนักหน่วงที่ปะทะเข้ากับร่างกาย

เย่หยวนนั้นรู้สึกเหมือนกับว่ามิติตรงหน้านี้มันแข็งแกร่งเหล็ก ไม่อาจจะเจาะทะลวงไปได้

พร้อมๆ กันในห้วงมิตินั้นมันก็ยังมีคลื่นพลังแอบซ่อนพร้อมปะทุออก เหมือนดาบที่เก็บซ่อนไว้และสามารถนำออกมาจัดการเขาได้ทุกเมื่อ

เย่หยวนนั้นมีแนวคิดแห่งห้วงมิติที่เหนือล้ำ เขานั้นย่อมจะอ่านคุณสมบัติของห้วงมิติตรงหน้าออก

มันสามารถโจมตีได้เมื่อเดินหน้าและสามารถป้องกันได้เมื่อถอยหลัง

มันเฉียบคามดั่งหอกดาบเมื่อโจมตี แข็งแกร่งดั่งปราการเมื่อป้องกัน

เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายต่างจะปะทะเข้ากับพลังมิติหนักหน่วงนี้อย่างที่ไม่มีทางจะต่อสู้ขัดขืนใดๆ ได้!

“หึ มารนหาที่ตายอีกคนแล้ว!”

“ข้าล่ะชอบสีหน้าสิ้นหวังของพวกมนุษย์จริงๆ! ภายใต้มหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์นี้ไม่มีใครจะหลบรอดไปได้!”

“เหล่ามนุษย์ทั้งหลายมันคงไม่ได้รู้ว่ามหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์นี้คือไพ่ตายที่แท้ของเรา!”

เมื่อเหล่ายอดฝีมือเผ่าเทวาได้เห็นเย่หยวนเดินหน้าเข้ามาพวกเขาทั้งหลายต่างก็อมยิ้มขึ้นตามๆ กัน

เพราะจากภายในห้วงมิตินี้พวกเขานั้นไม่อาจจะเห็นได้ว่าภายในอาณาจักรทหัยเมฆานั้นมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง

ตราบเท่าที่มีใครคิดหนี พวกเขาก็จะสังหารอีกฝ่ายลงสิ้น

เย่หยวนนั้นเดินมาถึงข่ายดวงดาวนี้ทำให้เหล่ายอดฝีมือเผ่าเทวานั้นเตรียมตัวโจมตีเย่หยวนเต็มที่ แต่ตัวเย่หยวนนั้นกลับหยุดตัวลงเสียก่อน

ที่ที่เย่หยวนยืนอยู่ในเวลานี้มันพอดิบพอดีว่าอยู่นอกระยะการโจมตีของมหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์

เหล่ายอดฝีมือเผ่าเทวาทั้งหลายนั้นต่างโกรธจนหน้าดำหน้าแดง แทบต้องกระอักเลือดออกมา

เย่หยวนนั้นหยุดและหันมองดูข่ายดวงดาวรอบๆ ก่อนจะหันไปมองที่อีกด้านเพื่อสัมผัสถึงคลื่นมิติจากข่ายดวงดาวนี้

ไม่นานนักเขาก็ก้าวเท้าออกมาจนเข้าสู้ระยะโจมตีของเหล่ายอดฝีมือเผ่าเทวาทั้งหลาย

พริบตานั้นมันเกิดเสียงสว่างพุ่งลงมาจากดวงดาวราวกับเป็นฝนดาวตกลงมาปะทะในจุดที่เย่หยวนอยู่

ปัง ปัง ปัง…

หลังจากเสียงระเบิดลั่นนั้น มันก็ปรากฏร่างของเย่หยวนกลับมายืนอยู่นอกระยะโจมตีอีกครา

การโจมตีทั้งหมดนั้นไม่อาจสร้างความเสียดายใดๆ ได้!

……………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+