War sovereign Soaring The Heavens 2040

Now you are reading War sovereign Soaring The Heavens Chapter 2040 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 ตอนที่ 2,040 : เทพธิดากลับชาติมาเกิด!

 

หลังจากตัดสินได้แล้ว ใจต้วนหลิงเทียนใคร่คิดให้แผ่นหลังมีปีกงอกเงยขึ้นมาคู่หนึ่ง จะโบยบินออกจากลัทธิบูชาไฟ แล้วไปกลืนกินพรสวรรค์รากวิญญาณผู้อื่น ยกระดับรากวิญญาณให้บรรลุถึงขีดสุดโดยเร็ว!

 

ตราบใดที่พรสวรรค์รากวิญญาณของเขายกระดับเป็นสีม่วงได้ล่ะก็ ด้วยมีเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติ พลังฝึกปรือของเขาต้องก้าวหน้าได้ในเวลาอันสั้น! ถึงตอนนั้นไม่เพียงแต่ลัทธิบูชาไฟ แต่กระทั่งภูมิภาคเบื้องบนของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าทั้งหมดต้องสะท้านสะเทือน!!

 

เขาจะกลายเป็นสุดยอดอัจฉริยะผู้มีพรสวรรค์รากวิญญาณแต่กำเนิดและพลังฝึกปรือเลิศล้ำที่สุดในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า!

 

ถึงตอนนั้นขอเพียงเขาลั่นวาจาออกมา…ว่าหากลัทธิบูชาไฟหาญกล้าแตะต้องภรรยาและลูกสาวของเขาล่ะก็ วันหน้าเขาจะย้อนกลับมาลบมันให้สิ้นสูญไปจากแดนดิน!

 

เขาเชื่อว่าลัทธิบูชาไฟต้องหวาดกลัว ‘ศักยภาพ’ ของเขาถึงขั้นหากที่พวกมันไม่อาจฆ่าเขาได้ พวกมันก็คงไม่มีวันกินอิ่มนอนหลับได้อีกต่อไป และพวกมันย่อมไม่มีวันกล้าแตะต้องเค่อเอ๋อแม่ลูกแน่!

 

“ขอบคุณเจ้าที่กล่าวชี้แนะ”

 

หลังฟื้นความรู้สึก ต้วนหลิงเทียนกล่าวขอบคุณก่านหรูเยี่ยนออกมา ตอนนี้เมื่อเห็นนางร่ำไห้อย่างสิ้นไร้หนทาง อคติสุดท้ายในใจเขาที่มีต่อนางก็สลายหายไปแล้ว

 

จะอย่างไรสตรีเบื้องหน้าก็เป็นพี่สาวฝาแฝดของเค่อเอ๋อ ทั้งคู่เกี่ยวพันกันทางสายเลือด

 

หากเขายังอคติกับนาง สุดท้ายคนที่ต้องปวดใจก็ไม่พ้นเค่อเอ๋อ

 

ดังนั้นต้วนหลิงเทียนตัดสินใจละวางเรื่องราวความแค้นระหว่างเขากับก่านหรูเยี่ยนที่นางชิงตัวเค่อเอ๋อทิ้งไป และตอนนี้อคติสุดท้ายก็ลบหายไปพร้อมน้ำตาของนาง

 

“เจ้ามิต้องขอบคุณข้า”

 

ก่านหรูเยี่ยนส่ายหัวไปมาอย่างโรยแรง ค่อยมองกล่าวกับต้วนหลิงเทียนอย่างเหนื่อยล้า “แต่ไหนแต่ไรข้ากับเจ้าเพียงหวังให้อวี่เยี่ยนกับลูกปลอดภัยไร้เรื่องราว…เจ้าต้องรู้ด้วยว่าอวี่เยี่ยนเป็นน้องสาวข้า ยังเป็นน้องสาวฝาแฝดคนเดียวของข้า”

 

“ต่อให้ข้าก่านหรูเยี่ยนต้องตาย ข้าก็ไม่แม้แต่จะเคยคิดให้อวี่เยี่ยนต้องลำบากแม้เพียงเศษเสี้ยว”

 

วาจาที่กล่าวออกเพียงสั้นๆ แต่แฝงเร้นไว้ด้วยความเด็ดเดี่ยวจริงใจนัก

 

ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า

 

ฟังจากน้ำเสียงของก่านหรูเยี่ยน เขาย่อมบอกได้ว่านางกล่าวคำออกมาจากใจไร้ใดปลอมแปลง

 

หลังจากเงียบไปพักหนึ่ง ต้วนหลิงเทียนมองถามก่านหรูเยี่ยนออกมาด้วยความสงสัย “มีเรื่องหนึ่งที่ข้าไม่เข้าใจ…ย้อนกลับไปในอดีต ไฉนเค่อเอ๋อถึงถูกเลือกให้เป็นธิดาเทพ แทนที่จะเป็นเจ้ากัน?”

 

“แล้วพรสวรรค์รากวิญญาณของแต่กำเนิดของเค่อเอ๋อก่อนถูกผนึก…ใช่เป็นสีม่วงอย่างข่าวลือหรือไม่?”

 

ต้วนหลิงเทียนกล่าวถามออกมารวดเดียวจบ ทั้งหมดคือความสงสัยในใจเขาที่ยังไม่อาจคลี่คลาย

 

“พรสวรรค์รากวิญญาณแต่กำเนิดของอวี่เยี่ยนเป็นสีม่วงจริงๆ…แต่นี่มิใช่เหตุผลหลักที่ทำให้นางถูกเลือกเป็นธิดาเทพ”

 

ได้ยินคำถามของต้วนหลิงเทียน ก่านหรูเยียนพลันชักสีหน้าจริงจังกล่าวออกเสียงหนัก

 

“หืม? ไม่ใช่เหตุผลหลัก?”

 

ต้วนหลิงเทียนขมวดคิ้วยู่ย่นเป็นปม

 

และเมื่อเห็นว่าสีหน้าของก่านหรูเยี่ยนจริงจังเพียงใด เขาก็พลอยชักหน้าเคร่งขึ้นมาด้วย “แล้วสิ่งใดคือเหตุผลหลักกันแน่?”

 

“เหตุผลหลักที่ว่า เป็นข้าบังเอิญได้ยินอาจารย์หารือกับจ้าวลัทธิ…ดูเหมือนว่าที่แท้อวี่เยี่ยนจะเป็นเทพธิดาที่กลับชาติมาเกิด!”

 

ยามกล่าวประโยคนี้ สีหน้าก่านหรูเยี่ยนจริงจังถึงขีดสุด

 

เทพธิดากลับชาติมาเกิด!?

 

ต้วนหลิงเทียนถึงกับตกตะลึงเมื่อได้ยินคำของก่านหรูเยี่ยน

 

หากเป็นตัวเขาครั้งที่ยังอยู่ในโลกเก่า วาจานี้ของก่านหรูเยี่ยนสมควรเป็นเรื่องเหลวไหลไร้สาระถึงที่สุด!

 

แต่ตอนนี้เขาไม่เพียงข้ามภพมาอย่างไม่รู้สาเหตุ เขายังเป็นคนที่ประสบกับเหตุการณ์กลับชาติมาเกิดของจักรพรรดิกลับชาติมาเกิดด้วยตัวเอง! เช่นนั้นหากจะมีเทพธิดาอะไรกลับชาติมาเกิดก็ไม่ใช่เรื่องแปลก!!

 

ดังนั้นทันทีที่ได้ยินคำของก่านหรูเยี่ยน เขาไม่ได้ไม่เชื่อ แต่บังเกิดความหวาดกลัวแทน!

 

“เค่อเอ๋อ…คือเทพธิดากลับชาติมาเกิดหรือ?!”

 

ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนไม่รู้จะพูดอย่างไรดี

 

อย่างไรก็ตามเขาเร่งมองไปยังก่านหรูเยี่ยนและรีบยิงคำถามออกมาทันที “เจ้าแน่ใจหรือว่าได้ยินมาไม่ผิด…อาจารย์ของเจ้ากับจ้าวลัทธิบอกว่าเค่อเอ๋อ เป็นเทพธิดากลับชาติมาเกิดจริงๆ?”

 

“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ท่านอาจารย์เองก็เป็นคนถามจ้าวลัทธิ…ส่วนข้อเท็จจริงข้าเกรงว่าคงมีแต่จ้าวลัทธิเท่านั้นที่ล่วงรู้”

 

ก่านหรูเยี่ยนกล่าวสืบต่อ

 

“ไม่ว่าเค่อเอ๋อจะเป็นเทพธิดากลับชาติมาเกิดหรืออะไรก็ดี ตอนนี้นางเป็นผู้หญิงของข้า!”

 

สองตาต้วนหลิงเทียนเผยประกายจ้า น้ำเสียงกล่าวออกมาด้วยความแน่วแน่ “และผู้หญิงของข้าใครอย่าแตะ…หากลัทธิบูชาไฟกล้าทำร้ายนาง วันหน้าข้าจะทำให้ลัทธบูชาไฟมันเหลืออยู่แต่ในหน้าประวัติศาสตร์ของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าไปชั่วนิรันดร์!”

 

หลังผ่านไปครู่หนึ่ง ต้วนหลิงเทียนก็มองกล่าวับก่านหรูเยี่ยนอีกครั้ง “ข้ามีเวลาอยู่กับเจ้าแค่เค่อเดียวเท่านั้น และตอนนี้ก็ใกล้ครบแล้ว หากอาวุโสคนนั้นกล่าวถามเจ้าว่าไฉนข้าถึงอยากพบเจ้า เจ้าก็ช่วยหาคำอธิบายดีๆด้วย”

 

“ข้าไม่ต้องหาคำอธิบายอะไรให้มันทั้งนั้น”

 

อย่างไรก็ตามได้ยินคำของต้วนหลิงเทียน ก่านหรูเยี่ยนกล่าวออกมาอย่างไม่สนใจ

 

นางเป็นใครกัน?

 

นอกจากจะเป็นศิษย์ที่แท้จริงที่มีอันดับ 7 ในทำเนียบยอดฝีมือศิษย์ที่แท้จริงของลัทธิบูชาไฟแล้ว นางยังคืออัจฉริยะท้าทายสวรรค์คนที่ 7 ของลัทธิบูชาไฟ! และเป็นถึงศิษย์ส่วนตัวของ 1 ใน 3 ผู้พิทักษ์ของลัทธิบูชาไฟ ชิงหั่ว!!

 

อาศัยแค่อาวุโสเพลิงเงินคนหนึ่ง ยังไร้คุณสมบัติถามหาคำอธิบายอะไรจากนาง!

 

ได้ยินคำของก่านหรูเยี่ยน ต้วนหลิงเทียนก็นิ่งไปครู่หนึ่งค่อยนึกได้ “ข้าเกือบลืมไป อย่างไรอาจารย์ของเจ้าก็เป็นถึง 1 ใน 3 ผู้พิทักษ์…เอาล่ะได้เวลาที่ข้าต้องไปแล้ว เจ้าดูแลตัวเองด้วย”

 

หลังกล่าวจบต้วนหลิงเทียนก็เดินไปเคาะประตูศิลาทันที

 

ตึง! ตึง!

 

หลังเคาะไป 2 ครั้งประตูศิลาก็ถูกเมิ่งฉีอาวุโสเพลิงเงินที่เฝ้าอยู่ด้านนอกเปิดออก

 

เมื่อต้วนหลิงเทียนออกมาแล้ว เมิ่งฉีก็ปิดประตู ก่อนที่จะทำสัญลักษณ์มืออีกครั้ง เพื่อเปิดใช้ข่ายอาคมกั้นประตู

 

“ไปกันเถอะ”

 

หลังเสร็จสิ้น เมิ่งฉีก็กล่าวเรียกต้วนหลิงเทียนให้เดินออกจากเรือนจำ

 

เมื่อออกมาจากหอคุมขัง ต้วนหลิงเทียนก็มาพบหลิวอวี่ที่รอคอยอยู่ด้านนอก

 

สุดท้ายหลังจากประสานมือร่ำลาอาวุโสเพลิงเงินทั้ง 3 ที่เฝ้าหอคุมขังเรียบร้อย หลิวอวี่ก็พาต้วนหลิงเทียนกลับไปยังหอหลัก

 

“อาวุโสหลิวอวี่ วันนี้ขอบคุณท่านมาก”

 

ระหว่างเดินกลับ ต้วนหลิงเทียนก็ไม่ลืมที่จะขอบคุณหลิวอวี่

 

“หากเจ้าอยากขอบคุณเจ้าก็ไปขอบคุณเสี่ยวอวิ๋นเอ้อเถอะ…และข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ลืมเรื่องที่เคยรับปากข้าไว้”

 

หลิวอวี่กล่าวตอบด้วยน้ำเสียงเฉยเมย ท้ายประโยคค่อยชักสีหน้าจริงจังกล่าวเสียงหนัก

 

“เรื่องนี้ขออาวุโสหลิวอวี่โปรดวางใจ ข้ารักษาคำพูดเสมอ”

 

ต้วนหลิงเทียนกล่าวคำมั่น

 

เขารู้ว่าหลิวอวี่พูดถึงเรื่องอะไร

 

ไม่มีอะไรมากไปกว่า เตือนให้เขาอย่าได้ลืมเรื่องตีตัวออกห่างหลิวอวิ๋น กระทั่งยังต้องทำให้ทุกคนรับทราบว่าเขากับหลิวอวิ๋นไม่เกี่ยวข้องกัน จะได้ไม่เป็นการฉุดลากอีกฝ่ายให้ลงมาพัวพันเรื่องของเขา

 

ในเมื่อเขารับปากหลิวอวี่มาแล้ว เขาย่อมไม่คิดกลับคำ

 

ยิ่งไปกว่านั้นการทำเช่นนี้ ยังเป็นความรับผิดชอบที่เขาต้องทำเพื่อหลิวอวิ๋นอีกด้วย

 

หาไม่แล้วหากเกิดอะไรขึ้นกับหลิวอวิ๋นหรือสกุลหลิวของหลิวอวิ๋นจริง เขาไม่มีวันอภัยให้ตัวเองได้ตลอดชั่วชีวิต!

 

เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้น เขาจำต้องหารือกับหลิวอวิ๋น เพื่อแสดงละคร ‘แตกหัก’ ให้ทุกคนรับทราบว่าพวกเขาได้ตัดสัมพันธ์กันไปแล้ว

 

ตราบใดที่เรื่องเขาแตกหักกับหลิวอวิ๋นแพร่ออกไปในลัทธิบูชาไฟ เช่นนั้นผู้ที่คิดเล่นงานเขา ย่อมไม่มีวันเบนเป้าไปเล่นงานหลิวอวิ๋นเพราะเขาอีกเป็นธรรมดา

 

ด้านหอคุมขัง หลังจากที่ต้วนหลิงเทียนกลับไปแล้ว เมิ่งฉีก็เดินย้อนกลับเข้าไปในเรือนจำอีกครั้ง

 

และมันก็เปิดประตูห้องขังก่านหรูเยี่ยนอีกรอบ เพื่อเข้าไปหานาง

 

ทันทีที่เดินเข้ามา เมิ่งฉีก็ปั้นหน้ายิ้มแย้มกล่าวออกด้วยทีท่าสุภาพทันที “แม่นางหรูเยี่ยน ท่านอยู่ที่นี่สบายดีหรือไม่?”

 

“สบายดี?”

 

ได้ยินคำของเมิ่งฉี ก่านหรูเยี่ยนแค่นเสียงตอบไปทันที “ฮึ หรือเจ้าลองมาอยู่ในห้องขังแทนข้าดูไหม จะได้รู้ว่ามันสบายดีหรือไม่?”

 

เมิ่งฉีอดไม่ได้ที่จะเผยยิ้มเจื่อนๆออกมาหลังได้ยินคำกล่าวค่อนแคะของก่านหรูเยี่ยน

 

“แม่นางหรูเยี่ยน” ทันใดนั้นคล้ายเมิ่งฉีจะนึกอะไรได้ออก มันจึงกล่าวถามออกมาทันที “ขออภัยด้วย แต่ข้าขอทราบได้หรือไม่ว่าท่านมีสัมพันธ์อันใดกับต้วนหลิงเทียนกันแน่…มิคิดเลยว่ามันกลับใช้เส้นสายเข้ามาเพื่อพบท่านถึงที่นี่ได้”

 

“อย่างไรมันก็เป็นแค่ศิษย์ใหม่คนหนึ่งเท่านั้น…กระทั่งยังเข้าร่วมลัทธิบูชาไฟเราหลังจากที่ท่านถูกขังแล้วเสียอีก”

 

เมิ่งฉีกล่าวถามเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างก่านหรูเยี่ยนกับต้วนหลิงเทียนออกมาตามตรง

 

เพราะมันรู้สึกว่าทั้งสองคนสมควรต้องรู้จักกันมาก่อนแน่ หาไม่แล้วต้วนหลิงเทียนคงไม่ใช้เส้นสายเข้ามาพบก่านหรูเยี่ยนถึงที่นี่

 

“ความสัมพันธ์ระหว่างมันกับข้า ใช่เรื่องที่เจ้าต้องรู้หรือ?”

 

ได้ยินคำถามของเมิ่งฉี ก่านหรูเยี่ยนกล่าวคำค่อนแคะออกมาอีกครั้ง ไม่ได้ไว้หน้าเมิ่งฉีแม้แต่น้อย

 

เห็นก่านหรูเยี่ยนกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงไม่ไว้หน้า เมิ่งฉีแม้จะไม่พอใจแต่ก็ทำได้แค่กล้ำกลืนไว้ เลือกที่จะฝืนยิ้มกล่าวสืบต่อ “ขอแม่นางหรูเยี่ยนอย่าได้มีโทสะไป ข้าเพียงกล่าวถามดูเท่านั้น…”

 

“ในความคิดข้า…มันสมควรเป็นสหายของท่านแน่นอน เช่นนั้นข้าก็ไม่แปลกใจเลยที่ไฉนมันหยามหน้าเวินเยี่ยนถึงเพียงนั้น…ที่แท้เป็นเพราะแค้นเวินเยี่ยนที่แจ้งจับท่านนี่เอง ทุกกคนในลัทธิบูชาไฟล้วนสงสัยเรื่องนี้กันอยู่นาน แต่ข้านับว่าโชคดีนัก ที่ได้รู้เหตุผลว่าไฉนมันถึงหยามเวินเยี่ยนให้ได้รับความอัปยศอดสูต่อหน้าผู้คนเช่นนั้น…”

 

กล่าวจบเมิ่งฉีก็อดไม่ได้ที่จะระบายลมหายใจออกมา

 

เพราะทันทีที่ต้วนหลิงเทียนมาเยือนถึงหอคุมกฏพร้อมหลิวอวี่ และพวกมันทั้ง 3 ได้ทราบว่าต้วนหลิงเทียนอยากเจอก่านหรูเยี่ยน ก็ทำให้พวกมันตระหนักได้ทันที ว่าไฉนวันนั้นอยู่ๆต้วนหลิงเทียนถึงไปตบหน้าเวินเยี่ยนฉาดๆๆ

 

หากตอนแรกกล่าวว่าพวกมันคิดว่าการกระทำของต้วนหลิงเทียนไร้เหตุผลล่ะก็…

 

มาตอนนี้พวกมันไม่คิดแบบนั้นอีกแล้ว

 

ที่แท้เป็นเพราะต้วนหลิงเทียนรู้จักก่านหรูเยี่ยนนี่เอง และท่าทางจะสนิทสนมกันไม่น้อย! หาไม่แล้วคงไม่ต้องเสียเวลามาทำงานที่หอคุมกฏ เพียงเพื่อจะหาโอกากสมาพบก่านหรูเยี่ยนแบบนี้!!

 

“นอกจากนี้พวกเราก็สงสัยนักว่าไฉนต้วนหลิงเทียนถึงต้องพยายามมาทำงานที่หอคุมกฏของพวกเราด้วย ทั้งๆที่มันก็มีคะแนนสะสมอยู่แล้วถึงล้านแต้ม…ในที่สุดวันนี้พวกเราจึงได้กระจ่าง!”

 

เมิ่งฉีกล่าวต่อ “ที่แท้ทั้งหมดที่ต้วนหลิงเทียนพยายามมาทำงานที่หอคุมกฏ ล้วนเพื่อให้ได้พบหน้าแม่นางหรูเยี่ยนนี่เอง…”

 

“หืม? หนึ่งล้านคะแนนสะสม?”

 

ได้ยินคำนี้ของเมิ่งฉี ก่านหรูเยี่ยนอดถามออกมาด้วยความสงสัยเสียไม่ได้ “เจ้าพูดถึงเรื่องอะไร ล้านคะแนนสะสม? เจ้าบอกว่ามันมีคะแนนสะสมล้านแต้มหรือ?”

 

ต้องบอกเลยว่าก่านหรูเยี่ยนตกใจมาก!

 

ต้วนหลิงเทียนมีคะแนนสะสมถึงล้านแต้มเลยหรือ!?

 

ต้องทราบด้วยว่าแม้นางจะอยู่ลัทธิบูชาไฟมาหลายปี แต่คะแนนสะสมที่นางเก็บหอมรอมริบไว้ยังมีแค่ 200,000 แต้มเท่านั้น!

 

แล้วต้วนหลิงเทียนพึ่งเข้าร่วมลัทธิบูชาไฟได้นานเท่าไหรกัน ไฉนมีล้านคะแนนสะสมได้?!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด