War sovereign Soaring The Heavens 1887

Now you are reading War sovereign Soaring The Heavens Chapter 1887 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1,887 : คนงานในสวนสมุนไพร?

 

เมื่อถูกซัดจนร่วงตกฟ้าด้วยพลังอำนาจที่ไม่อาจต้านทานได้แบบนี้ ทั้งกู่ลี่กับจูลู่ฉีเองก็หน้าเปลี่ยนสีไปทันที!

 

เจ้าของเสียงแม้ไม่ปรากฏตัวก็แผ่พุ่งพลังสยบผ่านอากาศ กำราบพวกมันได้แล้ว?

 

การลงมือสยบพวกมันด้วยวิธีการเช่นนี้ เกรงว่ากระทั่งให้เป็นยอดฝีมือขอบเขตเซียนนภาขั้นสูงสุดก็ไม่น่าจะกระทำได้!

 

เช่นนั้นเก้าในสิบส่วน…ผู้ลงมือสมควรเป็นตัวตนขอบเขตเซียนสวรรค์!

 

พอตระหนักว่าพึ่งมาถึงภูมิภาคเบื้องบนได้ไม่ทันไร ก็กลายเป็นล่วงเกินยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ด้วยการล่วงล้ำดินแดนของผู้อื่นแบบนี้ ทั้งคู่ก็อดไม่ได้ที่จะหน้าซีดลงทันที…

 

“ผู้อาวุโส พวกเราไม่ได้มีเจตนาจะล่วงเกินท่าน…ทั้งยังไม่มีเจตนาจะบุกรุกเข้ามาในสวนสมุนไพรของท่านแบบนี้!”

 

สูดอากาศเข้าเฮือกใหญ่ ต้วนหลิงเทียนก็ระงับเลือดลมในกายที่ปั่นป่วนให้สงบลงได้ ก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงสุภาพ “พวกเราพึ่งขึ้นมาจากภูมิภาคเบื้องล่าง…พอออกมาจากข่ายอาคมเคลื่อนย้ายข้ามภูมิภาคพวกเราก็มาโผล่ที่นี่แล้ว…และข้ายังสามารถรับประกันต่อท่านได้เลย ว่าตั้งแต่มาถึงที่นี่พวกเรายังไม่ได้แตะต้องแม้แต่หญ้าสักต้นของท่าน!”

 

ได้ยินคำกล่าวของต้วนหลิงเทียน กู่ลี่พลันเร่งกล่าวเสริมออกมา “ถูกแล้วท่านผู้อาวุโส หลังจากพวกเราพบว่าสถานที่แห่งนี้สมควรเป็นสวนสมุนไพรที่มีเจ้าของ พวกเราก็คิดจากไปทันที เพราะพวกเราไม่คิดสร้างปัญหาอันใดให้ท่าน เช่นนั้นหวังว่าท่านผู้อาวุโสจักเข้าใจว่าพวกเรามิได้เจตนาบุกรุก โปรดเมตตาปล่อยพวกเราจากไปสักครั้งเถอะ”

 

ถึงแม้จูลู่ฉีจะไม่ได้กล่าวคำใด แต่ในใจก็กระตือรือร้นรอฟังคำตอบไม่น้อย

 

ไม่ใช่ว่ามันไม่อยากพูด แต่สิ่งที่มันจะพูดต้วนหลิงเทียนกับกู่ลี่พูดออกไปหมดแล้ว

 

อย่างไรก็ตาม ผ่านไปพักหนึ่งกลับไร้เสียงตอบกลับอะไร…

 

จังหวะนี้ต้วนหลิงเทียนกับกู่ลี่และจูลู่ฉีได้แต่หันมองหน้าสบตากัน ยังเห็นแววตาขื่นขมจนปัญญาของอีกฝ่ายชัดเจน

 

ยอดฝีมือผู้นี้แม้จะยังไม่ทันปรากฏตัวออกมา ก็สามารถทำให้ทุกคนตกอยู่ในสภาพอนาถแบบนี้ได้แล้ว มากพอจะบอกให้รู้ว่านี่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่จะเอาชนะได้ง่ายๆ

 

‘ยอดฝีมือระดับนี้ เกรงว่าต่อให้ข้าใช้กระบี่นิลสวรรค์ด้วยพลังทั้งหมด ก็ไม่น่าจะทำอะไรมันได้…’

 

ต้วนหลิงเทียนลอบกล่าวในใจ

 

“ที่แท้พวกเจ้ามาจากภูมิภาคเบื้องล่างเช่นนั้นรึ?”

 

เสียงชราดังขึ้นอีกครั้ง เป็นเชิงถามไถ่

 

“ถูกแล้วท่านผู้อาวุโส! พวกเรามาจากภูมิภาคเบื้องล่างจริงๆ ข่ายอาคมเคลื่อนย้ายข้ามภูมิภาคสุ่มส่งพวกเราให้ปรากฏตัวที่นี่…พวกเราถึงได้มาปรากฏตัวในสวนสมุนไพรของท่านได้อย่างไรเล่า! หาไม่แล้วด้วยพลังฝีมือเลิศล้ำของท่าน ไหนเลยจะไม่รู้ว่าพวกเราบุกรุกเข้ามา?”

 

กู่ลี่กล่าวตอบออกไปทันที ในวาจายังแฝงความยกยอไว้หลายส่วน

 

“เอาล่ะ ในเมื่อพวกเจ้าไม่ตั้งใจจะบุกรุกสวนสมุนไพรของข้า เช่นนั้นข้าก็จะเมตตาไว้ชีวิตพวกเจ้าสักครั้ง”

 

เสียงชราดังขึ้นอีกครั้ง และรอบนี้ก็ทำให้ต้วนหลิงเทียนกับอีก 2 คนลอบระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอกในใจทันที

 

เพราะด้วยพลังฝีมือของอีกฝ่าย เกรงว่าหากต้องการคงฆ่าพวกเขาได้ง่ายดายเหมือนตัดหญ้าฆ่าไก่!

 

“เช่นนั้น…ท่านผู้อาวุโสพวกเราขอตัวลา”

 

ต้วนหลิงเทียนและอีก 2 คนเหินร่างขึ้นฟ้าอีกครั้ง กู่ลี่ยังประสานมือไว้ที่อกเพื่อคารวะ และไม่รอให้ยอดฝีมือตอบคำอะไรกู่ลี่ก็เหินร่างจากไปก่อนใครทันที

 

ปงงง!!

 

อย่างไรก็ตามเมื่อกู่ลี่พุ่งออกไปได้ไม่ทันไรมันก็ถูกพลังมหาศาลที่ไม่ทราบผุดโผล่มาจากที่ใดซัดจนร่วงตกฟ้าอีกครั้ง ทำให้มันรู้สึกมีโมโหขึ้นมาไม่น้อย “ท่านผู้อาวุโส! มิใช่ท่านกล่าวแล้วหรือว่าท่านเมตตาไว้ชีวิตพวกเรา…ด้วยพลังฝีมือสูงส่งของท่าน คงไม่คิดล้อพวกเราเล่นหรอกนะ?”

 

วาจาท้ายประโยคของกู่ลี่เผยน้ำเสียงไม่ยินยอมพร้อมใจเล็กน้อย

 

ต้วนหลิงเทียนกับจูลู่ฉีเองก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว การลงมือครั้งนี้ของยอดฝีมือที่ยังไม่เผยตัวออกมาทำให้พวกเขาเป็นกังวลแล้วจริงๆ…

 

และหากอีกฝ่ายกลับคำจริง เช่นนั้นพวกเขาก็ไร้หนทางรอดแล้ว!

 

เพราะสุดท้ายต่อให้พวกเขาทั้ง 3 ผนึกกำลังกัน ก็ไม่พอเติมเต็มซอกฟันอีกฝ่ายด้วยซ้ำ…

 

“ข้ากล่าวไปแล้วว่าไม่คิดเอาชีวิตพวกเจ้า แน่นอนว่าข้าก็ไม่คิดเอาชีวิตของพวกเจ้า…อย่างไรก็ตามในเมื่อพวกเจ้าถูกสุ่มส่งมาที่นี่ด้วยข่ายอาคมเคลื่อนย้ายข้ามภูมิภาค เช่นนั้นก็มากพอจะเผยให้เห็นว่าพวกเจ้ามีวาสนาต้องกันกับข้า! พอดีคนงานของข้าก็ดันมาตกตายหมดสิ้นไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เช่นนั้นพวกเจ้าก็อยู่ช่วยข้าดูแลสวนสมุนไพรสักพักค่อยจากไปเถอะ…”

 

เสียงชราดังขึ้นอีกครั้ง และเสียงกล่าวรอบนี้ยังทำให้สีหน้าทุกคนเหยเกไปทันที

 

เพราะฟังจากวาจาของอีกฝ่าย ใช่พวกเขาต้องกลายเป็นคนงานที่ส่วนสมุนไพรแห่งนี้ใช่หรือไม่?

 

นอกจากนั้นคนงานเก่าก็พึงตกตายไปไม่กี่วัน? ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาต้องกลายเป็นคนสวนเฉพาะกิจหรือไร? ให้ทำอะไรเล่า…รดน้ำต้นไม้กับถอนวัชพืชหรือ?

 

“อันใด ไม่เต็มใจทำงานให้ข้ารึ? เช่นนั้นข้าจะส่งพวกเจ้าไปตามทาง!!”

 

เสียงชราก่อนหน้าดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้น้ำเสียงยังเยียบเย็นนัก

 

“พวกเจ้านับว่าโง่งมมิรู้ว่าอะไรดีต่อตัวแล้วจริงๆ! พวกเจ้าพึ่งมาภูมิภาคเบื้องบนครั้งแรก…หากออกไปเดินเพ่นพ่านโดยไม่รู้ประสา สักวันก็มิพ้นถูกผู้อื่นฆ่าตาย…อยู่ทำงานในสวนสมุนไพรของข้าไม่เพียงแต่พวกเจ้าจักปลอดภัย กระทั่งสภาพแวดล้อมในการบ่มเพาะยังเลิศล้ำกว่าที่อื่นเป็นไหนๆ! มีผู้คนปรารถนาเข้ามาฝึกฝนบ่มเพาะในที่แห่งนี้ไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ ข้าล้วนปฏิเสธไปทั้งสิ้น!”

 

ทันใดนั้นเสียงชราพลันดังขึ้นอีกครั้ง หากแต่น้ำเสียงกลับเปลี่ยนไปเล็กน้อย

 

ไม่มีอะไรมากไปกว่าคิดตบหัวแล้วลูบหลัง!

 

ได้ฟังประโยคก่อนหน้า ต้วนหลิงเทียนและคนอื่นชักสีหน้าบิดเบี้ยวเหยเกเพราะต้องถูกใช้ให้มาเป็นคนสวน ไร้อิสระภาพ…

 

แต่พอได้ยินวาจาประโยคนี้ ทุกคนจึงค่อยสัมผัสพลังวิญญาณฟ้าดินโดยรอบให้ละเอียด ยังแผ่สำนึกเทวะออกไปนอกสวนสมุนไพร

 

ครู่ต่อมาทุกคนจึงตระหนักได้ว่า พลังวิญญาณฟ้าดินในสวนสมุนไพรแห่งนี้นับว่าหนาแน่นบริบูรณ์มากกว่าที่อื่นมากมายหลายเท่านัก!

 

ทั้งหมดเป็นเพราะทุกคนยังไม่เคยไปที่ไหนในภูมิภาคเบื้องบนนอกจากสวนสมุนไพรแห่งนี้ จึงพาลคิดว่าภูมิภาคเบื้องบนล้วนมีพลังวิญญาณฟ้าดินหนาแน่นขนาดนี้ทุกที่!

 

‘หืม?’

 

ต้วนหลิงเทียนที่ลองสัมผัสถึงพลังวิญญาณฟ้าดินโดยรอบยังค้นพบได้ในเวลาอันสั้นเช่นกัน ว่าไม่เพียงในสวนสมุนไพรแห่งนี้จะมีพลังวิญญาณฟ้าดินหนาแน่นกว่าที่อื่น แต่ยังมีสิ่งที่พิเศษกว่านั้น…

 

นั่นคือสมุนไพรวิญญาณล้ำค่าทั้งหลายในสวน ยังแผ่พลังวิญญาณส่วนเกินออกมาไม่หยุด และพลังวิญญาณส่วนเกินดังกล่าวก็รวมผสานกลมกลืนไปกับพลังวิญญาณฟ้าดิน! ทำให้คุณภาพและปริมาณของพลังวิญญาณฟ้าดินบริบูรณ์พร้อมพรั่งมากยิ่งขึ้น แถมยังมีคุณสมบัติหนุนเสริมร่างกายอีกเล็กน้อย!!

 

‘ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้โกหกพวกเรา…สถานที่แห่งนี้เป็นดั่งสวรรค์ของผู้บ่มเพาะจริงๆ’

 

ต้วนหลิงเทียนลอบกล่าวในใจ

 

แต่ถึงแม้จะรู้แบบนี้ ต้วนหลิงเทียนก็ไม่คิดจะรั้งอยู่เป็นคนสวนที่นี่อยู่ดี เพราะเขาไม่มีเวลาให้มาเสียกับเรื่องราวไม่เป็นเรื่องแบบนี้!

 

เหตุผลที่เขาออกจากภูมิภาคเบื้องล่างมายังภูมิภาคเบื้องบน ทั้งหมดเพราะเค่อเอ๋อกับลูกถูกจับไปยังลัทธิบูชาไฟ!

 

สิ่งที่เขาต้องการทำก็คือการไปช่วยเค่อเอ๋อกับลูกสาวที่ลัทธิบูชาไฟ!

 

เขารู้ดีว่าด้วยพลังฝีมือของเขาตอนนี้ คงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะบุกไปช่วยเค่อเอ๋อแม่ลูกที่ลัทธิบูชาไฟด้วยกำลัง แต่เขาก็คิดไว้แล้วว่าจะแทรกซึมเข้าไปในลัทธิบูชาไฟและเก็บรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นก่อน แล้วค่อยพิจารณาหาทางทีหลัง

 

อย่างไรก็ตามหากเขาต้องมาถูกกักบริเวณให้อยู่แต่ในสวนสมุนไพรแห่งนี้ หมายความว่าเขาคงไม่อาจไปยังลัทธิบูชาไฟได้เร็วๆนี้ กระทั่งไม่แน่ว่าอาจจะไม่ได้ไปยังลัทธิบูชาไฟตลอดกาล…

 

เพราะสุดท้ายแล้วยอดฝีมือชราก็กล่าวบอกว่า คนสวนของมันพึ่งตายหมดสิ้น…

 

คนสวนหนึ่งคนตกตายนั้นอาจเป็นเพราะปัญหาส่วนตัวหรืออะไรได้

 

แต่การที่กล่าวว่าคนสวนของมันตกตายกันหมดสิ้นแบบนั้น! เห็นชัดว่าสถานที่แห่งนี้ต้องมีปัญหา หรือตัวยอดฝีมือชรานั่นล่ะที่เป็นปัญหาเสียเอง!!

 

“ผู้อาวุโส!” สูดอากาศเข้าปอดคำใหญ่คำหนึ่ง ต้วนหลิงเทียนพลันกล่าวกับความว่างเปล่า “ข้าน้อยมายังภูมิภาคเบื้องบนเพราะมีธุระสำคัญต้องไปกระทำ…หากผู้อาวุโสยินดีให้พวกเราออกจากที่นี่ ข้าน้อยต้วนหลิงเทียนจะจดจำความเมตตาครั้งนี้ของอาวุโสไว้ไม่มีวันลืม สักวันจักตอบแทนท่านอย่างเหมาะสม!”

 

“ข้าน้อยเองก็จะตอบแทนบุญคุณครั้งนี้ของอาวุโสเช่นกัน”

 

กู่ลี่กับจูลู่ฉีเองก็กล่าวออกมาด้วย ถึงแม้พวกมันจะไม่มีธุระด่วนอันใดในภูมิภาคเบื้องบน แต่พวกมันก็ตระหนักได้ว่าทำงานที่นี่ก็น่าจะไม่ใช่เรื่องดีอันใด…!

 

หากเป็นไปได้พวกมันก็คิดจะจากไปให้เร็วที่สุด!!

 

ไม่ทราบว่าเพราะเหตุผลกลใด แต่ทุกคนรู้สึกว่าสวนสมุนไพรแห่งนี้สมควรมีปัญหา! และเจ้าของสวนเองก็น่าจะมีปัญหาเช่นกัน!!

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่เจ้าของสวนสมุนไพรกล่าวบอกว่าคนสวนพึ่งตกตายหมดสิ้นไปไม่กี่วันก่อน ทำให้ทุกคนอดไม่ได้ที่จะหวั่นหวาด ด้วยกลัวว่าจะประสบชะตากรรมตายตกเช่นกัน…

 

“ข้ารู้ว่าพวกเจ้ากำลังคิดอันใดอยู่…แต่คนสวนของข้าก่อนหน้านั้น ทุกคนไม่แม้แต่จะบรรลุถึงขอบเขตอริยะเซียน! เช่นนั้นหลังพวกมันทำงานที่สวนไปได้พักหนึ่ง จึงไม่อาจทานรับพลังวิญญาณฟ้าดินที่หนาแน่นและมหาศาลได้ไหวอีกต่อไป สุดท้ายร่างกายจึงไม่อาจทานทนจำต้องระเบิดออก…อย่างไรก็ตามพวกมันก็ทำงานได้ 10 กว่าปีก่อนที่จะตายตก!”

 

เจ้าของสวนสมุนไพรยังไม่ปรากฏตัว แต่เสียงของมันก็ดังเข้าหูต้วนหลิงเทียนและทุกคนชัดเจนดี “แต่สำหรับพวกเจ้าที่พลังฝึกปรือสูงกว่าพวกมัน สถานที่แห่งนี้ย่อมดีมากกว่าร้าย…เช่นนั้นพวกเจ้าก็อยู่ทำงานและบ่มเพาะพลังที่นี่สัก 10 ปีเถอะ! ข้าเชื่อว่าพวกเจ้าสมควรไม่มีปัญหาอันใด…หลังผ่านไป 10 ปีแล้วข้าค่อยปล่อยให้พวกเจ้าจากไป!”

 

“เอาล่ะ พวกเจ้าตัดสินใจเองเถอะ! แต่ข้าขอบอกไว้ก่อน หากพวกเจ้ากล้าก้าวเท้าออกไปจากสวนสมุนไพรนี่ก่อนครบกำหนด 10 ปี…ก็อย่าได้โทษข้าว่าไร้เมตตา!!”

 

เสียงชราดังขึ้นอีกครั้งก่อนที่จะเงียบไป

 

และไม่ว่ากู่ลี่จะตะโกนเรียกหาเท่าไหร่อีกฝ่ายก็ไม่ตอบอะไรกลับมา ราวกับจากไปแล้ว…

 

“น้องหลิงเทียน คราวนี้พวกเราจะทำอย่างไรกันต่อดี?”

 

สุดท้ายกู่ลี่ก็ได้แต่มองถามต้วนหลิงเทียนอย่างอับจน

 

“จะทำอะไรได้อีกเล่า…ในเมื่ออีกฝ่ายพูดมาถึงขนาดนี้แล้ว พวกเราก็จำต้องเชื่อฟังแล้วอยู่ที่นี่กันไปก่อน…”

 

ต้วนหลิงเทียนได้แต่เผยยิ้มออกมาอย่างขื่นขม

 

ในบรรดา 3 คนที่อยู่ตรงนี้ เขาเป็นคนที่ร้อนใจจะออกจากที่แห่งนี้มากที่สุด เพราะเขาร้อนใจอยากรุดไปช่วยเค่อเอ๋อแม่ลูกจากเงื้อมมือลัทธิบูชาไฟให้ได้โดยเร็ว!

 

ใครจะไปรู้ว่าอีกนานเท่าไหร่ จ้าวลัทธิบูชาไฟจะออกจากการกักตัวฝึกตน?

 

เมื่อถึงเวลาที่จ้าวลัทธิบูชาไฟออกจากการปิดด่าน นั่นหมายความว่าถึงเวลาตัดสินชะตาของเค่อเอ๋อแม่ลูก…

 

พอคิดถึงเรื่องนี้ ต้วนหลิงเทียนก็เป็นกังวลนัก

 

อย่างไรก็ตามด้วยสถานการณ์ตอนนี้ ต่อให้เขาเป็นกังวลร้อนรนไปแล้วมันจะเกิดประโยชน์อันใด?

 

พลังฝีมือของเจ้าของสวนสมุนไพรไม่ใช่อะไรที่เขาจะต่อกรด้วยได้!

 

ต่อหน้าตัวตนระดับนี้ ไม่มีทางที่เขาจะหลบหนีด้วยการใช้กำลังบุกฝ่าได้เลย…

 

เช่นนั้นทำได้แค่ตามน้ำไปก่อน แล้วค่อยมองหาโอกาสหลบหนี…

 

“เช่นนั้นพวกเราก็อยู่ที่นี่ไปก่อนเถอะ ผู้ใดจะไปรู้บางทีพวกเราอาจพบวิธีหลบหนีหลังอยู่ไปสักวันสองวันก็เป็นได้”

 

เสียงจูลู่ฉีพลันดังขึ้นให้ต้วนหลิงเทียนกับกู่ลี่ได้ยินพอดี ทั้งคู่จึงพยักหน้าเห็นด้วย

 

ตอนนี้เห็นที่แต่จะทำได้แค่นี้ เพราะไม่มีทางเลือกอื่นใดอีกแล้ว

 

ด้วยเหตุนี้ต้วนหลิงเทียนและอีกสองคนจึงต้องพักอาศัยกันในสวนสมุนไพรวิญญาณแห่งนี้อย่างช่วยไม่ได้

 

ตอนแรกทุกคนยังไม่ทราบว่าสมุนไพรวิญญาณในสวนสุมนไพรแห่งนี้ที่แท้เลิศล้ำถึงขั้นไหนกันแน่ แต่พอผ่านไปสักพักหนึ่งทั้งหมดจึงตระหนักได้ว่า สมุนไพรวิญญาณในสวนนี้ไม่เพียงแต่จะล้ำค่า กระทั่งยังล้ำค่าถึงที่สุด!

 

กระทั่งผู้เฒ่าหั่วยังกล่าวออกมาด้วยตัวเอง ว่าหากเขาใช้สมุนไพรวิญญาณทั้งหมดในสวนสมุนไพรแห่งนี้ซ่อมแซมชั้น 4 ของเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติล่ะก็…จะสามารถซ่อมแซมมันให้ฟื้นฟูได้อย่างสมบูรณ์!

 

ต้องทราบด้วยว่าก่อนหน้านี้ขนาดมีตำหนักเมฆาครามสนับสนุน เขายังรวบรวมวัตถุดิบซ่อมแซมชั้น 4 ของเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติไปได้ไม่เท่าไหร่!

 

“ผู้เฒ่าหั่ว ท่านไม่ได้กล่าวผิดไปใช่หรือไม่…สมุนไพรวิญญาณเหล่านี้มันไม่ได้อยู่ในรายการวัตถุดิบที่ท่านให้ข้ามาก่อนหน้านี้เลยนี่นา แล้วพวกมันจะใช้ได้หรือ?”

 

ต้วนหลิงเทียนกล่าวถามผู้เฒ่าหั่วด้วยความสงสัย

 

เพราะเขารู้สึกว่าคล้ายที่ผู้เฒ่าหั่วกล่าวแบบนี้ เสมือนมีเจตนาให้เขาขโมยสมุนไพรหมดสวนอย่างไรอย่างนั้น…

 

“พลังของข้าได้ฟื้นฟูกลับมาอีกเล็กน้อย เช่นนั้นหากข้าใช้เพลิงสุริยันของข้าขัดเกลาพวกมัน ย่อมหลอมพวกมันให้กลายเป็นพลังงานบริสุทธิ์ได้ไม่ยาก และข้าสามารถใช้พลังนั่นซ่อมแซมชั้น 4 ของเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติได้…”

 

ผู้เฒ่าหั่วกล่าวตอบ

 

ต้วนหลิงเทียนได้แต่เผยยิ้มออกมาอย่างขื่นขมเมื่อได้ยินคำของผู้เฒ่าหั่ว “ผู้เฒ่าหั่วถึงท่านจะทำได้จริง แต่ข้าก็ไม่มีปัญญาเอาสมุนไพรให้ท่านหรอก อย่าว่าแต่ทั้งสวนเลย…กระทั่งต้นเดียวหากข้าขุดขึ้นมาซี้ซั้ว ข้าได้ตายแน่! แถมยังจะทำให้พี่กู่กับจูลู่ฉีพลอยประสบเคราะห์ไปกับข้าด้วย…”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด