War sovereign Soaring The Heavens 1560

Now you are reading War sovereign Soaring The Heavens Chapter 1560 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

3 ลัทธิ 9 ขุมพลัง

 

จากที่ผู้เฒ่าพยากรณ์กล่าวบอกไว้ ต้วนหลิงเทียนลูกชายของมันต้วนหรูเฟิง…มิใช่คนอายุสั้น!

 

เมื่อตระหนักได้ว่าสมควรมีเรื่องบาดหมางระหว่างเผ่าพันธุ์มังกรกับต้วนหลิงเทียน ต้วนหรูเฟิงและกู่มี่ก็เร่งรุดเดินทางไปยังทวีปเมฆาล่องทันที

 

ด้วยความเร็วของทั้งคู่ เพียงเวลาแค่ไม่นานก็บรรลุถึงทวีปเมฆาล่อง

 

เรื่องราวพวกนี้ต้วนหลิงเทียนไม่อาจรับรู้ได้เลย

 

หลังจากที่ฝึกฝนปรับด่านพลังสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่ได้อย่างสมบูรณ์แล้ว ต้วนหลิงเทียนก็ออกจากเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติ

 

หลังจากที่ออกจากเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติ ต้วนหลิงเทียนก็ย้อนกลับมายังสำนักจันทร์จรัสแสงก่อนอื่นใด

 

หลังจากที่ซุ่มสังเกตการณ์อยู่ 2-3 วัน ในที่สุดเขาก็พบโอกาสอันดี จัดการทุบศิษย์ฝ่ายในของสำนักคนหนึ่งจนสลบ หลังจากที่มั่นใจว่าคงไม่ตื่นง่ายๆ จากนั้นเขาก็ปลอมตัวเป็นอีกฝ่ายอย่างแยบยล ทั้งใช้ป้ายของศิษย์ฝ่ายในคนนี้ลอบเข้าไปตรวจสอบเรื่องราวในสำนักจันทร์จรัสแสงได้อย่างง่ายดาย ไร้ผู้ใดล่วงรู้

 

หลังจากที่เข้ามาในสำนักจันทร์จรัสแสงแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็มุ่งหน้าไปยังฝ่ายในทันที

 

ไม่นานเขาก็ได้รับทราบมาว่าป๋ายลี่หงกับพวกเฟิ่งหวู่เต้าได้หลบหนีไปนานแล้ว แถมไม่น่าจะอยู่ใกล้ๆสำนักจันทร์จรัสแสงอีกต่อไป ต้วนหลิงเทียนพอได้ระบายลมหายใจด้วยความโล่งอกทันที

 

‘ในเมื่อศิษย์พี่พาพวกลุงเฟิ่งไปด้วย นั่นหมายความว่าทั้งหมดยังปลอดภัยดีอยู่…ด้วยพลังฝีมือของศิษย์พี่รวมถึงฐานะปรมาจารย์จารึกเซียนระดับ 3 ดาว แม้จะออกจากเขตปกครอง 9 พันธมิตร ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีที่ให้ไป’

 

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ใจต้วนหลิงเทียนที่หนักอึ้งก็เบาลงไม่น้อย

 

หลังจากที่ยืนยันได้แล้วว่าป๋ายลี่หงกับคนอื่นสมควรหลบหนีออกจากสำนักจันทร์จรัสแสงได้อย่างปลอดภัย ต้วนหลิงเทียนก็แวะออกมายังฝ่ายนอกของสำนัก เพื่อหาตัวหลิงอวิ๋นกับฉงหู่ทันที

 

น่าเสียดายที่หลิงอวิ๋นและฉงหู่ไม่อยู่บ้าน

 

‘คงไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับพวกมันหรอกนะ?’

 

เนื่องจากกลัวว่าตัวตนจะถูกเปิดเผย ต้วนหลิงเทียนไม่คิดจะตรวจสอบเรื่องราวแต่อย่างใด

 

หลังจากนั้นเขาก็ออกจากสำนักและมุ่งหน้าไปยังเมืองชงซัน

 

อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้เปิดเผยตัวตนออกมา

 

ใครจะไปรู้ว่าคนของสำนักจันทร์จรัสแสง ส่งใครมาเฝ้าจวนเจ้าเมืองชงซัน ซุมรอจับเขาไว้หรือไม่?

 

ต้วนหลิงเทียนคอยหาข่าวรอบๆจวนเจ้าเมืองชงซันอยู่พักหนึ่ง ในที่สุดก็ได้รับทราบว่าฟางฮุ่ยไม่ได้รับผลกระทบอะไรจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย

 

‘เจ้าสำนักจันทร์จรัสแสงนั่นก็ยังนับว่าไม่ได้ไร้ศีลธรรมอะไร’

 

ในขณะที่บ่นต้วนหลิงเทียนก็เดินออกจากเมืองชงซัน

 

หลังจากออกมานอกเมืองแล้ว ใจต้วนหลิงเทียนก็ฉุกคิดเรื่องราวขึ้นมาได้เรื่องหนึ่ง ‘หลังออกจากสำนักจันทร์จรัสแสงแล้ว ไม่รู้ศิษย์พี่จะพาพวกลุงเฟิ่งไปยังเมืองหานเหอรึเปล่า…ลองไปดูก่อนแล้วกัน’

 

ด้วยเหตุนี้เขาจึงตัดสินใจมุ่งหน้าไปยังเมืองหานเหอทันที

 

เมืองหานเหอนั้น นับเป็นเมืองหลักของเขตปกครอง 9 พันธมิตรก็ว่าได้

 

เมืองหานเหอจะอย่างไรก็เป็นเมืองหลักของ 9 พันธมิตร เป็นดั่งจุดศูนย์รวมของข้อมูลทั้งหลายก็ไม่ปาน เช่นนั้นสมควรสืบข่าวคราวได้ดีที่สุด

 

หลังจากที่มาถึงเมืองหานเหอแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็ไปนั่งตามเหลาอาหารต่างๆ เพื่อฟังเรื่องราวจากผู้คนกล่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในบรรดา 9 ขุมพลัง

 

อย่างไรก็ตามเขาพบว่าเรื่องราวของสำนักจันทร์จรัสแสง กลับไม่ได้แพร่งพรายออกมา

 

ยอดฝีมือขอบเขตเซียนของสำนัก เฉียนคุน ตกตาย… อาวุโสป๋ายลี่หลบหนี สองเรื่องนี้ไม่มีใครพูดถึงกันเลย

 

เรื่องนี้ทำให้ต้วนหลิงเทียนแปลกใจอยู่บ้าง

 

อย่างไรก็ตามต้วนหลิงเทียนไม่ทราบ ว่ายอดฝีมอขอบเขตเซียนรวมถึงเจียงเว่ย หลังจากที่หาตัวเขาไม่พบ พวกมันก็ให้อาวุโสฝ่ายในและฝ่ายนอกกล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้า ว่าจะไม่แพร่งพรายเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้นเด็ดขาด…

 

เรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้น แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนสังหารเฉียนคุน รวมถึงเรื่องที่ป๋ายลี่หงลอบหลบหนีออกไปจากสำนัก

 

เพราะ 2 เรื่องนี้ใหญ่หลวงนัก ไมว่าเรื่องใด ก็ล้วนส่งผลกระทบต่อความมั่นคงสำนักทั้งสิ้น

 

เพราะสุดท้ายแล้ว เฉียนคงก็เป็นหนึ่งในยอดฝีมือขอบเขตเซียนไม่กี่คนของสำนักจันทร์จรัสแสง

 

ป๋ายลี่หงก็คือปรมาจารย์จารึกเซียนระดับ 3 ดาวเพียงหนึ่งเดียวของสำนัก

 

หากบุคคลภายนอกล่วงรู้ว่าเฉียนคงตกตาย ป๋ายลี่หงหนีหาย น่ากลัวสำนักจันทร์จรัสแสงอาจเกิดมรสุมช่วงชิงอำนาจขึ้นมา

 

หลังจากใช้เวลาไป 2 วันในเหลาอาหารต่างๆภายในเมืองหานเหอ ต้วนหลิงเทียนก็ไม่พบข้อมูลใดๆที่มีประโยชน์เลย

 

จังหวะนี้เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเคว้งคว้าง

 

แล้วตอนนี้เขาควรไปที่ไหนดีล่ะ?

 

สำหรับเขาแล้ว การอยู่ในพื้นที่ 9 พันธมิตร ก็ไม่ปลอดภัยอีกต่อไป

 

ดังนั้นเขาจึงไม่คิดจะรั้งอยู่ในเขตปกครองของ 9 พันธมิตรให้นาน

 

สภาพของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าก็ละม้ายคล้ายทวีปเมฆาล่อง ยิ่งเข้าใกล้จุดศูนย์กลางทวีปมากเท่าไหร่ ก็จะเจอผู้ฝึกยุทธ์และผู้ฝึกเต๋าที่ร้ายกาจมากขึ้นเท่านั้น

 

ยังมีขุมพลังต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะพรรคหรือสำนักอะไร เรียกว่าไม่ขาดขุมพลังชั้น 6 แม้แต่น้อย

 

‘งั้นขึ้นเหนือมุ่งหน้าไปยังหลวงของประเทศฝูเฟิงก่อนแล้วกัน’

 

ไม่นานต้วนหลิงเทียนก็ตัดสินใจได้

 

ในตอนที่ยังอยู่สำนักจันทร์จรัสแสง ต้วนหลิงเทียนก็ได้รับทราบเรื่องราวทั่วไปในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าจากหยกบันทึกข้อมูลไม่น้อย เขารู้เรื่องขุมพลังใกล้ๆ 9 พันธมิตร อีกทั้งยังรู้อีกว่าพื้นที่เหนือขึ้นไปอันกว้างใหญ่ไพศาลของ 9 พันธมิตรนั้น คือประเทศที่รู้จักกันในนาม ฝูเฟิง

 

ในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า นอกจาก สำนัก พรรค นิกายแล้ว ยังมีประเทศของเซียนอีกด้วย

 

แน่นอนว่า ที่เรียกว่าประเทศของเซียนนั้น แต่เดิมพวกมันก็คือตระกูลๆหนึ่ง หากแต่ปฏิเสธจะร่วมมือกับขุมพลังอื่นใด เลือกจะปกครองพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลด้วยกำลังของตัวเอง และสร้างชาติขึ้นมา!

 

พื้นที่อันกว้างใหญ่ กินอาณาบริเวณมากกว่าพื้นที่ปกครองของ 9 พันธมิตรไปกว่าครึ่งนั้น ถูกประเทศที่เรียกว่า ฝูเฟิง ครอบครอง

 

เนื่องจากพวกมันยินดีเป็นหัวไก่ดีกว่าหางหงส์ฟ้า พวกมันจึกเลือกมาสร้างชาติในพื้นที่ไกลห่างธุระกันดาร พวกมันไม่อยากอยู่ใต้อาณัติหรือปกครองของผู้ใด ตั้งตัวเป็นประเทศอิสระ! ซึ่งบังเอิญใกล้กับพื้นที่ 9 พันธมิตรพอดี…

 

ว่ากันว่าด้วยอาณาบริเวณอันกว้างใหญ่ไพศาลของประเทศฝูเฟิง ทำให้ 9 พันธมิตรไม่หวาดกลัวว่าฝูเฟิงจะมายึดอาณาเขตอะไรของพวกมัน

 

เพราะมีทะเลทรายอันแห้งแล้งไร้ชีวิต กั้นขวางระหว่างประเทศฝูเฟิงกับเขตปกครอง 9 พันธมิตรเอาไว้

 

ในทะเลทรายร้อนระอุนี้นอกจากจะเต็มไปด้วยสัตว์ร้ายอันน่ากลัวแล้ว สภาพแวดล้อมยังอันตรายนัก

 

ถึงแม้ต้วนหลิงเทียนจะบรรลุพลังฝึกปรือถึงสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่ แต่ถ้าไม่ใช้เขตแดนหมื่นกระบี่ และใช้ออกด้วยหมื่นกระบี่รวมหนึ่งสร้างกระบี่แล้วขี่เหินไปล่ะก็…ต้องใช้เวลาถึง 10 วันกว่าจะข้ามทะเลทรายผืนนี้ไปได้

 

“ไม่น่าแปลกที่ประเทศฝูเฟิงไม่ไปรุกรานจับ 9 พันธมิตรมาควบรวมอะไร…ทะเลทรายบ้านี่มันจะร้อนและกว้างไปไหน!”

 

ยืนอยู่ที่ชายขอบเขตปกครอง 9 พันธมิตร ต้วนหลิงเทียนเหม่อมองทะเลทรายร้อนระอุ ที่เต็มไปด้วยไอความร้อนด้วยสายตาเฉยเมย ปากบ่นเล็กน้อยค่อยตัดสินใจออกเดินทางข้ามทะเลทรายร้อนระอุทันที

 

เรื่องที่ต้วนหลิงเทียนไม่รู้ก็คือ ขณะที่เขากำลังเดินทางข้ามทะเลทรายนั้น บิดาของเขาต้วนหรูเฟิงก็มาถึงทวีปเมฆาล่องแล้ว

 

พุ่งร่างมาไม่นานก็ผ่านราชอาณาจักรต้าฮั่น ข้ามผ่านจักรวรรดิศิลาทมิฬ เลยพ้นอาณาจักรพนาคราม และบรรลุถึงอาณาจักรนภาล่องในไม่กี่อึดใจ

 

“กู่มี่เจ้ารอข้าอยู่ที่นี่”

 

ขณะมองลงไปยังอาณาจักรนภาล่องใต้เท้า ต้วนหลิงเทียนพลันกล่าวบอกกู่มี่

 

“ทราบแล้วจ้าวตำหนัก”

 

ต่อหน้าต้วนหรูเฟิง กู่มี่ไม่กล้าละเลยมารยาท ยังให้ความเคารพอย่างถึงที่สุด

 

หลังจากนั้นต้วนหรูเฟิงก็ไปเยือนเมืองหลวงของอาณาจักรนภาล่องทันที

 

ต้องกล่าวบอกเลยว่าต้วนหรูเฟิงไหวพริบดีไม่น้อยที่เลือกจะมาหาข่าวที่เมืองหลวงอาณาจักรนภาล่อง

 

หลังจากไปยังสถานที่ๆคุ้นเคยในอาณาจักรนภาล่อง ต้วนหรูเฟิงก็ได้พบเบาะแสที่มองหา…เบาะแสนี้เป็นต้วนหลิงเทียนตั้งใจทิ้งไว้ให้พวกลี่เฟยก่อนที่จะออกจากทวีปเมฆาล่อง เพราะเขารู้ว่าหากลี่ฟยยังมีชีวิตอยู่ นางต้องย้อนกลับมาที่นี่เพื่อหาข่าวเขาแน่

 

อย่างไรก็ตามเรื่องที่ชวนให้ประหลาดใจก็คือ กลับเป็นบิดาของเขาที่ได้รับทราบเบาะแสนี้ก่อนลี่เฟย

 

กระทั่งหยกบันทึกเสียงที่ตั้งใจฝากไว้ให้ลี่เฟย ตอนนี้ก็อยู่ในมือของต้วนหรูเฟิงเรียบร้อย

 

ด้วยหยกบันทึกเสียงที่ต้วนหลิงเทียนทิ้งไว้ ในที่สุดต้วนหรูเฟิงก็รับทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด

 

“เผ่าพันธุ์มังกรมันช่างหาญกล้านัก! เจ้ามันแน่นักหรือตี้จิ่ว! ดี ดีมาก!! กลับกล้าทำลายนิกายของลูกชายข้างั้นเหรอ ข้าจะไปขอคำอธิบายเจ้าถึงรังมังกร!!”

 

ลูกตาต้วนหรูเฟิงเผยเจตนาฆ่าฟันออกมาทันที

 

อย่างไรก็ตามหลังจากที่ได้รับทราบเรื่องที่ ลูกสะใภ้คนหนึ่งถูกนำตัวไป สีหน้ามันก็กลายเป็นหนักอึ้งทันที

 

“ลัทธิบูชาไฟงั้นเหรอ!? ลูกสะใภ้ข้ามีความเป็นมาอย่างไรกันแน่ ไฉนถึงได้มีพี่สาวอยู่ลัทธิบูชาไฟได้? มิใช่ว่าลัทธิบูชาไฟอยู่ภูมิภาคเบื้องบนหรือไร…ไฉนถึงลงมาภูมิภาคเบื้องล่างแบบนี้?”

(ขอเปลี่ยนนิกายบูชาไฟ เป็นลัทธิบูชาไฟนะ…)

 

‘ไม่สิ! หรัวเอ๋อ กล่าวบอกไว้ว่าลูกสะใภ้ที่ชื่อ เค่อเอ๋อ นั้นเติบโตมาพร้อมเทียนเอ๋อ…ไฉนไปเกี่ยวข้องกับลัทธิบูชาไฟในภูมิภาคเบื้องบนได้…แต่เทียนเอ๋อกลับบอกว่ามีสตรีที่อ้างตัวว่ามาจากลัทธิบูชาไฟพาตัวนางไป! ยังบอกว่าเป็นพี่สาวฝาแฝดของนางอีก!!’

 

‘ยิ่งไปกว่านั้นพี่สาวฝาแฝดของเค่อเอ๋อ กลับทรงพลังถึงขั้นซัดตี้จิ่วหมอบได้ในฝ่ามือเดียว!’

 

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ สีหน้าต้วนหรูเฟิงก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันใด

 

ตี้จิ่วนั้นแม้ไม่ได้อยู่ในสายตามัน แต่จะอย่างไรตี้จิ่วก็นับว่าไม่ใช่ชนชั้นต่ำทราม

 

สุดท้ายแล้วตี้จิ่วก็เป็นมังกรเทพยาดาสีทอง 5 กรงเล็บของเผ่าพันธุ์มังกร!

 

ถึงแม้จะยังไม่โตเต็มวัยดีเท่าไหร่ แต่พลังฝีมือก็ไม่ได้ต่ำต้อย

 

หากสตรีนางนั้นเป็นพี่สาวฝาดแฝดของเค่อเอ๋อจริงๆ ไม่ใช่ว่านางยังพึ่งมีอายุได้ 30 ต้นๆหรอกหรือ?

 

เพียงวัย 30 ต้นๆ กลับมีพลังฝีมือเหนือกว่าตี้จิ่ว?

 

‘นางยังเยาว์แต่กลับมีพลังฝีมือร้ายกาจปานปีศาจ…ดูเหมือนว่านางจะไม่ได้กล่าวโป้ปดเรื่องมาจากลัทธิบูชาไฟ! ยอดฝีมือรุ่นเยาว์ระดับอัจฉริยะเช่นนี้มีเพียงขุมพลังระดับนั้นถึงจะเพาะสร้างออกมาได้!’

 

มาถึงจุดนี้ต้วนหรูเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะหายใจติดขัด

 

ถึงแม้มันจะได้ยินเรื่องภูมิภาคเบื้องบนมานานแล้ว

 

แต่ก็ไม่เคยพบเจอคนที่มาจากภูมิภาคเบื้องบนมาก่อน

 

‘ในสมัยโบราณ กล่าวกันว่าดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าถูกปงครองด้วย 3 ลัทธิ 9 ขุมพลัง…ขุมพลังทั้ง 9 นั่นก็เป็นขุมพลังชั้น 1 ถึง 9 ที่รู้จักกันดี ส่วน 3 ลัทธินั่นเป็นมหาอำนาจที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า 3 ลัทธินั่นก็ถือครองอำนาจของขุมพลังชั้น 1 ถึง 3 เอาไว้…ยังเป็นมหาอำนาจที่ร้ายกาจที่สุด ลัทธิบูชาไฟก็เป็นหนึ่งในนั้น’

 

‘ตั้งแต่ที่ดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าถูกแบ่งออกเป็น 2 ภูมิภาค 3 ลัทธิรวมถึงมหาอำนาจที่เข้มแข็งบางส่วนก็ได้ลงหลักปักฐานอยู่ที่ภูมิภาคตอนบน…ผ่านมาเนิ่นนานหลายปีคนภูมิภาคเบื้องล่างก็ลืมเลือน 3 ลัทธินั่นไปหมดสิ้นแล้ว’

 

ทันใดนั้นในใจต้วนหรูเฟิงก็นึกย้อนถึงข้อมูลของลัทธิบูชาไฟที่มันได้รับรู้มา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด