War sovereign Soaring The Heavens 1900

Now you are reading War sovereign Soaring The Heavens Chapter 1900 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1,900 : แท่นบูชาเต่าทมิฬ!

 

ลำแสงพลังอ่อนโยนทั้งหมดล้วนยิงออกมาจากผู้อาวุโสทั้ง 8 ของแท่นบูชาจตุรลักษณ์! และผู้ที่ถูกลำแสงยิงใส่ก็หมายความว่าถูกอาวุโสเลือกเฟ้น

 

เรียกว่าหากผู้ใดถูกแสง ก็ต้องเข้าร่วมแท่นบูชาของอาวุโสคนนั้น…

 

หลังจากถูกคัดเลือกแล้ว ก็จะต้องติดตามอาวุโสดังกล่าวไปทำการคัดเลือกประเมินที่แท่นบูชา

 

หากผ่านการประเมินก็จะกลายเป็นศิษย์ของแท่นบูชานั้นๆ!

 

ศิษย์ของแท่นบูชาจตุรลักษณ์ แม้จะกล่าวได้ว่าเป็นแค่ศิษย์ฝ่ายนอกของลัทธิบูชาไฟ แต่ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของลัทธิบูชาไฟแล้ว!

 

และทันทีที่ได้เป็นศิษย์ของแท่นบูชาใดๆ ก็จะมีสิทธิ์เรียนรู้ทำความเข้าใจเวทย์พลังประจำแท่นบูชานั้นๆ

 

ทุกแท่นบูชาจะเป็นเช่นนี้เหมือนกันหมด!

 

ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของการคัดเลือกศิษย์ ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยมีผู้อาวุโสที่ทำการเลือกศิษย์คนเดียวกันมาก่อน ทว่าโดยมากแล้วจะเป็นผู้อาวุโสคนละแท่นบูชา!

 

เพราะโดยทั่วไปแล้วผู้อาวุโสจากแท่นบูชาเดียวกัน มักจะกล่าวนัดแนะกันก่อนว่าจะเลือกผู้ใด…

 

ด้วยเหตุนี้เอง การที่เถิงชานกับหลี่อันที่เป็นผู้อาวุโสเพลิงเงินของแท่นบูชาเต่าทมิฬเลือกศิษย์คนเดียวกัน จึงทำให้อาวุโสอีก 6 คนจากแท่นบูชาทั้ง 3 รู้สึกประหลาดใจไม่น้อย “อาวุโสหลี่อัน อาวุโสเถิงชาน…นี่พวกท่านมิได้นัดแนะกันมาก่อนหรือ?”

 

“หากจ้าวแท่นชิวรู้ว่าพวกท่านเลือกศิษย์คนเดียวกันเช่นนี้ ข้าเกรงว่าพวกท่านจะโดนข้อหาขัดแย้งภายในไม่เป็นหนึ่งเดียวกัน!”

 

“อาวุโสหลี่อัน อาวุโสเถิงชาน…พวกท่านใช่มีปัญหาส่วนตัวอันใดกันหรือไม่?”

 

 

อาวุโส 3 คนที่ปากไวกล่าวถามออกมาด้วยความฉงนทันที

 

พวกมันพึ่งมาถึง จึงไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เกิดเรื่องราวอะไรขึ้น แต่พวกมันก็สัมผัสได้ว่าบรรยากาศระหว่างหลี่อันกับเถิงชานคล้ายจะคลุ้งกลิ่นดินปืนไม่น้อย!

 

ด้านเถิงชานกับหลี่อัน พอได้ยินคำถามก็หันมองหน้ากันทันที ก่อนที่ต่างจะเบือนหน้าออกไปอย่างไม่แยแส

 

หลี่อันเลือกให้ต้วนหลิงเทียนอยู่แท่นบูชาเต่าทมิฬเป็นคนแรกไม่นับว่าเป็นเรื่องแปลก เพราะทุกคนรู้ว่าหลี่อันต้องการหาเรื่องจนให้ต้วนหลิงเทียนอยู่ไม่ได้ ยังคิดกลั่นแกล้งสร้างปัญหาให้ต้วนหลิงเทียนเท่าที่จะทำได้บีบให้ต้วนหลิงเทียนออกจากลัทธิบูชาไฟ หรือประลองเป็นตายกับมือดีที่มันส่งไป!

 

เพราะในสายตาหลี่อัน

 

ตราบใดที่ต้วนหลิงเทียนอยู่ในแท่นบูชาเต่าทมิฬ ก็เสมือนลูกไก่ในกำมือ! ไม่มีวันที่จะเล็ดรอดเงื้อมมือมันไปได้!!

 

ทว่าสีหน้าหลี่อันเผยความประหลาดใจไม่น้อยเมื่อเห็นว่าเถิงชานยังคงมีสีหน้าสงบไม่แยแส เพราะมันไม่เข้าใจจริงๆว่าไฉนเถิงชานจึงเลือกต้วนหลิงเทียนด้วย?

 

เท่าที่มันรู้ จากนิสัยของเถิงชาน ในเมื่ออีกฝ่ายมีความประทับใจอันดีกับต้วนหลิงเทียนแบบนี้ อีกฝ่ายต้องยิ่งผลักไสต้วนหลิงเทียนออกไปให้ไกลจากแท่นบูชาเต่าทมิฬถึงจะถูก เพราะเถิงชานรู้ดีว่ามันมีอำนาจในแท่นบูชาเต่าทมิฬเพียงใด และสมควรรู้ว่ามันไม่มีวันปล่อยต้วนหลิงเทียนไปแน่…!

 

‘หรือเถิงชานมันถูกใจพรสวรรค์ของต้วนหลิงเทียนนั่น และคิดจะรับเป็นศิษย์ส่วนตัว?’

 

ทันใดนั้นหลี่อันพลันคิดถึงเรื่องนี้

 

หากเป็นแบบนั้นจริง ทุกอย่างก็อธิบายได้ง่ายทันที

 

อย่างไรก็ตามมันคิดว่าคราวนี้เถิงชานไร้เดียงสาเกินไปแล้ว คนที่มันอยากฆ่าให้ตายมีหรือจะรอดไปได้!

 

ต่อให้ต้วนหลิงเทียนมีเถิงชานหนุนหลัง ผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม!

 

หากเถิงชนคิดจะวัดกันจริงๆ ไม่ว่าพลังฝีมือส่วนตัวอะไรก็สู้มันไม่ได้เลย!

 

เพราะสุดท้ายแล้วตัวมันก็คืออันดับที่ 139 ในรายนามยอดเซียน ส่วนเถิงชานนั้นก็มีอันดับในรายนามยอดเซียนแค่ 173 เท่านั้น!

 

การจัดอันดับพลังฝีมือของรายนามยอดเซียน แต่ละอันดับล้วนมีพลังฝีมือต่างกันชัดเจน!

 

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เถิงชานอยู่ต่ำกว่ามัน 30 อันดับเลย เกรงว่ามันใช้ไม่เกิน 10 กระบวนท่าก็สยบเถิงชานได้แล้ว!

 

“อาวุโสหลี่อันกับอาวุโสเถิงชานเลือกต้วนหลิงเทียนเหมือนกันเช่นนั้นหรือ…นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?”

 

อาวุโสอีก 3 คนที่เหลือ อดไม่ได้ที่จะเผยความประหลาดใจออกมา ต่างหันมองหน้ากันเองด้วยความสับสน

 

 

“อาวุโสหลี่อันเลือกต้วนหลิงเทียนเข้าร่วมแท่นบูชาเต่าทมิฬข้าไม่แปลกใจ เพราะง่ายนักที่จะหาเรื่องต้วนหลิงเทียนหากอยู่ในแท่นบูชาเต่าทมิฬ”

 

“ต้วนหลิงเทียนฆ่าหยางหวู่บุตรชายของอาวุโส 5 วังอุดรไพศาลสหายที่ดีที่สุดของหลี่อันไปทั้งคน…หลี่อันไม่มีวันละเว้นต้วนหลิงเทียนแน่!”

 

“อาวุโสเถิงชานดูเหมือนจะชมชอบต้วนหลิงเทียนไม่น้อย หาไม่แล้วก่อนหน้าคงไม่ยื่นมือช่วยเหลือ…แต่ไฉนตอนนี้ถึงได้ทำแบบนี้เล่า? ไม่ใช่ว่าที่ต้องกระทำที่สุดตอนนี้ คือมิควรชักชวนต้วนหลิงเทียนเข้าร่วมแท่นบูชาเต่าทมิฬรึไง?”

 

“ข้าไม่เข้าใจจริงๆว่าไฉนอาวุโสเถิงชานถึงชวนต้วนหลิงเทียนเข้าร่วมแท่นบูชาเต่าทมิฬแบบนี้…เช่นนี้ยังต่างใดกับส่งลูกแกะเข้าปากเสือเล่า?”

 

 

ผู้คนเองก็พูดคุยกันเสียงดังระงม พวกมันหันมองไปมาระหว่างหลี่อันกับเถิงชาน บางครั้งก็หันไปมองต้วนหลิงเทียน

 

และมาตอนนี้อาวุโสของอีก 3 แท่นบูชาที่มาถึงภายหลัง ก็ได้รับทราบเรื่องราวแล้วว่าที่แท้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่…

 

ปรากฏว่าอาวุโสหลี่อันกับอาวุโสเถิงชานมีเรื่องบาดหมางกันเพราะมีต้วนหลิงเทียนที่ถูกเลือกคนนั้นเป็นชนวนเหตุ!

 

ต้วนหลิงเทียนฆ่าบุตรชายคนรองของอาวุโสลำดับ 5 แห่งวังอุดรไพศาล เพื่อนสนิทของหลี่อัน!

 

การกระทำดังกล่าว ยังต่างอะไรกับตบหน้าหลี่อัน?

 

สุดท้ายแล้วหยางหวู่ก็เป็นลุกชายของเพื่อนซี้ แต่กลับต้องมาทนดูคนตกตายไปอย่างที่มิอาจช่วยเหลือ นี่ทำให้รู้สึกคับข้องใจถึงขั้นใดกัน?

 

ด้วยเหตุนี้หลี่อันจึงเกลียดแค้นต้วนหลิงเทียนเป็นธรรมดา น่ากลัวยังจะเกลียดเข้าไส้และไม่อยากทำอะไรมากไปกว่าฆ่าต้วนหลิงเทียนให้ตาย!

 

 

“เช่นนั้นก็นับว่าเข้าใจได้ที่หลี่อันคิดอยากให้ต้วนหลิงเทียนอยู่แท่นบูชาเต่าทมิฬ…ทว่าเหล่าเถิง ไม่ใช่ท่านคิดช่วยเหลือต้วนหลิงเทียนรึไร ไฉนท่านกลับเลือกให้ต้วนหลิงเทียนอยู่แท่นบูชาเต่าทมิฬด้วยเล่า?”

 

เรื่องนี้ไม่นานอาวุโสที่สนิทกับเถิงชานมากหน่อย ก็ส่งเสียงไปถามไถ่โดยตรงไม่คิดคาดเดาให้วุ่นวาย

 

และมันก็ได้รับคำตอบทันที

 

“ข้าเองก็คิดให้เขาไปอยู่แท่นบูชาอื่นแล้ว…แต่เขายืนยันจะอยู่แท่นบูชาเต่าทมิฬให้ได้…เพราะต้องการเพาะสร้างเวทย์พลังสายป้องกันระดับสูง ปราการเต่าทมิฬ…”

 

เถิงชานยิ้มขื่นขม ขณะส่งเสียงตอบคำ

 

“ที่แท้เจ้าหนูนั่นก็หุนหันพลันแล่นมิใช่น้อย…มันมิรู้หรือว่าเวทย์พลังระดับสูงมิใช่อะไรที่ใครคิดจะทำความเข้าใจก็เข้าใจและเพาะสร้างได้ง่ายๆ? และมันมิรู้จริงๆหรือว่าในบรรดาเวทย์พลังของทั้ง 4 แท่นบูชาเรา เวทย์พลังปราการเต่าทมิฬยากเข้าใจและเพาะสร้างเป็นที่สุด?”

 

“สำหรับคนที่เลือกจะเอาชีวิตมาเสี่ยงกับเวทย์พลังที่มิรู้ว่าจะเพาะสร้างได้หรือไม่เช่นนี้…เจ้าหนูนี่ไม่ไหวแล้วล่ะ มิว่าจะพรสวรรค์ดีเพียงใด แต่มันก็เสมือนถูกลิขิตให้ถึงจุดดับไปครึ่งตัวแล้ว…”

 

อาวุโสอีก 2 คนส่ายหัวไปมา

 

เมื่อเห็นความหุนหันพลันแล่นไม่คิดให้ถี่ถ้วนของต้วนหลิงเทียน พวกมันก็ไม่หลงเหลือความประทับใจอันใดอีก

 

ถึงแม้ว่าพรสวรรค์ของต้วนหลิงเทียนอาจจะดีจากที่ฟังมา แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นที่จะทำให้อาวุโสของอีก 3 แท่นบูชาอยากได้ตัวจนต้องแย่งชิงอะไร

 

อีกทั้งพวกมันก็ไม่อยากล่วงเกินหลี่อัน

 

เช่นนั้นอนาคตของต้วนหลิงเทียนจึงถูกกำหนดแล้ว…

 

อยู่แท่นบูชาเต่าทมิฬ!

 

“น้องหลิงเทียนหากเจ้าต้องอยู่แท่นบูชาเต่าทมิฬจริงๆ…หรือเจ้าล้มเลิกเรื่องเข้าร่วมลัทธิบูชาไฟดี?”

 

เมื่อเห็นสถานการณ์สุ่มเสี่ยงของต้วนหลิงเทียน กู่ลี่อดไม่ได้ที่จะกล่าวเตือนออกมาด้วยความกังวล

 

“ล้มเลิก?”

 

ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวไปมา “พี่กู่…ท่านคิดว่าหากข้าไม่ได้เข้าลัทธิบูชาไฟแล้วข้าจะรอดไปได้? ท่านคิดจริงๆหรือว่าข้าจะเดินออกจากที่นี่ได้ทั้งๆที่ยังมีชีวิต? พี่กู่ ท่านอย่าลืม…หากข้ายังอยู่ในแท่นบูชาเต่าทมิฬข้ายังได้รับความคุ้มครองจากกฏของลัทธิบูชาไฟ! ที่คนมีอำนาจกลัวที่สุดก็คือการเสียอำนาจ…มันย่อมไม่กล้าผลีผลามลงมือกับข้าให้ผิดกฏ เพราะในสายตาของมัน ชีวิตข้าไม่คุ้มกับอำนาจของตัวมันแม้แต่น้อย…”

 

“แต่ถ้าข้าเลือกจะออกจากแท่นบูชาเต่าทมิฬ ก็เท่ากับออกจากลัทธิบูชาไฟ…เช่นนั้นตัวข้าก็ไร้กฏลัทธิคุ้มกันแล้ว! หากข้าก้าวเท้าออกจากเขตพื้นที่ลัทธิบูชาไฟ…ท่านว่าตอนนั้นข้ายังจะมีชีวิตรอดได้หรือไม่?”

 

ต้วนหลิงเทียนไม่ได้บอกกู่ลี่ว่าไฉนถึงเลือกอยู่แท่นบูชาเต่าทมิฬ แต่เลือกจะกล่าวถึงสถานการณ์ในตอนนี้ที่เขามองขาด แต่กู่ลี่กลับใจกังวลจนหูตาฝ้าฟาง…

 

ตอนนี้เขาได้แตกหักกับหลี่อันไปแล้ว เขาไม่เหลือทางเลือกอย่างการออกจากลัทธิบูชาไฟอีกต่อไป

 

“ต้วนหลิงเทียนกล่าวถูกแล้วกู่ลี่…เพียงอยู่ในลัทธิบูชาไฟจึงสามารถรักษาชีวิตไว้ได้…แต่ถ้าออกไปได้ตายทันทีแน่!”

 

ก่อนหน้าเสียงของต้วนหลิงเทียนถูกส่งไปยังจูลู่ฉีด้วยเช่นกัน มันจึงเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด

 

ขณะเดียวกันหลังจากกล่าวออกมาด้วยความเข้าใจ จูลู่ฉีก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วกล่าวออกด้วยกังวลว่า “อย่างไรก็ตามหากเจ้าอยู่ในแท่นบูชาเต่าทมิฬ หลี่อันย่อมทำทุกทางที่ไม่ผิดกฏเพื่อจัดการกับเจ้า และมันก็คงไม่คิดลงมือด้วยตัวเองแน่…”

 

“จริงอยู่ที่กฏข้อบังคับของลัทธิบูชาไฟสมควรศักดิ์สิทธิ์ ยากที่ใครจะกล้าละเมิด…แต่หากหลี่อันเลือกจะส่งคนที่พลังฝีมือเหนือกว่ามารังควาญเจ้าไม่เลิกเล่า? ถึงแม้จะไม่อาจฆ่าเจ้าได้ แต่มิพ้นเจ้าต้องถูกทรมานแน่! เผลอๆมันจะก่อกวนบีบคั้นให้เจ้าเลือกประลองเป็นตายเข้าสักวัน!!”

 

ขณะที่กล่าวถึงเรื่องนี้ออกมา สีหน้าจูลู่ฉีก็จริงจังเอาเรื่องนัก

 

“ทั้งสองคนใจเย็นๆก่อน…ข้าย่อมรักชีวิตตัวเองและไม่คิดล้อเล่นกับชีวิตแน่! ข้ายังมีหลายอย่างที่ข้าต้องกระทำ แน่นอนว่าข้าต้องเอาตัวรอดไปให้ได้”

 

ต้วนหลิงเทียนฟังคำกล่าวเตือนก็พยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม

 

เขาเองก็ใช้ชีวิตมา 2 ชาติแล้ว ด้วยความลำบากที่บุกบั่นผ่านมา เขาไม่คิดทำอะไรหุนหันพลันแล่นแม้แต่น้อย

 

หากเขาเจอคนที่พลังฝีมือเหนือกว่ามาตามรังควาญทุบตีจริงๆ ขอเพียงไม่ตายเขาจะอดทนเอาไว้ให้ถึงที่สุด! คำลูกผู้ชายล้างแค้นสิบปีไม่สายเขารู้ดี!

 

แสวงหาความตายอย่างตัวโง่งมไม่มีอยู่ในพจนานุกรมเขา ต้วนหลิงเทียน!

 

“อย่างไรก็ตามไฉนอาวุโสเถิงชานก็มาเลือกเจ้าเข้าร่วมแท่นบูชาเต่าทมิฬอีกคนเล่า มิใช่อาวุโสประทับใจเจ้าหรือไร มิใช่ควรแนะนำให้เจ้าเลือกแท่นบูชาอื่นเพื่อความปลอดภัยของเจ้ารึไง?”

 

กู่ลี่ที่เห็นว่าต้วนหลิงเทียนตัดสินใจไปแล้วก็ไม่คิดกล่าวใดอีก เพียงย่นคิ้วเป็นปมกล่าวถามออกมาขณะมองสลับไปมาระหว่างอาวุโสเถิงชานกับต้วนหลิงเทียนด้วยความไม่เข้าใจ

 

จูลู่ฉีเองก็มองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาสงสัยเช่นกัน

 

“ผู้อาวุโสเถิงชานก็ไม่อยากให้ข้าเข้าร่วมแท่นบูชาเต่าทมิฬหรอก…แต่ข้าเป็นคนขอให้ท่านเลือกข้าเอง!”

 

ต้วนหลิงเทียนกล่าว

 

“เอ๊า! ทำไมเล่าน้องหลิงเทียน?”

 

ทั้งกู่ลี่และจูลู่ฉีสับสนงุนงงเป็นไก่ตาแตกแล้วจริงๆ ด้วยไม่ทราบว่าไฉนต้วนหลิงเทียนถึงกระทำเช่นนี้ นี่ไม่ใช่กำลังละเล่นกับชีวิตตัวเองรึไง?

 

“เพราะข้าต้องการเวทย์พลังสายป้องกันระดับสูงประจำแท่นบูชาเต่าทมิฬ…ปราการเต่าทมิฬ!”

 

สองตาต้วนหลิงเทียนเผยประกายคมกล้าสว่างวาบ กล่าวตอบทั้งคู่ไปเสียงดังฟังชัด

 

ได้ยินคำตอบนี้ของต้วนหลิงเทียน กุ่ลี่กับจูลู่ฉีถึงกับหมดคำจะพูด

 

กล่าวให้ชัดเรื่องของเรื่องก็คือ…ไม่แน่ว่าจะทำความเข้าใจแลเพาะสร้างเวทย์พลังนั่นได้สำเร็จหรือไม่ แต่กลับพาตัวเข้าจุดอับเลือกจะเสี่ยงอันตรายด้วยเหตุผลเพราะอยากได้?

 

พวกมันทั้งคู่ลองถามตัวเองดู หากอยู่ในจุดเดียวกันจะทำแบบต้วนหลิงเทียนไหม…ไม่มีทางทำแน่!

 

“น้องหลิงเทียน!”

 

ทันใดนั้นคล้ายคิดอะไรบางอย่างได้ออก สองตากู่ลี่พลันทอประกายเรืองวูบขึ้นมา เร่งมองกล่าวกับต้วนหลิงเทียนทันที “เจ้าบอกผู้อาวุโสเถิงชานได้หรือไม่ ว่าให้เลือกข้าเข้าร่วมแท่นบูชาเต่าทมิฬด้วย! เช่นนี้เจ้าก็ไม่ต้องเผชิญหน้ากับคนที่หลี่อันส่งมาสร้างปัญหาคนเดียวแล้ว!”

 

“ดี!”

 

จูลู่ฉีก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้เช่นกัน “เจ้าบอกให้อาวุโสเถิงชานเลือกข้าด้วย…ด้วยมีข้ากับกู่ลี่คอยกันท่าและช่วยเหลือเจ้าอีกแรง พวกเราสามารถแบ่งเบาภาระและแรงกดดันให้เจ้าได้!”

 

ได้ยินคำของกู่ลี่กับจูลู่ฉี ต้วนหลิงเทียนรู้สึกซาบซึ้งและตื้นตันใจยิ่งนัก!

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งจูลู่ฉีที่ไม่ได้สนิทกับเขาเหมือนกู่ลี่ แต่อีกฝ่ายก็กล่าวออกจากใจยินดีร่วมหัวจมท้ายไปกับเขาในช่วงเวลายากลำบากเช่นนี้…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด