War sovereign Soaring The Heavens 1582

Now you are reading War sovereign Soaring The Heavens Chapter 1582 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ผู้นำถูกู่

 

“ท่านจ้าวตำหนักต้วนใยท่านไม่ลองกล่าวบอกข้าดูเล่า…ว่าท่านมีเงื่อนไขอันใดที่จะพอทำให้ท่านไว้ชีวิตตี้จิ่วได้บ้าง?”

 

เมื่อเห็นว่าต้วนหรูเฟิงคิดลงมือแตกหักจริงๆ ตี้ชานได้แต่ยอมลงให้ ถึงแม้มันจะไม่ได้กลัวที่ต้องสู้กับต้วนหรูเฟิง แต่มันก็ต้องคิดให้มากเข้าไว้ เพราะหากมันแพ้พ่ายขึ้นมาคงไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเผ่าพันธุ์มังกร

 

มันเป็นผู้นำของเผ่าพันธุ์มังกร การกระทำของมันก็คือตัวแทนของเผ่าพันธุ์ มันไม่กล้าทำอะไรผลีผลาม ยังไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่มันมั่นใจไม่ถึงครึ่งว่าจะเอาชนะต้วนหรูเฟิงได้

 

“ท่านผู้นำ!”

 

เมื่อเห็นว่าตี้ชานยอมเป็นฝ่ายลงให้ต้วนหรูเฟิงแบบนี้ เฉวี่ยฉานและอาวุโสมังกรคนอื่นๆถึงกับหน้าเสียทันที

 

ถึงแม้ว่าพวกมันต่างรู้ดีว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะแตกหักกับจ้าวตำหนักเมฆาครามอย่างต้วนหรูเฟิง แต่พวกมันก็รู้สึกยากยอมรับนักที่ผู้นำของพวกมันต้องเป็นฝ่ายยอมถอยก้าวหนึ่งทั้งๆที่อยู่ในดินแดนของตัว!

 

แต่แน่นอนว่าพวกมันไม่กล้าระบายโทสะอะไรใส่ต้วนหรูเฟิง เพราะอีกฝ่ายไม่ได้ทำผิดอะไร

 

จังหวะนี้เฉวี่ยฉานและมังกรอาวุโสคนอื่นๆได้แต่หันมาถลึงตามองตี้จิ่วอย่างคาดโทษ หากอีกฝ่ายไม่ใช่มังกรเทพยาดาสีทอง 5 กรงเล็บล่ะก็ พวกมันจะทุบตีตัวบัดซบชักศึกเข้าบ้านนี่ให้ตาย!

 

อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวอย่างตี้จิ่วกลับไม่สนใจสายตาของเฉวี่ยฉานและคนอื่นๆเลย

 

หลังจากที่ตระหนักได้ว่าจะอย่างไรเผ่าพันธุ์มังกรก็จะต้องปกป้องมัน มันก็ไม่กลัวอะไรอีก

 

อย่างไรก็ตามยามหันไปมองต้วนหรูเฟิง ในแววตามันเผยประกายเย็นเยียบขึ้นมา

 

เรื่องราวในวันนี้ทำให้มันหวาดกลัวแทบตาย! แต่ตอนนี้ในที่สุดมันก็สามารถสงบใจลงได้เสียที!!

 

มันไม่คิดไม่ฝันจริงๆ ว่าจ้าวตำหนักเมฆาครามที่ชื่อเสียงเลื่องลือกลับเป็นบิดาของต้วนหลิงเทียน คนที่มันอยากจะฆ่าให้ตายเสียได้!

 

อย่างไรก็ตามในเมื่อมันรู้แล้วว่าวันนี้มันไม่ตายแน่ๆ ใจมันก็กลับมาฮึกเหิมลำพองอีกครั้ง!

 

ความเกลียดชังที่มีต่อต้วนหลิงเทียนก็ยิ่งฝังลึกเข้ากระดูก!

 

แน่นอนว่ามันยังกลัวต้วนหรูเฟิง และไม่กล้าเผยทีท่าอะไรออกมา

 

‘ต้วนหลิงเทียน ข้าคิดไม่ถึงจริงๆว่าเจ้าจะเป็นลูกของต้วนหรูเฟิง..ความอัปยศอดสูที่บิดาเจ้ามอบให้ข้าวันนี้ ข้าจะให้เจ้าชดใช้เป็นสิบเท่าร้อยเท่า! เว้นเสียแต่เจ้าจะหดหัวอยู่ในตำหนักเมฆาครามชั่วชีวิต หาไม่แล้วข้าตี้จิ่วจะฆ่าเจ้าให้ตาย!!’

 

ใจตี้จิ่วกู่ร้องด้วยอาฆาต ตอนนี้หากต้วนหลิงเทียนยืนอยู่ตรงหน้า มันจะกระโจนเข้าไปฉีกทึ้งร่างอีกฝ่ายให้แหลกอย่างไม่ต้องคิด!

 

ตอนนี้มันไม่คิดด้วยซ้ำว่าต้วนหลิงเทียนจะใช่คนที่ฆ่าลูกมันจริงๆหรือไม่!

 

ต่อให้ต้วนหลิงเทียนไม่ใช่ฆาตกรที่แท้จริง มันก็ไม่มีวันปล่อยต้วนหลิงเทียนไปเด็ดขาด!

 

“อะไรกันตี้ชาน ที่เจ้าอุตส่าห์คืนร่างเดิมมิใช่ว่าอยากจะเล่นกับข้าหรอกรึไง?”

 

ได้ยินวาจาหาทางลงของตี้ชาน ต้วนหรูเฟิงยังไม่คลายพลังแต่อย่างไร เพียงกล่าวถามออกไปด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน

 

และวาจานี้ของต้วนหรูเฟิง ทำให้ตี้ชานอับอายไม่น้อย

 

ยังดีที่ตอนนี้มันอยู่ในรูปลักษณ์มังกรเทพยาดาสีทอง 5 กรงเล็บยาวกว่า 1,000 หมี่ จึงไม่อาจมีใครเห็นถึงสีหน้าที่เปลี่ยนไป

 

ครู่ต่อมาร่างมังกรยาวนับพันหมี่ของตี้ชาน ก็ทอแสงสว่างวาบคราหนึ่ง ก่อนที่จะจำแลงกายเป็นมนุษย์อีกครั้ง ร่างชายชราในชุดคลุมสีทองลอยเด่นกลางหาว ที่เคนสง่างามเผยแรงกดดันออกมาไม่น้อยยามนี้แลดูอ่อนลงหลายส่วน

 

การที่มังกรเทพยาดาสีทอง 5 กรงเล็บยาวกว่าพันหมี่หายไป ย่อมทำให้เงาทะมึนที่ฉาบปกคลุมเผ่าพันธุ์มังกรสลหายหาย แสงตะวันพลันสาดส่องลงมาอีกครั้ง

 

“มิได้ต่อสู้กัน!”

 

จังหวะนี้คนของเผ่าพันธุ์มังกรที่สังเกตการณ์อยู่ห่างไกล พอได้ระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก

 

ถึงแม้ใจหนึ่งพวกมันก็อยากเห็นการปะทะกันระหว่างจ้าวตำหนักเมฆาครามที่เลื่องลือกับผู้นำของพวกมัน แต่อีกใจก็ไม่ยินดีที่จะเห็นเผ่าพันธุ์มังกรย่อยยับวอดวายเพราะผลพวงจากการปะทะ!

 

“จ้าวตำหนักต้วน ท่านช่วยไว้หน้าผู้อื่นบ้าง”

 

ในขณะที่ตี้ชานหวนคืนสู่ร่างมนุษย์และคล้ายจะตกอยู่ในสถานะกล้ำกลืนนั้นเอง พลันมีเสียงหนึ่งแว่วดังมาตามสายลมยากระบุทิศทางปานเสียงกระซิบของภูตผี

 

“หืม?”

 

ได้ยินเสียงนี้ต้วนหรูเฟิงขมวดคิ้วทันที เพราะเสียงนี้นับว่าคุ้นหูนัก หากแต่ยังไม่อาจนึกออกได้ทันที

 

ตี้ชานที่ได้ยินเสียงนี้ไม่มีอาการตึงเครียดอะไร ยังอดไม่ได้ที่จะโล่งใจ คล้ายพบพานผู้ช่วยชีวิต…

 

หลังจากนั้นไม่นาน ก็ปรากฏร่างหนึ่งวูบมาฉับไว ในที่นี้ผู้ที่จับตามองความเคลื่อนไหวของมันได้ทันก็มีแต่ต้วนหรูเฟิงกับตี้ชานเท่านั้น มันเหินมาหยุดข้างตี้ชาน เผยตัวออกมาให้เห็นเด่นชัด

 

เป็นชายหนุ่มผู้หนึ่ง!

 

รูปร่างสูงโปร่ง คิ้วเข้มคมใบหน้าหล่อเหลาไม่เบา หากแต่ให้บรรยากาศน่ากลัวคล้ายชั่วร้ายอย่างไรพิกล หว่างคิ้วยังมีสัญลักษณ์ประหลาดคล้ายสัญลักษณ์ประจำเผ่าพื้นเมืองอันใดสักอย่าง

 

ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งดังกล่าว มาในชุดคลุมลมดำ หากแต่โม่งคลุมกับถูกเลิกออกไว้ด้านหลัง เผยให้เห็นผมสีแดงปานโลหิตทอดยาวปรกไหล่ รับกับใบหน้าหล่อเหลาของมันเป็นอย่างดี

 

ความประทับใจแรกยามเห็นร่างชายหนุ่มผู้นี้ก็คือ “หน้าสวย”

 

“ผู้นำถูกู่”

 

เมื่อพบกับชายหนุ่มหน้าสวยแต่ให้บรรยากาศชั่วร้ายน่ากลัวผู้นี้ ตี้ชานกลับเป็นฝ่ายเริ่มกล่าวทักทายออกมาก่อน

 

มันไม่คิดไม่ฝันเลยว่าคนผู้นี้จะย้อนกลับมา

 

ก่อนหน้านี้ที่มันปรากฏตัวออกมาช้า เป็นเพราะมันกำลังรับรองแขกหรือก็คือชายผู้นี้อยู่ ทำให้ออกมาจัดการเรื่องราวสายไปอยู่บ้าง

 

“ผู้นำถูกู่”

 

อาวุโสอย่างฉานเฉวี่ยมังกรโลหิต และอาวุโสคนอื่นๆก็กล่าวทักทายชายหนุ่มผู้นี้ทันที ไม่มีใครกล้าไม่สุภาพ

 

‘ผู้นำถูกู่? หรือจะเป็นผู้นำตลาดมืดหยินชาน?’

 

ตี้จิ่วที่ลุกขึ้นมายืนได้แล้วหน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย เมื่อแลเห็นชายหนุ่มหน้าสวยแต่แลดูชั่วร้ายในชุดคลุมลมดำ ใจมันบังเกิดความรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา ทั้งยังตกใจกับการปรากฏตัวของอีกฝ่ายไม่น้อย

 

“เจ้ามาที่นี่ทำอะไร?”

 

เห็นชายหนุ่มในชุดคลุมลมดำปรากฏตัวขึ้นมา สีหน้าต้วนหรูเฟิงเผยความจริงจังขึ้นมาทันที

 

ต้องทราบด้วยว่า แม้จะเผชิญหน้ากับร่างที่แท้จริงของตี้ชาน สีหน้าต้วนหรูเฟิงยังไม่แปรเปลี่ยน

 

อย่างไรก็ตามการปรากฏตัวของชายหนุ่มในชุดคลุมลมดำ ทำให้ต้วนหรูเฟิงเพิ่มความระแวดระวังขึ้นมา

 

“ท่านจ้าวตำหนักต้วน ท่านมาเยือนเผ่าพันธุ์มังกรได้ หรือข้าถูกู่จะมาบ้างไม่ได้ อันที่จริงข้ามาก่อนท่านเสียอีกและข้าก็พึ่งกลับไป…แต่บังเอิญข้าสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังจึงรู้ว่าท่านเองก็มา จึงอดไม่ได้ที่จะย้อนกลับทักทายท่านเสียหน่อย”

 

ชายหนุ่มในชุดคลุมลมดำมองกล่าวกับต้วนหรูเฟิงด้วยรอยยิ้ม

 

แน่นอนว่าเป็นยิ้มเสแสร้ง

 

ลึกลงไปในแววตาของมันยังเผยประกายวูบวาบเย็นเยียบไม่ขาด เห็นได้ชัดว่ามันไม่ถูกกันกับต้วนหรูเฟิง!

 

“โฮ่? เดี๋ยวนี้ตลาดมืดหยินชานเจ้ายื่นมือมาทำธุรกิจในเผ่าพันธุ์มังกรด้วย…ไม่คิดว่ากำลังทำเรื่องเกินกำลังอยู่รึไร?”

 

ต้วนหรูเฟิงกล่าวเย้ย

 

“เรื่องตลาดมืดเหยินชานไม่ลำบากให้ท่านจ้าวตำหนักต้วนออกความเห็น…ข้าเพียงอยากรู้นักว่าไฉนจ้าวตำหนักต้วนถึงมาเยือนเผ่าพันธุ์มังกรได้ อีกทั้งดูท่าจ้าวตำหนักต้วนยังอารมณ์เสียไม่น้อย?”

 

ชายหนุ่มในชุดคลุมลมดำมองถามต้วนหรุเฟิงด้วยความสนใจ

 

“เจ้าไม่ต้องสนใจเรื่องนี้หรอกถูกู่หลิง ตลาดมืดหยินชานเจ้าจะทำธุรกิจอุบาทว์อันใดกับเผ่ามังกรก็เรื่องของเจ้าไม่เกี่ยวอะไรกับข้า…แต่เป็นการดีเสียกว่าที่เจ้าจะไม่สะเออะสอดมือมายุ่งเรื่องระหว่างข้ากับเผ่ามังกร! หาไม่แล้วข้าจะพาเด็กๆไปเยือนรังตลาดมืดหยินชานของเจ้าสักครา!!”

 

ต้วนหรูเฟิงยังกล่าวค่อนแคะออกมา

 

เมื่อได้ยินวาจาที่คล้ายจะเป็นการข่มขู่อยู่รอมร่อของต้วนหรูเฟิง รอยยิ้มบนใบหน้าชายหนุ่มในชุดคลุมลมดำพลันหายไป “จ้าวตำหนักต้วน หรือตำหนักเมฆาครามท่านคิดจะเปิดศึกกับตลาดมืดหยินชานของข้าและเผ่าพันธุ์มังกรพร้อมกัน?”

 

“ผู้นำถูกู่เจ้าจะคิดอะไรก็เรื่องของเจ้า…ว่าแต่นี่เจ้าสำคัญตัวผิดไปหรือไม่? เจ้าไม่ลองถามผู้นำตี้ชานดูก่อนเล่า ว่าเต็มใจจะอยู่ข้างเดียวกับตลาดมืดหยินชานของพวกเจ้ารึเปล่า?”

 

มุมปากต้วนหรูเฟิงยกยิ้มแสยะ ไม่ได้กลัววาจาเชิงยกตนข่มท่านของชายหนุ่มในชุดคลุมลมดำแม้แต่น้อย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด