War sovereign Soaring The Heavens 1627

Now you are reading War sovereign Soaring The Heavens Chapter 1627 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1,627 : ประลองเป็นตาย!

 

เมืองหลวงของประเทศฝูเฟิงกลับกลายเป็นคึกคักขึ้นมาทันตาเห็น เมื่อคำแถลงของตระกูลซือถูถูกประกาศออกมา

 

หัวข้อสนทนาที่ทุกคนกล่าวถึงก็เหลือเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น

 

เรียกว่าทันทีที่การท้าประลองจะมีขึ้นอย่างแน่นอน ก็ทำให้ทุกผู้คนต่างสนใจในเรื่องนี้ทั้งสิ้น!

 

หลินตงแม้จะไม่ใช่คนของประเทศฝูเฟิง แต่ผู้คนในประเทศฝูเฟิงล้วนได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของมันมานานแล้ว

 

หลินตงผู้นี้ เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะสุดยอดฝีมืออันดับ 1 ในรายนามนภาของคฤหาสน์หลิ่งหนานหยวน!

 

นั่นหมายความว่าหลินตงยังมีเกียรติยศสูงสุดอีกประการหนึ่ง นั่นคือมันเป็นยอดฝีมือในขอบเขตพลังสู่เซียนที่ร้ายกาจที่สุดในเขตอิทธิพลของคฤหาสน์หลิ่งหนานหยวน!

 

ถึงแม้ว่าต้วนหลิงเทียนจะโด่งดังขึ้นมาในประเทศฝูเฟิงในเวลาไม่นาน และมีพลังฝีมือโดดเด่นไม่น้อย แต่นั่นก็แค่ในประเทศฝูเฟิงเท่านั้น..

 

เขาเป็นคนที่เอาชนะ แม่นางเฟิ่ง แห่งนิกายอัคคีล่องลอยได้!

 

ด้วยความที่ก่อนหน้านี้ แม่นางเฟิ่ง ได้รับการขนานนามว่าเป็นสุดยอดฝีมือขอบเขตสู่เซียนรวมถึงสุดยอดอัจฉริยะรุ่นเยาว์อันดับ 1 ในประเทศฝูเฟิง แถมตอนที่ยังไม่ได้แพ้พ่ายต่อต้วนหลิงเทียน ผู้คนยังคาดกันว่านางน่าจะมีพลังฝีมือสูงพอที่จะติด 10 อันดับแรกในรายนามนภาแล้วด้วยซ้ำ

 

ทว่าแม้นางจะร้ายกาจขนาดนั้นแต่ ต้วนหลิงเทียน ก็ยังสามารถมีชัยเหนือนางได้!

 

เช่นนั้นแล้วในสายตาของผู้คนทั้งประเทศฝูเฟิง การที่ต้วนหลิงเทียนจะติด 10 อันดับแรกในรายนามนภา ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นอะไร!

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งพอพวกมันได้รับทราบว่า หลินตง ผู้ที่มีอันดับสูงส่งในรายนามนภาถึงกับเดินทางมาท้าประลองต้วนหลิงเทียนที่มีอันดับในรายนามนภาแค่ 23 ถึงที่!

 

หลินตงคือผู้ใดน่ะหรือ?

 

นั่นคือ อันดับ 1 ในรายนามนภา!!

 

ต้วนหลิงเทียนนั้นรู้กันว่าแม้จะมีพลังฝีมือมากพอจะติด 10 อันดับแรกในรายนามนภาได้ แต่อย่างไรก็มิอาจปฏิเสTความจริงที่เขายังรั้งอยู่อันดับที่ 23 ได้เลย

 

ทว่าอันดับที่ 1 ในรายนามนภา กลับมาท้าอันดับที่ 23 ?!

 

เรื่องนี้นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของเขตอิทธิพลคฤหาสน์หลิ่งหนานหยวนจริงๆ!

 

“ข้าสงสัยนักว่าการต่อสู้ระหว่างปรมาจารย์ต้วนกับหลินตงยอดฝีมืออันดับ 1 ในรายนามนภาจักเป็นเช่นไร!?”

 

“ตอนนี้ข้าเพียงหวังให้ทั้งคู่เลือกที่จะประลองอย่างเปิดเผย พวกเราจะได้ชมดูด้วยได้!”

 

“ถูกแล้ว! หากทั้งคู่ไปประลองกันในเขตวังหลวง พวกเราคงอดชมดู!”

 

……

 

ไม่นานกระแสของบทสนทนาของผู้คนก็เริ่มทวีความมืดมนลง นั่นเพราะต่างเป็นกังวลว่าทั้งคู่จะไปประลองกันในวังหลวงหรือไม่ แน่นอนว่าทั้งหลายอยากให้ทั้งคู่ประลองกันในที่สาธารณะมากกว่า

 

ณ โถงหลักจวนอ๋องเฉียน

 

“คุณชายหลิน …ต้วนหลิงเทียนผู้นั้นนับว่าหยิ่งยะโสไม่น้อย! มันถึงกับบอกว่าท่านสะดวกวันใดก็นัดมาได้เลย…ว่าแต่ท่านคิดจะประลองกับมันวันใด รวมถึงท่านคิดประลองในที่สาธารณะหรือในวังหลวง? หากท่านเลือกประลองในวังจักมิมีผู้ชมมากวนใจ แต่ถ้าประลองด้านนอก น่ากลัวว่าจักมิใช่แค่คนในเมืองหลวง แต่ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศต้องแห่กันมาเป็นแน่!”

 

อ๋องเฉียนมองถามหลินตง ที่พึ่งมาถึง

 

“แน่นอนว่าต้องประลองกันด้านนอก”

 

หลินตงแสยะยิ้มเย้ย “ในเมื่อมันหาญกล้ารับคำท้าของข้า เช่นนั้นข้าก็จะทำให้มันขายขี้หน้าประชาชี!!”

 

“คุณชายหลิน ข้อตกลงของพวกเราคือท่านต้องฆ่ามัน…”

 

อ๋องเฉียนขมวดคิ้ว

 

“เรื่องนี้เจ้าวางใจได้ หลังจากที่ข้าทำให้มันอับอายขายหน้าผู้คนแล้ว ข้าจะฆ่ามันทันที และเอาแหวนพื้นที่มันมาให้เจ้า!”

 

หลินตงกล่าวออกเสียงเรียบ

 

ได้ยินวาจาประโยคนี้ของหลินตง อ๋องเฉียนค่อยวางใจ “คุณชายหลิน แล้วท่านคิดประลองวันใด?”

 

“พรุ่งนี้เลยแล้วกัน หลังจากจัดการเรื่องนี้เสร็จแล้วข้ายังต้องรีบกลับคฤหาสน์หลิ่งหนานหยวนอีก”

 

หลินตงกล่าว

 

“ดี!”

 

อ๋องเฉียนรับคำแข็งขัน ก่อนที่จะหันมองไปยังซือถูหมิง ที่นั่งอยู่บนโต๊ะด้านล่างทางขวา “รองผู้นำหมิง สำหรับสถานที่ประลองข้าจักมอบให้เจ้าเป็นคนจัดการ พอได้ที่แล้วมาแจ้งข้าด้วย เอาให้เสร็จก่อนบ่ายก็ดี”

 

“ผู้แซ่ซือถูน้อมรับคำสั่งอ๋องเฉียน!”

 

ซือถูหมิงเร่งตอบกลับเสียงดังฟังชัด หน้าตาหว่างคิ้วแผ่พุ่งไปด้วยความสุขความยินดี

 

ในตอนแรกที่มันออกจากตระกูลมาพึ่งใบบุญอ๋องเฉียน ทางด้านอ๋องเฉียนก็ไม่ได้ดูดีมันเท่าไหร่ นี่ทำให้มันกังวลใจไม่น้อยด้วยกลัวความสามารถของมันจะสูญเปล่า

 

อย่างไรก็ตามครั้งนี้ เพราะวิธีการจัดการเรื่องราวของมัน สามารถล่อต้วนหลิงเทียนให้ออกมารับคำท้าประลองได้สำเร็จ ย่อมนับเป็นความดีความชอบไม่น้อย ทำให้อ๋องเฉียนรู้สึกพึงพอใจ และเริ่มให้ความสำคัญถึงขั้นมอบหมายให้มันไปจัดการเรื่องราวสำคัญต่อทันที!

 

ส่วนอี้เฟิงที่นั่งอยู่อีกฝั่งยามนี้หน้ามันบูดดำราวก้นหม้อ!

 

อย่างไรก็ตามพอเห็นว่าอ๋องเฉียนหันมองมาที่มัน สีหน้าของมันก็กลับมาดูดีมีราศีอีกครั้ง

 

“อี้เฟิง เจ้าไปกระจายข่าวการประลองระหว่างปรมาจารย์ต้วนกับคุณชายหลินตงที่จะเกิดขึ้นพรุ่งนี้เสีย และทันทีที่เจ้าได้รับคำยืนยันเรื่องสถานที่จากรองผู้นำหมิง ก็ไปประกาศบอกสถานที่อีกรอบ! ให้ผู้คนล่วงรู้มากที่สุดว่าการประลองครั้งนี้จะจัดขึ้นนอกวังหลวง ผู้ใดอยากมาชมดูก็มาได้ตามอัธยาศัย!”

 

อ๋องเฉียนกล่าวสั่งอี้เฟิง

 

“รับด้วยเกล้า องค์ชาย 4!”

 

ถึงแม้ว่าอี้เฟิงจะขุ่นขึ้งใจเพราะงานง่ายๆแค่นี้เด็กน้อยที่ใดก็ทำได้แต่อ๋องเฉียนกลับเลือกให้มันทำ…

 

ส่วนเรื่องสำคัญๆ กลับให้ซือถูหมิงจัดการ!

 

อี้เฟิงย่อมตระหนักได้โดยพลัน ว่าตอนนี้ตำแหน่งในใจมันของอ๋องเฉียนนั้นมิอาจเทียบกับซือถูหมิงได้อีกแล้ว ‘ข้าปล่อยให้เป็นเช่นนี้อีกต่อไปไม่ได้…ข้าต้องหาวิธีเพิ่มตำแหน่งในใจของอ๋องเฉียนให้ได้! บัดซบเอ๊ย! หากไม่ใช่เพราะอ๋องเฉียนบังคับให้ข้ากล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าเรื่องตราผนึกมาร ตอนนี้ข้าคงไม่ต้องอดทนอยู่ที่นี่อย่างกล้ำกลืนเช่นนี้!!’

 

ตอนนี้อี้เฟิงเริ่มบังเกิดความรู้สึกเสียใจขึ้นมาแล้ว ที่เลือกแจ้งเรื่องตราผนึกมารให้อ๋องเฉียนรับทราบ

 

‘หากข้ารู้ว่าเรื่องราวมันจะกลับกลายเป็นเช่นนี้ มิสู้ข้าเอาเรื่องตราผนึกมารไปบอกคฤหาสน์หลิงหนานหยวนแต่แรก! ต้วนหลิงเทียนนั่นก็คงจะโดนจัดการได้งายดาย เรื่องราวก็คงมิบานปลายยืดเยื้ออะไร! อ๋องเฉียนสัญญาว่าจะให้ข้าฆ่าต้วนหลิงเทียนกับมือแท้ๆ แต่ตอนนี้เพราะเห็นแก่ตราผนึกมารถึงกับกลับคำ! กษัตริย์ตรัสแล้วไม่คืนคำบิดาของมัน ระยำเอ๊ย!’

 

เรื่องสุดท้ายที่คิด นับว่าเป็นอะไรที่ทำให้อี้เฟิงเจ็บใจที่สุด!

 

ต้วนหลิงเทียนสังหารผู้อาวุโสสูงสุดของมันด้วยตราผนึกมาร และบีบคั้นให้มันต้องหนีเยี่ยงสุนัขหางจุกตูด กระทั่งทำให้นิกายหยินหมิงที่มันลงแรงมาค่อนชีวิตเหลือแต่ชื่อ! นี่คือความอัปยศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของมัน!!

 

หากไม่ได้ฆ่าต้วนหลิงเทียนด้วยมือของตัวเอง ไฟแค้นในใจนี้ไหนเลยจะมีวันมอดดับลงได้!!!!

 

อนิจจายามนี้มันไม่มีสิทธิ์มีเสียงอะไรสืบไป ด้วยเหตุนี้มันจึงเสียใจนักที่บอกเรื่องตราผนึกมารกับอ๋องเฉียน!

 

อนิจจาในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นไปแล้ว และโลกหล้าก็โร้โอสถรักษาอาการเสียใจ อี้เฟิงก็จำต้องกล้ำกลืนฝืนทนยอมรับไปโดยสดุดี…

 

เมื่ออี้เฟิงออกไปกระจายข่าวเรื่องวันประลอง ผู้คนในเมืองหลวงของประเทศฝูเฟิงก็คึกคักขึ้นมาอีกครั้ง “การประลองจะมีขึ้นวันพรุ่งนี้ แถมจัดขึ้นนอกวังผู้ใดคิดมาชมดูก็ได้!?”

 

“ฮ่าๆๆๆ! ประเสริฐ! ประเสริฐยิ่ง!! ข้าคิดมากเกินไปแท้ๆ เรื่องใหญ่เช่นนี้มีหรือจะจัดในวังหลวง!”

 

“การประลองระหว่างปรมาจารย์ต้วนกับยอดฝีมืออันดับ 1 ในรายนามนภาต้องน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง! น่าเสียดายที่สถานที่ประลองจะประกาศให้ทราบกันบ่ายนี้ หาไม่แล้วข้าจะรีบไปจองที่เสียตั้งแต่ตอนนี้เลย!!”

 

……

 

ในขณะที่เมืองหลวงประเทศฝูเฟิงกำลังฮือฮากับนัดหมายประลองของต้วนหลิงเทียนกับหลินตงไม่หาย จวนอ๋องเฉียนยังประกาศข่าวอันน่าตื่นตระหนกออกมาอีกครั้ง!

 

“นอกจากนี้…การประลองระหว่างต้วนหลิงเทียนกับหลินตง จะเป็นการประลองเป็นตาย หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ตายตกไม่เลิกรา!!”

 

ทันทีที่ข่าวนี้ถูกประกาศออกมา เมืองหลวงประเทศฝูเฟิงก็ถึงกับต้องเงียบงันไปปานเมืองร้างไร้ผู้คนพักหนึ่ง

 

ประลองเป็นตาย?

 

ทุกผู้คนล้วนตะลึงงันกับคำ 3 คำนี้นัก!

 

พวกมันไม่เคยคิดเคยฝันเลยว่ายอดฝีมืออันดับ 1 ในรายนามนภาของคฤหาสน์หลิ่งหนานหยวน กลับต้องการประลองเป็นตายกับปรมาจารย์ต้วนของพวกมัน!!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด