War sovereign Soaring The Heavens 1896

Now you are reading War sovereign Soaring The Heavens Chapter 1896 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1,896 : โต้กลับ!

 

“ไอ้ขยะ! หากชาติหน้ามีจริงก็จดจำใส่กะโหลกเอาไว้ให้ดีๆเล่า! ว่าหากพบเจอคนอย่างข้านายน้อยอีกครั้งให้รีบไสหัวหนีไปเสีย…หาไม่แล้วไม่ว่าเจ้าจะเกิดใหม่อีกกี่รอบเจ้าก็ต้องตาย!!”

 

หยางหวู่ที่โจนทะยานมาปานสายลม พริบตาก็บรรลุถึงเบื้องหน้าต้วนหลิงเทียน

 

ขณะที่มันกล่าวคำดูแคลนเสียงเย็น ในมือก็ปรากฏกระบี่สีเขียวยาว 3 ฉื่อเล่มหนึ่ง

 

ฟั่บ!

 

กระบี่สีเขียวยาว 3 ฉื่อ ฟันแหวกฟ้าออกไปแนวขวางอย่างอำมหิต! ยังก่อเกิดรังสีพลังร้ายกาจขุมหนึ่งฉาบคลุมจนแลคล้ายกระบี่จะยืดยาวเป็น 7 ฉื่อ! กลิ่นอายจากรังสีพลังยังคมกล้าดุร้ายคล้ายจะทำลายสะบั้นได้ทุกสิ่งที่ขวางทาง!!

 

“กระบี่ร้อยอาคมเซียน!!”

 

สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังที่แผ่ออกจากกระบี่สีเขียว 3 ฉื่อของหยางหวู่ กอปรทั้งมวลพลังที่ตัวกระบี่ปลดปล่อยออกมา ผู้คนย่อมตระหนักได้ทันทีว่ากระบี่สีเขียวในมือของหยางหวู่ เป็นกระบี่ที่จารึกอาคมเซียนเอาไว้ถึง 100 อาคม!!

 

หากไม่ใช่ศาสตรา 100 อาคมเซียน คงไม่ทรงพลังอำนาจเท่านี้!

 

ครืนนน!!

 

ในขณะเดียวกันนั้นเอง อาณาบริเวณกินรัศมีร้อยหมี่โดยมีหยางหวู่เป็นจุดศูนย์กลาง ก็อุบัติมวลพลังขุมหนึ่งขึ้นในความว่าง เริ่มควบแน่นก่อเกิดสนามพลัง!

 

ภายในสนามพลังนี้ ต้วนหลิงเทียนสัมผัสได้ว่าแรงโน้มถ่วงที่ฉุดดึงร่างเขาคล้ายจะเพิ่มพูนขึ้นอย่างมหาศาล ทำให้ร่างที่บาดเจ็บเจียนล้มยิ่งรู้สึกปวดแปลบไปทั่วกาย สีหน้ายังซีดเขียวลงทันใด!

 

เห็นได้ชัดว่าสนามพลังที่หยางหวู่เปิดใช้ ก็คือเขตแดนแรงโน้มถ่วง!

 

“น้องหลิงเทียน!”

 

เมื่อเห็นว่าต้วนหลิงเทียนยังไม่ทันได้ลงมือลงไม้อะไร โลหิตก็กระอักออกปากอีกครั้ง แถมหน้ายังซีดลงราวกับจะสิ้นลมได้ทุกเมื่อ หน้ากู่ลี่ก็เปลี่ยนสีไปอย่างใหญ่หลวง ลูกตาแลดูล็อกแล่ก ขบฟันดังกรอดๆ

 

สีหน้าจูลู่ฉีก็มืดลงเช่นกัน เผยให้เห็นชัดถึงความกังวล

 

“สวะเจ้า! ตายไปเสีย!!”

 

หยางหวู่คำรามด้วยอำมหิต มันที่อยู่ในสนามพลังโน้มถ่วงเช่นกันยังคงทะยานรี่เข้ามาด้วยความเร็วเท่าเดิม คล้ายไม่ได้รับผลกระทบอะไร

 

นี่คือเขตแดนของมัน ก็เป็นธรรมดาที่มันจะไม่ได้รับผลกระทบ!

 

ภายใต้สายตาที่จับจ้องมองมาอย่างลุ้นระทึกของทุกคน ตอนนี้สภาวะท่วงท่าของหยางหวู่กระหนึ่งเทพกระบี่ที่จู่โจมลงมือฆ่าฟันออกไปอย่างเกรี้ยวกราด ปานจะสร้างเส้นทางโลหิตให้ทอดยาวไปสักพันลี้ หมายฆ่าต้วนหลิงเทียนบั่นคอให้ตายในกระบี่เดียว!!

 

“เจ้าต้วนหลิงเทียนนั่น กำลังจะจบสิ้นแล้ว!”

 

“เฮ่อ…ช่องว่างมันห่างเกินไป”

 

“มารดาของมัน…พลังฝึกปรือต่างกันเป็นขอบเขต!”

 

……

 

เห็นฉากนี้หลายคนก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าไปมาพร้อมถอนหายใจ ราวกับพวกมันเห็นฉากที่ต้วนหลิงเทียนถูกฆ่าตายไปแล้ว

 

‘แค่เศษสวะตัวกระจ้อยกลับกล้าสามหาวว่าข้า! ครั้งนี้นับว่าเจ้าโชคดีไป หากข้าลงมือเองข้าจะให้เจ้าตายไร้ที่ฝัง!!’

 

หลี่อันมองร่างต้วนหลิงเทียนที่กำลังจะตายภายใต้กระบี่ของหยางหวู่ด้วยสองตาทอประกายอำมหิต

 

ตอนที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวเสียดสีมันเป็น ‘สุนัขเฒ่า’ นับว่าทำให้มันโมโหจนหัวขึ้นควัน!

 

หากต้วนหลิงเทียนไม่เลือกที่จะด่ามันลอยๆด้วยการเสียดสี แต่ด่ามันตรงๆล่ะก็ มันจะลงมือดั่งฟ้าผ่าฆ่าต้วนหลิงเทียนให้ตายทันที!

 

อย่างไรก็ตามแม้ต้วนหลิงเทียนจะด่าว่ามัน พอมาตอนนี้มันก็ไม่มีโมโหอะไรอีกแล้ว

 

เพราะตอนนี้ต้วนหลิงเทียนกำลังจะตายภายใต้เงื้อมมือหยางหวู่ ก็ย่อมทำให้มันรู้สึกสาสมใจเรียบร้อย

 

“เฮ่อ…”

 

เถิงชานระบายลมหายใจออกมาอย่างทอดถอน ภาพเบื้องหน้าทำให้มันรู้สึกยากจะทนดูได้จริงๆ

 

มันไม่คิดว่าต้วนหลิงเทียนจะมีปัญญาต้านรับหยางหวู่ได้ จึงเตรียมจะหันหน้าไปอีกทาง ด้วยไม่อยากเห็นฉากเลือดสาดของต้วนหลิงเทียน

 

อย่างไรก็ตามในขณะที่มันกำลังจะเบือนหน้าหนีไป สถานการณ์กลับเปลี่ยนไปครั้งใหญ่!

 

“นิ…นี่มันจักเป็นไปได้อย่างไร?!”

 

ลูกตาเถิงชานถึงกับหดหยีลงโดยพลัน มันมองจ้องไปยังภาพต้วนหลิงเทียนที่ปะทะกับหยางหวู่ด้วยแววตาสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ

 

“เป็นไปไม่ได้!”

 

แทบจะพร้อมกันกับที่ลูกตาเถิงชานหดเล็ก สีหน้าหลี่อันก็เปลี่ยนไปอย่างมหันต์ ในแววตายังฉายชัดถึงความเหลือเชื่อ ยากยอมรับว่าเรื่องราวเบื้องหน้าเป็นจริง

 

เพราะในสายตาของหลี่อันกับเถิงชานตอนนี้นั้น อยู่ดีๆก็ปรากฏวังวนหนึ่งขึ้นมาในฉับพลัน และร่างต้วนหลิงเทียนก็อยู่ใจกลางวังวนดังกล่าว!

 

และวังวนนั่นก็คือมวลพลังมหาศาลที่กำลังม้วนวนเข้าร่างต้วนหลิงเทียนปานถูกสูบกลืน!

 

ในขณะที่กระบวนการดูดกลืนดังกล่าวอุบัติขึ้น สนามพลังของหยางหวู่ก็พังทลายลงทันที!!

 

ฟั่บบ!!

 

อย่างไรก็ตาม การล่มสลายของเขตแดน ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรต่อกระบี่ในมือหยางหวู่!

 

แม้ฉากประหลาดที่อุบัติขึ้นเบื้องหน้าจะทำให้หยางหวู่กลัว แต่มันก็ยังคงเร่งเร้าพลังลงมือเข่นฆ่าเข้ามาสุดตัวราวกับเทพสังหารไม่แปรเปลี่ยน กระบี่ร้อยอาคมเซียนก็ยังคงส่งเสียงกู่ร้อง ปานรีบร้อนจะสะบั้นหัวต้วนหลิงเทียนให้ได้เร็วๆ!

 

วูบ!

 

ทว่าในชั่วพริบตานั้นเอง หยางหวู่รู้สึกเสมือนมีประกายแสงแล่นวาบผ่านหน้ามันไป ยังมีเสียงหวีดหวิวที่อยู่ๆก็ปะทุระเบิดขึ้นในอากาศ พาลให้แก้วหูมันสะเทือนสะท้านไม่น้อย!

 

เคร๊งงงง!!

 

และพริบตาต่อมา ก็บังเกิดเสียงคล้ายโลหะกระทบกันดังสนั่นลั่นขึ้นตามติด! และคราวนี้ทำให้แก้วหูของหยางหวู่ถึงกับแตกแล้วจริงๆ โลหิตถึงกับไหลจ๊อกออกมาทันที!!

 

อย่างไรก็ตามหยางหวู่ไม่มีเวลามาสนใจหูที่หลั่งโลหิต มันกำลังตื่นตระหนกกับพลังสะท้อนอันรุนแรงที่แล่นวาบมาจากกระบี่ร้อยอาคม! เสมือนกับมันฟันกระบี่ลงเหล็กกล้าที่ไม่อาจทำลายได้ก็ไม่ปาน!!

 

พลังสะท้อนดังกล่าวไม่เพียงแต่จะทำให้ง่ามมือของหยางหวู่ฉีกขาดเลือดออก! แต่ยังแล่นวาบเข้าร่างของมันอย่างไว  สะท้านสะเทือนทำร้ายอวัยวะภายในของมันจนปั่นป่วนครั้งใหญ่!!

 

“อั๊คค!!”

 

ร่างหยางหวู่ที่สะท้านสะเทือนพลันกระอักโลหิตออกคำโต ตอนนี้สมองของมันยังรู้สึกอื้ออึงไม่เข้าใจ สองตาหันไปมองยังจุดที่กระบี่ร้อยอาคมเซียนฟันลงไปทันทีตามสัญชาตญาณ

 

ปรากฏว่ามีกรงเล็บหนึ่งอยู่ตรงนั้น…

 

เป็นกรงเล็บอันแหลมคมที่หยุดกระบี่ร้อยอาคมเซียนของมันเอาไว้ได้อย่างชะงัด!

 

ตอนแรกมันก็หลงคิดว่ามีสัตว์ร้ายอันใดปรากฏกายมาช่วยเหลือต้วนหลิงเทียน…

 

แต่พอมันไล่ตามองไปตามกรงเล็บที่พบว่าละม้ายคล้ายกรงเล็บมังกรนั้นเอง มันก็พบว่าที่แท้เป็นแขนของต้วนหลิงเทียน!

 

วูบ!

 

และก่อนที่หยางหวู่จะทันได้เห็นกรงเล็บและแขนของต้วนหลิงเทียนชัดถนัดตา กรงเล็บทั้งแขนดังกล่าวก็เปลี่ยนกลับกลายไปเป็นมือและแขนของมนุษย์ต่อหน้าต่อตา!

 

ขณะเดียวกันมือดังกล่าวยังพุ่งมาปานอัสนีบาตฟาดผ่า คว้ากุมเข้าไปที่ลำคอของมัน! ทั้งยังปะทุพลังมหาศาลขุมหนึ่งสะกดทำลายพลังทั่วร่างของหยางหวู่จนสลายหายไปสิ้น!

 

มือดังกล่าวยิ่งมายิ่งออกแรงบีบรัด ร่างหยางหวู่ยังถูกยกลอยขึ้นไปแขวนหิ้วไว้กลางอากาศ!!

 

“แค่ก…แค่ก…แค่ก…แค่ก”

 

ด้วยพลังทั่วกายถูกทำลายทั้งสะกดไว้ไม่ให้เร่งเร้าก่อเกิดได้อีก ทำให้หยางหวู่ไม่อาจเหินร่างลอยตัวได้ เช่นนั้นมันก็ไม่ต่างอะไรกับผู้ที่ถูกแขวนคอจริงๆ! สองเท้าเตะอากาศวุ่นวาย มือรีบตะเกียกตะกายพยายามแกะมือที่หนีบแน่นราวคีมเหล็ก สีหน้ายิ่งมายิ่งแดงกึคล้ำขึ้นด้วยหายใจไม่ออก สำลักไอออกมาไม่หยุด

 

“ดูเหมือนว่าวันนี้คนที่ตายจะไม่ใช่ข้า…”

 

ตอนนี้เองเสียงไม่แยแสหนึ่งพลันดังขึ้น ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นต้วนหลิงเทียนที่บีบคอของหยางหวู่กล่าวออก!

 

สองตาเผยประกายเยียบเย็นของต้วนหลิงเทียน มองหยางหวู่ที่หายใจไม่ออกด้วยแววตาเฉยเมย ไม่คล้ายมีความรู้สึกใดๆในนั้น…

 

เมื่อครู่ก่อนที่กระบี่ร้อยอาคมเซียนของหยางหวู่จะฟันคอต้วนหลิงเทียน ด้านต้วนหลิงเทียนที่เจียนถูกสังหารก็พลันเคลื่อนไหวในห้วงเวลาสุดท้าย

 

เขาเรียกใช้ปฐมเวทย์กลืนกินก่อนสิ่งใด!

 

และด้วยพลังอำนาจของเวทย์พลังปฐมเวทย์กลืนกิน ถึงแม้ร่างกายเขาจะบาดเจ็บและไม่อาจเร่งเร้าปราณสุริยันแรกกำเนิดได้เต็มกำลัง แต่อาศัยปราณสุริยันแรกกำเนิดที่เพิ่มพูนเข้ามาในร่างอย่างฉับพลัน ก็ยังมากพอจะยกระดับพลังในร่างของเขาให้พุ่งไปหลายขั้น

 

แม้ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่ในเวลาอันสั้นมันจะเพิ่มพูนพลังเขาให้บรรลุถึงจุดสูงสุด แต่กับอีแค่เพิ่มขึ้นให้มากพอจัดการหยางหวู่ ยังเกินพอนัก…

 

และพริบตาต่อมามือขวาของเขาก็พุ่งออกฉับไว!

 

ด้วยความที่เขาสามารถแปลงกายเป็นนักรบมังกร 9 กรงเล็บได้ดั่งใจคิด คิดเปลี่ยนแขนให้กลายเป็นแขนมังกรย่อมง่ายดายนัก!

 

ด้วยกรงเล็บมังกรพร้อมปราณสุริยันแรกกำเนิดในร่างที่ถูกเพิ่มพูนขึ้นด้วยปฐมเวทย์กลืนกิน ต้วนหลิงเทียนสามารถหยุดกระบี่ร้อยอาคมเซียนที่เปล่งอานุภาพร้ายกาจเข่นฆ่าลงมาของหยางหวู่ได้ง่ายดาย ไม่ได้รู้สึกลำบากหรือกดดันอะไรแม้แต่น้อย

 

ถึงแม้กระบี่ที่จารึกอาคมเซียนไว้ถึงร้อยอาคมของหยางหวู่จะน่ากลัว แต่ปัญหาคือพลังที่ใช้ขับเคลื่อนเปิดใช้อาคมเซียนเหล่านั้นก็คือพลังของหยางหวู่ ที่เป็นเพียงผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนมนุษย์ขั้นเชี่ยวชาญเท่านั้น และนั่นไม่ได้เป็นภัยคุกคามอะไรต้วนหลิงเทียนแม้แต่น้อย…

 

ต้วนหลิงเทียนที่ลงมือไปอย่างไร้เรื่องราว ไม่เพียงแต่จะหยุดกระบี่ร้อยอาคมเซียนในมือหยางหวู่ได้เท่านั้น ยังทำให้หยางหวู่ได้รับบาดเจ็บสาหัสเพราะพลังสะท้อนไปอีก!

 

ด้วยเหตุนี้ฉากเรื่องราวจึงกลายเป็นอย่างที่เห็น…

 

“นิ…นี่…นี่มัน”

 

“มะ…ไม่น่าเชื่อ! ช่างเหลือเชื่อยิ่งนัก!!”

 

“นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน!? ไม่ใช่เจ้าหมอนั่นมันได้รับบาดเจ็บเพราะอาวุโสหลี่อันจนยืนยังไม่แทบจะไหวรึไง? ไฉนยังเหลือความแข็งแกร่งขนาดนี้เล่า?!”

 

“จะ…เจ้านั่นมันไม่ใช่อริยะเซียนขั้นสูงสุดหรอกเรอะ!? อริยะเซียนขั้นสูงสุดบ้านผู้ใดกัน! ยังไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่บาดเจ็บเจียนตายอยู่แบบนั้น ต่อให้สมบูรณ์พร้อมแต่จะรับกระบี่ของเซียนมนุษย์ขั้นกลางได้แบบนี้รึไง!? นี่มันไปเอาพลังมาจากที่ใดกัน?”

 

……

 

เหล่าผู้คนที่ชมดูเรื่องราว หนังศีรษะกลายเป็นชาด้านขึ้นมาแล้ว พวกมันไม่เข้าใจจริงๆ พอรู้สึกตัวก็อดไม่ได้ที่จะเผยแววตาหวาดกลัวไม่อยากจะเชื่อ

 

มีหลายคนที่รู้สึกว่าสมองหยุดทำงาน ไม่อาจคิดอะไรได้สืบไป

 

มีผู้ใดสามารถบอกพวกมันได้บ้าง ว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น?

 

ไฉนอริยะเซียนขั้นสูงสุดที่บาดเจ็บจนอาการร่อแร่ กลับสำแดงพลังต้านทานรับกระบี่ร้อยอาคมเซียนที่เข่นฆ่าสังหารเข้ามาของเซียนมนุษย์ขั้นเชี่ยวชาญได้ง่ายดาย กระทั่งสุดท้ายยังเป็นผู้กุมชะตาชีวิตอีกฝ่ายไว้ในมือได้แบบนี้?

 

พวกมันย่อมแลเห็นกันได้ชัดเจน ว่าตอนนี้หากต้วนหลิงเทียนคิดเอาชีวิตหยางหวู่ ก็สามารถกระทำได้ทุกเวลา…

 

“น้องหลิงเทียน!”

 

ไม่เหมือนกับแววตาสยองขวัญไม่เข้าใจทั้งเหลือเชื่อของคนอื่น หลังได้เห็นฉากเรื่องราวตรงหน้า กู่ลี่ก็ร้องโพล่งออกมาด้วยความยินดี อดไม่ได้ที่จะระบายลมหายใจอย่างโล่งอกเฮือกใหญ่

 

“ผิดมนุษย์”

 

จูลู่ฉีที่ตะลึงค้างร่างแข็งเหม่อมองไปพักหนึ่ง ค่อยกล่าวคำออกมาสองคำ

 

ความแข็งแกร่งที่ต้วนหลิงเทียนเผยออก ทำให้มันตกใจเช่นกัน!

 

มันไม่คิดเลยว่าต้วนหลิงเทียนจะยังใช้ความแข็งแกร่งได้ถึงระดับนี้ทั้งๆที่บาดเจ็บหนักขนาดนั้น! กระทั่งไม่จำเป็นต้องลงมือวุ่นวายอะไร อยู่ๆก็คว้าหมับหยุดกระบี่ผู้คน สุดท้ายยังวกไปกุมบีบลำคอหยางหวู่ราวพญาอินทรีย์จับลูกเจี๊ยบได้อย่างง่ายดายไร้เรื่องราว…

 

“สารเลว! ปล่อยคุณชายรองของข้าเสีย!!”

 

ขณะเดียวกันนั้นเองชายชราที่ยืนอยู่ด้านหลังหยางหวู่มาโดยตลอด พอเห็นหยางหวู่ถูกต้วนหลิงเทียนบีบคอและเผยท่าทีอึดอัดทุรนทุรายก็ทนไม่ได้อีกต่อไป

 

พร้อมกันนั้นเองร่างชราก็คล้ายกลับกลายเป็นสายลมหอบหนึ่งพัดไหวไปยังต้วนหลิงเทียนทันที หมายลงมือช่วยชีวิตคุณชายรองของมัน!

 

“ฮึ่ม!”

 

อย่างไรก็ตามชายชราเพียงพุ่งร่างไปได้ไม่ทันไร เสียงสบถเย็นชาหนึ่งพลันดังขึ้น

 

ปงงงง!!

 

พร้อมกันนั้นก็บังเกิดมวลพลังมหาศาลขุมหนึ่งซัดกระแทกร่างชายชราจนกระเด็นย้อนไปไม่เป็นท่า…

 

“หากเจ้ายังสะเออะวุ่นวายอันใดอีก…ตาย!”

 

เถิงชานมองไปยังชายชราที่ปลิวกระเด็นไป ด้วยสายตารังเกียจกล่าวคำขาดเสียงเย็น

 

ทันใดนั้นร่างชายชราก็สั่นสะท้าน สีหน้ายังซีดลงทันตาเห็น

 

ชายชราเร่งสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะว่ายตาหันไปมองหลี่อันที่ลอยร่างถัดจากเถิงชานทันที “อาวุโสหลี่อันท่านเป็นสหายสนิทของอาวุโสลำดับ 5 เรา ท่านต้องช่วยคุณชายรอง! อาวุโส 5 มีบุตรชายเพียง 2 คนเท่านั้น อีกทั้งท่านยังเอ็นดูคุณชายรองไม่น้อย หากเกิดเรื่องใดกับคุณชายรอง อาวุโส 5 ย่อมรับไม่ได้เป็นแน่!”

 

เมื่อตระหนักได้ว่าตัวมันไม่อาจช่วยชีวิตคุณชายรองได้แน่ มันก็พยายามขอความช่วยเหลือหลี่อันทันที

 

พอได้ยินเสียงผ่านปราณที่ส่งมาขอความช่วยเหลือจากชายชรา สีหน้าหลี่อันแต่เดิมที่มืดมนเป็นทุน มาตอนนี้ยิ่งมืดคล้ำปานจะคั้นได้เป็นน้ำหมึก!

 

ให้มันช่วย?

 

ช่วยบัดซบอะไร?

 

มีคนเป็นพันๆที่เป็นสักขีพยานในการประลองเป็นตายระหว่างหยางหวู่กับต้วนหลิงเทียน!

 

ก็จริงที่หากมันลงมือย่อมช่วยเหลือหยางหวู่ได้แน่นอน…

 

แต่หลังจากนั้นมันอย่าได้หวังว่าจะสามารถอยู่ในลัทธิบูชาไฟได้อีกต่อไป…เพราะลัทธิบูชาไฟไม่มีวันทนรับความอับอายขายขี้หน้าเช่นนั้นได้!!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด