War sovereign Soaring The Heavens 2080

Now you are reading War sovereign Soaring The Heavens Chapter 2080 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2,080 : คนไม่รู้ย่อมไม่กลัว!

 

“ข้า…ยอมรับ”

 

ชิวมู่ชิงมองไปยังชิวจื่อที่ยังคุกเข่าโขกศีรษะไม่หยุดก่อน ค่อยหันไปมองต้วนหลิงเทียนที่ใช้สองตากระจ่างมากเสน่ห์คู่นั้นมองรอฟังคำตอบจากนาง ค่อยกล่าวตอบรับออกมาเสียงเบา

 

ได้ยินคำตอบรับของชิวมู่ชิง ชิวจื่อที่โขกศีรษะอยู่ถึงกับร่างสั่นสะท้านไปด้วยความยินดี มันเงยหน้าพรวดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มกว้าง ในใจเปี่ยมล้นไปด้วยความสุข! มันรอดแล้ว!!

 

“ขอบคุณท่านคุณหนูมู่ชิง! ขอบคุณท่านอย่างยิ่งคุณหนูมู่ชิง!!”

 

หลังจากกล่าวคำขอบคุณด้วยความยินดี ชิวจื่อก็เร่งลุกพรวดขึ้นมาก่อนที่จะไปยืนอยู่ด้านหลังชิวมู่ชิงอย่างเรียบๆร้อยๆทันที ตำแหน่งการยืนดั่งเป็นข้ารับใช้คนหนึ่ง!

 

“ท่านประมุขขออภัยที่ข้าล่วงเกินสร้างความขุ่นใจให้ท่าน…หลังจากนี้ท่านจักยินดีลงโทษข้าเช่นไร ข้าพร้อมน้อมรับมันทั้งหมดตาไม่กระพริบ”

 

ชิวจื่อที่มาหยุดยืนด้านหลังชิวมู่ชิงแล้ว หันมองไปยังชิวอ้านผิงข้างๆพร้อมกล่าวคำออกมาด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว

 

ในกาลก่อนนั้นถึงแม้มันจะมีฐานะเป็นอาวุโส 2 ของตระกูลชิว แต่ด้วยความที่พลังฝีมือสูงกว่าประมุขอย่างชิวอ้านผิงทำให้มันมีบารมีสูงกว่า จึงไม่ค่อยเห็นหัวประมุขอย่างชิวอ้านผิงสักเท่าไหร่

 

เรื่องนี้สามารถเห็นได้ชัดยามมันประมือกับชิวอ้านผิง สามารถซัดทำร้ายชิวอ้านผิงให้เจ็บหนักได้อย่างไม่เกรงใจไว้หน้า

 

ทว่าตอนนี้เรื่องราวล้วนแปรเปลี่ยนกลับกลายหมดสิ้น

 

เพราะในสายตาของมัน ชิวอ้านผิงไม่ใช่แค่ประมุขตระกูลชิวอีกต่อไป แต่เป็นบิดาของคนที่มันต้องปรนนิบัติรับใช้อย่างเชื่อฟังไปจนวันตาย…

 

ด้วยเพราะเจ้านายของมันมีผู้หนุนหลังอย่างลี่เฟิงที่บอกว่าตัวเองเป็นเพียงผู้ฝึกตนพเนจรไร้ราก!

 

ทว่าด้วยพลังฝีมือของลี่เฟิง คิดดับชีพมันยังง่ายกว่าตัดหญ้าฆ่าไก่!

 

ในเมื่อลี่เฟิงเหลือทางรอดให้มันด้วยการเป็นสุนัขรับใช้ชิวมู่ชิง แน่นอนว่ามันย่อมต้องไม่กล้าปฏิบัติกับชิวอ้านผิงเหมือนกาลก่อน

 

“เฮ่อ!”

 

อาวุโสหลักตระกูลชิวที่ยืนอยู่ไม่ไกล อดไม่ได้ที่จะระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อเห็นว่าชิวจื่อสามารถเก็บกู้ชีวิตกลับมาได้

 

ในขณะเดียวกันมันก็บังเกิดความรู้สึกหนาวเหน็บจับใจ หน้าผากปรากฏเม็ดเหงื่อผุดซึมไม่หยุด แผ่นหลังเองก็ไม่ทราบชุกโชกไปด้วยเหงื่อเย็นตั้งแต่เมื่อไหร่!

 

กล่าวตามความสัตย์จริง

 

ตอนที่มันเห็นลี่เฟิงครั้งแรก และได้ยินลี่เฟิงกล่าวบอกว่าเป็นเพียงผู้ฝึกตนพเนจรไร้สังกัดฝักฝ่าย มันก็ไม่เห็นลี่เฟิงอยู่ในสายตาเลย

 

ครู่ต่อมาหลังเข้ามาในห้องโถงหลักแห่งนี้แล้ว พอได้ยินข้อเสนอของตงฟางเฉียนประมุขตระกูลตงฟาง

 

ในใจของมันก็ตื่นเต้นยินดีไปปานลิงโลด อยากจะรีบมัดลี่เฟิงพร้อมใส่ห่อให้สวยงามแล้วส่งไปให้ตระกูลตงฟางทันทีด้วยซ้ำ!

 

เพราะสุดท้ายแล้วลี่เฟิงก็เป็นแค่คนนอก ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลชิวเลยสักนิด เช่นนั้นตระกูลชิวก็ไม่คิดจะบาดหมางกับตระกูลตงฟางเพราะลี่เฟิง

 

การออกหน้าเพื่อคนนอกที่ไหนก็ไม่รู้จนทำให้สัมพันธ์กับตระกูลตงฟางร้าวฉานย่อมเป็นเรื่องที่โง่งมถึงที่สุด!

 

นั่นเพราะหากทั้งสองตระกูลแตกคอกันขึ้นมาจริงๆ ผู้ที่ได้รับประโยชน์ย่อมไม่พ้นตระกูลเฝิง สุดท้ายไม่วายคงถูกตระกูลเฝิงค่อยๆฮุบกลืน เริ่มจากตระกูลตงฟางต่อด้วยตระกูลชิวของพวกมัน

 

ไม่แน่ว่าอาจจะฮุบกลืนตระกูลชิวของพวกมันก่อน แล้วไปกลืนตระกูลตงฟางก็เป็นได้

 

เพื่อให้ตระกูลรอดพ้นวิกฤตแล้ว สังเวยผู้ฝึกตนพเนจรที่เป็นคนนอกไปจะนับเป็นเรื่องอะไรได้

 

อย่างไรก็ตามลี่เฟิงกลับเป็นสหายของชิวมู่ชิง และใจมันก็เห็นชิวมู่ชิงเป็นดั่งหลานสาวแท้ๆมาโดยตลอด

 

ดังนั้นถึงแม้ใจมันจะคิดไปไกล แต่มันก็ยังคงนิ่งเฉยไม่กล่าวคำ

 

อย่างไรก็ตามยิ่งมาเรื่องราวกลับยิ่งกลายเป็นเหนือความคาดหมายสุดที่มันจะจินตนาการได้อยู่บ้าง

 

ประการแรกคือที่แท้ผู้ที่เสนอเรื่องแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กลับเป็นอาวุโส 2 ชิวจื่อ! อีกทั้งชิวจื่อยังไปตกลงกับตระกูลตงฟางยกชิวมู่ชิงให้ตงฟางฉู่โดยไม่แม้แต่จะปรึกษาชิวอ้านผิงบิดาชิวมู่ชิงด้วยซ้ำ!

 

ต่อมาลี่เฟิงผู้ฝึกตนพเนจรที่มันไม่เห็นอยู่ในสายตาก็ออกมาด่ากราดชิวจื่ออย่างไม่ไว้หน้า

 

หลังจากนั้นชิวจื่อก็มีโมโหและคิดลงมือเล่นงานลี่เฟิง

 

แต่ทว่าช่วงเวลานั้นเอง ไม่ทันที่อาวุโส 2 จะทำอะไร กลับเป็นชิวกังยี่ที่คำรามออกมาอย่างเกรี้ยวกราด พร้อมปะทุพลังลงมือต่อลี่เฟิงตัดหน้าอาวุโส 2 ทว่าสุดท้ายกลับถูกลี่เฟิงฆ่าทิ้งในพริบตา!

 

และกระบี่ที่ลี่เฟิงใช้ตัดหัวชิวกังยี่นั้น ก็เป็นอะไรที่มันผู้เป็นถึงยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 1 เปลี่ยนเจียนบรรลถึงเซียนสวรรค์ 2 เปลี่ยนเต็มที…ยังไม่อาจมองเห็นได้ชัด!

 

กระทั่งในช่วงเวลาพริบตาที่เสียงตวัดกระบี่ดังแหวกสายลมดังขึ้น มันยังไม่อาจตอบสนองสิ่งใดได้ทัน ทำได้เพียงยืนนิ่งร่างสะท้านไปด้วยความเหน็บหนาวปานมีไอเย็นแล่นวาบจับไขสันหลังเท่านั้น

 

และพริบตานั้นสัญชาตญาณก็ร้องเตือนมันดังก้อง

 

ต่อให้คนที่เผชิญหน้ากับกระบี่นั่นไม่ใช่ชิวกังยี่แต่เป็นมัน น่ากลัวว่าก็คงต้องตายอย่างไร้หนทางตอบโต้…

 

‘เซียนสวรรค์ 3 เปลี่ยน…ลี่เฟิงผู้นี้สมควรเป็นผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนสวรรค์ 3 เปลี่ยนไม่ผิดแน่! เพราะต่อให้เป็นสุดยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 2เปลี่ยนก็ไม่มีวันฟันกระบี่ที่น่ากลัวเช่นนั้นออกมาได้!!’

 

นี่คือความคิดที่ดังอยู่ในใจของอาวุโสหลักตระกูลชิว ตอนลี่เฟิงสังหารชิวกังยี่…

 

และคนที่มีความคิดดังกล่าวก็ไม่ได้มีแต่มันเท่านั้น…

 

ไม่ว่าจะประมุขตระกูลชิวอย่างชิวอ้านผิง อาวุโส 2ตระกูลชิว ชิวจื่อ ประมุขตระกูลตงฟาง ตางฟางเฉียน รวมถึงอาวุโสหลักและอาวุโส 2 ของตระกูลตงฟาง ต่างก็มีความคิดเช่นนี้!

 

ด้วยเหตุนี้เมื่อเผชิญหน้ากับภัยคุกคามจากต้วนหลิงเทียนที่ค่อยๆก้าวเข้าหาทีละก้าวๆ ชิวจื่อจึงไม่อาจทานทนรับความกดดันได้ไหวสืบไป จิตใจพังทลายลงตรงนั้น

 

ด้วยเหตุนี้เหล่าผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนสวรรค์อีก 5คนที่เหลือไม่เว้นตัวมัน จึงได้เห็นภาพชิวจื่อคุกเข่าโขกหัววิงวอนร้องขอชีวิต และพวกมันเองก็ไม่คิดว่าการร้องขอความเมตตาของชิวจื่อจะเป็นเรื่องน่าละอายแต่อย่างไร…

 

ยังกล่าวได้ว่าเป็นเรื่องธรรมดาถึงที่สุด ไม่ได้น่าแปลกใจอะไรเลย! เพียงสยบให้ผู้ที่เหนือกว่าเท่านั้น!!

 

หลังจากนั้นพักหนึ่งห้องโถงหลักตระกูลชิวก็ตกอยู่ในความเงียบงัน ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมาแม้ครึ่งคำ

 

สุดท้าย ต้วนหลิงเทียนก็เป็นคนริเริ่มทำลายความเงียบในห้องโถงหลักตระกูลชิว

 

ทุกคนเห็นว่าต้วนหลิงเทียนค่อยๆหันไปมองคนกลุ่มหนึ่งที่อยู่ไม่ไกล

 

กลุ่มคนที่ต้วนหลิงเทียนมองไปก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นผู้คนของตระกูลตงฟางนั่นเอง!

 

เมื่อเห็นว่าต้วนหลิงเทียนหันมาสนใจ แม้คนของตระกูลตงฟางจะเตรียมใจเอาไว้นานแล้ว แต่พวกมันก็ยังอดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนก หน้ายังเปลี่ยนสีไปโดยพลัน

 

ตึก ตึก ตึก

 

 

ขณะเดียวกันต้วนหลิงเทียนก็ค่อยๆก้าวเดินออกไปอย่างไม่รีบไม่ร้อนอีกครั้ง เดินตรงไปหาคนของตระกูลตงฟาง!

 

ฉากนี้คล้ายกับจะฉายฉากที่ต้วนหลิงเทียนเดินเข้าหาอาวุโส 2 ตระกูลชิว ชิวจื่อวนซ้ำก็ไม่ปาน

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อถูกต้วนหลิงเทียนเดินเข้ามาหาถึงครึ่งทาง ชิวจื่อ ถึงกับทนไม่ไหวเร่งทิ้งตัวลงไปคุกเข่าร้องขอชีวิต!

 

สุดท้ายแล้วเพื่อความอยู่รอด มันจึงกล่าวคำสาบานเป็นสุนัขรับใช้ชิวมู่ชิงไป…

 

‘ตระกูลตงฟางใช่จะคุกเข่าร้องขอความเมตตาเหมือนชิวจื่อหรือไม่?’

 

ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นชิวอ้านผิง ประมุขตระกูลชิวหรืออาวุโสหลักตระกูลชิวล้วนบังเกิดความคิดดังกล่าวออกมาเหมือนกันโดยไม่ได้นัดหมาย

 

ตึก!

 

ตึก!

 

ทุกย่างก้าวที่ต้วนหลิงเทียนเดินออกไป บังเกิดเสียงเท้ากระทบพื้นแผ่วเบาฟังดูนุ่มละมุนอยู่ในหูแต่ทุ้มอยู่ในใจ

 

หากทว่าเสียงละมุนดังกล่าวยามดังเข้าหูตระกูลตงฟางยังไม่ต่างอะไรกับเสียงฟ้าผ่า พาลให้ใจพวกมันสั่นไหวเต้นไปไม่เป็นจังหวะ!

 

เรียกว่าในตอนนี้มีแค่คุณชายรองตระกูลตงฟางอย่างตงฟางฉู่และอาวุโสทั้ง 2 ที่ติดตามตงฟางฉู่เท่านั้น ที่ยังคงมีกำลังขวัญกล้าแข็งดีอยู่

 

เพราะถึงแม้พวกมันจะตระหนักได้ว่าพลังฝีมือของต้วนหลิงเทียนไม่ธรรมดา แต่พวกมันก็ไม่รู้แน่ชัดว่าพลังฝีมือของต้วนหลิงเทียนใช่เหนือกว่ายอดฝีมือตระกูลตงฟางของพวกมันหรือไม่…

 

กลับกัน…ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นตงฟางเฉียน ประมุขตระกูลตงฟางหรืออาวุโสหลักและอาวุโส 2 ของตระกูลตงฟาง เผชิญหน้ากับต้วนหลิงเทียนที่ค่อยๆก้าวเดินเข้ามา จิตใจพวกมันก็ใกล้จะพังทลายลงเต็มที!

 

แน่นอนว่ายังต่างจากชิวจื่อที่ยืนอยู่ลำพัง และทำอะไรไม่ถูกอยู่บ้าง

 

ด้วยความที่พวกมัน 3 คนยืนอยู่ด้วยกัน ทำให้ทั้งหมดรู้สึกเสมือนมีที่พึ่ง ทำให้แม้จะหวาดกลัวต้วนหลิงเทียนอย่างหนัก แต่สภาพของพวกมันยังดีกว่าชิวจื่อไม่น้อย

 

ถึงต้วนหลิงเทียนจะเดินเข้ามาใกล้พวกมันมากกว่าครึ่งทาง แต่พวกมันก็ไม่ได้ทิ้งตัวลงไปคุกเข่าโขกหัวเพื่อร้องขอชีวิตเหมือนชิวจื่อ

 

อย่างไรก็ตามความหวาดกลัวที่มีต่อต้วนหลิงเทียนในใจของพวกมัน ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าชิวจื่อเลย

 

‘ดูเหมือนท่านพ่อ/ประมุข อาวุโสหลักและอาวุโส 2จะไม่ได้หวาดกลัวอะไรเจ้าลี่เฟิงสินะ…!’

 

และด้วยความนิ่งไม่ไหวติงของผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนสวรรค์ทั้ง 3 ตระกูลตงฟาง ทำให้คุณชายรองตระกูลตงฟางอย่างตงฟางฉู่ไม่เว้นอาวุโสทั้ง 2 ด้านหลังเข้าใจผิด และคิดว่าตงฟางเฉียน อาวุโสหลักและอาวุโส 2 ไม่ได้หวาดกลัวอะไรชายหนุ่มชุดม่วงเบื้องหน้า!

 

เรื่องนี้ทำให้พวกมันอดไม่ได้ที่จะระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก ยังรู้สึกว่าต้วนหลิงเทียนไม่ได้น่ากลัวอย่างที่พวกมันคิด

 

ยังดีที่ขอบเขตเซียนสวรรค์ทั้ง 3 ของตระกูลตงฟาง ไม่รับทราบความคิดในหัวตงฟางฉู่ หาไม่แล้วทั้งหมดคงได้โกรธจนกระอักเลือดตาย!

 

พวกมันน่ะหรือไม่กลัวชายหนุ่มชุดม่วงเบื้องหน้า?

 

บัดซบ! ตอนนี้พวกมันแทบทนรอไปคุกเข่าร้องขอชีวิตชายหนุ่มชุดม่วงไม่ไหวแล้วด้วยซ้ำ เพื่อไม่ให้ตระกูลตงฟางต้องเดือดร้อน!!

 

อนิจจาด้วยความที่พวกมันยืนกันอยู่ 3 คน เมื่อไม่มีใครทิ้งตัวลงไปคุกเข่านำ ก็ทำให้ทั้งหมดพลอยขาแข็งไม่กล้าคุกเข่าลงไปด้วย

 

“เมื่อครู่…”

 

สายตาของต้วนหลิงเทียนเบนไปตกยังร่างตงฟางเฉียนประมุขตระกูลตงฟางก่อนใครเพื่อน กล่าวคำออกมาเสียงเรียบว่า “ประมุขตงฟางเหมือนจะให้ตระกูลชิวส่งตัวข้าให้พวกเจ้าใช่หรือไม่…ทำไม พวกเจ้าคิดเชิญข้าไปเป็นแขกที่ตระกูลตงฟางรึ?”

 

“ในเมื่อประมุขตระกูลตงฟางใจดีมีเมตตาคิดชวนข้าไปเป็นแขกที่ตระกูลตงฟาง เช่นนั้นข้าก็ไม่คิดขัดไมตรีแล้วกัน…เอาเป็นว่าให้ข้าติดตามประมุขตระกูลตงฟางกลับไปตอนนี้เลยดีหรือไม่?”

 

วาจาท้ายประโยคยามกล่าว สองตาต้วนหลิงเทียนยังทอประกากยลึกล้ำออกมา เผยให้เห็นความอำมหิตประการหนึ่ง

 

และทันทีที่วาจานี้ของต้วนหลิงเทียนดังเข้าหูตงฟางเฉียน ก็ทำให้ตงฟางเฉียนรู้สึกแข้งขาอ่อนแรงอยู่บ้าง อารามตกใจยังแทบจะคุกเข่าลงไปแล้ว!

 

และในขณะที่ตงฟางเฉียนตกใจกลัวจนขาอ่อน มันยังแทบทนรอตบปากตัวเองให้แรงๆสัก 2 ทีไม่ไหว!ที่ดันปากพล่อยกล่าววาจาเช่นนั้นออกไปก่อนหน้า!!

 

“ลี่เฟิง เจ้าฝันละเมออยู่รึไง!?”

 

ทว่าทันใดนั้นเองเสียงตะโกนดุร้ายเอาเรื่องหนึ่งพลันดังลั่นก้องโถงหลักตระกูลชิวโดยไร้ซึ่งการแจ้งเตือนล่วงหน้าใดๆ ทำให้ทุกคนในโถงหลักตกใจอยู่บ้าง ยังดึงดูดความสนใจของทุกคนไปทันที

 

ทันใดนั้นทุกคนไม่เว้นต้วนหลิงเทียน ต่างหันไปมองต้นเสียงเป็นสายตาเดียวกัน

 

ลูกตาต้วนหลิงเทียนหดหยีลง

 

สำหรับคนอื่นๆยกเว้นอาวุโสทั้ง 2 ของตระกูลตงฟางที่ยืนอยู่ด้านหลังจงฟางฉู่ จังหวะนี้ถึงกับเบิกตาโพลง ยังอื้ออึงไปพักหนึ่ง

 

เพราะผู้ที่ตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงดุร้ายเอาเรื่องไม่ใช่ใครที่ไหน กลับเป็นคุณชายรองตระกูลตงฟาง ตงฟางฉู่เอง!

 

ตอนนี้ตงฟางฉู่ที่รวบรวมความกล้าตะโกนออกไป กำลังมองจ้องต้วนหลิงเทียนด้วยใบหน้าเอาเรื่อง!

 

มันที่พอเห็นทุกผู้คนหันมามองให้ความสนใจ มันก็ยืดตัวให้อกผายไหล่ผึ่ง กล่าวออกมาอีกครั้งอย่างได้ใจ “ที่บิดาของข้าเสนอให้ตระกูลชิวส่งตัวเจ้าออกมา นั่นเพราะจะฆ่…”

 

ผัวะ!!

 

“โอ๊ย!”

 

ตงฟางฉู่กล่าวไม่ทันจบคำก็ต้องชะงักไปเสียก่อน

 

และในขณะที่เสียงมันชะงักไปด้วยถูกขัดจังหวะ ก็มีเสียงกระแทกกระทั้นดังขึ้น ยังมีเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นตามติด

 

เรียกว่าทั้งสองเสียงดังขึ้นแทบจะพร้อมๆกัน

 

ตึงง!!

 

หลังจากนั้นไม่ถึงครึ่งลมหายใจก็มีเสียงบางสิ่งล้มกระแทกพื้นอย่างแรง

 

เป็นเสียงตงฟางฉู่ที่กล่าวไม่ทันจบคำ ถูกยันโครมจนหน้าคว่ำล้มลงไปบนพื้นห้องโถง!

 

ตั้งแต่ต้นจนจบตงฟางเฉียนไม่มีเวลากกล่าวคำตำหนิตงฟางฉู่ทั้งสิ้น! ที่มันทำได้ก็แค่พยายามหยุดตงฟางฉู่ไม่ให้กล่าวคำออกมา!!

 

หลังจากถีบยันร่างตงฟางฉู่จนหน้าคว่ำไปแล้ว ใจมันยังเดือดดาลขึ้นมาแทบอกแตกตาย!

 

บุตรทรพีน่าตายนี่!

 

หรือขนาดนี้แล้วยังไม่เห็นอีกว่าผู้ฝึกตนพเนจรคนนี้หาใช่อันใดที่พวกมันจะล่วงเกินได้?!

 

ไม่เห็นหรือไรว่าตอนนี้ทั้งตัวมัน อาวุโสหลักและอาวุโส 2 ยังต้องยืนนิ่งไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรงต่อหน้าอีกฝ่าย!

 

“ทะ…ท่านพ่อ!”

 

ตงฟางฉู่ที่ถูกยันโครมหน้าคว่ำ แม้จะบาดเจ็บแค่เล็กน้อยเพียงล้มลงไปหัวโป๊ก ทว่ามันมีโมโหหนักนัก

 

แต่เมื่อมันพบว่าผู้ที่ถีบยันมันจนหน้าคว่ำที่แท้เป็นบิดาของมันเอง มันก็หน้ามึนไปด้วยความไม่เข้าใจทันที กล่าวถามออกมาด้วยความสับสน “ท่านพ่อ…ท่าน…อยู่ดีๆ…ถีบข้าทำอะไร?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด